PPD's Official Website

Wednesday, April 1, 2015

HUMAN RIGHTS WATCH ระบุ ประยุทธ์ ตั้งใจรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ ไม่คิดสร้าง ปชต.




For Immediate Release

Thailand: Junta Leader Seeks Sweeping Powers
Would Invoke Constitutional Provision With Limitless Scope

(New York, April 1, 2015) – Thai Prime Minister Gen. Prayuth Chan-ocha is seeking to invoke a constitutional provision that would give him unlimited powers without safeguards against human rights violations, Human Rights Watch said today.

On March 31, 2015, Prayuth announced that he has requested King Bhumibol Adulyadej’s permission to lift martial law, which has been enforced nationwide since the May 2014 military coup. Prayuth, who chairs the ruling National Council for Peace and Order (NCPO) junta, said he would replace the Martial Law Act of 1914 with section 44 of the 2014 interim constitution, which would allow him to issue orders without administrative, legislative, or judicial oversight or accountability.

“General Prayuth’s activation of constitution section 44 will mark Thailand’s deepening descent into dictatorship,” said
Brad Adams, Asia director at Human Rights Watch. “Thailand’s friends abroad should not be fooled by this obvious sleight of hand by the junta leader to replace martial law with a constitutional provision that effectively provides unlimited and unaccountable powers.”

Under section 44, Prayuth as the NCPO chairman can issue orders and undertake acts without regard to the human rights implications, Human Rights Watch said. Section 44 states that “where the head of the NCPO is of opinion that it is necessary for the benefit of reforms in any field, or to strengthen public unity and harmony, or for the prevention, disruption or suppression of any act that undermines public peace and order or national security, the monarchy, national economics or administration of State affairs,” the head of the NCPO is empowered to “issue orders, suspend or act as deemed necessary.… Such actions are completely legal and constitutional.” No judicial or other oversight mechanism exists to examine use of these powers. Prayuth only needs to report his decisions and actions to the National Legislative Assembly and to the prime minister, a position he also occupies, after they are taken.

Prayuth has previously
stated that orders issued under section 44 would allow the military to arrest and detain civilians. Since the May 2014 coup, the junta has detained hundreds of politicians, activists, journalists, and others who they accuse of supporting the deposed Yingluck Shinawatra government, disrespecting or offending the monarchy, or being involved in anti-coup protests and activities. Military personnel have interrogated many of these detainees in secret and unauthorized military facilities without providing access to their lawyers or ensuring other safeguards against mistreatment.

The NCPO has continually refused to provide information about people in secret detention. The risk of enforced disappearance, torture, and other ill treatment significantly increases when detainees are held incommunicado in military detention. However, there have been no indications of any official inquiry by Thai authorities into reports of torture and mistreatment in military custody.

The use of military courts, which lack independence and fail to comply with international fair trial standards, to try civilians is likely to continue under section 44, Human Rights Watch said. Three days after seizing power on May 22, 2014, the NCPO issued its 37th order, which replaced civilian courts with military tribunals for some offenses – including actions violating penal code articles 107 to 112, which concern lese majeste crimes, and crimes regarding national security and sedition as stipulated in penal code articles 113 to 118. Individuals who violate the NCPO’s orders have also been subjected to trial by military court. Hundreds of people, most of them political dissidents, have been sent to trials in military courts since the coup.

The imposition of section 44 means the junta’s lifting of martial law is unlikely to lead to improvement of respect for human rights in Thailand, Human Rights Watch said. The junta will have legal justification to continue its crackdown on those exercising their fundamental rights and freedoms. Criticism of the government can still be prosecuted, peaceful political activity banned, free speech censored and subject to punishment, and opposition of military rule not permitted.

“General Prayuth’s action to tighten rather than loosen his grip on power puts the restoration of democratic civilian rule further into the future,” Adams said. “Concerted pressure from Thailand’s allies is urgently needed to reverse this dangerous course.”

For more Human Rights Watch reporting on Thailand, please visit:
http://www.hrw.org/thailand

For more information, please contact:
In Bangkok, Sunai Phasuk (English and Thai):+66-81-632-3052 (mobile); or
phasuks@hrw.orgTwitter: @SunaiBKK
In San Francisco, Brad Adams (English): +1-347-463-3531 (mobile); or
adamsb@hrw.orgTwitter: @BradAdamsHRW
In Washington, DC, John Sifton (English): +1-646-479-2499 (mobile); or
siftonj@hrw.orgTwitter: @johnsifton







HUMAN RIGHTS WATCH ระบุ ประยุทธ์ ตั้งใจรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ ไม่คิดสร้าง ปชต.

สุเทพ เทือกฯ ไปบวชทำไม?  (มุมมองเชิงโครงสร้างอำนาจเผด็จการ)

ได้รับข้อความนี้จากทางไลน์

#ลุงคนดิบ บ่น
13.07น. 31/3/58

แล้วรู้ยัง ไอ้เทือกคางคก มันไปบวชเพราะอะไร
หลายคนมโนว่า หนีไปบวชเพราะกลัวโดนลูกปืนทหาร
หลายคนบอกหนีไปบวชเพื่อกลัวโดนปิดปาก
ก็มันคนกลุ่มเดียวกันทั้งนั้น ไอ้คางคกป่วนชาติ
เพื่อให้ไอ้เหล่ยึดอำนาจ
แล้วไอ้เทือกบวช ก็มาสร้างแผนเพื่อยึดองกรสงฆ์ต่อ
สามัคคีกันยึดเบ็ดเสร็จ ทั้งอำนาจประชาชน
ทั้งอำนาจทางศาสนา

ในสายข่าวของพวกมันบอกว่า ญาติธรรมธรรมกายที่เข้มแข็ง
มีส่วนรวมบทบาท ในทางการเมืองต่อพรรคทักษิณเป็นอย่างมาก
ญาติธรรมส่วนใหญ่นิยมชมชอบในตัวทักษิณ
ทั้งในสายธรรม ทั้งทางต่างประเทศด้วย
นายกทักษิณได้ช่วยร่วมบุญกับทางสายธรรมกายมาตลอด
เค้าเลยคิดว่าทักษิณใช้เงินหว่านในทางสายนี้
เพื่อขยายฐานเสียงดึงเอามาเป็นพวก
มันเลยต้องการกำจัดสายธรรมกายไปพร้อมกันด้วย

ในขณะที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในเวลานี้
มันถึงได้รีบเร่งเกมส์เร็ว ก่อนที่จะได้ใช้ รธน.ฉบับนี้ต่อไป
มันต้องจัดระเบียบองค์กรสงฆ์ด้วยการออกเป็นร่างรัฐธรรมนูญ
มันต้องทำลายชื่อเสียงของทางวัดธรรมกายก่อน
เพื่อให้สังคมมีความเห็นที่แตกต่างซะก่อน

เรื่องปฎิรูปศาสนายังไม่จบง่ายหรอก เป็นหนังชีวิตอีกยาว
คอยดูสัปดาห์หน้าต่อ ยังมีเรื่องที่เล่นงานพระธัมชชโยอีกหลายเรื่อง
เวลานี้ดีเอสไอ ที่ได้อธิบดีคนใหม่ที่เป็นผู้หญิง
เป็นคนที่ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา คัดมาโดยเฉพาะ
อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐมนตรียุติธรรม พลเอกไพบูลย์โดยตรง
มันไปขุดคดีรื้อฟื้นขึ้นมาอีกแน่ๆ
งานนี้ไม่มีทางรอด
ยัดคดีให้ตัดสินให้เรียบร้อย แหงๆๆๆๆ





สุเทพ เทือกฯ ไปบวชทำไม?  (มุมมองเชิงโครงสร้างอำนาจเผด็จการ)

Tuesday, March 31, 2015

คดีเพชรซาอุ (ฉบับสมบูรณ์) ย้อนรอย เจาะเบื้องลึก 3 ตอน จบ



                          ป้าสมจิตอมเพชรซาอุฯ



เครดิตวิดีโอ นายข้าวเหนียว มะม่วง




สาระเชิงลึกโดย นายตำรวจเก่า

> เป็นเรื่องน่าเสียใจและน่าเศร้าใจเป็นอย่างมากว่า ตลอดระยะเวลาหลายเดือนของความขัดแย้งทางการเมือง การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำลายฝ่ายตรงข้ามของกันและกัน ไม่ได้ถูกจำกัดวงอยู่เฉพาะประเด็นปัญหาทางการเมือง ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงทางเศรษฐกิจ หรือความามยุติธรรมที่ไม่เท่าเทียมกันเท่านั้น แต่ยังได้ล่วงเกินข้ามเลยไปถึงการดึงสถาบันสูงสุดเข้ามาเกี่ยวข้องโดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ สร้างความเข้าใจผิดและมีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความโกรธความเกลียดเพื่อบั่นทอนให้สถาบันสูงสุดอ่อนแอลง

 > มีเรื่องราวหลายประเด็นที่ถูกนำมากล่าวถึงโดยขาดพื้นฐานความจริงมาสนับสนุน นอกจากผู้พูดผู้เขียนนึกอยากจะเขียนอะไร พูดอะไร ก็ทำไปตามใจอยากทำ ไม่คำนึงว่าความจริงคืออะไร ขอให้ได้กล่าวร้ายโจมตีก็จะทำแล้ว ตัวอย่างของนายชูพงษ์ ถี่ถ้วน นายพิษณุ พรหมศร ในเว็บ นปช.ยูเอสเอ ที่กล่าวให้ร้ายสถาบันโดยปราศจากข้อเท็จจริง และกล้าที่จะทำอย่างนั้นอย่างต่อเนื่อง เพราะตระหนักดีว่า สถาบันสูงสุดไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบโต้หรือชี้แจงอะไร 

> มิหนำซ้ำรัฐบาลหรือฝ่ายราชการ ก็ยังนิ่งเฉยเสีย อาจเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัว จะแกว่งเท้าไปหาเสี้ยนทำไม คนฟังคนอ่าน ที่ถูกยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวมาตลอด ไม่เคยฟังข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เป็นความจริง จึงหลงเชื่อหลงยึดติดอยู่กับข้อมูลเท็จดังกล่าว

 > ผมติดตามเรื่องเหล่านี้มานานพอสมควร ผมเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อสถาบัน มีคนนำเรื่องไม่จริงไปเผยแพร่ เจตนาเพื่อให้คนเกลียด สมาชิกในสถาบันจะอธิบายความจริงด้วยตัวเองก็ไม่ได้ คนที่มีหน้าที่รู้เรื่องเป็นอย่างดีก็ไม่ช่วยอธิบายให้ ก็คงต้องตกเป็นหน้าที่ของประชาชนคนเดินดินอย่างพวกเราที่ต้องออกมาทำหน้าที่เหล่านี้แทน > ผมก็เลยขออนุญาตนำบางเรื่องที่ผมมีข้อเท็จจริงอยู่บ้าง มาเล่าสู่กันฟังเพื่อผดุงรักษาความจริงไว้ให้สังคมได้รับรู้กันต่อไป

 > วันนี้ผมขอนำประเด็น เพชรซาอุ มาเล่าสู่กันฟังก่อน เพราะเป็นเรื่องใส่ร้ายสำคัญลำด้ทำกันมาต่อเนื่อง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี ๒๕๓๘ เมื่อนายเกรียงไกร เตชะโม่ง ขโมยเครื่องเพชรจำนวนมากจากวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด (Prince Faisal bin Fahd bin Abdul Aziz) แล้วลักลอบนำเครื่องเพชรเข้ามาในไทยและจำหน่ายไปยังที่ต่างๆ ผลจากความร่วมมือของตำรวจไทยและทางการซาอุดิอารเบีย ทำให้จับกุมตัวนายเกรียงไกรได้ และได้เครื่องเพชรบางส่วนส่งกลับคืนเจ้าชายไฟซาลไป อาจมีปัญหาเรื่องจำนวนเครื่องเพชรที่หายไปได้คืนไม่ครบถ้วน เครื่องเพชรบางส่วนที่ส่งคืนเป็นของทำเลียนแบบ และมีการพูดกันเรื่อง เพชรบลูไดมอนด์ ไปอยู่ในความครอบครองของสุภาพสตรีในสังคมชั้นสูงบางคน ซึ่งทางตำรวจไทยและเจ้าชายไฟซาลได้ตรวจสอบสอบสวนเพิ่มเติมในทุกประเด็นจนปรากฏความจริงที่ชัดเจนและเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายแล้ว  


> ประเด็นเพชรซาอุ ผมขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดและรอบคอบว่า ตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายตรวจสอบเรื่องเพชรจนได้ความจริงแล้ว ราชสำนักและทางการซาอุดิอาระเบียไม่เคยตำหนิ กดดัน หรือเรียกร้องทางการไทยในเรื่องเพชรซาอุอีกเลย ประเด็นที่เป็นปัญหาความสัมพันธ์จนถึงปัจจุบันไม่ใช่เรื่องเพชรซาอุ แต่เป็นเรื่องการหายตัวไปของนายลูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเขาเชื่อว่าเสียชีวิตแล้วโดยการสังหารของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่มีนายตำรวจระดับผู้บัญชาการภาคในปัจจุบันคนหนึ่งเป็นผู้บงการ แต่ไม่ถูกจับกุม แถมยังได้รับการส่งเสริมให้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งสูงข ึ้น ตรงนี้สำคัญเพราะเมื่อซาอุไม่ติดใจสงสัยก็หมายความว่าไม่มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลซ่อนอยู่ใต้พรมอีกต่อไป ทุกอย่างควรจบลงไปนานแล้ว แต่กลับไม่จบ  

> อะไรคือสาเหตุที่เรื่องเพชรไม่จบ ตอบได้ว่าหลังจากการยึดอำนาจเมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างคุณทักษิณกับฝ่ายตรงข้ามทวีความรุนแรงเป็นลำดับ โดยเฉพาะการกล่าวหาสถาบันอยู่เบื้องหลังเรื่องดังกล่าวด้วย เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของคนบางกลุ่ม โดยมีเจตนาทำให้คนรากหญ้าเชื่อว่าเพชรบลูไดมอนด์ตกอยู่ในความครอบครองของบุคคลในสถาบัน เพื่อทำให้คนเกลียดสถาบันซ้ำมากขึ้นไปอีก ในประเด็นไม่เพียงแต่อยู่เบื้องหลังโค่นล้ม ทักษิณแล้ว ยังมีกรณีเพชรซาอุเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งเอาไปแต้มสีต่อว่า คุณทักษิณถูกโค่นล้มจากอำนาจเพราะว่า พยายามนำเพชรบลูไดมอนด์กลับคืนสู่ซาอุ เพื่อคนอิสานจะได้กลับเข้าไปทำงานที่ซาอุดิอาระเบียได้เหมือนเดิม

 > เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ถูกหยิบยกขึ้นมาจากสื่อประเทศไทยฝ่ายเดียวตั้งแต่เริ่มมีเรื่องนายเกรียงไกรใหม่ๆ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร.เจ้าของคดี ทราบเรื่องนี้ดีเพราะเป็นถามสื่อมวลชนเอง ว่า ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อนเลย จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้นใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่งสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นรูปคล้ายอัญญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงาน หนึ่ง แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซอล  

> เรื่องนี้ได้มีการพิสูจน์กันสองทางคือ ประการแรกตำรวจได้ส่งภาพถ่ายดังกล่าวไปให้สถาบันอัญญมณีในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรวจพิสูจน์ ได้ข้อยุติว่า วัตถุที่ว่าเป็นอัญมณีสีน้ำเงินแล้วอนุมานว่าเป็นนเพชรบลูไดมอนด์ ไม่ใช่เพชรหรืออัญญมณีแต่อย่างใด แต่เป็นวัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง ผลพิสูจน์นี้อยู่ ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจ เพราะมีหนังสือตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ ประการที่สอง บุตรชายของสุภาพสตรีท่านนั้นได้นำสร้อยและจี้ที่ปรากฏในภาพถ่ายมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับผลตรวจพิสูจน์ของสถาบันในลอนดอน

 > ข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้อีกประการหนึ่งก็คือ ผลการสอบสวนนายเกรียงไกรพบว่า นายเกรียงไกรได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็น ทั้งไม่รู้ด้วยว่าแบ่งเครื่องเพชรชนิดและประเภทใดให้เพื่อนไปบ้าง นอกจากนั้น เจ้าตัวมีความรู้เรื่องอัญญมณีน้อยมาก เมื่อนำเครื่องเพชรทั้งหมดกลับมาที่บ้านใน จ.ลำปาง ก็ได้ทำการแยกชิ้นส่วนเอาเพชรกับทองแยกออกจากกัน เพราะรู้จักแต่ทองว่ามีค่า โดยนำทองไปขายที่ร้านทองใน จ.แพร่ และ จ.ลำปาง ผลการสอบเจ้าของร้านทองก็ไม่ปรากฏว่าพบเห็นหรือรู้เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ส่วนเพชรนายเกรียงไกรก็ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเพชรมีความแข็งมากจึงลองทุบบางส่วนดู เม็ดไหนแตกก็ทิ้งไป เม็ดไหนไม่บุบสลายก็แยกไว้ แต่ไม่ได้ทุบไปเสียทั้งหมด จากนั้นได้นำเพชร พลอย อัญญมณีอื่นๆที่แยกออกจากทองแล้วไปฝังดินไว้บางส่วน บางส่วนทะยอยขายให้แก่นายสันติ ศรีธนขัณฑ์ เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ซึ่งบางส่วนถูกนำไปขายต่ออีกทอดโดยมี พล.ต.อ.คนหนึ่งซึ่งเป็น อดีต รอง ผบ.ตร.และชอบค้าของเก่าและของมีค่าร่วมมือกับนายสันติขายเพชรซาอุด้วย แต่หลักฐานสาวไปไม่ถึงจึงลอยนวลอยู่จนทุกวันนี้

 > การให้การของนายเกรียงไกรกรณีเพชรบลูไดมอนด์มีลักษณะไม่ชัดเจน เหมือนว่าขโมยมาแล้วขายให้นายสันติ แต่นายเกรียงไกรก็ไม่เคยยืนยันอย่างหนักแน่นกับพนักงานสอบสวนในเรื่องดังกล่าว เ นื่องจากไม่มีความมั่นใจ เพราะนำเครื่องเพชรออกมาเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ครบถ้วน  

 > พนักงานสอบสวนและราชสำนักซาอุดิอาระเบียประมาณการณ์ว่า เพชรซาอุถูกขายไปประมาณ ๒๐ % ทั้งนายสันติ และภริยา ต่างยืนยันว่า ไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ ความตายของนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนขันฑ์ เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า ผู้รับซื้อเพชรซึ่งมีอยู่รายเดียวจากนายเกรียงไกร ต่างไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ มิฉะนั้นคงรับสารภาพและคืนให้ไปแล้วเมื่อเห็นความตายและความเดือดร้อนของตนเอง ครอบครัว และบุตรอยู่ตรงหน้า  

> ผลสรุปของการสอบสวนคดีเพชรซาอุ มีข้อยุติว่า ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์อยู่ในเครื่องเพชรที่นายเกรียงไกรขโมยมา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเพชรบลูไดมอนด์ไม่เคยมีอยู่ในประเทศไทย การกล่าวหากล่าวอ้างว่าบุคคลนั้นบุคคลนี้ครอบครองเพชรบลูไดมอนด์ไว้ จึงไม่เป็นความจริง 

> ประการที่สองเจ้าชายหรือเจ้าหญิงของซาอุดิอาระเบียไม่รู้ว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีชนิดหรือประเภทใดอย่างครบถ้วนเพราะเครื่องเพชรมีเป็นจำนวนมากที่อยู่ในครอบครองและที่ถูกขโมยมา ทั้งยอมรับว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีทั้งของจริงและของปลอมที่ซื้อจากห้าง May Flower ซึ่งทำอัญญมณีประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงมาก ทั้งไม่ทราบว่าเครื่องเพชรอันใดเทียมหรือจริง ข้อตำหนิเรื่องส่งคืนเครื่องเพชรปลอมและไม่ครบถ้วนจึงสามารถทำความเข้าใจที่ชัดเจนได้ในเวลาต่อมา  

> ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริง ผมเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ควรถูกใช้เป็นประเด็นกล่าวหาบุคคลในสถาบันสูงสุดของเราอีกเพื่อประโยชน์ทางการเมืองอีกต่อไป ผมเห็นว่าตำรวจและรัฐมนตรีที่เคยเกี่ยวข้องกับคดีนี้ควรออกมาอธิบายความจริงให้สังคมได้รับรู้อย่างทั่วถึง อย่าปล่อยให้เป็นประเด็นที่นำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อ

> อย่างที่เคยกล่าวไว้ในตอนต้น มันน่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่คนไทยไม่สนใจ ไม่เคารพความจริง มองข้ามหลักเหตุผลที่สามารถอธิบายได้ เลือกที่จะเชื่อในทุกเรื่องทุกสิ่งที่คนที่เราชอบพูด สังคมเช่นนี้อันตราย

 > ในฐานะคนไทยคนหนึ่งผมเรียกร้องให้ผู้รักความจริงช่วยกันเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป เรียกร้องให้รัฐบาลและฝ่ายราชการปกป้องสถาบันสูงสุดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะท่านรู้ข้อมูลทุกอย่างดี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงวางเฉยกัน 

> และสุดท้ายต้องขอร้องให้พี่น้องคนไทยทุกคนฟั งและอ่านเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นในสังไทยของเราอย่างมีเหตุและผล เพราะจากนี้ไปสังคมของเราก็อาจจะกลับเข้าสู่สภาพแวดล้อมของการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร และเราก็จะต้องมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าวด้วย

สรุป
 - ซาอุมีปัญหากับไทยเพราะเรื่องคดีฆ่านักการทูต
- เรื่องเพชรที่ขโมยมาเคลียร์จบไปนานแล้ว ซาอุไม่ติดใจ
- เจ้าชายซาอุก็ไม่รู้ว่ามีเพชรอะไรถูกขโมยไปบ้าง
 - ที่มีข่าวเพชรซาอุเพราะมีรูปที่เมีย ผบ.ตร. ใส่เครื่องเพชรที่คล้ายๆกันปรากฏผู้ว่าเชี่ยวชาญต่างชาติพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ 
- ไม่มีหลักฐานการเห็นเพชรซาอุที่ไหนอีก
 - สรุปว่า เพชรบูลไดมอนไม่เคยเข้ามาอยู่ในเมืองไทย

ขอบคุณแหล่งข้อมูล 

คดีเพชรซาอุ (ฉบับสมบูรณ์) ย้อนรอย เจาะเบื้องลึก 3 ตอน จบ

คดีเพชรซาอุ (ฉบับสมบูรณ์) ย้อนรอย เจาะเบื้องลึก 3 ตอน จบ


เครดิตวิดีโอ นายข้าวเหนียว มะม่วง





สาระเชิงลึกโดย นายตำรวจเก่า

> เป็นเรื่องน่าเสียใจและน่าเศร้าใจเป็นอย่างมากว่า ตลอดระยะเวลาหลายเดือนของความขัดแย้งทางการเมือง การบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำลายฝ่ายตรงข้ามของกันและกัน ไม่ได้ถูกจำกัดวงอยู่เฉพาะประเด็นปัญหาทางการเมือง ความเหลื่อมล้ำต่ำสูงทางเศรษฐกิจ หรือความามยุติธรรมที่ไม่เท่าเทียมกันเท่านั้น แต่ยังได้ล่วงเกินข้ามเลยไปถึงการดึงสถาบันสูงสุดเข้ามาเกี่ยวข้องโดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ สร้างความเข้าใจผิดและมีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความโกรธความเกลียดเพื่อบั่นทอนให้สถาบันสูงสุดอ่อนแอลง

 > มีเรื่องราวหลายประเด็นที่ถูกนำมากล่าวถึงโดยขาดพื้นฐานความจริงมาสนับสนุน นอกจากผู้พูดผู้เขียนนึกอยากจะเขียนอะไร พูดอะไร ก็ทำไปตามใจอยากทำ ไม่คำนึงว่าความจริงคืออะไร ขอให้ได้กล่าวร้ายโจมตีก็จะทำแล้ว ตัวอย่างของนายชูพงษ์ ถี่ถ้วน นายพิษณุ พรหมศร ในเว็บ นปช.ยูเอสเอ ที่กล่าวให้ร้ายสถาบันโดยปราศจากข้อเท็จจริง และกล้าที่จะทำอย่างนั้นอย่างต่อเนื่อง เพราะตระหนักดีว่า สถาบันสูงสุดไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบโต้หรือชี้แจงอะไร 

> มิหนำซ้ำรัฐบาลหรือฝ่ายราชการ ก็ยังนิ่งเฉยเสีย อาจเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัว จะแกว่งเท้าไปหาเสี้ยนทำไม คนฟังคนอ่าน ที่ถูกยัดเยียดข้อมูลด้านเดียวมาตลอด ไม่เคยฟังข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่เป็นความจริง จึงหลงเชื่อหลงยึดติดอยู่กับข้อมูลเท็จดังกล่าว

 > ผมติดตามเรื่องเหล่านี้มานานพอสมควร ผมเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อสถาบัน มีคนนำเรื่องไม่จริงไปเผยแพร่ เจตนาเพื่อให้คนเกลียด สมาชิกในสถาบันจะอธิบายความจริงด้วยตัวเองก็ไม่ได้ คนที่มีหน้าที่รู้เรื่องเป็นอย่างดีก็ไม่ช่วยอธิบายให้ ก็คงต้องตกเป็นหน้าที่ของประชาชนคนเดินดินอย่างพวกเราที่ต้องออกมาทำหน้าที่เหล่านี้แทน > ผมก็เลยขออนุญาตนำบางเรื่องที่ผมมีข้อเท็จจริงอยู่บ้าง มาเล่าสู่กันฟังเพื่อผดุงรักษาความจริงไว้ให้สังคมได้รับรู้กันต่อไป

 > วันนี้ผมขอนำประเด็น เพชรซาอุ มาเล่าสู่กันฟังก่อน เพราะเป็นเรื่องใส่ร้ายสำคัญลำด้ทำกันมาต่อเนื่อง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี ๒๕๓๘ เมื่อนายเกรียงไกร เตชะโม่ง ขโมยเครื่องเพชรจำนวนมากจากวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด (Prince Faisal bin Fahd bin Abdul Aziz) แล้วลักลอบนำเครื่องเพชรเข้ามาในไทยและจำหน่ายไปยังที่ต่างๆ ผลจากความร่วมมือของตำรวจไทยและทางการซาอุดิอารเบีย ทำให้จับกุมตัวนายเกรียงไกรได้ และได้เครื่องเพชรบางส่วนส่งกลับคืนเจ้าชายไฟซาลไป อาจมีปัญหาเรื่องจำนวนเครื่องเพชรที่หายไปได้คืนไม่ครบถ้วน เครื่องเพชรบางส่วนที่ส่งคืนเป็นของทำเลียนแบบ และมีการพูดกันเรื่อง เพชรบลูไดมอนด์ ไปอยู่ในความครอบครองของสุภาพสตรีในสังคมชั้นสูงบางคน ซึ่งทางตำรวจไทยและเจ้าชายไฟซาลได้ตรวจสอบสอบสวนเพิ่มเติมในทุกประเด็นจนปรากฏความจริงที่ชัดเจนและเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายแล้ว  

> ประเด็นเพชรซาอุ ผมขอให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดและรอบคอบว่า ตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายตรวจสอบเรื่องเพชรจนได้ความจริงแล้ว ราชสำนักและทางการซาอุดิอาระเบียไม่เคยตำหนิ กดดัน หรือเรียกร้องทางการไทยในเรื่องเพชรซาอุอีกเลย ประเด็นที่เป็นปัญหาความสัมพันธ์จนถึงปัจจุบันไม่ใช่เรื่องเพชรซาอุ แต่เป็นเรื่องการหายตัวไปของนายลูไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเขาเชื่อว่าเสียชีวิตแล้วโดยการสังหารของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่มีนายตำรวจระดับผู้บัญชาการภาคในปัจจุบันคนหนึ่งเป็นผู้บงการ แต่ไม่ถูกจับกุม แถมยังได้รับการส่งเสริมให้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งสูงข ึ้น ตรงนี้สำคัญเพราะเมื่อซาอุไม่ติดใจสงสัยก็หมายความว่าไม่มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลซ่อนอยู่ใต้พรมอีกต่อไป ทุกอย่างควรจบลงไปนานแล้ว แต่กลับไม่จบ  

> อะไรคือสาเหตุที่เรื่องเพชรไม่จบ ตอบได้ว่าหลังจากการยึดอำนาจเมื่อ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างคุณทักษิณกับฝ่ายตรงข้ามทวีความรุนแรงเป็นลำดับ โดยเฉพาะการกล่าวหาสถาบันอยู่เบื้องหลังเรื่องดังกล่าวด้วย เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของคนบางกลุ่ม โดยมีเจตนาทำให้คนรากหญ้าเชื่อว่าเพชรบลูไดมอนด์ตกอยู่ในความครอบครองของบุคคลในสถาบัน เพื่อทำให้คนเกลียดสถาบันซ้ำมากขึ้นไปอีก ในประเด็นไม่เพียงแต่อยู่เบื้องหลังโค่นล้ม ทักษิณแล้ว ยังมีกรณีเพชรซาอุเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งเอาไปแต้มสีต่อว่า คุณทักษิณถูกโค่นล้มจากอำนาจเพราะว่า พยายามนำเพชรบลูไดมอนด์กลับคืนสู่ซาอุ เพื่อคนอิสานจะได้กลับเข้าไปทำงานที่ซาอุดิอาระเบียได้เหมือนเดิม

 > เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ถูกหยิบยกขึ้นมาจากสื่อประเทศไทยฝ่ายเดียวตั้งแต่เริ่มมีเรื่องนายเกรียงไกรใหม่ๆ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร.เจ้าของคดี ทราบเรื่องนี้ดีเพราะเป็นถามสื่อมวลชนเอง ว่า ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยินหรือเห็นมาก่อนเลย จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้นใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่งสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นรูปคล้ายอัญญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงาน หนึ่ง แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซอล  

> เรื่องนี้ได้มีการพิสูจน์กันสองทางคือ ประการแรกตำรวจได้ส่งภาพถ่ายดังกล่าวไปให้สถาบันอัญญมณีในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรวจพิสูจน์ ได้ข้อยุติว่า วัตถุที่ว่าเป็นอัญมณีสีน้ำเงินแล้วอนุมานว่าเป็นนเพชรบลูไดมอนด์ ไม่ใช่เพชรหรืออัญญมณีแต่อย่างใด แต่เป็นวัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง ผลพิสูจน์นี้อยู่ ในสำนวนการสอบสวนของตำรวจ เพราะมีหนังสือตอบกลับมาอย่างเป็นทางการ ประการที่สอง บุตรชายของสุภาพสตรีท่านนั้นได้นำสร้อยและจี้ที่ปรากฏในภาพถ่ายมาแสดงต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับผลตรวจพิสูจน์ของสถาบันในลอนดอน

 > ข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้อีกประการหนึ่งก็คือ ผลการสอบสวนนายเกรียงไกรพบว่า นายเกรียงไกรได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็น ทั้งไม่รู้ด้วยว่าแบ่งเครื่องเพชรชนิดและประเภทใดให้เพื่อนไปบ้าง นอกจากนั้น เจ้าตัวมีความรู้เรื่องอัญญมณีน้อยมาก เมื่อนำเครื่องเพชรทั้งหมดกลับมาที่บ้านใน จ.ลำปาง ก็ได้ทำการแยกชิ้นส่วนเอาเพชรกับทองแยกออกจากกัน เพราะรู้จักแต่ทองว่ามีค่า โดยนำทองไปขายที่ร้านทองใน จ.แพร่ และ จ.ลำปาง ผลการสอบเจ้าของร้านทองก็ไม่ปรากฏว่าพบเห็นหรือรู้เรื่องเพชรบลูไดมอนด์ ส่วนเพชรนายเกรียงไกรก็ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเพชรมีความแข็งมากจึงลองทุบบางส่วนดู เม็ดไหนแตกก็ทิ้งไป เม็ดไหนไม่บุบสลายก็แยกไว้ แต่ไม่ได้ทุบไปเสียทั้งหมด จากนั้นได้นำเพชร พลอย อัญญมณีอื่นๆที่แยกออกจากทองแล้วไปฝังดินไว้บางส่วน บางส่วนทะยอยขายให้แก่นายสันติ ศรีธนขัณฑ์ เจ้าของร้านเพชรชื่อดัง ซึ่งบางส่วนถูกนำไปขายต่ออีกทอดโดยมี พล.ต.อ.คนหนึ่งซึ่งเป็น อดีต รอง ผบ.ตร.และชอบค้าของเก่าและของมีค่าร่วมมือกับนายสันติขายเพชรซาอุด้วย แต่หลักฐานสาวไปไม่ถึงจึงลอยนวลอยู่จนทุกวันนี้

 > การให้การของนายเกรียงไกรกรณีเพชรบลูไดมอนด์มีลักษณะไม่ชัดเจน เหมือนว่าขโมยมาแล้วขายให้นายสันติ แต่นายเกรียงไกรก็ไม่เคยยืนยันอย่างหนักแน่นกับพนักงานสอบสวนในเรื่องดังกล่าว เ นื่องจากไม่มีความมั่นใจ เพราะนำเครื่องเพชรออกมาเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ครบถ้วน  

 > พนักงานสอบสวนและราชสำนักซาอุดิอาระเบียประมาณการณ์ว่า เพชรซาอุถูกขายไปประมาณ ๒๐ % ทั้งนายสันติ และภริยา ต่างยืนยันว่า ไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ ความตายของนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี ศรีธนขันฑ์ เป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่า ผู้รับซื้อเพชรซึ่งมีอยู่รายเดียวจากนายเกรียงไกร ต่างไม่เคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์ มิฉะนั้นคงรับสารภาพและคืนให้ไปแล้วเมื่อเห็นความตายและความเดือดร้อนของตนเอง ครอบครัว และบุตรอยู่ตรงหน้า  

> ผลสรุปของการสอบสวนคดีเพชรซาอุ มีข้อยุติว่า ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยเคยเห็นเพชรบลูไดมอนด์อยู่ในเครื่องเพชรที่นายเกรียงไกรขโมยมา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเพชรบลูไดมอนด์ไม่เคยมีอยู่ในประเทศไทย การกล่าวหากล่าวอ้างว่าบุคคลนั้นบุคคลนี้ครอบครองเพชรบลูไดมอนด์ไว้ จึงไม่เป็นความจริง 

> ประการที่สองเจ้าชายหรือเจ้าหญิงของซาอุดิอาระเบียไม่รู้ว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีชนิดหรือประเภทใดอย่างครบถ้วนเพราะเครื่องเพชรมีเป็นจำนวนมากที่อยู่ในครอบครองและที่ถูกขโมยมา ทั้งยอมรับว่าเครื่องเพชรที่ถูกขโมยมีทั้งของจริงและของปลอมที่ซื้อจากห้าง May Flower ซึ่งทำอัญญมณีประดิษฐ์ที่มีชื่อเสียงมาก ทั้งไม่ทราบว่าเครื่องเพชรอันใดเทียมหรือจริง ข้อตำหนิเรื่องส่งคืนเครื่องเพชรปลอมและไม่ครบถ้วนจึงสามารถทำความเข้าใจที่ชัดเจนได้ในเวลาต่อมา  

> ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริง ผมเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ควรถูกใช้เป็นประเด็นกล่าวหาบุคคลในสถาบันสูงสุดของเราอีกเพื่อประโยชน์ทางการเมืองอีกต่อไป ผมเห็นว่าตำรวจและรัฐมนตรีที่เคยเกี่ยวข้องกับคดีนี้ควรออกมาอธิบายความจริงให้สังคมได้รับรู้อย่างทั่วถึง อย่าปล่อยให้เป็นประเด็นที่นำไปใช้โฆษณาชวนเชื่อ

> อย่างที่เคยกล่าวไว้ในตอนต้น มันน่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่คนไทยไม่สนใจ ไม่เคารพความจริง มองข้ามหลักเหตุผลที่สามารถอธิบายได้ เลือกที่จะเชื่อในทุกเรื่องทุกสิ่งที่คนที่เราชอบพูด สังคมเช่นนี้อันตราย

 > ในฐานะคนไทยคนหนึ่งผมเรียกร้องให้ผู้รักความจริงช่วยกันเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป เรียกร้องให้รัฐบาลและฝ่ายราชการปกป้องสถาบันสูงสุดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะท่านรู้ข้อมูลทุกอย่างดี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงวางเฉยกัน 

> และสุดท้ายต้องขอร้องให้พี่น้องคนไทยทุกคนฟั งและอ่านเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นในสังไทยของเราอย่างมีเหตุและผล เพราะจากนี้ไปสังคมของเราก็อาจจะกลับเข้าสู่สภาพแวดล้อมของการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร และเราก็จะต้องมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าวด้วย

สรุป
 - ซาอุมีปัญหากับไทยเพราะเรื่องคดีฆ่านักการทูต
- เรื่องเพชรที่ขโมยมาเคลียร์จบไปนานแล้ว ซาอุไม่ติดใจ
- เจ้าชายซาอุก็ไม่รู้ว่ามีเพชรอะไรถูกขโมยไปบ้าง
 - ที่มีข่าวเพชรซาอุเพราะมีรูปที่เมีย ผบ.ตร. ใส่เครื่องเพชรที่คล้ายๆกันปรากฏผู้ว่าเชี่ยวชาญต่างชาติพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ 
- ไม่มีหลักฐานการเห็นเพชรซาอุที่ไหนอีก
 - สรุปว่า เพชรบูลไดมอนไม่เคยเข้ามาอยู่ในเมืองไทย

ขอบคุณแหล่งข้อมูล 
คดีเพชรซาอุ (ฉบับสมบูรณ์) ย้อนรอย เจาะเบื้องลึก 3 ตอน จบ

มีแบ็งค์ร้อย ของภูมิพล และสิรินทร แล้วทำไมไม่มีของ วชิราลงกรณ์ (ถ้ามีปีที่แล้วหรือปีนี้ ขอหน่อยครับ)


มีแบ็งค์ร้อย ของภูมิพล และสิรินธร
แล้วทำไมไม่มีของ วชิราลงกรณ์ 
(ถ้ามีปีที่แล้วหรือปีนี้ ขอหน่อยครับ)



(ทำไมไม่เอารูปปัจจุบันขึ้น)


นี่ก็เหมือนกันนะครับ ทำไมไม่เอารูปปัจจุบัน






เกร็ด ปวศ. วันสวรรคต 6 เม.ย. "ชะตากรรม พระเจ้าตากสิน และ ราชวงศ์จักรี"


เกร็ด ปวศ. วันสวรรคต 6 เม.ย. "ชะตากรรม พระเจ้าตากสิน และ ราชวงศ์จักรี" URL: http://youtu.be/RFgOBdCFKrg



เกร็ด ปวศ. วันสวรรคต 6 เม.ย. "ชะตากรรม พระเจ้าตากสิน และ ราชวงศ์จักรี"


เกร็ด ปวศ. วันสวรรคต 6 เม.ย. "ชะตากรรม พระเจ้าตากสิน และ ราชวงศ์จักรี"


เกร็ด ปวศ. วันสวรรคต 6 เม.ย. "ชะตากรรม พระเจ้าตากสิน และ ราชวงศ์จักรี" URL: http://youtu.be/RFgOBdCFKrg



เกร็ด ปวศ. วันสวรรคต 6 เม.ย. "ชะตากรรม พระเจ้าตากสิน และ ราชวงศ์จักรี"