PPD's Official Website

Wednesday, September 28, 2016

อ. ชูพงศ์-สหายหมาน้อย 28 ก.ย. 2559 ตอน ความสามัคคีของเผด็จการไทย (ปิดท้ายโดย ดร. เพียงดิน รักไทย)

อ. ชูพงศ์-สหายหมาน้อย 28 ก.ย. 2559 ตอน ความสามัคคีของเผด็จการไทย (ปิดท้ายโดย ดร. เพียงดิน รักไทย)

https://youtu.be/DU0Ha91vKXI     

https://youtu.be/Fj6YOGUYBEA     

---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8     

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt     

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2     

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com     

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน


-----------------------------

=================


คำแถลงการณ์คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ต่อผล "การลงประชามติ"


8 สิงหาคม 2559

______________________________________________________

ท่ามกลางการตีปีกดีใจของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์ในประเทศไทย ต่อผล "การลงประชามติลวงโลก" และความรู้สึกต่าง ๆ ของคนไทย ที่มีทั้งสะใจ(อย่างหลงผิด) งุนงง ตลึง เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ หรือคลั่งแค้น ฯลฯ ในนามของเครือข่ายมดแดงล้มช้าง ขอแถลงการณ์ถึงพลเมืองไทย และพลพรรคมดแดงทั่วโลก ซึ่งกระจายอยู่ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย 34 ประเทศทั่วโลก และ 24 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา ดังนี้


ละครฉากที่เรียกว่า "การลงประชามติ" นั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความพยายามในการฟอกขาวของโจรกบฏ เพราะต้องการหลบให้พ้นแรงบีบจากคนไทยด้วยกันเอง และนานาอารยประเทศ และเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ฝังรากลึกบนแผ่นดินไทยต่อไป บนความได้เปรียบที่จะเอา "ผลประชามติ" ไปอ้างความชอบธรรมและตบตาชาวโลกว่า คนไทยมีฉันทามติให้พวกมันอยู่ในอำนาจตามโรดแม็ปที่พวกมันนึกกันเอาเอง และจะยัดเยียดรายละเอียดที่เลวร้ายอีกมากมายให้ระบอบเป็นเผด็จการอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยไม่ใส่ใจต่อความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นแก่ประชาชนและประเทศไทยอย่างสาหัสยิ่งกว่าที่ผ่านมา และเพื่อความชัดเจนของเป้าหมายและทิศทางการต่อสู้ของปวงชนชาวไทย ที่ใฝ่เสรีประชาธิปไตย คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จึงขอประกาศจุดยืนดังนี้


หนึ่ง คสช. ที่ได้ปล้นอำนาจจากปวงชนชาวไทย ไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ยังมีฐานะกบฏ ที่ทำผิดประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา ต้องมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และการนิรโทษกรรมตนเองของพวกเขา ย่อมเป็นโมฆะ และกรรมของพวกเขาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตต่อจากนี้ จะต้องถูกนำเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลประชาชนทันที เมื่อประชาชนชนะ ได้อำนาจคืนแล้ว


สอง เครือข่ายอำนาจเผด็จการทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับ คสช. ย่อมมีโทษในฐานะก่อการร่วม และมีโทษที่ต้องถูกสะสางโดยทั่วหน้า ตามลำดับชั้นความผิดของพวกเขาทั้งมวล


สาม ผลการลงประชามติลวงโลกครั้ง นี้ รวมทั้งกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง และพันธสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่ คสช. ปล้นจากปวงชนชาวไทยไปนั้น ไม่ว่าจะเกี่ยวด้วยกิจการภายใน และเกี่ยวข้องกับนานาประเทศ ให้ถือเป็นโมฆะ และปวงชนชาวไทย ไม่จำเป็นต้องยอมรับพันธะใด ๆ และเราจะประกาศให้นานาชาติรับรู้จุดยืนตรงนี้อย่างเข้มข้นต่อไป


สี่ เราจะเริ่มต้นการบอยคอตต์ต่าง ๆ ในทุกทางที่ทำได้ ในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศ ที่ปฏิเสธการคงอยู่และการปล้นใช้อำนาจของพวกเรา เริ่มตั้งแต่ระดับเบาไปถึงหนัก และจะต้องไม่ให้เผด็จการสามารถฟอกตัวผ่านการเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญโจรกบฏนี้ได้ นั่นแปลว่า คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะวางเป้าหมายขับไล่เผด็จการอย่างจริงจัง นับจากบัดนี้เป็นต้นไป


ห้า การต่อสู้ของคณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ไม่ใช่การวางเป้าล้มตัวบุคคล หรือมุ่งแค่การล้มเจ้า แต่เราจะล้มล้างสิ่งเลวร้ายทั้งปวงในระบอบการปกครองแบบเผด็จการนี้ แล้วสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กล่าวคือ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนชาวไทย ให้เสรีภาพอันบริบูรณ์แก่ปวงชน ให้ปวงชนอยู่บนความเสมอภาคใต้กฎหมายและการมีโอกาสต่าง ๆ ที่เท่าเทียมกัน การมีส่วนร่วมอย่างถ้วนหน้าและการใช้เสียงส่วนใหญ่ของปวงชนอย่างบริสุทธิ์ โปร่งใสและเป็นธรรมในการกำหนดอำนาจและผู้ใช้อำนาจรัฐทุกระดับ การสร้างภาวะนิติรัฐและธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง และการยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลโลกอย่างเคร่งครัด สิ่งใด ๆ ที่ขัดกับหลักการเหล่านี้ จะต้องถูกชะล้างออกไป เพื่อสร้างบ้านเมืองตามหลักการดังกล่าวนี้ให้จงได้ในอนาคตอันไม่ไกลนี้


หก คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะยังคงยึดหลักการต่อสู้ด้วยสันติวิธีและตามอุดมการณ์มดแดงล้มช้าง บนความชอบธรรมและได้เปรียบของปวงชนเจ้าของประเทศ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ และการอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายคนไทยทั่วโลกและมิตรประเทศ เพื่อล้มล้างอำนาจเผด็จการ และสถาปนาระบอบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเร็วที่สุด และจะร่วมมือกับทุกกลุ่มเพื่อบรรลุเป้าหมายข้างต้น จึงขอแจ้งให้พลเมืองไทยทุกท่าน และพลพรรคมดแดงล้มช้าง ให้ทราบเพื่อถือเป้าหมายและแนวทางดังกล่าว เป็นหลักในการปฏิบัติการกู้ชาติ ยึดอำนาจคืนจากโจรกบฏ แล้วสร้างรัฐไทยใหม่ เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคน สืบถึงลูกหลานไทยโดยทั่วหน้า


ประกาศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2559


คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง


อ. ชูพงศ์-สหายหมาน้อย 28 ก.ย. 2559 ตอน ความสามัคคีของเผด็จการไทย (ปิดท้ายโดย ดร. เพียงดิน รักไทย)

อ. ชูพงศ์-สหายหมาน้อย 28 ก.ย. 2559 ตอน ความสามัคคีของเผด็จการไทย (ปิดท้ายโดย ดร. เพียงดิน รักไทย)

https://youtu.be/DU0Ha91vKXI     

https://youtu.be/Fj6YOGUYBEA     

---------------------

***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg

***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8     

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt     

****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2     

และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com     

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน


-----------------------------

=================


คำแถลงการณ์คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ต่อผล "การลงประชามติ"


8 สิงหาคม 2559

______________________________________________________

ท่ามกลางการตีปีกดีใจของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์ในประเทศไทย ต่อผล "การลงประชามติลวงโลก" และความรู้สึกต่าง ๆ ของคนไทย ที่มีทั้งสะใจ(อย่างหลงผิด) งุนงง ตลึง เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ หรือคลั่งแค้น ฯลฯ ในนามของเครือข่ายมดแดงล้มช้าง ขอแถลงการณ์ถึงพลเมืองไทย และพลพรรคมดแดงทั่วโลก ซึ่งกระจายอยู่ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย 34 ประเทศทั่วโลก และ 24 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา ดังนี้


ละครฉากที่เรียกว่า "การลงประชามติ" นั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความพยายามในการฟอกขาวของโจรกบฏ เพราะต้องการหลบให้พ้นแรงบีบจากคนไทยด้วยกันเอง และนานาอารยประเทศ และเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ฝังรากลึกบนแผ่นดินไทยต่อไป บนความได้เปรียบที่จะเอา "ผลประชามติ" ไปอ้างความชอบธรรมและตบตาชาวโลกว่า คนไทยมีฉันทามติให้พวกมันอยู่ในอำนาจตามโรดแม็ปที่พวกมันนึกกันเอาเอง และจะยัดเยียดรายละเอียดที่เลวร้ายอีกมากมายให้ระบอบเป็นเผด็จการอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยไม่ใส่ใจต่อความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นแก่ประชาชนและประเทศไทยอย่างสาหัสยิ่งกว่าที่ผ่านมา และเพื่อความชัดเจนของเป้าหมายและทิศทางการต่อสู้ของปวงชนชาวไทย ที่ใฝ่เสรีประชาธิปไตย คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จึงขอประกาศจุดยืนดังนี้


หนึ่ง คสช. ที่ได้ปล้นอำนาจจากปวงชนชาวไทย ไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ยังมีฐานะกบฏ ที่ทำผิดประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา ต้องมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และการนิรโทษกรรมตนเองของพวกเขา ย่อมเป็นโมฆะ และกรรมของพวกเขาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตต่อจากนี้ จะต้องถูกนำเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลประชาชนทันที เมื่อประชาชนชนะ ได้อำนาจคืนแล้ว


สอง เครือข่ายอำนาจเผด็จการทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับ คสช. ย่อมมีโทษในฐานะก่อการร่วม และมีโทษที่ต้องถูกสะสางโดยทั่วหน้า ตามลำดับชั้นความผิดของพวกเขาทั้งมวล


สาม ผลการลงประชามติลวงโลกครั้ง นี้ รวมทั้งกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง และพันธสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่ คสช. ปล้นจากปวงชนชาวไทยไปนั้น ไม่ว่าจะเกี่ยวด้วยกิจการภายใน และเกี่ยวข้องกับนานาประเทศ ให้ถือเป็นโมฆะ และปวงชนชาวไทย ไม่จำเป็นต้องยอมรับพันธะใด ๆ และเราจะประกาศให้นานาชาติรับรู้จุดยืนตรงนี้อย่างเข้มข้นต่อไป


สี่ เราจะเริ่มต้นการบอยคอตต์ต่าง ๆ ในทุกทางที่ทำได้ ในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศ ที่ปฏิเสธการคงอยู่และการปล้นใช้อำนาจของพวกเรา เริ่มตั้งแต่ระดับเบาไปถึงหนัก และจะต้องไม่ให้เผด็จการสามารถฟอกตัวผ่านการเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญโจรกบฏนี้ได้ นั่นแปลว่า คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะวางเป้าหมายขับไล่เผด็จการอย่างจริงจัง นับจากบัดนี้เป็นต้นไป


ห้า การต่อสู้ของคณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ไม่ใช่การวางเป้าล้มตัวบุคคล หรือมุ่งแค่การล้มเจ้า แต่เราจะล้มล้างสิ่งเลวร้ายทั้งปวงในระบอบการปกครองแบบเผด็จการนี้ แล้วสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กล่าวคือ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนชาวไทย ให้เสรีภาพอันบริบูรณ์แก่ปวงชน ให้ปวงชนอยู่บนความเสมอภาคใต้กฎหมายและการมีโอกาสต่าง ๆ ที่เท่าเทียมกัน การมีส่วนร่วมอย่างถ้วนหน้าและการใช้เสียงส่วนใหญ่ของปวงชนอย่างบริสุทธิ์ โปร่งใสและเป็นธรรมในการกำหนดอำนาจและผู้ใช้อำนาจรัฐทุกระดับ การสร้างภาวะนิติรัฐและธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง และการยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลโลกอย่างเคร่งครัด สิ่งใด ๆ ที่ขัดกับหลักการเหล่านี้ จะต้องถูกชะล้างออกไป เพื่อสร้างบ้านเมืองตามหลักการดังกล่าวนี้ให้จงได้ในอนาคตอันไม่ไกลนี้


หก คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะยังคงยึดหลักการต่อสู้ด้วยสันติวิธีและตามอุดมการณ์มดแดงล้มช้าง บนความชอบธรรมและได้เปรียบของปวงชนเจ้าของประเทศ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ และการอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายคนไทยทั่วโลกและมิตรประเทศ เพื่อล้มล้างอำนาจเผด็จการ และสถาปนาระบอบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเร็วที่สุด และจะร่วมมือกับทุกกลุ่มเพื่อบรรลุเป้าหมายข้างต้น จึงขอแจ้งให้พลเมืองไทยทุกท่าน และพลพรรคมดแดงล้มช้าง ให้ทราบเพื่อถือเป้าหมายและแนวทางดังกล่าว เป็นหลักในการปฏิบัติการกู้ชาติ ยึดอำนาจคืนจากโจรกบฏ แล้วสร้างรัฐไทยใหม่ เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคน สืบถึงลูกหลานไทยโดยทั่วหน้า


ประกาศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2559


คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง


คำแถลงการณ์คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ต่อผล “การลงประชามติ” และจุดยืนของปวงชน

คำแถลงการณ์คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ต่อผล "การลงประชามติ"


8 สิงหาคม 2559

______________________________________________________


ท่ามกลางการตีปีกดีใจของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์ในประเทศไทย ต่อผล "การลงประชามติลวงโลก" และความรู้สึกต่าง ๆ ของคนไทย ที่มีทั้งสะใจ(อย่างหลงผิด) งุนงง ตลึง เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ หรือคลั่งแค้น ฯลฯ ในนามของเครือข่ายมดแดงล้มช้าง ขอแถลงการณ์ถึงพลเมืองไทย และพลพรรคมดแดงทั่วโลก ซึ่งกระจายอยู่ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย 34 ประเทศทั่วโลก และ 24 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา ดังนี้


ละครฉากที่เรียกว่า "การลงประชามติ" นั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความพยายามในการฟอกขาวของโจรกบฏ เพราะต้องการหลบให้พ้นแรงบีบจากคนไทยด้วยกันเอง และนานาอารยประเทศ และเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ฝังรากลึกบนแผ่นดินไทยต่อไป บนความได้เปรียบที่จะเอา "ผลประชามติ" ไปอ้างความชอบธรรมและตบตาชาวโลกว่า คนไทยมีฉันทามติให้พวกมันอยู่ในอำนาจตามโรดแม็ปที่พวกมันนึกกันเอาเอง และจะยัดเยียดรายละเอียดที่เลวร้ายอีกมากมายให้ระบอบเป็นเผด็จการอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยไม่ใส่ใจต่อความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นแก่ประชาชนและประเทศไทยอย่างสาหัสยิ่งกว่าที่ผ่านมา และเพื่อความชัดเจนของเป้าหมายและทิศทางการต่อสู้ของปวงชนชาวไทย ที่ใฝ่เสรีประชาธิปไตย คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จึงขอประกาศจุดยืนดังนี้


หนึ่ง คสช. ที่ได้ปล้นอำนาจจากปวงชนชาวไทย ไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ยังมีฐานะกบฏ ที่ทำผิดประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา ต้องมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และการนิรโทษกรรมตนเองของพวกเขา ย่อมเป็นโมฆะ และกรรมของพวกเขาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตต่อจากนี้ จะต้องถูกนำเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลประชาชนทันที เมื่อประชาชนชนะ ได้อำนาจคืนแล้ว


สอง เครือข่ายอำนาจเผด็จการทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับ คสช. ย่อมมีโทษในฐานะก่อการร่วม และมีโทษที่ต้องถูกสะสางโดยทั่วหน้า ตามลำดับชั้นความผิดของพวกเขาทั้งมวล


สาม ผลการลงประชามติลวงโลกครั้ง นี้ รวมทั้งกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง และพันธสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่ คสช. ปล้นจากปวงชนชาวไทยไปนั้น ไม่ว่าจะเกี่ยวด้วยกิจการภายใน และเกี่ยวข้องกับนานาประเทศ ให้ถือเป็นโมฆะ และปวงชนชาวไทย ไม่จำเป็นต้องยอมรับพันธะใด ๆ และเราจะประกาศให้นานาชาติรับรู้จุดยืนตรงนี้อย่างเข้มข้นต่อไป


สี่ เราจะเริ่มต้นการบอยคอตต์ต่าง ๆ ในทุกทางที่ทำได้ ในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศ ที่ปฏิเสธการคงอยู่และการปล้นใช้อำนาจของพวกเรา เริ่มตั้งแต่ระดับเบาไปถึงหนัก และจะต้องไม่ให้เผด็จการสามารถฟอกตัวผ่านการเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญโจรกบฏนี้ได้ นั่นแปลว่า คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะวางเป้าหมายขับไล่เผด็จการอย่างจริงจัง นับจากบัดนี้เป็นต้นไป


ห้า การต่อสู้ของคณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ไม่ใช่การวางเป้าล้มตัวบุคคล หรือมุ่งแค่การล้มเจ้า แต่เราจะล้มล้างสิ่งเลวร้ายทั้งปวงในระบอบการปกครองแบบเผด็จการนี้ แล้วสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กล่าวคือ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนชาวไทย ให้เสรีภาพอันบริบูรณ์แก่ปวงชน ให้ปวงชนอยู่บนความเสมอภาคใต้กฎหมายและการมีโอกาสต่าง ๆ ที่เท่าเทียมกัน การมีส่วนร่วมอย่างถ้วนหน้าและการใช้เสียงส่วนใหญ่ของปวงชนอย่างบริสุทธิ์ โปร่งใสและเป็นธรรมในการกำหนดอำนาจและผู้ใช้อำนาจรัฐทุกระดับ การสร้างภาวะนิติรัฐและธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง และการยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลโลกอย่างเคร่งครัด สิ่งใด ๆ ที่ขัดกับหลักการเหล่านี้ จะต้องถูกชะล้างออกไป เพื่อสร้างบ้านเมืองตามหลักการดังกล่าวนี้ให้จงได้ในอนาคตอันไม่ไกลนี้


หก คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะยังคงยึดหลักการต่อสู้ด้วยสันติวิธีและตามอุดมการณ์มดแดงล้มช้าง บนความชอบธรรมและได้เปรียบของปวงชนเจ้าของประเทศ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ และการอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายคนไทยทั่วโลกและมิตรประเทศ เพื่อล้มล้างอำนาจเผด็จการ และสถาปนาระบอบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเร็วที่สุด และจะร่วมมือกับทุกกลุ่มเพื่อบรรลุเป้าหมายข้างต้น จึงขอแจ้งให้พลเมืองไทยทุกท่าน และพลพรรคมดแดงล้มช้าง ให้ทราบเพื่อถือเป้าหมายและแนวทางดังกล่าว เป็นหลักในการปฏิบัติการกู้ชาติ ยึดอำนาจคืนจากโจรกบฏ แล้วสร้างรัฐไทยใหม่ เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคน สืบถึงลูกหลานไทยโดยทั่วหน้า


ประกาศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2559


คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง


คำแถลงการณ์คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ต่อผล “การลงประชามติ” และจุดยืนของปวงชน

คำแถลงการณ์คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ต่อผล "การลงประชามติ"


8 สิงหาคม 2559

______________________________________________________


ท่ามกลางการตีปีกดีใจของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์ในประเทศไทย ต่อผล "การลงประชามติลวงโลก" และความรู้สึกต่าง ๆ ของคนไทย ที่มีทั้งสะใจ(อย่างหลงผิด) งุนงง ตลึง เหนื่อยหน่าย ท้อแท้ หรือคลั่งแค้น ฯลฯ ในนามของเครือข่ายมดแดงล้มช้าง ขอแถลงการณ์ถึงพลเมืองไทย และพลพรรคมดแดงทั่วโลก ซึ่งกระจายอยู่ใน 77 จังหวัด ทั่วประเทศไทย 34 ประเทศทั่วโลก และ 24 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา ดังนี้


ละครฉากที่เรียกว่า "การลงประชามติ" นั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความพยายามในการฟอกขาวของโจรกบฏ เพราะต้องการหลบให้พ้นแรงบีบจากคนไทยด้วยกันเอง และนานาอารยประเทศ และเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการที่ฝังรากลึกบนแผ่นดินไทยต่อไป บนความได้เปรียบที่จะเอา "ผลประชามติ" ไปอ้างความชอบธรรมและตบตาชาวโลกว่า คนไทยมีฉันทามติให้พวกมันอยู่ในอำนาจตามโรดแม็ปที่พวกมันนึกกันเอาเอง และจะยัดเยียดรายละเอียดที่เลวร้ายอีกมากมายให้ระบอบเป็นเผด็จการอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยไม่ใส่ใจต่อความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นแก่ประชาชนและประเทศไทยอย่างสาหัสยิ่งกว่าที่ผ่านมา และเพื่อความชัดเจนของเป้าหมายและทิศทางการต่อสู้ของปวงชนชาวไทย ที่ใฝ่เสรีประชาธิปไตย คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จึงขอประกาศจุดยืนดังนี้


หนึ่ง คสช. ที่ได้ปล้นอำนาจจากปวงชนชาวไทย ไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ยังมีฐานะกบฏ ที่ทำผิดประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา ต้องมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต และการนิรโทษกรรมตนเองของพวกเขา ย่อมเป็นโมฆะ และกรรมของพวกเขาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตต่อจากนี้ จะต้องถูกนำเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลประชาชนทันที เมื่อประชาชนชนะ ได้อำนาจคืนแล้ว


สอง เครือข่ายอำนาจเผด็จการทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ที่ได้ให้ความร่วมมือกับ คสช. ย่อมมีโทษในฐานะก่อการร่วม และมีโทษที่ต้องถูกสะสางโดยทั่วหน้า ตามลำดับชั้นความผิดของพวกเขาทั้งมวล


สาม ผลการลงประชามติลวงโลกครั้ง นี้ รวมทั้งกฎหมาย ข้อบังคับ คำสั่ง และพันธสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่ คสช. ปล้นจากปวงชนชาวไทยไปนั้น ไม่ว่าจะเกี่ยวด้วยกิจการภายใน และเกี่ยวข้องกับนานาประเทศ ให้ถือเป็นโมฆะ และปวงชนชาวไทย ไม่จำเป็นต้องยอมรับพันธะใด ๆ และเราจะประกาศให้นานาชาติรับรู้จุดยืนตรงนี้อย่างเข้มข้นต่อไป


สี่ เราจะเริ่มต้นการบอยคอตต์ต่าง ๆ ในทุกทางที่ทำได้ ในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศ ที่ปฏิเสธการคงอยู่และการปล้นใช้อำนาจของพวกเรา เริ่มตั้งแต่ระดับเบาไปถึงหนัก และจะต้องไม่ให้เผด็จการสามารถฟอกตัวผ่านการเลือกตั้งใต้รัฐธรรมนูญโจรกบฏนี้ได้ นั่นแปลว่า คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะวางเป้าหมายขับไล่เผด็จการอย่างจริงจัง นับจากบัดนี้เป็นต้นไป


ห้า การต่อสู้ของคณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง ไม่ใช่การวางเป้าล้มตัวบุคคล หรือมุ่งแค่การล้มเจ้า แต่เราจะล้มล้างสิ่งเลวร้ายทั้งปวงในระบอบการปกครองแบบเผด็จการนี้ แล้วสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง กล่าวคือ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนชาวไทย ให้เสรีภาพอันบริบูรณ์แก่ปวงชน ให้ปวงชนอยู่บนความเสมอภาคใต้กฎหมายและการมีโอกาสต่าง ๆ ที่เท่าเทียมกัน การมีส่วนร่วมอย่างถ้วนหน้าและการใช้เสียงส่วนใหญ่ของปวงชนอย่างบริสุทธิ์ โปร่งใสและเป็นธรรมในการกำหนดอำนาจและผู้ใช้อำนาจรัฐทุกระดับ การสร้างภาวะนิติรัฐและธรรมาภิบาลอย่างจริงจัง และการยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักสากลโลกอย่างเคร่งครัด สิ่งใด ๆ ที่ขัดกับหลักการเหล่านี้ จะต้องถูกชะล้างออกไป เพื่อสร้างบ้านเมืองตามหลักการดังกล่าวนี้ให้จงได้ในอนาคตอันไม่ไกลนี้


หก คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง จะยังคงยึดหลักการต่อสู้ด้วยสันติวิธีและตามอุดมการณ์มดแดงล้มช้าง บนความชอบธรรมและได้เปรียบของปวงชนเจ้าของประเทศ ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ และการอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายคนไทยทั่วโลกและมิตรประเทศ เพื่อล้มล้างอำนาจเผด็จการ และสถาปนาระบอบการปกครองแบบเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริง โดยเร็วที่สุด และจะร่วมมือกับทุกกลุ่มเพื่อบรรลุเป้าหมายข้างต้น จึงขอแจ้งให้พลเมืองไทยทุกท่าน และพลพรรคมดแดงล้มช้าง ให้ทราบเพื่อถือเป้าหมายและแนวทางดังกล่าว เป็นหลักในการปฏิบัติการกู้ชาติ ยึดอำนาจคืนจากโจรกบฏ แล้วสร้างรัฐไทยใหม่ เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกคน สืบถึงลูกหลานไทยโดยทั่วหน้า


ประกาศ ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2559


คณะราษฎรเสรีไทยมดแดงล้มช้าง


Sunday, September 25, 2016

สงสาร นายกยิ่งลักษณ์...

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดด้วยเนื้อความที่ยาวผิดปกติทั้งนี้เพราะหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจและนั่งแทนนายกรัฐมนตรี ดูเหมือนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะอยู่เงียบๆไม่พูด แต่ออกไปโพสต์ ณ บริเวณนั้น ลงเฟซบุ๊ก ณ บริเวณนี้หรือหากจะแสดงความคิดเห็นใดๆ มักแสดงความเห็นผ่านทางออนไลน์ส่วนการให้สัมภาษณ์นั้น น้อยครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะออกมาพูดเช่นเมื่อท้ายสัปดาห์ที่แล้วน้อยครั้งที่จะพูดอย่างมีเนื้อมีหนังโดยเฉพาะ การเปิดใจถึงกรณี ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดี "ทำให้น้ำท่วมใหญ่" เมื่อปี 2554น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์สรุปความได้ว่า ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ เป็นการกล่าวหาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตผู้นำฝ่ายค้านไม่เข้าใจทำไม ป.ป.ช.ถึงทำเช่นนั้น เพราะตอนเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น้ำได้ท่วมอยู่แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมจึงโดนอยู่คนเดียวนั่งอยู่ดีๆ ก็ต้องมารับเรื่องหมด ตอนนี้มีถึง 15 คดีแล้ว พอส่งทนายไปคัดค้านต่อ ป.ป.ช. ก็ถูกปฏิเสธคำร้องทุกครั้งอยากร้องผ่านสื่อมวลชนและสาธารณชน อยากให้ปฏิบัติเท่าเทียมกับคนอื่นๆน.ส.ยิ่งลักษณ์ชี้ว่า คดีตัวเองถูกร้องนั้นมีการดำเนินการเร็วมาก รับทุกเรื่อง พิจารณาทุกเรื่อง แต่คดีของผู้อื่นไม่คืบหน้าเลยนั่นเป็นข้อแคลงใจแรกที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตั้งข้อสังเกต ยังมีข้อแคลงใจถึงเรื่องการใช้ ม.44 ตามมาเรื่องของมาตรา 44 ให้อำนาจกรมบังคับคดีในการยึดทรัพย์จากการใช้คำสั่งทางปกครองสั่งชดเชยค่าเสียหายในการจำนำข้าวนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า สิ่งแรกที่มองคือผลของคดียังไม่รู้ แต่ออกคำสั่งมาตรา 44 มอบอำนาจให้กรมบังคับคดีไว้แล้วเหมือนเป็นการชี้นำคดี ถือเป็นความไม่ยุติธรรมถ้ามั่นใจว่ากระบวนการทั้งหมดโปร่งใสและเป็นธรรม…ทำไมต้องใช้มาตรา 44 ด้วยถ้ามั่นใจว่าข้าราชการทำถูกก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องวันเดียวกัน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.เป็นการยื่นครั้งที่ 8 เพื่อคัดค้านการแต่งตั้ง น.ส.สุภา เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนายนรวิชญ์ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดนร้องทั้งหมด 15 คดี ในจำนวนนี้ 6 คดี มี น.ส.สุภาเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯเช่น กรณีถูกกล่าวหาแทรกแซงหรือเอื้อบุคคลในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กรณีกล่าวหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ กรณีถูกกล่าวหาเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ชุมนุมทางการเมืองมี 1 คดี ที่มี นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่พ้นตำแหน่งไปแล้วแต่กลับมาเป็นอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนายนรวิชญ์ระบุสาเหตุที่คัดค้านการแต่งตั้งประธานอนุกรรมการฯดังกล่าวว่า น.ส.สุภา เคยเป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว และมีเหตุให้ข้อมูลการปิดบัญชีหลุดออกไปถึงมือฝ่ายค้าน และยังเคยไปเป็นพยานเบิกความในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวนายนรวิชญ์ชี้ว่า น.ส.สุภา ถือเป็นคู่ขัดแย้งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทนายความ เกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อขึ้นกล่าวในเวทียูเอ็นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ในหัวข้อ "เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แรงผลักดันสากลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเรา"พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ปี 2559 เป็นปีที่ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติครบ 70 ปี และเป็นปีแรกที่เริ่มต้นนำวาระสำคัญของโลกสู่การปฏิบัติรัฐบาลไทยเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากสันติภาพและความมั่นคง หรือหากสิทธิของประชาชนถูกละเมิดและไม่ได้รับการยอมรับพล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงสถานการณ์ภายในประเทศว่า รัฐบาลได้วางรากฐานเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ประชาชนได้ใช้สิทธิลงประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญตามวิถีทางประชาธิปไตยแล้วขณะนี้กำลังพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆ ให้แล้วเสร็จ นำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปตามโรดแมปได้ในปลายปี 2560การออกเสียงประชามติสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย โดยตระหนักถึงเสียงสะท้อนจากประชาคมระหว่างประเทศรัฐบาลเข้ามาเพื่อดูแลสถานการณ์ ในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและความมั่นคงและเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติสุขแล้ว รัฐบาลก็ผ่อนคลายมาตรการชั่วคราวที่ไม่จำเป็น เช่น การประกาศยกเลิกการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร เป็นต้นน่าสังเกตว่า ข่าวสารคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ กับข่าวสารคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกิดขึ้นในวันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในเวทียูเอ็นยืนยันการให้สิทธิเสรีภาพประชาชนขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องขอความยุติธรรมผ่านสื่อมวลชนข่าวสารที่ปรากฏออกไปสู่ภายนอก จึงเป็นข่าวสารที่ "สวนทางกัน"และกลายเป็นความท้าทายที่ต้องจับตาเฝ้ามองกันต่อไปทั้งการดำเนินการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทั้งการดำเนินการขององค์กรอิสระต้องเฝ้าจับตามองว่า ยึดติดเกาะเกี่ยวกับ "นิติรัฐ-นิติธรรม"มากน้อยเพียงใดยังต้องเฝ้าติดตามกระบวนการทางยุติธรรมการใช้มาตรา 44 ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นเพราะข้าราชการไม่มั่นใจไม่มั่นใจว่าจะถูกผู้ถูกร้องฟ้องกลับในภายหลังจึงต้องใช้มาตรา 44 เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดแก่ฝ่ายราชการ …ใช่หรือไม่หมายความว่า หากไม่ใช้มาตรา 44 คุ้มครอง ข้อเรียกร้องที่รัฐกระทำต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวก อาจจะผิดก็ได้ …ใช่หรือเปล่ารวมไปถึงการใช้ "คู่ขัดแย้ง" ตามทรรศนะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทนาย มาเป็นประธานคณะกรรมการไต่สวนกรณีเช่นนี้ ถูกต้องตาม "นิติรัฐ-นิติธรรม" แค่ไหนทุกอย่างที่ปรากฏ แพร่กระจายไปทั่วโลกเป้าหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินทางไปยูเอ็นก็เพื่อพูดให้โลกฟังเป้าหมาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ออกมาให้ข่าวต้องคดีทำน้ำท่วม ก็เพื่อให้โลกได้ยินฟ้องให้โลกได้รู้ว่ารัฐบาลไทย "ทำ"ตรงกับ "พูด" หรือไม่ผลจากเสียงที่ส่งออกไปจะเป็นเช่นไร ปฏิกิริยาต่างๆ คงจะปรากฏให้เห็นได้ในเวลาอันใกล้

สงสาร นายกยิ่งลักษณ์...

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาให้สัมภาษณ์ล่าสุดด้วยเนื้อความที่ยาวผิดปกติทั้งนี้เพราะหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจและนั่งแทนนายกรัฐมนตรี ดูเหมือนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะอยู่เงียบๆไม่พูด แต่ออกไปโพสต์ ณ บริเวณนั้น ลงเฟซบุ๊ก ณ บริเวณนี้หรือหากจะแสดงความคิดเห็นใดๆ มักแสดงความเห็นผ่านทางออนไลน์ส่วนการให้สัมภาษณ์นั้น น้อยครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะออกมาพูดเช่นเมื่อท้ายสัปดาห์ที่แล้วน้อยครั้งที่จะพูดอย่างมีเนื้อมีหนังโดยเฉพาะ การเปิดใจถึงกรณี ป.ป.ช.ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดี "ทำให้น้ำท่วมใหญ่" เมื่อปี 2554น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์สรุปความได้ว่า ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ เป็นการกล่าวหาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตผู้นำฝ่ายค้านไม่เข้าใจทำไม ป.ป.ช.ถึงทำเช่นนั้น เพราะตอนเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น้ำได้ท่วมอยู่แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมจึงโดนอยู่คนเดียวนั่งอยู่ดีๆ ก็ต้องมารับเรื่องหมด ตอนนี้มีถึง 15 คดีแล้ว พอส่งทนายไปคัดค้านต่อ ป.ป.ช. ก็ถูกปฏิเสธคำร้องทุกครั้งอยากร้องผ่านสื่อมวลชนและสาธารณชน อยากให้ปฏิบัติเท่าเทียมกับคนอื่นๆน.ส.ยิ่งลักษณ์ชี้ว่า คดีตัวเองถูกร้องนั้นมีการดำเนินการเร็วมาก รับทุกเรื่อง พิจารณาทุกเรื่อง แต่คดีของผู้อื่นไม่คืบหน้าเลยนั่นเป็นข้อแคลงใจแรกที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตั้งข้อสังเกต ยังมีข้อแคลงใจถึงเรื่องการใช้ ม.44 ตามมาเรื่องของมาตรา 44 ให้อำนาจกรมบังคับคดีในการยึดทรัพย์จากการใช้คำสั่งทางปกครองสั่งชดเชยค่าเสียหายในการจำนำข้าวนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า สิ่งแรกที่มองคือผลของคดียังไม่รู้ แต่ออกคำสั่งมาตรา 44 มอบอำนาจให้กรมบังคับคดีไว้แล้วเหมือนเป็นการชี้นำคดี ถือเป็นความไม่ยุติธรรมถ้ามั่นใจว่ากระบวนการทั้งหมดโปร่งใสและเป็นธรรม…ทำไมต้องใช้มาตรา 44 ด้วยถ้ามั่นใจว่าข้าราชการทำถูกก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องวันเดียวกัน นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.เป็นการยื่นครั้งที่ 8 เพื่อคัดค้านการแต่งตั้ง น.ส.สุภา เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนายนรวิชญ์ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดนร้องทั้งหมด 15 คดี ในจำนวนนี้ 6 คดี มี น.ส.สุภาเป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯเช่น กรณีถูกกล่าวหาแทรกแซงหรือเอื้อบุคคลในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ กรณีกล่าวหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ กรณีถูกกล่าวหาเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ชุมนุมทางการเมืองมี 1 คดี ที่มี นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่พ้นตำแหน่งไปแล้วแต่กลับมาเป็นอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนายนรวิชญ์ระบุสาเหตุที่คัดค้านการแต่งตั้งประธานอนุกรรมการฯดังกล่าวว่า น.ส.สุภา เคยเป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว และมีเหตุให้ข้อมูลการปิดบัญชีหลุดออกไปถึงมือฝ่ายค้าน และยังเคยไปเป็นพยานเบิกความในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวนายนรวิชญ์ชี้ว่า น.ส.สุภา ถือเป็นคู่ขัดแย้งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทนายความ เกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อขึ้นกล่าวในเวทียูเอ็นพล.อ.ประยุทธ์กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 71 ในหัวข้อ "เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน แรงผลักดันสากลเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของเรา"พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ปี 2559 เป็นปีที่ไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติครบ 70 ปี และเป็นปีแรกที่เริ่มต้นนำวาระสำคัญของโลกสู่การปฏิบัติรัฐบาลไทยเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากสันติภาพและความมั่นคง หรือหากสิทธิของประชาชนถูกละเมิดและไม่ได้รับการยอมรับพล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงสถานการณ์ภายในประเทศว่า รัฐบาลได้วางรากฐานเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ประชาชนได้ใช้สิทธิลงประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญตามวิถีทางประชาธิปไตยแล้วขณะนี้กำลังพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญต่างๆ ให้แล้วเสร็จ นำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปตามโรดแมปได้ในปลายปี 2560การออกเสียงประชามติสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะส่งเสริมกระบวนการประชาธิปไตย โดยตระหนักถึงเสียงสะท้อนจากประชาคมระหว่างประเทศรัฐบาลเข้ามาเพื่อดูแลสถานการณ์ ในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและความมั่นคงและเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติสุขแล้ว รัฐบาลก็ผ่อนคลายมาตรการชั่วคราวที่ไม่จำเป็น เช่น การประกาศยกเลิกการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร เป็นต้นน่าสังเกตว่า ข่าวสารคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ กับข่าวสารคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เกิดขึ้นในวันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในเวทียูเอ็นยืนยันการให้สิทธิเสรีภาพประชาชนขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร้องขอความยุติธรรมผ่านสื่อมวลชนข่าวสารที่ปรากฏออกไปสู่ภายนอก จึงเป็นข่าวสารที่ "สวนทางกัน"และกลายเป็นความท้าทายที่ต้องจับตาเฝ้ามองกันต่อไปทั้งการดำเนินการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทั้งการดำเนินการขององค์กรอิสระต้องเฝ้าจับตามองว่า ยึดติดเกาะเกี่ยวกับ "นิติรัฐ-นิติธรรม"มากน้อยเพียงใดยังต้องเฝ้าติดตามกระบวนการทางยุติธรรมการใช้มาตรา 44 ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว เป็นเพราะข้าราชการไม่มั่นใจไม่มั่นใจว่าจะถูกผู้ถูกร้องฟ้องกลับในภายหลังจึงต้องใช้มาตรา 44 เพื่อสร้างความมั่นใจให้เกิดแก่ฝ่ายราชการ …ใช่หรือไม่หมายความว่า หากไม่ใช้มาตรา 44 คุ้มครอง ข้อเรียกร้องที่รัฐกระทำต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวก อาจจะผิดก็ได้ …ใช่หรือเปล่ารวมไปถึงการใช้ "คู่ขัดแย้ง" ตามทรรศนะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และทนาย มาเป็นประธานคณะกรรมการไต่สวนกรณีเช่นนี้ ถูกต้องตาม "นิติรัฐ-นิติธรรม" แค่ไหนทุกอย่างที่ปรากฏ แพร่กระจายไปทั่วโลกเป้าหมายของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินทางไปยูเอ็นก็เพื่อพูดให้โลกฟังเป้าหมาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ออกมาให้ข่าวต้องคดีทำน้ำท่วม ก็เพื่อให้โลกได้ยินฟ้องให้โลกได้รู้ว่ารัฐบาลไทย "ทำ"ตรงกับ "พูด" หรือไม่ผลจากเสียงที่ส่งออกไปจะเป็นเช่นไร ปฏิกิริยาต่างๆ คงจะปรากฏให้เห็นได้ในเวลาอันใกล้

Saturday, September 24, 2016

กับดัก ที่ประเทศไทย ต้องแก้ ก่อนวอดวาย!

ใช่หรือไม่ลองพิจารณาดู

*สังคมไทยติดอยู่กับ 3 กับดักสำคัญ  คือในทางเศรษฐกิจ และการเมือง สังคมไทย 'ติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง' และ 'ติดกับดักประเทศกึ่งประชาธิปไตย' 

ในทางปัญญา สังคมไทย "ติดกับดัก วัฒนธรรมทางปัญญาระดับปานกลาง หรือ วัฒนธรรมทางปัญญาระดับพอเพียง หรือที่เรียกว่า วัฒนธรรมสังคมอับจนปัญญา"

*อับจนปัญญาอย่างไร*

1.อ่านหนังสือไม่เป็น-นศ.ไทยที่พบ อ่านหนังสือไม่เป็น skill นี้ไม่ได้ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง สังคมนี้ต้องการ skillแค่นี่?

2.สื่อมวลชน ทำหน้าที่แค่ตอบสนองตลาด ตอบสนองระบบทุนนิยม ยอมลดคุณภาพตัวเองลงมา จนเป็นสื่อ ที่ไม่มีอิทธิพลในสังคมการเมือง

3.มหา'ลัยไทย-มหา'ลัยที่จัดว่าดีที่สุดในไทย เป็นเพียง มหา'ลัยกลางๆในrankingระดับโลก มหา'ลัยส่วนใหญ่ในไทย ไม่ติดในสารบบโลก มหา'ลัย ไทย ตกต่ำ เพราะติดกับดัก ที่มัวแต่รับใช้อุดมการณ์ของรัฐราชการ

4.มนุษยศาสตร์ไทย เน้นผลิตซ้ำความรู้เดิม-เน้นสร้างองค์ความรู้ที่หลงตัวเอง-ไม่วิพากษ์วิจารณ์ความรู้เดิม-ไม่มีความสามารถในระดับหอคอยงาช้าง

5.อะไรคือความต่างระหว่าง 'หม่ำ จ๊กมก'/'@johnwinyu   อย่างแรกคือนักแสดงตลก อย่างหลังคือ นักแสดงตลกเสียดสีล้อเลียนอำนาจ

นักแสดงตลกของไทย ถนัดล้อเลียนคนอีสาน คนพิการ แต่ไม่ถนัดเสียดสีสังคม/ล้อเลียนอำนาจ มีสองคนที่เห็นบ่อยๆคือ @johnwinyu /โน้ต อุดม 

ในแง่นี้นักแสดงตลก ของไทย จึงไม่มีวัฒนธรรมการล้อเลียนอำนาจ ซึ่งเป็นสิ่งปกติในทั่วโลก ตลกไทยเจอขีดจำกัดของสังคม จึงทำให้พวกเขาแสดงได้แค่นี้ 

พวกเราฮือฮา กับการล้อเลียนของ โน้ต อุดม มาก เพราะนี่ไม่ใช่ของปกติในสังคมไทย 

6.เราไม่มีนิยายประวัติศาสตร์ดีๆ เพราะ ปวศ.ไทยศักดิ์สิทธิ์เกินไป  หรือมีแม่บทหลักแบบที่เรียกว่า ประวัติศาสตร์ราชาชาตินิยม กำกับอยู่ ครอบงำอยู่ ซึ่งทำลายจินตนาการของนักเขียนไทยไปจนหมดสิ้น 

7.ความเคร่งทางศาสนา-กระทั่ง นักกิจกรรมก็ถือหลักความเคร่งทางศาสนา ว่าตัวเองถูก คนอื่นผิด ไม่มีการประนีประนอมใดๆ ซึ่งเป็นรากฐานความขัดแย้งสำคัญในสังคมไทย

-----------------------------------
------------สรุปจบ-------------

1-สังคมอับจนปัญญา เป็นผลจากสังคมยึดถือระบบอุปถัมภ์ ยึดถือช่วงชั้น ยึดตัวบุคคล ถือหลักนิติรัฐแบบอุปถัมภ์ หรือที่เสน่ห์เรียก ราชูปถัมภ์

2-สังคมอับจนปัญญา เป็นผลจาก โครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจในสังคมนี้ ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย กระทั่งหลัง2475 

80 กว่าปีมานี้ขยับ แต่ไม่เปลี่ยน

สังคมอับจนปัญญา เป็นผลจาก การหวนคืนของ บรรดาทหารผู้เข้ามาครองอำนาจ ระบบการเมืองแบบอนุรักษ์มาเมื่อไหร่ ปัญญาของเราหดแคบลงทุกที

3-สังคมอับจนปัญญา เป็นผลจาก ลัทธิราชาชาตินิยม คณะราษฎร พยายามบ่อนเซาะ แต่พวกเขาทำไม่สำเร็จ 

การเปลี่ยนแปลงทางสังคม ไม่มีพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน ไม่มีทางลัด .. ทำใจให้พร้อมกับการสู้ยาวๆ

โลกเปลี่ยนแปลงได้ โลกเปลี่ยนแปลงเสมอ อาจดูพูดปลอบใจ แต่สังคมไทยเปลี่ยนในเชิงโครงสร้างอยู่ตลอดเวลา

เชื่อมั่นเถอะ ว่า มนุษย์ทุกคนอยากมีชีวิตที่ดี เพราะการมองโลกเช่นนี้ โลกจึงเปลี่ยน 

มองการเมืองระยะยาว ประเทศนี้เป็นประชาธิปไตยแน่ๆ
-------------------------------------
ประวัติศาสตร์จะบันทึกว่า พวกเขาเป็นผู้ขัดขวางการเปลี่ยนแปลง และพวกเราเป็นผู้ผลักให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทีละเล็กทีละน้อยอย่างคงเส้นคงวา

ตื่นเถิดพี่น้องไทยประเทศไทยเป็นของประชาชนทุกคน ประชาชนคือผู้ออกแบบ ผู้ใช้อำนาจเสียงส่วนใหญ่สั่งให้ผู้บริหารทำตามความต้องการของพวกเรา  ไม่ใช่ให้ใครมาบังคับให้ต้องทำตามหรือถูกจำกัดกรอบให้ต้องทำอยู่ในคุกคุมขังอยู่ในนั้นจากการออกแบบของผู้ใดให้เราเข้าใจผิดและต้องทำตามอีกต่อไป...

พ.สมิง จันทวโร