วันก่อนเอาเรื่องสนธิ ลิ้มฯ ชำแหละซีพีอย่างหนัก วันนี้กระแสข่าวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาแรงมาก จึงขอยกมาให้พี่น้องอ่านเป็นข้อมูลครับ
ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3 แสนล้านแล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ
เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEO ของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการด้วยเงิน 3 แสนล้าน
มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครื่อเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืชพลังงาน นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยี่สื่อสาร ทั้งโทรบ้าน โทรมือถือ internet และมีสื่อในมือ คือ truevision สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีกค้าส่งทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร มี 7-11 ส่วนห้างค้าปลีก ค้าส่ง makro และ Lotus
ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK? ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าข่าว "เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท
ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีกและครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู" ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่4 ในรอบ 2 ปี เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง
สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท แมคโคร 129,780 ล้านบาท รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก
ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4 ก่อนที่จะไปซื้อ L&H แบงก์ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5
กลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลย
เถ้าแก่CPเชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง)
ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น เศร้า
เศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง ใครฯก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆรัฐบาลไม่ยอม อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้
ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่นี้ makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบ ที่นี้ รายย่อยทำได้ถูกกว่า สู้เขาไม่ได้ ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องฯตัวหนึ่งเท่านั้น
สำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วย
มีอีก จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี พอยางล้นตลาดราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอก
สมัยก่อนตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคารแล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่ CP แบ่งให้บ้าง
ต่อมาระยะหนึ่ง CP ก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืนเพื่อ CP จะทำเอง ร้านไหนยอมขายก็จบไป ร้านไหนไม่ขาย CP ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง
ถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม หน้าปากซอยบ้านผม มี 7-11 3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร
คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดการ ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง
คำพูดดูสวยหรู แต่ในใจ เราจะอยู่กับชาวไร่ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์ อย่างพันธมิตร โดยกูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไป
กูมีแต่ได้กับได้ บริษัทอื่นเจ๊งหมด โดยเฉพาะ ร้านค้า sme ทั้งหลาย
สนับสนุนเลี้ยงไก่ ไข่ ปลูกยางแล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกที
ทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายฯมากฯให้กับร้าน 7-11 เช่น นาโนแบงคิ้ง ขายยา ขายล็อตเตอรี่ ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้ว
ทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่นยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไร
ตอนมี 7-11 ใหม่ๆ คนขับรถลูกน้องเพื่อนลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 แค่ 1-2 ปี Volume 7-11 สูงมาก CP เลิกจ้าง ทำ logistics เอง ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน แต่หากได้กำไรดีจะ Take over
เฟสบุ๊ก Pat Hemasuk
ระบบการค้าที่ไร้จริยธรรมหวังเพียงผลกำไรนั้นจะทำลายสังคมไม่ต่างกับฝูงตั๊กแตนที่ลงกินไร่จนหมดแล้วบินจากไปกินไร่อื่นต่อ แต่ถ้าเป็นการค้าที่ไม่ได้ข้ามชาติแล้วยังใช้ระบบฝูงตั๊กแตนกินไร่ในการทำธุรกิจ ฝูงตั๊กแตนจะต้องอดตายไปพร้อมกับไร่นั้น
ซีพี ก็เช่นกัน ถ้ากินประเทศไทยจนหมดแล้วก็คงต้องตายไปพร้อมกับประเทศ เพราะ ซีพี เองเคยผันตัวเองออกไปทำธุรกิจข้ามชาติแล้วไปไม่รอด เพราะรัฐบาลประเทศนั้นๆต่างก็ดูแลไม่ให้เกิดการผูกขาดขึ้นในประเทศของตัวเอง ถ้าผิดจากแนวทางถนัดของ ซีพี ก็จะแข่งขันแบบเป็นธรรมกับใครไม่เป็น
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงประเทศแม็กซิโกและอาเจนติน่าที่โดนระบบการค้าทุนสูงเข้าถล่มอุตสาหกรรมเษตรของตัวเองจนล่มสลายมาแล้ว จนทำให้เกษตรกรกลายมาเป็นแรงงานราคาถูกไร้อนาคตจากอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าเข้ากำหนดตลาดจนเกษตรกรรายย่อยอยู่ไม่ได้ หลายสิบปีผ่านไปทั้งชุมชนและวัฒนธรรมของประเทศเปลี่ยนไปแบบที่เรียกกลับมาเหมือนเดิมอีกไม่ได้ บ้านแตกสาแหรกขาด คนหนุ่มสาวในบ้านต้องออกไปขายแรงงานทิ้งเด็กและคนแก่ไว้ที่บ้านแทนที่จะทำการเกษตรเหมือนสมัยเก่าอยู่กันครบหน้ากับครอบครัว
มันคืออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าสมคบกับนักการเมืองที่ไม่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนของตัวเอง ทำลายรากฐานของประเทศจนสังคมดั่งเดิมของประชาชนอยู่ไม่ได้
ทุกวันนี้ประเทศไทยกับแม็กซิโกจะคล้ายกันที่สินค้าการเกษตรถูกคุมตลาดจากบริษัทที่ผูกขาด จนทำให้เกษตรกรกลายเป็นกรรมกรแรงงานบนที่ดินของตัวเอง เม็ดพันธุ์ แม่พันธุ์ ปุ๋ย อาหารสัตว์ ยาฆ่าแมลง จนถึงการบังคับทำสัญญาขายผลผลิตที่เกือบไม่เหลือเงินกำไร ขณะที่สังคมพื้นบ้านของเกษตรกรอ่อนแอลงไปทุกขณะ บริษัทผูกขาดก็กำไรมากขึ้นจนกลายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องเกรงใจ
ทั้งที่รัฐบาลเองก็สามารถออกกฎหมายผูกขาดทางการค้าออกมาใช้ปกป้องประชาชนได้ แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนเลยที่ออกมาทำกฎหมายนี้เพื่อบังคับใช้เพื่อหยุดการปล้นประชาชนทั้งประเทศแบบผูกขาด
ในสังคมเมืองเองก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากการผูกขาดโดยบริษัทใหญ่แบบนี้ ในแม็กซิโกเองห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างวอลล์มาร์ทเข้าไปผูกขาดการค้าปลีกค้าส่งไปจนคลุมทั้งพื้นที่จนหมด ไม่ต่างอะไรกับที่ห้างสรรพสินค้าแคร์ฟูเข้าครองการค้าปลีกและส่งของอาเจนติน่า จนมีอำนาจผูกขาดโดยสมบูรณ์ที่สามารถกำหนดส่วนแบ่งทางกำไร 85%-15% ระหว่างห้างและเกษตรกรหรือผู้ค้าส่งสินค้าเข้าห้างจนเกษตรกรและผู้ค้ารายย่อยอยู่ไม่ได้
ทุกวันนี้สังคมเมืองของประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน ผู้ค้ารายย่อยถึงกับต้องปิดตัวเองลงทั้งหมดเมื่อมีร้านสะดวกซื้อของ ซีพี เข้าไปตั้ง ซึ่งกินตลาดเข้าไประดับล่างจนถึงร้านอาหารที่ต้องสู้กับอาหารกล่อง ไปจนแม้แต่รถเข็นหมูปิ้งก็ยังต้องสะเทือนที่ร้านสะดวกซื้อของ ซีพี ก็ขายหมูปิ้งเช่นกัน แม้กระทั่งธุรกิจพื้นฐานแบบซักรีด ซีพี ก็เข้าไปจับตลาดในร้านสะดวกซื้ออีกแล้ว อุตสาหกรรมพื้นฐานหลายอย่างที่ส่งสินค้าเข้าไปขายก็โดนแย่งตลาดโดยมีของที่ห้างโลตัสและซีพี ผลิตติดตราของตัวเองออกมาแข่งบนหิ้งเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า แล้วไล่สินค้ายี่ห้อดั่งเดิมออกไปวางที่หิ้งหลังร้านแทน
เวลานี้ทั้ง เทสโก้โลตัส และ แม็กโคร ก็โดนซื้อจาก ซีพี ไปเรียบร้อยแล้วจะบอกว่าการค้าส่งและค้าปลีกเกือบทั้งประเทศ อยู่ในกำมือของบริษัทเดียวก็ว่าได้ การแข่งขันราคาสินค้าก็หมดไป จะตั้งราคาบวกกำไรอย่างไรก็ได้เพราะทุกอย่างอยู่ในมือหมดแล้วไม่ต่างกับแม็กซิโกและอาเจนติน่า นอกจากธุรกิจการสื่อสาร ผู้ให้บริการเครือข่า่ยโทรศัพท์นับล้านหมายเลข เคเบิลทีวีรายใหญ่ที่สุด เวลานี้ ซีพี บุกเข้าจับธุรกิจ ลอจิสติกส์ส่งของแข่งกับไปรษณีย์ไทย และกำลังจะมีธนาคารของตัวเองที่ทำธุรกรรมการเงินได้ในร้านสะดวกซื้อตลอด 24ชั่วโมง สามารถออกเครดิตการจับจ่ายได้จนถึงระดับล่าง และในเวลานี้กำลังมีความสนใจจะเข้าไปจับการลงทุนในระบบรถไฟระบบใหม่ที่กำลังจะสร้างอีก
ประเทศไทยยังเหลืออะไรอีก ตั้งแต่สังคมพื้นฐานเกษตรกรก็โดน ซีพี เข้าคุมกลไกทั้งหมดตั้งแต่ การผลิต การตลาด ทั้งซื้อและขาย จนเกษตรกรกลายเป็นกรรมกรราคาถูกรับจ้างปลูกหรือผลิตในที่ดินของตัวเอง สังคมพื้นฐานในเมืองก็โดนแทรกแซงการค้าปลีกจนไม่เหลือร้านค้าปลีกประจำถิ่นอีกต่อไปแล้ว สังคมพื้นฐานอุตสาหกรรมการผลิตรายย่อยก็โดนแทรกแซงจากการกีดกันสินค้า ลอกเลียนสินค้าออกขายแข่ง แม้กระทั่ง ถล่มราคาขายถูกกว่าทุนจนรายย่อยอยู่ไม่ได้ แล้วก็ขึ้นราคากลับสู่ปกติเมื่อไร้คู่แข่งแล้ว
รวมถึงปัญหาทำลายสิ่งแวดล้อมสนับสนุนทางอ้อมให้เกษตรกรบุกพื้นที่ป่าชุมชนที่เป็นพื้นที่ภูเขาเพื่อปลูกข้าวโพดและเผาซากไร่เก่าจนปัญหาควันไฟกลายเป็นปัญหาใหญ่ แม้กระทั่งสนับสนุนประมงอวนรุนผิดกฎหมายทางอ้อมที่ทำลายตัวอ่อนของสัตว์น้ำโดยรับซื้อปลาเล็กปลาน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัยมาเข้าโรงงานทำอาหารสัตว์
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมารัฐบาลและนักแสวงโชคทางการเมืองที่เปลี่ยนหน้ากันขึ้นมาบริหารประเทศจะมองไม่เห็นไม่รับรู้ผลกระทบทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง จากการผูกขาดการค้าของ ซีพี แต่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนจัดการกับปัญหาการผูกขาดอันนี้ ทั้งที่ประเทศเจริญแล้วที่มีกฎหมายดูแลประชาชนดีๆ เขามีกฎหมายป้องกันการผูกขาดการค้าทั้งนั้น ไม่ปล่อยให้บริษัทไหนหรือตระกูลใดกำอนาคตทางธุรกิจผูกขาดทั้งประเทศจนยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือ คนไทยมีเลือดนักสู้ไม่เหมือนคน แม็กซิกัน หรือ อาเจนไตน์ ที่คนไทยจะออกมาสู้ก่อนที่หลังจะชนฝา สักวันในเร็วๆนี้ถ้า ซีพี ยังทำเรื่องเอาเปรียบสังคมออกมาเรื่อยๆ วันนั้นคนไทยอาจจะลุกขึ้นมาสู้กับ ซีพี ..... ถ้ารัฐบาลยังพึ่งไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลทหารปัจจุบันนี้ก็ตาม ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ ผมคิดว่าประชาชนอาจจะต้องจับมือกันลุกขึ้นมาจัดการธุรกิจผูกขาดกันเอง
(ภิรมย์ ศรีจันทร์:ประเทศไทยมี พรบ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542ใช้บังคับอยู่นานแล้ว มีบทบัญญัติที่จะนำมาใช้แก้ไขได้ แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำ จะเป็นอย่างที่ว่ากันหรือไม่ว่า CP ไม่ได้มีแค่อำนาจเหนือตลาดเท่านั้น แต่มีอำนาจเหนือรัฐบาลทุกรัฐบาลอีกด้วย)