PPD's Official Website

Monday, June 11, 2018

รู้มั้ยชื่อเก่าของบ้านเกิดคุณชื่ออะไร? เผยชื่อเดิมจังหวัดในไทย มีครบทุกจังหวัด


รู้มั้ยชื่อเก่าของบ้านเกิดคุณชื่ออะไร? เผยชื่อเดิมจังหวัดในไทย มีครบทุกจังหวัด

เรื่องราวที่ก่อกำเนิดมาเป็นคนไทยในปัจจุบัน ประเทศไทย แต่เริ่มเดิมทีไม่ได้ชื่อว่าไทย แต่มาจากคำว่าสยาม แล้วจังหวัดต่างๆล่ะ ก่อนจะมีชื่อสละสลวย สะกดยากแบบทุกวันนี้ เคยถูกเรียกว่าอะไรมาก่อน เราจะพาไปรู้จักกับชื่อจังหวัดแบบเก่าแก่ทั้งหมด 77 จังหวัด


ภาคเหนือ

1. เชียงราย – เวียงชัยนารายณ์

2. เชียงใหม่ – นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ หรือ เวียงพิงค์

3. น่าน – นันทบุรี เมืองน่าน เมืองนาน

4. พะเยา – เมืองภูกามยาว พยาว

5. แพร่ – พลนคร เวียงโกศัย

6. แม่ฮ่องสอน – แม่ร่องสอน

7. ลำปาง – เขลางค์นคร

8. ลำพูน – หริภุญไชย

9. อุุตรดิตถ์ – บางโพธิ์ท่าอิฐ (สมัยก่อนเป็นแค่ตำบล ไม่ได้เป็นจังหวัด)


ภาคอีสาน

10. กาฬสินธุ์ – บ้านแก่งสำเริง หรือบ้านแก่งสำโรง

11. ขอนแก่น – ขามแก่น

12. ชัยภูมิ – บ้านหลวง

13. นครพนม – มรุกขนคร และเปลี่ยนเป็น ศรีโคตรบูรณ์

14. นครราชสีมา – โคราช โคราฆะ เสมา

15. บึงกาฬ – ชัยบุรี

16. บุรีรัมย์ – โนนม่วง เมืองแปะ

17. มหาสารคาม – บ้านลาดกุดยางใหญ่

18. มุกดาหาร – เมืองมุกดาหาร

19. ยโสธร – สมัยก่อนเป็นหมู่บ้านชื่อบ้านสิงห์ท่า

20. ร้อยเอ็ด – สาเกตนคร ร้อยเอ็จประตู

21. เลย – หมู่บ้านแฮ่ เมืองเลย

22. สกลนคร – หนองหานหลวง สกลทวาปี

23. สุรินทร์ – ประทายสมันต์

24. ศรีสะเกษ – ขุขันธ์

25. หนองคาย – บ้านไผ่

26. หนองบัวลำภู – นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน เมืองกมุทธาสัย

27. อุดรธานี – บ้านหมากแข้ง หรือ บ้านเดื่อหมากแข้ง

28. อุบลราชธานี – ดอนมดแดง ดงอู่ผึ้ง

29. อำนาจเจริญ – เมืองค้อ


ภาคตะวันตก

30. กาญจนบุรี – ปากแพรก ศรีชัยยะสิงหปุระ

31. ตาก – เมืองตาก

32. ประจวบคีรีขันธ์ – บางนารม หรือ นารัง เมืองกุย

33. เพชรบุรี – พริบพรี หรือ ศรีวัชรบุรี

34. ราชบุรี – ราชบุรี หรือ 


ภาคกลาง

35. กำแพงเพชร – ชากังราว นครชุม

36. ชัยนาท – เมืองแพรก หรือเมืองสรรค์

37. นครนายก – นายก

38. นครปฐม – นครไชยศรี หรือศรีวิชัย

39. นครสวรรค์ -พระบาง ชอนตะวัน

40. นนทบุรี – บ้านตลาดขวัญ เมืองนนทบุรีศรีมหาสมุทร เมืองนนทบุรีศรีมหาอุทยาน เมืองนนทบุรีศรีเกษตราราม

41. ปทุมธานี – สามโคก ประทุมธานี

42. อยุธยา – กรุงเก่า มณฑลกรุงเก่า มณฑลอยุธยา

43. พิจิตร – สระหลวง โอฆะบุรี

44. พิษณุโลก – สองแคว

45. เพชรบูรณ์ – เพชบุระ

46. ลพบุรี – ละโว้

47. สมุทรปราการ – พระประแดง นครเขื่อนขันธ์

48. สมุทรสงคราม – แม่กลอง

49. สมุทรสาคร – บ้านท่าจีน สาครบุรี

50. สิงห์บุรี – สิงหราชาธิราช สิงหะราชา สิงห์

51. สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย

52. สุพรรณบุรี – ทวารวดีศรีสุพรรณภูมิ หรือพันธุมบุรี สองพันบุรี อู่ทอง

53. สระบุรี – สระบุรี

54. อ่างทอง – วิเศษชัยชาญ

55. อุทัยธานี – อู่ไทย อุไทย


ภาคตะวันออก

56. จันทบุรี – ควนคราบุรี กาไว จันทบูร

57. ฉะเชิงเทรา – แปดริ้ว

58. ชลบุรี – พระรถ ศรีพโล พญาแร่ บางปลาสร้อย พนัสนิคม บางละมุง

59. ตราด – กราด หรือตราด

60. ปราจีนบุรี – พระรถ ศรีมโหสถ อวัธยปุระ

61. ระยอง – ราย็อง

62. สระแก้ว – แต่ก่อนเป็นกิ่งอำเภอ ตั้งชื่อจากสระน้ำกลางเมือง


ภาคใต้

63. กระบี่ – แขวงเมืองปกาสัย

64. ชุมพร – ชุมนุมพล

65. ตรัง – ทับเที่ยง

66. นครศรีธรรมราช – ตามพรลิงค์ ศิริธรรมนคร ศรีธรรมราช

67. นราธิวาส – มะนาลอ บางนรา ระแงะ

68. ปัตตานี – ตานี

69. พังงา – ภูงา หรือบ้านกระพูงา พิงงา

70. พัทลุง – คูหาสวรรค์

71. ภูเก็ต – บูกิต ภูเก็จ จังซีลอน ถลาง

72. ระนอง – แร่นอง

73. สตูล – มูเก็มสโตย-ละงู นครีสโตย มำบังนังคะรา

74. สงขลา – สิงหนคร สิงหลา สิงขร

75. สุราษฎร์ธานี – ไชยา กาญจนดิษฐ์

76. ยะลา – ยาลอ


ขอบคุณข้อมูลจาก : wikipedia

Sunday, June 10, 2018

ชูวิทย์มีเรื่องเล่า เปิดโปงเส้นทางโรงงานนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอบทิ้งในไทย


ชูวิทย์มีเรื่องเล่า เปิดโปงเส้นทางโรงงานนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอบทิ้งในไทย




สามสิบคำถาม เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย สำหรับคนไทยทุกหมู่เหล่า

30 คำถามจากคนไม่รักเจ้า


สามสิบคำถาม เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย สำหรับคนไทยทุกหมู่เหล่า
โดย ดร.​ เพียงดิน รักไทย มหาวิทยาลัยประชาชน 

ขอเดชะ ประชาชนไทยที่รักทุกท่าน

ผมจะเขียนบทความชิ้นนี้ ในรูปคำถามทั้งหมด เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกหมู่เหล่า ได้คิดตาม คำถามผม อาจจะเหมือนมีอคติอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นโอกาสให้คนที่รักสถาบันกษัตริย์ได้คิดหาคำตอบ หาหลักฐานมาหักล้าง และอธิบายความให้สังคมไทยได้เช่นกัน

หวังว่า คำตอบ จะทำให้ท่านเดินหน้าไปอีกหลายก้าวในเชิงการเมือง เพื่อจะได้ตาสว่างกันยิ่งขึ้น
และกลายเป็นผู้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ชาติเราต้องการในที่สุดในเวลานี้  หรือท่านอาจจะรักสถาบันกษัตริย์ และระบอบการปกครองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ต่อไปหรืออาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ.... ผมไม่ได้คิดเรียบเรียงอย่างรอบคอบนักนะครับ  ลองคิดไปด้วย และหากมีคำถามชวนคิดมากกว่านี้  ก็กรุณาช่วยกันเติมได้นะครับ เชื่อว่ามีอีกมากมาย และการได้เกิดสัมมาทิฏฐิ ไม่อยู่บนความลุ่มหลง หรือถูกผลักดันด้วยความโกรธแค้น หรือรักแบบงมงาย แล้วทำลายแบ่งแยกกันเอง แล้วให้ชนชั้นปกครองหลอกใช้

1. Popular sovereignty or Absolute Monarchy?

  • ประเทศไทย เป็นของประชาชนทุกคนโดยเท่าเทียมกัน หรือเป็นของกษัตริย์คนเดียว? 
  • หรือเป็นของชนชั้นสูงส่วนน้อยที่เขาอ้างว่ามีอำนาจ มีคุณธรรม และมีบุญบารมีมากกว่าประชาชนทั่วไป?
2. Who saved the nation?

  • กษัตริย์ภูมิพลและบรรพบุรุษท่านใดเคยรบข้าศึกด้วยตัวเอง? เคยปกป้องประเทศ? เคยก่อตั้งประเทศอย่างแท้จริง? 
  • ในการรบที่ผ่านมา กษัตริย์ได้รบจริงกี่ครั้ง? 
  • ในกองทัพมีครอบครัวกษัตริย์กี่คน? มีลูกหลานชาวบ้านกี่คน? 
  • การอ้างว่ากษัตริย์รักษาบ้านเมือง ทำให้ชาติอยู่รอด เป็นวาทกรรมโดยใคร? เพื่ออะไร? 
3. Father of the Nation?

  • พฤติกรรมใดของกษัตริย์ คือพฤติกรรมที่เหมือนพ่อของท่านจริง ๆ? 
  • สิ่งใดที่ทำให้ประชาชน สมควรต้องเคารพรักและเทิดทูนไว้เหนือหัว เสมือนบิดามารดา หรือดั่งเทวดา?  อะไรทำให้เราคิดเช่นนั้น?
  • พฤติกรรมใดของกษัตริย์และครอบครัวที่ทำให้เราสมควรอยู่ใต้ฝุ่นที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขา?
  • ทำไมต้องให้วันเกิดกษัตริย์เป็นวันพ่อ และวันชาติ? 
  • ทำไมมีซุ้ม รูปปั้น รูปภาพ และการโฆษณาถึงความดีของคนๆ หนึ่ง เต็มบ้านเต็มเมือง ด้วยงบประมาณจากภาษีนับหมื่นล้านบาทต่อไป (เกือบสองหมื่นล้านบาทในปี 2560)?

4. Questionable love, care, and utilities?
  • กษัตริย์ภูมิพลและครอบครัว แสดงอาการใดบ้าง ที่สรุปได้ชัดว่า รักประชาชน ห่วงใยประชาชน และทำประโยชน์ให้ประชาชน? 
  • ท่านมีหลักฐานใดชัดเจนที่จับต้องได้ ว่า พวกเขารักท่าน พวกเขาห่วงใจท่านและครอบครัว และพวกเขาทำประโยชน์ที่ตกมาถึงครอบครัวจริง ๆ แบบไม่ได้มโนไปเอง หรือเชื่อตามคำโฆษณา?
  • กษัตริย์เป็นที่มาและรากของการแบ่งชนชั้น อำนาจเผด็จการ การดูถูกเหยียดหยามคนด้วยคติว่า คนไม่เท่ากัน ใช่หรือไม่? 
  •  หากไม่มีกษัตริย์ ปัญหาใด ๆ ของชาติจะลดหรือหายไปได้ง่ายหรือเร็วขึ้น? เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ (ความเป็นพี่น้องและกลมเกลียว) ถูกส่งเสริมหรือบั่นทอนโดยสถาบันกษัตริย์ไทย??? 
  • กษัตริย์ไทยส่งเสริมประชาธิปไตยหรือบ่อนทำลาย?  ท่านมีเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดสนับสนุนคำตอบของท่าน?
5. Facts or Myths about Royal Contributions?

  • ในบรรดาพระราชกรณียกิจ และโครงการพระราชดำริที่ออกอากาศแทบทุกวัน ท่านได้รับประโยชน์โดยตรงใด ๆ บ้าง?  
  • โครงการหลวงใช้เงินจากภาษีอากรประชาชน และบุคลากรของราชการและรัฐวิสาหกิจ แล้วทำไมเครดิตจึงยกให้กษัตริย์ว่ามีบุญคุณต่อปวงชนทั้งหลาย?
  • โครงการหลวงทำให้ชีวิตท่านดีขึ้นอย่างไรบ้าง มีหลักฐานใด? 
  • ทำไมต้องมีการนำเสนอกันแบบสม่ำเสมอ? 
  • ทำไมกษัตริย์ต้องมาพัฒนาประเทศ ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลได้หาเสียงและมีการตรวจสอบโครงการต่างๆ  ตามระบบรัฐสภาอยู่แล้ว?
  • ในระยะสิบปีหลัง กษัตริย์ภูมิพลและครอบครัวได้ไปพบท่าน และช่วยเหลือเรื่องปากท้องท่านผ่านโครงการหลวงกี่ครั้ง?
  • สิบปีหลัง ท่านได้พบกษัตริย์และครอบครัวตัวเป็น ๆ กี่ครั้ง?
  • หากให้เลือกดูข่าวสารความรู้เกี่ยวกับโลก วิชาชีพ และองค์ความรู้อันเป็นประโยชน์ต่าง ๆ ในช่วงสองทุ่มทุก ๆ วัน วันนี้ความรู้ของท่านจะก้าวไกลไปแค่ไหน?  
  • และการโฆษณาเรื่องผลงานครอบครัวกษัตริย์ ทำขึ้นเพื่อสิ่งใด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนจริงหรือ?
  • ท่านทราบไหมว่า ประชาชนเลี้ยงกษัตริย์และครอบครัว?  ท่านทราบไหมว่า กิจการของวัง และเรื่องส่วนตัวของกษัตริย์ทั้งหลาย ถูกจ่ายโดยเงินภาษีอากรของประชาชน?
6. Demi-God Status?
  • กษัตริย์ภูมิพลเหาะมาจากฟ้าพร้อมกับวงศ์ตระกูลหรือไม่? 
  • ทราบได้อย่างไรว่าท่านมีบุญบารมีเหนือมนุษย์? คนเขาบอก หรือพิสูจน์ด้วยตนเอง?
  • ก่อนเป็นกษัตริย์ ฐานะท่านและครอบครัวเป็นอย่างไร? วันนี้ฐานะท่านเป็นอย่างไร?
  • ทำไมพิธีกรรมต่าง ๆ จึงเป็นการชูกษัตริย์เป็นเทวดา ตามลัทธิพราหมณ์  ทั้ง ๆ ที่กษัตริย์เป็นผู้ที่นับถือพุทธ และต้องพระราชทาน พระบรมราชูปถัมน์ให้กับศาสนานี้? 
  • ทำไมต้องมีราชาศัพย์? 
  • ทำไมต้องมีมาตรา 112 และเขียนในรัฐธรรมนูญไม่ให้ฟ้องร้องหรือละเมิดใด ๆ ทั้งสิ้น?
7. Moral Authority?
  • การที่กษัตริย์ยกตัวเหนือสงฆ์ ด้วยการแต่งตั้งและให้ลาภยศแก่พระสงฆ์นั้น ส่งเสริมหรือทำลายศาสนาพุทธ ที่สอนให้ลด ละ และเลิก ความเป็นตัวตน การครอบครองสิ่งต่าง ๆ อันรวมถึงลาภ ยศ สรรเสริญ เพื่อเข้าสู่การก้าวไปสู่นิพพาน?
  • กษัตริย์ภูมิพล ถือศีลห้า ครบหรือไม่?  ท่านทราบได้อย่างไร?  เห็นกษัตริย์ในแต่ละวันกี่ชั่วโมง? ทราบพฤติกรรมของกษัตริย์และครอบครัวได้อย่างไร? จากไหน?
  • ในทศพิธราชธรรม สิบข้อนั้น มีสิ่งใดบ้าง? 
  • ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดคนถึงอ้างว่ากษัตริย์ไทยเป็นธรรมราชา?  
  • ประเทศที่มีธรรมราชา ควรมีคุณลักษณะอย่างประเทศไทยหรือ? ธรรมราชาควรทำให้บ้านเมืองเป็นเช่นไร?
  • ทศพิธราชธรรมประกอบด้วย 
    ๑. ทาน l ๒. ศีล l ๓. บริจาค l ๔. ความซื่อตรง l ๕. ความอ่อนโยน l ๖. ความเพียร ๗. ความไม่โกรธ l ๘. ความไม่เบียดเบียน l ๙. ความอดทน l ๑๐. ความเที่ยงธรรม   ท่านคิดว่า กษัตริย์ภูมิพล ถือครบสิบข้อนี้หรือไม่ ดีเพียงใด? ทราบได้อย่างไร? 
  • ครอบครัวของกษัตริย์ปฏิบัติศีลและธรรมเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาจริงหรือ? ท่านมีหลักฐานเต็มหูเต็มตาหรือไม่?
  • ทำไมเขาถึงสร้างให้กษัตริย์มีบารมีและเป็นเจ้าคุณธรรม หรือบุญญาธิการมากมาย? และใครได้ประโยชน์จากภาพลักษณ์เช่นนี้?
  • ความดีของกษัตริย์ภูมิพล วัดได้จากตรงไหน? ท่านมีเหตุผลและหลักฐานใดบ้าง? คนดี ของระบอบการปกครองปัจจุบัน ทำไมต้องจงรักภักดีและมียศตำแหน่งใกล้ชิดและรับใช้วังด้วย?
8. Loyalty & Politics?
  • ทำไมท่านต้องจงรักภักดีกับกษัตริย์? 
  • ทำไมท่านไม่จงรักภักดีตัวแทนประชาชน กับชาติที่เป็นของทุกคน หรือกับหลักประชาธิปไตย?
  • การจงรักภักดีนั้น ชูกันขึ้นมาเพื่อชาติ หรือเพื่อใคร? 
  • ใครเป็นคนสร้างความคิดว่า คนทั้งหลายต้องรัก ต้องภักดี แบบไม่ต้องคิดถึงเหตุผล? 
  • เขาสร้างวัฒนธรรมการเทิดทูนบุคคลในตำแหน่งกษัตริย์เพื่ออะไร? ท่านสมควรเชื่อตามนั้นหรือไม่? เพราะเหตุใด?
    9. Hypocrisy? 
    • กษัตริย์ไทยร่ำรวยที่สุดในโลก ในบรรดาราชาทั่วโลก โดยรวยกว่าพลเมืองไทยตามค่าเฉลี่ยฐานะทรัพย์สินถึง 5.4 ล้านเท่า แล้วทำไมจึงทรงสอนให้ประชาชนอยู่อย่างพอเพียง? 
    • ท่านทราบไหมว่ากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของพระราชา เสียภาษีเท่าไหร่  เอาเงินภาษีประชาชนเข้าไปใช้ปีละเท่าไหร่  และเงินบริจาคแต่ละปีเป็นเงินเท่าไหร่ กษัตริย์และราชวงศ์บริจาคเงินและทรัพย์สินในยามชาวบ้านเดือดร้อนเท่าไหร่?  พฤติกรรมของพ่อของแผ่นดิน สรุปได้จากความรักความใสใจตรงนี้ ได้มากน้อยแค่ไหน?
    • กษัตริย์ไทยทำตัวอย่างไรที่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าอยู่อย่างพอเพียง จริง ๆ ?  
    • การบีบหลอดยาสีฟัน เป็นภาพความจริง หรือแค่ภาพเล็ก ๆ ท่ามกลางภาพความหรูหราและสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศชาติแต่ละปี เช่น เครื่องบิน รถ ปราสาท อาหารการกิน ฯลฯ ของคนในราชสำนัก?
    • ทำไมประเทศที่กษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก จึงมีโสเภณีเต็มทั่วทุกจังหวัด มีนักท่องเที่ยวเพื่อกิจกรรมทางเพศ เข้าประเทศไทยเพื่อเสวยสุขจากเด็กหญิง เด็กชาย และหนุ่มสาวของประเทศอย่างคับคั่ง? 
    • กษัตริย์และครอบครัวรวยได้อย่างไร? ทำมาหากินอะไร? รับเงินภาษีประชาชนไปใช้ทางตรงและทางอ้อมเท่าใด? และได้ช่วยเหลือประชาชนแค่ไหน?  
    • ท่านมีหลักฐานในประเด็นเหล่านี้เพียงใด? ท่านได้พยายามหาเพิ่มหรือไม่?
    10. Political Engagement?
    • ทำไมมีการฆ่าประชาชนในประเทศไทยในช่วงรัชกาลที่เก้า จนมีคนตายมากมาย หลายครั้ง นับตั้งแต่ตุลาคม 251425-16, พฤษภาคม 2535, เมษายน 2552 และเมษา-พฤษภา 2553 โดยคนสั่งและคนปฏิบัติการฆ่าไม่ได้ถูกพิจารณาและลงโทษเลย?
    • แถมผู้เกี่ยวข้องในการสังหารหมู่ประชาชนจำนวนหลายคน โดยเฉพาะในกลุ่มทหารและผู้ใกล้ชิดกับวัง ต่างได้ดิบได้ดีหลังความรุนแรงแทบทุกครั้ง?
    • ทำไมเราบอกว่า ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ซึ่งอำนาจเป็นของประชาชน แต่รัฐบาลที่ประชาชนเลือกเข้าไปหลายครั้ง ถูกทหารแย่งอำนาจแบบหน้าตาเฉย แล้วก็มีความชอบธรรม เพียงแค่กษัตริย์ลงนาม? 
    • ทำไมความผิดใด ๆ ที่หนักหน่วงขนาดถึงกับต้องโทษประหารชีวิต ก็ได้รับการพระราชทานอภัยโทษหมด?  
    • แปลว่ากษัตริย์ร่วมกับทหารและนักการเมืองมักง่าย ปล้นอำนาจประชาชน ใช่หรือไม่ใช่? 
    • เพราะเหตุใด? ทำไมเวลามีการรัฐประหาร การทำม็อบล้มรัฐบาลฝั่งปชต.หรือที่มาจากการเลือกตั้ง หรือเวลามีทหารหรือกองกำลังพลเรือนออกมาฆ่าประชาชนหัวก้าวหน้าหรือเอียงซ้าย จึงต้องมีการใช้สัญลักษณ์ของกษัตริย์หรืออ้างความจงรักภักดี โดยกษัตริย์เองก็ไม่ได้คัดค้านหรือห้าม?
    • ทำไมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จึงมีการรัฐประหารที่สำเร็จถึง 9 ครั้งในรอบ 80 กว่าปี และมีความพยายามรัฐประหารที่ไม่สำเร็จอีกเกือบสิบครั้ง (แปลว่า ล้มรัฐบาลหรือพยายามล้มถึง 20 กว่าครั้ง) และฉีกรัฐธรรมนูญซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเรามีรัฐธรรมนูญราว 20 ฉบับในรอบแปดสิบกว่าปี หรือประมาณสี่ปีต่อฉบับโดยเฉลี่ย?  ประมุข สนับสนุน หรือทำลายระบอบประชาธิปไตย?
    • กษัตริย์อยู่เหนือการเมือง เป็นวาทกรรมที่หลอกลวง หรือเป็นจริง?  
    • อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ต้องผ่านด้วยลายเซ็นต์ของกษัตริย์ทุกครั้ง ใช่หรือไม่? และขั้นตอนในสภาและก่อนนำขึ้นทูลเกล้า มีมือที่มองไม่เห็นหรืออิทธิพลจากทหาร และพลเรือนในเครือข่ายกษัตริย์เกี่ยวข้องด้วยเสมอมา ท่านทราบหรือไม่? 
    • ทำไมทหารที่อยู่ใกล้ชิดกับสถาบันกษัตริย์ คือกษัตริย์และพระราชินี จึงออกมามีส่วนในกิจกรรมการเมือง จนทำให้มีการยิงหัวประชาชนมือเปล่านับร้อยคน  โดยกษัตริย์ไม่ได้แสดงความเสียพระทัยหรือให้ข้อคิด เตือนสติ หรือห้ามปรามใด ๆ เลย?  
    • ทำไมจึงไม่มีการลงสัตยาบันรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ทั้ง ๆ ที่มันจะช่วยให้ประชาชนมีหลักประกันว่าจะไม่มีคนบ้าอำนาจสั่งฆ่าประชาชนแล้วรวบอำนาจไว้เพื่อไม่ต้องรับผลกรรม? 
    • ทำไมจึงมีการปิดปากประชาชนไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์และสถาบันด้วยมาตรา 112?
    • ทำไมกษัตริย์จึงลงนามให้นายทหารที่มีศักดิ์แค่อธิบดีกรม ๆ หนึ่ง ขึ้นมาเป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเหนือคนทั้งชาติ ตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557?
    11. Conspiracy Theory?
    • มีคนกล่าวว่า รัฐธรรมนูญการปกครองประเทศไทย มีพัฒนาการเชิงเป็นประชาธิปไตยน้อยลง หรือหมกเม็ดเพื่อริดรอนเสรีภาพ และความเสมอภาค ลดอำนาจตัวแทนจากประชาชน แล้วก็สร้างความแตกแยกรุนแรงในชาติไทยเพิ่มยิ่งขึ้นในระยะหลังนี้ เพราะอะไร?  
    • บางคนบอกว่า เพราะประชาชนรู้ความจริง และด้วยความกลัวจะสูญเสียฐานะที่อุดมด้วยอภิสิทธิ์และประโยชน์มหาศาลก็ทำให้คนสำคัญ ๆ ของชาติต้องออกมาใช้อำนาจเผด็จการ ผ่านการสุมหัวกันของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ทหาร ศาลที่คณะรัฐประหารตั้ง สื่อที่เอียงขวาและอิงกับพ่อค้าและผู้ดีที่ได้ประโยชน์จากการทำธุรกิจเคียงข้างหรือได้ผลประโยชน์ร่วมกับเจ้า ถึงกับต้องสั่งฆ่าประชาชน   ท่านเห็นด้วยหรือไม่? เพราะอะไร?
    • ประเทศไทยเจริญขึ้น หรือแย่ลง จากความไม่เป็นประชาธิปไตยและความวุ่นวายทางการเมือง? ใครยังอยู่ในอำนาจและร่ำรวยอย่างต่อเนื่องบนความวุ่นวายระยะสิบปีหลังนี้?
    • ทำไมจึงมีการโยนอุจจาระให้นักการเมือง แล้วเชิดชูทหาร คนดีในเครือข่ายจงรักภักดี และเทิดทูนกษัตริย์ว่าทำดีอย่างไร้ที่ติด เช่นวาทกรรม นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด?
    • ท่านเคยได้ เบ็ด ซึ่งคงหมายถึงเครื่องมือหากิน อะไรบ้าง? เอาไปใช้แล้วทำให้ทำกำไรและดอกผลเพิ่มขึ้นเท่าไหร่? มีตัวอย่างจับต้องได้และพิสูจน์ได้ใดบ้าง?
    12. Reality & Sensibility?
    • เกิดมาชาตินี้ ท่านเคยเจอกษัตริย์ตัวเป็น ๆ กี่ครั้ง?  
    • พระองค์และครอบครัวได้ทำอะไรที่ให้ประโยชน์กับท่านหรือครอบครัว หรือคนในชุมชนท่านบ้าง? คิดเป็นเงินได้กี่บาท? คิดเป็นความเจริญได้กี่กิโลกรัม?
    • ท่านเคยได้พูดกับกษัตริย์และราชวงศ์กี่คำ? ท่านรับทราบความทุกข์ต่าง ๆ และปัดเป่าให้ในกรณีใดบาง? กี่ครั้ง?
    • การมีกษัตริย์อยู่ ให้คุณประโยชน์อะไรแก่ประเทศชาติ ที่จับต้องได้ อยู่บนหลักเหตุผลมากกว่าอารมณ์ และมีหลักฐานชัดเจนที่ท่านเห็นและรับรู้กับหู กับตา?
    • หากสถาบันกษัตริย์หมดไปจากสังคมไทย หรือไม่มีอำนาจใด ๆ ให้ใครไปอ้างใช้ได้อีก จะมีอะไรเกิดขึ้นที่เป็นผลร้ายที่แก้ไขไม่ได้? 
    • อำนาจกษัตริย์มาจากไหน? ทำไมเราต้องยอมรับ?  
    • คนไทยขาดกษัตริย์ไม่ได้จริง ๆ หรือ? ให้คิดทั้งทางการปกครอง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และแม้แต่วิถีชีวิตประจำวันของท่าน และระบบราชการในบ้านในเมืองระดับต่าง ๆ?
    • หากกษัตริย์หมดไป หรืออำนาจกษัตริย์หมดไป ประเทศไทยจะได้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง?  ใครจะได้ประโยชน์สูงสุด? ใครจะเสียประโยชน์สูงสุด? 
    • ที่บอกว่ากษัตริย์ไทยทรงพระปรีชาสามารถด้านดนตรี กีฬา เรื่องน้ำ เรื่องเขื่อนฝายกั้นน้ำ เรื่องการพัฒนา เรื่องเทคโนโลยี ฯลฯ  ท่านเห็นด้วยหรือไม่? มีหลักฐานและการตรวจสอบใด ๆ หรือไม่? ท่านทราบได้อย่างไร? 
    • ทำไมกษัตริย์และราชวงศ์จึงไม่ได้เรียนจบอะไรมากมาย? และที่เรียนจบและเก่งนั้น เพราะฝีมือและความฉลาดจริงหรือเพราะความเกรงใจและการเลีย?
    • ทำไมกษัตริย์ภูมิพลและพระราชินีจึงไม่จบปริญญาตรี และลูก ๆ ไม่มีใครเรียนจบปริญญาเอกเหมือนลูกชาวบ้านเลยสักคน?  
    12. Interest Groups?
    • ทำไมคนบางกลุ่มถึงอ้างว่าเขาจงรักภักดีกษัตริย์นักหนาและมากกว่าคนอื่น เขารู้ได้อย่างไร เรารู้ได้อย่างไร?   
    • และพวกเหล่านั้น ได้ประโยชน์จากการโหนเจ้า มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชนเช่นพวกเราหรือไม่ อย่างไร?  
    13. Propaganda & Forces?
    • ทำไมต้องมีการบังคับให้ยืนเคารพในโรงหนัง? 
    • ทำไมต้องมีซุ้มเต็มบ้านเมือง ทำไมต้องจัดงานต่าง ๆ อย่างยิ่งใหญ่เพื่อเชิดชู อย่างสิ้นเปลืองมหาศาล?
    • ทำไมต้องแสดงภาพการมีคนบริจาคเงินแทบทุกวัน ทำไมต้องมีการบริจาคให้กษัตริย์เอาไปทำบุญต่อ โดยเสด็จพระราชกุศล? กษัตริย์รับบริจาคไปเท่าไหร่ เอาไปทำบุญต่อเท่าไหร? มีบัญชีไหม? มีการตรวจสอบไหม? มีการรายงานให้ประชาชนเหมือนนักการเมืองไหม? 
    • ทำไมจึงต้องห้ามประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ หรือละเมิดไม่ได้เลย?
    • ทำไมเมื่อมีเหยื่อจากความป่าเถื่อนของมาตรา 112 กษัตริย์ถึงไม่เข้ามาแทรกแซงหรือแก้ไขเลย ทั้ง ๆ ที่เคราะห์กรรมมีผลมาจากตัวกษัตริย์เองเป็นสำคัญ?

    ร. 10 คือ อัศวินขี่ม้าขาว - ดร.​ทักษิณ ได้กลับบ้าน?? --เอนก ซานฟราน - ดร. เพียงดิน รักไทย 10 มิ.ย. 61

    ร. 10 คือ อัศวินขี่ม้าขาว - ดร.​ทักษิณ ได้กลับบ้าน?? --เอนก ซานฟราน - ดร. เพียงดิน รักไทย  10 มิ.ย. 61


    ---------------------
    ***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ๆ ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
    ***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
    สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
    ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
    หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
    ****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
    และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
    ----------------------
    สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

    Copyright notice:
    This video is protected under the "Fair Use Copyright Act of 1976" for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.

    Saturday, June 9, 2018

    สู่ปีที่ห้ารัฐประหาร คสช. สิ่งที่เกิดขึ้นและหายไปในการเมืองไทย

    สู่ปีที่ห้ารัฐประหาร คสช. สิ่งที่เกิดขึ้นและหายไปในการเมืองไทย

    "มีเผด็จการทหารหรือผู้นำรัฐประหารไม่กี่คนเท่านั้นที่ดูจะมีขีดความสามารถทางการเมือง… [ดังนั้นจึง] ไม่มีเหตุผลที่ดีอะไรที่จะถามว่า เหตุใดบรรดานายพล พันเอก หรือพันตรีทั้งหลายจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้"

    ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาเป็นวาระครบรอบสี่ปีของการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรในการเมืองไทย และกำลังก้าวสู่ปีที่ห้าอย่างไม่น่าเชื่อ

    เพราะว่าที่จริงแล้วแทบจะไม่มีใครคาดคิดเลยว่า คณะรัฐประหาร คสช. จะมีชีวิตอยู่ได้นานเช่นนี้

    เนื่องจากรัฐบาลทหารก่อนหน้านี้มีอายุอยู่ไม่นานนัก ผู้นำทหารในอดีตเข้าสู่เวทีการเมืองด้วยภารกิจในการล้มล้างทั้งรัฐบาลเก่าและกติกาการเมืองเดิม และสร้างกติกาใหม่ด้วยการร่างรัฐธรรมนูญใหม่

    พร้อมกับเตรียมการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองด้วยการเลือกตั้ง

    บทประเมิน

    รัฐบาลทหารในอดีตหลังจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในปี 2516 ตระหนักดีว่า ยิ่งอยู่ในอำนาจนาน ก็ยิ่งเป็นผลร้ายทั้งต่อรัฐบาลทหาร และต่อสถาบันกองทัพโดยตรงอีกด้วย เพราะความล้มเหลวของรัฐบาลทหารในการบริหารประเทศย่อมมีผลกระทบต่อกองทัพโดยตรงไม่มากก็น้อย

    แต่จะปฏิเสธว่าไม่มีผลกระทบต่อสถาบันกองทัพเลยนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

    เพราะรัฐบาลทหารดำรงอยู่ได้ด้วยการค้ำจุนของกองทัพ และบุคลากรในรัฐบาลก็มาจากกองทัพ

    จนต้องยอมรับว่ากองทัพมีสถานะเป็น "เครื่องมือหลัก" ของการยึดอำนาจและเป็น "เสาหลัก" ของรัฐบาลทหาร เพราะหากจินตนาการถึงสภาวะที่รัฐบาลทหารไม่มีกองทัพเป็นเครื่องค้ำประกันและเป็นเครื่องมือในการควบคุมทางการเมืองแล้ว ชีวิตของรัฐบาลทหารเช่นนี้คงสั้นอย่างมาก

    นอกจากนี้ คงต้องยอมรับความเป็นจริงที่ว่า ด้วยความเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ทำให้มีข้อจำกัดในตัวเองอย่างมากไม่ว่าจะมองในเวทีภายในหรือภายนอกก็ตาม

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีสถานะที่เป็นรัฐบาลทหารนั้น ไม่มีความชอบธรรมในตัวเองตั้งแต่แรกเริ่มของการยึดอำนาจแล้ว

    ฉะนั้น ความสำเร็จในการยึดอำนาจจึงเป็นคนละประเด็นกับความชอบธรรมทางการเมืองของรัฐบาล

    และแม้นว่าจะสร้างภาพรัฐบาลทหารว่าเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" เพื่อให้เกิดความเชื่อว่าอำนาจอยู่ในมือของฝ่ายรัฐประหารเป็นอำนาจที่ชอบธรรมในตัวเอง

    แต่ก็ถูกท้าทายจากฝ่ายต่างๆ อย่างมาก อีกทั้งความท้าทายอย่างสำคัญมาจากความเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิทัศน์" ทางการเมืองทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นโลกสมัยใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่

    ดังนั้น แม้จะโฆษณาชวนเชื่อง่ายๆ ในสังคมไทยว่า ต่างชาติ "เข้าใจดี" ถึงการยึดอำนาจในไทย ก็อาจจะไม่ชวนเชื่อเท่าใดนัก

    อีกทั้งเมื่อรัฐบาลทหารไม่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เศรษฐกิจ การขาดการยอมรับในประชาคมการเมือง การไม่บรรลุภารกิจตามที่ได้ประกาศไว้เป็นเหตุผลในการรัฐประหาร เช่น การสร้างความปรองดอง เป็นต้น เว้นแต่จะพยายามสร้างจุดขายด้วยการโฆษณาว่า การคงอยู่ของรัฐบาลทหารมีส่วนในการทำให้เกิดความสงบในสังคม

    แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ความสงบเช่นนี้คือการใช้อำนาจบังคับของกองทัพใช่หรือไม่

    และถ้าใช่แล้ว ความสงบภายใต้ "อำนาจปืน" ของรัฐบาลทหารเช่นนี้จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยในอนาคตได้อย่างไร

    ประเด็นนี้ยังทิ้งปัญหาให้ต้องขบคิดต่อไปว่า แล้วเราจะทำอย่างไรกับความขัดแย้งที่กำลังหยั่งรากลึกมากขึ้นในสังคมไทย

    และยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า การยึดอำนาจไม่น่าจะใช่เครื่องของการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอย่างที่บางคนคาดหวังไว้ อีกทั้งรัฐบาลทหารเองก็ไม่มีขีดความสามารถในการแก้ปัญหาเช่นนี้

    และในอีกด้านหนึ่งแทนที่รัฐบาลทหารจะช่วยแก้ปัญหา ก็กลับกลายทำตัวเป็น "คู่ขัดแย้ง" เสียเองอีกด้วย สภาพดังกล่าวนี้ทำให้การเมืองไทยในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา อยู่ในสภาพเหมือน "ติดกับ" อยู่กับที่ และไม่มีขีดความสามารถในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคต

    ผลสืบเนื่องเช่นนี้ทำให้รัฐบาลทหารประสบปัญหาความน่าเชื่อถืออย่างมากในทางการเมือง อีกทั้งเมื่อถูกถาโถมด้วยเรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์และเรื่องทรัพย์สินของผู้นำทหารแล้ว

    ความน่าเชื่อถือเช่นนี้ก็ยิ่งลดลงไปกับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล และยิ่งเตรียมการที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปในอนาคตแล้ว รัฐบาลทหารในปีปัจจุบันก็ดูจะอยู่ในสภาพที่ "ทุลักทุเล" เต็มที

    แม้รัฐบาลทหารยังมีกองเชียร์ที่เข้มแข็งจากผู้สนับสนุนเดิม

    แต่เสียงเชียร์ก็ดูจะลดลง แตกต่างจากปีแรกๆ หลังรัฐประหารอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันก็ไม่มีหลักประกันว่า โอกาสของการเป็นรัฐบาลใหม่ในอนาคตจะเป็นจริงเพียงใด ทั้งที่พยายาม "เดินสาย" เข้าหากลุ่มการเมืองเก่า จนเกิดความชัดเจนถึงการกำเนิดของพรรคทหารในอนาคต

    และขณะเดียวกันก็กำลังเป็นความรู้สึกว่า ผู้นำทหารกำลังเดินบนถนนสายเก่าที่พวกเขาเคยทำลายทิ้งไปแล้ว

    และวิ่งกลับไปหาผู้คนแบบเดิมที่พวกเขาเคยประจานและประณามอย่างเสียๆ หายๆ มาแล้ว

    บทสำรวจ

    ในโอกาสของวาระครบรอบสี่ปีของรัฐบาลทหาร บทความนี้จะทดลองสำรวจผลกระทบและผลสืบเนื่องในเชิงมหภาค โดยจะนำเสนอเป็นประเด็นสำคัญๆ 5 ประการดังต่อไปนี้

    1. สถานะด้านสิทธิที่ถดถอย (ดูได้จากดัชนีของ Freedom House) ซึ่งจะเห็นได้ชัดใน 4 เรื่อง คือ 1) สิทธิเสรีภาพ (civil rights) 2) สิทธิมนุษยชน 3) สิทธิทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ เช่น การชุมนุม การรวมกลุ่ม เป็นต้น และ 4) เสรีภาพของสื่อมวลชน

    2. สถานะทางการเมืองของทหารและการขยายบทบาทของกองทัพอย่างมาก ส่งผลสำคัญ 3 ประการคือ 1) การขยายบทบาทของกองทัพในทุกภาคส่วนของสังคม จนประเทศมีภาพลักษณ์เป็น "รัฐทหาร" 2) กองทัพไร้ความเป็นทหารอาชีพ (military professionalism) และกองทัพถูกใช้เป็นกลไกของรัฐบาลทหาร 3) นายทหารบางส่วนถูกแปรสภาพเป็น "ทหารการเมือง" หรือกลายเป็นสิ่งที่นักรัฐศาสตร์เรียกว่า "นักการเมืองในเครื่องแบบ" (politician in uniform)

    3. สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลทหารแล้วมีสภาพที่สำคัญ 4 ประการดังนี้ 1) รัฐบาลทหารไม่มีขีดความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับมหภาค และมีผลสืบเนื่องต่อสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม 2) รัฐประหารไม่ใช่ปัจจัยเชิงบวกในการพัฒนาเศรษฐกิจ 3) รัฐบาลทหารไม่ใช่ปัจจัยส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ และ 4) รัฐบาลทหารไม่ใช่ปัจจัยในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

    4. สถานะของความเป็นรัฐบาลเผด็จการทหารทำให้ประเทศขาดคุณลักษณะทางการเมือง 5 ประการ ได้แก่ 1) นิติรัฐ 2) ธรรมาภิบาล 3) ความพร้อมในการถูกตรวจสอบ (accountability) 4) ความโปร่งใส และ 5) การตรวจสอบและถ่วงดุล

    5. สถานะในเวทีระหว่างประเทศได้รับผลกระทบโดยตรงจากการรัฐประหารที่เกิดขึ้น ดังนี้ 1) การไม่ได้รับการยอมรับในประชาคมระหว่างประเทศจากการรัฐประหาร 2) การแสวงหาการยอมรับจากรัฐมหาอำนาจด้วยการปรับทิศทางของระบบพันธมิตรทางยุทธศาสตร์

    และ 3) การใช้การจัดหายุทโธปกรณ์เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ

    บทประมาณการ

    ในช่วงปลายทางก่อนที่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองจะเกิดขึ้นได้จริงนั้น รัฐบาลทหารจึงต้องแสวงหาหลักประกันของชัยชนะในอนาคต ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยสำคัญต่างๆ ดังนี้

    1. สร้างกลไกรัฐธรรมนูญเพื่อความได้เปรียบทางการเมือง และออกแบบให้การเมืองไทยในอนาคตมีรูปแบบเป็น "ระบอบพันธุ์ทาง" (hybrid regime) ที่ผสมผสานระหว่างการเลือกตั้งกับบางส่วนของระบอบอำนาจนิยมเข้าด้วยกัน หรืออาจเรียกว่าเป็น "ระบอบผสม" ในการเมืองไทย

    2. กำหนดกติกาและเงื่อนไขทางกฎหมายเพื่อจำกัดบทบาทและการเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้าน

    3. กำหนดให้มีสมาชิกวุฒิสมาชิกแต่งตั้ง 250 คนเพื่อเป็นฐานเสียงโดยตรงในสภาในอนาคต และยังเป็นหลักประกันต่อการเลือกผู้นำทหารให้กลับมาเป็นผู้นำรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

    4. ออกแบบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นหลักประกันว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอนาคตจะไม่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ของตัวเองได้ และต้องเดินไปตามกรอบที่รัฐบาลทหารได้ออกแบบไว้เป็นระยะเวลา 20 ปี (ห้าสมัยของรัฐบาลเลือกตั้ง)

    5. ออกคำสั่งจัดบทบาทใหม่ของ กอ.รมน. เพื่อสร้างสภาวะ "รัฐซ้อนรัฐ" และใช้เป็นกลไกในการควบคุมทางการเมืองในชนบท

    6. การดำรงบทบาทและอำนาจของรัฐบาลทหารในช่วงก่อนที่ระยะเปลี่ยนผ่านจะเกิดขึ้น ทำให้การเปลี่ยนผ่านในอนาคตมีความยุ่งยากในตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องจะต้องมีฐานทางการเมืองในรูปแบบของ "พรรคทหาร" รองรับการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งในรูปแบบของระบอบพันธุ์ทาง หรือการเมืองแบบผสมที่ยังคงมีผู้นำรัฐบาลเป็นทหาร

    7. การเตรียมตัวทางการเมืองของรัฐบาลทหารทำให้พวกเขาจำยอมที่จะต้องเดินไปบนถนนสายการเลือกตั้ง อันเป็นถนนสายเดิมพวกเขาทำลายไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว และในการนี้จำเป็นต้องสร้างพรรคการเมืองด้วยการดึงกลุ่มคนบางส่วนที่พวกเขาเคยทั้งประณามและประจานแล้วเข้ามาเป็นพวก อันเป็นสัญญาณโดยตรงถึงการก่อตัวของพรรคทหาร

    อย่างไรก็ตาม การเตรียมเครื่องมือในข้างต้น ทำให้เกิดผลสืบเนื่องที่สามารถคาดได้ดังนี้

    1. แม้ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ผู้นำรัฐบาลทหารจะประกาศเสมอว่า "ไม่สืบทอดอำนาจ" แต่การดำเนินการทางการเมืองกลับเป็นคำตอบในตัวเองอีกแบบหนึ่ง ประกอบกับคำสัญญาเรื่องการเลือกตั้งก็มักจะถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีความชัดเจนในตัวเอง สภาพเช่นนี้ได้ลดทอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาลทหารลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และรัฐบาลทหารได้กลายเป็นปัจจัยของความไม่แน่นอนในตัวเองอีกด้วย

    2. ผลจากปัญหา 7 ประการในข้างต้นจะทำให้การเมืองไทยในอนาคตเป็น "การเมืองของความอ่อนแอ" ด้วยการออกแบบให้ทั้งพรรคการเมืองและประชาสังคมมีความอ่อนแอ จนไม่มีพลังมากพอที่จะทานกับการกลับมาของรัฐบาลทหารในรูปแบบใหม่ด้วยกระบวนการเลือกตั้ง

    3. การออกแบบเช่นนี้ยังเป็นความหวังให้ผู้นำรัฐประหารเดิมมีอำนาจและขีดความสามารถในการควบคุมทางการเมืองในสังคมไทยต่อไป หรือเป็นความต้องการที่จะทำให้ระบอบการเมืองใหม่ยังต้องพึ่งอำนาจของฝ่ายทหาร คือเป็น "ประชาธิปไตยที่ต้องได้รับการปกป้อง (จากทหาร)" หรือที่การเมืองในละตินอเมริกาเรียกว่า "Protected Democracy" อันเป็นประชาธิปไตยแบบที่ทหารยังคงมีบทบาทอยู่

    4. สิ่งเป็นความคาดหวังสำคัญสำหรับผู้นำรัฐบาลทหารก็คือ ระบอบใหม่หลังจากการเลือกตั้งจะอยู่ในลักษณะที่เป็น "กึ่งเผด็จการ" (semi-authoritarianism) ด้วยการคงสิ่งที่เป็นองค์ประกอบของระบอบอำนาจนิยมไว้ต่อไป และแม้นว่าฝ่ายนิยมประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้ง แต่องค์ประกอบเหล่านี้จะยังคงอยู่ต่อไป

    จนส่งผลให้กระบวนการฟื้นคืนระบอบประชาธิปไตยมีอุปสรรคมากขึ้นในอนาคต

    บทปิดท้าย

    จากปัจจัยต่างๆ ในข้างต้นทำให้เห็นชัดว่า สี่ปีที่ผ่านมาประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะ "จมปลัก" และพาตัวเองออกจากปัญหาการเมืองและความขัดแย้งที่รุมเร้าไม่ได้ และยังถูกโถมด้วยปัญหาเศรษฐกิจ

    อีกทั้งความหวังเรื่องการปฏิรูปก็กลายเป็นเพียงอาการ "ฝันกลางวัน" ไปเสียแล้ว

    ว่าที่จริงแล้วสภาพของการจมปลักทางการเมืองก็คือ การเป็น "คนป่วยทางการเมือง" นั่นเอง

    ถ้าเช่นนั้นแล้วคำถามสำคัญก็คือ ประเทศไทยจะ "หายป่วย" ได้อย่างไร หรือยังจะก้าวสู่อนาคตด้วยความ "ทุลักทุเล" ต่อไปอีกเพียงใด

    ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเวลาเช่นนี้เป็นการก้าวสู่ปีที่ห้าด้วยความผันผวนและไม่แน่นอนอย่างยิ่ง

    จนอาจกล่าวสรุปด้วยสำนวนเก่าง่ายๆ ว่า สี่ปีที่ผ่านมาเป็นดัง "เวลาที่หายไป" ของสังคมไทย…

    "เสียของ" หรือเปล่าไม่ชัดเจน แต่ "เสียเวลา" แน่นอน เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

    สุดท้ายแล้ว สังคมการเมืองไทยจะต้องกลับสู่การเลือกตั้ง ไม่มีทางเป็นอื่น แม้ว่ากำหนดการเลือกตั้งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของความไม่แน่นอนก็ตามที!

    เอนก ซานฟราน 10 มิย 2561 "ความเน่าเฟะ แบบ 'ไทย ๆ"

    เอนก ซานฟราน 10 มิย 2561 "ความเน่าเฟะ แบบ 'ไทย ๆ"
    https://youtu.be/pMeKMO6wppI
    https://youtu.be/iQy2y3diDNI

    ****************************
    หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
    *** ลิ้งค์ใหม่ล่าสุด (๑๙ ก.พ. ๒๕๖๑):
    https://goo.gl/forms/eUAxdUxObZDKMvvi2
    ลิ้งค์เก่าที่อาจจะโดนบล็อค:
    http://tinyurl.com/o2rzao8
    หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

    หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม) 2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ 4. อีเมล์ 5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์ 6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก
    _
    Copyright notice:
    This video is protected under the "Fair Use Copyright Act of 1976" for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.

    "เผยคำสั่ง ร. 10 - ประยุทธ์ เงาหัว 'ขาด'!!!" โดย ดร. เพียงดิน รักไทย ๘ มิ.ย. ๒๕๖๑

    "เผยคำสั่ง . 10 - ประยุทธ์ เงาหัว 'ขาด'!!!" โดย ดร. เพียงดิน รักไทย มิ.. ๒๕๖๑


    ---------------------
    ***Download ร่างจดหมาย เพื่อส่งผู้นำนานาชาติต่าง ที่ http://tinyurl.com/gsetacg
    ***โปรดช่วยกันกระจายและส่งให้มากที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ
    สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน 
    ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้
    หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt
    ****ลิ้งค์ล่าสุด  http://tinyurl.com/gssuvm2
    และรายงานการปฏิบัติงานและความคืบหน้าเครือข่าย ได้ที่ 4everche@gmail.com
    ----------------------
    สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

    Copyright notice:
    This video is protected under the "Fair Use Copyright Act of 1976" for the purposes of education, news reporting, research, criticism and public discussion.