http://www.youtube.com/watch?v=ltxmzTf4Rqc http://www.mediafire.com/listen/40o2bqyav946ra4/chupon-2016-1-31.mp3 ชูพงศ์์ เปลี่ยนระบอบ ๓๑ มค. ๒๕๕๙ ตอน รัฐ"นูญ" ขี้หมูไหล ระวัง บัลลัยทั้งประเทศ ดาว์โหลดเพื่อการเผยแพร่
PPD's Official Website
- Home
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- เว็บมหาวิทยาลัยประชาชน
- ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
- “เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง”
- Ideology: อุดมการณ์มดแดง
- มดแดงล้มช้างคืออะไร?
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- ติดตามทางเฟสบุ๊ค
- การก่อตั้ง คณะราษฎรเพื่อสาธารณรัฐสยาม
- ร่วมโหวตชื่อขององค์การปวงชนชาวไทย
- หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
- หลักสำคัญสู่ชัยชนะเหนือเผด็จการไทย
- คำประกาศเพื่อการปฎิวัติระบอบการปกครอง 18 ก.พ. 2555
- การสมัครเข้าร่วมปฏิวัติประชาชน
- คำประกาศสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยประชาชน
- ถ่ายทอดสด ทางยูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยประชาชน
- โครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยประชาชน
- เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยประชาชน
- บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"
- Missions: พันธกิจ มดแดง
Sunday, January 31, 2016
ชูพงศ์์ เปลี่ยนระบอบ ๓๑ มค. ๒๕๕๙ ตอน รัฐ"นูญ" ขี้หมูไหล ระวัง บัลลัยทั้งประเทศ
http://www.youtube.com/watch?v=ltxmzTf4Rqc http://www.mediafire.com/listen/40o2bqyav946ra4/chupon-2016-1-31.mp3 ชูพงศ์์ เปลี่ยนระบอบ ๓๑ มค. ๒๕๕๙ ตอน รัฐ"นูญ" ขี้หมูไหล ระวัง บัลลัยทั้งประเทศ ดาว์โหลดเพื่อการเผยแพร่
Saturday, January 30, 2016
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี2560จริงหรือ? : คมวิเคราะห์การเมืองรอบสัปดาห์ โดยสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์
คำถามใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ในปี 2560 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ จะเป็นตามปฏิทินเดิมคือ ประมาณกลางปี หรือจะต้องเลื่อนออกไปปลายปี หรือจะนานกว่านั้น?
จุดเริ่มของคำถามนี้มาจาก "มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เรื่องการทำประชามติเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ โดยนายมีชัยบอกทำนองว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไข เพราะจะทำให้ประชาชนไม่สนใจดูเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะไปดูที่เงื่อนไขมากกว่า
ประโยคที่ทำให้เป็นประเด็นขึ้นมาคือ เมื่อนักข่าวถามว่า หากไม่แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ จะทำอย่างไร ซึ่งมีชัยตอบว่า "ถ้าประชามติไม่ผ่าน รัฐธรรมนูญปัจจุบันก็บังคับใช้ต่อไป" ซึ่งมีบางคนไปตีความว่า หมายถึงจะเอารัฐธรรมนูญชั่วคราวมาใช้เป็นการถาวร หมายถึงจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 ตามโรดแม็พที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยกำหนดไว้หรือไม่
ร้อนถึง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ต้องออกมายืนยันว่า จะให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ให้ได้ โดยระบุลงไปด้วยว่า เป็นเดือนกรกฎาคม 2560 ยกเว้นถ้าให้ไปเลือกตั้งแล้วยังทะเลาะกันไม่ไปเลือกตั้ง อันนั้นนายกฯ บอก ก็ช่วยไม่ได้แล้ว
แค่วันเดียวหลัง พล.อ.ประยุทธ์ออกมาการันตีว่าจะให้มีการเลือกตั้ง กรกฎาคม 2560 ก็มีข่าวออกมาว่า การเลือกตั้งอาจขยับไปเป็นปลายปี 2560 เพราะในบทเฉพาะกาลได้เขียนกำหนดระยะเวลาในการออกกฎหมายลูก หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ต้องออกให้เสร็จก่อนเลือกตั้งว่า ให้ใช้เวลาไม่เกิน 8 เดือน และให้ไปเลือกตั้งภายใน 5 เดือน หลังทำกฎหมายลูกเสร็จ
นั่นหมายความว่า ระยะเวลาที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พที่ คสช.เคยกำหนดไว้ และตามที่ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ เคยบอกออกมาเป็นสูตร 6+4+6+4 คือ เลข 6 ตัวที่สอง ซึ่งหมายถึงระยะเวลาในการทำกฎหมายลูกถูกขยายเข้าไปเพิ่มไปอีก 2 เดือน และเลข 4 ตัวที่สองคือระยะเวลาในการไปสู่วันเลือกตั้งก็ขยายไปอีก
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็ออกมายอมรับว่า ข้อกำหนดในบทเฉพาะกาลจะทำให้การเลือกตั้งลากยาวไปเป็นปลายปี
เมื่อพิจารณารายละเอียดก่อนไปสู่การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งเปิดออกมา จะมี 3 ส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ 1.ระยะเวลาร่างกฎหมายลูก 2.ระยะเวลาที่ สนช.พิจารณาร่างกฎหมายลูก 3.ระยะเวลาในการเลือกตั้ง
เรื่องแรก กำหนดไว้ในมาตรา 259 ว่า ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่จำเป็นรวม 10 ฉบับให้เสร็จภายใน 8 เดือน หากทำไม่เสร็จภายในกำหนด "ให้หัวหน้า คสช.ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาทำ" ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องให้เสร็จภายในเวลาเท่าใด
แน่นอน ทันทีที่ปรากฏเนื้อหาส่วนนี้ออกมาย่อมเกิดคำถามว่า ตั้งใจเขียน "เปิดช่อง" เพื่อยื้อเวลาในการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ เพราะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาหากชุดปัจจุบันทำภารกิจไม่เสร็จ ก็ล้วนมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้า คสช.
ผู้สื่อข่าวจึงซักถามนายมีชัยอย่างหนัก ภายหลังการแถลงเปิด "ร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น" เมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) ซึ่งแม้นายมีชัยจะบอกว่า มั่นใจว่าจะร่างทันภายใน 8 เดือน นักข่าวยังซักต่ออีก จนสุดท้ายนายมีชัย จึงบอกว่า "ถ้าติดใจกันมากจะไปตัดออก"
อย่างไรก็ตาม การเขียน "เปิดช่อง" ไว้อย่างนี้ ทำให้บางคนมองไปถึงข้อกำหนดเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะทำอย่างไร รวมถึงเรื่องเสียงที่จะใช้ในการผ่านประชามติจะต้องเป็นเท่าใดแน่ เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่า "ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติโดยเสียงข้างมาก" ซึ่งนักกฎหมายส่วนใหญ่ตีความว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ขณะที่ฝ่าย คสช.ยืนยันว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ" ซึ่งหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสียก่อนอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
นอกจากนี้ยังมีคำถามถึงประเด็นที่ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องร่างกฎหมายลูกและกฎหมายที่จำเป็น ที่กำหนดไว้ทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จก่อน จึงจะไปสู่ขั้นตอนการเลือกตั้งได้ จากที่รัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้หรือกระทั่งร่างรัฐธรรมนูญของ "บวรศักดิ์ อุวรรณโณ" จะกำหนดกฎหมายที่ต้องทำให้เสร็จก่อนไปเลือกตั้งเพียง 3-4 ฉบับ หลักๆ คือ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายว่าด้วยการได้ว่าของ ส.ว. กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งระยะเวลาจะอยู่ที่เพียง 3 เดือนเท่านั้น
และทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายรัฐบาล และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็เคยให้สัมภาษณ์ทำนองว่า กฎหมายที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จก่อนก็มีเพียง 3-4 ฉบับนี้ เมื่อตัวบทบัญญัติกำหนดว่าต้องเสร็จก่อนทั้ง 10 ฉบับ จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาเช่นกัน
ทั้งนี้กฎหมายที่ถูกกำหนดไว้ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 8 เดือน ได้แก่
1.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
3.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
4.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 90
5.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
6.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
7.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
8.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
9.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
10.กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ
ส่วนที่สอง เรื่องการส่งร่างกฎหมายให้ สนช.พิจารณา ซึ่ง สนช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน ดูจะไม่ค่อยมีคำถาม เพราะถือเป็นขั้นตอนปกติ แต่อีกส่วนที่มีคำถามเช่นกัน คือ ระยะเวลาในการเลือกตั้ง ทำไมต้องยาวถึง 5 เดือน ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมารวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ก็อยู่ที่ 3 เดือนเท่านั้น
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเวลาในการเลือกตั้งไว้นานถึง 5 เดือนนั้น เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาสมาชิก คสช., สนช.และ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ต้องการลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
ทั้งนี้ ในบทเฉพาะกาลกำหนดไว้ว่า หาก คสช. สนช. หรือ สปท. ต้องการจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. หรือสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.จะต้องลาออกภายใน 90 วัน ขณะที่มีข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ว่า ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน
จากทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวที่จะเป็นตัวชี้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด ในเบื้องต้นจึงบอกได้ว่า หากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำกฎหมายลูกได้เสร็จตามเวลาที่กำหนด คือ 8 เดือน ระยะเวลาในการเลือกตั้งจะไปตกที่ประมาณเดือนตุลาคม 2560 และในร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้เสร็จไม่ช้ากว่า 60 วัน เท่ากับว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้ประมาณปลายปี 2560
นั่นคือ คสช.จะยังคงอยู่ต่อไปโดยมีอำนาจเต็มทุกประการตามที่บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้จนถึงปลายปี 2560
ยกเว้น! 1.นายมีชัยไม่ได้ไปตัดบทบัญญัติที่เขียนเปิดช่องให้หัวหน้า คสช.สามารถตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาจัดทำกฎหมายลูกใหม่ได้ 2.คณะกรรมการชุดนายมีชัยไม่สามารถทำกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับได้เสร็จภายในกำหนดเวลา 3.ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้วไม่ผ่าน และ 4.ปัจจัยอื่น
การเลือกตั้งจะเกิดภายในปี 2560 หรือไม่ จึงยังไม่แน่นอน!!
อาสาหาข่าว
31/1/59
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี2560จริงหรือ? : คมวิเคราะห์การเมืองรอบสัปดาห์ โดยสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์
คำถามใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ในปี 2560 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ จะเป็นตามปฏิทินเดิมคือ ประมาณกลางปี หรือจะต้องเลื่อนออกไปปลายปี หรือจะนานกว่านั้น?
จุดเริ่มของคำถามนี้มาจาก "มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เรื่องการทำประชามติเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ โดยนายมีชัยบอกทำนองว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไข เพราะจะทำให้ประชาชนไม่สนใจดูเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะไปดูที่เงื่อนไขมากกว่า
ประโยคที่ทำให้เป็นประเด็นขึ้นมาคือ เมื่อนักข่าวถามว่า หากไม่แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ จะทำอย่างไร ซึ่งมีชัยตอบว่า "ถ้าประชามติไม่ผ่าน รัฐธรรมนูญปัจจุบันก็บังคับใช้ต่อไป" ซึ่งมีบางคนไปตีความว่า หมายถึงจะเอารัฐธรรมนูญชั่วคราวมาใช้เป็นการถาวร หมายถึงจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 ตามโรดแม็พที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยกำหนดไว้หรือไม่
ร้อนถึง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ต้องออกมายืนยันว่า จะให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ให้ได้ โดยระบุลงไปด้วยว่า เป็นเดือนกรกฎาคม 2560 ยกเว้นถ้าให้ไปเลือกตั้งแล้วยังทะเลาะกันไม่ไปเลือกตั้ง อันนั้นนายกฯ บอก ก็ช่วยไม่ได้แล้ว
แค่วันเดียวหลัง พล.อ.ประยุทธ์ออกมาการันตีว่าจะให้มีการเลือกตั้ง กรกฎาคม 2560 ก็มีข่าวออกมาว่า การเลือกตั้งอาจขยับไปเป็นปลายปี 2560 เพราะในบทเฉพาะกาลได้เขียนกำหนดระยะเวลาในการออกกฎหมายลูก หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ต้องออกให้เสร็จก่อนเลือกตั้งว่า ให้ใช้เวลาไม่เกิน 8 เดือน และให้ไปเลือกตั้งภายใน 5 เดือน หลังทำกฎหมายลูกเสร็จ
นั่นหมายความว่า ระยะเวลาที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พที่ คสช.เคยกำหนดไว้ และตามที่ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ เคยบอกออกมาเป็นสูตร 6+4+6+4 คือ เลข 6 ตัวที่สอง ซึ่งหมายถึงระยะเวลาในการทำกฎหมายลูกถูกขยายเข้าไปเพิ่มไปอีก 2 เดือน และเลข 4 ตัวที่สองคือระยะเวลาในการไปสู่วันเลือกตั้งก็ขยายไปอีก
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็ออกมายอมรับว่า ข้อกำหนดในบทเฉพาะกาลจะทำให้การเลือกตั้งลากยาวไปเป็นปลายปี
เมื่อพิจารณารายละเอียดก่อนไปสู่การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งเปิดออกมา จะมี 3 ส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ 1.ระยะเวลาร่างกฎหมายลูก 2.ระยะเวลาที่ สนช.พิจารณาร่างกฎหมายลูก 3.ระยะเวลาในการเลือกตั้ง
เรื่องแรก กำหนดไว้ในมาตรา 259 ว่า ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่จำเป็นรวม 10 ฉบับให้เสร็จภายใน 8 เดือน หากทำไม่เสร็จภายในกำหนด "ให้หัวหน้า คสช.ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาทำ" ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องให้เสร็จภายในเวลาเท่าใด
แน่นอน ทันทีที่ปรากฏเนื้อหาส่วนนี้ออกมาย่อมเกิดคำถามว่า ตั้งใจเขียน "เปิดช่อง" เพื่อยื้อเวลาในการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ เพราะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาหากชุดปัจจุบันทำภารกิจไม่เสร็จ ก็ล้วนมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้า คสช.
ผู้สื่อข่าวจึงซักถามนายมีชัยอย่างหนัก ภายหลังการแถลงเปิด "ร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น" เมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) ซึ่งแม้นายมีชัยจะบอกว่า มั่นใจว่าจะร่างทันภายใน 8 เดือน นักข่าวยังซักต่ออีก จนสุดท้ายนายมีชัย จึงบอกว่า "ถ้าติดใจกันมากจะไปตัดออก"
อย่างไรก็ตาม การเขียน "เปิดช่อง" ไว้อย่างนี้ ทำให้บางคนมองไปถึงข้อกำหนดเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะทำอย่างไร รวมถึงเรื่องเสียงที่จะใช้ในการผ่านประชามติจะต้องเป็นเท่าใดแน่ เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่า "ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติโดยเสียงข้างมาก" ซึ่งนักกฎหมายส่วนใหญ่ตีความว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ขณะที่ฝ่าย คสช.ยืนยันว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ" ซึ่งหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสียก่อนอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
นอกจากนี้ยังมีคำถามถึงประเด็นที่ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องร่างกฎหมายลูกและกฎหมายที่จำเป็น ที่กำหนดไว้ทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จก่อน จึงจะไปสู่ขั้นตอนการเลือกตั้งได้ จากที่รัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้หรือกระทั่งร่างรัฐธรรมนูญของ "บวรศักดิ์ อุวรรณโณ" จะกำหนดกฎหมายที่ต้องทำให้เสร็จก่อนไปเลือกตั้งเพียง 3-4 ฉบับ หลักๆ คือ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายว่าด้วยการได้ว่าของ ส.ว. กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งระยะเวลาจะอยู่ที่เพียง 3 เดือนเท่านั้น
และทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายรัฐบาล และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็เคยให้สัมภาษณ์ทำนองว่า กฎหมายที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จก่อนก็มีเพียง 3-4 ฉบับนี้ เมื่อตัวบทบัญญัติกำหนดว่าต้องเสร็จก่อนทั้ง 10 ฉบับ จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาเช่นกัน
ทั้งนี้กฎหมายที่ถูกกำหนดไว้ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 8 เดือน ได้แก่
1.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
3.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
4.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 90
5.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
6.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
7.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
8.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
9.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
10.กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ
ส่วนที่สอง เรื่องการส่งร่างกฎหมายให้ สนช.พิจารณา ซึ่ง สนช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน ดูจะไม่ค่อยมีคำถาม เพราะถือเป็นขั้นตอนปกติ แต่อีกส่วนที่มีคำถามเช่นกัน คือ ระยะเวลาในการเลือกตั้ง ทำไมต้องยาวถึง 5 เดือน ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมารวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ก็อยู่ที่ 3 เดือนเท่านั้น
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเวลาในการเลือกตั้งไว้นานถึง 5 เดือนนั้น เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาสมาชิก คสช., สนช.และ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ต้องการลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
ทั้งนี้ ในบทเฉพาะกาลกำหนดไว้ว่า หาก คสช. สนช. หรือ สปท. ต้องการจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. หรือสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.จะต้องลาออกภายใน 90 วัน ขณะที่มีข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ว่า ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน
จากทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวที่จะเป็นตัวชี้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด ในเบื้องต้นจึงบอกได้ว่า หากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำกฎหมายลูกได้เสร็จตามเวลาที่กำหนด คือ 8 เดือน ระยะเวลาในการเลือกตั้งจะไปตกที่ประมาณเดือนตุลาคม 2560 และในร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้เสร็จไม่ช้ากว่า 60 วัน เท่ากับว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้ประมาณปลายปี 2560
นั่นคือ คสช.จะยังคงอยู่ต่อไปโดยมีอำนาจเต็มทุกประการตามที่บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้จนถึงปลายปี 2560
ยกเว้น! 1.นายมีชัยไม่ได้ไปตัดบทบัญญัติที่เขียนเปิดช่องให้หัวหน้า คสช.สามารถตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาจัดทำกฎหมายลูกใหม่ได้ 2.คณะกรรมการชุดนายมีชัยไม่สามารถทำกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับได้เสร็จภายในกำหนดเวลา 3.ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้วไม่ผ่าน และ 4.ปัจจัยอื่น
การเลือกตั้งจะเกิดภายในปี 2560 หรือไม่ จึงยังไม่แน่นอน!!
อาสาหาข่าว
31/1/59
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี2560จริงหรือ? : คมวิเคราะห์การเมืองรอบสัปดาห์ โดยสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์
คำถามใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ในปี 2560 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ จะเป็นตามปฏิทินเดิมคือ ประมาณกลางปี หรือจะต้องเลื่อนออกไปปลายปี หรือจะนานกว่านั้น?
จุดเริ่มของคำถามนี้มาจาก "มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เรื่องการทำประชามติเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ โดยนายมีชัยบอกทำนองว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไข เพราะจะทำให้ประชาชนไม่สนใจดูเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะไปดูที่เงื่อนไขมากกว่า
ประโยคที่ทำให้เป็นประเด็นขึ้นมาคือ เมื่อนักข่าวถามว่า หากไม่แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ จะทำอย่างไร ซึ่งมีชัยตอบว่า "ถ้าประชามติไม่ผ่าน รัฐธรรมนูญปัจจุบันก็บังคับใช้ต่อไป" ซึ่งมีบางคนไปตีความว่า หมายถึงจะเอารัฐธรรมนูญชั่วคราวมาใช้เป็นการถาวร หมายถึงจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 ตามโรดแม็พที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยกำหนดไว้หรือไม่
ร้อนถึง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ต้องออกมายืนยันว่า จะให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ให้ได้ โดยระบุลงไปด้วยว่า เป็นเดือนกรกฎาคม 2560 ยกเว้นถ้าให้ไปเลือกตั้งแล้วยังทะเลาะกันไม่ไปเลือกตั้ง อันนั้นนายกฯ บอก ก็ช่วยไม่ได้แล้ว
แค่วันเดียวหลัง พล.อ.ประยุทธ์ออกมาการันตีว่าจะให้มีการเลือกตั้ง กรกฎาคม 2560 ก็มีข่าวออกมาว่า การเลือกตั้งอาจขยับไปเป็นปลายปี 2560 เพราะในบทเฉพาะกาลได้เขียนกำหนดระยะเวลาในการออกกฎหมายลูก หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ต้องออกให้เสร็จก่อนเลือกตั้งว่า ให้ใช้เวลาไม่เกิน 8 เดือน และให้ไปเลือกตั้งภายใน 5 เดือน หลังทำกฎหมายลูกเสร็จ
นั่นหมายความว่า ระยะเวลาที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พที่ คสช.เคยกำหนดไว้ และตามที่ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ เคยบอกออกมาเป็นสูตร 6+4+6+4 คือ เลข 6 ตัวที่สอง ซึ่งหมายถึงระยะเวลาในการทำกฎหมายลูกถูกขยายเข้าไปเพิ่มไปอีก 2 เดือน และเลข 4 ตัวที่สองคือระยะเวลาในการไปสู่วันเลือกตั้งก็ขยายไปอีก
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็ออกมายอมรับว่า ข้อกำหนดในบทเฉพาะกาลจะทำให้การเลือกตั้งลากยาวไปเป็นปลายปี
เมื่อพิจารณารายละเอียดก่อนไปสู่การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งเปิดออกมา จะมี 3 ส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ 1.ระยะเวลาร่างกฎหมายลูก 2.ระยะเวลาที่ สนช.พิจารณาร่างกฎหมายลูก 3.ระยะเวลาในการเลือกตั้ง
เรื่องแรก กำหนดไว้ในมาตรา 259 ว่า ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่จำเป็นรวม 10 ฉบับให้เสร็จภายใน 8 เดือน หากทำไม่เสร็จภายในกำหนด "ให้หัวหน้า คสช.ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาทำ" ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องให้เสร็จภายในเวลาเท่าใด
แน่นอน ทันทีที่ปรากฏเนื้อหาส่วนนี้ออกมาย่อมเกิดคำถามว่า ตั้งใจเขียน "เปิดช่อง" เพื่อยื้อเวลาในการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ เพราะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาหากชุดปัจจุบันทำภารกิจไม่เสร็จ ก็ล้วนมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้า คสช.
ผู้สื่อข่าวจึงซักถามนายมีชัยอย่างหนัก ภายหลังการแถลงเปิด "ร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น" เมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) ซึ่งแม้นายมีชัยจะบอกว่า มั่นใจว่าจะร่างทันภายใน 8 เดือน นักข่าวยังซักต่ออีก จนสุดท้ายนายมีชัย จึงบอกว่า "ถ้าติดใจกันมากจะไปตัดออก"
อย่างไรก็ตาม การเขียน "เปิดช่อง" ไว้อย่างนี้ ทำให้บางคนมองไปถึงข้อกำหนดเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะทำอย่างไร รวมถึงเรื่องเสียงที่จะใช้ในการผ่านประชามติจะต้องเป็นเท่าใดแน่ เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่า "ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติโดยเสียงข้างมาก" ซึ่งนักกฎหมายส่วนใหญ่ตีความว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ขณะที่ฝ่าย คสช.ยืนยันว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ" ซึ่งหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสียก่อนอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
นอกจากนี้ยังมีคำถามถึงประเด็นที่ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องร่างกฎหมายลูกและกฎหมายที่จำเป็น ที่กำหนดไว้ทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จก่อน จึงจะไปสู่ขั้นตอนการเลือกตั้งได้ จากที่รัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้หรือกระทั่งร่างรัฐธรรมนูญของ "บวรศักดิ์ อุวรรณโณ" จะกำหนดกฎหมายที่ต้องทำให้เสร็จก่อนไปเลือกตั้งเพียง 3-4 ฉบับ หลักๆ คือ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายว่าด้วยการได้ว่าของ ส.ว. กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งระยะเวลาจะอยู่ที่เพียง 3 เดือนเท่านั้น
และทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายรัฐบาล และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็เคยให้สัมภาษณ์ทำนองว่า กฎหมายที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จก่อนก็มีเพียง 3-4 ฉบับนี้ เมื่อตัวบทบัญญัติกำหนดว่าต้องเสร็จก่อนทั้ง 10 ฉบับ จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาเช่นกัน
ทั้งนี้กฎหมายที่ถูกกำหนดไว้ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 8 เดือน ได้แก่
1.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
3.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
4.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 90
5.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
6.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
7.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
8.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
9.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
10.กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ
ส่วนที่สอง เรื่องการส่งร่างกฎหมายให้ สนช.พิจารณา ซึ่ง สนช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน ดูจะไม่ค่อยมีคำถาม เพราะถือเป็นขั้นตอนปกติ แต่อีกส่วนที่มีคำถามเช่นกัน คือ ระยะเวลาในการเลือกตั้ง ทำไมต้องยาวถึง 5 เดือน ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมารวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ก็อยู่ที่ 3 เดือนเท่านั้น
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเวลาในการเลือกตั้งไว้นานถึง 5 เดือนนั้น เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาสมาชิก คสช., สนช.และ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ต้องการลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
ทั้งนี้ ในบทเฉพาะกาลกำหนดไว้ว่า หาก คสช. สนช. หรือ สปท. ต้องการจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. หรือสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.จะต้องลาออกภายใน 90 วัน ขณะที่มีข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ว่า ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน
จากทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวที่จะเป็นตัวชี้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด ในเบื้องต้นจึงบอกได้ว่า หากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำกฎหมายลูกได้เสร็จตามเวลาที่กำหนด คือ 8 เดือน ระยะเวลาในการเลือกตั้งจะไปตกที่ประมาณเดือนตุลาคม 2560 และในร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้เสร็จไม่ช้ากว่า 60 วัน เท่ากับว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้ประมาณปลายปี 2560
นั่นคือ คสช.จะยังคงอยู่ต่อไปโดยมีอำนาจเต็มทุกประการตามที่บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้จนถึงปลายปี 2560
ยกเว้น! 1.นายมีชัยไม่ได้ไปตัดบทบัญญัติที่เขียนเปิดช่องให้หัวหน้า คสช.สามารถตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาจัดทำกฎหมายลูกใหม่ได้ 2.คณะกรรมการชุดนายมีชัยไม่สามารถทำกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับได้เสร็จภายในกำหนดเวลา 3.ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้วไม่ผ่าน และ 4.ปัจจัยอื่น
การเลือกตั้งจะเกิดภายในปี 2560 หรือไม่ จึงยังไม่แน่นอน!!
อาสาหาข่าว
31/1/59
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี 2560 จริงหรือ?
เลือกตั้งปลายปี2560จริงหรือ? : คมวิเคราะห์การเมืองรอบสัปดาห์ โดยสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์
คำถามใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ในปี 2560 จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ จะเป็นตามปฏิทินเดิมคือ ประมาณกลางปี หรือจะต้องเลื่อนออกไปปลายปี หรือจะนานกว่านั้น?
จุดเริ่มของคำถามนี้มาจาก "มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 เรื่องการทำประชามติเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ โดยนายมีชัยบอกทำนองว่า ไม่จำเป็นต้องแก้ไข เพราะจะทำให้ประชาชนไม่สนใจดูเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ แต่จะไปดูที่เงื่อนไขมากกว่า
ประโยคที่ทำให้เป็นประเด็นขึ้นมาคือ เมื่อนักข่าวถามว่า หากไม่แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ จะทำอย่างไร ซึ่งมีชัยตอบว่า "ถ้าประชามติไม่ผ่าน รัฐธรรมนูญปัจจุบันก็บังคับใช้ต่อไป" ซึ่งมีบางคนไปตีความว่า หมายถึงจะเอารัฐธรรมนูญชั่วคราวมาใช้เป็นการถาวร หมายถึงจะไม่มีการเลือกตั้งในปี 2560 ตามโรดแม็พที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เคยกำหนดไว้หรือไม่
ร้อนถึง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกฯ ในฐานะหัวหน้า คสช. ต้องออกมายืนยันว่า จะให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 ให้ได้ โดยระบุลงไปด้วยว่า เป็นเดือนกรกฎาคม 2560 ยกเว้นถ้าให้ไปเลือกตั้งแล้วยังทะเลาะกันไม่ไปเลือกตั้ง อันนั้นนายกฯ บอก ก็ช่วยไม่ได้แล้ว
แค่วันเดียวหลัง พล.อ.ประยุทธ์ออกมาการันตีว่าจะให้มีการเลือกตั้ง กรกฎาคม 2560 ก็มีข่าวออกมาว่า การเลือกตั้งอาจขยับไปเป็นปลายปี 2560 เพราะในบทเฉพาะกาลได้เขียนกำหนดระยะเวลาในการออกกฎหมายลูก หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ต้องออกให้เสร็จก่อนเลือกตั้งว่า ให้ใช้เวลาไม่เกิน 8 เดือน และให้ไปเลือกตั้งภายใน 5 เดือน หลังทำกฎหมายลูกเสร็จ
นั่นหมายความว่า ระยะเวลาที่จะเดินไปสู่การเลือกตั้งตามโรดแม็พที่ คสช.เคยกำหนดไว้ และตามที่ "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ เคยบอกออกมาเป็นสูตร 6+4+6+4 คือ เลข 6 ตัวที่สอง ซึ่งหมายถึงระยะเวลาในการทำกฎหมายลูกถูกขยายเข้าไปเพิ่มไปอีก 2 เดือน และเลข 4 ตัวที่สองคือระยะเวลาในการไปสู่วันเลือกตั้งก็ขยายไปอีก
คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็ออกมายอมรับว่า ข้อกำหนดในบทเฉพาะกาลจะทำให้การเลือกตั้งลากยาวไปเป็นปลายปี
เมื่อพิจารณารายละเอียดก่อนไปสู่การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งเปิดออกมา จะมี 3 ส่วนที่เกี่ยวข้อง คือ 1.ระยะเวลาร่างกฎหมายลูก 2.ระยะเวลาที่ สนช.พิจารณาร่างกฎหมายลูก 3.ระยะเวลาในการเลือกตั้ง
เรื่องแรก กำหนดไว้ในมาตรา 259 ว่า ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่จำเป็นรวม 10 ฉบับให้เสร็จภายใน 8 เดือน หากทำไม่เสร็จภายในกำหนด "ให้หัวหน้า คสช.ตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาทำ" ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ว่าต้องให้เสร็จภายในเวลาเท่าใด
แน่นอน ทันทีที่ปรากฏเนื้อหาส่วนนี้ออกมาย่อมเกิดคำถามว่า ตั้งใจเขียน "เปิดช่อง" เพื่อยื้อเวลาในการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ เพราะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ที่จะตั้งขึ้นมาหากชุดปัจจุบันทำภารกิจไม่เสร็จ ก็ล้วนมาจากการแต่งตั้งของหัวหน้า คสช.
ผู้สื่อข่าวจึงซักถามนายมีชัยอย่างหนัก ภายหลังการแถลงเปิด "ร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น" เมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) ซึ่งแม้นายมีชัยจะบอกว่า มั่นใจว่าจะร่างทันภายใน 8 เดือน นักข่าวยังซักต่ออีก จนสุดท้ายนายมีชัย จึงบอกว่า "ถ้าติดใจกันมากจะไปตัดออก"
อย่างไรก็ตาม การเขียน "เปิดช่อง" ไว้อย่างนี้ ทำให้บางคนมองไปถึงข้อกำหนดเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติจะทำอย่างไร รวมถึงเรื่องเสียงที่จะใช้ในการผ่านประชามติจะต้องเป็นเท่าใดแน่ เพราะในรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่า "ผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติโดยเสียงข้างมาก" ซึ่งนักกฎหมายส่วนใหญ่ตีความว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ขณะที่ฝ่าย คสช.ยืนยันว่า หมายถึง "เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ" ซึ่งหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสียก่อนอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
นอกจากนี้ยังมีคำถามถึงประเด็นที่ให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องร่างกฎหมายลูกและกฎหมายที่จำเป็น ที่กำหนดไว้ทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จก่อน จึงจะไปสู่ขั้นตอนการเลือกตั้งได้ จากที่รัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้หรือกระทั่งร่างรัฐธรรมนูญของ "บวรศักดิ์ อุวรรณโณ" จะกำหนดกฎหมายที่ต้องทำให้เสร็จก่อนไปเลือกตั้งเพียง 3-4 ฉบับ หลักๆ คือ กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายว่าด้วยการได้ว่าของ ส.ว. กฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งระยะเวลาจะอยู่ที่เพียง 3 เดือนเท่านั้น
และทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายรัฐบาล และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองก็เคยให้สัมภาษณ์ทำนองว่า กฎหมายที่จำเป็นต้องทำให้เสร็จก่อนก็มีเพียง 3-4 ฉบับนี้ เมื่อตัวบทบัญญัติกำหนดว่าต้องเสร็จก่อนทั้ง 10 ฉบับ จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาเช่นกัน
ทั้งนี้กฎหมายที่ถูกกำหนดไว้ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 8 เดือน ได้แก่
1.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
3.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
4.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 90
5.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
6.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
7.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน
8.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
9.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
10.กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ
ส่วนที่สอง เรื่องการส่งร่างกฎหมายให้ สนช.พิจารณา ซึ่ง สนช.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 เดือน ดูจะไม่ค่อยมีคำถาม เพราะถือเป็นขั้นตอนปกติ แต่อีกส่วนที่มีคำถามเช่นกัน คือ ระยะเวลาในการเลือกตั้ง ทำไมต้องยาวถึง 5 เดือน ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านมารวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ก็อยู่ที่ 3 เดือนเท่านั้น
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การกำหนดเวลาในการเลือกตั้งไว้นานถึง 5 เดือนนั้น เพราะต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาสมาชิก คสช., สนช.และ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ต้องการลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
ทั้งนี้ ในบทเฉพาะกาลกำหนดไว้ว่า หาก คสช. สนช. หรือ สปท. ต้องการจะลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. หรือสมัครรับเลือกตั้ง ส.ว.จะต้องลาออกภายใน 90 วัน ขณะที่มีข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะลงสมัคร ส.ส.ว่า ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน
จากทั้ง 3 ปัจจัยดังกล่าวที่จะเป็นตัวชี้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้เมื่อใด ในเบื้องต้นจึงบอกได้ว่า หากคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญสามารถทำกฎหมายลูกได้เสร็จตามเวลาที่กำหนด คือ 8 เดือน ระยะเวลาในการเลือกตั้งจะไปตกที่ประมาณเดือนตุลาคม 2560 และในร่างรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ภายหลังการเลือกตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งจะต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้เสร็จไม่ช้ากว่า 60 วัน เท่ากับว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้ประมาณปลายปี 2560
นั่นคือ คสช.จะยังคงอยู่ต่อไปโดยมีอำนาจเต็มทุกประการตามที่บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญกำหนดไว้จนถึงปลายปี 2560
ยกเว้น! 1.นายมีชัยไม่ได้ไปตัดบทบัญญัติที่เขียนเปิดช่องให้หัวหน้า คสช.สามารถตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาจัดทำกฎหมายลูกใหม่ได้ 2.คณะกรรมการชุดนายมีชัยไม่สามารถทำกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับได้เสร็จภายในกำหนดเวลา 3.ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้วไม่ผ่าน และ 4.ปัจจัยอื่น
การเลือกตั้งจะเกิดภายในปี 2560 หรือไม่ จึงยังไม่แน่นอน!!
อาสาหาข่าว
31/1/59
ชาวบ้านมึนถูกเวนคืนที่ดินสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษไม่รู้ตัว เผยราคาที่ดินถูกปั่นสูงลิ่ว ....ที่มา http://transbordernews.in.th/home/?p=11519 .
ชาวบ้านมึนถูกเวนคืนที่ดินสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษไม่รู้ตัว เผยราคาที่ดินถูกปั่นสูงลิ่ว
ที่ดินของชาวบ้าน เชียงแสนซึ่งจะถูกยึดไปเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยที่ชาวบ้านยังไม่รู้ข้อมูล ที่ดินของชาวบ้านเชียงแสนซึ่งจะถูกยึดไปเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษโดยที่ชาวบ้าน ยังไม่รู้ข้อมูล เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2559 นายวิชรุจน์ สิงห์คะ ครูประจำศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน บ้านสบกก ตำบลบ้านแซว อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลประกาศนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนในพื้นที่ กว่า 600 ไร่ ชาวบ้านในหมู่บ้านสบกกเป็นหนึ่งในชุมชนที่อาจจะต้องถูกทางการเวนคืนที่ดิน ทั้งหมดกว่า 100 หลังคาเรือน ส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรมและค้าขาย เนื่องจากเชียงแสนเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเชียงราย และบ้านสบกกก็ไม่ได้ไกลจากเมืองมากนัก ชาวบ้านจึงมีรายได้พอยังชีพ แต่ต่อมาเมื่อมีแผนพัฒนาท่าเรือเชียงแสนและล่าสุดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเกิด ขึ้นนายทุนก็เข้ามาปั่นราคาที่ดินให้แพงขึ้น ขณะนี้ราคาที่ดินอยู่ที่ไร่ละประมาณ500,000 บาทแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้มีการเก็งกำไรไปเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเชื่อว่าไม่ สามารถสร้างความมั่นคงแก่เชียงแสนได้ ที่สำคัญที่ดินโดยส่วนมากในตำบลบ้านแซวก็เป็นที่ดิน สปก. เป็นที่สำหรับการทำเกษตรของชาวบ้านมานาน มีแค่บางส่วนเท่านั้นที่มีโฉนดที่ดิน แต่ไม่ถึงร้อย 50ของที่ทั้งหมด ดังนั้นเป็นไปได้ว่าที่ดินบางแปลงที่มีโฉนดอาจมีกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง แต่กรณีชาวบ้านสบกกที่ทำกินอยู่ขณะนี้มีพื้นที่อยู่อาศัยและที่ทำกินประมาณ ครัวเรือนละ5-6ไร่เท่านั้น ส่วนมากปลูกข้าวโพดและผักทั่วไป ไม่ได้มีการทำกำไรใดๆในที่ดินที่เกินความจำเป็น 12607343_512027492291483_307498904_n นายวิชรุจน์ กล่าวด้วยว่า หากถูกเวนคืนที่ดินจริง ขณะนี้ชาวบ้านไม่ทราบว่าอนาคตจะต้องถูกโยกย้ายไปที่ใด เบื้องต้นมีข่าวว่ารัฐบาลอาจจะจ่ายชดเชยให้ไร่ละ 100,000 บาท แต่ส่วนมากลงความเห็นว่าจำนวนเงินดังกล่าวไม่สามารถชดเชยพื้นที่ทำกินและที่ อยู่อาศัยได้ เพราะนายทุนปั่นราคาให้สูงแล้ว และแปลงที่ใกล้ท่าเรือเชียงแสน ส่วนมากนายทุนก็ซื้อขาดไปแล้ว ถ้าชาวสบกกต้องถูกเวนคืน หมายความว่า อาจจะต้องย้ายถิ่นที่อยู่ไกลจากบ้านเกิด เสี่ยงก่อผลกระทบด้านความมั่นคงทางที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน 12665707_512027495624816_996282645_n "ชาวบ้านไม่รู้เลยว่ามาตรา 44 จะมาเอาที่ดินไป ผมว่าเหมือนมัดมือชก แบบนี้เราก็ตาย หลายคนที่สบกกเคยถูกเวนคืนตอนสร้างท่าเรือแล้ว มาตอนนี้จะเอาไปสร้างเศรษฐกิจพิเศษอีก เราไม่ใช่ผัก ปลานะ จะย้ายไป ไหนก็ได้ ผมว่ารัฐบาลน่าจะปล่อยเชียงแสนให้เป็นไปตามกลไกท้องถิ่นบ้าง เราอยู่ใกล้เพื่อนบ้านไม่ได้แปลว่าเราต้องแข่งขันกันทางเศรษฐกิจแบบ อุตสาหกรรม เราอยู่แบบพึ่งพาเกษตร แลกเปลี่ยนผลผลิตกันเรื่อยๆได้ มันไม่คุ้มเลยที่จะย้ายชาวบ้านออกเยอะขนาดนี้ รุ่นหลังจะมีอะไรอยู่ มีอะไรทำกินกันละในอนาคต ถ้ารัฐเอาแต่ต้อนเราออกแบบนี้ ผมอยากให้เขาให้ข้อมูลชาวบ้านที่ลึกกว่านี้ว่า เศรษฐกิจพิเศษที่ว่าจะทำอะไร ทำแล้วชาวบ้านได้อะไร แล้วบอกมาให้ชัดว่า600 ไร่ นี้ตรงไหนย้ายออกบ้าง ตรงไหนอยู่ต่อได้ ไอ้ที่ย้ายเราออกเอาที่ดินไปทำอะไร เพราะมันไม่ชัดเจนว่ารายละเอียดเศรษฐกิจพิเศษคืออะไรบ้าง พิเศษแค่ไหน " นายวิชรุจน์ กล่าว อนึ่ง ข้อมูลจากจังหวัดเชียงรายระบุถึงแนวคิดเขตเศรษฐกิจพิเศษไว้ว่า เน้นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำเมืองต้นผึ้ง กับแขวงบ่อแก้วของประเทศลาว โดยอำเภอเชียงแสน เป็นท่าเรือสู่จีนตะวันตก และการท่องเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำ และ อำเภอแม่สาย เป็นตลาดการค้าชายแดนไทย-พม่า และการท่องเที่ยวเชื่อมกรุงมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า
....ที่มา http://transbordernews.in.th/home/?p=11519 .
....ที่มา http://transbordernews.in.th/home/?p=11519 .
....ที่มา http://transbordernews.in.th/home/?p=11519 .
Subscribe to:
Posts (Atom)