ทำไมรัชกาลที่ 1 สั่ง"เผาศพ" พระเจ้าตาก ในปี พ.ศ.2327 ?
วันที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 12:00:24 น.
โดย วิภา จิรภาไพศาล wipha_chi@yahoo.com มติชน 7 ส.ค.2555 Source: http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1344310768
ใครจะคิดว่ากษัตริย์ที่ถูกรัฐประหาร ต้องโทษจนสิ้นพระชนม์ ราชธานีกรุงธนบุรี และพระราชวงศ์ที่มีอายุแค่ 14-15 ปี ไม่ได้มีเวลาสร้างรากฐานมั่นคง ยิ่งใหญ่ หรือเป็นที่ยำเกรงเท่าใดนัก จะเป็นที่สนใจของผู้คนและสังคมมากกว่า 200 ปี นั่นเพราะอีกมุมหนึ่ง พระองค์คือกษัตริย์ผู้กอบกู้อิสรภาพของสยามจากพม่า ปรามินทร์ เครือทอง ค้นหามาเล่าสู่กันฟังในนิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ฉบับเดือนสิงหาคม ในบทความที่ชื่อว่า "สงสัย รัชกาลที่ 1 รออะไรถึง 2 ปี ก่อนขุดหีบศพพระเจ้าตากมาเผา?" เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการสำเร็จโทษพระเจ้าตากโดยตัดพระเศียร ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ แล้วนำพระบรมศพไปฝังที่วัดบางยี่เรือใต้ (วัดอินทาราม) ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 หลังจากนั้น 2 ปี (พ.ศ.2327) พระองค์มีพระราชดำรัสให้ "ขุดศพ" พระเจ้าตากขึ้นมาเผา อะไรคือเหตุผลในครั้งนั้น ปรามินทร์สงสัยและตั้งคำถามได้น่าสนใจ 1.เป็นการดำเนินการตามโบราณราชประเพณีหรือ?
ที่ผ่านมาการปราบดาภิเษกในอดีตของสยามประเทศมีมาหลายต่อหลายครั้ง อดีตกษัตริย์ที่สิ้นพระชนม์ด้วยการสำเร็จโทษหลายพระองค์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เกือบทั้งหมดน่าจะยังคงฝังอยู่ที่ "วัดโคกพระยา" เท่าที่มีหลักฐานในพระราชพงศาวดารไม่เคยมีการขุดพระบรมศพขึ้นมาบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระเพลิง หากยึดตามโบราณราชประเพณี จึงน่าสรุปได้ว่า "ไม่ขุด ไม่เผา ไม่ผิด" 2.เมื่อไม่มีพระราชประเพณีกำหนดไว้ก็ต้องถามว่า เช่นนั้นวัตถุประสงค์ในการนี้จึงมีคำตอบอยู่ระหว่าง "การเฉลิมพระเกียรติ" หรือ "การทอนพระเกียรติ" ซึ่งข้อมูลที่ผู้เขียน (ปรามินทร์) อ้างอิงจากการค้นคว้าพระราชพงศาวดารต่างๆ ดังนี้ พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน บันทึกว่า "ฝ่ายข้างกรุงเทพมหานครฯ สมเดจพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ดำรัศให้ขุดหีบศพเจ้ากรุงธนบุรี ขึ้นตั้งไว้ ณ เมรุวัดบางยี่เรือไต้ ให้มีการมโหรศพ แลพระราชทานพระสงฆบังสกุล เสดจพระราชดำเนิรไปพระราชทานเพลิงทั้งสองพระองค์" ส่วนพระราชพงศาวดารอื่นๆ บันทึกตรงกันว่าให้ "ขุดหีบศพ" ขึ้นตั้งไว้ ณ เมรุวัดบางยี่เรือใต้
พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตรวจชำระและทรงพระนิพนธ์อธิบาย มีข้อความเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานพระบรมศพพระเจ้าตากคือ "ดำรัสให้ขุดศพเจ้ากรุงธนบุรีขึ้นทำการฌาปนกิจ ที่เมรุวัดบางยี่เรือใต้" จากคำที่ใช้ไม่ว่า หีบศพ, บังสุกุล, ขุดศพ, ฌาปนกิจ แสดงให้เห็นว่าไม่มีการพระราชทานพระโกศอย่างศพเจ้า ไม่มีการใช้ราชาศัพท์ งานที่จัดเป็นเพียง "การเผาศพ" มากกว่า "การส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย" 3.นอกจากนี้ ประเด็นเรื่อง "เงื่อนเวลา" เหตุใดต้องรอเวลาถึง 2 ปี จึงค่อยจัดงาน ปรามินทร์ตั้งสมมติฐานไว้ว่า หนึ่ง คือหลังวันประหารพระเจ้าตาก 6 เมษายน ปี พ.ศ.2325 ทั้งปีเป็นช่วงเวลาการกวาดล้างบารมี, แบบแผน ฯลฯ ของกลุ่มการเมืองเก่าให้หมดจด หลังจากนั้น ยังต้องสถาปนาราชวงศ์ใหม่, แต่งตั้งขุนนาง, สร้างราชธานีใหม่, กำหนดระเบียบบ้านเมือง ฯลฯ เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มการเมืองเก่าหมดทางฟื้นคืน ก่อนระยะเวลา 2 ปี จึงเป็นไปได้ยาก ด้วยเหตุสนับสนุนดังนี้ หนึ่งคือพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ทรงเห็นแก่เจ้าฟ้าเหม็นหลานตาอันเป็นที่รัก พระราชโอรสของพระเจ้าตากกับเจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ (พระราชธิดาของรัชกาลที่ 1) ในวัย 5 พรรษาเริ่มรู้ความ และช่างซักถาม แต่ก็จัดงานศพให้แบบสามัญชนเท่านั้น หนึ่งเพราะต้องการปิดฉาก "อดีต" ของกรุงธนบุรีให้หมดจด เพื่อการเริ่มต้นเมืองใหม่ที่ดี โดยพิจารณาได้จากพระราชกรณียกิจต่างๆ ภายหลังงานฌาปนกิจพระเจ้าตากดังนี้ หลังจากการ "ฌาปนกิจ" พระบรมศพพระเจ้าตากในปี พ.ศ.2327 แล้ว ยังมีการยกยอดพระมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ตามมาด้วยการอัญเชิญพระแก้วมรกตข้ามฟากมาประดิษฐานที่วัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง ปี พ.ศ.2328 เมื่อการสร้างพระนครและพระราชวังใหม่เสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงโปรดให้มีพระราชพิธีปราบดาภิเษกใหม่ เป็นอย่างสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี, งานฉลองสมโภชพระนครและพระราชทานนามใหม่ว่า "กรุงเทพมหานครฯ" ประเด็นข้างต้นนั้นเป็นเพียงเนื้อหาส่วนหนึ่งที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ที่ต้องการชวนให้ท่านผู้อ่านช่วยกันตั้งคำถาม หาคำตอบจากประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง ซึ่งไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่สามารถโต้แย้ง ถกเถียงได้ |
No comments:
Post a Comment