ชื่อกลุ่ม “ปวงชนชาวไทยเพื่อการปฏิวัติสันติสู่เสรีประชาธิปไตย”
(จะเปลี่ยนตามผลโหวต)
หลักการและเหตุผลของการตั้งองค์การของปวงชนชาวไทย
เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่เรื้อรังมานับทศวรรษ ที่บัดนี้ได้ทำให้เกิดทางตันที่เกลื่อนไปด้วยความเสียหายต่อประเทศชาติ และกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ สวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ ความเชื่อมั่น และอนาคตของปวงชนชาวไทยในทุก ๆ ด้าน เป็นความตกต่ำอย่างสูงสุดในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และทางออกของประเทศนั้น ไม่สามารถปล่อยให้อยู่ในมือของกลุ่มต่าง ๆ ที่อ้างความชอบธรรมโดยข้ามหัวประชาชน หรือไม่จริงใจต่อประชาชนได้ กลุ่มแรก คือ กลุ่มเผด็จการศักดินาและอภิสิทธิชนที่กำลังครอบงำประเทศ ด้วยการตั้งก๊กแก็งค์ของตนขึ้นมายึดอำนาจจากประชาชนและพยายามสร้างความชอบธรรมให้ตนเองและพรรคพวก โดยทำลายหลักสากลว่าด้วยประชาธิปไตย หลักสิทธิมนุษยชน และหลักกฎหมายต่าง ๆ ที่สากลโลกที่เจริญแล้วเขาถือปฏิบัติกันจนประเทศก้าวหน้าไปมากแล้ว และไม่สามารถให้อยู่ในมือของอีกกลุ่มหนึ่ง อันได้แก่นักการเมือง ไม่ว่ากลุ่มใด ๆ ก็ตาม เพราะพวกเขาได้ถูกสร้างให้เป็นตัวร้าย เป็นศัตรูของชาติ และเป็นผู้ทำให้ประชาธิปไตยแบบสากลเดินต่อไปไม่ได้ไปแล้ว จนนำมาสู่การเมืองการปกครองแบบเผด็จการทหารเพื่อรักษาและกระชับราชาธิปไตยแบบไทย ๆ ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเก่า ดังเห็นได้ชัดแจ้งที่สุดแล้วในวันนี้
ดังนั้น ประชาชนจึงต้องลุกขึ้นมาประกาศตัวในฐานะเจ้าของประเทศร่วมกัน บนความเข้าใจร่วมที่ว่าปวงชนชาวไทยนั้น เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่กษัตริย์และกลไกของราชสำนัก ไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่ข้าราชการ และไม่ใช่นักการเมือง ซึ่งล้วนแต่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนทั้งสิ้น และบุคคลเหล่านี้ ล้วนไม่ใช่ผู้มีอำนาจพิเศษใด ๆ เลย หากไม่ได้รับการยอมรับให้ถือและใช้อำนาจของประชาชน โดยเอาเงินภาษีของประชาชนไปประกอบกิจกรรมเชิงอำนาจและผลประโยชน์ต่าง ๆ เนื่องจากวันนี้ พวกเขาทำบ้านเมืองเละเทะ แย่งอำนาจกันบนความเสียหายของประชาชน หลอกให้ประชาชนเชื่อว่า พวกเขาล้วนทำเพื่อประชาชน แต่ความจริงย่อมปรากฏชัดว่า ใคร ทำเพื่อประชาชนจริงหรือไม่ และเพียงใด จึงถึงเวลาแล้ว ที่ประชาชนจะต้องรวมตัวกัน แล้วประกาศให้รู้ว่า เจ้าของประเทศตัวจริง กำลังต้องการอำนาจคืน และจะสร้างฉันทามติ หรือคำประกาศในเชิงเป้าหมายของประเทศใหม่ร่วมกัน โดยก้าวให้พ้นเสียจากการหลอกลวง คดโกง และวงจรอุบาทว์ที่คนไทยได้รู้เห็นมานานพอ จนชัดแจ้ง ไร้ข้อกังขาอีกต่อไป แล้วจะร่วมกันสร้างรากฐานประเทศใหม่ บนหลักการต่าง ๆ ที่ประเทศพัฒนาแล้ว เขายึดถือกัน เช่น
หนึ่ง อำนาจสูงสุด ทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เป็นของประชาชน โดยให้ตัวแทนปวงชนไปใช้แทน เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ให้ใครมายึดแล้วไปใช้แทนประชาชน โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน แต่ประชาชนกลับไม่ได้มีส่วนร่วม อนุมัติ และตรวจสอบใด ๆ ซึ่งถือเป็นการโกหก ตอแหล และน่าทุเรศยิ่ง
สอง เนื่องจากประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุด เป็นรัฎฐาธิปัตย์ตัวจริง เหนือรัฐธรรมนูญและเหนือทุกสถาบัน ดังนั้น รัฐบาลหรือผู้อ้างอำนาจรัฐใด ๆ จะทำการริดรอนสิทธิมนุษยชน เสรีภาพด้านต่าง ๆ และความเป็นใหญ่ของประชาชนมิได้โดยสิ้นเชิง การอ้างอำนาจรัฐทั้งจากการมาจากเลือกตั้งหรือจากการยึดอำนาจผ่านการกบฏต่อประชาชน หากละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานตามหลักสากลแล้ว ย่อมถือเป็นโมฆะ และประชาชนไม่จำเป็นต้องยอมรับ และมีสิทธิในการประท้วง ต่อต้าน ขัดขืน และล้มล้างผู้ก่อการทรยศต่อหลักนี้ได้โดยชอบธรรมเสมอ ยกเว้นในกรณีที่การกระทำของปัจเจกชนหรือกลุ่มคนใด ๆ ไปทำลายสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของผู้อื่น ที่เป็นที่ยอมรับกันตามมาตรฐานสากลด้วยเท่านั้น
สาม อำนาจกษัตริย์ ได้ถูกปรุงแต่งและถูกนำไปใช้กันเป็นเครือข่าย อย่างฝังรากลึก จนเป็นเหตุให้วงจรอุบาทว์ต่าง ๆ คอยบั่นทำลายพัฒนาการของประชาธิปไตยมาตลอด บัดนี้ ประชาชนเจ้าของอำนาจ ได้ตระหนักดีแล้ว จึงวางเป้าหมายและยึดหลักว่า จะต้องไม่มีอำนาจกษัตริย์ในระบอบการปกครองของประชาชนอีกต่อไป ส่วนตัวกษัตริย์นั้น จะอยู่ได้หรือไม่ จะมีรัชกาลที่สิบหรือไม่ ประชาชนทั่วประเทศ จะตัดสินใจกันต่อไป และพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้อง จะเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของปวงชนชาวไทยในอนาคตอันใกล้นี้
สี่ เมื่ออำนาจสูงสุด และแผ่นดินไทย เป็นของคนไทยทุกคน โดยเท่าเทียมกัน ดังนั้น การแสวงหาตัวแทน และผู้ใช้อำนาจของประชาชน ในฐานะผู้นำด้านต่าง ๆ นั้น จะต้องมาจากประชามติของปวงชนชาวไทย ผ่านการเลือกตั้งทั้งทางตรงและทางอ้อม เท่านั้น ไม่ใช่การแต่งตั้งโดยไม่มีปวงชนชาวไทยเกี่ยวข้อง โดยในการเลือกตั้งนั้น ต้องถือว่า คนไทยทุกคน มีหนึ่งสิทธิและหนึ่งเสียงเท่ากัน ตามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นเจ้าของประเทศที่เท่าเทียมกันโดยทั่วหน้า ทั้งทางกฎหมาย และโดยพื้นฐานในทุกกรณี
ห้า ต่อเนื่องจากข้อสี่ กฎหมายไทย ต้องเขียนขึ้นโดยตัวแทนปวงชนชาวไทย และต้องผ่านฉันทามติของปวงชนโดยตรงหรือโดยอ้อมก่อนเสมอ โดยจะต้องถือว่า ทุกคนในประเทศไทย อยู่ใต้กฎหมายโดยเสมอภาคกัน และต้องประกันว่า คนไทยทุกคนจะได้รับโอกาสและสิทธิต่าง ๆ โดยเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยกด้วยหลักใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งโดยนิตินัยและโดยพฤตินัย
หก กฎหมายรัฐธรรมนูญนั้น ย่อมมาจากประชามติของปวงชนชาวไทย การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ไม่ได้มาจากการดำเนินการของประชาชนหรือตัวแทนประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งมา ย่อมถือเป็นโมฆะ และผู้บังอาจก่อการปล้นอำนาจประชาชนและฉีกรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทยในอดีต ต้องถือเป็นกบฏแผ่นดิน และจะต้องถูกพิจารณาให้รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติแล้วก่อนหน้าการรัฐประหารแต่ละครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราต้องการเดินต่อไปข้างหน้าร่วมกันทั้งชาติ เมื่อพิจารณาโทษทัณฑ์แล้ว อาจให้มีการลดหย่อนโทษหรือนิรโทษกรรมได้ หากผู้ก่อการและผู้ก่อการยอมรับผิดต่อปวงชนชาวไทย และเมื่อปวงชนชาวไทย มีประชามติเห็นชอบเช่นนั้น
เจ็ด ความมั่นคงของชาติ ย่อมหมายถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชน บนหลักการข้างต้น จะอ้างเอาความอยู่รอดและสวัสดิภาพของบุคคลใด หรือตระกูลใด หรือหมู่คณะใด มาเป็นข้ออ้างเพื่อความมั่นคงของชาติ แล้ว กระทำการใด ๆ ที่ขัดกับหลักข้างต้น ย่อมถือเป็นเรื่องที่ละเมิดต่อหลักประชาชนเป็นใหญ่ และจะต้องถูกกำจัดออกไปเสียจากกฎหมายและการถือปฏิบัติในอนาคต และคนที่จะตัดสินใจเรื่องความมั่นคงของชาติ ย่อมเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย ที่ทำหน้าที่บริหารประเทศ ซึ่งมีวาระชัดเจน และถูกตัดสินผลงานโดยประชาชน ทหารจะอ้างเหตุแห่งความมั่นคงของชาติแล้วทำตัวเหนือผู้นำฝ่ายบริหารมิได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
แปด ความเห็นต่าง และความแตกต่างทุกชนิดในหมู่คนไทย เป็นเรื่องธรรมชาติ และคนไทยต้องอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างทั้งหลาย ใต้กรอบข้างต้น โดยจะต้องแสวงหาทางออกบนข้อตกลงที่ถือคนไทยที่แตกต่างนั้น เป็นพี่น้องร่วมชาติที่มีฐานะเสมอกัน โดยจะต้องใช้วิถีทางตามกรอบประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมายสากลต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง การก่อการร้าย การทำร้ายพี่น้องร่วมชาติ รวมทั้งทรัพย์สินของชาติ และการมุ่งทำลายกันและกันให้ถึงที่สุด
เก้า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หรือ เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ ประชาชนต้องได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามหลักการข้างต้นโดยสมบูรณ์ ในการรวมตัวกัน ในฐานะเจ้าของประเทศ ที่จะไม่ยอมให้ใครรับสมอ้างเอาไปโดยง่ายได้อีก การรวมตัวของประชาชนที่มีพลังเท่านั้น ที่จะสามารถเอาชนะการครอบงำที่ทำกันมานานนี้ได้ ประชาชนที่เข้มแข็ง รอบรู้เท่าทัน เรียนรู้อย่างเสรี และสานพลังกันได้จริงเท่านั้น จึงจะสามารถเป็นใหญ่ได้จริง การประสานกันเป็นพลังประชาชน โดยมีตัวแทนอันเป็นรูปธรรม ย่อมสามารถทำให้นานาอารยประเทศยอมรับ เข้าใจ เห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่พวกเราจะทำ แล้วมาสนับสนุนให้ประชาชนสามารถกู้อำนาจคือมาเสียจากกลุ่มเผด็จการทุกรูปแบบ วันนี้ รัฐบาลและตัวแทนของปวงชนชาวไทย ไม่ได้มีอยู่จริง จึงสรุปได้ว่า ประชาชนต้องรวมตัวกันอย่างจริงจัง เพื่อยืนยันว่า อำนาจจะต้องคืนมาอยู่กับพวกเรา ปวงชนชาวไทยโดยเร็ว
สิบ กลไก ประเพณี วัฒนธรรม และตัวบทกฎหมายใด ๆ ที่ขัดกับหลักข้างต้นนี้ จะต้องถูกกำจัดออกไปเสียให้สิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรือคณะรัฐประหารที่ผ่านมาทั้งหมด
สรุปว่า ข้างต้นนี้คือเหตุหลัก ๆ ที่ประชาชนได้รวมตัวกัน เพื่อประกาศให้ชาวโลกรู้ว่า วันนี้ ปวงชนชาวไทย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาของพวกเราเองอย่างดีแล้ว และมีเจตน์จำนงค์ที่จะแก้ปัญหาที่รากเหง้าของปัญหาจริง ๆ ซึ่งล้วนแต่เกิดจากกลไก วัฒนธรรม ตัวบุคคล และวิวัฒนาการแบบไทย ๆ ที่ทำลายตัวเองมาตลอด จนพวกเรายอมให้ดำเนินต่อไปไม่ได้ และเราไม่เชื่อว่า บุคคลที่อยู่ในอำนาจขณะนี้ และที่จะอ้างว่าเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย โดยไม่ได้สอดคล้องกับหลักการข้างบนนี้นั้น จะสามารถนำพาประเทศชาติพ้นจากการดำดิ่งสู่ก้นเหวลึกได้ วันนี้ ประชาชนตื่นแล้ว และพวกเราได้ร่วมกันลุกขึ้นมากู้ชาติให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว
19 ก.ค. 2557
ร่าง ณ มหานครซานฟรานซิสโก เพื่อเป็นการจุดประกายให้ประชาชนสานต่อ
ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดย ดร.เพียงดิน รักไทย ในฐานะภารโรงและลูกหลานของปวงชนชาวไทย