PPD's Official Website

Thursday, February 4, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 5 ก.พ. 2559 ตอน "เผด็จการไทย จะยึดประเทศต่อไป ได้อย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย  5 ..  2559 ตอน "เผด็จการไทย จะยึดประเทศต่อไป ได้อย่างไร?

https://youtu.be/daG2zsSl6Mw

หรือ

https://youtu.be/7NNxYAcZ_vE

-------------------------------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

ดร. เพียงดิน รักไทย 5 ก.พ. 2559 ตอน "เผด็จการไทย จะยึดประเทศต่อไป ได้อย่างไร?

ดร. เพียงดิน รักไทย  5 ..  2559 ตอน "เผด็จการไทย จะยึดประเทศต่อไป ได้อย่างไร?

https://youtu.be/daG2zsSl6Mw

หรือ

https://youtu.be/7NNxYAcZ_vE

-------------------------------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

Wednesday, February 3, 2016

บิ๊กตู่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก ปรี๊ดแตก ฉุนสื่อมวลชน นักการเมืองทำขัดแย้ง

อ.ชูพงศ์​ เปลี่ยนระบอบ ใอ้เหล่ ถอย ใครทำให้ใอ้เหล่ถอย? ใครมาแทนใอ้เหล่? รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่? ทำไม? ทำไม?ทำไม? ?????????

http://www.youtube.com/watch?v=fYOV_OxWlbY    ////////เที่ยงวันเวลาเมืองไทยรับฟังสด  ตอนใอ้เหล่ ถอย  ใครทำให้ใอ้เหล่ถอย?  ใครมาแทนใอ้เหล่?  รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่?  ทำไม? ทำไม?ทำไม? ?????????

อ.ชูพงศ์​ เปลี่ยนระบอบ ใอ้เหล่ ถอย ใครทำให้ใอ้เหล่ถอย? ใครมาแทนใอ้เหล่? รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่? ทำไม? ทำไม?ทำไม? ?????????

http://www.youtube.com/watch?v=fYOV_OxWlbY    ////////เที่ยงวันเวลาเมืองไทยรับฟังสด  ตอนใอ้เหล่ ถอย  ใครทำให้ใอ้เหล่ถอย?  ใครมาแทนใอ้เหล่?  รัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่?  ทำไม? ทำไม?ทำไม? ?????????

“จิตสุดท้ายก่อนตาย” สำคัญก็จริง แต่ ....... “จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก” ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย

"จิตสุดท้ายก่อนตาย" 

 สำคัญก็จริง แต่ .......  

"จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก"

 ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย

"การศึกษาทางประสาทสรีรวิทยา นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน 

พบว่าหนูที่ตายใหม่ๆ หัวใจหยุดทำงาน เลือดหยุดไปเลี้ยงสมอง แต่คลื่นสมองยังคงอยู่ในภาวะ "ตื่นตัวขั้นสูง" 

บ่งบอกถึงการมีสติสัมปชัญญะของคนเมื่อหัวใจหยุดเต้น"

ดังนั้น ทางการแพทย์บอกว่า "ตาย" แต่สมองยังทำงานอยู่ เป็น "การสร้างภาพจากสังขารจิต 20 นาที" ว่าจะไปภพภูมิใด

ดังนั้น จึงควร "เหนี่ยวนำ ไม่ให้นิมิตมาหลอกหลอน 20 นาที หลังหัวใจหยุดเต้น (กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต) การเข้าสู่ความมืด(ภวังคจิต) บังสุกุล คำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนาจะปลุกจิตให้ตื่นหรือถอนออกมาเอง"

แปลว่า ต่อให้ก่อนตายญาติและคนไข้ได้เตรียมตัวเหนี่ยวนำจิตเป็นอย่างดี จนตายไปแล้ว (ก็คือหัวใจหยุดทำงาน)

 สมองก็ยังเหนี่ยวนำสิ่งที่ทำก่อนตายอยู่ เช่น ถ้ากำลังสวดมนตร์ภาวนา ตายไปแล้วจิตและสมองก็ยังหมกมุ่นอยู่กับการสวดมนต์ภาวนา ดวงจิตก็ย่อมเปลี่ยนภพภูมิไปที่ดี 

แต่หากสมมติว่า ก่อนตายเตรียมตัวดีมาก แต่เมื่อตายไปแล้ว 

ญาติๆ ร้องไห้ระงมเสียงดังลั่น หรือ ลูกหลานทะเลาะแย่งสมบัติด้วยเสียงแซ่งแซ่ บรรยากาศเหล่านั้นก็จะเหนี่ยวนำให้สมองครุ่นคิดตรงนั้นและก็นำพาดวงจิตไปสู่ภพภูมิไม่ดีได้นั่นเอง

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังความตาย 20 นาทีแรก
 คือ สวดมนต์  เมื่อรู้ว่ามีคนตาย ก็หยิบขวดน้ำมนต์เย็นๆ ในตู้เย็นติดมือไป และหยดน้ำมนต์ที่ตาที่สาม (จักระ 6) ตรงหน้าผากหว่างคิ้ว เพื่อให้ความเย็นของน้ำไปส่งสัญญาณให้สมองที่ตรงกลางข้างในซึ่งยังทำงานอยู่ได้ตื่นตัวฟังเสียงสวดมนต์หรือบังสุกุล แต่ถ้าใครไม่มีน้ำมนต์ ก็ให้ใช้น้ำเย็นธรรมดาก็ได้

สรุป 
บรรยากาศในการเตรียมตัวก่อนตายและหลังความตาย 20 นาที 

จะต้องปราศจากเสียงร้องไห้เศร้าโศก 

การทะเลาะเบาะแว้ง

 หรือการพูดเรื่องไม่สบายใจ 

เพื่อให้คนตายได้เปลี่ยนภพภูมิที่ดีขึ้น 

แต่ทั้งนี้ ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องทำความดี ละความชั่ว ขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสด้วย 

จะได้พร้อมเปลี่ยนภพภูมิได้ทุกที่ ทุกเวลา

จิตใครเศร้าหมอง ก็สั่งจิตให้คลายความเศร้าหมอง ให้อภัยปล่อยวาง 

คิดซะว่ากฎหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ก็หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่กฏแห่งกรรม 

เราไม่ต้องไปเอาคืนแก้แค้น เอาเวลามาทำจิตให้ผ่องใสเข้าสู่ความว่างดีกว่า

++++++++++++++++++++++
ผู้ใด เผยแผ่ ผู้นั้น ได้สะสมบุญ บารมี
สาธุ  สาธุ   สาธุ
ฐิติพร   23  มค 59

“จิตสุดท้ายก่อนตาย” สำคัญก็จริง แต่ ....... “จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก” ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย

"จิตสุดท้ายก่อนตาย" 

 สำคัญก็จริง แต่ .......  

"จิตหลังความตาย 20 นาทีแรก"

 ก็มีความสำคัญในการเปลี่ยนภพด้วย

"การศึกษาทางประสาทสรีรวิทยา นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน 

พบว่าหนูที่ตายใหม่ๆ หัวใจหยุดทำงาน เลือดหยุดไปเลี้ยงสมอง แต่คลื่นสมองยังคงอยู่ในภาวะ "ตื่นตัวขั้นสูง" 

บ่งบอกถึงการมีสติสัมปชัญญะของคนเมื่อหัวใจหยุดเต้น"

ดังนั้น ทางการแพทย์บอกว่า "ตาย" แต่สมองยังทำงานอยู่ เป็น "การสร้างภาพจากสังขารจิต 20 นาที" ว่าจะไปภพภูมิใด

ดังนั้น จึงควร "เหนี่ยวนำ ไม่ให้นิมิตมาหลอกหลอน 20 นาที หลังหัวใจหยุดเต้น (กรรม กรรมนิมิต คตินิมิต) การเข้าสู่ความมืด(ภวังคจิต) บังสุกุล คำศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนาจะปลุกจิตให้ตื่นหรือถอนออกมาเอง"

แปลว่า ต่อให้ก่อนตายญาติและคนไข้ได้เตรียมตัวเหนี่ยวนำจิตเป็นอย่างดี จนตายไปแล้ว (ก็คือหัวใจหยุดทำงาน)

 สมองก็ยังเหนี่ยวนำสิ่งที่ทำก่อนตายอยู่ เช่น ถ้ากำลังสวดมนตร์ภาวนา ตายไปแล้วจิตและสมองก็ยังหมกมุ่นอยู่กับการสวดมนต์ภาวนา ดวงจิตก็ย่อมเปลี่ยนภพภูมิไปที่ดี 

แต่หากสมมติว่า ก่อนตายเตรียมตัวดีมาก แต่เมื่อตายไปแล้ว 

ญาติๆ ร้องไห้ระงมเสียงดังลั่น หรือ ลูกหลานทะเลาะแย่งสมบัติด้วยเสียงแซ่งแซ่ บรรยากาศเหล่านั้นก็จะเหนี่ยวนำให้สมองครุ่นคิดตรงนั้นและก็นำพาดวงจิตไปสู่ภพภูมิไม่ดีได้นั่นเอง

ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังความตาย 20 นาทีแรก
 คือ สวดมนต์  เมื่อรู้ว่ามีคนตาย ก็หยิบขวดน้ำมนต์เย็นๆ ในตู้เย็นติดมือไป และหยดน้ำมนต์ที่ตาที่สาม (จักระ 6) ตรงหน้าผากหว่างคิ้ว เพื่อให้ความเย็นของน้ำไปส่งสัญญาณให้สมองที่ตรงกลางข้างในซึ่งยังทำงานอยู่ได้ตื่นตัวฟังเสียงสวดมนต์หรือบังสุกุล แต่ถ้าใครไม่มีน้ำมนต์ ก็ให้ใช้น้ำเย็นธรรมดาก็ได้

สรุป 
บรรยากาศในการเตรียมตัวก่อนตายและหลังความตาย 20 นาที 

จะต้องปราศจากเสียงร้องไห้เศร้าโศก 

การทะเลาะเบาะแว้ง

 หรือการพูดเรื่องไม่สบายใจ 

เพื่อให้คนตายได้เปลี่ยนภพภูมิที่ดีขึ้น 

แต่ทั้งนี้ ตอนที่มีชีวิตอยู่ก็ต้องทำความดี ละความชั่ว ขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสด้วย 

จะได้พร้อมเปลี่ยนภพภูมิได้ทุกที่ ทุกเวลา

จิตใครเศร้าหมอง ก็สั่งจิตให้คลายความเศร้าหมอง ให้อภัยปล่อยวาง 

คิดซะว่ากฎหมายเอาผิดไม่ได้ แต่ก็หนีกฏแห่งกรรมไม่พ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่กฏแห่งกรรม 

เราไม่ต้องไปเอาคืนแก้แค้น เอาเวลามาทำจิตให้ผ่องใสเข้าสู่ความว่างดีกว่า

++++++++++++++++++++++
ผู้ใด เผยแผ่ ผู้นั้น ได้สะสมบุญ บารมี
สาธุ  สาธุ   สาธุ
ฐิติพร   23  มค 59