PPD's Official Website

Thursday, October 13, 2016

Official Statement by TAHR on the Passing of King Bhumibol October 13, 2016


Official Statement by TAHR on the Passing of King Bhumibol
October 13, 2016

The Thai Alliance for Human Rights, a non-profit and no-partisan organization based in the United States, would like to extend our sympathies to the people of Thailand on the momentous occasion of the passing of King Bhumibol Adulyadej.  May he rest in peace after having served 70 years as Thailand's longest reigning monarch.  

King Bhumibol played the role that unexpectedly fell to him with considerable skill and demonstrated love for his subjects. As the wealthiest monarch in the world, he was often looked up to as a god and as a savior, but he admittedly expressed that he was a human who could make mistakes, as he remarked in his 2005 birthday speech, in which he invited the people to criticize him and to point out mistakes recognizing his humanity.  

In his lifetime, King Bhumibol was revered and recognized as a great king and the father of the nation. It is a pity, however, that the biggest blot on this King's record will be the lese majesty law enforced on his behalf that results in between 50 and 100 people imprisoned in any given recent year just for publicizing information or expressing an opinion.  It is hard for the world to look past such a fact to see anything else that he ever accomplished.  As of today, the brutal lese majesty law is mentioned in the second sentence of Bhumbol's English-language Wikipedia entry.  Therefore, while the world extends its sympathies to Thailand, we call on the Regent or next Monarch to right these wrongs by releasing or requesting the immediate release of all the lese majesty prisoners and compensating them from royal funds, a gesture fitting with our best memories, or legacy, of King Bhumibol. 

The members of the Thai Alliance for Human Rights offer their sympathies and moral support to all Thais at this difficult time.  May the people of Thailand find a way forward that is peaceful, just, and inclusive, respecting the universal human rights of all Thai citizens.

ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไรและไม่ฝักใฝ่เลือกข้างทางการเมือง ที่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ขอส่งความเห็นใจของพวกเราไปยังคนไทยในโอกาสสำคัญคือการสวรรคตของกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดช  ขอดวงพระวิญญาณของพระองค์จงสถิตย์ในแดนสงบ หลังจากที่ได้ดำรงพระราชฐานะของกษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดของประเทศไทย ถึง ๗๐ ปี

กษัตริย์ภูมิพลทรงแสดงบทบาทที่ตกมาถึงพระองค์อย่างคาดไม่ถึง ด้วยทักษะที่เด่นชัดและความรักต่อปวงพสกนิกรที่ปรากฎแก่สายตาชนทั่วไป    ในฐานะกษัตริย์ที่รำ่รวยที่สุดในโลก พระองค์ถูกมองว่าเป็นเสมือนเทพยดาและผู้กอบกู้ แต่พระองค์ก็ได้ทรงแสดงออกถึงการยอมรับว่า พระองค์เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ทำผิดพลาดได้ ดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้ในโอกาสวันเกิดเมื่อปี ๒๕๔๘ ซึ่งพระองค์ได้เชิญให้ผู้คนวิจารณ์พระองค์และชี้ข้อบกพร่องของพระองค์โดยมองพระองค์เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง   

ในตลอดช่วงชีวิตของท่าน กษัตริย์ภูมิพลได้รับการเทิดทูนบูชาและได้รับการยกย่องให้เป็นมหาราชาและเป็นบิดาแห่งชาติ   แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดาย ที่รอยด่างพร้อยที่ใหญ่ที่สุดในประวัติของกษัตริย์พระองค์นี้ คือ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งถูกบังคับใช้ในนามของพระองค์ แล้วได้นำไปสู่การจับกุมคุมขังของคนระหว่าง ๕๐ ถึง ๑๐๐ ต่อปีในช่วงปีหลัง ๆ นี้ แค่เพียงเพราะการเผยแพร่ข่าวสารหรือการแสดงความเห็น   ดังนั้น มันเป็นการยากที่ชาวโลกจะมองข้ามข้อเท็จจริงอันนี้แล้วเห็นสิ่งอื่นใดที่พระองค์ได้เคยทำสำเร็จไว้   ถึงวันนี้ กฎหมายอันโหดร้ายนี้ ถูกกล่าวถึงเป็นประโยคที่สองในบันทึกประวัติของกษัตริย์ภูมิพลในภาคภาษาอังกฤษของวิกิพีเดีย    ด้วยเหตุนี้ ขณะที่ชาวโลกต่างส่งความเห็นใจไปยังประเทศไทย เราขอเรียกร้องให้ผู้สำเร็จราชการหรือกษัตริย์องค์ใหม่ได้แก้ไขสิ่งผิดนี้เสีย โดยการปล่อยหรือขอให้มีการปล่อยตัวนักโทษที่เกี่ยวด้วยกรณีหมิ่นฯ เสียทันที และชดเชยให้กับพวกเขาด้วยทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์เอง  ซึ่งจะเป็นการส่งทีท่าที่เหมาะสมกับภาพความทรงจำ หรือมรดกที่ดีที่สุดของกษัตริย์ภูมิพล

เหล่าสมาชิกของภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนขอส่งความเห็นใจและกำลังใจให้คนไทยทุกท่านในห้วงเวลาอันยุ่งยากนี้  ขอให้ชาวไทยจงพบกับทางไปข้างหน้าที่สันติ เป็นธรรม และสมานใจสามัคคี โดยเคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากลของคนไทยทั้งมวล

No comments:

Post a Comment