PPD's Official Website

บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"

บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"
The Ten Commandments of Red Ants' Revolution
 
ในรายการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พฤษภาคม 2554) ผมได้นำเสนอแนวทางสำหรับการปฎิบัติตัวของพี่น้องเสื้อแดง บนรากฐานความเชื่อว่าเกมการเลือกตั้ง เป็นแค่กิจกรรมหนึ่งในการเดินเข้าสู่โค้งอันตรายของประเทศไทย เพราะแก็งค์ทรราชย์จะไม่มีทางจะยอม และมีดัชนีบ่งชี้ที่สำคัญ ๆ เช่น การจับแกนนำแดงสยาม การถอนประกันคุณจตุพรและคุณนิสิต การเร่งคดีหมิ่น การสังหารนักการเมืองเสื้อแดง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่า แนวรบรัฐสภาโดยพรรคเพื่อไทยที่เป็นหัวหอกให้เสื้อแดงนั้น จะต้องไปพบกับเล่ห์เหลี่ยมทุกด้านของฝ่ายมาร ที่จะงัดออกมาทำความชั่วร้าย และนำไปสู่ความเสียหาย รุนแรง และการติดขัด และเมื่อคนเสื้อแดงถึงจุดหมดความอดทน การเผชิญหน้าจะเกิดขึ้น เพราะต่อให้ได้เป็นรัฐบาล เสื้อแดงก็จะไม่ยอมหยุดการต่อสู้ และฝ่ายตรงข้ามก็จะไม่หยุดเช่นกันในอันที่จะทำลายการเติบโตของเสรี ประชาธิปไตย ความหวังในการสร้างประเทศผ่านรัฐสภาอย่างเบ็ดเสร็จ จึงเป็นสิ่งริบหรี่ สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในภาวะเช่นนี้ก็คือ ประชาชนต้องเข้มแข็ง ประชาชนต้องผันตัวเองเป็นมดแดง ที่แต่ละตัวอาจจะเหมือนไม่มีพิษสงฆ่าช้างได้ แต่เมื่อเราทุกคนเชื่อว่าเราจะล้มช้างได้ หากเรารวมตัวกัน หากเราพัฒนาตัวเอง พัฒนาความเป็นกลุ่มก้อน และพัฒนาศักยภาพทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และยุทธวิธี บัญญัติสิบประการต่อไปนี้ คือสิ่งที่จะเตรียมพี่น้องเสื้อแดงให้กลายเป็นมดแดง ที่จะลุกมาล้มช้างได้ในวันที่สิ่งต่าง ๆ ในระบอบตอแหลมันไม่ทำงานอีกต่อไป หรือเมื่อเราถึงทางตัน และต้องก้าวไปสู่การเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
* เรียนรู้ * ริเริ่ม * รวมใจ * รื่นเริง * รุกรับ * ระวัง * ร้องเรียน * รังควาน * รัก * รุกฆาต
 
1. เรียนรู้
ปัญหาของบ้านเมืองเราที่มีปมอันยุ่งเหยิง มีกลุ่มผลประโยชน์ร่วมมือ โยงใย และวางแผนกระทำการมานาน และยิ่งเพิ่มดีกรีความเลว เล่ห์กล ความรุนแรง และอันตรายต่อบ้านเมือง พร้อมกับการสร้างภาพที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากสับสน เบื่อหน่าย เฉื่อยชา หรือตามืดบอด และนับวันต่อแต่นี้ไป ดีกรีหรือระดับของมันจะยิ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น ประชาชนคนไทยที่ห่วงใยบ้านเมือง อยากเข้าใจปัญหา และอยากมีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหา จะต้องหมั่นเรียนรู้ ศึกษา ทำความเข้าใข และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และข่าวสารความรู้อยู่เสมอทุกวัน สิ่งที่ประชาชนคนไทยควรเรียนรู้หรือทำความเข้าใจ รวมถึงสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ประจำวันและผลประโยชน์ในฐานะพลเมือง นโยบายของราชการและพรรคการเมือง ข่าวสารบ้านเมือง ฯลฯ ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังไม่มีวัฒนธรรมบริโภคความรู้เหมือนสังคมตะวันตก และห้องสมุดชุมชนยังไม่ได้รับการพัฒนาดีพอ ผู้ที่มีความรู้และเวลา เช่น นิสิตนักศึกษา ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ พระสงฆ์และนักบวช ควรที่ยื่นมือออกไปช่วยเหลือในการให้ความรุ้และการศึกษาแก่ชุมชนรอบ ๆ ตัว
 
2. ริเริ่ม
ริเริ่ม หมายถึงการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า สร้างสรรค์กว่า ได้ผลดีกว่า ตรงประเด็นปัญหาในชีวิตมากกว่า เสมอในทุกวันใหม่ สิ่งเก่า ๆ ที่เคยกรทำ ควรตั้งคำถามและหาทางปรับปรุงเสมอ การต่อสู้ของคนเสื้อแดง ต้องเผชิญกับความซับซ้อนของกลไกอำนาจ การเคลื่อนไหว เล่ห์กล และข้อมูลข่าวสารที่สับสน ดังนั้น คนเสื้อแดงและประชาชนที่อยากพัฒนาประเทศไทยให้พ้นจากวงจรอุบาทว์ จะต้องหัดคิดใหม่ ทำใหม่ และหาทางที่สร้างสรรค์ การบ่น ด่า ประนาม หรือการทำกิจกรรมแบบเดิม ๆ หากผ่านมาแล้วสี่ห้าปีแล้วไม่ได้ผล หรือได้ผลแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาใหม่ได้ ก็ควรได้รับการทบทวน และการพูดคุยเพื่อระดมสมอง เพื่อสิ่งใหม่ ความคิดใหม่ และกิจกรรมใหม่ ควรเกิดขึ้นในระหว่างผู้คนรอบข้าง
 
3. รวมใจ
หากต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปสุ่ภาวะที่มีเงื่อนไขที่ดีสำหรับการเป็น ประเทศที่ดีดังฝัน มีประชาชนเป็นหัวใจของการพัฒนา มีกิจกรรมการเมืองที่เป็นของประชาชน ดำเนินการโดยประชาชนผ่านตัวแทนของพวกเขาอย่างแท้จริง และเพื่อผลอันมีประชาชนเป็นศุนย์กลาง ประชาชนจะต้องมีอำนาจเพียงพอสำหรับการต่อรองและคานอำนาจกับกลุ่มผลประโยชน์ อื่น ๆ ที่รวมหัวกันยึดเอาผลประโยชน์ของ ประเทศชาติ อันมีทรัพยากรต่าง ๆ และเงินภาษีของประชาชน ไปแบ่งกันอย่างไม่เกรงใจประชาชน กลุ่มเหล่านี้มีทหารตำรวจ นักธูรกิจกินรวบ เช่นธนาคารและธุรกิจที่มีอำนาจระดับสูงหนุนอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐอันรวมถึงข้าราชการและเจ้าหน้าที่ด้านขบวนการยุติธรรม สื่อสารมวลชนที่ขายจิตวิญญาณ นักการเมืองที่ทรยศประชาชน พวกนี้ได้กระทำการอันชั่วร้ายต่อบ้านเมืองและประชาชน ดังที่เราได้เห็นมาแล้วในช่วงสี่ห้าปีนี้ พวกเขาทำอะไรได้ดั่งใจ บิดเบือนหลักการ เลี่ยงกฎหมาย โกหกตอแหล สร้างสองมาตรฐาน กดขี่ข่มเหงประชาชนที่ต่อต้านและเรียกร้องสิทธิ ถึงขนาดมีการเข่นฆ่าประชาชนอย่างเย้ยกฎหมายและศีลธรรม การร้องขอไม่มีทางเป็นไปได้ การรอให้เขาลดหย่อนการทำบาปไม่ใช่เรื่องเป็นไปได้ ดังนั้น ประชาชนทุกหมู่เหล่าจะต้องเข้าใจในความจำเป็นของการตื่นและลุกมารวมตัวกัน เป็นกองกำลังประชาชน ที่มีทั้งปริมาณและคุณภาพที่เพียงพอที่จะต่อต้าน ชัดขืน เรียกร้อง บังคับ จัดการ และใช้สิทธิตามกฎหมายทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นใน ที่สุด อนึ่ง การรวมตัวกันเฉพาะคนเสื้อแดง แบ่งสี แบ่งแยกกับหมู่คนไทยร่วมชะตากรรมด้วยกัน แล้วไม่ได้เพิ่มยอดจำนวน หรือขยายไปรับเอาคนไทยที่ยังไม่ตื่นรู้เข้ามาร่วมขบวนการ จะทำให้เราไม่สามารถต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิทธิในการแบ่งประโยชน์อย่าง สมควรจาก กลุ่มผลประโยชน์อื่น ๆ ที่กล่าวข้างต้น วันนี้ คนไทยจะต้องพูดคุย สร้างกัลยาณมิตรกับคนรอบข้าง แบ่งปันข้อมูลและทำความเข้าใจ เพื่อสร้างกลุ่มคนตาสว่างทั่วแผ่นดิน นับตังแต่ระดับหมุ่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด เพื่อประสานกับกลุ่มต่าง ๆ ทั่วประเทศ และสร้างกิจกรรมร่วมกันให้ทันการณ์สำหรับการแตกหักกับกลุ่มอำนาจโบราณที่ ครองอำนาจอยู่ชณะนี้ การสร้างองค์กรเช่น สภาประชาชน หรือชื่ออื่นใดที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนทุกหมู่เหล่า เพื่อช่วยเสริมพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่ถูกกลุ่มผลประโยชน์ อื่น ๆ กดไว้ ในความพยายามสร้างชาติใหม่
 
4. รื่นเริง
การต่อสู้ของประชาชนเป็นสิ่งชอบธรรม เพราะประชาชนเรียกร้องและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อเสรีประชาธิปไตย และสิ่งดีงามของบ้านเมืองที่เป็นอารยธรรมอันน่าภูมิใจและสุขใจที่ได้อยู่ ร่วมกันของคนไทยทุกหมู่เหล่า การอยู่ในร่องรอยที่ถูกกฎหมายและศีลธรรมจรรยา จะทำให้เราอยุ่ได้อย่างเป็นปกติสุข ร่มเย็น และไม่ทุกข์ร้อนเหมือนบรรดาผู้ที่ก่อกรรมที่เป็นบาป เพราะผลกรรมจักตามทันพวกเขาเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้น ประชาชนต้องสู้ไป แล้วต้องทำใจให้เบิกบานให้เป็นนิตย์ เราอาจจะต้องจริงจังและดุดันในบางกรณี ในบางเวลา แต่เราควรทำตัวให้มีจิตใจผ่องใส ไร้กิเลส ไร้สิ่งขุ่นมัว ใช้สติในการผลักดันการก้าวไปข้างหน้า การแก้ปัญหามีหลายทาง และมีทางที่ดีกว่าเสมอ และทางเหล่านั้น หากเป็นไปได้ ต้องให้ถูกหลักกฎหมายและศีลธรรมเสมอ เมื่อทำได้ในแนวทางนี้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์ร้อนหรือ เร่าร้อน มุ่งมั่นแก้ปัญหาด้วยสติ แล้วทำตัวให้เบิกบาน น่าเลื่อมใส น่าอิจฉา น่าคบ น่าสนับสนุน คนเสื้อแดงเรา ไม่จำเป็นต้องโกหก็ดูดีได้ ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจเถื่อนก็มีพลังได้ ดังนั้น จงต่อสู้ด้วยสติและปัญญา ด้วยความผ่องใสของจิตวิญญาณ แล้วเราจะสำเร็จแน่นอน
 
5. รุกรับ
ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจและความได้เปรียบกับแก็งค์ที่ปล้นอำนาจและ ฉกฉวยผลประโยชน์ แล้วสร้างเครือข่ายอำนาจทรราชย์อย่างยิ่งใหญ่นั้น เหมือนเราเป็นมดแดงไปสู้กับช้างสาร จะรวมพลยกกองมดไปยืนเผชิญหน้ากับช้างตรง ๆ และหนุนเนื่องกันไปทื่อ ๆ ไม่มีหยุด ไม่มีถอย ไม่มีหลอกล่อ ย่อมไม่ได้ เพราะรังแต่จะถูกงวงช้างฟาดและเท้าเหยียบย่ำตายเป็นเบือ การต่อสู้กับอำนาจมืดอันยิ่งใหญ่และอันตรายนี้ เราต้องมีแผนสำหรับการหยั่งเชิง ถอย หลบ และรุก ตามจังหวะที่เหมาะสม ดังนั้น การวางแผนจะต้องอยุ่บนพื้นฐานการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ และระดมสมองเพื่อให้เกิด แนวทางที่รอบคอบ หลากหลาย และได้ผลดีที่สุด ในกรณีของ นปช. ที่เราเคยฝากความหวังไว้มากมาย มาบัดนี้ เราได้รับทราบแล้วว่า บางจังหวะ เราเร่งให้ได้ดั่งใจไม่ได้ เพราะแค่ขยับก็จะถูกสกัดและทำลายโดยฝ่ายตรงข้าม เราต้องเข้าใจข้อจำกัดของฝ่ายเรา และดูจังหวะของฝ่ายตรงกันข้าม แล้วก็ปรับยุทธศาสตร์ระดับต่าง ๆ และยุทธวิธีของขบวนการเสื้อแดงให้ทัน
 
6. ระวัง
เราทราบดีอยู่แล้วว่า อำนาจเถื่อนที่แก้งค์ผู้ปกครองเถื่อนที่ครอบงำเมืองไทยในช่วงสี่ห้าปีนี้ ทั้งบาปช้า หน้าด้าน ตอแหล และโหดร้ายเพียงใด การต่อสู้กับกฎหมายและอำนาจรัฐ เป็นสิ่งที่ยากอยู่แล้ว แต่การต่อสู้กับอำนาจกระบอกปืน และกลไกสื่อ ศาล คนพาลและพรรคการเมืองเหี้ย ๆ นั้น พวกเราต้องเสี่ยงกับการถูกรังแกและฆ่าฟันอย่างง่ายกว่าปกติ การต่อสู้ของพี่น้องประชาชนคนมือเปล่า จะต้องระมัดระวัง ยางกิจกรรมและความคิดต้องซ่อนไว้ใต้ดิน บางกิจกรรมต้องรอเวลา บางเรื่องต้องทำกันแบบไม่ให้ตั้งตัว เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือสะท้อนกลับที่เป็นอันตรายกับเรา โดยได้ไม่คุ้มเสีย ขอให้พี่น้องสู้อย่างมีสติและมีเชิงเสมอ รุกรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เตรียมการให้พร้อม และทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น ไม่ท้อแท้ ไม่หย่อนยาน และรอบคอบเสมอ
 
7. ร้องเรียน
ด้วยเหตุที่ฝ่ายที่ยึดอำนาจประชาชนไปครองอย่างไม่ชอบธรรม แล้วทำบาปกรรมเพื่อสานต่ออำนาจ แล้วมีการทำผิดกฎหมายและศีลธรรมมากมาย สิ่งที่ประชาชนทุกระดับควรทำก็คือ ต้องร้องเรียน ฟ้องร้อง และประนามการกระทำของสมาชิกของแก็งค์กลืนเมืองทุกระดับ คนผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกฟ้องร้องด้วยกฎหมาย คนผิดศีลธรรมก็ต้องได้รับการประนามหรือประจานต่อสาธารณชน ดังนั้น การฟ้องร้อง ร้องเรียน หรือประนาม เพื่อให้เกิดกระแสแห่งการแบ่งแยกคนดีคนเลวในสังคม ให้พี่น้องทั่วประเทศได้เห็นผลเสียของวงจรอุบาทว์ พี่น้องที่เป็นนักกฎหมายหรือรุ้สึกว่าสิ่งที่ฝ่ายขบถต่อประชาชนได้ทำผิด กฎหมายหรือศีลธรรม จะต้องสร้างคณะทำงานเพื่อติดตามฟ้องร้องดำเนินคดี เอาผิด หรือประนามหรือประจานทุกบาปกรรมของพวกเขา หากการกระทำเดี่ยว ๆ เป็นการเสี่ยง ก็ให้ทำกันในนามคณะหรือกลุ่มบุคคล การกระทำภายใต้ข้อบัญญัตินี้ จะทำให้คนชั่วต้องได้รับผลกรรม ต้องรู้สึกถึงความเดือดร้อนและผลบาปกรรมของพวกเขาในชาตินี้ ให้หลาบจำ ให้เป็นบทเรียนกับพวกเขา วงศ์ตระกูล และไม่ให้เป็นบทเรียนแก่สังคมทั่ว ๆ ไปอีกด้วย
 
8. รังควาน
ฝ่ายตรงข้ามพยายามใช้การกดขี่ กำหราบ ทำร้าย กดดัน และแม้แต่การฆ่าฟัน ดังนั้น สิ่งที่เราทำ ต้องยกระดับมากกว่าการร้องเรียนในข้อเจ็ด ประชาชนมีสิทธิป้องกันตนเอง ปกป้องตัวเองอันตราย และตอบโต้ตามสิทธิอันชอบธรรม การรังควาน คือการทำให้คนที่ทำร้ายต่อประชาชน คนที่คดโกง คนที่ใช้อำนาจเถื่อนเป็นพิษภัยกับสังคม อยู่ไม่เป็นสุข เป็นการยกระดับมาจากการร้องเรียน เป็นเชิงรุกมากกว่าการร้องเรียน การทำให้คนทำบาปรู้สึกว่าเราไม่พอใจ ให้เขารู้สึกผลบาป อย่างน้อยก็ทางใจและทางกายในกรอบที่สมควร และการลงโทษพวกเขาในทุกทางที่เป็นไปได้ ในกรอบกฎหมายและศีลธรรม ประชาชนจะต้องพยายามทำอย่างเป็นระบบ โดยไม่กลัว ไม่ประมาท ไม่ท้อ ไม่เป็นบาปที่หยาบ และไม่หยุดหย่อน จนในที่สุด สมุนก๊กมารจะไม่กล้าทำผิดเพิ่มเติม หรือไม่กล้าทำได้ดังใจ และไม่กล้าทำรุนแรงกับประชาชนอีก จนในที่สุด ก็จำต้องยอมให้กับประชาชนในที่สุด นำไปสู่ชัยชนะที่เด็ดขาดของประชาชนในที่สุด
 
9. รัก
ในขณะที่เราต้องต่อสู้ เพราะหากไม่สู้ก็ไม่มีทางได้มาซึ่งสิ่งที่สมควรเป็นของประชาชน และเราต้องรุนแรงเมื่อจำเป็น ในกรอบกฎหมายและศีลธรรม แต่เราก็ควรไม่ลืมว่า คนที่เรากำลังต่อสู้ด้วยนี้ เป็นพี่น้องร่วมแผ่นดิน เป็นเหมือนพี่น้องร่วมชายคา และบ้านเมืองเราก็เป็นเหมือนบ้านหลังเดียวกันที่เราทุกคนเป็น เจ้าของ จะทำร้ายกันเอง ทำลายข้าวของ หรือเผาบ้าน ก็จะตกเป็นภาระของพวกเราทั้งหมด เราต้องไม่ลืมว่า เราเป็นสัตว์ร่วมโลก ที่ผิดพลาดได้ ที่มีทุกช์ร่วมกัน มีสุขพร้อมกันได้ และในเบื้องลึกที่สุดแล้ว เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ หากสามารถแก้ไขส่วนประกอบและกลไกที่เป็นอันตราย หรือเป็นที่มาหรือตัวเอื้อให้เกิดกรรมอันเลวร้ายของสมาชิก ของบ้านหลังนี้ การ แก้ปัญหาใด ๆ ในที่สุดแล้ว สิ่งที่ดีที่สุด ควรเกิดด้วยความรัก ความปรารถนาดี การสร้างสรรค์ การมองกันในแง่บวก การให้โอกาส การพยายามฟังและเข้าใจ การให้โอกาส และอะไรที่ ดี ๆ อีกมากมาย อันเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความรัก เป็นพื้นฐานของความเข้าใจ การให้อภัย และการให้โอกาสแก้ไข ทางข้างหน้า ความรัก ควรเป็นรากฐานของการใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันของผุ้คนทุกหมู่เหล่าในชาติ และเมื่อเราสามารถบรรลุซึ่งเป้าหมาย หลักการ และกลไกสังคมใหม่ได้แล้ว สันติสุขและความวัฒนาถาวรก็จัเป็นของคนไทยในที่สุด
 
10. รุกฆาต
ถึงเวลาที่สุด การชิงชัยก็ต้องมีจุดจบ เพราะการยืดเยื้อมันจะทำให้เกิด ปัญหาวนเวียน เหมือนพายเรือในอ่าง หรือการเลี้ยงหัวฝี ซึ่งจะเป็นอันตราย เรื้อรัง และอาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น พี่น้องคนไทยต้องคิดถึงวันที่จะ ต้องกำจัดปัญหาให้สิ้นซาก จุดจบของปัญหา จุดเริ่มต้นของวิถีสังคมใหม่ และความฝันใหม่ การจะไปถึงจุดนั้น มีทั้งทางที่สงบที่สุดและทางที่รุนแรงที่สุด ทางที่แข็งที่สุด กับทางที่โอนอ่อนที่สุด และทางที่อยู่ในระหว่างกรอบความรักกับกรอบการล้างแค้น ฯลฯ เป็นสองขั้วให้เราได้เลือกเสมอ ดังนั้น เราจะต้องรุกฆาตให้เด็ดขาด แต่จะรุนแรง แข็ง โหด หรือยืดเยื้อเพียงใด ก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้งฝ่ายประชาชนและฝ่ายกบถประชาชน หากสองฝ่ายมายืนใกล้กัน หรือหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีกำลังเหนือกว่ามาก หรือมียุทธวิะีดีกว่ามาก ๆ การจบก็จะง่ายลง และประชาชต้องกำหนดเงื่อน ไขการรุกฆาตให้ได้ ถึงเวลาสำคัญแล้ว ต้องรุกแล้วปิดบัญชีให้เร็ว แล้วก้าวไปข้างหน้าได้เลย นั่นหมายความว่า แผนของประชาชนระยะสัน ระยะกลาง และระยะปลาย จะต้องเป็นไปเพื่อเตรียมความพร้อม และสร้างชัยชนะสำหรับทุกแนวรบ ทุกภารกิจ เพื่อนำไปสู่ความสุกงอมของสภาวการณ์ ที่ทำให้การรุกฆาต เป็นไปโดยง่าย สั้นกระชับ และเสียหายน้อยที่สุด พร้อมกับเดินหน้าต่อได้โดยไม่สะดุดนานเกินไป
โชคดีเถิด พี่น้องประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า
โชคดีประเทศไทยและคนไทยที่รัก

No comments:

Post a Comment