PPD's Official Website

Saturday, November 5, 2016

กระชากหน้ากาก ปอบเปรตดูดเลือดชาวนา

กระชากหน้ากาก ปอบเปรตดูดเลือดชาวนา
*******************************
__//นิ่มอนงค์

เมื่อเริ่มมีปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ สวนทางกับราคาข้าวถุงที่แพงขึ้น ชาวนาก็ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลทหาร... แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากการกล่าวหากล่าวโทษรัฐบาลก่อน และถูกแนะนำให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือพืชอื่นแทน
ชาวนาจึงหมดที่พึง หันมาพึ่งตนเองสีข้าวออกมาขายเอง 
แต่ไม่วายพบอุปสรรคจากรัฐบาลเผด็จการ เมื่อ
โฆษกไก่อ่อน นายพลห้องแอร์และปลัดกระทรวงพาณิชย์บอกว่าผิดกฏหมายขายตรงทำไม่ได้ ทำให้รัฐฯขาดรายได้ ภาษี และจะไม่ยั่งยืน สารพัดคำขู่

 แถมนายกฯหน้าโง่ก็บอกว่า เป็นเรื่องของโรงสี กับนักการเมืองกดราคารับซื้อ บางคนบอกให้เลิกปลูกข้าวแล้วไปขายปุ๋ย สารพัดคำพูดหาทางออกปัญญาอ่อน แก้ปัญหาไม่ได้ก็รีบโยนบาปไปให้ผู้อื่น รับแต่ชอบ ไม่รับผิด ทำงานแก้ตัวไปวันๆ

ต่อมานายกฯยิ่งลักษณ์ได้ไปพบชาวนาที่ภาคอิสาน และซื้อข้าวจากชาวนามาจำนวนหนึ่ง และประกาศจำหน่ายต่อให้ประชาชนผู้สนใจช่วยเหลือชาวนาในราคาที่ซื้อมา
พร้อมกันนี้ทางปั้มปตท. และมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต่างประกาศเปิดพื้นที่ให้ชาวนานำข้าวมาขายได้

เท่านั้นเอง
รัฐบาลควายจึงได้คิดว่ามีวิธีง่ายๆที่ จะช่วยชาวนา
รีบตาลีตาเหลือกสร้างภาพให้ทหารแต่งเครื่องแบบไปช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว และสั่งการให้ส่วนราชการที่มีความพร้อมเปิด
สถานที่อำนวยความสะดวกให้ชาวนานำข้าวมาจำหน่ายแก่ประชาชน...

วันนี้บรรดาเหล่าผีปอบ เปรต ผีกระสือ ผีดิบดูดเลือด รีบแสดงตนเป็นคนดีอยากช่วยเหลือชาวนา เพื่อโหนกระแส ว่าตนเองเห็นใจชาวนาเหลือเกิน แต่เบื้องหลังคนกลุ่มนี้คือ" นักบุญ ใจบาป" หากินบนคราบน้ำตา และหยาดเหงื่อของเพื่อนร่วมชาติ ทั้งที่เคยออกมาประท้วงให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวราคา 15,000 บาท/เกวียนในสมัยนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สารพัดข้ออ้าง เพื่อต้องการไม่ให้มีโครงการนี้ เพราะเหล่าบรรดาพ่อค้าเหล่านี้สูญเสียผลประโยชน์ที่ค้าขายแบบกึ่งผูกขาดมานาน พอสังคมเริ่มสงสัย และจับได้ ก็ทำตัวเนียนๆ ออกมาโหนชาวนา จะช่วยอย่าง นั้น อย่างนี้ แต่ถ้าหากจะช่วยจริงๆ แค่รื้อฟื้นโครงการรับจำนำข้าวมาใช้ก็จบ...!

#กล้าไหม ? 
#ซีพีออล

กระชากหน้ากาก ปอบเปรตดูดเลือดชาวนา

กระชากหน้ากาก ปอบเปรตดูดเลือดชาวนา
*******************************
__//นิ่มอนงค์

เมื่อเริ่มมีปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ สวนทางกับราคาข้าวถุงที่แพงขึ้น ชาวนาก็ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลทหาร... แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากการกล่าวหากล่าวโทษรัฐบาลก่อน และถูกแนะนำให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หรือพืชอื่นแทน
ชาวนาจึงหมดที่พึง หันมาพึ่งตนเองสีข้าวออกมาขายเอง 
แต่ไม่วายพบอุปสรรคจากรัฐบาลเผด็จการ เมื่อ
โฆษกไก่อ่อน นายพลห้องแอร์และปลัดกระทรวงพาณิชย์บอกว่าผิดกฏหมายขายตรงทำไม่ได้ ทำให้รัฐฯขาดรายได้ ภาษี และจะไม่ยั่งยืน สารพัดคำขู่

 แถมนายกฯหน้าโง่ก็บอกว่า เป็นเรื่องของโรงสี กับนักการเมืองกดราคารับซื้อ บางคนบอกให้เลิกปลูกข้าวแล้วไปขายปุ๋ย สารพัดคำพูดหาทางออกปัญญาอ่อน แก้ปัญหาไม่ได้ก็รีบโยนบาปไปให้ผู้อื่น รับแต่ชอบ ไม่รับผิด ทำงานแก้ตัวไปวันๆ

ต่อมานายกฯยิ่งลักษณ์ได้ไปพบชาวนาที่ภาคอิสาน และซื้อข้าวจากชาวนามาจำนวนหนึ่ง และประกาศจำหน่ายต่อให้ประชาชนผู้สนใจช่วยเหลือชาวนาในราคาที่ซื้อมา
พร้อมกันนี้ทางปั้มปตท. และมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต่างประกาศเปิดพื้นที่ให้ชาวนานำข้าวมาขายได้

เท่านั้นเอง
รัฐบาลควายจึงได้คิดว่ามีวิธีง่ายๆที่ จะช่วยชาวนา
รีบตาลีตาเหลือกสร้างภาพให้ทหารแต่งเครื่องแบบไปช่วยชาวนาเกี่ยวข้าว และสั่งการให้ส่วนราชการที่มีความพร้อมเปิด
สถานที่อำนวยความสะดวกให้ชาวนานำข้าวมาจำหน่ายแก่ประชาชน...

วันนี้บรรดาเหล่าผีปอบ เปรต ผีกระสือ ผีดิบดูดเลือด รีบแสดงตนเป็นคนดีอยากช่วยเหลือชาวนา เพื่อโหนกระแส ว่าตนเองเห็นใจชาวนาเหลือเกิน แต่เบื้องหลังคนกลุ่มนี้คือ" นักบุญ ใจบาป" หากินบนคราบน้ำตา และหยาดเหงื่อของเพื่อนร่วมชาติ ทั้งที่เคยออกมาประท้วงให้ยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวราคา 15,000 บาท/เกวียนในสมัยนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สารพัดข้ออ้าง เพื่อต้องการไม่ให้มีโครงการนี้ เพราะเหล่าบรรดาพ่อค้าเหล่านี้สูญเสียผลประโยชน์ที่ค้าขายแบบกึ่งผูกขาดมานาน พอสังคมเริ่มสงสัย และจับได้ ก็ทำตัวเนียนๆ ออกมาโหนชาวนา จะช่วยอย่าง นั้น อย่างนี้ แต่ถ้าหากจะช่วยจริงๆ แค่รื้อฟื้นโครงการรับจำนำข้าวมาใช้ก็จบ...!

#กล้าไหม ? 
#ซีพีออล

ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...ดร. เพียงดิน เขียนไว้เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2553

Wednesday, November 3, 2010
ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...

หากจะมองภาพการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรักษ์เจ้า หรือฝ่ายศักดินานิยม กับฝ่ายประชาธิปไตยในระยะปีที่สี่หลังการรัฐประหาร 49 มาจนถึงเวลานี้ ต้องถือว่ายากจะบอกว่าใครจะชนะในระยะใกล้นี้ ยังก้ำกึ่งและมีสิทธิออกได้หลายหน้าเสียด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะต้องชนะในระยะยาวในที่สุด แต่จะเพราะเทพอสูรเป๋และภาคียอมโยนผ้าขอแพ้ หรือจะชนะแตกแบบเลือดกลบหน้าสู้ต่อไม่ได้ หรือจะโดนประชาชนน็อค  ก็ต้องเกิดโดยประชาชนชนะแน่ ๆ  แต่ในระยะนี้ ต้องย้ำว่า ยังกำ้กึ่งครับ

ที่ว่าก้ำกึ่งนั้น แปลว่า คณะรักษ์เจ้าเคล้าศักดินานิยม มีโอกาสจะสามารถเตะถ่วงและยึดอำนาจได้อีกหลายปี ก็คือชนะในยกต่อไปนั่นเอง  และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าเราอาจจะต้องทรมาณเหมือนดูละครน้ำเน่าบ้านทรายทองอีกซักสองสามตอนนะครับ  ที่เห็นชัด ๆ เราก็เห็นการจับแกนนำเราขังคุก ไล่ต้อนแกนนำไม่ให้โงหัว พยายามสยบและสลายทุกกลุ่มที่จะคิดการต่อต้านรัฐบาล เข้าครอบครองสื่อทุกแขนง ป้อนข้อมูลเน่าให้กับระบบต่าง ๆ ทุกระบบ ใช้ตีนมือระบอบราชการ (กิจการของพระราชา) ฯลฯ  ภาพที่เห็นเวลานี้ จึงเหมือนว่า พวกเทพอสูรและภาคีต่างย่างสามขุมไล่ต้อนฝ่ายประชาธิปไตย แถมมีกรรมการคอยจับตีนมือฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อหวังให้อีกฝ่ายต่อย ๆ เตะเอา ... ภาพที่เห็นปลายยกที่ผ่านมาและในอีกยกต่อไปที่กำลังจะเริ่ม ต้องถือว่าน่าอึดอัด เพราะ ฝ่ายประชาชน ยังคงต้องถอยและแย็ปหมัดเพื่อป้องกันตัวเองไปก่อน

สิ่งที่ผมเกรงไว้ว่าจะพัฒนาต่อไปจากนี้ ก็คือภาพจำลองสองภาพครับ

หนึ่ง หากมีการเลือกตั้งปีหน้านี้ เราจะแพ้อย่างราบคาบ แล้วพวกศักดินาจะอ้างความชอบธรรม และฝ่ายประชาธิปไตยจะแดงกระจัดกระจาย แล้วก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่จะถูกเขาจัดการอย่างถูกกฎหมาย ยิ่งใช้ความรุนแรง ก็จะยิ่งโดนเขายุให้ฆ่าฟันล้างล่า จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง หรือสงครามกองโจร ที่ต้องอาศัยเวลาและการสูญเสียมหาศาลก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้ 

และสอง หากเสื้อแดงแกร่งเกินต้าน และพวกแก๊งค์เทพอสูรรู้ว่าเลือกตั้งแล้วจะแพ้ พวกเขาจะหน้าด้านยืดอายุรัฐบาล หรือหาโอกาสตั้งรัฐบาลอวยเจ้าและเฝ้าล่าแดงให้จงได้  จากนั้น ก็จะดำเนินการเหมือนที่กำลังทำอยู่ แต่จะยิ่งเพิ่มอัตราความโหด  ประชาชนจะตายในหลักพันหลักหมื่น ไม่ด้อยกว่าเหตุสมมุติข้างบน

การคงอยู่ของไดโนเสาร์เหล่าตอแหลศักดินานั้น ไม่มีทางที่จะตั้งอยู่บนความรุ่งเรืองและสุขสบายของประชาชน เพราะพวกนี้ กำเนิดก็ผิดธรรมชาติ อยู่ก็ผิดศีลธรรม และปล่อยไว้ก็เป็นพิษแบบโรคติดต่อร้ายแรง   ดังนั้น ไม่มีทางเลือกหรอกครับ หากประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์สองอย่างข้างบน เราจะสูญเสียมหาศาล  ดังนั้น หากอยากกู้บ้านแปงเมือง ก็ต้องลุกมาปฎิวัติ   หากอยากให้บ้านเมืองลงเอยด้วยดี เราก็ต้องจัดการป้องกันและต่อสู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสองสิ่งนี้

ผมฟังคุณชูพงศ์และคุณแอนตี้มานาน เห็นด้วยและชื่นชมกับทั้งสองท่านอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะในแง่การชี้เป้าว่า กษัตริย์คือตัวปัญหาสำคัญของบ้านเมือง และเชื่อตามว่า กษัตริย์และกลุ่มผลประโยชน์รอบวัง คือก๊กที่ชิงอำนาจจากประชาชนไปใช้ปกป้องและแสวงหาผลประโยชน์ร่วมอย่างเป็นระบบ เป็นแก๊งค์ และเป็นภัยยิ่งต่ออนาคตของประเทศชาติ  แต่ผมไม่เห็นด้วยว่าเราควรจะทิ้งแนวรบทางรัฐสภาเสียสิ้นเชิง  เพราะยิ่งเราปล่อยให้พวกอภิสิทธิชนตอแหลอยู่ในอำนาจ  ความเสี่ยงของการเกิดภาพจำลองทั้งสองภาพข้างบนจะยิ่งเพิ่มขึ้น และประชาชนจะชนะยากขึ้น และสูญเสียมากขึ้น

การจะสู้และจะก้าวไปสู่การปฎิวัติประชาชนนั้น จะต้องทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งผมได้เน้นไว้หลายครั้ง ดังที่ระบุไว้เป็นภารกิจมดแดง http://unrad.net/?p=7  และหัวใจของปัญหาที่เราต้องแทงให้ทะลุไปถึงแผ่นหลังของตัวปัญหา หัวใจของปัญหาเมืองไทยมีหลายด้าน ซึ่งเราต้องแทงให้ทะลุเข้าไปถึงใจกลาง ส่วนจะจัดการอย่างไรนั้น เราต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำต่อไป แต่ทิศทางต้องชัด คือจัดการกับทุกส่วนของหัวใจปัญหาต่อไปนี้:-

ข้างนอกสุดของหัวใจของปัญหาแห่งชาติไทย คือ พลังมวลชนที่ถูกเขาสกดไว้ด้วยมนตราไสยศาสตร์  ทำตัวจัดขวางประชาชนด้วยกันเอง  หากไม่แก้ไขให้มวลชนตื่น เราก็จะพบกับความลำบากในการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิวัติในอนาคต

ถัด ๆ กันเข้าไปนี้ ก็จะพบว่ามีสื่อ สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และหน่วยงานการเมืองทั้งหลาย ที่อยู่ในกำกับของก๊กเทพอสูร พวกนี้เป็นสิ่งที่จะพบได้ทั่วไป และจะเป็นเหมือนตัวมนตร์สกด หรือสารแพร่พิษ ที่ทำให้มวลชนจำนวนมากต่อต้านการพัฒนา หรือวางเฉย หรือไม่กล้าสู้ หริอหลายส่วนยังตามืดบอดอีกต่อไป

ลึกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ก็คือรัฐบาลนอมินีก๊กมาร  รัฐบาลนี้ คือตีนมือของเทพอสูร เป็นเครื่องจักสำคัญ เราคงเห็นแล้วว่า รัฐบาลที่มีหัวหน้ารัฐบาลหน่อมแน้ม และมีกำนันเก่ามากุมอำนาจมหาดไทย มันกลับสามารถใช้งานเครือข่ายตีนมือระบอบราชาธิปไตยอย่างดีและยึดอำนาจมาปั่นต่อ จนทำให้เหล่าเสื้อแดงรวนไปหลายครา เรียกว่ามาแรงจนแดงต้องหลบเชียวนะครับ....

และส่วนที่ลึกลงไป ที่กำกับรัฐบาลและสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดกับขั้วปัญหา ก็คือกลุ่มทุนที่่ได้ประโยชน์กับการอยู่ร่วมกับรัฐบาลนอมินีและราชสำนัก และระดับนี้ จะมีขุนศึก (ทหารตำรวจ) เป็นกลไกสำคัญ  หากไม่แก้กลุ่มนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าถึงแก่นกลางของปัญหาได้

และในที่สุดตรงกลางสุดของปัญหา ก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง  ปัจจุบันนี้ ความสงสัยเกี่ยวกับบทบาทและฐานะที่แท้จริงของสถาบันฯ นั้น แทบไม่เหลือแล้วครับ  คงไม่ต้องขยายความเลย สำหรับคนเสื้อแดงที่ได้รู้ ได้ยิน ได้เห็น และได้สัมผัสมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา

การจะปฎิวัติ จะต้องแทงหัวใจปัญหาเหล่านี้ให้ทะลุ จะต้องเอาพวกนี้มาเป็นพวกของประชาชนให้จงได้   หากเอามาเป็นพวกไม่ได้ ก็ต้องทำลาย หรือกดให้หมดอำนาจหรือพลังที่เป็นพิษต่อประชาชนให้ได้  จะทำอย่างเดียว ด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ 

การจะจัดการกับพี่น้องประชาชนที่ถูกสกดจิต ทำอย่างไร การเผยแพร่ความจริง และสร้างภาพเชิงสัญลักษณื ทำได้ดีแล้ว แต่ต้องทำมากกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม และมุ่งเป้ากระจายออกไปหาประชาชนสีอื่น ๆ อย่างมีความคาดหวังให้สูงยิ่งขึ้น

การจัดการกับสื่อ สถานศึกษา วัดโบสถ์มัสยึด กลไกที่เป็นกลุ่มก้อนในสังคม ที่ยังรับใช้ลัทธิไดโนเสาร์ ต้องทำอย่างไรบ้าง เป็นโจทย์สำคัญอย่างยิ่ง

เรื่องการแย่งอำนาจรัฐ ก็จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อไทยอาจจะเป๋ แต่ประชาชนจะต้องไม่เป๋ ไม่ยอม และจะต้องดึงเพื่อไทยมารับใช้ให้ได้  ตอนนี้ยังไม่ชัด แต่จะต้องทำให้ชัดกว่านี้

ส่วนกลุ่มขุนศึกและนายทุนอิงวังนั้น การจัดการหรือดึงพวกเขาเข้ามาสนับสนุนการปฎิวัติประชาธิปไตย จะต้องทำอย่างมีเป้าหมาย และหากพวกนี้พยศและทำร้ายประชาชน ประชาชนยิ่งจะต้องมีวิธีปรามและกำราบพวกเขาอย่างเด็ดขาด  ตรงนี้อ่อนไหวมาก ๆ และเป็นจุดบ่งชี้สำคัญ!!!! ใครจะทำ และทำอย่างไร???? เป็นคำถามที่แกนนำการปฎิวัติในวันนี้และในอนาคตต้องคิด  เพราะหากไม่สามารถกดหรือดึงพวกนี้มาเข้าข้างประชาชน เราชนะไม่ได้ครับ หรือจะชนะได้ ก็ต้องฆ่าล้างโคตรกันไปข้างหนึ่งทีเดียว แต่คงล้างโคตรประชาชนไม่ได้  ดังนั้น หากจะล้างโคตรแล้วชนะ ก็คือ ฝ่ายขุนศึกและนายทุนศักดินาน่ะแหละ ที่จะต้องถูกล้มล้าง 

และในที่สุด ก็ต้องมาถึงแกนกลางที่สุดของปัญหา  ชั้นในสุด  หากคิดจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หากไม่แตะถึงแกนกลาง ก็จะไม่มีทางแทงทะลุหัวใจ และจะไม่สามารถหยุดกลไกพิษหรือวงจรอุบาทว์ได้  จะทำอย่างไร  จะล้อมวังจับตัวฆ่าฟัน จะล้อมวังแล้วบังคับให้เจรจายกอำนาจคืนประชาชน จะกราบบังคมทูลแบบเนียน ๆ และประณีประนอมผ่านสภา จะลอบฆ่าล่าล้าง  จะกราบแล้วขอร้องให้ท่านคืนอำนาจแบบบัวไม่ช้้ำน้ำไม่ขุ่น  แต่สิ่งเหล่านี้ ต้องเกิด และจะต้องเกิดภายในไม่เกินรัชกาลที่สิบแน่นอน  เพราะเวลานี้ปัญหา ประเทศไทย เหมือนหนองที่มีน้ำหนองเหลืองบวมพองเกินผิวหน้าของหนังจะรับได้แล้ว  และการจัดการกับฝี ไม่มีทางอื่นใดที่จะเลี่ยงการเอาหัวฝีออกได้เลย 

จะเห็นว่า สิ่งที่กล่าวมา คือ ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน  เพราะนี่คือการปฎิวัติของประชาชนชาวดิน ที่ไร้อำนาจบาตรใหญ่ ไร้กลไกอำนาจในระบอบอำนาจเดิม  ดังนั้น หากจะเจาะเข้าไปแก้ปัญหา ก็ต้องแทงให้ทะลุให้จงได้  จะทำอย่างไร?  นี่เป็นโจทย์ที่คนเสื้อแดงหลายฝ่ายพยายามคิด แต่อย่าลืมว่า หากคิดได้เท่าเดิม ทำได้เท่าเดิม และไม่มองสิ่ิงที่กล่าวมาทั้งหมด และทำในทุกจุด  เราจะเสี่ยงที่จะถูกถึงไปอยู่ในเกมอำนาจโฉดสองเกมของลัทธิไดโนเสาร์  เราจะสูญเสียอย่างมหาศาล... 

การปฎิวัติเพียงดิน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ทำไม่ได้... ทำน้อยก็ไม่ได้... ทำแบบไม่ครบวงจรก็ไม่ได้..​. และทำแบบไม่สามัคคีพลังประชาชนก็ไม่ได้... ประชาชนไทย พร้อมแค่ไหนและมุ่งมั่นเพียงใดล่ะครับ?

ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...ดร. เพียงดิน เขียนไว้เมื่อ 3 พฤศจิกายน 2553

Wednesday, November 3, 2010
ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน ต้องแทงตรงหัวใจให้ทะลุหลัง...

หากจะมองภาพการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรักษ์เจ้า หรือฝ่ายศักดินานิยม กับฝ่ายประชาธิปไตยในระยะปีที่สี่หลังการรัฐประหาร 49 มาจนถึงเวลานี้ ต้องถือว่ายากจะบอกว่าใครจะชนะในระยะใกล้นี้ ยังก้ำกึ่งและมีสิทธิออกได้หลายหน้าเสียด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะต้องชนะในระยะยาวในที่สุด แต่จะเพราะเทพอสูรเป๋และภาคียอมโยนผ้าขอแพ้ หรือจะชนะแตกแบบเลือดกลบหน้าสู้ต่อไม่ได้ หรือจะโดนประชาชนน็อค  ก็ต้องเกิดโดยประชาชนชนะแน่ ๆ  แต่ในระยะนี้ ต้องย้ำว่า ยังกำ้กึ่งครับ

ที่ว่าก้ำกึ่งนั้น แปลว่า คณะรักษ์เจ้าเคล้าศักดินานิยม มีโอกาสจะสามารถเตะถ่วงและยึดอำนาจได้อีกหลายปี ก็คือชนะในยกต่อไปนั่นเอง  และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าเราอาจจะต้องทรมาณเหมือนดูละครน้ำเน่าบ้านทรายทองอีกซักสองสามตอนนะครับ  ที่เห็นชัด ๆ เราก็เห็นการจับแกนนำเราขังคุก ไล่ต้อนแกนนำไม่ให้โงหัว พยายามสยบและสลายทุกกลุ่มที่จะคิดการต่อต้านรัฐบาล เข้าครอบครองสื่อทุกแขนง ป้อนข้อมูลเน่าให้กับระบบต่าง ๆ ทุกระบบ ใช้ตีนมือระบอบราชการ (กิจการของพระราชา) ฯลฯ  ภาพที่เห็นเวลานี้ จึงเหมือนว่า พวกเทพอสูรและภาคีต่างย่างสามขุมไล่ต้อนฝ่ายประชาธิปไตย แถมมีกรรมการคอยจับตีนมือฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อหวังให้อีกฝ่ายต่อย ๆ เตะเอา ... ภาพที่เห็นปลายยกที่ผ่านมาและในอีกยกต่อไปที่กำลังจะเริ่ม ต้องถือว่าน่าอึดอัด เพราะ ฝ่ายประชาชน ยังคงต้องถอยและแย็ปหมัดเพื่อป้องกันตัวเองไปก่อน

สิ่งที่ผมเกรงไว้ว่าจะพัฒนาต่อไปจากนี้ ก็คือภาพจำลองสองภาพครับ

หนึ่ง หากมีการเลือกตั้งปีหน้านี้ เราจะแพ้อย่างราบคาบ แล้วพวกศักดินาจะอ้างความชอบธรรม และฝ่ายประชาธิปไตยจะแดงกระจัดกระจาย แล้วก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่จะถูกเขาจัดการอย่างถูกกฎหมาย ยิ่งใช้ความรุนแรง ก็จะยิ่งโดนเขายุให้ฆ่าฟันล้างล่า จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง หรือสงครามกองโจร ที่ต้องอาศัยเวลาและการสูญเสียมหาศาลก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ได้ 

และสอง หากเสื้อแดงแกร่งเกินต้าน และพวกแก๊งค์เทพอสูรรู้ว่าเลือกตั้งแล้วจะแพ้ พวกเขาจะหน้าด้านยืดอายุรัฐบาล หรือหาโอกาสตั้งรัฐบาลอวยเจ้าและเฝ้าล่าแดงให้จงได้  จากนั้น ก็จะดำเนินการเหมือนที่กำลังทำอยู่ แต่จะยิ่งเพิ่มอัตราความโหด  ประชาชนจะตายในหลักพันหลักหมื่น ไม่ด้อยกว่าเหตุสมมุติข้างบน

การคงอยู่ของไดโนเสาร์เหล่าตอแหลศักดินานั้น ไม่มีทางที่จะตั้งอยู่บนความรุ่งเรืองและสุขสบายของประชาชน เพราะพวกนี้ กำเนิดก็ผิดธรรมชาติ อยู่ก็ผิดศีลธรรม และปล่อยไว้ก็เป็นพิษแบบโรคติดต่อร้ายแรง   ดังนั้น ไม่มีทางเลือกหรอกครับ หากประชาชนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์สองอย่างข้างบน เราจะสูญเสียมหาศาล  ดังนั้น หากอยากกู้บ้านแปงเมือง ก็ต้องลุกมาปฎิวัติ   หากอยากให้บ้านเมืองลงเอยด้วยดี เราก็ต้องจัดการป้องกันและต่อสู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสองสิ่งนี้

ผมฟังคุณชูพงศ์และคุณแอนตี้มานาน เห็นด้วยและชื่นชมกับทั้งสองท่านอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะในแง่การชี้เป้าว่า กษัตริย์คือตัวปัญหาสำคัญของบ้านเมือง และเชื่อตามว่า กษัตริย์และกลุ่มผลประโยชน์รอบวัง คือก๊กที่ชิงอำนาจจากประชาชนไปใช้ปกป้องและแสวงหาผลประโยชน์ร่วมอย่างเป็นระบบ เป็นแก๊งค์ และเป็นภัยยิ่งต่ออนาคตของประเทศชาติ  แต่ผมไม่เห็นด้วยว่าเราควรจะทิ้งแนวรบทางรัฐสภาเสียสิ้นเชิง  เพราะยิ่งเราปล่อยให้พวกอภิสิทธิชนตอแหลอยู่ในอำนาจ  ความเสี่ยงของการเกิดภาพจำลองทั้งสองภาพข้างบนจะยิ่งเพิ่มขึ้น และประชาชนจะชนะยากขึ้น และสูญเสียมากขึ้น

การจะสู้และจะก้าวไปสู่การปฎิวัติประชาชนนั้น จะต้องทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งผมได้เน้นไว้หลายครั้ง ดังที่ระบุไว้เป็นภารกิจมดแดง http://unrad.net/?p=7  และหัวใจของปัญหาที่เราต้องแทงให้ทะลุไปถึงแผ่นหลังของตัวปัญหา หัวใจของปัญหาเมืองไทยมีหลายด้าน ซึ่งเราต้องแทงให้ทะลุเข้าไปถึงใจกลาง ส่วนจะจัดการอย่างไรนั้น เราต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำต่อไป แต่ทิศทางต้องชัด คือจัดการกับทุกส่วนของหัวใจปัญหาต่อไปนี้:-

ข้างนอกสุดของหัวใจของปัญหาแห่งชาติไทย คือ พลังมวลชนที่ถูกเขาสกดไว้ด้วยมนตราไสยศาสตร์  ทำตัวจัดขวางประชาชนด้วยกันเอง  หากไม่แก้ไขให้มวลชนตื่น เราก็จะพบกับความลำบากในการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิวัติในอนาคต

ถัด ๆ กันเข้าไปนี้ ก็จะพบว่ามีสื่อ สถานศึกษา หน่วยงานราชการ และหน่วยงานการเมืองทั้งหลาย ที่อยู่ในกำกับของก๊กเทพอสูร พวกนี้เป็นสิ่งที่จะพบได้ทั่วไป และจะเป็นเหมือนตัวมนตร์สกด หรือสารแพร่พิษ ที่ทำให้มวลชนจำนวนมากต่อต้านการพัฒนา หรือวางเฉย หรือไม่กล้าสู้ หริอหลายส่วนยังตามืดบอดอีกต่อไป

ลึกเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ก็คือรัฐบาลนอมินีก๊กมาร  รัฐบาลนี้ คือตีนมือของเทพอสูร เป็นเครื่องจักสำคัญ เราคงเห็นแล้วว่า รัฐบาลที่มีหัวหน้ารัฐบาลหน่อมแน้ม และมีกำนันเก่ามากุมอำนาจมหาดไทย มันกลับสามารถใช้งานเครือข่ายตีนมือระบอบราชาธิปไตยอย่างดีและยึดอำนาจมาปั่นต่อ จนทำให้เหล่าเสื้อแดงรวนไปหลายครา เรียกว่ามาแรงจนแดงต้องหลบเชียวนะครับ....

และส่วนที่ลึกลงไป ที่กำกับรัฐบาลและสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดกับขั้วปัญหา ก็คือกลุ่มทุนที่่ได้ประโยชน์กับการอยู่ร่วมกับรัฐบาลนอมินีและราชสำนัก และระดับนี้ จะมีขุนศึก (ทหารตำรวจ) เป็นกลไกสำคัญ  หากไม่แก้กลุ่มนี้ ก็จะไม่มีทางเข้าถึงแก่นกลางของปัญหาได้

และในที่สุดตรงกลางสุดของปัญหา ก็คือสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง  ปัจจุบันนี้ ความสงสัยเกี่ยวกับบทบาทและฐานะที่แท้จริงของสถาบันฯ นั้น แทบไม่เหลือแล้วครับ  คงไม่ต้องขยายความเลย สำหรับคนเสื้อแดงที่ได้รู้ ได้ยิน ได้เห็น และได้สัมผัสมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา

การจะปฎิวัติ จะต้องแทงหัวใจปัญหาเหล่านี้ให้ทะลุ จะต้องเอาพวกนี้มาเป็นพวกของประชาชนให้จงได้   หากเอามาเป็นพวกไม่ได้ ก็ต้องทำลาย หรือกดให้หมดอำนาจหรือพลังที่เป็นพิษต่อประชาชนให้ได้  จะทำอย่างเดียว ด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ 

การจะจัดการกับพี่น้องประชาชนที่ถูกสกดจิต ทำอย่างไร การเผยแพร่ความจริง และสร้างภาพเชิงสัญลักษณื ทำได้ดีแล้ว แต่ต้องทำมากกว่าเดิม ลึกกว่าเดิม และมุ่งเป้ากระจายออกไปหาประชาชนสีอื่น ๆ อย่างมีความคาดหวังให้สูงยิ่งขึ้น

การจัดการกับสื่อ สถานศึกษา วัดโบสถ์มัสยึด กลไกที่เป็นกลุ่มก้อนในสังคม ที่ยังรับใช้ลัทธิไดโนเสาร์ ต้องทำอย่างไรบ้าง เป็นโจทย์สำคัญอย่างยิ่ง

เรื่องการแย่งอำนาจรัฐ ก็จะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อไทยอาจจะเป๋ แต่ประชาชนจะต้องไม่เป๋ ไม่ยอม และจะต้องดึงเพื่อไทยมารับใช้ให้ได้  ตอนนี้ยังไม่ชัด แต่จะต้องทำให้ชัดกว่านี้

ส่วนกลุ่มขุนศึกและนายทุนอิงวังนั้น การจัดการหรือดึงพวกเขาเข้ามาสนับสนุนการปฎิวัติประชาธิปไตย จะต้องทำอย่างมีเป้าหมาย และหากพวกนี้พยศและทำร้ายประชาชน ประชาชนยิ่งจะต้องมีวิธีปรามและกำราบพวกเขาอย่างเด็ดขาด  ตรงนี้อ่อนไหวมาก ๆ และเป็นจุดบ่งชี้สำคัญ!!!! ใครจะทำ และทำอย่างไร???? เป็นคำถามที่แกนนำการปฎิวัติในวันนี้และในอนาคตต้องคิด  เพราะหากไม่สามารถกดหรือดึงพวกนี้มาเข้าข้างประชาชน เราชนะไม่ได้ครับ หรือจะชนะได้ ก็ต้องฆ่าล้างโคตรกันไปข้างหนึ่งทีเดียว แต่คงล้างโคตรประชาชนไม่ได้  ดังนั้น หากจะล้างโคตรแล้วชนะ ก็คือ ฝ่ายขุนศึกและนายทุนศักดินาน่ะแหละ ที่จะต้องถูกล้มล้าง 

และในที่สุด ก็ต้องมาถึงแกนกลางที่สุดของปัญหา  ชั้นในสุด  หากคิดจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หากไม่แตะถึงแกนกลาง ก็จะไม่มีทางแทงทะลุหัวใจ และจะไม่สามารถหยุดกลไกพิษหรือวงจรอุบาทว์ได้  จะทำอย่างไร  จะล้อมวังจับตัวฆ่าฟัน จะล้อมวังแล้วบังคับให้เจรจายกอำนาจคืนประชาชน จะกราบบังคมทูลแบบเนียน ๆ และประณีประนอมผ่านสภา จะลอบฆ่าล่าล้าง  จะกราบแล้วขอร้องให้ท่านคืนอำนาจแบบบัวไม่ช้้ำน้ำไม่ขุ่น  แต่สิ่งเหล่านี้ ต้องเกิด และจะต้องเกิดภายในไม่เกินรัชกาลที่สิบแน่นอน  เพราะเวลานี้ปัญหา ประเทศไทย เหมือนหนองที่มีน้ำหนองเหลืองบวมพองเกินผิวหน้าของหนังจะรับได้แล้ว  และการจัดการกับฝี ไม่มีทางอื่นใดที่จะเลี่ยงการเอาหัวฝีออกได้เลย 

จะเห็นว่า สิ่งที่กล่าวมา คือ ทฤษฎีปฎิวัติเพียงดิน  เพราะนี่คือการปฎิวัติของประชาชนชาวดิน ที่ไร้อำนาจบาตรใหญ่ ไร้กลไกอำนาจในระบอบอำนาจเดิม  ดังนั้น หากจะเจาะเข้าไปแก้ปัญหา ก็ต้องแทงให้ทะลุให้จงได้  จะทำอย่างไร?  นี่เป็นโจทย์ที่คนเสื้อแดงหลายฝ่ายพยายามคิด แต่อย่าลืมว่า หากคิดได้เท่าเดิม ทำได้เท่าเดิม และไม่มองสิ่ิงที่กล่าวมาทั้งหมด และทำในทุกจุด  เราจะเสี่ยงที่จะถูกถึงไปอยู่ในเกมอำนาจโฉดสองเกมของลัทธิไดโนเสาร์  เราจะสูญเสียอย่างมหาศาล... 

การปฎิวัติเพียงดิน จึงเป็นสิ่งที่ไม่ทำไม่ได้... ทำน้อยก็ไม่ได้... ทำแบบไม่ครบวงจรก็ไม่ได้..​. และทำแบบไม่สามัคคีพลังประชาชนก็ไม่ได้... ประชาชนไทย พร้อมแค่ไหนและมุ่งมั่นเพียงใดล่ะครับ?

Friday, November 4, 2016

CP CP CP ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3แสนล้าน แล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ

CP  CP  CP

ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3แสนล้าน แล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ


เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEOของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยเงิน 3 แสนล้าน 

มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร,ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครือเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรหมดทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืช พลังงาน 

นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยีสื่อสาร ทั้งโทรบ้าน,โทรมือถือ,internet และมีสื่อในมือ คือ truevision  


สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีก+ค้าส่ง ทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร  โดยมี 7-11 ; makro และ Lotus


ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK?  ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 

ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ข่าว"เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK ([จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ : L&H) 

เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง 

*ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท

**ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีก

***และครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู"  


ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี 

เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง


สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ 

..."เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท

...แมคโคร 129,780 ล้านบาท 

รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท 

เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก


ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4   ก่อนที่จะไปซื้อ LH BANK ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5


CPจะกลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ 


!!*!! 

แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลยเถ้าแก่CP

เชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง) ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น

......เศร้า


เศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง 

ใครๆก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆถ้ารัฐบาลไม่ยอม


อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้ ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่ทำในไทย


makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบในไทย..รายย่อยทำได้ถูกกว่า 

..สู้เขาไม่ได้ 

ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด 

เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่งเท่านั้น 


..สำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น 

เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วย


!!**!!

มีอีก 

จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี 

พอยางล้นตลาด ราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

..นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ 

คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอก


== > สมัยก่อน

ตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ 

CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคาร แล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย 

คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่CPแบ่งให้  


ต่อมาระยะหนึ่ง CPก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืน เพื่อ CP จะทำเอง

ร้านไหนยอมขายก็จบไป

แต่ถ้าร้านไหนไม่ขายให้ CP...ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง = ถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม หน้าปากซอยบ้านผม  มี 7-11   3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร   


      ...........................

คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง

ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ

ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดกาล  ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น   

อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง คำพูดดูสวยหรู

..เราจะอยู่กับชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์   อย่างพันธมิตร   

..แต่ในใจ กูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไป

กูมีแต่ได้กับได้  

บริษัทอื่นเจ๊งหมด 

โดยเฉพาะ ร้านค้า  SME ทั้งหลาย  


สนับสนุนเลี้ยงไก่  ไข่    ปลูกยาง

แล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกที


ทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายๆมากๆให้กับร้าน 7-11  เช่น

นาโนแบงคิ้ง 

ขายยา 

ขายล็อตเตอรี่ 

ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้ว

ทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น 


เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่น 

ยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไร


ตอนมี 7-11 ใหม่ๆ 

คนขับรถลูกน้องเพื่อน ลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 

แค่ 1-2 ปี  

Volume 7-11 สูงมาก 

CP เลิกจ้าง ทำlogistics เอง 

ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ 


นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP 

อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน 

แต่หากได้กำไรดีจะ Take over


Cr.พท.พญ.กมลพรรณ

CP CP CP ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3แสนล้าน แล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ

CP  CP  CP

ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3แสนล้าน แล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ


เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEOของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยเงิน 3 แสนล้าน 

มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร,ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครือเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรหมดทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืช พลังงาน 

นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยีสื่อสาร ทั้งโทรบ้าน,โทรมือถือ,internet และมีสื่อในมือ คือ truevision  


สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีก+ค้าส่ง ทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร  โดยมี 7-11 ; makro และ Lotus


ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK?  ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 

ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ข่าว"เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK ([จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ : L&H) 

เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง 

*ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท

**ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีก

***และครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู"  


ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี 

เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง


สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ 

..."เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท

...แมคโคร 129,780 ล้านบาท 

รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท 

เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก


ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4   ก่อนที่จะไปซื้อ LH BANK ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5


CPจะกลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ 


!!*!! 

แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลยเถ้าแก่CP

เชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง) ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น

......เศร้า


เศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง 

ใครๆก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆถ้ารัฐบาลไม่ยอม


อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้ ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่ทำในไทย


makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบในไทย..รายย่อยทำได้ถูกกว่า 

..สู้เขาไม่ได้ 

ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด 

เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่งเท่านั้น 


..สำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น 

เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วย


!!**!!

มีอีก 

จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี 

พอยางล้นตลาด ราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย

..นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ 

คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอก


== > สมัยก่อน

ตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ 

CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคาร แล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย 

คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่CPแบ่งให้  


ต่อมาระยะหนึ่ง CPก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืน เพื่อ CP จะทำเอง

ร้านไหนยอมขายก็จบไป

แต่ถ้าร้านไหนไม่ขายให้ CP...ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง = ถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม หน้าปากซอยบ้านผม  มี 7-11   3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร   


      ...........................

คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง

ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ

ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดกาล  ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น   

อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง คำพูดดูสวยหรู

..เราจะอยู่กับชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์   อย่างพันธมิตร   

..แต่ในใจ กูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไป

กูมีแต่ได้กับได้  

บริษัทอื่นเจ๊งหมด 

โดยเฉพาะ ร้านค้า  SME ทั้งหลาย  


สนับสนุนเลี้ยงไก่  ไข่    ปลูกยาง

แล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกที


ทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายๆมากๆให้กับร้าน 7-11  เช่น

นาโนแบงคิ้ง 

ขายยา 

ขายล็อตเตอรี่ 

ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้ว

ทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น 


เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่น 

ยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไร


ตอนมี 7-11 ใหม่ๆ 

คนขับรถลูกน้องเพื่อน ลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 

แค่ 1-2 ปี  

Volume 7-11 สูงมาก 

CP เลิกจ้าง ทำlogistics เอง 

ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ 


นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP 

อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน 

แต่หากได้กำไรดีจะ Take over


Cr.พท.พญ.กมลพรรณ

จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ 4 พ.ย. 59 ความจริงเบื้องลึก โครงการจำนำจ้าว (แถมด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย)

เบื้องลึกที่ต้องฟัง:  จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ 4 พ.ย. 59 ความจริงเบื้องลึก โครงการจำนำจ้าว (แถมด้วย ดร. เพียงดิน รักไทย)

https://youtu.be/bcAjaH171ck (สถานีองค์การเสรีไทยฯ)

โปรด Subscribe เพื่อติดตามสถานีเพื่อประชาธิปไตย อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ


---------------------
***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
----------------------
สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน