PPD's Official Website

Showing posts with label ระบอบเผด็จการไทย. Show all posts
Showing posts with label ระบอบเผด็จการไทย. Show all posts

Friday, July 17, 2015

ประวิทย์ กับการเป็นนายกฯ รัฐบาลแห่งชาติของเผด็จการเพื่อศักดินาไทย+++!!

สำหรับการวิเคราะห์เหตุการณ์ในกองทัพ จับกระแสการเปลี่ยนแปลง 
เมเนเจอร์ถือว่าเป็นสื่อที่เข้าถึง นำเสนอได้ละเอียด และหลายครั้ง เข้าเป้า

ลองอ่านดูนะครับ แล้วคิดดูว่า ความเป็นไปได้ มีขนาดไหน
แล้วประชาชนและชาติไทย จะได้อะไรจากการเคลื่อนไหวเหล่านี้???



เมื่อ “บูรพาพยัคฆ์”โยนหินถามทางผ่าน “อุดมเดช” ถึง “บิ๊กเยิ้ม
18 กรกฎาคม 2558 06:18 น.
       ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -จู่ๆ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็จุดเทียนกลางสายฝน ให้จัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง โดยเชิญทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมสังฆกรรมด้วย ทั้งที่รู้ว่า ท่ามกลางความขัดแย้ง ไม่มีพรรคการเมืองใดอยากร่วมสังฆกรรมกับฝ่ายตรงข้าม เพราะต่างฝ่ายต่างกลัวเสียมวลชน และเสียแต้มทางการเมือง จึงวัดใจบรรดาบิ๊กทหารว่า จะเอาบ้าจี้เอาด้วยหรือไม่
      
       เพราะหากดูตามไทม์ไลน์การเมืองแล้ว เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องลาโรงจากคานอำนาจ จะไม่มีอะไรการันตีฐานอำนาจของทหารว่า จะยังแข็งแกร่งเหมือนหรือไม่ โดยเฉพาะทหารสาย “บูรพาพยัคฆ์”
      
       มองข้ามช็อต อ่านเกมในใจของ “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี หากชนะการเลือกตั้ง กลับมามีอำนาจ สิ่งแรกที่ “นายใหญ่” ต้องสังคายนาเพื่อกำจัด “เสี้ยนหนาม” คือ การล้างบางทหารสาย “บูรพาพยัคฆ์” ออกจากขั้วอำนาจกองทัพ เพราะไม่มีทางทื่ “นายใหญ่” จะไว้ใจให้นายทหารสาย “บูรพาพยัคฆ์” อยู่ในฐานอำนาจอีกต่อไป เพราะมีบทเรียนจาก “บิ๊กตู่” ที่รับปากอย่างดี ตีบทเนียนว่า จะไม่ทำรัฐประหาร แต่เมื่อเจอ “ม็อบ กปปส.” ที่นำโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกันตั้งแต่สมัยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเร้าสถานการณ์ สุดท้ายก็มิวายลากรถถังออกมายึดอำนาจจากอกรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
      
       “นายใหญ่” จำขึ้นใจแล้วว่า ตราบใดที่ยังให้นายทหารสาย “บูรพาพยัคฆ์” อยู่ในแผงอำนาจของกองทัพ โอกาสที่ตัวเองจะถูกยึดอำนาจสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น เมื่อไม่ไว้ใจและมีบทเรียน ทางเดียวของ “นายใหญ่” คือ ล้างบางและตอนไม่ให้นายทหาร “สายบูรพาพยัคฆ์” ผงาดขึ้นมาอีก
      
       ส่วนขั้วทหารสายอื่นๆ ที่จะเลือกขึ้นมาก็จะต้องเป็นประเภทที่ “ไว้ใจ” และสามารถ “คอนโทรล” ได้ หมดยุคเชื่อ หลงคำสัญญา “ลมปาก” หรือ “ประนีประนอม” กับทหารสาย “บูรพาพยัคฆ์” แล้ว
      
       ขณะที่ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เจตนาเดียวที่จะรับข้อเสนอ “รัฐบาลแห่งชาติ” คือ ต้องการจะสืบทอดอำนาจต่อไปเท่านั้น และเป็นการเปิดทางที่เนียนตามากที่สุด
      
       ซึ่งหากในภายภาคหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง ปรากฏว่า เกิดความวุ่นวายขึ้น ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังเลือกตั้ง และไม่ว่าจะเป็นฝีมือของคนกลุ่มใด “รัฐบาลแห่งชาติ” จะถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเป็น “ประตูหนีไฟ” ของประเทศทันที เพราะไม่มีทางที่ “บิ๊กตู่” จะลากอำนาจของตัวเองออกไปได้อีกแล้ว
      
       หาก “รัฐบาลแห่งชาติ” เกิดขึ้นจริง แม้จะเขียนสวยหรูให้พรรคการเมืองเข้ามาร่วม แต่ไม่ได้ระบุว่า สเปก “คนกลาง” ว่า ใครบ้างที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ และไม่มีทางที่จะให้ “นักการเมือง” มาเป็นผู้นำรัฐบาลแน่นอน เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลายกว่าเดิม ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น ขั้วอำนาจที่เหมาะสมและตอบโจทย์สถานการณ์ในขณะนั้นได้มากที่สุด ย่อมหนีไม่พ้น “บิ๊กทหาร” อีกเช่นเคย
      
       ชื่อที่โดดเด่นที่สุดที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากมี “กำลัง - บารมี” เป็นที่นับถือของน้องๆ ในกองทัพ และพรรคการเมืองบางซีกการเมืองที่มีดีลการเมือง และดีลธุรกิจกันตลอดเวลา อีกทั้งสายสัมพันธ์กับผู้นำมวลชน โดยเฉพาะ “กปปส.” ยังอยู่ในขั้น “แนบชิด” ขณะที่สายสัมพันธ์กับ “พรรคสีฟ้า” ก็ไม่ได้ถือว่า เป็นศัตรูกัน เพราะครั้งหนึ่งเคยร่วมหัวจมท้าย สู้ศึกค้ำยันอำนาจ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแล้วก็คือ “บิ๊กป้อม”
      
       แม้ว่าชื่อของ “บิ๊กป้อม” จะขายยาก เพราะไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคม เพราะชื่อเสียงหนักไปทางสีดำมากกว่าสีขาว แถมมีบุคลิกมึงมาพาโวย จนยากที่ปันใจให้มานั่งในตำแหน่งผู้นำประเทศได้ แต่ชื่อนี้ก็ปรากฏตามหน้าสื่อทุกครั้งที่มีสถานการณ์พิเศษ
      
       และมีการพูดถึง “นายกฯคนกลาง” แม้ภาพลักษณ์จะสู้บรรดาแคนดิเดตคนอื่นๆ เช่น “อานันท์ ปันยารชุน” อดีตนายกรัฐมนตรี “พลากร สุวรรณรัฐ” องคมนตรี ไม่ได้ แต่ด้วยบารมีที่สั่งสมบวกกับคอนเนกชั่นการเมือง ชื่อของ “บิ๊กป้อม” โดดเด่นกว่าทุกคน
      
       ที่สำคัญ อย่าลืมว่า ความฝันสูงสุดของ “บิ๊กป้อม” ก็คือ การเดินตามรอยเท้าผู้มากบารมีแห่ง “บ้านน้อยเสา” ดังนั้น ฐานแรกที่จะปูทางให้ “พี่ใหญ่” ได้ก็คือ การก้าวมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเองเพื่อสั่งสมบารมี สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ ไต่บันไดขึ้นไปได้อย่างใจหวัง
      
       เรื่องการก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในวันใดวันหนึ่งของ “บิ๊กป้อม” ไม่ได้เป็นสิ่งที่มีการมโนกันขึ้นมา หากแต่เจ้าตัวมีการเตรียมพร้อมมาเสมอ หลังเคยถูก “โหรชื่อดัง” ทำนายทายทักว่า จะก้าวขึ้นสู่เก้าอี้เบอร์หนึ่งในรัฐบาล แต่ต้องถือเคล็ดบางอย่าง ตามที่มีการซุบซิบว่า ห้าม “แต่งเมีย” เด็ดขาด
      
       แต่อีกชื่อที่มาแรง แต่ยังไม่แซงทางโค้ง นั่นคือ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ต้องยอมรับว่า ยังรอวันเป็น ”ดาวฤกษ์” มีแสงในตัวเองเพื่อเฉิดฉายขึ้นมา เพราะปัจจุบันแม้เป็นถึง ผบ.ทบ.คุมกำลังพลอย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็ยอมเป็น “เด็กดี” อยู่ภายใต้ร่มเงาของ “บิ๊กตู่” ด้วยความอยู่ในโอวาทนี้เองที่ทำให้ถูกมองว่าเป็น “หมาก” ที่อาจถูกหยิบขึ้นมาเดินเมื่อไรก็ได้
      
       ตามโปรไฟล์แล้ว “บิ๊กโด่ง” แทบจะไม่มีมลทินให้ขั้วตรงข้ามมาโจมตีได้ ขณะเดียวกัน ยังเป็นนายทหารที่มีอากัปกิริยา “สุขุมนุ่มลึก” ไม่โผงผางเหมือน “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม” ที่สำคัญ บทจะโหดก็โหดได้ สั่งเฉียบ เป็นพวก “น้ำนิ่งไหลลึก”
      
       อย่างกรณี 14 นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว แม้จะเป็นการแก้เกมฝ่ายตรงที่พลาดของรัฐบาล แต่ “บิ๊กโด่ง” ก็เป็นคนที่เห็นดีเห็นงามกับมาตรการดังกล่าว กับ “บิ๊กป้อม” ที่ให้ยกระดับการบังคับใช้กฎหมาย จนนำมาสู่การออกหมายจับ เรื่อง “เฮี๊ยบ” จึงหายห่วง
      
       ผู้บังคับบัญชาคนใดสั่งพร้อม “เซย์เยส” ตลอดเวลา แถมพ่วงด้วยผลการปฏิบัติงานที่เกินร้อยเปอร์เซ็นต์เสมอ นอกจากนี้ ยังเป็นน้องที่ดีของ “บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม” ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด
      
       ดังนั้น ตัวเลือกที่จะก้าวเข้าสู่อำนาจใน “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่ใครบางคนวางเกมเอาไว้ล่วงหน้า จึงหนีไม่พ้น “บิ๊กป้อม” หรือ “บิ๊กโด่ง”
      
       และก็ไม่แปลกที่ “บิ๊กโด่ง” จะออกมาปฏิเสธสยบข่าวทันควันแบบนิ่มๆตามสไตล์ว่า ส่วนตัวไม่เคยคิดที่จะเป็นนายกฯคนกลางอย่างที่เป็นข่าว ทุกวันนี้ตั้งใจทำงานเต็มที่ ขณะนี้ขอยืนยันว่า จะร่วมแก้ปัญหากับนายกฯให้เต็มที่ เมื่อนายกฯใช้อะไรสั่งการอะไรมา
      
       แต่คำปฏิเสธของ “บิ๊กโด่ง” ก็ไม่ต่างกับเรื่อง “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่มีการปล่อยออกมา เหมือนกับมีคนเขียนบทเอาไว้แล้ว รอแต่ประเมินสถานการณ์ว่า จำเป็นมากพอหรือไม่ หรือจะงัดมาใช้ในช่วงเวลาใด ซึ่งหากดูตามความเชื่อมโยง เริ่มมีกระบวนการปล่อยข่าวในลักษณะ “โยนหินถามทาง” มากขึ้นเรื่อยๆ
      
       ไม่ว่าจะเป็น กรณี “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะ “พี่รอง” แห่งบูรพาพยัคฆ์ กล่าวกับกำนัน - ผู้ใหญ่บ้านตอนหนึ่งโดยระบุในทำนองว่า หากเกิดความขัดแย้งกันอีก จะวิกฤตถึงขั้นจับอาวุธมาสู้กันแน่ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่นิ่ง ทุกอย่างที่สงบเป็นแค่ภาพลวงตา สถานการณ์จริงยังมีการปลุกปั่นมวลชนของตัวเอง ฝั่งหนึ่งมีทหารในราชการ แต่อีกฝั่งมีทหารนอกราชการ โดยเฉพาะ “ทหารพราน” ที่เป็นเครื่องมือในการแย่งอำนาจ
      
       เหมือนกำลังจะถามต่อสังคมว่า จำเป็นที่จะต้องใช้ คสช.ซุกปัญหาไว้ใต้พรม กดไม่ให้กลุ่มอำนาจเก่าขึ้นมาสร้างความวุ่นวายกันอีก แต่เมื่อใดที่ คสช.วางมือปัญหาความขัดแย้งจะกลับมาแน่ คำพูดของ “บิ๊กป๊อก” เหมือนกำลังจะสื่อว่า ประเทศไทยในวันที่ไม่มี คสช.ความรุนแรงจะกลับมาทันที
      
       ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีการปรากฏตัวของ “บิ๊กเยิ้ม” พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิก สปช. เพื่อนรักนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 (ตท.12) ของ “บิ๊กตู่” ออกมาปูดข่าวว่า ขณะนี้มี 2 พรรคการเมือง จับมือลงขันเพื่อโค่นล้ม “รัฐบาลบิ๊กตู่” โดยสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้คนด้ามขวานเป็นกองหน้าและกองหลัง และมีคนภาคเหนือและอีสานเป็นกองกลาง
      
       แม้จะดูฟุ้งเฟ้อ โอเวอร์เกินจริง แต่ในเชิงยุทธศาสตร์การข่าวแล้วถือว่า ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถวาดภาพให้ประชาชนเห็นได้ว่า “ขั้วตรงข้าม” ยังไม่หยุด และมีการแบ่งกลุ่มมวลชนที่สามารถปลุกปั่นมาโค่นล้มรัฐบาลได้ การออกมาพูดในลักษณะนี้ของ “บิ๊กเยิ้ม” คงไม่ใช่แค่เพียงการพูดเล่น เพื่อให้คนถอนหงอก เพราะรู้ดีว่า หากพูดเกินจริงไปผลเสียจะตกอยู่ที่รัฐบาล
      
       ซึ่งหากผลเสียตกกับเพื่อนรัก “บิ๊กเยิ้ม” คงไม่ทำแน่
      
       หากย้อนไปดูแบ็กกราวด์ของ “บิ๊กเยิ้ม” สมัยเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รับการมอบหมายจาก “บิ๊กตู่” ให้เป็น “นายด่าน” เฝ้าประตูภาคอีสานในช่วงการเลือกตั้งปี 2554 ซึ่งเคยออกมาให้สัมภาษณ์หยาม “ทักษิณ” ว่า ไม่มีทางเอาชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานได้ทั้งหมด
      
       “บิ๊กเยิ้ม” ลงทุนเดินเกมลงสำรวจสำมะโนครัวเกือบทุกบ้านถึงเปอร์เซ็นต์ในเลือกตั้ง แล้วกลับมารายงานให้ “บิ๊กตู่” ทราบ แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นความร้อนแรงในภาคอีสานของ “ทักษิณ” ได้
      
       ที่ผ่านมาจะเห็นว่า ความพยายามในการต่อทอดอำนาจมีหลายครั้ง แต่รูปแบบจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนการ “โยนหินถามทาง” ว่า กระแสสังคมจะตอบรับหรือไม่ หากไม่ตอบรับข้อเสนอก็จะ “ถอย” เพื่อชงข้อเสนอใหม่ๆ ออกมา โดยใช้ “ตัวแสดงแทน” สลับกันเล่นไปเรื่อยๆ
      
       ตั้งแต่ครั้งที่ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” สมาชิกสปช. และกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ออกมา “จุดพลุ” ให้เพิ่มคำถามในการทำประชามติว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการปฏิรูปประเทศก่อน 2 ปี แล้วค่อยมีการเลือกตั้ง จนมีทั้งกระแส “ขานรับ” และ “ต่อต้าน”
      
       แม้กระทั่งตัว “บิ๊กตู่” ช่วงแรกยังเล่นบทแบ่งรับแบ่งสู้บอกว่า ให้ไปทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมอธิบายให้ต่างชาติเข้าใจ
      
       ซึ่งผลของการ “ถามทาง” ของ “ไพบูลย์” นำมาซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 เปิดช่องให้ทำประชามติ และสามารถสอบถามความเห็นของประชาชนในเรื่องอื่นได้ ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดช่องให้สอบถามเกี่ยวกับการให้ “บิ๊กตู่” และ “ขุนทหาร” ได้ไปต่อก็ได้
      
       หรือแม้กระทั่ง “วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ” หรือ “โหร คสช.” ที่ “บิ๊กตู่” และ “ขุนทหาร” เคารพนับถือ ยังออกมาทำนายทายทักว่า “บิ๊กตู่” จะได้อยู่ในอำนาจต่ออีกอย่างน้อย 2 ปี เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน แม้จะออกมาแก้ข่าวเพื่อสยบข่าวลือในภายหลัง แต่การที่ “โหรวารินทร์” เป็นคนวงในระดับอินไซด์ของทหาร ข้อมูลความเป็นไปได้บวกกับเรื่อง “โชคชะตา” ก็ควรจะต้องฟังหูไว้หูเหมือนกัน เพราะเรื่องอำนาจไม่เข้าใครออกใคร
      
       จนกระทั่งมาถึงคิวของ “บิ๊กเยิ้ม” ที่ออกมาปูดข่าวลงขัน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตัวละครและห้วงเวลาที่ออกมา มีความเชื่อมโยงอย่างผิดสังเกต จากนี้ต้องติดตาม “หิน” ที่โยนออกจากคนใกล้ชิด “บิ๊กทหาร” หรือคนวงในของ คสช. เพราะทุกย่างก้าวสื่อนัยสำคัญไว้เสมอ และอาจเปลี่ยนเกมได้ตามสถานการณ์เมื่อไหร่ก็ได้
      
       “หิน” นับร้อยที่โยนมาให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ ต้องมีสักประเด็นที่เหมาะสมและมีแรงต้านน้อยที่สุดในการสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งเกมที่ คสช.วางไว้ต้องดูระยะยาว เพราะฝั่งตรงข้ามเองก็เตรียมแคมเปญไว้แก้เกมเสมอ อยู่ที่ไทม์มิ่งเท่านั้นว่า จะเข้าทางใครมากกว่า
      
       แต่ที่น่าจับตามากที่สุดคือ ความฝันของ “บิ๊กป้อม” ที่ไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ อีกต่อไป ยิ่งมีการออกมาพูดรัฐบาลแห่งชาติมากเท่าไหร่ โอกาสของคน “ตัวเล็ก” ที่จะมีโอกาสได้ “ตัวโต” ก็จะมากขึ้นเท่านั้น
      
       เพราะพรรคการเมืองไม่ได้รับประโยชน์จาก “รัฐบาลแห่งชาติ” เลย!!!
      
      
       

พิมพ์จาก http://manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000081211
เวลา 18 กรกฎาคม 2558 12:17 น.
ผู้จัดการออนไลน์ - Manager Online (http://www.manager.co.th)
Thailand Web Stat

Wednesday, July 15, 2015

สามสิบคำถาม เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย สำหรับคนไทยทุกหมู่เหล่า

สามสิบคำถาม เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย สำหรับคนไทยทุกหมู่เหล่า

30 คำถามจากคนไม่รักเจ้า


สามสิบคำถาม เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ไทย สำหรับคนไทยทุกหมู่เหล่า

ขอเดชะ ประชาชนไทยที่รักทุกท่าน

ผม จะเขียนบทความชิ้นนี้ ในรูปคำถามทั้งหมด เพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกหมู่เหล่า ได้คิดตาม คำถามผม อาจจะเหมือนมีอคติอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นโอกาสให้คนที่รักสถาบันกษัตริย์ได้คิดหาคำตอบ หาหลักฐานมาหักล้าง และอธิบายความให้สังคมไทยได้เช่นกัน

หวังว่า คำตอบ จะทำให้ท่านเดินหน้าไปอีกหลายก้าวในเชิงการเมือง เพื่อจะได้ตาสว่างกันยิ่งขึ้น
และ กลายเป็นผู้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ชาติเราต้องการในที่สุดในเวลานี้  หรือท่านอาจจะรักสถาบันกษัตริย์ และระบอบการปกครองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ต่อไปหรืออาจจะมากขึ้นด้วย ซ้ำ.... ผมไม่ได้คิดเรียบเรียงอย่างรอบคอบนักนะครับ  ลองคิดไปด้วย และหากมีคำถามชวนคิดมากกว่านี้  ก็กรุณาช่วยกันเติมได้นะครับ เชื่อว่ามีอีกมากมาย และการได้เกิดสัมมาทิฏฐิ ไม่อยู่บนความลุ่มหลง หรือถูกผลักดันด้วยความโกรธแค้น หรือรักแบบงมงาย แล้วทำลายแบ่งแยกกันเอง แล้วให้ชนชั้นปกครองหลอกใช้

  1. ประเทศไทย เป็นของประชาชนทุกคนโดยเท่าเทียมกัน หรือเป็นของกษัตริย์คนเดียว หรือเป็นของชนชั้นสูงส่วนน้อยที่เขาอ้างว่ามีอำนาจ มีคุณธรรม และมีบุญบารมีมากกว่าประชาชนทั่วไป?
  2. กษัตริย์ภูมิพลและบรรพบุรุษ ท่านใดเคยรบข้าศึก เคยปกป้องประเทศ เคยก่อตั้งประเทศอย่างแท้จริง? ในการรบแต่ละครั้ง กษัตริย์ได้รบจริงกี่ครั้ง ในกองทัพมีครอบครัวกษัตริย์กี่คน มีลูกหลานชาวบ้านกี่คน? การอ้างว่ากษัตริย์รักษาบ้านเมือง ทำให้ชาติอยู่รอด เป็นวาทกรรมโดยใคร? เพื่ออะไร? 
  3. พฤติกรรมใดของกษัตริย์ คือพฤติกรรมที่เหมือนพ่อของท่านจริง ๆ? สิ่งใดที่ทำให้ประชาชน สมควรต้องเคารพรักและเทิดทูนไว้เหนือหัว เสมือนบิดามารดา หรือดั่งเทวดา? พฤติกรรมใดของกษัตริย์และครอบครัวที่ทำให้เราสมควรอยู่ใต้ฝุ่นที่อยู่ ใต้เท้าของพวกเขา?
  4. กษัตริย์ภูมิพลและครอบครัว แสดงอาการใดบ้าง ที่สรุปได้ชัดว่า รักประชาชน ห่วงใยประชาชน และทำประโยชน์ให้ประชาชน? ท่านมีหลักฐานใดชัดเจนที่ไมใช่แค่เขาเล่ามา?
  5. ในบรรดาพระราชกรณียกิจ และโครงการพระราชดำริที่ออกอากาศแทบทุกวัน ท่านได้รับประโยชน์โดยตรงใด ๆ บ้าง  ทำให้ชีวิตท่านดีขึ้นอย่างไรบ้าง มีหลักฐานใด? ทำไมต้องมีการนำเสนอกันแบบสม่ำเสมอ? หากให้เลือกดูข่าวสารความรู้เกี่ยวกับโลก วิชาชีพ และองค์ความรู้อันเป็นประโยชน์ต่าง ๆ ในช่วงสองทุ่มทุก ๆ วัน วันนี้ความรู้ของท่านจะก้าวไกลไปแค่ไหน?  และการโฆษณาเรื่องผลงานครอบครัวกษัตริย์ ทำขึ้นเพื่อสิ่งใด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนจริงหรือ?
  6. กษัตริย์ภูมิพลเหาะมาจากฟ้า พร้อมกับวงศ์ตระกูลหรือไม่? ทราบได้อย่างไรว่าท่านมีบุญบารมีเหนือมนุษย์? ก่อนเป็นกษัตริย์ ฐานะท่านและครอบครัวเป็นอย่างไร? วันนี้ฐานะท่านเป็นอย่างไร?
  7. ทำไมพิธีกรรมต่าง ๆ จึงเป็นการชูกษัตริย์เป็นเทวดา ตามลัทธิพราหมณ์  ทั้ง ๆ ที่กษัตริย์เป็นผู้ที่นับถือพุทธ และต้องพระราชทาน พระบรมราชูปถัมน์ให้กับศาสนานี้? 
  8. การที่กษัตริย์ยกตัวเหนือสงฆ์ ด้วยการแต่งตั้งและให้ลาภยศแก่พระสงฆ์นั้น ส่งเสริมหรือทำลายศาสนาพุทธ ที่สอนให้ลด ละ และเลิก ความเป็นตัวตน การครอบครองสิ่งต่าง ๆ อันรวมถึงลาภ ยศ สรรเสริญ เพื่อเข้าสู่การก้าวไปสู่นิพพาน?
  9. ทำไมท่านต้องจงรักภักดีกับกษัตริย์? การจงรักภักดีนั้น ชูกันขึ้นมาเพื่อชาติ หรือเพื่อใคร? 
  10. ใคร เป็นคนสร้างความคิดว่า คนทั้งหลายต้องรัก ต้องภักดี แบบไม่ต้องคิดถึงเหตุผล เขาทำเพื่ออะไร? ท่านสมควรเชื่อตามนั้นหรือไม่? เพราะเหตุใด?
  11. กษัตริย์ ไทยร่ำรวยที่สุดในโลก ในบรรดาราชาทั่วโลก แล้วทำไมจึงทรงสอนให้ประชาชนอยู่อย่างพอเพียง? กษัตริย์ไทยทำตัวอย่างไรที่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าอยู่อย่างพอเพียง?  การบีบหลอดยาสีฟัน เป็นภาพความจริง หรือแค่ภาพเล็ก ๆ ท่ามกลางภาพความหรูหรา เช่น เครื่องบิน รถ ปราสาท อาหารการกิน ฯลฯ ของคนในราชสำนัก?
  12. ทำไมประเทศที่กษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก จึงมีโสเภณีเต็มทั่วทุกจังหวัด มีนักท่องเที่ยวเพื่อกิจกรรมทางเพศ เข้าประเทศไทยเพื่อเสวยสุขจากเด็กหญิง เด็กชาย และหนุ่มสาวของประเทศอย่างคับคั่ง? ท่านรวยได้อย่างไร ทำมาหากินอะไร รับเงินภาษีประชาชนไปใช้ทางตรงและทางอ้อมเท่าได้ และได้ช่วยเหลือประชาชนแค่ไหน?  ท่านมีหลักฐานในประเด็นเหล่านี้เพียงใด? ท่านได้พยายามหาเพิ่มหรือไม่?
  13. ทำไมมีการฆ่าประชาชนในประเทศไทยใน ช่วงรัชกาลที่เก้า จนมีคนตายมากมาย หลายครั้ง นับตั้งแต่ตุลาคม 251425-16, พฤษภาคม 2535, เมษายน 2552 และเมษา-พฤษภา 2553 โดยคนสั่งและคนปฏิบัติการฆ่าไม่ได้ถูกพิจารณาและลงโทษเลย แถมผู้เกี่ยวข้องจำนวนหลายคน โดยเฉพาะในกลุ่มทหารและผู้ใกล้ชิดกับวัง ต่างได้ดิบได้ดีหลังความรุนแรงแทบทุกครั้ง?
  14. ทำไมเราบอกว่า ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ซึ่งอำนาจเป็นของประชาชน แต่รัฐบาลที่ประชาชนเลือกเข้าไปหลายครั้ง ถูกทหารแย่งอำนาจแบบหน้าตาเฉย แล้วก็มีความชอบธรรม เพียงแค่กษัตริย์ลงนาม? ทำไมความผิดใด ๆ ที่หนักหน่วงขนาดถึงกับต้องโทษประหารชีวิต ก็ได้รับการพระราชทานอภัยโทษหมด?  แปลว่ากษัตริย์ร่วมกับทหารและนักการเมืองมักง่าย ปล้นอำนาจประชาชน ใช่หรือไม่ใช่? เพราะเหตุใด? ทำไมเวลามีการรัฐประหาร การทำม็อบล้มรัฐบาลฝั่งปชต. หรือเวลามีทหารหรือกองกำลังพลเรือนออกมาฆ่าประชาชนหัวก้าวหน้าหรือเอียงซ้าย จึงต้องมีการใช้สัญลักษณ์ของกษัตริย์หรืออ้างความจงรักภักดี โดยกษัตริย์เองก็ไม่ได้คัดค้านหรือห้าม?
  15. กษัตริย์อยู่เหนือการเมือง เป็นวาทกรรมที่หลอกลวง หรือเป็นจริง?  อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ต้องผ่านด้วยลายเซ็นต์ของกษัตริย์ทุกครั้ง ใช่หรือไม่?
  16. ทำไมทหาร ที่อยู่ใกล้ชิดกับสถาบันกษัตริย์ คือกษัตริย์และพระราชินี จึงออกมามีส่วนในกิจกรรมการเมือง จนทำให้มีการยิงหัวประชาชนมือเปล่านับร้อยคน  และกษัตริย์ไม่ได้แสดงความเสียพระทัยหรือให้ข้อคิด เตือนสติ หรือห้ามปรามใด ๆ เลย?  นี่ใช่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ไทยหรือไม่ใช่? ทำไมจึงไม่มีการลงสัตยาบันรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ? ทำไมจึงมีการปิดปากประชาชนไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์และสถาบันด้วยมาตรา 112?
  17. กษัตริย์ภูมิพล ถือศีลห้า ครบหรือไม่?  ท่านทราบได้อย่างไร? 
  18. ใน ทศพิธราชธรรม สิบข้อนั้น มีสิ่งใดบ้าง ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดคนถึงอ้างว่ากษัตริย์ไทยเป็นธรรมราชา?  ประเทศที่มีธรรมราชา ควรมีคุณลักษณะอย่างประเทศไทยหรือ?
  19. เอาล่ะ ช่วยทบทวนความจำให้นะครับ ทศพิธราชธรรมประกอบด้วย ๑. ทาน l ๒. ศีล l ๓. บริจาค l ๔. ความซื่อตรง l ๕. ความอ่อนโยน l ๖. ความเพียร ๗. ความไม่โกรธ l ๘. ความไม่เบียดเบียน l ๙. ความอดทน l ๑๐. ความเที่ยงธรรม   ท่านคิดว่า กษัตริย์ภูมิพล ถือครบสิบข้อนี้หรือไม่ ดีเพียงใด? ทราบได้อย่างไร? ครอบครัวของท่านปฏิบัติศีลและธรรมเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาจริงหรือ? ท่านมีหลักฐานเต็มหูเต็มตาหรือไม่?
  20. มีคนกล่าวว่า รัฐธรรมนูญการปกครองประเทศไทย มีพัฒนาการเชิงเป็นประชาธิปไตยน้อยลง หรือหมกเม็ดเพื่อริดรอนเสรีภาพ และความเสมอภาค แล้วก็สร้างความแตกแยกรุนแรงในชาติไทยเพิ่มยิ่งขึ้นในระยะหลังนี้ เพราะอะไร?  บางคนบอกว่า เพราะประชาชนรู้ความจริง และความกลัวก็ทำให้คนสำคัญ ๆ ของชาติต้องออกมาใช้อำนาจเผด็จการ ผ่านการสุมหัวกันของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ทหาร ศาลที่คณะรัฐประหารตั้ง สื่อที่เอียงขวาและอิงกับพ่อค้าและผู้ดีที่ได้ประโยชน์จากการทำธุรกิจเคียง ข้างหรือได้ผลประโยชน์ร่วมกับเจ้า ถึงกับต้องสั่งฆ่าประชาชน   ท่านเห็นด้วยหรือไม่? เพราะอะไร?
  21. เกิดมาชาตินี้ ท่านเคยเจอกษัตริย์ตัวเป็น ๆ กี่ครั้ง?  พระองค์และครอบครัวได้ทำอะไรที่ให้ประโยชน์กับท่านหรือครอบครัว หรือคนในชุมชนท่านบ้าง? คิดเป็นเงินได้กี่บาท? คิดเป็นความเจริญได้กี่กิโลกรัม?
  22. การมีกษัตริย์อยู่ ให้คุณประโยชน์อะไรแก่ประเทศชาติ ที่จับต้องได้ อยู่บนหลักเหตุผลมากกว่าอารมณ์ และมีหลักฐานชัดเจนที่ท่านเห็นและรับรู้กับหู กับตา?
  23. หากสถาบัน กษัตริย์หมดไปจากสังคมไทย หรือไม่มีอำนาจใด ๆ ให้ใครไปอ้างใช้ได้อีก จะมีอะไรเกิดขึ้นที่เป็นผลร้ายที่แก้ไขไม่ได้?  คนไทยขาดกษัตริย์ไม่ได้จริง ๆ หรือ? ให้คิดทั้งทางการปกครอง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และแม้แต่วิถีชีวิตประจำวันของท่าน และระบบราชการในบ้านในเมืองระดับต่าง ๆ?
  24. หากกษัตริย์หมดไป หรืออำนาจกษัตริย์หมดไป ประเทศไทยจะได้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง?  ใครจะได้ประโยชน์สูงสุด? ใครจะเสียประโยชน์สูงสุด? 
  25. ที่ บอกว่ากษัตริย์ไทยทรงพระปรีชาสามารถด้านดนตรี กีฬา เรื่องน้ำ เรื่องเขื่อนฝายกั้นน้ำ เรื่องการพัฒนา เรื่องเทคโนโลยี ฯลฯ  ท่านเห็นด้วยหรือไม่? มีหลักฐานและการตรวจสอบใด ๆ หรือไม่? ท่านทราบได้อย่างไร? ทำไมกษัตริย์และราชวงศ์จึงไม่ได้เรียนจบอะไรมากมาย? ทำไมกษัตริย์ภูมิพลและพระราชินีจึงไม่จบปริญญาตรี และลูก ๆ ไม่มีใครเรียนจบปริญญาเอกเหมือนลูกชาวบ้านสักคน?  
  26. ทำไมคนบางกลุ่ม ถึงอ้างว่าเขาจงรักภักดีกษัตริย์นักหนาและมากกว่าคนอื่น เขารู้ได้อย่างไร เรารู้ได้อย่างไร   และพวกเหล่านั้น ได้ประโยชน์มากกว่าพวกเราหรือไม่ อย่างไร?  
  27. ท่านทราบไหมว่ากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของพระราชา เสียภาษีเท่าไหร่  เอาเงินภาษีประชาชนเข้าไปใช้ปีละเท่าไหร่  และเงินบริจาคแต่ละปีเป็นเงินเท่าไหร่ กษัตริย์และราชวงศ์บริจาคเงินและทรัพย์สินในยามชาวบ้านเดือดร้อนเท่าไหร่?  พฤติกรรมของพ่อของแผ่นดิน สรุปได้จากความรักความใสใจตรงนี้ ได้มากน้อยแค่ไหน?
  28. กษัตริย์ไทยดีจริงแค่ไหน  ทำไมต้องมีการบังคับให้ยืนเคารพในโรงหนัง ทำไมต้องมีซุ้มเต็มบ้านเมือง ทำไมต้องจัดงานต่าง ๆ อย่างยิ่งใหญ่เพื่อเชิดชู ทำไมต้องแสดงภาพการมีคนบริจาคเงินแทบทุกวัน และทำไมจึงต้องห้ามประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ หรือละเมิดไม่ได้เลย?
  29. ความ ดีของกษัตริย์ภูมิพล วัดได้จากตรงไหน? ท่านมีเหตุผลและหลักฐานใดบ้าง? คนดี ของระบอบการปกครองปัจจุบัน ทำไมต้องจงรักภักดีและมียศตำแหน่งใกล้ชิดและรับใช้วังด้วย?  
  30. เมื่อ มีกษัตริย์ ก็มีชนชั้น และการแบ่งชนชั้น  ทำให้คนเหยียดหยามคนที่ตนมองว่าต่ำกว่า  ซึ่งไม่ใช่สิ่งดี  หากไม่มีกษัตริย์ ปัญหาใด ๆ ของชาติจะลดหรือหายไปได้ง่ายหรือเร็วขึ้น? เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ (ความเป็นพี่น้องและกลมเกลียว) ถูกส่งเสริมหรือบั่นทอนโดยสถาบันกษัตริย์ไทย??? กษัตริย์ไทยส่งเสริมประชาธิปไตยหรือบ่อนทำลาย? ท่านมีเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดสนับสนุนคำตอบของท่าน 

Sunday, June 21, 2015

เป็นเอามาก! สมาน ศรีงาม ข่มคณะราษฎร อ้างกษัตริย์คือผู้สร้าง ปชต. ให้ชาติไทย ... ไอ้ควาย!!!

Saturday, June 13, 2015

ข่าวลับกรองแล้ว 13 มิ.ย. 2558 ปู่หมดน้ำยาแล้ว โชว์ตัวอีกไม่ได้แล้ว!!!



ข่าวลับกรองแล้ว13 มิถุนายน 2558

"ปู่หมดน้ำยารับคำท้าออกมาโชว์ตัวไม่ได้แล้ว"
สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*แต่เดิมใครท้าว่ากษัตริย์ภูมิพลหมดสภาพแล้วเป็นไม่ได้ท่านจะถ่อกายออกมาโชว์ทุกครั้งเพื่อยืนยันว่า"ข้ายังอยู่นะว้อย"แต่คราวนี้เห็นทีไม่มีอีกแล้วนับแต่กลับเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดเพราะแม้ยังไม่หมดลมหายใจแต่แค่จะตั้งกายให้นั่งรถเข็นก็เป็นไปไม่ได้แล้ว...หากวันนี้อาจารย์สุรชัย แซ่ด่านจะประกาศท้าขี้ข้าก็ไม่กล้าเข็นออกมาให้ใครเห็นเพราะหมดสภาพจริงๆ...ยิ่งเห็นก็ยิ่งเสื่อมและสังเวชเพราะปากที่เคยหุบไม่ลงก็ยังคงเดิมแถมใบหน้าลูกกะตาก็จะเอ๋อตามภาวะของสมองที่หมดสภาพจากการช็อคและกู้คืนยาก...คงปิดบังอำพรางไม่ได้แล้ว
*ข่าววงในการกลับมาศิริราชครั้งล่าสุดนั้นเกิดอาการช็อคหมดสติจึงเกิดคำสั่งว.กระทันหันเร่งด่วนทั้งรถทั้งเครื่องบิน...จึงเกิดสายข่าวต่างประเทศรายงานว่าท่านเด็จทางฮ.แต่ไม่ว่าเด็จทางใหนหมอใหญ่ก็ไม่กล้าให้สัญญาว่าจะสามารถรักษาให้กลับมาแค่เก่า(ที่ปากหวอยกแขนไม่ขึ้น)ได้,วันนี้คงไม่กล้าปากแข็งสัญญาแล้ว


*ปิดอย่างไรก็ไม่มิดไม่รู้คิดได้อย่างไรที่แถลงว่า"เป็นการตรวจสุขภาพตามปกติ"แต่10กว่าวันแล้วยังตรวจไม่เสร็จสักที?...ถึงวันนี้ยังไม่มีแถลงการณ์เลยว่าอาการตรวจปกติเป็นอย่างไร?แต่กลับมีข่าวลือว่าตายแล้วทั่วประเทศพร้อมทั้งข่าวเตรียมพร้อมของทหารสายใครสายมันทั้งชายทั้งหญิงที่ทำท่าฮึ่มๆใส่กันตามมาไม่เว้นแต่ละวัน

*ความผิดปกติมีให้เห็นที่ศาลา100ปีศิริราชที่เคยตั้งโต๊ะแล้วเกณฑ์คนจากหน่วยราชการต่างๆทั่วประเทศใช้งบส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์เวียนกันเดินทางมาคารวะรูปภาพคล้ายๆเคารพรูปงานศพนั้นถูกยกเลิกแล้วเมื่อร่างของภูมิพลมาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่1มิถุนายน...เหตุผลสำคัญเพราะนับแต่นี้กิจกรรมเกี่ยวกับรัชกาลที่9ที่แสดงออกถึงการมีพระพลานามัยสมบูรณ์จะต้องลดโทนลงทั้งหมดเพราะเห็นว่ากิจกรรมใดๆที่กระตุ้นให้คนสนใจและคอยแต่จะมาเฝ้ารับเสด็จล้วนแล้วแต่ไม่เป็นประโยชน์เพราะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความสนใจเกี่ยวกับ"พระอาการ"ที่"หมดอาการ"แล้ว,ยิ่งปกปิดข่าวหมดสภาพยากใหญ่...คิดแล้วมีแต่เสียมากกว่าได้
*สัญญานที่บอกให้รู้ความจริงว่าดวงตะวันเก่าจะลับฟ้าก็คือการสร้างภาพลักษณ์ของดวงตะวันใหม่ก็ดูเอาจริงเอาจังเสมือนการเสริมภาพฟ้าชาย(ที่ไม่ค่อยจะสร้างภาพ)เช่นทำการฟอกขาวภาพราชสำนักด้วยการปราบปรามขุนนางกังฉินอย่างนายมนตรีกรมวังที่เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ ...แต่สปท.มองเกมส์นี้ว่าฟ้าชายยิงนกด้วยกระสุนนัดเดียวแต่ได้นกทั้งฝูงเพราะสิ่งที่ได้แน่ๆคือแสดงบารมีอำนาจว่าคนในวังถ้ายังรักชีวิตที่สุขสบายก็ทำตัวให้ดีๆในช่วงเปลี่ยนผ่านไม่เช่นนั้นจะเจอของแข็ง

*แม้หมอไม่แถลงเรื่องจริงแต่โอบาม่าประธานาธิบดีสหรัฐแถลงเองก็ได้...อาการโคม่าของภูมิพลในการกลับเข้าศิริราชอย่างฉุกเฉินรายงานถึงทำเนียบขาวจนโอบามาต้องออกมาพูดถึงในงานต้อนรับผู้นำเยาวชนแห่งเอเซียที่ทำเนียบขาว

*สัญญานใหญ่ที่ประยุทธ์บอกใบ้ด้วยตัวเองว่ากษัตริย์ใกล้ม้วยมรณาก็คือการส่งสัญญานว่าจะอยู่ต่ออีกสองปีโดยให้พระสุวิท(พุดไถอิสระ)พาพรรคพวกออกมายื่นหนังสือเรียกร้องให้ทำประชามติขอให้ยุทธ์เหล่อยู่ต่อเพราะคสช.เตรียมแผนไว้แต่ต้นว่าเวลากษัตริย์ใกล้ตายคือนาทีทองของการเสวยอำนาจ,เมื่อได้จังหวะสุเทพก่อหวอดคสช.ก็ช่วยหนุนและวันนี้ก็ปล้นอำนาจสำเร็จแล้วเมื่อกษัตริย์ตายอย่างไงก็เลือกตั้งไม่ได้เพราะแค่จัดงานศพก็หมดปีแล้วก็เข้าล็อคจึงแพลมไต๋ทันทีให้มีสุนัขรับใช้ออกมาเห่าหอนถามทาง...สภาพฝันหวานของยุทธ์เหล่ที่ทำเฉไฉมองเห็นแล้วไทยฉิบหายแน่ๆ
*เข้าล็อคเสรีไทยที่เลขาใหญ่จารุพงศ์ประกาศกับประชาชนมาตั้งแต่ต้นเมื่อรัฐประหารเสร็จใหม่ๆว่าอย่างไงอย่างไง๋คสช.ก็จะไม่ให้มีเลือกตั้งแน่นอน...วันนี้ก็ชัดเจนแล้ว

*ประธานาธิบดีอเมริกา(ไม่ได้นั่งว่างๆแบบประยุทธ์ที่วันๆนั่งคิดแต่ถ้อยคำที่จะใช้เสียดสีนักข่าวและแสวงหาอำนาจไม่รู้จบ)ร้อยวันพันปีไม่ได้พูดถึงอาการป่วยของกษัตริย์ภูมิพลเลย(ทั้งที่ป่วยมานาน)ยังต้องเอ่ยถึงสุขภาพเป็นครั้งแรกเพราะได้รับรายงานสายตรงจากสถานฑูตในไทยและสำนักข่าวกรองที่ได้ข่าวจากก้นวังอย่างแม่นยำว่ากษัตริย์ภูมิพลหมดสภาพแล้ว...จากนี้จะพูดอีกทีตอนไว้อาลัย
*ใครก็รู้ว่ากษัตริย์ภูมิพลคือผู้กุมนโยบายรัฐตัวจริง(ยกเว้นอาจารย์มหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ไม่รู้)ดังนั้นการจะจากไปของกษัตริย์ภูมิพลหมายถึงความเสี่ยงภัยทางนโยบายของไทยที่สหรัฐอเมริกาจะต้องจับตามองหลังจากที่ไทยมีนโยบายคงที่มายาวนานกว่า50ปีตลอดรัชสมัย...นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่โอบามาออกมากล่าวถึงและมีภาพนั่งคุยกับทักษิณสองต่อสองที่เยอรมันออกเผยแพร่

*เห็นภาพทักษิณนั่งคุยกับโอบามาก็ยิ่งเวทนาประยุทธ์กับพลเอกธนะศักดิ์ที่วิ่งไล่งับยึดพาสปอร์ตและจะถอดยศทักษิณเพราะนั่งคุมงานต่างประเทศแต่เกรดต่ำแค่งานอาชีวะ
*ทำท่าไล่ล่าจะถอดยศทักษิณทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิดฆ่าคน...ระวังให้ดีเดือนนี้เป็นเดือนตายของรัชกาลที่8ที่ทุกคนรู้แล้วว่ากษัตริย์ภูมิพลเป็นคนสังหารพี่ชายระวังอีกไม่นานจะมีคนเสนอให้ถอดยศกษัตริย์ภูมิพลในฐานะฆาตรกรตัวจริงรวมทั้งการสั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์14ตุลา2516 และ6ตุลา2519และกรณีเหตุการณ์ราชประสงค์เลือด"ไอ้เหี้ยสั่งฆ่าอีห่าสั่งยิง"รวมทั้งคณะคสช.ทั้งชุดที่เป็นมือสังหาร...เพราะประยุทธ์ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้าพระราชาก็ต้องตายแต่ประวัติศาสตร์ของประชาชนที่ถูกต้องเป็นจริงจะต้องปรากฎขึ้น

*ภาพการปรากฎตัวของทักษิณในที่สาธารณะปรากฎถี่ขึ้น,ภาพยิ่งลักษณ์ก็กระชั้นถี่ในประเทศถ้าประยุทธ์ยังไม่รู้ทีว่านี้คือสัญญานทางการเมืองที่กำลังบอกยุทธ์เหล่ว่างานกำลังจะเข้าก็คงจะสมแล้วกับการเป็นตุ๊กตาของเล่นของวังที่ชอบปั้นคนโง่ๆไว้ใช้งาน

*อย่าคาดหวังว่าข่าวกษัตริย์ภูมิพลสิ้นชีวิตจะเกิดขึ้นในเร็ววันเพื่อจะเกิดรัชกาลใหม่เพราะขบวนการยื้ออำนาจในราชสำนักจะดึงให้ยาวนานที่สุดแม้ตายแล้วก็จะเก็บร่างไว้เพื่อใช้เป็นเหตุว่าท่านยังอยู่ก็ยังตั้งรัชกาลใหม่ไม่ได้ตาม"สังฆราชญานสังวรโมเดล"จนวันนี้นานกว่า10ปีแล้วมีแต่ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสังฆราชโดยอ้างราชประเพณี...ชัดเจนแล้วว่ารัชกาลที่10ไม่มี(จะมีก็แต่ผู้สำเร็จราชกาลแทน)และคนที่ทำลายสถาบันกษัตริย์มิใช่ใครอื่นคือกษัตริย์ภูมิพลเอง
*การสถาปณารัชกาลที่10เมื่อรัชกาลที่9ไม่ทำ,องคมนตรีก็ไม่จัดการส่วนรัฐบาลก็อาศัยหารับประทานไปวันๆแล้วจะให้ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองเป็นคนทำเรื่องนี้ได้อย่างไร?...ความรับผิดชอบของคนพวกนี้ที่เฝ้าสอนประชาชนให้"รับผิดชอบต่อหน้าที่"อยู่ที่ใหนกัน?

*ย้ำอีกทีนับแต่นี้ไปกฎหมายไทยทั้งหมดเถื่อนหมดและการใดๆทั้งหมดที่อ้างว่ากษัตริย์ภูมิพลเป็นผู้ลงนามล้วนแล้วแต่ปลอมลายเซนต์ทั้งสิ้นเพราะป๋าอ้าขายกแขนไม่ได้แล้ว

*สายข่าววงในของสปท.ยังมีประสิทธิภาพพิสูจน์ได้จากข่าวขณะนี้ว่า"คุณพ่อตา"ของเสี่ยหรือคุณพ่อของราชองครักษ์หญิงคนสำคัญที่ทำงานเก่งมากปีเดียวยศขึ้นจากพันตรีเป็นพลอากาศตรีหญิงสุธิตากำลังนอนพักฟื้นจากการผ่าตัดตับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชเหมือนกัน(ทั้งที่ข่าวหนังสือพิมพ์ไม่ได้ลง)แต่ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว...พบกันใหม่ในเร็ววันหากมีข่าวด่วนยิ่งกว่านี้//

-----------จบ-----------





Thursday, May 28, 2015

เผด็จการไทย กำลังจนตรอก -- จักรภพ เพ็ญแข

จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair

ในที่สุด ระบอบเก่าของไทยก็ทนไม่ได้ที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีอิสรภาพที่จะเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเปิดเผยความชั่วร้ายที่หมักหมมมานานปี จึงรีบสั่งให้ยกเลิกหนังสือเดินทางเสียโดยพลัน พฤติกรรมนี้คงไม่ได้ทำให้นายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งอันท่วมท้นอย่าง ดร.ทักษิณฯ ต้องลำบากยากเย็นจนเกินไป แต่กลับฉายภาพอย่างชัดเจนของระบอบอำนาจไทยปัจจุบันว่า กำลังจนตรอกขนาดไหน รัฐที่ทำร้ายคู่ต่อสู้ทางการเมือง โดยการยกเลิกหนังสือเดินทางของผู้ที่เป็นพลเมือง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก ล้วนแล้วแต่เป็นรัฐเผด็จการทั้งสิ้น รัฐที่เจริญแล้วด้วยวิญญาณประชาธิปไตย แม้จะเผชิญกับความกดดันทางการเมืองขนาดไหน ก็จะไม่ทำประกอบกรรมชั่วที่หนักหน่วงขนาดนี้เป็นอันขาด แต่ถึงเราผู้รักประชาธิปไตยจะเห็นใจ ดร.ทักษิณฯ เป็นอย่างยิ่ง แต่เราก็เห็นใจเมืองไทยในขณะนี้มากกว่า เพราะการที่ผู้เผด็จการไทยทำถึงขนาดนี้ ย่อมทำให้อนาคตของประเทศไทยมืดมน ความขัดแย้งอันสลับซับซ้อนก็จะยิ่งหาทางออกมิได้ ถึงจะสมมติใครที่ไหนขึ้นเป็นประธานหัวโต๊ะ ประธานนั้นๆ ก็จะเสื่อมราคาจนหมดคุณค่า เพราะมีพฤติกรรมเข้าข้างโจร เห็นใจโจร และพายเรือให้โจรนั่ง อุตส่าห์สะสมชื่อเสียงมานานนับสิบปี กะจะเอาภาพลักษณ์ที่หรูกว่า แซงโค้งรถคันที่ขวางอยู่ข้างหน้า แต่พอแซงพ้นก็ต้องตาเหลือกลาน เพราะเจอตอไม้ขวางอยู่ข้างหน้า รถคันที่แซงมานั้นก็จะประสานงาเข้ากับตอไม้จนตายทั้งคัน เรื่องแบบนี้คืออนาคตของไทยในมือเผด็จการ ซึ่งน่าห่วงใยกว่ากรณีหนังสือเดินทางของ ดร.ทักษิณฯ มากนัก

Sunday, May 24, 2015

ช่วยกันเผยแพร่ให้ได้มากที่สุด!! คลิปข่าวชาวต่างชาติ ที่คนไทยคงไม่มีวันได้ดู !

ช่วยกันเผยแพร่ให้ได้มากที่สุด!!

คลิปข่าวชาวต่างชาติ ที่คนไทยคงไม่มีวันได้ดู !!

จาก"เหตุการณ์ควบคุมนักศึกษา" ที่หอศิลป์ ปทุมวัน กรุงเทพ
Bangkok Students protest against military rule


-------------
http://www.youtube.com/watch?v=s87DYeigWu4&feature=youtu.be          

http://www.youtube.com/watch?v=-RQeOSAKKhM    

http://www.youtube.com/watch?v=NiS6cHYl0vA

"อย่าปล่อยให้นักศึกษา สู้อย่างโดดเดี่ยว"
"อย่าปล่อยให้เผด็จการทำร้ายนักศึกษา โดยที่เราได้แต่นั่งมอง"


ช่วยกันแชร์ ไปฟ้องโลก!!

Thursday, May 21, 2015

ละครลิงของเปรมกับจิ๋ว...หลักฐาน สถาบันกษัตริย์ ยุ่งกับการเมืองมาตลอด

เป็นตัวแทนวังที่ออกมาเล่นการเมืองอย่างโจ๋งครึ่มตลอด... สัตว์

ละครลิงของเปรมกับจิ๋วเปรม ติณสูลานนท์ ตำหนิ ชวลิต ยงใจยุทธ์ ที่ไปสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2551 และ ชวลิต ก็ตอกกลับเปรม (ละครลิง) กูมีคลิปเด็ดกว่านี้อีก อิอิ

Posted by กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ on Thursday, May 21, 2015

Sunday, May 10, 2015

แย่งกันเป็นใหญ่ บนความเสียหายประชาชน และความล่มจมของชาติ


....เปิดศึกชิงการนำ กันแล้ว..กองทัพระส่ำระสายหนักเมื่อกลุ่มทหารการเมือง แตกแยกออกเป็นสองฝ่ายชัดเจนแล้วดังนี้

1.กลุ่มอำนาจผูกขาด ป้อม-ตู่-ป๊อก ครองอำนาจ ณ ปัจจุบัน

2. กลุ่มทหารสังกัดป๋าเปรมผนึกกำลังกับนายทหารสังกัดพลเอกเชาวลิต ยงใจยุทธ์ ..เสริมด้วยนายทหารคนใต้สังกัดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ..โดยเริ่มมีช่วงชิงการนำ..ในทุกรูปแแบบ เกิดขึ้นแล้ว หวยอำนาจจึงไปออกที่การแย่งชิงตัวผู้บัญชาการทหารบก กันขึ้น เพื่อให้กองทัพมาอยู่กับฝ่ายของพวกตนเสีย ฝั่งป๋าเปรม ออกโรงกดดันให้พลเอกอุดมเดช สีตะบุตรก่อน เพื่อให้ทำการยึดอำนาจเสียทีทั้งนี้อ้างเพื่อปิดทางแผนการชั่วที่จะเปิดช่องให้พลเอกปรีชา จันทร์โอชา..ที่ถูกฝ่ายอำมาตย์มองเป็นตัวสุดอันตรายของประเทศ..ถ้าถูกแก็งค์พี่ชายเชิดดันขึ้นนั่งแท่น เป็นผบ.ทบ.คนต่อไปได้จริงๆ เรื่องจากบุคคลิกลักษณะที่สุดเพี้ยนของพลเอก.ปรีชาที่บ้าบอ ไม่แพ้พี่ชาย และยังคงข่าวฉาวเรื่องโกงๆกินเงินทหารไม่หยุด แม้จะมีประวัติเปิดบัญชีกองทัพภาค 3แล้วยักย้ายถ่ายเทไปใส่บัญชีนางผ่องพรรณ ภรรยามาก่อนแล้วก็ยังไม่เข็ดหลาบ  ปรากฏเหตุการณ์ตึงเครียดกระเพื่อมในกองทัพขึ้นอย่างหนักเมื่อนายทหารกลุ่มหนึ่งเป็นฝ่ายถือหางอำนาจทางการเมืองของพลเอกเปรม ได้ส่งสัณญาณกดดันไปยังพลเอกอุดมเดชให้คิดการบ้านเรื่องทำการยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเอก .ประยุทธ์ที่นับวันยิ่งเป็นตัวตลกของคนไทย..เสียได้แล้ว โดยทางฝ่ายต้องการล้มประยุทธ์..เสนออุดมเดชให้ก้าวขึ้นในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนเกษียณอายุราชการเหมือนเส้นทางที่ประยุทธ์ทำอยู่

.... ความคิดนี้ได้ดำเนินการพูดคุยกันมาในระยะหนึ่ง แม้จะปิดเป็นความลับสุดยอด...แต่ทางกลุ่มอำนาจผูกขาด..ของประวิตร ก็ยังได้กลิ่นอายการยึดอำนาจกันบ้างแล้ว

...คนเปิดเกมส์ชงเกมส์เองเป็นกลุ่มทหารแก่ที่ไม่เคยตายไปจากการเมืองได้แก่บิ๊กจิ๋ว พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์เป็นผู้เปิดตัวยั่วยุ..ขึ้นมาหลังถูกนายไพศาลเล่นไม่เลือกใครเป็นใคร ลูกน้องในสังกัดเดิมของพลเอก.ชวลิตจึงเลือกร่วมทางการเมืองกับทีมกับทหารเก่าสังกัดลูกป๋าอีกหลายราย คาดการณ์มีขบวนการทหารทั้งในและนอกราชเป็นตัวหลักในการเคลื่อนไหวลับๆเพื่อล้มรัฐบาลประยุทธ์มากกว่า 30 ชีวิตและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหลังประยุทธ์เกิดอาการเมาอำนาจคุมตัวเองไม่อยู่

...กลุ่มที่เข้ามาช่วยเหลือในการเป็นกองกำลังหลักให้ฝั่งล้มประยุทธ์เป็นหน่วยสงครามพิเศษที่พลเอกสุรยุทธ์ ยังสั่งการได้ทุกเมื่อ ร่วมกับหน่วยสื่อสารช่วยเรื่องการข่าวเข้าร่วมปฎิบัติภาระกิจล้มด้วย ป๋าเปรมได้ตั้งให้พลเอกวีรัญ ฉันทศาสตร์โกศลนายทหารหน้าหยกขึ้นเป็นตัวแทนในประสานงานกิจการของฝ่ายป๋าทั้งหมด..

Thursday, May 7, 2015

ทหาร พ่อทุกสถาบัน... พวกล้มปชต.เคยโจมตีว่า รัฐตำรวจ วันนี้เลยเป็น "รัฐทหาร" เต็ม ๆ

ทหาร พ่อทุกสถาบัน... พวกล้มปชต. เคยโจมตีว่า รัฐตำรวจ แล้วให้ทหารยึดอำนาจ
วันนี้เลยเป็น "รัฐทหาร" เต็ม ๆ  มันสะใจ ไหมน้องไทยเอ๋ย...

ตามข่าวนี้ครับ..


ทหาร  บุก  สำนักงานตำรวจแห่งขาติ รวบเจ้าหน้าที่อิสราเอลขณะสาธิตอุปกรณ์ดักฟังให้ตำรวจสันติบาลดู  อ้างใช้มาตรตรา  44  ไม่ประสาน ตำรวจพื้นที่


วันนี้ 7 พ.ค.2558 เวลา11.00น.ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนของอิสราเอลได้มาสาธิตการใช้เครื่องดักฟัง และการเช็ค พิกัดโดยมาสาธิตที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจสันติบาล แต่ในขณะที่มีการสาธิตได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ จำนวน 3 คันรถฮัมวี่ รวมกว่า10นาย พร้อมอาวุธครบมือได้บุกเข้ารวบตัวเจ้าหน้าที่ชุดอิสราเอลชุดดังกล่าวจำนวน 9นาย ซึ่งทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจเก่าของอิสลาเอล ทำให้ตำรวจสันติบาลที่อยู่ในห้องประชุมต่างตกใจและกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้มีการชี้แจงว่าเป็นการควบคุมตัวตามมาตรา44แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี พ.ศ.2557 และได้นำเจ้าหน้าที่อิสรา เอลทั้งหมดไปควบคุมไว้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2)

โดยมีรายงานว่าทหาชุดดังกล่าวได้มาเฝ้ารอตั้งแต่เวลา 08.00 น.ก่อนที่จะบุกเข้าจับกุมขณะที่มีการสาธิตในห้องประชุม โดยการบุกเข้าจับกุมไม่ได้มีการประสานกับกองบังคับการสันติบาล 3 ที่รับผิดชอบพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายแต่ก็ได้รับการปฎิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว

/////

รายงานพิเศษ 7 ปมอันตราย สนิมในรัฐธรรมนูญ Credit: TV24 07-05-58 News Room 18.30 -






รายงานพิเศษ 7 ปมอันตราย สนิมในรัฐธรรมนูญ Credit: TV24 07-05-58 News Room 18.30 -



"ชำนาญ จันทร์เรือง" โหวตร่างรธน.คสช.อัปลักษณ์ที่สุด-อายุจะสั้นที่สุด


Published on May 6, 2015
นาย ชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และประธานองค์การนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการพิจารณาของ สภาปฎิรูปแห่งชาติ และจะมีการลงมติวันที่ 6 สิงหาคมนี้ว่า ตนเห็นว่า เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่อัปลักษณ์และจะเป็นร­ัฐธรรมนูญที่จะมีอายุสั้นที่สุด เพราะไม่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชา­ชน แม้จะมีการจัดเวทีในต่างจังหวัดแต่ก็ไม่ได­้ รับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่มากำหนด บังคับให้ประชาชนต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ และอ้างเรื่องสภาพลเมืองขึ้นมาเพื่อหลอกล่­อมากกว่า การที่จะให้พลเมืองเป็นใหญ่ แต่ ประชาชน ไม่มีอำนาจที่จะเลือกตั้งโดยตรง นายกฯ ก็จะเอาคนนอกมาเป็นได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สะท้อนความอัปลักษณ์ และที่บอกว่าอายุจะสั้นเพราะเป็นไมได้เป็น ร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นเจ้าของ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้นาน ส่วนจะเป็นกี่วัน กี่เดือน ก็ต้องติดตามกันต่อไป

Monday, May 4, 2015

อลงกรณ์ พลบุตร: ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ"มหาปราชญ์" (จอม เพชรประดับ)


Published on May 4, 2015
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการสภาปฎิรูปแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับ ร่าง รัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการพิจารณาของ สภาปฎิรูปแห่งชาติ ไปแล้ว และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีการลงมติในวันท­ี่ 6 สิงหาคมนี้ว่า ถือเป็๋นนวัติกรรมใหม่หลายเรื่อง ทั้งการกำหนดให้พลเมืองเป็นใหญ่ มีการตั้งสมัชชาพลเมืองขึ้น แม้จะถูกมองว่า มาจากกลุ่มประชาชนประชาชนไม่ครอบคลุม แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลังเลือกตั้งแล้วประชาชนไม่มีอำนาจที่จะต­่อรอง อะไรได้ ขณะเดียวกัน การลดบทบาท อำนาจของนักการเมือง ก็ต้องยอมรับว่า นักการเมืองที่ผ่านมามีการร่วมมือกับฝ่ายท­ุน และราชการ เอารัดเอาเปรียบประชาชนมาโดยตลอด แม้ว่า ร่างรธน.จะทำให้ รัฐบาลอ่อนแอ แต่ก็ทำให้พลเมืองเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างขึ้นด้วยความลำเ­อียงเพราะไม่ต้องการให้นักการเมือง หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามากำหนดกติกา­ของประเทศ ดังนั้นจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และอาจจะทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ตนจึงเห็นด้วยที่จะให้ทำประชามติ และมี สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นสาเหตุให้เกิดการรัฐประหารอีกครั้งห­รือไม่ ก็มีความเป็นไปได้ 50 ต่อ 50 แต่การรัฐประหารไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญเพ­ียงสาเหตุเดียว เพราะแม้จะมีรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเช่น รัฐธรรมนูญปี 40 แต่สุดท้ายก็เกิดรัฐประหารได้อยู่ดี ขึ้นอยู่กับนักการเมืองต่างหาก ส่วนข้อวิจารณ์ว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที้่ร­่างขึ้นเพื่อกำจัดฝ่ายการเมืองอีกฝ่ายกลุ่­มหนึ่งหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องวิเคราะห์กัน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็น่าวิตก แต่เชื่อมั่นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เป็นร่างทรงขอ­งใคร ไม่มีการสืบทอดอำนาจแน่นอน ส่วนตนจะยกมือให้ผ่านหรือไม่ ยังตอบไม่ได้แต่มีเงื่อนไขสามประการคือ ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การปฎิรูปประ­เทศอย่างแท้จริง ไม่สืบทอดอำนาจ และยึดหลักการประชาธิปไตยมากที่สุด ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ ก็ขอให้วิจารณ์อย่างไม่มีอคติไม่ลำเอียง






Sunday, May 3, 2015

เมื่อทหารที่เคยร่วมฆาตกรรมหมู่ประชาชน ตั้งพรรคพวกรุ่นน้อง ขึ้นคุมกองสลาก!!


มีคนส่งลิ้งค์นี้มาให้ เลยอยากให้พี่น้องพิจารณากันเองครับ  ลูกชายบิ๊กจ๊อด รสช. ตัวพ่อ คนหนึ่ง ล้มรัฐบาลทักษิณ     ลูกชาย มีส่วนจัดการกับผู้สนับสนุนตระกูลชินวัตร และคนเสื้อแดง

วันนี้ ก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ คุมผลประโยชน์มหาศาล


เรื่องบังเอิญหรือเปล่า?

















เมื่อ “น้องแดง” ลูก “บิ๊กจ๊อด” จะมานั่งคุม “กองสลาก” กู้หน้าให้ “พี่ตู่”ฉับพลันที่ ดร.อู้-“สมชัย สัจจพงษ์” อธิบดีกรมสร...
Posted by Thaiboggynews on Sunday, May 3, 2015


Friday, May 1, 2015

พระไพรวัลย์ เตือนสติ ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)

พระไพรวัลย์ เตือน ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)





พระไพรวัลย์ อัด ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)

พระไพรวัลย์ อัด ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)





Wednesday, April 29, 2015

สมยศ และ นักโทษ 112 กับ "ตรวนพระราชทาน"

สมยศ และ นักโทษ 112 กับ "ตรวนพระราชทาน"


ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง
ปล่อยสมยศ ปล่อยนักโทษการเมือง


เบื้องลึก เบื้องหลัง(บ้าน) กับการ "ล้มละลาย" ของการบินไทย??


มีพี่น้องฝากข่าวกระซิบมา เลยอยากให้พี่น้องเอาไปพิจารณา และศึกษา สืบค้นต่อครับ
(ข้อความตามที่ได้รับมา)


ข่าวจากโต๊ะบริหารการบินไทย กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว. ช่วยไม่ไดกับสังคมที่ขาด EQ. 

เปิดปมลับผู้หญิงชื่อ "เพ็ญลักษณ์" ภรรยาพลเอกธนศักดิ์ จิตปฎิมาปกรณ์ คือตัวเชื่อมสำคัญสาเหตุที่ทำให้ บริษัทการบินไทยไปเข้าร่วมกับกองทัพไทยช่วยกันป่วนม้อบกปปส.จนวันนี้การบินไทยต้องอยู่ในสภาพล้มละลาย ผู้บริหารการบินไทยจำนวนหนึ่งยอมรับพลาดท่าให้เพ็ญลักษณ์ใช้องกรบริษัทป่วนกรุง โดยเพ็ญลักษณ์อ้างทำเพื่อชนชั้นสูงคนหนึ่งแล้วยุยงให้เกลียดชนชั้นสูงอีกฟากหนึ่ง จนเกิดการยึดอำนาจของทหาร ประยุทธ์-ธนศักดิ์ (สามีเพ็ญลักษณ์) ผงาดได้ประโยชน์สูงสุดได้ตำแหน่งดีๆ เพ็ญลักษณ์นั่งแท่นเสวยสุข จากการล้อบบี้ผู้บริหารการบินไทยมาแสวงหาประโยชน์เพื่อตัวเอง และใช้ผู้บริหารการบินไทยที่ไม่มีวิสัยทัศน์ในทางการเมืองมากำหนดยุทธศาสตร์ทางธุรกิจจึงนำองค์กรเข้าสู่ความขัดแย้งทางการเมือง โดยมีนางเพ็ญลักษณ์ใช้ความที่เป็นภรรยาพลเอกธนศักดิ์อดีตเคยเป็นพนักงานการบินไทยเก่าจึงมีพรรคพวกที่ยังอยู่เป็นผู้บริหารมาเป็นตัวเชื่อมนำการบินไทยและกองทัพไทยไปอุดหนุนม้อบพุทธอิสระในทางลับ ) จนเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงด้านธุรกิจของบริษัท หนเป็นภาระต่องบประมาณแผ่นดินที่นำบริษัทไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง ทำให้บริษัทไม่ได้มาตราฐานจนต่างชาติไม่ยอมรับ บทเรียนผู้บริหารการบินไทยที่ไม่ทันเกมส์เมียทหารตัวแสบที่เหยียบซากปรักหักพังของการบินไทยแล้วยังเหยียบบ่าพนักงานการบินไทยทุกคนขึ้นไปใหญ่พร้อมสามี โดยพลเอกธนศักดิ์ได้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่พูดจากวนตีนในเวทีโลกมากที่สุดบอกว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบแล้ว



Tuesday, April 28, 2015

ดร.เพียงดิน รักไทย: ปรัชญาลัทธิมาร์กซิสม์ ตอน 7 ภาพฝัน ของระบอบสังคมนิยม & คอมมิวนิสต์


ดร.เพียงดิน รักไทย: ปรัชญาลัทธิมาร์กซิสม์ ตอน 7 ภาพฝัน ของระบอบสังคมนิยม & คอมมิวนิสต์


Sunday, April 26, 2015

ลุงสมชายสบายดี ตอน "ในหลวงโชคดีที่มีคนไทย" sanamluang555



 ลุงสมชายสบายดี ตอน "ในหลวงโชคดีที่มีคนไทย" sanamluang555


Saturday, April 25, 2015

มันส์!! สนธิ ลิ้มฯ​ชำแหละ ทุนสามานย์กินรวบตัวจริง "ซีพี"

มันส์!! สนธิ ลิ้มฯ​ชำแหละ ทุนสามานย์กินรวบตัวจริง "ซีพี"