PPD's Official Website

Friday, December 30, 2016

ซีพีก้าวสู่ตลาดโลกอาหารแช่แข็งสหรัฐอเมริกา

ซีพีก้าวสู่ตลาดโลกอาหารแช่แข็งสหรัฐอเมริกา
#คราวต่อไปคงต้องซื้อวอลล์มาร์ท

ซีพีเอฟเข้าซื้อกิจการเบลลิซิโอ มูลค่า 1.075 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
โดย ฐานเศรษฐกิจ - 23 December 2559148

cpf1223-1-2ซีพีเอฟเข้าซื้อกิจการเบลลิซิโอ มูลค่า 1.075 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นการซื้อธุรกิจอาหารในตลาดสหรัฐฯเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ

วันที่ 23 ธันวาคม 2559  กรุงเทพฯ, มินนิอาโพลิส – บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ประกาศว่าได้ทำการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เบลลิซิโอ ฟู้ด อิ้งค์ (Bellisio) จากบริษัท เซ็นเตอร์ พาร์เนอร์ เมเนจเม้นท์ แอลแอลซี (Centre Partners) ตามเงื่อนไขที่ได้รับการเห็นชอบแล้วจากคณะกรรมาธิการการค้า และกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (the Federal Trade Commission and Department of Justice of the United States) โดย ซีพีเอฟ ได้ทำการซื้อหุ้น 100% ในบริษัท เบลลิซิโอ ด้วยมูลค่ารวม 1.075 พันล้านเหรียญสหรัฐ

การควบรวมกิจการในครั้งนี้ เป็นการรวมกันระหว่างบริษัทอาหารแช่แข็งที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดของสหรัฐฯ กับบริษัทผู้ผลิตอาหารครบวงจรชั้นนำที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศไทย เบลลิซิโอ เป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารแช่เข็งแบบ single serve ภายใต้ตราสินค้า มิชิลิน่าส์ (Michelina's), แอทคินส์ (Atkins), บอสตัน มาร์เก็ต(Boston Market), ชิลีส์ (Chili's), อีทติ้งเวล (EatingWell), และ อีท (Eat!) ขณะเดียวกันยังเป็นผู้ผลิตร่วมสินค้าภายใต้ แบรนด์ของลูกค้า (private label) และผู้ประกอบการธุรกิจอาหารต่างๆ ขณะที่ ซีพีเอฟ เป็นผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมชั้นนำในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิค ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของโภชนาการอาหารปลอดภัย โดยธุรกิจของบริษัทครอบคลุมฟาร์มปศุสัตว์ (หมู, ไก่เนื้อ, ไก่ไข่ และเป็ด) สัตว์น้ำ (กุ้งและปลา) นอกจากนี้ ยังทำธุรกิจครบวงจรที่เกี่ยวเนื่องกับอาหารสัตว์, พันธุ์สัตว์, ฟาร์มปศุสัตว์, การแปรรูปเนื้อสัตว์, อาหารกึ่งสำเร็จรูป และเนื้อสัตว์ปรุงสำเร็จ, ผลิตภัณฑ์อาหาร, อาหารพร้อมรับประทาน และยังรวมถึงเนื้อสัตว์, การส่งสินค้าให้กับผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการภัตตาคารอาหาร

"เรามีความตื่นเต้นและยินดีที่สุดกับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ ซีพีเอฟ ในครั้งนี้ ซึ่งจะส่งต่อศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจและการเติบโตของ เบลลิซิโอ ในอนาคต" มร.โจแอล คอนเนอร์  ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบลลิซิโอ กล่าวและว่า "ซีพีเอฟ เป็นบริษัทที่มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นซึ่งเราสามารถแบ่งปั่นประสบการณ์ที่มีค่าในเรื่องของคุณภาพและนวัตกรรมด้วยกัน"

"การซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า ซีพีเอฟ ได้ก้าวผ่านขึ้นมาเป็นผู้นำที่ใหญ่ที่สุดในการตลาดอาหารของโลก ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของบริษัทในการเดินหน้าสู่เป้าหมายธุรกิจสู่การเป็น "ครัวของโลก" อย่างไม่หยุดยั้ง นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวและว่า "มร.โจแอล และทีมคณะทำงานได้สร้าง เบลลิซิโอ ขึ้นมาให้เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะแบรนด์สินค้าที่ได้รับความนิยม และเรา (ซีพีเอฟและเบลลิซิโอ) จะดำเนินธุรกิจร่วมกัน เพื่อให้ธุรกิจเบลลิซิโอ เติบโตต่อเนื่องต่อไป ซึ่งในการควบรวมกิจการในครั้งนี้จะทำให้เราสามารถบุกตลาดอเมริกาเหนือและสามารถสร้างสรรค์สินค้าเพื่อผู้บริโภคในสหรัฐ ขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นด้วย"

"พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลสัมฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นความสำเร็จของ เบลลิซิโอ ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ภายใต้ทีมบริหารงานนำโดย มร.โจแอล คอนเนอร์ เราเชื่อว่า ซีพีเอฟ เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญของ เบลลิซิโอ ที่จะเติบโตไปด้วยกันในอนาคต" มร.บรู๊ซ พอลแลค หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัท เซ็นเตอร์ พาร์เนอร์ส กล่าว

ทั้งนี้ ทีมบริหารเบลลิซิโอและพนักงานในปัจจุบันจะยังคงปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งของตนเองต่อไป และขอยืนยันกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ทุกรายว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม โดยเมืองมินนิอาโพลิสจะยังคงเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่บริหารจัดการธุรกิจในทุกภูมิภาคด้วย.

No comments:

Post a Comment