PPD's Official Website
- Home
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- เว็บมหาวิทยาลัยประชาชน
- ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
- “เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง”
- Ideology: อุดมการณ์มดแดง
- มดแดงล้มช้างคืออะไร?
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- ติดตามทางเฟสบุ๊ค
- การก่อตั้ง คณะราษฎรเพื่อสาธารณรัฐสยาม
- ร่วมโหวตชื่อขององค์การปวงชนชาวไทย
- หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
- หลักสำคัญสู่ชัยชนะเหนือเผด็จการไทย
- คำประกาศเพื่อการปฎิวัติระบอบการปกครอง 18 ก.พ. 2555
- การสมัครเข้าร่วมปฏิวัติประชาชน
- คำประกาศสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยประชาชน
- ถ่ายทอดสด ทางยูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยประชาชน
- โครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยประชาชน
- เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยประชาชน
- บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"
- Missions: พันธกิจ มดแดง
Tuesday, August 30, 2016
Monday, August 29, 2016
ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)
ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)
สนช.รับ...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายมากรมการปกครอง
... ทำให้อิสลามควบคุมระบบราชการทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว ...
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... หลั่งน้ำตา รดแผ่นดิน..ห่วงลูกหลานไทย..
10 ส.ค.2559
สนช.รับแล้ววาระแรก...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายจากกรมการศาสนา มากรมการปกครอง...
-ต่อไปนี้อิสลาม ควบคุม ตำบล, อำเภอ, จังหวัด, กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว..
ทำไมถึงต้องย้ายไปกรมการปกครอง
1.กรมการปกครองมีอำนาจในการสั่งการประชาชนมากกว่า กรมการศาสนา
2.กรมการปกครองมีงบประมาณมากกว่ากรมการศาสนา
3.ทุกอำเภอ และทุกจังหวัด จะต้องมีห้องทำงานให้กับ คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ และประจำจังหวัดนั้นๆ
4.เพื่อสอดรับกับกฎหมายลูก ที่จะออกมาดังนี้.
4.1 ออกกฎหมายรองรับว่า ทั้ง 77 จังหวัด ทั่วประเทศ, จังหวัดใดที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นๆแต่งตั้ง คณก.กลางอิสลามประจำจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ดังนี้..
- คณก.อิสลาม ประจำจังหวัดให้ทำงาน และร่วม ประชุมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกครั้ง,คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ ให้ทำงานและร่วมประชุมกับนายอำเภอทุกครั้ง(ข่าวกรองแล้ว ทราบว่า คณก.อิสลาม จะเตรียม ผู้หญิงอิสลามหน้าตาดี เพื่อจะเป็นเมียน้อยของนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อต้องการลูกที่เป็นมุสลิม ฝ่ายพ่อไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิมก็ได้..ไม่เกินใน 5 ปี ข้างหน้า 2565 ก็จะได้ลูกมุสลิมทั่วประเทศไทยปกครองประชาชน)
4.2 ออก กฎหมายรองรับ จังหวัดใด ที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นจัดตั้งศาลมุสลิมประจำจังหวัด ให้โต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. ให้ใช้มัสยิดใด มัสยิดหนึ่งเป็นที่ทำการของศาลมุสลิมไปก่อน...(ถ้าใครถามก็บอกว่า จะใช้บังคับเฉพาะคนมุสลิม แต่อีกไม่นาน คนไทยพุทธที่โง่อยู่ มีเรื่องกับมุสลิม ก็ต้องมาขึ้นศาลมุสลิมประจำจังหวัดนั้น ,ถ้ามีเรื่องให้คนมุสลิมรีบส่งเรื่องมาทันที) มีโต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. คนมุสลิมจะผิดอย่างไร ก็ต้องให้ชนะแน่นอน..
-ต่อไป คนไทยพุทธ มีข้อพิพาทกับคนไทยมุสลิม เกี่ยวกับ เรื่องที่ดิน, เรื่องอุบัติเหตุ และเรื่องอื่นๆ ก็ต้องขึ้นศาลมุสลิม
4.3 ออกกฎหมายชารีอะย์ มุสลิม เรื่องการนับถือศาสนา คนไทยพุทธ แต่งงานกับอิสลามมุสลิม จะต้องเปลี่ยนนับถืออิสลามมุสลิมทั้งหมด...
แผนของอิสลาม
แผนที่ 1 ยึดกระทรวงศึกษาได้แล้ว
แผนที่ 2 ยึดกระทรวงมหาดไทย
"เมื่อไรที่เราขอจัดตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดและอำเภอ ทุกอย่างก็จะสำเร็จเมื่อนั้น (ให้อ้างว่าเป็นการจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์ ... อย่าเผยแพร่ให้คนพุทธรู้ข้อนี้สำคัญมาก.. เพราะมันกำลังถูกเรายึดทั้งประเทศแน่ๆ ถ้ารู้มันจะต่อต้านเราอย่างรุนแรง)"
แผนที่ 3 ยึดกระทรวงยุติธรรม...
เมื่อผู้หญิงที่ส่งให้เป็นเมียน้อย นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด ลูกที่ได้จะเป็นมุสลิม
ให้ส่งลูกไปเรียน รัฐศาสตร์ และหรือ นิติศาสตร์เท่านั้นต่อไปจะได้คนมุสลิม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. ต่อไปศาลมุสลิมประจำจังหวัด.. จะต้องทำงานร่วมกับศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา เมื่อเวลานั้น อิสลาม มุสลิม ยึดได้ทั้งหมดแล้ว..ข้อพิพาท เรื่องที่ดินมรดก มีแน่นอนครับ เช่น พ่อเป็นไทยพุทธ มีที่ดินอยู่ 1,000 ไร่ มีลูกสาว 2 คน
- ลูกสาวคนที่ 1 นับถือพุทธ แต่งงานกับชายพุทธ
-ลูกสาวคนที่ 2 นับถือพุทธ แต่งงานกับชายมุสลิมตามกฎหมายชารีอะห์ ก็ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม วันหนึ่งพ่อตาย ด้วยหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ไม่ได้แบ่งมรดกให้ฝ่ายลูกเขย เป็นอิสลามมุสลิมซึ่งแต่งงานกับลูกสาวคนที่ 2 และมีลูกด้วยกัน 3 คนเป็นอิสลามมุสลิม ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ลูกเขยอยากได้ที่ดินมรดก 1,000 ไร่ หรืออยากได้มากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลมุสลิม ประจำจังหวัดนั้นๆ ท่านทั้งหลายลองคิดดู จะให้ใครชนะคดี...
ถ้าไม่ใช่อิสลามมุสลิม..ท่านลองคิดดูนะครับ แต่เดิมอิสลามมุสลิมใช้จารีต ของศาสนาในการปฏิบัติ (ผู้ชายมีเมีย 4 คน เพื่อขยายศาสนาตัวเอง) ชาวพุทธก็ไม่มีผลกระทบใดๆ แต่ปัจจุบันอิสลามมุสลิม พยายามพลักดัน จารีต ของศาสนา ให้เป็นกฎหมาย ออกมาบังคับใช้ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงมาก ต่อชาวพุทธทุกคน... เพราะถ้าขึ้นชื่อว่ากฎหมาย ถ้าไม่ปฏิบัติก็มีความผิด ติดคุก ...ดัง พรบ.ฮัจย์ 2524
-ปลัดกระทรวงมหาดไทย , อธิบดีกรมการศาสนา , อธิบดีกรมการปกครอง , และอธิบดี อื่นๆ อีกเกือบ 10 กระทรวง ต้องอำนวยความสะดวก ต่อกิจการฮัจย์ ถ้าไม่อำนวยความสะดวกต้องติดคุก 5 ปี... (ใช้กฎของป่าล้อมเมือง ต่อไปพระมหากษัตริย์ไทย ก็จะถูกคนอิสลามมุสลิมบีบ) รู้หรือยัง ทำไม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... ถึงหลั่งน้ำตา เป็นห่วงลูกหลานไทย..
12 ส.ค.2559 เวลา 0110
วอน คสช.ใช้สติ นำ ม.44 ที่นำมาปิดปากชาวพุทธ เอาไปล้างกฎหมายของมุสลิมหลาย ๆ ฉบับที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของ สนช. เพราะ กฏหมายเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแผ่นดินนี้ เป็นกฏหมายขายชาติ ทำลายวัฒนธรรมประเพณี เปิดช่องให้ยึดแผ่นดินทั้งประเทศอย่างแท้จริง ตื่นเถิดชาวไทยทั้งหลายภัยจากลัทธิอิสลามกำลังรุกคืบกลืนแผ่นดินไทยเรื่อย ๆ ให้เป็นแผ่นดินมหาวินาศและวิบัติอย่างสมบูรณ์แบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)
ตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดทุกอำเภอ (ให้ตบตาว่าจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์)
สนช.รับ...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายมากรมการปกครอง
... ทำให้อิสลามควบคุมระบบราชการทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว ...
อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... หลั่งน้ำตา รดแผ่นดิน..ห่วงลูกหลานไทย..
10 ส.ค.2559
สนช.รับแล้ววาระแรก...ร่าง พรบ.กิจการฮัจย์ ย้ายจากกรมการศาสนา มากรมการปกครอง...
-ต่อไปนี้อิสลาม ควบคุม ตำบล, อำเภอ, จังหวัด, กรมการปกครอง และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว..
ทำไมถึงต้องย้ายไปกรมการปกครอง
1.กรมการปกครองมีอำนาจในการสั่งการประชาชนมากกว่า กรมการศาสนา
2.กรมการปกครองมีงบประมาณมากกว่ากรมการศาสนา
3.ทุกอำเภอ และทุกจังหวัด จะต้องมีห้องทำงานให้กับ คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ และประจำจังหวัดนั้นๆ
4.เพื่อสอดรับกับกฎหมายลูก ที่จะออกมาดังนี้.
4.1 ออกกฎหมายรองรับว่า ทั้ง 77 จังหวัด ทั่วประเทศ, จังหวัดใดที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นๆแต่งตั้ง คณก.กลางอิสลามประจำจังหวัด ปฏิบัติหน้าที่ดังนี้..
- คณก.อิสลาม ประจำจังหวัดให้ทำงาน และร่วม ประชุมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกครั้ง,คณก.อิสลาม ประจำอำเภอ ให้ทำงานและร่วมประชุมกับนายอำเภอทุกครั้ง(ข่าวกรองแล้ว ทราบว่า คณก.อิสลาม จะเตรียม ผู้หญิงอิสลามหน้าตาดี เพื่อจะเป็นเมียน้อยของนายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อต้องการลูกที่เป็นมุสลิม ฝ่ายพ่อไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นมุสลิมก็ได้..ไม่เกินใน 5 ปี ข้างหน้า 2565 ก็จะได้ลูกมุสลิมทั่วประเทศไทยปกครองประชาชน)
4.2 ออก กฎหมายรองรับ จังหวัดใด ที่มีมัสยิด 3 แห่ง ให้จังหวัดนั้นจัดตั้งศาลมุสลิมประจำจังหวัด ให้โต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. ให้ใช้มัสยิดใด มัสยิดหนึ่งเป็นที่ทำการของศาลมุสลิมไปก่อน...(ถ้าใครถามก็บอกว่า จะใช้บังคับเฉพาะคนมุสลิม แต่อีกไม่นาน คนไทยพุทธที่โง่อยู่ มีเรื่องกับมุสลิม ก็ต้องมาขึ้นศาลมุสลิมประจำจังหวัดนั้น ,ถ้ามีเรื่องให้คนมุสลิมรีบส่งเรื่องมาทันที) มีโต๊ะอีหม่าม เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. คนมุสลิมจะผิดอย่างไร ก็ต้องให้ชนะแน่นอน..
-ต่อไป คนไทยพุทธ มีข้อพิพาทกับคนไทยมุสลิม เกี่ยวกับ เรื่องที่ดิน, เรื่องอุบัติเหตุ และเรื่องอื่นๆ ก็ต้องขึ้นศาลมุสลิม
4.3 ออกกฎหมายชารีอะย์ มุสลิม เรื่องการนับถือศาสนา คนไทยพุทธ แต่งงานกับอิสลามมุสลิม จะต้องเปลี่ยนนับถืออิสลามมุสลิมทั้งหมด...
แผนของอิสลาม
แผนที่ 1 ยึดกระทรวงศึกษาได้แล้ว
แผนที่ 2 ยึดกระทรวงมหาดไทย
"เมื่อไรที่เราขอจัดตั้ง สนง.อิสลาม ประจำจังหวัดและอำเภอ ทุกอย่างก็จะสำเร็จเมื่อนั้น (ให้อ้างว่าเป็นการจัดตั้งเพื่อประกอบพิธีฮัจย์ ... อย่าเผยแพร่ให้คนพุทธรู้ข้อนี้สำคัญมาก.. เพราะมันกำลังถูกเรายึดทั้งประเทศแน่ๆ ถ้ารู้มันจะต่อต้านเราอย่างรุนแรง)"
แผนที่ 3 ยึดกระทรวงยุติธรรม...
เมื่อผู้หญิงที่ส่งให้เป็นเมียน้อย นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด ลูกที่ได้จะเป็นมุสลิม
ให้ส่งลูกไปเรียน รัฐศาสตร์ และหรือ นิติศาสตร์เท่านั้นต่อไปจะได้คนมุสลิม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล.. ต่อไปศาลมุสลิมประจำจังหวัด.. จะต้องทำงานร่วมกับศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา เมื่อเวลานั้น อิสลาม มุสลิม ยึดได้ทั้งหมดแล้ว..ข้อพิพาท เรื่องที่ดินมรดก มีแน่นอนครับ เช่น พ่อเป็นไทยพุทธ มีที่ดินอยู่ 1,000 ไร่ มีลูกสาว 2 คน
- ลูกสาวคนที่ 1 นับถือพุทธ แต่งงานกับชายพุทธ
-ลูกสาวคนที่ 2 นับถือพุทธ แต่งงานกับชายมุสลิมตามกฎหมายชารีอะห์ ก็ต้องเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม วันหนึ่งพ่อตาย ด้วยหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ไม่ได้แบ่งมรดกให้ฝ่ายลูกเขย เป็นอิสลามมุสลิมซึ่งแต่งงานกับลูกสาวคนที่ 2 และมีลูกด้วยกัน 3 คนเป็นอิสลามมุสลิม ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ลูกเขยอยากได้ที่ดินมรดก 1,000 ไร่ หรืออยากได้มากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลมุสลิม ประจำจังหวัดนั้นๆ ท่านทั้งหลายลองคิดดู จะให้ใครชนะคดี...
ถ้าไม่ใช่อิสลามมุสลิม..ท่านลองคิดดูนะครับ แต่เดิมอิสลามมุสลิมใช้จารีต ของศาสนาในการปฏิบัติ (ผู้ชายมีเมีย 4 คน เพื่อขยายศาสนาตัวเอง) ชาวพุทธก็ไม่มีผลกระทบใดๆ แต่ปัจจุบันอิสลามมุสลิม พยายามพลักดัน จารีต ของศาสนา ให้เป็นกฎหมาย ออกมาบังคับใช้ ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงมาก ต่อชาวพุทธทุกคน... เพราะถ้าขึ้นชื่อว่ากฎหมาย ถ้าไม่ปฏิบัติก็มีความผิด ติดคุก ...ดัง พรบ.ฮัจย์ 2524
-ปลัดกระทรวงมหาดไทย , อธิบดีกรมการศาสนา , อธิบดีกรมการปกครอง , และอธิบดี อื่นๆ อีกเกือบ 10 กระทรวง ต้องอำนวยความสะดวก ต่อกิจการฮัจย์ ถ้าไม่อำนวยความสะดวกต้องติดคุก 5 ปี... (ใช้กฎของป่าล้อมเมือง ต่อไปพระมหากษัตริย์ไทย ก็จะถูกคนอิสลามมุสลิมบีบ) รู้หรือยัง ทำไม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด... ถึงหลั่งน้ำตา เป็นห่วงลูกหลานไทย..
12 ส.ค.2559 เวลา 0110
วอน คสช.ใช้สติ นำ ม.44 ที่นำมาปิดปากชาวพุทธ เอาไปล้างกฎหมายของมุสลิมหลาย ๆ ฉบับที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของ สนช. เพราะ กฏหมายเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาวไทยทั้งแผ่นดินอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในแผ่นดินนี้ เป็นกฏหมายขายชาติ ทำลายวัฒนธรรมประเพณี เปิดช่องให้ยึดแผ่นดินทั้งประเทศอย่างแท้จริง ตื่นเถิดชาวไทยทั้งหลายภัยจากลัทธิอิสลามกำลังรุกคืบกลืนแผ่นดินไทยเรื่อย ๆ ให้เป็นแผ่นดินมหาวินาศและวิบัติอย่างสมบูรณ์แบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
อำมาตย์เตรียมเอามีดจ่อคอหอย ตู่-ป้อม เพื่อควบคุมเบ็ดเสร็จ --สาวคดีแดกแบบย่ามใจของทหารในสังกัด
เรื่อง เล่าจากสมาชิกผู้รักประชาธิปไตย!
ฟ้าเดียวกัน วรรณเลิศ
เรื่องวงเล่าเช้านี้
"ประยุทธ์-ประวิทย์" อ่วม ทหารสายตัวเอง มีสิทธิ์เจอดี จัดกิจกรรมโครงการใช้ชื่อสารพัดแอบอ้าง โหนสถาบันเข้าขั้นหมิ่นเบื้องสูง !!
29 สิงหาคม 2559
ลือลั่นทั่วกองทัพบก เด็กนายจัดงานหากินแปลกๆ มีทั้งเอาโครงการพระราชดำริ โครงการเทิดสถาบัน จนถึงสิ่งศักดิ์ที่คนไทยนับถือ ผุดเป็นโครงการออกมาให้สังคมกังขามากมาย ในยุคสังคมทหารใหญ่ นายพล นายพันถ้าเป็นเด็กนาย ประยุทธ์-ประวิทย์ จะได้เป็นนักจัดกิจกรรม ปลูกป่า, สร้างพระ,สร้างวัตถุโบราณ สร้างตึก สร้างแฟลต ลามไปถึงส่วนการศึกษา อ้างเป็นหลาน เป็นเพื่อนลูกพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิทย์ออกของานตามมหาวิทยาลัย มีตัวมีตนเป็นลูกหลาน จริงเท็จไม่มีใครกล้าเช็ค กลัวเจอตอ เลยได้เห็นคนสวมรอยเป็นญาติของสองนายพลนี้มาขอส่วนแบ่งหากินทุกวงการ หนทางทำมาหากินไม่ใช่ของยากพวกทหารสมัยนี้ เล่นเป็นรวย มีชั้นเชิงอยู่ว่า ขอทำทีเบิกเงินหลวงไปสร้างก่อน แต่ยังเปิดรับเงินบริจาคจากห้างร้าน บริษัทเอกชนได้เงินเข้ากระเป๋ากันเองฟรีๆด้วยเทคนิคที่นิยมใช้คือการสั่งซื้อของผ่านหน่วยงาน มีการการออกเช็คในนามหน่วยงานทหารถูกต้อง จะได้เห็นว่าเอาเงินมาจ่ายจริง แต่ดันไปขอเงินทอนครึ่งหนึ่งทีหลัง จากบริษัทห้างร้าน บอกช่วยๆพวกพี่หน่อยนะ พี่มีภาระเลี้ยงดูปูสื่อพวกนายๆเยอะ เป็นวิธีการหากินสุดสกปรกของพวกเหล่าทหารทำดีเพื่อชาติ มีแต่ต้มตุ๋นภาษีคนไทย พวกห้างร้านบ้างก็ว่าสุดจะทน บ้างก็เต็มใจให้ทหารหลอกหลายต่อ ขอให้มีกะลาคุ้มหัวยามมีเรื่องมีราง ขอภาพนายพลมาติดเบ่งหน้าร้าน ไม่ปริปากพูดเรื่องเงินทอนเรื่องไม่ดีทุกเรื่องกลัวปืนจ่อหัวกันที่สุด กลัวแล้วจ้าาาา ์
•ทหารบอนไซ
อำมาตย์เตรียมเอามีดจ่อคอหอย ตู่-ป้อม เพื่อควบคุมเบ็ดเสร็จ --สาวคดีแดกแบบย่ามใจของทหารในสังกัด
เรื่อง เล่าจากสมาชิกผู้รักประชาธิปไตย!
ฟ้าเดียวกัน วรรณเลิศ
เรื่องวงเล่าเช้านี้
"ประยุทธ์-ประวิทย์" อ่วม ทหารสายตัวเอง มีสิทธิ์เจอดี จัดกิจกรรมโครงการใช้ชื่อสารพัดแอบอ้าง โหนสถาบันเข้าขั้นหมิ่นเบื้องสูง !!
29 สิงหาคม 2559
ลือลั่นทั่วกองทัพบก เด็กนายจัดงานหากินแปลกๆ มีทั้งเอาโครงการพระราชดำริ โครงการเทิดสถาบัน จนถึงสิ่งศักดิ์ที่คนไทยนับถือ ผุดเป็นโครงการออกมาให้สังคมกังขามากมาย ในยุคสังคมทหารใหญ่ นายพล นายพันถ้าเป็นเด็กนาย ประยุทธ์-ประวิทย์ จะได้เป็นนักจัดกิจกรรม ปลูกป่า, สร้างพระ,สร้างวัตถุโบราณ สร้างตึก สร้างแฟลต ลามไปถึงส่วนการศึกษา อ้างเป็นหลาน เป็นเพื่อนลูกพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิทย์ออกของานตามมหาวิทยาลัย มีตัวมีตนเป็นลูกหลาน จริงเท็จไม่มีใครกล้าเช็ค กลัวเจอตอ เลยได้เห็นคนสวมรอยเป็นญาติของสองนายพลนี้มาขอส่วนแบ่งหากินทุกวงการ หนทางทำมาหากินไม่ใช่ของยากพวกทหารสมัยนี้ เล่นเป็นรวย มีชั้นเชิงอยู่ว่า ขอทำทีเบิกเงินหลวงไปสร้างก่อน แต่ยังเปิดรับเงินบริจาคจากห้างร้าน บริษัทเอกชนได้เงินเข้ากระเป๋ากันเองฟรีๆด้วยเทคนิคที่นิยมใช้คือการสั่งซื้อของผ่านหน่วยงาน มีการการออกเช็คในนามหน่วยงานทหารถูกต้อง จะได้เห็นว่าเอาเงินมาจ่ายจริง แต่ดันไปขอเงินทอนครึ่งหนึ่งทีหลัง จากบริษัทห้างร้าน บอกช่วยๆพวกพี่หน่อยนะ พี่มีภาระเลี้ยงดูปูสื่อพวกนายๆเยอะ เป็นวิธีการหากินสุดสกปรกของพวกเหล่าทหารทำดีเพื่อชาติ มีแต่ต้มตุ๋นภาษีคนไทย พวกห้างร้านบ้างก็ว่าสุดจะทน บ้างก็เต็มใจให้ทหารหลอกหลายต่อ ขอให้มีกะลาคุ้มหัวยามมีเรื่องมีราง ขอภาพนายพลมาติดเบ่งหน้าร้าน ไม่ปริปากพูดเรื่องเงินทอนเรื่องไม่ดีทุกเรื่องกลัวปืนจ่อหัวกันที่สุด กลัวแล้วจ้าาาา ์
•ทหารบอนไซ
ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)
Credit: Unknown
ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)
เมื่อนำเอาสถิติตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ขึ้นมา จะเห็นว่ามีไม่กี่ประเทศในโลก (ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอัฟริกา) ที่มีการปกครองระยะหนึ่ง โดยฝ่าย Military Dictatorship
ถ้าไม่รวมประเทศไทย ครั้งสุดท้ายที่มีการรัฐประหารสำเร็จและยึดอำนาจการปกครองได้ คือที่ประเทศเบอร์กิน่า ฟาโซ่ (Burkina Faso) ในทวีปอัฟริกา และการรัฐประหารสิ้นสุดลงภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ. 2558 คือปีที่แล้วนั่นเอง (เกือบหนึ่งปีเต็ม ถ้านับจากวันนี้)
ส่วนในเอเซีย-แปซิฟิค ก็คงมีแต่ประเทศฟิจิ ซึ่งออกไปเกือบสองปีแล้ว ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนม่าร์ ก็หมดไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นคือปี พ.ศ. 2554
-------------------
เหตุผลของการก่อการรัฐประหาร ที่ทุกๆ ประเทศอ้างเสมอมาคือ ต้องเข้ามากอบกู้ประเทศชาติ จากกลุ่มนักการเมืองผู้ฉ้อโกงหรือรัฐบาลพลเรือนผู้มีวิสัยทัศน์อันคับแคบ (Myopic) กลุ่มเผด็จการทหารจะสร้างความชอบธรรมด้วยการอ้างถึง สถานะตำแหน่งของพวกตนว่า เป็นผู้ตัดสินใจอย่าง "เป็นกลาง" จากรากฐานของตนเองที่เป็นสมาชิกในกองทัพทหาร และฝ่ายเผด็จการทหารเหล่านี้ จะตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง เพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นต้นว่า "สภากอบกู้ประเทศชาติ " (National Redemption Council) หรือไม่ก็ "คณะกรรมการฟื้นฟูประเทศชาติ" (Committee of National Restoration) เป็นต้น
การสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจโดยกองทัพ จะพยายามอ้างถึงเรื่อง เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศชาติ หรือไม่ก็ทำการกู้ภัยจากการคุกคามจากลัทธิคตินิยมอันเป็นอันตราย (Dangerous Ideologies) ในสมัยอดีตนั้น ประเทศทางอเมริกากลางหรือละตินอเมริกา ก็ใช้เหตุผลของ การคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์มาสร้างความชอบธรรม
-------------------
ฝ่ายกองทัพจะสวมบทบาทให้ตนเองดูว่า เป็นพวกที่ไม่ฝักใฝ่ข้างหนึ่งข้างใด (non-partisan) และเป็นกลาง (Neutral Party) ซึ่งสามารถทำหน้าที่การนำประเทศชาติได้อย่างชั่วคราวในเหตุการณ์ของความยุ่งเหยิง และทำการพรรณาให้เห็นกันอยู่เสมอว่า นักการเมืองของประเทศตนนั้น ทำการฉ้อโกงและไม่มีประสิทธิ์ภาพในการบริหารประเทศแต่อย่างใด
ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของ Military Dictatorship ในเกือบ ทุกๆ ประเทศ ก็คือ รัฐบาลทหารจะต้องออกกฎในการใช้กฎอัยการศึก หรือไม่ก็ใช้มาตรการในการประกาศเรื่องสภาวะฉุกเฉินกันอย่างถาวร
------------------
และไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ หรือประเทศไหนในโลก สุดท้ายแล้ว มันก็ต้องหา "ความชอบธรรม" ป่าวประกาศให้คนทั่วโลกได้ทราบกัน ด้วยการ "จัดการการเลือกตั้ง" เท่านั้นเอง.. (ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่การจัดการของแต่ละประเทศกันเอง)....
และถ้าระบบของ Military Dictatorship มันดีจริง ก็น่าจะมีประเทศต่างๆ หันมากระทำการแบบนี้กันมากขึ้น
แต่ในเวลาที่ผ่านมาสองปี มีแค่สองประเทศที่ยังคิดว่า มันเป็นเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาภายในได้ (Lesotho และ Burkina Faso) (แต่เราก็คงจะเห็นกันแล้วว่า กระแสโลกในเรื่องแบบนี้ มีการตอบร้บกันอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา)
------------------
เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าบุคคลมีโอกาสเลือกสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ หรือทำมาหากินกันได้ ท่านคิดว่า พลเมืองเหล่านั้น ต่างมีความต้องการที่จะอยู่ภายใต่้การปกครองในรูปแบบไหนกัน?
ลองไปขบคิดเล่นๆ กันนะคะ
Happy Tuesday ค่ะ
ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)
Credit: Unknown
ในเวลานี้ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการปกครองจากรัฐบาลเผด็จการทหาร (Military Dictatorship หรือ Military Junta)
เมื่อนำเอาสถิติตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ขึ้นมา จะเห็นว่ามีไม่กี่ประเทศในโลก (ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปอัฟริกา) ที่มีการปกครองระยะหนึ่ง โดยฝ่าย Military Dictatorship
ถ้าไม่รวมประเทศไทย ครั้งสุดท้ายที่มีการรัฐประหารสำเร็จและยึดอำนาจการปกครองได้ คือที่ประเทศเบอร์กิน่า ฟาโซ่ (Burkina Faso) ในทวีปอัฟริกา และการรัฐประหารสิ้นสุดลงภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เมื่อปี พ.ศ. 2558 คือปีที่แล้วนั่นเอง (เกือบหนึ่งปีเต็ม ถ้านับจากวันนี้)
ส่วนในเอเซีย-แปซิฟิค ก็คงมีแต่ประเทศฟิจิ ซึ่งออกไปเกือบสองปีแล้ว ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนม่าร์ ก็หมดไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว นั่นคือปี พ.ศ. 2554
-------------------
เหตุผลของการก่อการรัฐประหาร ที่ทุกๆ ประเทศอ้างเสมอมาคือ ต้องเข้ามากอบกู้ประเทศชาติ จากกลุ่มนักการเมืองผู้ฉ้อโกงหรือรัฐบาลพลเรือนผู้มีวิสัยทัศน์อันคับแคบ (Myopic) กลุ่มเผด็จการทหารจะสร้างความชอบธรรมด้วยการอ้างถึง สถานะตำแหน่งของพวกตนว่า เป็นผู้ตัดสินใจอย่าง "เป็นกลาง" จากรากฐานของตนเองที่เป็นสมาชิกในกองทัพทหาร และฝ่ายเผด็จการทหารเหล่านี้ จะตั้งชื่อกลุ่มของตนเอง เพื่อสร้างความชอบธรรม เป็นต้นว่า "สภากอบกู้ประเทศชาติ " (National Redemption Council) หรือไม่ก็ "คณะกรรมการฟื้นฟูประเทศชาติ" (Committee of National Restoration) เป็นต้น
การสร้างความชอบธรรมในการยึดอำนาจโดยกองทัพ จะพยายามอ้างถึงเรื่อง เสถียรภาพทางการเมืองของประเทศชาติ หรือไม่ก็ทำการกู้ภัยจากการคุกคามจากลัทธิคตินิยมอันเป็นอันตราย (Dangerous Ideologies) ในสมัยอดีตนั้น ประเทศทางอเมริกากลางหรือละตินอเมริกา ก็ใช้เหตุผลของ การคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์มาสร้างความชอบธรรม
-------------------
ฝ่ายกองทัพจะสวมบทบาทให้ตนเองดูว่า เป็นพวกที่ไม่ฝักใฝ่ข้างหนึ่งข้างใด (non-partisan) และเป็นกลาง (Neutral Party) ซึ่งสามารถทำหน้าที่การนำประเทศชาติได้อย่างชั่วคราวในเหตุการณ์ของความยุ่งเหยิง และทำการพรรณาให้เห็นกันอยู่เสมอว่า นักการเมืองของประเทศตนนั้น ทำการฉ้อโกงและไม่มีประสิทธิ์ภาพในการบริหารประเทศแต่อย่างใด
ลักษณะอีกอย่างหนึ่งของ Military Dictatorship ในเกือบ ทุกๆ ประเทศ ก็คือ รัฐบาลทหารจะต้องออกกฎในการใช้กฎอัยการศึก หรือไม่ก็ใช้มาตรการในการประกาศเรื่องสภาวะฉุกเฉินกันอย่างถาวร
------------------
และไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ หรือประเทศไหนในโลก สุดท้ายแล้ว มันก็ต้องหา "ความชอบธรรม" ป่าวประกาศให้คนทั่วโลกได้ทราบกัน ด้วยการ "จัดการการเลือกตั้ง" เท่านั้นเอง.. (ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ก็อยู่ที่การจัดการของแต่ละประเทศกันเอง)....
และถ้าระบบของ Military Dictatorship มันดีจริง ก็น่าจะมีประเทศต่างๆ หันมากระทำการแบบนี้กันมากขึ้น
แต่ในเวลาที่ผ่านมาสองปี มีแค่สองประเทศที่ยังคิดว่า มันเป็นเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาภายในได้ (Lesotho และ Burkina Faso) (แต่เราก็คงจะเห็นกันแล้วว่า กระแสโลกในเรื่องแบบนี้ มีการตอบร้บกันอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา)
------------------
เรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ ถ้าบุคคลมีโอกาสเลือกสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตความเป็นอยู่ หรือทำมาหากินกันได้ ท่านคิดว่า พลเมืองเหล่านั้น ต่างมีความต้องการที่จะอยู่ภายใต่้การปกครองในรูปแบบไหนกัน?
ลองไปขบคิดเล่นๆ กันนะคะ
Happy Tuesday ค่ะ
Subscribe to:
Posts (Atom)