PPD's Official Website
- Home
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- เว็บมหาวิทยาลัยประชาชน
- ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
- “เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง”
- Ideology: อุดมการณ์มดแดง
- มดแดงล้มช้างคืออะไร?
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- ติดตามทางเฟสบุ๊ค
- การก่อตั้ง คณะราษฎรเพื่อสาธารณรัฐสยาม
- ร่วมโหวตชื่อขององค์การปวงชนชาวไทย
- หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
- หลักสำคัญสู่ชัยชนะเหนือเผด็จการไทย
- คำประกาศเพื่อการปฎิวัติระบอบการปกครอง 18 ก.พ. 2555
- การสมัครเข้าร่วมปฏิวัติประชาชน
- คำประกาศสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยประชาชน
- ถ่ายทอดสด ทางยูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยประชาชน
- โครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยประชาชน
- เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยประชาชน
- บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"
- Missions: พันธกิจ มดแดง
Wednesday, August 26, 2015
ด่วนที่สุด ..ภัยข่าวร้ายทางการเงิน ! คนไทยต้องอ่าน+++
Tuesday, August 25, 2015
คณะปล้นอำนาจจากประชาชน ไม่ใช่รัฏฐาธิปัตย์
คนไทย ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ ยังต้องผ่านบทเรียนกฏหมาย จากต่างชาติ ผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศนี้ อีกมากมาย หากยังไม่เลิกแนวคิด แบบไดโนเสาร์ เต่าล้านปี
๑. วันนี้โลกในปัจจุบัน เปลี่ยนไปมาก
๒.แต่คนส่วนใหญ่ตรงเส้นรุ้ง ตัดกับ เส้นแวงตรงนี้ ก็ยังไม่มีวี่แวว จะเปลี่ยนในด้านความคิด
๓. นั่นก็คือเรา จะต้องรอให้โลก ใช้ปฏักแทงหลังเรา โดยคนต่างชาติ
๔. การที่ประเทศไทย ไปลงนามและให้สัตยาบัน ต่อ (สนธิสัญญา ปราบปรามการคอร์รัปชั่น) Convention against Corruption, 2003 ในวันที่ ๑ มีนาคม ปีค.ศ.๒๐๑๑ หรือ ปีพ.ศ.๒๕๕๔
๕. โดยผลของสนธิสัญญา ฉบับนี้ ทำให้การรัฐประหาร และยึดอำนาจ ไม่เกิดความชอบธรรมตามกฏหมาย อีกต่อไป ไม่ว่าในระบบกฏหมายใดๆ
๖. แต่ ก็ยังได้ยินเสียง ที่ออกมาจากปาก นักกฏหมายบางคน ที่เถียงว่า " คณะผู้ยึดอำนาจ เป็น อธิปัตย์" ผมก็ไม่รู้ว่า คำว่า "อธิปัตย์" ที่เขาต้องการ "ได้มา" หรือ "ให้เป็น" นั้น เขาเอากฏหมาย ตัวไหน มารองรับ
๗. ทั้งๆที่ไม่มีอยู่ ในตำรากฏหมายร่วมสมัย (Contemporary Text Book in learning Laws)
๘. และแถม ก็ยังไม่มีอยู่ ในภาคปฏิบัติของ กฏหมายใดๆ ในโลกด้วย แม้แต่ ระบบกฏหมายกะเหรี่ยง ก็ไม่มี
๙. ผมก็ไม่รู้ว่า คนพูด ที่ไปเรียนกฏหมายจบ มาจากต่างประเทศ เป็น "ผู้ทรงภูมิรู้" หรือ "ทรงภูมิไม่รู้" กันแน่
๑๐. และคนไทย ก็เชื่อกันแบบฝังหัว จนบ้านเมืองนี้ ป่นบี้ยี้ยับ ในวันนี้.
คุณอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของแลนด์แอนด์เฮาส์พูดดี 11 นาที ได้เนื้อหาและแรงบันดาลใจยิ่ง
รายงานข่าวจากอเมริกา ชี้กงสุลใหญ่แอลเอ ใช้อำนาจมิชอบ ก้าวล่วงสิทธิของพลเมืองไทยในอเมริกา
นี่คือ ภาพรองกงสุล สรศักดิ์ สมรไกรสรจักร จากสถานกงสุลใหญ่แอลเอ ที่สนับสนุนให้คนของสมาคมไทยซานฟรานฯ กระทำการขู่อาฆาตด่าทอใครก็ได้ ที่เขาคิดว่าเป็นผู้ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลพิเศษชุดปัจจุบัน ตามคำสั่งของคนข้างบน เป็นความจริง ว่า มีผู้ใช้อำนาจปกครองในทางมิชอบ ปราศจากเหตุผลที่ชอบธรรม มีกลุ่มบุคคล องค์กรต่างๆ นำพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงราชินี มาใช้บีบบังคับ และกดดันประชาชนให้ตกเป็นทาส และเป็นเหยื่อ โดยหน่วยราชการสนับสนุน ให้ประชาชนต้องพบความเดือดร้อน กระทรวงการต่างประเทศ ใช้อำนาจผิดทาง ทำร้ายสังคมในต่างแดนให้เกิดความวินาศอัปปาง โดยอำพรางตนอยู่หลังทรชน กับเครือข่ายที่ย้ำยีจิตใจคนไทย คนในสังคมมีจำนวนหลายแสนคนในแคลิฟอร์เนีย แต่นำคนเพียงไม่ถึงร้อยคน ออกมาสร้างภาพหลอกหลอนมายาว่าจงรักภักดี แต่แท้ที่จริงนั้น เป็นการก้าวล่วงสิทธิมนุษยชน และกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายสหรัฐ ขอให้องค์กรของคณะราษฎร จงประสบความสำเร็จในการต่อสู้เพื่อความเที่ยงธรรม สังคมไทยและประเทศชาติ จะได้รอดพ้นจากอุ้งมือโจรและประชาชนมีเสรีภาพแท้จริง บนผืนแผ่นดินอเมริกา รัฐบาลไทยไม่มีอำนาจใดๆที่จะว่าจ้าง จ้างวานคนพาลราวี อิสระภาพของผู้อื่น เป็นการกระทำที่โฉดชั่ว และขอให้มดแดงทุั้งหมดจงระวังตนไว้ เมื่อมันเริ่มแผนการกำจัดคนที่ยืนอยู่กับความถูกต้องและประโยชน์ของประชาชน หมายความว่า กลไกของราชการในตปท.กำลังจะทำลายความหวังประชาธิปไตย
อ. นิธิ กับบทวิเคราะห์ทางสู่ก้นเหวของไทย
รัฐธรรมนูญ..‘ระเบิดเวลา’!‘สุดารัตน์’วอนเร่งปลดสลัก : สัมภาษณ์พิเศษ โดยประพันธ์ จินดาเลิศอุดมดี
รัฐธรรมนูญ..'ระเบิดเวลา'!'สุดารัตน์'วอนเร่งปลดสลัก : สัมภาษณ์พิเศษ โดยประพันธ์ จินดาเลิศอุดมดี
สถานการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้นทุกขณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้เข้าสู่วันลงมติร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่ง ชาติ ประเด็นต่างๆ กลายมาเป็นเรื่องร้อน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาภายในร่างฯ หรือข้อเสนอรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษเครือเนชั่นถึงประเด็นร้อนต่างๆ ทางการเมือง
เริ่มจากการออกตัวสัมภาษณ์ในครั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ขอพูดในนามของประชาชนเต็มขั้น ซึ่งรู้สึกว่าร่างรัฐธรรมนูญที่แถลงออกมานั้น หากนำออกมาใช้จริงน่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่สามารถนำพาประเทศชาติออกจากหลุม ดำได้อย่างที่โฆษณาชวนเชื่อไว้ แถมยังจะผลักประเทศให้ตกลึกเข้าไปอีก สำหรับนักการเมืองนั้นไม่น่าห่วง เพราะเขาดิ้นรนเอาตัวรอดได้ แต่ห่วงประชาชนมากกว่าว่าจะทำอย่างไรให้สามารถนำพาประเทศชาติ ประชาชนขึ้นจากหลุมดำนี้ได้
ทั้งนี้ การเขียนในรัฐธรรมนูญถึงรัฐบาลแห่งชาติ โดยเมื่อผ่านประชามติแล้วให้ใช้เสียง 4 ใน 5 ของรัฐสภา โดยพยายามชี้ว่าเพื่อให้เกิดความปรองดองนั้น โดยหลักการฟังดูดี ฟังดูน่าสนับสนุนให้ผ่านประชามติ แต่ขอตั้งคำถามว่า รัฐบาลแห่งชาติแบบที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนี้จะแก้ความขัดแย้งนำไปสู่การ ปรองดองได้หรือ..? เพราะแค่ประกาศออกมา ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยต่างออกมาประสานเสียงเกือบพร้อมกันว่า ไม่มีทางร่วมรัฐบาลเดียวกัน คำว่าปรองดองจึงเป็นแค่เปลือกที่แทบจะเกิดไม่ได้จริง
"จะเกิดความปรองดองได้นั้น ไม่ใช่อยู่ๆ คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญจะบังคับจับ 2 ฝ่ายใส่กรงเดียวกัน ให้อยู่ด้วยกันแล้วเรียกปรองดอง แต่ควรเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีกระบวนการร่วมคิดร่วมปรึกษาหารือ ร่วมวางแปลน วางแผนสร้างบ้านร่วมกัน ถอยคนละก้าว หาจุดร่วม แสวงจุดต่าง จึงจะสามารถเดินสู่ความปรองดองที่แท้จริงได้"
พร้อมกันนี้ยังยิงคำถามอย่างหนักหน่วงต่อไปว่า รัฐบาลแห่งชาติจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้จริงหรือไม่ หรือแค่เขียนฝันไว้หรูๆ แต่เปิดโอกาสให้ฮั้วประโยชน์ทางการเมือง...?
อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงผู้นี้ มองว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์ให้ฝ่ายการเมืองอ่อนแอ ไม่มีเสถียรภาพ โดยออกแบบให้ฝ่ายการเมืองหลังเลือกตั้งจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลกันเองได้ เพื่อเปิดทางเอื้ออำนวยให้ได้ นายกฯ คนนอก โดยใช้ระบบฮั้วผลประโยชน์กันระหว่างคนนอกที่อยากได้อำนาจทางการเมืองแต่ไม่ ยอมลงเลือกตั้ง กับนักการเมือง เพื่อให้สมยอมจัดตั้งรัฐบาลที่พยายามสร้างภาพว่าเป็นรัฐบาลแห่งชาติที่ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ
ซ้ำร้ายภาพเลวร้ายยิ่งกว่าในอดีตก่อนการปฏิรูปปี 49 จะกลับมาใหม่ มีการฮั้วประโยชน์ แบ่งกระทรวงใครกระทรวงมัน เพราะจะต้องหาเสียงสนับสนุนให้ได้ 4 ใน 5 จึงจะจัดตั้งรัฐบาลได้ และ ถ้าเกิดรัฐบาลแห่งชาติ ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลจะไม่เหลือ เพราะฝ่ายค้านจะเหลือเสียงเพียง 1 ใน 5 จะไปมีพลังใดในการไปตรวจสอบควบคุมรัฐบาล ระบบตรวจสอบถ่วงดุลล้มเหลว...?
"พรรคเล็กพรรคน้อยมีโอกาสต่อรองขอโควตารัฐมนตรี ขอโควตากระทรวง เมื่อได้แล้วก็ต้องถือเป็นสมบัติส่วนพรรคตน นายกฯ และรัฐบาลจะเข้าไปแตะต้องไม่ได้ เพราะถือว่าถ้าไม่ได้เสียงของพรรคตนมาสนับสนุนก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เป็นนายกฯ ไม่ได้ ปัญหาที่จะตามมาคือ ปัญหาคอร์รัปชั่นที่จะมากขึ้น และปัญหาการผลักดันนโยบายที่จะทำเพื่อประชาชนจะไม่เป็นเอกภาพ ไม่สามารถผลักดันการแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้ การดีไซน์แบบนี้ประชาชนเสียประโยชน์ แต่นักการเมืองแฮปปี้ นายกฯ คนนอกแฮปปี้"
ทั้งนี้เมื่อถามถึง "คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ" ที่บรรจุอยู่ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ต้องชมคนเขียนรัฐธรรมนูญว่า ช่างกล้าเขียนมาก...!!!
ถือเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ให้คณะบุคคลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มีอำนาจใหญ่กว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญรับรองการยึดอำนาจจากประชาชนโดยถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งต่อจากนี้ไปไม่มีการปฏิวัติแน่นอน เพราะได้บรรจุให้การยึดอำนาจจากประชาชนเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายไปแล้ว
รัฐธรรมนูญฉบับนี้รัฐบาลจากการเลือกตั้งจะทำงานแทบไม่ได้เลย ยกตัวอย่างว่า ถ้ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีนโยบายช่วยเหลือเอสเอ็มอี โดยการให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่กรรมการยุทธศาสตร์ฯ มองว่าเป็นโครงการประชานิยม และเป็นงานที่อยู่ในแผนปฏิรูปของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ที่กำลังดำเนินงานอยู่ ก็จะไม่ให้รัฐบาลดำเนินการ แล้วแบบนี้จะจบอย่างไร ประชาชนที่รอคอยความช่วยเหลือก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ รัฐบาลจะเป็นยิ่งกว่ารัฐบาลเป็ดง่อย และที่สำคัญคือ ประชาชนตาดำๆ จะเดือดร้อนที่สุด
"เมื่อเขียนรัฐธรรมนูญโดยให้มีคนบุคคลที่ไม่ได้มาจากประชาชนมามีอำนาจ มากกว่าคนที่ประชาชนเลือก แล้วจะเรียกว่าประชาธิปไตยได้อย่างไร ประชาธิปไตยคือระบบที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครอง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจโดยมีอำนาจตัดสินใจด้วย ดังนั้น ถ้าบอกว่ามีส่วนร่วมคือให้มีประชามติ แต่จริงๆ แล้วไม่มีอำนาจตัดสินใจ แล้วส่วนร่วมนั้นจะเป็นจริงได้อย่างไร"
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ ประเทศชาติเสียหายมากที่สุด ความหวังของประชาชนที่อยากเห็นประเทศชาติสงบสุข ขจัดความขัดแย้ง เดินหน้าสู่การปรองดอง จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง เพราะพิจารณาดูง่ายๆ ทันทีที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกเปิดเผยเนื้อหา เราก็ได้ยินเสียงวิจารณ์คัดค้านจากทั้งฝั่งประชาธิปัตย์และเพื่อไทยอย่าง มากมายแล้ว คำว่าปรองดองจึงเป็นเพียงข้ออ้าง หรือเป็นกระดองที่ไม่มีเนื้อใน
"อยากจะวิงวอนท่านผู้นำ ท่านนายกฯ ว่า โปรดใช้อำนาจที่มีอยู่เต็มเกิน 100% ของท่านมาแก้ไข มาถอดสลักระเบิดลูกใหญ่ที่เกิดจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก่อนที่จะทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงในอนาคต ถ้าท่านต้องการทำเพื่อคืนความสงบสุขให้บ้านเมืองจริงอย่างที่ท่านให้สัญญา เว้นแต่ท่านตั้งใจที่จะให้มีการเขียนรัฐธรรมนูญรับรองการยึดอำนาจถาวรจาก ประชาชนอย่างถูกกฎหมาย"
เมื่อถูกถามถึงกระแสการผลักดันให้ขึ้นเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์บอกว่า ยังคงไม่ดูไปไกลขนาดนั้น ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้นำไปใช้จริงคงหนักใจถ้าจะกลับมาทำงานการเมือง เพราะเสี่ยงที่จะเสียคนอย่างยิ่ง ในการหาเสียงเลือกตั้งนักการเมืองต้องไปขายนโยบายว่าจะเข้าไปทำประโยชน์อะไร ให้ประชาชน เราต้องไปสัญญาว่า ถ้าได้รับเลือกตั้งก็จะไปทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้
อย่างไรก็ตาม ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่มีทางที่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจะ สามารถผลักดันนโยบายใดได้หากปราศจากความเห็นชอบของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ ที่ถูกดีไซน์ให้ใหญ่กว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็เท่ากับว่าเริ่มต้นเราก็ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนที่เลือก เรามาได้ ผิดศีลตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว
"นักการเมือง พรรคการเมือง ควรต้องกลับมาดูตัวเอง ควรจะทำให้ระบบการเมืองเข้มแข็ง การเมืองต้องสู้กันในสภา ไม่ใช่ไปสู้กันกลางถนน เป็นโอกาสที่ดีที่พรรคเพื่อไทยจะได้ใช้โอกาสนี้ปรับตัวและพัฒนาตนเอง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเจอมรสุมมาหลายยก ตั้งแต่ปี 49 ที่ถูกปฏิวัติ ต่อมาถูกยุบพรรค ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 2 รุ่น ขณะนี้ก็ถูกห้ามให้ดำเนินงานทางการเมือง"
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวทิ้งท้ายอย่างเชื่อมั่นว่า แต่พรรคเพื่อไทยก็ถือเป็นพรรคใหญ่ที่มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถอยู่ มาก เป็นพรรคที่ได้รับความนิยมจากประชาชนมาก เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน จึงควรพลิกวิกฤติในครั้งนี้มาเป็นโอกาสในการพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง
พรรคเพื่อไทยมีพื้นฐานที่ดีจากพรรคไทยรักไทย ที่ถือเป็นพรรคแรกๆ ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาปัญหาประเทศอย่างจริงจัง และนำมาสร้างเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหาประเทศ จนสำเร็จได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก..!!