PPD's Official Website

Tuesday, May 31, 2016

สุดอึ้ง! ไพบูลย์ นิติตะวัน ปธ.ปฏิรูปศาสนา ที่แท้ “อดีตที่ปรึกษาหญิงเป็ด” ผู้ว่า สตง.ฉาว เบิกงบหลวงทัวร์งานกฐิน

Credit: ลิ้งค์ข้างล่าง

แฉประวัติที่โคตรเลวของผู้ที่เป็น ประธานสภาปฏิรูปพระพุทธศาสนา
แฉประวัติที่โคตรเลวของผู้ที่เป็น

ประธานสภาปฏิรูปพระพุทธศาสนา

สุดอึ้ง! ไพบูลย์ นิติตะวัน ปธ.ปฏิรูปศาสนา ที่แท้ "อดีตที่ปรึกษาหญิงเป็ด" ผู้ว่า สตง.ฉาว เบิกงบหลวงทัวร์งานกฐิน

เครือข่าย กปปส.ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความแตกแยกให้ประชาชนคนในชาติ ภายหลังจากชุมนุมสร้างความวุ่นวาย จนเกิดการทำลายประชาธิปไตย ฉีกรัฐธรรมนูญโดย คสช.ไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ขณะนี้ดูเหมือนเครือข่าย กปปส.ซึ่งเพิ่งได้ใจ หลังสามารถคอนโทรลจังหวะการเมือง ของ "อาณาจักร" สั่งรัฐประหารล้มประชาธิปไตยไปได้ ก็เปิดฉากรุกแผ่อิทธิพล หลังขยายอำนาจเข้าครอบครอง "ศาสนจักร" อีก 1 ดินแดน

ล่าสุดเป็นคิวของ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ที่ใช้ตำแหน่ง "ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)" ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร คสช. 


เปิดฉากเข้าโจมตี "มหาเถรสมาคม (มส.)" องค์กรหลักของพระพุทธศาสนา เปิดทางให้ "พุทธะอิสระ" โล้นนอกรีต ปิดถนน-ยึดสถานที่ราชการ-รังควานประชาชน ออกมาระดมพลบุกกดดันมหาเถระสมาคมอย่างหนัก 


จนเกิดกลายเป็นวิกฤตวงการสงฆ์ และพระพุทธศาสนา ครั้งใหญ่ และส่อว่าจะรุกลามกลายเป็นความแตกแยกครั้งสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ

จนเรียกได้ว่า สาวก กปปส.เหล่านี้เหยียบย่างไปในจุดไหน ความฉิบหายเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า!

โดยจากการตรวจสอบพบว่า"หัวหมู่ทะทวงฟัน" เปิดฉากวางระเบิด "มหาเถรสมาคม" ในนามของ "ประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง และมาตรการปกป้องพิทักษ์พระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)" นั้น ก็คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สปช.ซึ่งเป็นอดีต ส.ว.สรรหา หลายสมัย

โดยมีข้อมูลปรากฏว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน นั้น เกิด 15มกราคมพ.ศ.2497

จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาบริหารรัฐกิจ ประวัติการทำงานเดิมนั้นเป็นนักธุรกิจ 


แต่ปรากฏข้อมูลว่า "หญิงเป็ด" จารุวรรณ เมณฑกา ในขณะที่ยังมีอำนาจเป็น "ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่า สตง.)" ได้แต่งตั้งให้ "นายไพบูลย์ นิติตะวัน" เป็นที่ปรึกษาสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ของ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา

และหลังจากนั้น "สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)" ของ "หญิงเป็ด" ก็ส่งชื่อ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ให้มารับตำแหน่ง "ส.ว.สรรหา" ยุค "รัฐประหาร คสช." ปี 2551

ที่สำคัญ เมื่อครั้งที่ "จารุวรรณ เมณฑกา" มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ก็ได้ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" คนนี้ ในตำแหน่ง "ที่ปรึกษาวุฒิสภา" ทำหนังสือยืนยันคุณสมบัติให้ "หญิงเป็ด" นั่งเก้าอี้ "ผู้ว่า สตง." ต่อไป แม้การกระทำดังกล่าวของ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" จะครหาว่า เป็นการไม่เหมาะสม และไม่ใช่หน้าที่ ก็ตาม

ซึ่งเหล่านี้ยืนยันความแนบแน่นระหว่าง "ไพบูลย์ นิติตะวัน" กับ "อดีตผู้ว่า สตง." ที่ชื่อ "จารุวรรณ เมณฑกา" ได้เป็นอย่างดี

แต่ที่สำคัญคือ "อดีตผู้ว่า สตง." อย่าง "จารุวรรณ เมณฑกา" ซึ่งเอื้อเฟื้อกันไปมาและใกล้ชิดอย่างยิ่งกับ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" กลับกลายเป็นบุคคลที่มีประวัติสุดฉาว

โดยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลการประชุม ป.ป.ช.ว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา สมัยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) 

ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีการตั้งงบประมาณ 4.7 แสนบาท จัดอบรมโครงการ สตง. ที่โรงแรมซิตี้ปาร์ค จ.น่าน แต่ไม่ได้จัดสัมมนาจริง 

โดยจากการไต่สวนพยานบุคคลรวม 48 ราย พบว่า สตง.ได้จัดพิธีถวายผ้ากฐิน และงานทอดกฐินที่วัดพญาภู และวัดพระธาตุช้างค้ำ จ.น่าน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546ขณะเดียวกันได้จัดงานสัมมนาเรื่อง "สตง.ในความคิดเห็นของวุฒิสภา" ในวันเดียวกัน ที่โรงแรมซิตี้ปาร์ค 

โดยระบุว่า เป็นการจัดสัมมนาทั้งวัน แต่จากการสอบสวนไม่พบว่ามีการจัดงานสัมมนาดังกล่าว โดยคณะ สตง.ได้เดินทางไปร่วมพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทานและถวายกฐินสามัคคีที่วัด 3 แห่ง จ.น่าน จนกระทั่งเวลา 16.00 น. จึงเดินทางไปยังสโมสรหมู่บ้านสันติภาพ 2 ซึ่งมีการตั้งเวทีจัดเลี้ยงต้อนรับคุณหญิงจารุวรรณ ไม่มีการแจกเอกสาร หรือระดมความเห็นในงานสัมมนาแต่อย่างใด 

พฤติการณ์ดังกล่าวมีเจตนานำคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ สตง.ไปถวายผ้าพระกฐิน โดยจัดโครงการสัมมนา เพื่อให้เบิกค่าใช้จ่ายจากทางราชการได้โดยมิชอบ

ป.ป.ช. จึงมีมติว่าคุณหญิงจารุวรรณ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 157

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน2557 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญาฟ้องคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1กับพวก ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 จากกรณีการจัดสัมมนาครั้งดังกล่าว

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ "ประธานคณะกรรมการปฏิรูปศาสนา"จะใกล้ชิดสนิทสนม และเป็น "ที่ปรึกษา" ให้กับ พวกที่ถูกครหาเบิกงบหลวงไปทัวร์งาน "กฐิน" !

นี่แค่ความชั่วร้ายบางอย่างที่ผุดโผล่มาให้เห็นของบุคคลที่สังคมยกย่องและเชื่อฟัง นอกจากหากินบนหัวคนแล้ว ยังเหยียบย่ำสิ่งที่สูงที่สุดของชาวพุทธ นั่นคือการทำลายพระเกียรติของผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และยังมีจิตใจอันชั่วช้าที่พยายามจะล้มคณะสงฆ์ไทยทั้งแผ่นดิน 

โดยไม่ได้คำนึงผีปู่ย่า ตายาย บรรพบุรุษไทยที่พยายามกอบกู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนามาให้อยู่ประเทศไทยได้ขนาดนี้ อีกไม่นานนามนี้อาจจะลงหนังสือพิมพ์หน้า 1 ก็ได้ พอก้าวพ้นบันไดเหยียบลงพื้นดิน แล้วพื้นดินแยกออกพร้อมสูบร่างคนโคตรเลวที่เรียกว่า พระเทวทัตยังต้องเรียกพี่ก็ได้...

แม้ความชั่วของคนทั้งชาติรวมกัน ยังน้อยกว่าความเลวของคนคนนี้เพียงคนเดียวคนเช่นนี้หรือ? คือคนที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องมารับฟัง เพื่อล้มเลิกไม่ให้มีสมเด็จพระสังฆราช.....ใครเชื่อก็เลวยิ่งกว่านะ สิบอกให้







http://clearmai.blogspot.com/2016/03/blog-post_3.html?m=1

No comments:

Post a Comment