PPD's Official Website

Friday, October 2, 2015

●ข่าวลับกรองแล้ว● 1 ตุลาคม 2558

ช่วยแชร์ต่อมากๆเพื่อต้อนรับองค์การทาสฝุ่นใต้ตีนที่จะเดินขบวนไปสถานฑูตอเมริกาสนับสนุนระบอบทาสไทยต่อไป      

●ข่าวลับกรองแล้ว●
1 ตุลาคม 2558 

"1ตุลา:ศักราชใหม่อำนาจระบบราชการ"

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*วันนี้เริ่มอำนาจใหม่ปลัดกระทรวง,อธิบดีที่ได้รับแต่งตั้งจากอำนาจคสช.เต็มๆแต่อำนาจประธานคสช.ผู้แต่งตั้งกลับทดถอยลง...แปลกแปลก

*ตำแหน่งผบ.ทบ.มีฐานะทางกฎหมายแค่อธิบดีแต่ฐานะทางอำนาจที่เป็นจริงคือประธานใหญ่ระบอบราชการมีอำนาจเหนือกว่าปลัดกระทรวงทุกกระทรวงรวมกันโดยเฉพาะเมื่อกษัตริย์สั่งให้ปล้นอำนาจประชาชน

*คลื่นลมการเปลี่ยนตำแหน่งผบ.ทบ.ในระบอบเผด็จการไทยวันนี้แรงลึกกว่าการเปลี่ยนอำนาจนายกฯและยิ่งใกล้เปลี่ยนรัชกาล การเปลี่ยนผู้นำทหารก็มีความสำคัญเป็นระดับน้องรองจากเปลี่ยนกษัตริย์จึงจำเป็นต้องมีเสียงระเบิดประกอบและกลิ่นคาวเลือดละเลงบาทพระพรหมราชประสงค์...ก็เพราะราชาประสงค์ชื่อก็บอกแล้ว

*ระเบิดพระพรหมราชประสงค์เริ่มต้นก็ทักษิณ แต่หลักฐานมัดแน่นที่'อุยกูร์' แต่เมื่อจับตัวคนทำไม่ได้และไอ้ที่จับมาก็ทำท่าจะหลุดจึงวกกลับมาหาเสื้อแดง'อ๊อดกูร์'แทน แต่คนที่รับประโยชน์ไปเต็มๆคือ'ตือโป๊ยก่าย'ประวิทกูเอง

*วันนี้ 1ตุลาคือวันประยุทธ์ขาลอยสมบูรณ์แบบ เพราะฐานประชาชนก็ไม่มี อาศัยโหนแต่เจ้า แต่ก็ไม่รู้จักเจ้าจริงโดยเฉพาะวันนี้เจ้าก็เหมือนร้านขายข้าวมันไก่มีทั้ง'เจ้าเก่าและเจ้าใหม่'และทั้ง2เจ้าก็ไม่ชอบให้ทหารแข็งจนเกินไปเพราะรู้ดีว่าถ้าทหารกล้ามใหญ่เมื่อไรมันชอบเบ่งกินข้าวมันไก่ฟรีและมันจะแข็งแรงกว่าทักษิณที่เจ้าเหม็นขี้หน้าเสียอีก...ด้วยเหตุนี้ประยุทธ์ที่แบกน้องปรีชาเดินหน้าไม่เหลียวหลังจึงหกล้มขาแพลงจากเสียงระเบิด,แต่พอลุกขึ้นเหลียวหลังมองพลเอกธีรชัยก็สายไปเสียแล้ว

*วันนี้เริ่มศักราชใหม่แห่งระบอบราชการจึงเป็นวันขาลอยของประธานคสช.เพราะพลเอกธีรชัยไม่มีใจให้ประธานคสช.แม้แต่น้อย...สปท.ขอแสดงความยินดีกับวันประยุทธ์ขาลอยแต่ยังเป็นนายกได้ต่อไปเพราะอะไรโปรดตามมา

*วันนี้ตำแหน่งนายกฯเล็กไปเสียแล้วสำหรับประวิท วงษ์สุวรรณ เพราะมองข้ามช๊อตไปถึงตำแหน่งที่คุมนายกฯในกำมือคือประธานองคมนตรีรัชกาลที่10ที่ชื่อ"คิงวชิราลงกรณ์"

*ประวิทได้สอบผ่านและเห็นลู่ทางอำนาจใหม่ที่เปรมได้วางแนวทางไว้มานานกว่า30ปีแล้วว่าชีวิตสุขสบายกินได้ตามใจชอบและไม่ต้องแจ้งทรัพย์สิน,ใครจะด่าก็ง่ายที่จะยัดข้อหา112ให้,ศาล,ทหาร,ตำรวจอยู่ในโอวาทหมด

*ว่าที่รัชกาลที่10ก็ดูท่าจะพอใจที่จะมีประธานองคมนตรีที่ชื่อประวิท วงษ์สุวรรณ เพราะเข้ากันดีสัญญานขี่จักรยานเพื่อพ่อจึงมีต่อมาในเดือนธันวา,และสัญญานตือโป๊ยก่ายเป็นตายก็ต้องหนุน'เสี่ยโอ'จึงแรงและเด่นชัดขึ้น

*วันนี้ประวิทเริ่มทำหน้าที่ประธานองคมนตรีโดยพฤตินัยแล้วโดยเริ่มแหย่ตีนเข้าไปขัดขาน้องตู่ที่แบกปรีชาจันทร์โอชาจนหกล้มซึ่งก็คือหน้าที่หลักของประธานองคมนตรีแล้วต่อไปก็ต้องแสดงบทคุมกองทัพเบ็ดเสร็จและใครที่เป็นนายกฯก็ต้องอยู่ในสายตา

*วันนี้ประวิทผงาดเป็นพี่ใหญ่ทหารเสือราชินีที่ไม่ต้องให้ความสนใจพลเอกเปรมมากนักเพราะสามารถคุมกองทัพผ่านธีรชัยสายตรงและไม่ต้องต่อสายอ้อมไปผ่านน้องตู่เพราะความโง่ของน้องตู่เองที่ขบพระราช(แอบอ้าง)ประสงค์ของการประนีประนอมผลประโยชน์ในวังชั่วคราวไม่ออก

*ประยุทธ์จะได้รับบำเหน็จเป็นนายกฯต่อไปภายใต้การควบคุมของประวิทพี่ใหญ่ตราบเท่าที่ไม่พยศและเล่นบทตามที่เขียนให้คือหนุนวชิราลงกรณ์ขึ้นรัชกาลที่10โดยห้ามว๊อกแว๊ก

*พลเอกธีรชัยก็ไม่ว๊อกแว๊กเพราะนับแต่วันที่1ตุลาก็ถืออำนาจเต็มเป็นเวลา1ปีจึงฝากอนาคตไว้กับพี่ใหญ่ประวิทที่หนุนช่วยมาตั้งแต่ต้นเพื่อจะต่อสายอำนาจในกองทัพและการเมืองต่อไปในฐานะทหารเสือราชินีด้วยกัน

*1ปีนับแต่นี้อะไรก็เปลี่ยนไปเยอะ...พลเอกเปรมก็นับการหายใจเป็นทีละครึ่งวันส่วนท่านที่นอนอยู่บนสวรรค์ชั้น16ที่ศิริราชนั้นก็นับการหายใจเป็นชั่วโมงๆ...แล้วอย่างนี้จะไม่ให้คุณพี่ธีรชัยยืนนิ่งอยู่กับ"ทหารเสือราชินีศรีตือโป๊ยก่าย"ได้อย่างไร

*ยิ่งใกล้วันเปลี่ยนรัชกาลท่านประวิทยิ่งแน่วแน่เชื่อใจได้เพราะหากแถไปทาง"ศิรินธรเทพถ่าง"ต้องยืนห่างหัวแถวองคมนตรีอย่างน้อยอันดับที่5รองจากเปรม,สุรยุทธ์,ธานินทร์และพลากร...ม่ายคุ้มค่าแบก

*ศิรินธรเทพถ่างไปยืนกร่างรับความเคารพจากลูกศิษย์โรงเรียนนายร้อยสวนสนามด้วยประกาศอำลาชีวิตเกษียนเพราะครบ60ปีเหมือนจะส่งสัญญานถึงพี่ชายว่าอายุเกิน60ปีแล้วออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการ'กองบัญชาการถวายความจงรักษ์ภักดี'ที่มีฐานะเป็นกองทัพอิสระและเป็นนิติบุคคลที่เสมอด้วยกองทัพไทยได้แล้ว

*ข้อสมมุติมโนว่าทหารลูกศิษย์ทั้งหมดจะเป็นกบถต่อพี่ชายและหนุนน้องเทพขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลที่10ถึงวันนี้ดูท่าจะยากมากขึ้น

*พลเอกเปรมคงนั่งปลงโทษตัวเองเพราะเล่นเพลงยาวเกินไปและสนุกกับอำนาจในวัย90ปีที่หาใครเหมือนไม่ได้จึงกลายเป็นสร้างโมเดลอำนาจประธานองคมนตรีด้วยการเป็นฤาษีหน้าท้องพระโรงคุมกองทัพแทนกษัตริย์มานานกว่า30ปีจนประวิทเลียนแบบและทำได้ดีเวลานี้ด้วยอายุที่หนุ่มกว่าเปรม20กว่าปีจนสุดท้ายสถานการณ์ก็พลิกไปจากความมุ่งหมายสั่งการของภูมิพลที่ยากจะหวนกลับ

*ถึงเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ก็เริ่มตาสว่างรู้แล้วว่าที่บ้านเมืองวุ่นวายมานานเพราะเป็นผลงานจากพี่น้องแย่งชิงราชสมบัติกันโดยการหนุนหลังของเสด็จพ่อที่เป็นอีแอบตัวจริงที่ไม่กล้าเปิดหน้าเพราะกลัวพี่จะฆ่าน้องแต่ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้เกิดวันที่ฉันจากโลกนี้ไปแล้วจะได้ไม่อายที่หลอกชาวบ้านมาตลอดชีวิตว่าเป็นครอบครัวแห่งคุณธรรม...ด้วยเหตุนี้ประชาชีจึงต้องระทมทุกข์

*จากไบค์ฟอร์มัม ก็ไปทำไบค์ฟอร์แดดต่อ เพื่อใช้เป็นค้ำถ่อให้ฟ้าชายไปให้ถึงบัลลังก์รัชกาลที่10โดยสะดวกโยธินด้วยการวางฤกษ์ผานาทีของหมอหยองผู้ผูกดวงกำหนดวันศุกร์ที่11ธันวา,ใครไม่รู้ว่าทำไมไม่จัดเสียให้ตรงวันหยุดหรือจัดให้ตรงกับวันเกิดพ่อเสียเลย...โปรดฟังทางนี้

*ปั่นเพื่อแม่ก็หลัง12สิงหา4วัน(คืออาทิตย์16สิงหา)ปั่นเพื่อพ่อก็หลัง5ธันวา6วัน(คือศุกร์ 11ธันวา)เอา4+6=รัชกาลที่10พอดี555...มีหมอดูเป็นที่ปรึกษาฤกษ์ผานาทีจึงห้ามมองข้าม

*เกมส์ขับเคลื่อนมวลชนปั่นจักรยานงานนี้ถือว่าเหนือชั้นกว่าเทพถ่างที่ชอบทำท่าเต้นระบำร้องเพลงเฟอะฟะหาเสียง

*ไม่ต้องบอกชาวบ้านก็รู้ว่างานนี้"ปั่นเพื่อกู"เพราะดูแล้วใกล้เวลาที่ภูมิพลจะลาโรงเต็มที

*เซียนการเมืองไทยสำนักใหนๆก็อ่านว่าจะเป็นเกมยาวนานนับ10ปีนับจากนี้กว่าจะเปลี่ยนรัชกาล...สปท.ขอประเมินตามเหตุผลทางการเมืองว่าประชาชนคงทนภาวะประเทศทุรนทุรายไปไม่ถึงแน่และนายทหารใหญ่ก็มองเห็นลำไลว่าจะเกิดผลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเป็นราชวงศ์บลูบองฝรั่งเศสแน่ถ้าดึงเรื่องยาวขนานนั้น...และหากมองปรากฎการณ์จากแถลงการณ์พระราชวังฉบับที่16ก็รู้ว่าอาการไม่ยาวแล้ว

*วังสายเปรมชอบเล่นเกมยาวด้วยการปิดข่าวอาการพระประชวรแม้ตายแล้วก็จะดึงให้ยาวไกลเหมือนสังฆราชญานสังวรเพราะต้องรอจังหวะช่วงชิงตามคำสั่งพระราชา9 แต่วังสายเสี่ยให้เล่นเกมสั้นพอหมดสภาพพลันไม่ทันตายก็ให้จัดการเถลิงถวัลเพราะท่านรอจนเกินเกษียณอายุแล้ว ส่วนหมอก็รู้ว่าอยู่ระหว่างเขาควายอันตรายสุดๆ...ล่าสุดจึงยอมหลุดความจริงของพระอาการว่าออกซิเยนในเลือดลดลงและทรงมีอาการหนักตามฉบับที่16

*แถลงการฉบับที่16ทำเอาหญิงเล็กจุฬาภรณ์ทรงร้อนก้นนั่งไม่ติดเดินสายชวนประชาชนสวดมนเป็นการใหญ่พร้อมต่อว่าหมอดูแลไข้ที่ให้ออกแถลงการณ์ซึ่งก็ได้รับยืนยันจากหมอเป็นข่าวลายลักษณ์อักษรว่ารายงานไปในฉบับที่16ถือว่าเขียนให้เบาที่สุดแล้ว...จากการต่อว่าอีก2วันจึงรีบแถลงฉบับที่17ออกมาว่าหายเป็นปกติแล้ว และก็รีบแถลงฉบับที่18ออกมาอย่างเร็วอีกว่าสุขภาพดีแถบจะวิ่งออกกำลังกายได้เลย555

*คำถามง่ายๆควายสลิ่มก็น่าจะตอบได้...ตอนกลับมาศิริราชล่าสุดอย่างฉุกละหุกเมื่อ1มิถุนายนปีนี้หมอใหญ่ศิริราชก็แถลงโกหกเองว่า"เสด็จกลับมาตรวจสุขภาพตามกำหนดปกติ" แล้วถึงวันนี้4เดือนแล้วหายดีทำไมไม่กลับหัวหินละเพค่ะ? หรือว่าการนอนโรงพยาบาลนานๆมันเป็นปกติอย่างหนึ่งเพค่ะ?

*วันวานที่ผ่านมาเปรมกุมไต๋จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนตามกฎหมายเพราะมาตรา20รัฐธรรมนูญบอกว่าหากกษัตริย์ปฏิบัติหน้าทีไม่ได้และไม่ตั้งผู้ใดไว้ก็ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชกาลแทนพระองค์ไปพลางก่อนด้วยเหตุนี้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับปี2540ถึงปัจจุบันทั้งฉีกทั้งร่างใหม่มาหลายฉบับแต่หมวดพระมหากษัตริย์ไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่วรรคตอน...แต่วันนี้ฟ้าชายก็แก้เกมเมื่อเปรมไม่จัดการตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนแต่ฉันก็ทำแทนพ่อในฐานะผู้สำเร็จราชกาลแทนโดยธรรมชาติในฐานะลูกและมกุฎราชกุมาร

*มีข่าวเรดรอดออกมาว่าจับตาดูให้ดีจะมีคนแก่อายุใกล้100ถูกรวบตัวเข้าคุกข้อหากบถและพ่วง112หากหาญกล้าประกาศแสดงตนเป็นผู้สำเร็จรทาชการแทนพระองค์ณ.เวลานี้...คอยดูคอยดู

*แล้วพบกันใหม่นับแต่นี้ภายใต้การบริหารของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามธรรมชาติ
--------จบ-------

ร่างจดหมายที่สามารถส่งถึงผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เขาช่วยบอยค็อตต์รัฐบาลเผด็จการทหารไทยอย่างเด็ดขาด

มา...​มดแดงทั้งหลาย มาช่วยกันกัดต่อ...
(2 ตุลาคม 2558)

ร่างจดหมายที่สามารถส่งถึงผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เขาช่วยบอยค็อตต์รัฐบาลเผด็จการทหารไทยอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เผด็จการคายอำนาจให้ประชาชนโดยด่วนและอย่างเป็นผลจริงจัง...ก่อนจะเกิดสงครามกลางเมืองที่จะนำความเสียหายแก่ทั้งประเทศไทยและสากล


Your Address (ที่อยู่ของท่าน):

Date (วันเดือนปี):

Name & Address of the leader/officer (ชื่อและที่อยู่ของผู้รับ)

Dear President/Prime Minister/Chancellor XXXXX:

I am a Thai citizen living in (city), (country). I would like to humbly and hopefully beg you to urgently help Thai citizens fight against the dictatorial regime now under the oppressive rule of the army junta.

To our deep disappointment, the Thai army junta led by General Prayuth Chan-O-Cha has managed to be accepted and present at the recent general assembly at the United Nations and given several opportunities to convince world leaders with lies that the regime, which has toppled an elected government, suppressed dissidents with army tactics and forces, violated all forms of human rights, and attempted to stay in power indefinitely, needs additional time to reform the necessary systems before resuming elections in 2017 (pushed further from its original road map). In short, it is evident that this oppressive and dictatorial regime has no intention to democratize Thailand and is ready to use violent forces to suppress all dissidents.

You can help us greatly by seriously pressuring the army junta to return Thailand to a more democratic path as soon as possible and stop violating the citizens' freedom and universal human rights completely. Please consider applying the most powerful measure such as totally boycotting Thailand in all aspects until a general election is carried out.

We, the people of Thailand, are becoming desperate as the junta is relentlessly using all the tools it has to suppress and harass all dissenting citizens. Unless you help to push Thailand toward a peaceful transition democratically, we fear that Thailand may slip into a full-blown civil war that would tragically affect Thailand and greatly impacted the international community.

Thank you for your kind considerations and actions.

Sincerely,
Your name and contact detail (ชื่อและรายละเอียดการติดต่อของท่าน)

ปัญหาของการใช้อำนาจตุลาการ เข้าไปชี้ขาดตัดสินข้อพิพาทต่างๆในสังคม

ปัญหาของการใช้อำนาจตุลาการ เข้าไปชี้ขาดตัดสินข้อพิพาทต่างๆในสังคม

๑. ประทศไทย นับแต่ประกาศ และ บังคับใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปีพ.ศ.๒๕๔๐ เป็นต้นมา นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ ของ "การถอยหลังเข้าคลองครั้ง มโหรฬาร" โดยอาศัยการนำของใหม่ คือ "โครงร่างรัฐธรรมนูญโรมัน (Roman Constitution)" ก็อปปี้มาใช้โดยตรงโดยไม่ดัดแปลง หรือ ประยุกต์นำมาใช้ ให้เข้ายุคสมัยของประเทศไทย เป็นการถอยหลังครั้งใหญ่ของ "ประชาธิปไตยไทย" กลับไปในวันเวลากว่า ๒๐๐๐ ปีที่ผ่านมาของโลก

๒. ทั้งนี้โดยอาศัย การโหมโฆษณาของใหม่ ที่ไม่เคยเกิดมีขึ้น ในประวัติศาสตร์การเมือง และ การปกครองของไทย {สร้างศาลปกครอง, ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ ให้เกิดเป็นสถาบันของชาติ (National Institutions)} โดยไม่มีการประกาศโดยแจ้งชัดในเหตุผล ที่ต้องนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ และ เมื่อนำมาใช้แล้ว ก็ย่อมเกิดปัญหาแก่ประชาชน และสังคมไทย แต่บรรดาผู้ร่างกฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ไม่เคยแสดงออก ซึ่งความรับผิดชอบต่อ ประชาชน และสังคมไทยแต่อย่างใด

๓. รวมทั้ง ไม่เคยเสนอทางออกจาก กับดักทางรัฐธรรมนูญ ที่สร้างขึ้น โดยอาศัยปากของคนชั้นนำในสังคมไทย เป็นคนออกมาเป็นแนวหน้า ป่าวร้องให้ชาวบ้าน ผู้อ่อนด้อยทางการศึกษา เพราะ มีความรู้ไม่พอเพียง ให้เห็นด้วยกับ การร่างรัฐธรรมนูญ ในรูปลักษณ์เช่นนี้ ออกมาบังคับใช้

๔. การออกมาเขียน ให้ได้รับรู้กันโดยทั่วไปเช่นนี้ มิใช่เป็น สร้างข้อกล่าวหาในทางร้ายให้แก่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ แต่อย่างใด ทั้งนี้ผม ได้นำเสนอเค้าโครงของ ร่างรัฐธรรมนูญโรมัน (Roman Constitution) ให้ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ได้ทำการศึกษาโดยเปรียบเทียบ กับ เค้าโครงของร่างรัฐธรรมนูญไทยฉบับดังกล่าวแล้ว ปรากฏ เป็นเค้าโครงร่างของ รัฐรัฐธรรมนูญโรมัน (Roman Constitution) อยู่ในชุมชนแห่งเสรีภาพ (the Land of Liberty ที่ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน อาจไปดาวน์โหลดรูปภาพ ที่ว่านั้น มาศึกษาโดยเปรียบเทียบได้ โดยเสรี

๕. โดยที่ผม จะนำคำอรรถาอธิบายในส่วนต่างๆของ เค้าโครงของ ร่างรัฐธรรมนูญโรมัน (Roman Constitution) ที่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ เป็น ผู้ร่างนำขึ้นใช้ โดยไม่ให้คำอรรถาอธิบายใดๆ มาอธิบาย และ ชี้ให้ท่านผู้อ่านทั้งหลาย ได้รับทราบ เป็นตอนๆในชุมชนแห่งเสรีภาพ (the Land of Liberty ต่อไป

๖. การนำเอาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ มาประกาศ และ บังคับใช้เป็นกฏหมายที่สำคัญ (ตราสารที่สำคัญ) ของชาติเช่นนี้ ย่อมไม่ต่างไปจากที่นายพลตีโต้ แห่งยูโกสลาเวีย ไปแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญแห่งชาติของประเทศยูโกสลาเวีย ในปีค.ศ. 1963 และ

๗. มาแก้ไข เพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญแห่งชาติของ ประเทศยูโกสลาเวีย ในหนสุดท้ายในปีค.ศ. 1974 จนนำไปสู่ การล่มสลายของประเทศยูโกสลาเวีย ประเทศถูกแบ่งแยก เป็นประเทศเกิดใหม่ เพิ่มขึ้นอีก ๔ – ๕ ประเทศ (สโลวาเนีย, บอสเนีย เฮอร์เซโกวีน่า, รัฐเซริบส์ใหม่, โคโซโว่ รวมทั้ง มอนเตเนโกร และมาเซโดเนีย)

๘. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปีพุทธศักราช ๒๕๔๐ นอกจากจะสร้างปัญหาให้กับ พี่น้องประชาชนคนไทย ทั้งประเทศ ผู้อ่อนด้อยทางปัญญา และ ความรู้ในเชิงวิชาการดังที่กล่าวมาแล้ว

๙. ยังเป็นการสร้างปัญหาแก่ การใช้อำนาจในทาง ที่อำนวยความยุติธรรม และใช้อำนาจในทางฝ่ายตุลาการ (the exercising of Judiciary) อย่างเกินกว่า ขอบอำนาจ (the Usurpation of Powers) ที่ควรมี ควรจะเป็น อีกทั้งยังเป็น การฝ่าฝืนต่อครรลอง อันชอบธรรมของ กฏเกณฑ์ของโลก (World Summit Outcome, 2005) และ

๑๐. ยังมีการใช้อำนาจ จากมาตรการ ที่วางไว้ตามรัฐธรรมนูญ "แบบ ตาบอด คลำช้าง" กลายเป็น การหยิบยื่น มาตรการทางอำนวยความยุติธรรม ในรูปแบบ ๒ มาตรฐาน โดย ผู้ที่ใช้อำนาจอำนวยความยุติธรรม ทั้งระบบ ไม่อาจรับรู้ หรือ มีความรู้สึกว่า การใช้อำนาจ เช่นว่านั้น ฝ่าฝืนต่อครรลองความชอบธรรมของโลก...................... (มีต่อ)

Thursday, October 1, 2015

วิบากกรรมของนายกยิ่งลักษณ์ โดย วัฒนา เมืองสุข


วิบากกรรมของนายกยิ่งลักษณ์

ผมอ่านข่าวนายกยิ่งลักษณ์เป็นโจทก์ฟ้องอดีตอัยการสูงสุด (นายตระกูล วินิจนัยภาค) กับพวกรวม 4 คน ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อมาอดีต อสส ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัวตอบโต้ทำนองว่า "คดีจำนำข้าวท่านต้องทำตามหน้าที่เพื่อแทนคุณแผ่นดิน" ผมเห็นว่าคดีนี้มีความผิดปกติในหลายเรื่องและหลายขั้นตอน ดังนี้
1. คดีนี้เป็นคดีแรกของประเทศไทยหรืออาจเป็นคดีแรกของโลกก็ได้ที่หัวหน้ารัฐบาล ถูกดำเนินคดีจากการดำเนินนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ การรับจำนำข้าวที่จริงคือการแทรกแซงตลาด (market intervention) ที่ทำกันมาทุกรัฐบาลรวมถึงรัฐบาล คสช ที่เพิ่งอนุมัติเงินงบประมาณไปแทรกแซงราคายางพารารวมถึงการอนุมัติเงินช่วย เหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
2. การแทรกแซงตลาดเพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรให้สินค้า เกษตรได้รับผลตอบแทนสูงสุด เป็นแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจที่รัฐธรรมนูญปี 2550 บังคับให้รัฐต้องดำเนินการตามมาตรา 75 วรรคแรก มาตรา 84 และ 84(8) และถือเป็นนโยบายของ "คณะรัฐมนตรี" ที่ต้องแถลงต่อรัฐสภาตามมาตรา 75 วรรคสอง การดำเนินตามแนวนโยบายดังกล่าวจึงชอบและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกประการ คำถามคือถ้านโยบายนี้ผิดกฎหมายจนต้องถูกดำเนินคดี เหตุใดจึงดำเนินคดีกับนายกยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียวทั้งที่เป็นนโยบายของคณะ รัฐมนตรี เหตุใดหัวหน้ารัฐบาลคนอื่นๆ ที่ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการแทรกแซงตลาดเหมือนกันรวมทั้งหัวหน้า คสช ด้วยกลับไม่ถูกดำเนินคดี
3. เมื่อ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวนมาให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีกับนายกยิ่งลักษณ์ ได้มีการตั้งคณะทำงานของอัยการรวม 10 คนเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้โดยมีรองอัยการสูงสุด (นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์พงศ์) เป็นหัวหน้า คณะทำงานเห็นว่าสำนวนที่ส่งมามีข้อไม่สมบูรณ์รวม 4 ประเด็นสำคัญ จึงมีหนังสือแจ้งข้อไม่สมบูรณ์ไปยัง ป.ป.ช. ซึ่งก็ได้ตั้งคณะทำงานรวม 10 คนเท่ากับอัยการเพื่อมาหาข้อสรุปร่วมกัน ขั้นตอนนี้มีความแปลกประหลาดเกิดขึ้นคือ
(1) มีการนัดประชุมร่วมคณะทำงานสองฝ่ายครั้งแรก แต่หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายอัยการกับพวกรวม 7 ท่านไม่ทราบจึงไม่ได้ไปประชุม มีเพียงอัยการ 3 ท่านที่ถูกนายกยิ่งลักษณ์ฟ้องไปประชุมกับ ป.ป.ช. ทำให้ครบองค์ประชุม หากคณะทำงานของอัยการทุกท่านได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช. โดยชอบแล้วตามที่ท่านอดีต อสส ชี้แจง ต้องถือว่าหัวหน้าคณะและอัยการรวม 7 ท่านที่ไม่ได้ไปประชุมมีความผิด ท่าน อสส ในขณะนั้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนและลงโทษอัยการทั้ง 7 ท่านนี้อย่างไรหรือปล่อยเลยตามเลยครับ
(2) คณะทำงานอัยการ 3 ท่านที่ไปประชุมกับฝ่าย ป.ป.ช. ไม่แปลกใจบ้างเลยหรือครับว่าทำไมหัวหน้าคณะและพรรคพวกรวม 7 ท่านไม่ได้ไปประชุมด้วย ในคดีสำคัญที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถูกกล่าวหาถ้าเป็นผมอย่างน้อยต้อง โทรตามหัวหน้าคณะหรือพรรคพวก ถ้าท่านเหล่านั้นไม่ทราบเรื่องก็ต้องขอเลื่อนการประชุมออกไป ผมว่าทุกคนในโลกคงทำแบบนี้เหมือนกัน
(3) ที่ประหลาดมากขึ้นก็คือทั้ง 3 ท่านที่ไปประชุมที่เคยเห็นร่วมกันแต่แรกว่าสำนวนมีความไม่สมบูรณ์กลับเห็น ตาม ป.ป.ช. ว่าสำนวนสมบูรณ์ที่จะฟ้องได้แล้วโดยไม่ต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติม แล้วเหตุใดเมื่อยื่นฟ้องไปแล้วจึงมาขอเพิ่มเติมพยานเอกสารที่อยู่นอกสำนวน อีก 67,800 แผ่น คดีสำคัญขนาดนี้ทำไมไม่ทำให้รอบคอบครบถ้วนแต่แรกครับ
(4) นอกจากความผิดปกติที่ผมกล่าวแล้ว คดีนี้ยังเป็นคดีแรกที่ อสส เรียกสำนวนไปจากอัยการคดีพิเศษที่มีหน้าที่รับผิดชอบคดีของ ป.ป.ช. โดยตรง เพื่อมอบให้สำนักงานคดีสืบสวนและสอบสวนที่มีท่านสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล เป็นอธิบดีและเป็นหนึ่งในสามท่านที่ไปประชุมเป็นผู้รับผิดชอบแทน
4. ความผิดปกติทั้งหมดช่างบังเอิญมาเกิดขึ้นภายหลังจากที่หัวหน้า คสช มีคำสั่งปลดท่านอรรถพล ใหญ่สว่าง ที่เป็นอัยการสูงสุดในขณะนั้นและแต่งตั้งให้ท่านอดีต อสส ที่ถูกนายกยิ่งลักษณ์ฟ้องมาเป็นแทน ซึ่งถ้าไม่มีการปลดท่านอรรถพลแล้วท่านอดีต อสส ที่ถูกฟ้องจะไม่มีโอกาสเป็น อสส เลย นี่ใช่มั้ยครับที่ท่านบอกว่าคือการแทนคุณแผ่นดิน

ด้วยความเคารพในองค์กรอัยการ
วัฒนา เมืองสุข

ใกล้ครบรอบ 39 ปีเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 แต่เรื่องราวหกตุลายังไม่คลี่คลาย

Nithinand Yorsaengrat

ขออภัยมิตรสหายที่ต้องลงภาพไม่น่าดู แต่ก็ได้พยายามปิดบังใบหน้าของเหยื่อที่ถูกกระทำอย่างโหดร้ายแล้ว 

ใกล้ครบรอบ 39 ปีเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 แต่เรื่องราวหกตุลายังไม่คลี่คลาย 

คนทั่วไปทราบว่าคุณวิชิตชัย นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถูกจับแขวนคอใต้ต้นมะขาม บริเวณท้องสนามหลวง และถูกเก้าอี้ฟาด โดยคนไทยด้วยกันผู้ฟาดเก้าอี้และยืนดูต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส 

ภาพถ่ายคุณวิชิตชัยในวินาทีแสนเศร้า โดยช่างภาพ AP ชื่อ Neal Ulevich ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ประจำปี 1977 เมื่อถึงรอบหกตุลาคม จะมีผู้นำภาพคุณวิชิตชัยมาเผยแพร่เสมอด้วยความโศกสลด จนหลายปีมานี้ จึงมีเสียงเรียกร้องว่าอย่าแพร่ภาพนี้อีกเลยเพื่อให้เกียรติผู้เสียชีวิตและครอบครัว 

นั่นคือเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้น ณ ต้นมะขามต้นนั้น 

หลายปีที่ผ่านมานี้ คณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ได้ข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมว่า ยังมีมะขามอีก 3 ต้นในบริเวณใกล้เคียง ทำหน้าที่เช่นเดียวกับมะขามต้นแรก 

ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 นอกจากคุณวิชิตชัย ยังมีชายไม่ทราบชื่ออีก 3 คนถูกแขวนคอ หนึ่งในนั้น ตำรวจบันทึกชื่อว่า ปรีชา แซ่เฮีย แต่ไม่สามารถหาญาติมายืนยัน และไม่สามารถค้นหาชื่อได้จากสำนักทะเบียนราษฎร์

ในสี่ศพดังกล่าว ศพคุณวิชิตชัย สวมเสื้อนักศึกษา นุ่งกางเกงขาบาน ศพที่สอง สวมเสื้อแขนสั้นสีเข้ม นุ่งกางเกงยีนส์ ศพที่สาม สวมเสื้อลายดอก ถูกลากลงจากรถแท็กซี่ รุมประชาทัณฑ์ ก่อนจับแขวนคอ ศพที่สี่ เครื่องแต่งกายไม่แน่ชัด แต่ถูกรัดคอด้วยเชือกไนล่อนแล้วนำไปแขวนคอ

ทุกศพที่ถูกแขวนคอ ถูกลากลงมาเผา

เมื่อ พ.ศ. 2520 สมัคร สุนทรเวช ซึ่งน่าจะติดกับดักปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของกลุ่มตน (ในสมัยนั้น) กล่าวเต็มปากเต็มคำว่า 

"การที่มีการเผาคนตายไป ๔ คนนั้นเป็นการเผาคนซึ่งต้องการทำลายหลักฐาน ไม่ให้รู้ว่าเป็นคนชาติใด เพราะเหตุว่าหลักฐานในกองที่ไหม้นั้น มีรูปโฮจิมินห์เล็ก ๆ ซึ่งเผาไปไม่หมด" 

(จากเทปบันทึกเสียงปาฐกถาของนายสมัคร สุนทรเวช เรื่อง "คนที่ถูกเผาที่ธรรมศาสตร์เป็นคนญวน" ให้กับนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2520

https://th.wikiquote.org/wiki/สมัคร_สุนทรเวช )

คำพูดเหล่านั้นของสมัคร ผิดความจริง เพราะอย่างน้อยก็ชัดเจนว่าวิชิตชัยเป็นคนไทย และเป็นนิสิตจุฬาฯ คนตายและคนถูกจับจำนวนมากในวันนั้นล้วนเป็นคนไทย อีกทั้งเป็นไปได้น้อยมาก ที่ฝูงชนผู้กระเหี้ยนกระหือรือ เผาผู้ตายทั้งสี่ด้วยอารมณ์เกลียดชังอย่างมาก จะเป็นพวกเดียวกันกับคนถูกเผา ตั้งใจเผาเพื่อทำลาย "หลักฐาน" 

สมัครพูดถูกอย่างเดียวเรื่องแขวนคอสี่คนและเอาศพลงมาเผา 

"เหตุที่เกิดขึ้นแปลกมาก มีการทุบตีคนให้ตายแล้วเอามาแขวนคอ ชักชวนให้เอาไม้ไปตี เอาเก้าอี้ไปตี แล้วเอาคนที่ถูกแขวนคอจนตายนั้นเอามาวาง มีการเอายางรถยนต์วางแล้วเอาศพวางแล้วเอายางรถยนต์วางทับ เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาทั้ง ๔ ศพ

"ทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องจริงเกิดขึ้นกลางถนน กลางสนามหลวง กลางถนนราชดำเนิน ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องนี้ได้ แต่ผลการสอบสวนในภายหลังนั้นก็สามารถจะปะติดปะต่อได้"

(แหล่งอ้างอิงเดียวกันกับลิงค์ข้างบน) 

ฝ่ายถือครองอำนาจยาวนานของประเทศ ประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อครั้ง 6 ตุลาคม 2519 ในการสร้างความเชื่อว่า นักศึกษาประชาชนกลุ่มหนึ่งที่นิยมเสรีภาพ ไม่ยอมคิดเหมือน พูดเหมือน ทำเหมือนที่ฝ่ายอำนาจสั่งให้ทำ คือคนคิดร้ายขายชาติ ล้มเจ้า จนเกิดเป็นฝ่ายคนดีรักชาติที่เกลียดชังคนไทยอีกฝ่ายอย่างรุนแรง สามารถเข่นฆ่าทำลายล้างอีกฝ่ายราวกับอีกฝ่ายไม่ใช่คนได้ทันทีที่มีโอกาส

ใกล้ปีที่ 39 ของ 6 ตุลาคม 2519 เรื่องราวหลายอย่างในเหตุการณ์ยังไม่คลี่คลาย นอกจากความจริงที่่เห็นกันอยู่ว่า นักศึกษาประชาชนผู้อยู่คนละฝ่ายกับรัฐบาลเผด็จการครั้งนั้น ล้วนเป็นคนไทย มิได้ขายชาติ มิได้ล้มเจ้า หลายคนมากในเวลานี้เป็นผู้เป่านกหวีดเรียกร้องรัฐประหาร เผยแพร่ความเชื่อว่าทักษิณสร้างกองทัพชาวบ้านเสื้่อแดงขึ้นมาล้มเจ้า ทักษิณเลว คนไม่เอารัฐประหารเป็นขี้ข้าทักษิณ เป็นพวกแดง เป็นพวกล้มเจ้า ฯลฯ 

น่าเศร้าที่คนไทยหลายคนไม่เรียนรู้อดีต และพร้อมจะเดินตามอดีตอัปยศ 

ภาพนี้คือภาพชายเสื้อลายดอก ที่ถูกลากลงจากรถแท็กซี่ ก่อนถูกรุมประชาทัณฑ์ นำไปแขวนคอและเผา ซึ่งยังไม่อาจทราบได้เลยว่าเขาเป็นใคร มีเพียงพยานที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเล่าเหตุการณ์แสนรันทดนั้น

https://www.facebook.com/NithinandY/posts/10156063950450117:0

การต่อต้านเผด็จการคสช. จะประทุแรงขึ้นเรื่อย ๆ


Sa-nguan Khumrungroj shared ภัควดี วีระภาสพงษ์'s post.
15 mins · 

ภัควดี วีระภาสพงษ์
การรวมพลังต่อต้าน Single Gateway ของเกมเมอร์ทั้งหลายเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งแห่งการต่อต้านที่กำลังสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้าพเจ้าเชื่อว่าการต่อต้านนับวันจะมีมากขึ้น ๆ วันก่อนข้าพเจ้าได้รับฟังคำบอกเล่าเกี่ยวกับคนในวิชาชีพหนึ่งที่ไม่ได้สนใจการเมือง แต่เนื่องจากทหารเข้ามาก้าวก่ายในการงานอาชีพของเขามากเกินไป จนเขาต้องลุกขึ้นมาโต้แย้งและวิพากษ์วิจารณ์ทหารโดยตรงอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ซึ่งตามปรกติวิสัยของเขา เขาก็คงไม่ทำแบบนั้น แต่สาเหตุสืบเนื่องจากทนไม่ไหวกับทหารที่คิดว่าวิธีการของตนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลกโดยไม่คำนึงถึงบริบทอะไรทั้งนั้น

คสช.และกองทัพ รวมทั้งชนชั้นนำเต่าล้านปีจะรู้หรือไม่ว่าโลกมันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ความคิดแบบยุคสงครามเย็น วิธีปฏิบัติแบบค่ายทหาร มันใช้การไม่ได้แล้วในโลกยุคปัจจุบัน มิหนำซ้ำ การนำแนวคิดและวิธีการแบบค่ายทหารโบราณมาใช้ มันจะทำลายประเทศนี้จนย่อยยับทั้งการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม มันจะกระตุ้นความรู้สึกต่อต้านของคนในสังคมขึ้นมา และยิ่งถ้าประชาชนมีแต่ความรู้สึกต่อต้านโดยไม่มีแนวคิดที่เป็นทางออก ถึงแม้ คสช.พังไป ประเทศนี้ก็ยังย่อยยับอยู่ดี

Wednesday, September 30, 2015

เศรฐกิจไทย

            ขณะนี้ประเทศไทยกำลังดำเนินนโยบาย "สองต่ำ" โดยค่อยๆลดเพดานภายในประเทศให้ต่ำลง และลดการพึ่งพาจากต่างชาตินี่เป็นส่วนเศรษฐศาสตร์จุลภาค ภายในประเทศอาจมองว่าได้ค่าครองชีพที่ถูกลงถึงขั้นหลุดความคิดว่า 160บาทต่อวัน แต่ข้าวของจะถูกกดให้ต่ำตามด้วยทำให้คนที่มองไม่ออกเห็นว่าเป็นประโยชน์ 
              ในส่วนจะกระทบค่าเงินบาท ระบบเศรฐศาสตร์มหภาค กลับมีผลตรงกันข้ามเนื่องจากนำสินค้าราคาถูกในประเทศมาส่งออกได้เงินยูเอสดอลล่า กลับเข้าประเทศ คนกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์มหาศาลจากการทำนโยบาย สองต่ำ จุดนี้เองจึงต้องทำการค้าผูกขาด และนำเศษของเงินเหล่านั้นมาแจกจ่ายในรูปแบบกรุณาธิคุณและอภิสิทธิชนผู้ถวายงาน รวมคนกลุ่มนี้ว่า"ชนชั้นปกครอง" จึงเกิดการลดอุณหภูมิในประเทศให้ต่ำลงเรื่อยๆเป้าหมายคือผู้มีรายได้มากจนเข้าไปปะปนกับชนชั้นปกครองได้ ค่อยๆหมดกำลังลง ควบการใช้ประชารัฐ ดันคนระดับล่างไม่ให้กระทบแถมยังเปิดสลอตว่างในหน่วยราชการเป็นช่องระบายแรงกดในสังคม

(ปล.นี่เป็นระบบสหกรณ์ซ่อนรูป และยังยืนยันว่า ประเทศไทยมีสภาเปรซิเดียมอันมีกษัตริย์เป็นประธาน ถึงแม้ร่าง รธน ถูกล้ม แต่โครงสร้างถูกวางเรียบร้อยแล้ว หลังจากคณะราษฎได้ก่อตัวจนเกิดเป็นธรรมนูญที่กษัตริย์เป็นผู้มอบ และได้ตราว่า"กษัตริย์อยู่ใต้ รธน. และ รธน. ได้ถูกว่ากษัตริย์ทรงอยู่เหนือ รธน."ใน ม.3นั่นเอง)