PPD's Official Website

Saturday, October 3, 2015

ความร้ายกาจของหลังบ้าน ประยุทธ์ (เหยือตัวสำคัญ​ๆ)

[10/3/15, 10:36:28 PM] Mana-song: เขาบอให้ช่วยแชร์กันเยอะๆ เลยยกมาทั้งหมดในเรื่องที่เขียนมีบางท่านอยู่ในเนื้อหาด้วย จึงขออภัยมาณ. ที่นี้.
[10/3/15, 10:36:34 PM] Mana-song: ในบรรดาเหยื่อศิษย์เก่าจุฬาฯคนแรกที่อีน้องเมียเหล่ยุดจับเชือดคือ นายจักรภพ เพ็ญแข อีน้องอยู่เบื้องหลังในการแปลคำพูดของนายจักรภพบิดเบือนความจริงจนนายจักรภพต้องร่วงจากเก้าอี้ รมต.สร.ต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกนอกประเทศ ต่อมาก็ถูกอีน้องบอกสายทหารชี้เป้าชงเรื่องให้จักรภพผิด กม.หมิ่น112  หลังการปฎิวัติ 22 พ.ค.57 อีน้องก็สั่งเหล่ยุดยัดข้อหาเพิ่มว่ามีอาวุธร้ายแรงครอบครอง อีน้องบีบจนเหล่ยุดหลุดว่าเมียสั่งให้ทำอะไรถ้าไม่ได้ดังใจก็ทะเลาะกันใหญ่โต  ยังมีอีกคนที่อีน้องแค้นฝังหุ่นนักหนาอาจารย์สุดา หรืออาจารย์หวานที่ไปเป็นอาจารย์จุฬาเสื้อแดง ตอนที่อีน้องรู้ข่าวว่าอาจารย์หวานเป็นแฟนกับไม้หนึ่ง อีน้องหัวเราะยิ้มเยาะคิดว่าไม้หนึ่งเป็นกรรมกรเสื้อแดง ตัวเหม็นๆมาได้อาจารย์จุฬาฯเป็นแฟน อีน้องมันพูดจาเหยียบย่ำอาจารย์หวานเรื่องนี้มาตลอด แต่พออีน้องสั่งให้เหล่ยุดเก็บไม้หนึ่งตายลงแล้ว อีน้องก็ช็อคที่รู้ความจริงว่าไม้หนึ่งเป็นคนเสื้อแดงมีการศึกษา จบ ม.ศิลปกร มีผลงานเป็นกวีเขียนหนังสือ อาจารย์หวานถูกลูกน้องเหล่ยุดไล่ล่าเอาตัวเกือบไม่รอด ดีที่ยังมีนายพลใหญ่ในคณะ คสช.ยังมีใจเมตตาสงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ จึงปล่อยให้หนีรอดน้ำมือโหดๆของผู้สั่งการคืออีน้องไปพ้น อีกคนที่อีน้องจงเกลียดจงชังคืออาจารย์ปวิณ เพื่อนปวิณให้ข้อมูลว่าเป็นลูกศิษย์เก่ากันของอีน้อง คนเขาว่าเห็นพวกขี้อิจฉาในจุฬาฯ เห็นปวิณโกอินเตอร์ก็คอยใส่ไฟให้อีน้องให้จัดการยัด กม.หมิ่น 112ให้ประวิณ ตาสว่างกันเสียทีทำไมประยุทธ์ถึงจ้องจัดการประวิณนัก เมียสั่งให้ถอนพาสปอร์ตก็ทำ เล่นเขาทุกรูปแบบ เพราะต้องการขู่คนในจุฬาฯไม่ให้ลุกฮือไปเข้าข้างพวกแดง แม้อีน้องจะลาออกไปรับตำแหน่งใหม่เป็นรองประธานการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมวังไกลกังวล ก่อนได้ตำแหน่งนี้ คนในจุฬาฯลือกันแซ่ดว่าอีน้องได้เพราะใส่ร้ายเรื่องแปลคำพูดและกำจัดจักรภพได้สำเร็จ อ.เทียนฉายและเมียคุณหญิงได้เป็นใหญ่เพราะอีน้องทั้งนั้น ตอนม้อบกปปส.อีน้องก็เป็นตัวกลางประสานคนในจุฬาฯกับพวกสุเทพ และกองทัพผ่านเหล่ยุด มีการจัดรถทหารวิ่งนำขบวนอารักขาแกนนำหลักๆม้อบ กปปส. อย่าเถียงว่าไม่จริง เพราะหน้ากาก หน้าฉากของอีน้องถูกเปิดหมดแล้ว ประยุทธ์ไม่ได้ทะเยอทะยานมากเท่าเมียอคืออีน้องนั่นแหละตัวอยู่เบื้องหลังการพังทลายของทุกภาคส่วน อย่าเถียงว่าไม่จริง !! แชร์จากพวกคนในจุฬาเขามานะครับ เขาอยากให้แชร์ต่อกันให้เยอะๆๆๆๆ

เรามีปริมาณสำรองทรัพยากรแร่ที่มี มูลค่ามากถึง 23,913 ล้านล้านบาท ถ้าจะนำมาหารแบ่งให้คนไทยทุกๆคนก็เท่ากับว่าคนไทยแต่ละคนถือครองทรัพย์สิน อยู่คนละ 400 ล้านบาท

Vikij Phenphak with Shittichok Chok and 2 others

น่า จะเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณทรัพยากรแร่บนผืนแผ่นดินไทยได้ถูก เปิดเผยให้ชาวบ้านธรรมดาๆได้รับรู้ว่าเรามีปริมาณสำรองทรัพยากรแร่ที่มี มูลค่ามากถึง 23,913 ล้านล้านบาท ถ้าจะนำมาหารแบ่งให้คนไทยทุกๆคนก็เท่ากับว่าคนไทยแต่ละคนถือครองทรัพย์สิน อยู่คนละ 400 ล้านบาท นี่ขนาดยังไม่ได้รวมทรัพยากรแร่ที่อยู่ในทะเลและทรัพยากร ปิโตรเลียมที่ปัจจุบันเราผลิตได้ประมาณ 8 แสนบาร์เรลต่อวันอีกต่างหาก
http://www.dailynews.co.th/politics/339482

ใครรู้เข้าคงอิจฉาตายชัก

ที่กล่าวมาคือทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป แต่ที่ใช้แล้วไม่หมดคือผืนแผ่นดินที่เราอยู่อาศัยพร้อมทั้งให้พืชพันธุ์ ธัญญาหารอันอุดมสมบูรณ์แก่เรารอบแล้วรอบเล่าอย่างไม่รู้จบสิ้น เราผลิตอาหารได้มากจนต้องขายส่งออกไปเลี้ยงพลเมืองโลก

ป่าฝนเขตร้อนสร้างความหลากหลายทางชีวภาพที่มูลค่ามหาศาลทั้งทางด้านการเกษตรและสุขภาพอันไม่อาจประเมินได้ให้แก่ประเทศชาติของเรา

เรามีอ่าวไทยที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์น้ำนาๆชนิดจนสามารถสร้างให้ประเทศของเราเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ของโลก

เรามีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและโบราณคดีกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ
เรามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยสดงดงามทั้งบนบกและในทะเลชนิดที่จารนัยไม่หวาดไหว
เรื่องอาหารการกินเราก็ไม่แพ้ใครในโลก

เฉพาะเรื่องกินเรื่องเที่ยวก็สามารถสร้างรายได้ถึง 1 ใน 5 ของรายได้ประชาชาติเข้าไปแล้ว

นี่ยังไม่นับรวมการส่งออกด้านวัฒนธรรมเช่นร้านอาหาร บริการนวดแผนไทย กีฬามวยไทยที่กำลังเฟื่องฟูนำรายได้เข้าประเทศอีกปีละไม่น้อย

เท่าที่ไล่เรียงมาก็รวยจนปวดหัวแล้ว แถมที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เศรษฐกิจของประเทศเรายังเป็นศูนย์กลางของพลเมือง ครึ่งโลก ผืนแผ่นดินเราติดสองมหาสมุทร จะเดินทางไปมาค้าขายทิศทางใดก็สะดวกทั้งนั้น

แบบนี้ไม่เป็นประเทศที่มั่งคั่งแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?

ผมเองก็แปลกใจว่า ในเมื่อเรามี "ทุน" อยู่มหาศาลอย่างนี้แต่ผู้บริหารประเทศทุกยุคทุกสมัยแม้ในปัจจุบัน กลับยังร้องโหยหวนเพรียกหานักลงทุนต่างชาติอยู่นั่นแหละ มันไม่มีสติปัญญาพาคนในชาติทำมาหากินหรืออย่างไรกัน(วะ)

เรียกเขามาลงทุนหรือมากอบโกย?

เพราะยิ่งออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนมากขึ้นเท่าไหร่ คนไทยก็หนี้สูงท่วมหัวมากขึ้นเท่านั้น

สิ่งที่ควรทำในวันนี้คือเราต้องสร้างคนของเราในทุกระดับให้รู้จักใช้และบริหารจัดการทรัพยากรที่เรามีอยู่อย่างมั่งคั่งให้ "ยั่งยืน"

ไม่ใช่รนลานรีบเลหลังขายทรัพยากรของชาติในราคาถูก และปล่อยให้ทุนนิยมกลืนกินวัฒนธรรมอันดีงามจนหมดสิ้นอย่างที่กำลังทำกันอยู่ ในเวลานี้

แล้วยังเสือกทะลึ่งอวดตัวว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อคนในชาติ......ถุ๊ยส์!

Friday, October 2, 2015

อยากให้ไทยเป็นเหมือนแผ่นดินเหมือนจีนใช่ไหม?​ ดูซะ คนไทยโง่ ๆ BBC:艾未未专题纪录片(Ai Weiwei, Without Fear or Favor)

เอาผิดกับผู้ก่อรัฐประหาร ก้าวสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในบูร์กินาฟาโซ

เอาผิดกับผู้ก่อรัฐประหาร ก้าวสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในบูร์กินาฟาโซ

วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23:05:00 น.

Credit: Please visit http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1443800572


AFP PHOTO / AHMED OUOBA


โดย อดิเทพ พันธ์ทอง



"การก่อรัฐประหารเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด" นาย พลกิลแบต์ เดียนเดร์ ผู้นำกองกำลังกบฏที่จับตัวสองผู้นำสูงสุดของรัฐบาลเฉพาะกาลของบูร์กินาฟาโซ เป็นตัวประกันกล่าวยอมรับ หลังยอมคืนอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือน ทั้งๆ ที่เพิ่งประกาศยึดอำนาจได้เพียงสัปดาห์เดียว และเตรียมถูกดำเนินคดีหลังการก่อรัฐประหารที่ล้มเหลว

การ เปลี่ยนแปลงจากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุดของนายพลเดียนเดร์เกิดขึ้นในระยะเวลา ที่สั้นมาก จุดสำคัญคือเขาไม่ได้มีมวลมหาประชาชนชาวบูร์กินาฟาโซที่เชื่อว่านายทหารคือ ชนชั้นพิเศษที่โกงกินไม่เป็นคอยหนุนหลัง และเขาไม่ได้เป็นผู้ที่ควบคุมกองทัพทั้งหมดของบูร์กินาฟาโซอย่างเป็นเอกภาพ ทำให้การยึดอำนาจของเขาด้วยการอาศัยกองกำลังพิทักษ์ประธานาธิบดี (Presidential Security Regiment, RSP) ถูกท้าทายจากทางกองทัพ นอกจากนี้หลายประเทศในภูมิภาคยังรวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันร่วมกดดันให้ เขาต้องลงจากตำแหน่ง

พัฒนาการ ที่น่าติดตามหลังการยอมถอยของผู้นำกบฏคือ การที่รัฐบาลพลเรือนสั่งอายัดทรัพย์สินของนายพลเดียนเดร์และพวก พร้อมระบุต้องนำตัวผู้ก่อการขึ้นพิจารณาโทษตามกระบวนการยุติธรรม แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาจากวงเจรจาเพื่อยุติเหตุวุ่นวายทางการเมืองครั้ง นี้เสนอให้นิรโทษกรรมผู้พยายามก่อรัฐประหารก็ตาม ซึ่งหากทำได้จริงจะแสดงให้เห็นว่ากฎหมายป้องกันการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลง การปกครองในบูร์กินาฟาโซมีสถานะเป็นกฎหมายที่สามารถบังคับใช้ได้จริงๆ ไม่เหมือนบางประเทศ ที่นักกฎหมายช่วยกันตีความเข้าข้างการใช้กำลังยึดอำนาจประชาชนว่าเป็นสิ่ง ที่ชอบธรรม การออกกฎหมายยกเว้นความผิดให้กับตัวเองมีความสมบูรณ์ โดยไม่ต้องผ่านการเห็นชอบของประชาชน

หลัง จากนี้ ผู้นำทหารในบูร์กินาฟาโซคงต้องคิดหนักขึ้น หากหวังจะใช้อำนาจเถื่อนเข้ายึดอำนาจของรัฐบาลพลเรือน เพราะหากตัวเองสิ้นอำนาจอาจต้องเผชิญกับการดำเนินคดีเหมือนอย่างนายพลเดีย นเดร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับชาวบูร์กินาฟาโซ ที่มีหลักประกันว่าผู้ที่ไม่เคารพกติกาจะต้องได้รับการลงโทษ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยไม่อาจถูกล้มล้างได้ง่ายๆ โดยอาศัยการตัดสินใจของคนไม่กี่คน 

ใน ทางกลับกัน ประเทศในอีกซีกโลกหนึ่งกลับยึดถือการรัฐประหารว่าเป็นส่วนหนึ่งของจารีต ประเพณีการปกครองที่ไปด้วยกันได้กับระบอบประชาธิปไตย และพยายามสร้างคำจำกัดความของคำว่า "ประชาธิปไตย" ขึ้นมาใหม่ในแบบฉบับของตนเอง (ไม่ต่างกับการหลอกชาวบ้านของคนใช้รถในประเทศนี้ ที่นิยมติดสติ๊กเกอร์บอกว่า "รถคนนี้สีขาว" ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ท่นโท่ว่าเป็นรถสีดำ) 

อีก ความพยายามหนึ่งที่น่าสนใจของคนที่รังเกียจประชาธิปไตยในประเทศนี้ คือการพยายามบอกว่า "ประชาธิปไตย" เป็นแค่รูปแบบการปกครองรูปแบบหนึ่ง มิได้มีคุณค่าความดีงามใดๆ สูงส่งไปกว่าระบอบอื่นๆ รวมไปถึงระบอบเผด็จการ บางรายอ้างระบบคุณธรรมขึ้นมานำหน้าระบอบการปกครอง พร้อมชี้ว่า การปกครองที่ดีอยู่ที่ "ความดีของผู้ใช้อำนาจปกครอง" โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าการปกครองของบุคคลดังกล่าวจะใช้ระบอบการปกครองใน รูปแบบใด 

คน ที่จะพูดอย่างนี้ได้ต้องเป็นคนที่ไม่สนใจใยดีว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับตนเองจะ ถูกปฏิบัติอย่างไร มองว่าเสรีภาพเป็นเรื่องไร้สาระ และไม่คิดว่าคนทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ขอแค่ให้ผู้ปกครองเป็น "คนดี" ก็พอ ด้วยคุณสมบัติข้อเดียวนี้ คนดี (ซึ่งไม่รู้ว่ามีคำจำกัดความที่แน่ชัดอย่างไร) จึงมีสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่น มีความชอบธรรมที่จะขึ้นปกครองคนทั้งมวลได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าคนส่วนใหญ่จะให้การยอมรับหรือไม่ และสามารถออกคำสั่งริดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นได้ตามใจชอบ หากบุคคลดังกล่าวยังถูกเชิดชูว่าเป็นคนดี โดยกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลและสถานะทางสังคมที่ได้เปรียบคนส่วนใหญ่ของประเทศ

ดัง นั้น ตราบใดที่ประเทศดังกล่าวยังคงเห็นค่าของคนไม่เท่ากัน ยังยอมรับระบบคุณธรรมจอมปลอมที่ตรวจสอบไม่ได้ และคิดว่าการกักขังคนที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองเป็นเรื่องปกติ โอกาสที่จะได้เห็นระบอบประชาธิปไตยลงหลักปักฐานอย่างมั่นคงในประเทศแบบนี้คง เป็นไปได้ยาก แม้มีโอกาสได้ผุดได้เกิดอีกครั้งก็อาจถูกพวกที่อ้างระบบคุณธรรมโค่นล้มได้ ง่ายๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนอย่างบูร์กินาฟาโซ

เอาผิดกับผู้ก่อรัฐประหาร ก้าวสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในบูร์กินาฟาโซ

เอาผิดกับผู้ก่อรัฐประหาร ก้าวสำคัญของระบอบประชาธิปไตยที่ยั่งยืนในบูร์กินาฟาโซ

วันที่ 02 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23:05:00 น.



โดย อดิเทพ พันธ์ทอง



"การก่อรัฐประหารเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด" นาย พลกิลแบต์ เดียนเดร์ ผู้นำกองกำลังกบฏที่จับตัวสองผู้นำสูงสุดของรัฐบาลเฉพาะกาลของบูร์กินาฟาโซ เป็นตัวประกันกล่าวยอมรับ หลังยอมคืนอำนาจให้กับรัฐบาลพลเรือน ทั้งๆ ที่เพิ่งประกาศยึดอำนาจได้เพียงสัปดาห์เดียว และเตรียมถูกดำเนินคดีหลังการก่อรัฐประหารที่ล้มเหลว

การ เปลี่ยนแปลงจากจุดสูงสุดสู่จุดต่ำสุดของนายพลเดียนเดร์เกิดขึ้นในระยะเวลา ที่สั้นมาก จุดสำคัญคือเขาไม่ได้มีมวลมหาประชาชนชาวบูร์กินาฟาโซที่เชื่อว่านายทหารคือ ชนชั้นพิเศษที่โกงกินไม่เป็นคอยหนุนหลัง และเขาไม่ได้เป็นผู้ที่ควบคุมกองทัพทั้งหมดของบูร์กินาฟาโซอย่างเป็นเอกภาพ ทำให้การยึดอำนาจของเขาด้วยการอาศัยกองกำลังพิทักษ์ประธานาธิบดี (Presidential Security Regiment, RSP) ถูกท้าทายจากทางกองทัพ นอกจากนี้หลายประเทศในภูมิภาคยังรวมตัวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันร่วมกดดันให้ เขาต้องลงจากตำแหน่ง

พัฒนาการ ที่น่าติดตามหลังการยอมถอยของผู้นำกบฏคือ การที่รัฐบาลพลเรือนสั่งอายัดทรัพย์สินของนายพลเดียนเดร์และพวก พร้อมระบุต้องนำตัวผู้ก่อการขึ้นพิจารณาโทษตามกระบวนการยุติธรรม แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาจากวงเจรจาเพื่อยุติเหตุวุ่นวายทางการเมืองครั้ง นี้เสนอให้นิรโทษกรรมผู้พยายามก่อรัฐประหารก็ตาม ซึ่งหากทำได้จริงจะแสดงให้เห็นว่ากฎหมายป้องกันการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลง การปกครองในบูร์กินาฟาโซมีสถานะเป็นกฎหมายที่สามารถบังคับใช้ได้จริงๆ ไม่เหมือนบางประเทศ ที่นักกฎหมายช่วยกันตีความเข้าข้างการใช้กำลังยึดอำนาจประชาชนว่าเป็นสิ่ง ที่ชอบธรรม การออกกฎหมายยกเว้นความผิดให้กับตัวเองมีความสมบูรณ์ โดยไม่ต้องผ่านการเห็นชอบของประชาชน

หลัง จากนี้ ผู้นำทหารในบูร์กินาฟาโซคงต้องคิดหนักขึ้น หากหวังจะใช้อำนาจเถื่อนเข้ายึดอำนาจของรัฐบาลพลเรือน เพราะหากตัวเองสิ้นอำนาจอาจต้องเผชิญกับการดำเนินคดีเหมือนอย่างนายพลเดีย นเดร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับชาวบูร์กินาฟาโซ ที่มีหลักประกันว่าผู้ที่ไม่เคารพกติกาจะต้องได้รับการลงโทษ ทำให้ระบอบประชาธิปไตยไม่อาจถูกล้มล้างได้ง่ายๆ โดยอาศัยการตัดสินใจของคนไม่กี่คน 

ใน ทางกลับกัน ประเทศในอีกซีกโลกหนึ่งกลับยึดถือการรัฐประหารว่าเป็นส่วนหนึ่งของจารีต ประเพณีการปกครองที่ไปด้วยกันได้กับระบอบประชาธิปไตย และพยายามสร้างคำจำกัดความของคำว่า "ประชาธิปไตย" ขึ้นมาใหม่ในแบบฉบับของตนเอง (ไม่ต่างกับการหลอกชาวบ้านของคนใช้รถในประเทศนี้ ที่นิยมติดสติ๊กเกอร์บอกว่า "รถคนนี้สีขาว" ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ท่นโท่ว่าเป็นรถสีดำ) 

อีก ความพยายามหนึ่งที่น่าสนใจของคนที่รังเกียจประชาธิปไตยในประเทศนี้ คือการพยายามบอกว่า "ประชาธิปไตย" เป็นแค่รูปแบบการปกครองรูปแบบหนึ่ง มิได้มีคุณค่าความดีงามใดๆ สูงส่งไปกว่าระบอบอื่นๆ รวมไปถึงระบอบเผด็จการ บางรายอ้างระบบคุณธรรมขึ้นมานำหน้าระบอบการปกครอง พร้อมชี้ว่า การปกครองที่ดีอยู่ที่ "ความดีของผู้ใช้อำนาจปกครอง" โดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าการปกครองของบุคคลดังกล่าวจะใช้ระบอบการปกครองใน รูปแบบใด 

คน ที่จะพูดอย่างนี้ได้ต้องเป็นคนที่ไม่สนใจใยดีว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับตนเองจะ ถูกปฏิบัติอย่างไร มองว่าเสรีภาพเป็นเรื่องไร้สาระ และไม่คิดว่าคนทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน ขอแค่ให้ผู้ปกครองเป็น "คนดี" ก็พอ ด้วยคุณสมบัติข้อเดียวนี้ คนดี (ซึ่งไม่รู้ว่ามีคำจำกัดความที่แน่ชัดอย่างไร) จึงมีสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่น มีความชอบธรรมที่จะขึ้นปกครองคนทั้งมวลได้ โดยไม่ต้องสนใจว่าคนส่วนใหญ่จะให้การยอมรับหรือไม่ และสามารถออกคำสั่งริดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นได้ตามใจชอบ หากบุคคลดังกล่าวยังถูกเชิดชูว่าเป็นคนดี โดยกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลและสถานะทางสังคมที่ได้เปรียบคนส่วนใหญ่ของประเทศ

ดัง นั้น ตราบใดที่ประเทศดังกล่าวยังคงเห็นค่าของคนไม่เท่ากัน ยังยอมรับระบบคุณธรรมจอมปลอมที่ตรวจสอบไม่ได้ และคิดว่าการกักขังคนที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเองเป็นเรื่องปกติ โอกาสที่จะได้เห็นระบอบประชาธิปไตยลงหลักปักฐานอย่างมั่นคงในประเทศแบบนี้คง เป็นไปได้ยาก แม้มีโอกาสได้ผุดได้เกิดอีกครั้งก็อาจถูกพวกที่อ้างระบบคุณธรรมโค่นล้มได้ ง่ายๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนอย่างบูร์กินาฟาโซ

●ข่าวลับกรองแล้ว● 1 ตุลาคม 2558

ช่วยแชร์ต่อมากๆเพื่อต้อนรับองค์การทาสฝุ่นใต้ตีนที่จะเดินขบวนไปสถานฑูตอเมริกาสนับสนุนระบอบทาสไทยต่อไป      

●ข่าวลับกรองแล้ว●
1 ตุลาคม 2558 

"1ตุลา:ศักราชใหม่อำนาจระบบราชการ"

สืบความลับจับมาตีแผ่เผยแพร่เป็นประจำในขบวนการประชาธิปไตยไทยในสแกนดิเนียเวียโดยกลุ่มเสียงประชาชนไทย(สปท.)  http://thaiscandemo.blogspot.com/

*วันนี้เริ่มอำนาจใหม่ปลัดกระทรวง,อธิบดีที่ได้รับแต่งตั้งจากอำนาจคสช.เต็มๆแต่อำนาจประธานคสช.ผู้แต่งตั้งกลับทดถอยลง...แปลกแปลก

*ตำแหน่งผบ.ทบ.มีฐานะทางกฎหมายแค่อธิบดีแต่ฐานะทางอำนาจที่เป็นจริงคือประธานใหญ่ระบอบราชการมีอำนาจเหนือกว่าปลัดกระทรวงทุกกระทรวงรวมกันโดยเฉพาะเมื่อกษัตริย์สั่งให้ปล้นอำนาจประชาชน

*คลื่นลมการเปลี่ยนตำแหน่งผบ.ทบ.ในระบอบเผด็จการไทยวันนี้แรงลึกกว่าการเปลี่ยนอำนาจนายกฯและยิ่งใกล้เปลี่ยนรัชกาล การเปลี่ยนผู้นำทหารก็มีความสำคัญเป็นระดับน้องรองจากเปลี่ยนกษัตริย์จึงจำเป็นต้องมีเสียงระเบิดประกอบและกลิ่นคาวเลือดละเลงบาทพระพรหมราชประสงค์...ก็เพราะราชาประสงค์ชื่อก็บอกแล้ว

*ระเบิดพระพรหมราชประสงค์เริ่มต้นก็ทักษิณ แต่หลักฐานมัดแน่นที่'อุยกูร์' แต่เมื่อจับตัวคนทำไม่ได้และไอ้ที่จับมาก็ทำท่าจะหลุดจึงวกกลับมาหาเสื้อแดง'อ๊อดกูร์'แทน แต่คนที่รับประโยชน์ไปเต็มๆคือ'ตือโป๊ยก่าย'ประวิทกูเอง

*วันนี้ 1ตุลาคือวันประยุทธ์ขาลอยสมบูรณ์แบบ เพราะฐานประชาชนก็ไม่มี อาศัยโหนแต่เจ้า แต่ก็ไม่รู้จักเจ้าจริงโดยเฉพาะวันนี้เจ้าก็เหมือนร้านขายข้าวมันไก่มีทั้ง'เจ้าเก่าและเจ้าใหม่'และทั้ง2เจ้าก็ไม่ชอบให้ทหารแข็งจนเกินไปเพราะรู้ดีว่าถ้าทหารกล้ามใหญ่เมื่อไรมันชอบเบ่งกินข้าวมันไก่ฟรีและมันจะแข็งแรงกว่าทักษิณที่เจ้าเหม็นขี้หน้าเสียอีก...ด้วยเหตุนี้ประยุทธ์ที่แบกน้องปรีชาเดินหน้าไม่เหลียวหลังจึงหกล้มขาแพลงจากเสียงระเบิด,แต่พอลุกขึ้นเหลียวหลังมองพลเอกธีรชัยก็สายไปเสียแล้ว

*วันนี้เริ่มศักราชใหม่แห่งระบอบราชการจึงเป็นวันขาลอยของประธานคสช.เพราะพลเอกธีรชัยไม่มีใจให้ประธานคสช.แม้แต่น้อย...สปท.ขอแสดงความยินดีกับวันประยุทธ์ขาลอยแต่ยังเป็นนายกได้ต่อไปเพราะอะไรโปรดตามมา

*วันนี้ตำแหน่งนายกฯเล็กไปเสียแล้วสำหรับประวิท วงษ์สุวรรณ เพราะมองข้ามช๊อตไปถึงตำแหน่งที่คุมนายกฯในกำมือคือประธานองคมนตรีรัชกาลที่10ที่ชื่อ"คิงวชิราลงกรณ์"

*ประวิทได้สอบผ่านและเห็นลู่ทางอำนาจใหม่ที่เปรมได้วางแนวทางไว้มานานกว่า30ปีแล้วว่าชีวิตสุขสบายกินได้ตามใจชอบและไม่ต้องแจ้งทรัพย์สิน,ใครจะด่าก็ง่ายที่จะยัดข้อหา112ให้,ศาล,ทหาร,ตำรวจอยู่ในโอวาทหมด

*ว่าที่รัชกาลที่10ก็ดูท่าจะพอใจที่จะมีประธานองคมนตรีที่ชื่อประวิท วงษ์สุวรรณ เพราะเข้ากันดีสัญญานขี่จักรยานเพื่อพ่อจึงมีต่อมาในเดือนธันวา,และสัญญานตือโป๊ยก่ายเป็นตายก็ต้องหนุน'เสี่ยโอ'จึงแรงและเด่นชัดขึ้น

*วันนี้ประวิทเริ่มทำหน้าที่ประธานองคมนตรีโดยพฤตินัยแล้วโดยเริ่มแหย่ตีนเข้าไปขัดขาน้องตู่ที่แบกปรีชาจันทร์โอชาจนหกล้มซึ่งก็คือหน้าที่หลักของประธานองคมนตรีแล้วต่อไปก็ต้องแสดงบทคุมกองทัพเบ็ดเสร็จและใครที่เป็นนายกฯก็ต้องอยู่ในสายตา

*วันนี้ประวิทผงาดเป็นพี่ใหญ่ทหารเสือราชินีที่ไม่ต้องให้ความสนใจพลเอกเปรมมากนักเพราะสามารถคุมกองทัพผ่านธีรชัยสายตรงและไม่ต้องต่อสายอ้อมไปผ่านน้องตู่เพราะความโง่ของน้องตู่เองที่ขบพระราช(แอบอ้าง)ประสงค์ของการประนีประนอมผลประโยชน์ในวังชั่วคราวไม่ออก

*ประยุทธ์จะได้รับบำเหน็จเป็นนายกฯต่อไปภายใต้การควบคุมของประวิทพี่ใหญ่ตราบเท่าที่ไม่พยศและเล่นบทตามที่เขียนให้คือหนุนวชิราลงกรณ์ขึ้นรัชกาลที่10โดยห้ามว๊อกแว๊ก

*พลเอกธีรชัยก็ไม่ว๊อกแว๊กเพราะนับแต่วันที่1ตุลาก็ถืออำนาจเต็มเป็นเวลา1ปีจึงฝากอนาคตไว้กับพี่ใหญ่ประวิทที่หนุนช่วยมาตั้งแต่ต้นเพื่อจะต่อสายอำนาจในกองทัพและการเมืองต่อไปในฐานะทหารเสือราชินีด้วยกัน

*1ปีนับแต่นี้อะไรก็เปลี่ยนไปเยอะ...พลเอกเปรมก็นับการหายใจเป็นทีละครึ่งวันส่วนท่านที่นอนอยู่บนสวรรค์ชั้น16ที่ศิริราชนั้นก็นับการหายใจเป็นชั่วโมงๆ...แล้วอย่างนี้จะไม่ให้คุณพี่ธีรชัยยืนนิ่งอยู่กับ"ทหารเสือราชินีศรีตือโป๊ยก่าย"ได้อย่างไร

*ยิ่งใกล้วันเปลี่ยนรัชกาลท่านประวิทยิ่งแน่วแน่เชื่อใจได้เพราะหากแถไปทาง"ศิรินธรเทพถ่าง"ต้องยืนห่างหัวแถวองคมนตรีอย่างน้อยอันดับที่5รองจากเปรม,สุรยุทธ์,ธานินทร์และพลากร...ม่ายคุ้มค่าแบก

*ศิรินธรเทพถ่างไปยืนกร่างรับความเคารพจากลูกศิษย์โรงเรียนนายร้อยสวนสนามด้วยประกาศอำลาชีวิตเกษียนเพราะครบ60ปีเหมือนจะส่งสัญญานถึงพี่ชายว่าอายุเกิน60ปีแล้วออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการ'กองบัญชาการถวายความจงรักษ์ภักดี'ที่มีฐานะเป็นกองทัพอิสระและเป็นนิติบุคคลที่เสมอด้วยกองทัพไทยได้แล้ว

*ข้อสมมุติมโนว่าทหารลูกศิษย์ทั้งหมดจะเป็นกบถต่อพี่ชายและหนุนน้องเทพขึ้นเป็นกษัตริย์รัชกาลที่10ถึงวันนี้ดูท่าจะยากมากขึ้น

*พลเอกเปรมคงนั่งปลงโทษตัวเองเพราะเล่นเพลงยาวเกินไปและสนุกกับอำนาจในวัย90ปีที่หาใครเหมือนไม่ได้จึงกลายเป็นสร้างโมเดลอำนาจประธานองคมนตรีด้วยการเป็นฤาษีหน้าท้องพระโรงคุมกองทัพแทนกษัตริย์มานานกว่า30ปีจนประวิทเลียนแบบและทำได้ดีเวลานี้ด้วยอายุที่หนุ่มกว่าเปรม20กว่าปีจนสุดท้ายสถานการณ์ก็พลิกไปจากความมุ่งหมายสั่งการของภูมิพลที่ยากจะหวนกลับ

*ถึงเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ก็เริ่มตาสว่างรู้แล้วว่าที่บ้านเมืองวุ่นวายมานานเพราะเป็นผลงานจากพี่น้องแย่งชิงราชสมบัติกันโดยการหนุนหลังของเสด็จพ่อที่เป็นอีแอบตัวจริงที่ไม่กล้าเปิดหน้าเพราะกลัวพี่จะฆ่าน้องแต่ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้เกิดวันที่ฉันจากโลกนี้ไปแล้วจะได้ไม่อายที่หลอกชาวบ้านมาตลอดชีวิตว่าเป็นครอบครัวแห่งคุณธรรม...ด้วยเหตุนี้ประชาชีจึงต้องระทมทุกข์

*จากไบค์ฟอร์มัม ก็ไปทำไบค์ฟอร์แดดต่อ เพื่อใช้เป็นค้ำถ่อให้ฟ้าชายไปให้ถึงบัลลังก์รัชกาลที่10โดยสะดวกโยธินด้วยการวางฤกษ์ผานาทีของหมอหยองผู้ผูกดวงกำหนดวันศุกร์ที่11ธันวา,ใครไม่รู้ว่าทำไมไม่จัดเสียให้ตรงวันหยุดหรือจัดให้ตรงกับวันเกิดพ่อเสียเลย...โปรดฟังทางนี้

*ปั่นเพื่อแม่ก็หลัง12สิงหา4วัน(คืออาทิตย์16สิงหา)ปั่นเพื่อพ่อก็หลัง5ธันวา6วัน(คือศุกร์ 11ธันวา)เอา4+6=รัชกาลที่10พอดี555...มีหมอดูเป็นที่ปรึกษาฤกษ์ผานาทีจึงห้ามมองข้าม

*เกมส์ขับเคลื่อนมวลชนปั่นจักรยานงานนี้ถือว่าเหนือชั้นกว่าเทพถ่างที่ชอบทำท่าเต้นระบำร้องเพลงเฟอะฟะหาเสียง

*ไม่ต้องบอกชาวบ้านก็รู้ว่างานนี้"ปั่นเพื่อกู"เพราะดูแล้วใกล้เวลาที่ภูมิพลจะลาโรงเต็มที

*เซียนการเมืองไทยสำนักใหนๆก็อ่านว่าจะเป็นเกมยาวนานนับ10ปีนับจากนี้กว่าจะเปลี่ยนรัชกาล...สปท.ขอประเมินตามเหตุผลทางการเมืองว่าประชาชนคงทนภาวะประเทศทุรนทุรายไปไม่ถึงแน่และนายทหารใหญ่ก็มองเห็นลำไลว่าจะเกิดผลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเป็นราชวงศ์บลูบองฝรั่งเศสแน่ถ้าดึงเรื่องยาวขนานนั้น...และหากมองปรากฎการณ์จากแถลงการณ์พระราชวังฉบับที่16ก็รู้ว่าอาการไม่ยาวแล้ว

*วังสายเปรมชอบเล่นเกมยาวด้วยการปิดข่าวอาการพระประชวรแม้ตายแล้วก็จะดึงให้ยาวไกลเหมือนสังฆราชญานสังวรเพราะต้องรอจังหวะช่วงชิงตามคำสั่งพระราชา9 แต่วังสายเสี่ยให้เล่นเกมสั้นพอหมดสภาพพลันไม่ทันตายก็ให้จัดการเถลิงถวัลเพราะท่านรอจนเกินเกษียณอายุแล้ว ส่วนหมอก็รู้ว่าอยู่ระหว่างเขาควายอันตรายสุดๆ...ล่าสุดจึงยอมหลุดความจริงของพระอาการว่าออกซิเยนในเลือดลดลงและทรงมีอาการหนักตามฉบับที่16

*แถลงการฉบับที่16ทำเอาหญิงเล็กจุฬาภรณ์ทรงร้อนก้นนั่งไม่ติดเดินสายชวนประชาชนสวดมนเป็นการใหญ่พร้อมต่อว่าหมอดูแลไข้ที่ให้ออกแถลงการณ์ซึ่งก็ได้รับยืนยันจากหมอเป็นข่าวลายลักษณ์อักษรว่ารายงานไปในฉบับที่16ถือว่าเขียนให้เบาที่สุดแล้ว...จากการต่อว่าอีก2วันจึงรีบแถลงฉบับที่17ออกมาว่าหายเป็นปกติแล้ว และก็รีบแถลงฉบับที่18ออกมาอย่างเร็วอีกว่าสุขภาพดีแถบจะวิ่งออกกำลังกายได้เลย555

*คำถามง่ายๆควายสลิ่มก็น่าจะตอบได้...ตอนกลับมาศิริราชล่าสุดอย่างฉุกละหุกเมื่อ1มิถุนายนปีนี้หมอใหญ่ศิริราชก็แถลงโกหกเองว่า"เสด็จกลับมาตรวจสุขภาพตามกำหนดปกติ" แล้วถึงวันนี้4เดือนแล้วหายดีทำไมไม่กลับหัวหินละเพค่ะ? หรือว่าการนอนโรงพยาบาลนานๆมันเป็นปกติอย่างหนึ่งเพค่ะ?

*วันวานที่ผ่านมาเปรมกุมไต๋จะเป็นผู้สำเร็จราชการแทนตามกฎหมายเพราะมาตรา20รัฐธรรมนูญบอกว่าหากกษัตริย์ปฏิบัติหน้าทีไม่ได้และไม่ตั้งผู้ใดไว้ก็ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชกาลแทนพระองค์ไปพลางก่อนด้วยเหตุนี้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับปี2540ถึงปัจจุบันทั้งฉีกทั้งร่างใหม่มาหลายฉบับแต่หมวดพระมหากษัตริย์ไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่วรรคตอน...แต่วันนี้ฟ้าชายก็แก้เกมเมื่อเปรมไม่จัดการตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนแต่ฉันก็ทำแทนพ่อในฐานะผู้สำเร็จราชกาลแทนโดยธรรมชาติในฐานะลูกและมกุฎราชกุมาร

*มีข่าวเรดรอดออกมาว่าจับตาดูให้ดีจะมีคนแก่อายุใกล้100ถูกรวบตัวเข้าคุกข้อหากบถและพ่วง112หากหาญกล้าประกาศแสดงตนเป็นผู้สำเร็จรทาชการแทนพระองค์ณ.เวลานี้...คอยดูคอยดู

*แล้วพบกันใหม่นับแต่นี้ภายใต้การบริหารของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามธรรมชาติ
--------จบ-------

ร่างจดหมายที่สามารถส่งถึงผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เขาช่วยบอยค็อตต์รัฐบาลเผด็จการทหารไทยอย่างเด็ดขาด

มา...​มดแดงทั้งหลาย มาช่วยกันกัดต่อ...
(2 ตุลาคม 2558)

ร่างจดหมายที่สามารถส่งถึงผู้นำประเทศต่าง ๆ เพื่อให้เขาช่วยบอยค็อตต์รัฐบาลเผด็จการทหารไทยอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เผด็จการคายอำนาจให้ประชาชนโดยด่วนและอย่างเป็นผลจริงจัง...ก่อนจะเกิดสงครามกลางเมืองที่จะนำความเสียหายแก่ทั้งประเทศไทยและสากล


Your Address (ที่อยู่ของท่าน):

Date (วันเดือนปี):

Name & Address of the leader/officer (ชื่อและที่อยู่ของผู้รับ)

Dear President/Prime Minister/Chancellor XXXXX:

I am a Thai citizen living in (city), (country). I would like to humbly and hopefully beg you to urgently help Thai citizens fight against the dictatorial regime now under the oppressive rule of the army junta.

To our deep disappointment, the Thai army junta led by General Prayuth Chan-O-Cha has managed to be accepted and present at the recent general assembly at the United Nations and given several opportunities to convince world leaders with lies that the regime, which has toppled an elected government, suppressed dissidents with army tactics and forces, violated all forms of human rights, and attempted to stay in power indefinitely, needs additional time to reform the necessary systems before resuming elections in 2017 (pushed further from its original road map). In short, it is evident that this oppressive and dictatorial regime has no intention to democratize Thailand and is ready to use violent forces to suppress all dissidents.

You can help us greatly by seriously pressuring the army junta to return Thailand to a more democratic path as soon as possible and stop violating the citizens' freedom and universal human rights completely. Please consider applying the most powerful measure such as totally boycotting Thailand in all aspects until a general election is carried out.

We, the people of Thailand, are becoming desperate as the junta is relentlessly using all the tools it has to suppress and harass all dissenting citizens. Unless you help to push Thailand toward a peaceful transition democratically, we fear that Thailand may slip into a full-blown civil war that would tragically affect Thailand and greatly impacted the international community.

Thank you for your kind considerations and actions.

Sincerely,
Your name and contact detail (ชื่อและรายละเอียดการติดต่อของท่าน)