PPD's Official Website

Monday, April 4, 2016

ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

-
จากเหตุการณ์ทหารทรราช คสช.ได้บุกเข้ายึดสิ่งที่เป็นภัยต่อความมั่นคงได้เป็นจำนวนมาก กว่า 8862 ชิ้น 

สิ่งของดังกล่าวคาดว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของ ทรราช คสช. เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปใช้ในวันสงกรานต์ ซึ่งคาดว่า วัตถุ ดังกล่าวจะสร้างความทำลายล้างให้กับ ทรราช คสช. อย่างใหญ่หลวง
-
ไม่ว่าจะเป็น ลายเซ็น ของอดีต นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อทักษิญ  ชินวัตร หรือ ข้อความรหัสที่เขียนไว้บน วัตถุ นั้นๆ 
-
นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ เหล่าทรราช คสช. ที่ได้จับวัตถุดังกล่าวได้ในครั้งนี้ หลังจากยึดอำนาจมาเกือบ 2 ปี
-
เผลอๆ หากทรราช คสช. ไม่สามารถจับและยึดได้ก่อน อาจสร้างความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงให้กับ ทรราช คสช. จนไม่สามารถ ประเมินค่าได้ 
-

รหัส ที่เขียนไว้ สามารถ ถอดใจตวามได้อย่างชัดแจ้งว่า

-
สุขสันต์วันสงกรานต์ปี 2559  รักและห่วงใย ลงชื่อพร้อมลายเซ็น  ดร. ทักษิญ  ชินวัตร 
-

โดยสมองหมาปัญญาความของเหล่า สถุน สมุนทรราช คสช .จึงสรูปได้ว่า 
-

"นั้นคือข้ออความที่ส่งความส่งสุขให้กับประชาชน เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างชัดแจ้ง "

-
ข่าวการจับวัตถุที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนวงการจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าอดีตนายกไทย แจกวัตถุ (ขันน้ำ) เพื่อทำลายความมั่นคงของทรราช คสช. เนื่องในวันสงกรานต์ของไทย

-
สำนักข่าวหลายสำนักทั้ง รอยเตอร์ รวมถึง CIA KGB MR5 FBI และ RKK ของ 3 จังหวัด ชายแดนใต้ ต่างให้ความสนใจและตั้งหัวข้อการประชุมเรื่องนี้ อย่างเร่งด่วนเพราะไม่ต้องไปเที่ยวหาซื้ออาวุธให้เสียเงินเสียทอง แค่ ขันน้ำ ก็ทำลายความมั่นคงของ รัฐบาลทรราช คสช. ลงได้แล้ว

-
แน่นอนครับว่า ขณะที่ ทรราช คสช. โดยประยุทธ์ จันทรโอชา ได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -1 เมษายน 2559 และได้ร่วมกับผู้นำผู้แทนจาก 52 ประเทศ และ 4 องค์การระหว่างประเทศ นั้น
-
ทรราช ประยุทธ์ มีเจตนารมณ์ชั่ว อยู่ในใจ

-
 แม้จะได้ร่วมกับประชาคมโลก เพื่อวางรากฐานโครงสร้างด้านความมั่นคง ทางนิวเคลียร์ แต่ในใจ ของทรราช ประยุทธ์ คิดถึงแต่ นิวขัน  เท่านั้น 
-
และในที่ประชุม  ทรราช ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า "นิวขัน"  เฮ้ย...ไม่ใช่ นิวเคลียร์ ไม่ควรตกในมือของผู้ไม่หวังดี จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

-
โดยการประชุมในครั้งนี้ มีผู้นำจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 52 ประเทศ  และ 4 องค์การสำคัญระหว่างประเทศ  อาทิ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  นาย ฟรองซัวส์ อองลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส  นาย นเรนท รา โมดี นายกรัฐมนตรี อินเดียและ นายชินโซะ   อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น  และ 4 องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ สหประชาชาติ  ทบวงการพลังงานขันปรมาณูระหว่างประเทศ องค์การตำรวจสากล และสหภาพยุโรป ต่างเป็นงงอย่างโคตร ๆ  กับทรราช ประยุทธ์ ที่สมบท ปากหมาหน้าด้าน ได้สมบทบาท ทหารหมาหน้าเหี้ย อย่างแท้จริง

-
การประชุมครั้งนี้จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ คือ แถลงการณ์ของการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงนิวขัน   เฮ้ย..  นิวเคลียร์   ประจำปี ค.ศ. 2016 ด้วย  (2016 Nu khun Security Summit Communique)  และแผนปฏิบัติการแนบท้าย (Action Plans) ซึ่งทรราช ประยุทธ์ วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว จะต้องนำแผนดังกล่าวมาดัดแปลงใช้ ในประเทศโดยทันที่ที่ถึงเมืองไทย 

-
และแล้วก็ถึงเวลาประกาศ สงครามกับ "ขัน" อย่างถาวร  ด้วยอำนาจ ม. 44 ที่ยึดจากรัฐบาลของประชาชน ที่มีนายกปู เป็นขวัญใจของประชาชน

-
4 เม.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2559 เรื่อง มอบอํานาจการอนุมัตและลงนามคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ป้องกันและปราบปราม ตามคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 โดย ทรราช ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ลงนาม สั่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา 

-
โดยระบุว่า ตามที่มีคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค. 2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตราย ต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นั้น เพื่อให้การแต่งตั้ง เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม ในการปฏิบัติการ ตามคําสั่งดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงมอบอํานาจให้บุคคล ต่อไปนี้ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้า ทรราช คสช. ดังนี้

-
1. เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ในอัตรากําลังของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ทหารที่นอกเหนือจากอัตรากําลังของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
2. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ในอัตรากําลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
3. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่ง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในอัตรากำลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  ปฏิบัติหน้าที่ และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
กองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจป้องกันและปราบปราม "ขัน"
เพื่อแสดงความมุ่งมั่นทางการปราบปราม "ขัน" พร้อมทั้งแนวทางความร่วมมือในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความคุกคามให้ ทรราช คสช.อยู่คู่ประเทศ  และเพื่อลดภัยคุกคามจาก " ขัน " สืบต่อไป

-
จบข่าว....................ถุยยยยยยยยยยย

-

เสรีชน



ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

-
จากเหตุการณ์ทหารทรราช คสช.ได้บุกเข้ายึดสิ่งที่เป็นภัยต่อความมั่นคงได้เป็นจำนวนมาก กว่า 8862 ชิ้น 

สิ่งของดังกล่าวคาดว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของ ทรราช คสช. เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปใช้ในวันสงกรานต์ ซึ่งคาดว่า วัตถุ ดังกล่าวจะสร้างความทำลายล้างให้กับ ทรราช คสช. อย่างใหญ่หลวง
-
ไม่ว่าจะเป็น ลายเซ็น ของอดีต นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อทักษิญ  ชินวัตร หรือ ข้อความรหัสที่เขียนไว้บน วัตถุ นั้นๆ 
-
นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ เหล่าทรราช คสช. ที่ได้จับวัตถุดังกล่าวได้ในครั้งนี้ หลังจากยึดอำนาจมาเกือบ 2 ปี
-
เผลอๆ หากทรราช คสช. ไม่สามารถจับและยึดได้ก่อน อาจสร้างความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงให้กับ ทรราช คสช. จนไม่สามารถ ประเมินค่าได้ 
-

รหัส ที่เขียนไว้ สามารถ ถอดใจตวามได้อย่างชัดแจ้งว่า

-
สุขสันต์วันสงกรานต์ปี 2559  รักและห่วงใย ลงชื่อพร้อมลายเซ็น  ดร. ทักษิญ  ชินวัตร 
-

โดยสมองหมาปัญญาความของเหล่า สถุน สมุนทรราช คสช .จึงสรูปได้ว่า 
-

"นั้นคือข้ออความที่ส่งความส่งสุขให้กับประชาชน เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างชัดแจ้ง "

-
ข่าวการจับวัตถุที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนวงการจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าอดีตนายกไทย แจกวัตถุ (ขันน้ำ) เพื่อทำลายความมั่นคงของทรราช คสช. เนื่องในวันสงกรานต์ของไทย

-
สำนักข่าวหลายสำนักทั้ง รอยเตอร์ รวมถึง CIA KGB MR5 FBI และ RKK ของ 3 จังหวัด ชายแดนใต้ ต่างให้ความสนใจและตั้งหัวข้อการประชุมเรื่องนี้ อย่างเร่งด่วนเพราะไม่ต้องไปเที่ยวหาซื้ออาวุธให้เสียเงินเสียทอง แค่ ขันน้ำ ก็ทำลายความมั่นคงของ รัฐบาลทรราช คสช. ลงได้แล้ว

-
แน่นอนครับว่า ขณะที่ ทรราช คสช. โดยประยุทธ์ จันทรโอชา ได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -1 เมษายน 2559 และได้ร่วมกับผู้นำผู้แทนจาก 52 ประเทศ และ 4 องค์การระหว่างประเทศ นั้น
-
ทรราช ประยุทธ์ มีเจตนารมณ์ชั่ว อยู่ในใจ

-
 แม้จะได้ร่วมกับประชาคมโลก เพื่อวางรากฐานโครงสร้างด้านความมั่นคง ทางนิวเคลียร์ แต่ในใจ ของทรราช ประยุทธ์ คิดถึงแต่ นิวขัน  เท่านั้น 
-
และในที่ประชุม  ทรราช ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า "นิวขัน"  เฮ้ย...ไม่ใช่ นิวเคลียร์ ไม่ควรตกในมือของผู้ไม่หวังดี จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

-
โดยการประชุมในครั้งนี้ มีผู้นำจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 52 ประเทศ  และ 4 องค์การสำคัญระหว่างประเทศ  อาทิ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  นาย ฟรองซัวส์ อองลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส  นาย นเรนท รา โมดี นายกรัฐมนตรี อินเดียและ นายชินโซะ   อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น  และ 4 องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ สหประชาชาติ  ทบวงการพลังงานขันปรมาณูระหว่างประเทศ องค์การตำรวจสากล และสหภาพยุโรป ต่างเป็นงงอย่างโคตร ๆ  กับทรราช ประยุทธ์ ที่สมบท ปากหมาหน้าด้าน ได้สมบทบาท ทหารหมาหน้าเหี้ย อย่างแท้จริง

-
การประชุมครั้งนี้จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ คือ แถลงการณ์ของการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงนิวขัน   เฮ้ย..  นิวเคลียร์   ประจำปี ค.ศ. 2016 ด้วย  (2016 Nu khun Security Summit Communique)  และแผนปฏิบัติการแนบท้าย (Action Plans) ซึ่งทรราช ประยุทธ์ วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว จะต้องนำแผนดังกล่าวมาดัดแปลงใช้ ในประเทศโดยทันที่ที่ถึงเมืองไทย 

-
และแล้วก็ถึงเวลาประกาศ สงครามกับ "ขัน" อย่างถาวร  ด้วยอำนาจ ม. 44 ที่ยึดจากรัฐบาลของประชาชน ที่มีนายกปู เป็นขวัญใจของประชาชน

-
4 เม.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2559 เรื่อง มอบอํานาจการอนุมัตและลงนามคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ป้องกันและปราบปราม ตามคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 โดย ทรราช ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ลงนาม สั่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา 

-
โดยระบุว่า ตามที่มีคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค. 2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตราย ต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นั้น เพื่อให้การแต่งตั้ง เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม ในการปฏิบัติการ ตามคําสั่งดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงมอบอํานาจให้บุคคล ต่อไปนี้ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้า ทรราช คสช. ดังนี้

-
1. เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ในอัตรากําลังของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ทหารที่นอกเหนือจากอัตรากําลังของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
2. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ในอัตรากําลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
3. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่ง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในอัตรากำลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  ปฏิบัติหน้าที่ และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
กองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจป้องกันและปราบปราม "ขัน"
เพื่อแสดงความมุ่งมั่นทางการปราบปราม "ขัน" พร้อมทั้งแนวทางความร่วมมือในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความคุกคามให้ ทรราช คสช.อยู่คู่ประเทศ  และเพื่อลดภัยคุกคามจาก " ขัน " สืบต่อไป

-
จบข่าว....................ถุยยยยยยยยยยย

-

เสรีชน



ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

-
จากเหตุการณ์ทหารทรราช คสช.ได้บุกเข้ายึดสิ่งที่เป็นภัยต่อความมั่นคงได้เป็นจำนวนมาก กว่า 8862 ชิ้น 

สิ่งของดังกล่าวคาดว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของ ทรราช คสช. เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปใช้ในวันสงกรานต์ ซึ่งคาดว่า วัตถุ ดังกล่าวจะสร้างความทำลายล้างให้กับ ทรราช คสช. อย่างใหญ่หลวง
-
ไม่ว่าจะเป็น ลายเซ็น ของอดีต นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อทักษิญ  ชินวัตร หรือ ข้อความรหัสที่เขียนไว้บน วัตถุ นั้นๆ 
-
นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ เหล่าทรราช คสช. ที่ได้จับวัตถุดังกล่าวได้ในครั้งนี้ หลังจากยึดอำนาจมาเกือบ 2 ปี
-
เผลอๆ หากทรราช คสช. ไม่สามารถจับและยึดได้ก่อน อาจสร้างความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงให้กับ ทรราช คสช. จนไม่สามารถ ประเมินค่าได้ 
-

รหัส ที่เขียนไว้ สามารถ ถอดใจตวามได้อย่างชัดแจ้งว่า

-
สุขสันต์วันสงกรานต์ปี 2559  รักและห่วงใย ลงชื่อพร้อมลายเซ็น  ดร. ทักษิญ  ชินวัตร 
-

โดยสมองหมาปัญญาความของเหล่า สถุน สมุนทรราช คสช .จึงสรูปได้ว่า 
-

"นั้นคือข้ออความที่ส่งความส่งสุขให้กับประชาชน เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างชัดแจ้ง "

-
ข่าวการจับวัตถุที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนวงการจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าอดีตนายกไทย แจกวัตถุ (ขันน้ำ) เพื่อทำลายความมั่นคงของทรราช คสช. เนื่องในวันสงกรานต์ของไทย

-
สำนักข่าวหลายสำนักทั้ง รอยเตอร์ รวมถึง CIA KGB MR5 FBI และ RKK ของ 3 จังหวัด ชายแดนใต้ ต่างให้ความสนใจและตั้งหัวข้อการประชุมเรื่องนี้ อย่างเร่งด่วนเพราะไม่ต้องไปเที่ยวหาซื้ออาวุธให้เสียเงินเสียทอง แค่ ขันน้ำ ก็ทำลายความมั่นคงของ รัฐบาลทรราช คสช. ลงได้แล้ว

-
แน่นอนครับว่า ขณะที่ ทรราช คสช. โดยประยุทธ์ จันทรโอชา ได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -1 เมษายน 2559 และได้ร่วมกับผู้นำผู้แทนจาก 52 ประเทศ และ 4 องค์การระหว่างประเทศ นั้น
-
ทรราช ประยุทธ์ มีเจตนารมณ์ชั่ว อยู่ในใจ

-
 แม้จะได้ร่วมกับประชาคมโลก เพื่อวางรากฐานโครงสร้างด้านความมั่นคง ทางนิวเคลียร์ แต่ในใจ ของทรราช ประยุทธ์ คิดถึงแต่ นิวขัน  เท่านั้น 
-
และในที่ประชุม  ทรราช ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า "นิวขัน"  เฮ้ย...ไม่ใช่ นิวเคลียร์ ไม่ควรตกในมือของผู้ไม่หวังดี จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

-
โดยการประชุมในครั้งนี้ มีผู้นำจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 52 ประเทศ  และ 4 องค์การสำคัญระหว่างประเทศ  อาทิ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  นาย ฟรองซัวส์ อองลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส  นาย นเรนท รา โมดี นายกรัฐมนตรี อินเดียและ นายชินโซะ   อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น  และ 4 องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ สหประชาชาติ  ทบวงการพลังงานขันปรมาณูระหว่างประเทศ องค์การตำรวจสากล และสหภาพยุโรป ต่างเป็นงงอย่างโคตร ๆ  กับทรราช ประยุทธ์ ที่สมบท ปากหมาหน้าด้าน ได้สมบทบาท ทหารหมาหน้าเหี้ย อย่างแท้จริง

-
การประชุมครั้งนี้จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ คือ แถลงการณ์ของการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงนิวขัน   เฮ้ย..  นิวเคลียร์   ประจำปี ค.ศ. 2016 ด้วย  (2016 Nu khun Security Summit Communique)  และแผนปฏิบัติการแนบท้าย (Action Plans) ซึ่งทรราช ประยุทธ์ วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว จะต้องนำแผนดังกล่าวมาดัดแปลงใช้ ในประเทศโดยทันที่ที่ถึงเมืองไทย 

-
และแล้วก็ถึงเวลาประกาศ สงครามกับ "ขัน" อย่างถาวร  ด้วยอำนาจ ม. 44 ที่ยึดจากรัฐบาลของประชาชน ที่มีนายกปู เป็นขวัญใจของประชาชน

-
4 เม.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2559 เรื่อง มอบอํานาจการอนุมัตและลงนามคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ป้องกันและปราบปราม ตามคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 โดย ทรราช ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ลงนาม สั่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา 

-
โดยระบุว่า ตามที่มีคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค. 2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตราย ต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นั้น เพื่อให้การแต่งตั้ง เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม ในการปฏิบัติการ ตามคําสั่งดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงมอบอํานาจให้บุคคล ต่อไปนี้ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้า ทรราช คสช. ดังนี้

-
1. เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ในอัตรากําลังของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ทหารที่นอกเหนือจากอัตรากําลังของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
2. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ในอัตรากําลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
3. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่ง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในอัตรากำลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  ปฏิบัติหน้าที่ และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
กองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจป้องกันและปราบปราม "ขัน"
เพื่อแสดงความมุ่งมั่นทางการปราบปราม "ขัน" พร้อมทั้งแนวทางความร่วมมือในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความคุกคามให้ ทรราช คสช.อยู่คู่ประเทศ  และเพื่อลดภัยคุกคามจาก " ขัน " สืบต่อไป

-
จบข่าว....................ถุยยยยยยยยยยย

-

เสรีชน



ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

ทรราช คสช.โดยประยุทธ์ งัด ม. 44 ปราบ "ขันแดง"

-
จากเหตุการณ์ทหารทรราช คสช.ได้บุกเข้ายึดสิ่งที่เป็นภัยต่อความมั่นคงได้เป็นจำนวนมาก กว่า 8862 ชิ้น 

สิ่งของดังกล่าวคาดว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของ ทรราช คสช. เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปใช้ในวันสงกรานต์ ซึ่งคาดว่า วัตถุ ดังกล่าวจะสร้างความทำลายล้างให้กับ ทรราช คสช. อย่างใหญ่หลวง
-
ไม่ว่าจะเป็น ลายเซ็น ของอดีต นายกรัฐมนตรี ที่ชื่อทักษิญ  ชินวัตร หรือ ข้อความรหัสที่เขียนไว้บน วัตถุ นั้นๆ 
-
นับว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ เหล่าทรราช คสช. ที่ได้จับวัตถุดังกล่าวได้ในครั้งนี้ หลังจากยึดอำนาจมาเกือบ 2 ปี
-
เผลอๆ หากทรราช คสช. ไม่สามารถจับและยึดได้ก่อน อาจสร้างความฉิบหายอย่างใหญ่หลวงให้กับ ทรราช คสช. จนไม่สามารถ ประเมินค่าได้ 
-

รหัส ที่เขียนไว้ สามารถ ถอดใจตวามได้อย่างชัดแจ้งว่า

-
สุขสันต์วันสงกรานต์ปี 2559  รักและห่วงใย ลงชื่อพร้อมลายเซ็น  ดร. ทักษิญ  ชินวัตร 
-

โดยสมองหมาปัญญาความของเหล่า สถุน สมุนทรราช คสช .จึงสรูปได้ว่า 
-

"นั้นคือข้ออความที่ส่งความส่งสุขให้กับประชาชน เป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างชัดแจ้ง "

-
ข่าวการจับวัตถุที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนวงการจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลกว่าอดีตนายกไทย แจกวัตถุ (ขันน้ำ) เพื่อทำลายความมั่นคงของทรราช คสช. เนื่องในวันสงกรานต์ของไทย

-
สำนักข่าวหลายสำนักทั้ง รอยเตอร์ รวมถึง CIA KGB MR5 FBI และ RKK ของ 3 จังหวัด ชายแดนใต้ ต่างให้ความสนใจและตั้งหัวข้อการประชุมเรื่องนี้ อย่างเร่งด่วนเพราะไม่ต้องไปเที่ยวหาซื้ออาวุธให้เสียเงินเสียทอง แค่ ขันน้ำ ก็ทำลายความมั่นคงของ รัฐบาลทรราช คสช. ลงได้แล้ว

-
แน่นอนครับว่า ขณะที่ ทรราช คสช. โดยประยุทธ์ จันทรโอชา ได้เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ ครั้งที่ 4 ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม -1 เมษายน 2559 และได้ร่วมกับผู้นำผู้แทนจาก 52 ประเทศ และ 4 องค์การระหว่างประเทศ นั้น
-
ทรราช ประยุทธ์ มีเจตนารมณ์ชั่ว อยู่ในใจ

-
 แม้จะได้ร่วมกับประชาคมโลก เพื่อวางรากฐานโครงสร้างด้านความมั่นคง ทางนิวเคลียร์ แต่ในใจ ของทรราช ประยุทธ์ คิดถึงแต่ นิวขัน  เท่านั้น 
-
และในที่ประชุม  ทรราช ประยุทธ์ ได้กล่าวว่า "นิวขัน"  เฮ้ย...ไม่ใช่ นิวเคลียร์ ไม่ควรตกในมือของผู้ไม่หวังดี จะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

-
โดยการประชุมในครั้งนี้ มีผู้นำจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 52 ประเทศ  และ 4 องค์การสำคัญระหว่างประเทศ  อาทิ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  นาย ฟรองซัวส์ อองลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส  นาย นเรนท รา โมดี นายกรัฐมนตรี อินเดียและ นายชินโซะ   อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น  และ 4 องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ สหประชาชาติ  ทบวงการพลังงานขันปรมาณูระหว่างประเทศ องค์การตำรวจสากล และสหภาพยุโรป ต่างเป็นงงอย่างโคตร ๆ  กับทรราช ประยุทธ์ ที่สมบท ปากหมาหน้าด้าน ได้สมบทบาท ทหารหมาหน้าเหี้ย อย่างแท้จริง

-
การประชุมครั้งนี้จะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ คือ แถลงการณ์ของการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงนิวขัน   เฮ้ย..  นิวเคลียร์   ประจำปี ค.ศ. 2016 ด้วย  (2016 Nu khun Security Summit Communique)  และแผนปฏิบัติการแนบท้าย (Action Plans) ซึ่งทรราช ประยุทธ์ วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว จะต้องนำแผนดังกล่าวมาดัดแปลงใช้ ในประเทศโดยทันที่ที่ถึงเมืองไทย 

-
และแล้วก็ถึงเวลาประกาศ สงครามกับ "ขัน" อย่างถาวร  ด้วยอำนาจ ม. 44 ที่ยึดจากรัฐบาลของประชาชน ที่มีนายกปู เป็นขวัญใจของประชาชน

-
4 เม.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2559 เรื่อง มอบอํานาจการอนุมัตและลงนามคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ป้องกันและปราบปราม ตามคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 โดย ทรราช ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ลงนาม สั่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา 

-
โดยระบุว่า ตามที่มีคําสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 13/2559 ลงวันที่ 29 มี.ค. 2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดบางประการที่เป็นภยันตราย ต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทําลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ นั้น เพื่อให้การแต่งตั้ง เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม ในการปฏิบัติการ ตามคําสั่งดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงมอบอํานาจให้บุคคล ต่อไปนี้ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้า ทรราช คสช. ดังนี้

-
1. เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ในอัตรากําลังของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ทหารที่นอกเหนือจากอัตรากําลังของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
2. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่งแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ในอัตรากําลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย ปฏิบัติหน้าที่และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
3. ผู้บัญชาการกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  มีอํานาจอนุมัติและลงนามคําสั่ง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในอัตรากำลังของกองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 – 4  ปฏิบัติหน้าที่ และพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม และผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปราม

-
กองกําลังรักษาความสงบเรียบร้อย มีภารกิจป้องกันและปราบปราม "ขัน"
เพื่อแสดงความมุ่งมั่นทางการปราบปราม "ขัน" พร้อมทั้งแนวทางความร่วมมือในอนาคต เพื่อเสริมสร้างความคุกคามให้ ทรราช คสช.อยู่คู่ประเทศ  และเพื่อลดภัยคุกคามจาก " ขัน " สืบต่อไป

-
จบข่าว....................ถุยยยยยยยยยยย

-

เสรีชน



Saturday, April 2, 2016

จะเป็นไทต้องไม่มีในหลวง

จะเป็นไทต้องไม่มีในหลวง 
ไฟเย็นพบลุงสนามหลวง  เรื่องหลักการหรือต้นตอของปัญหา มิใช่การไปลงประชามติหรือไม่อย่างไร แต่เป็นเรื่องของระบอบการปกครองเผด็จการที่มีกษัตริย์เป็นแกนกลาง

จะเป็นไทต้องไม่มีในหลวง

จะเป็นไทต้องไม่มีในหลวง 
ไฟเย็นพบลุงสนามหลวง  เรื่องหลักการหรือต้นตอของปัญหา มิใช่การไปลงประชามติหรือไม่อย่างไร แต่เป็นเรื่องของระบอบการปกครองเผด็จการที่มีกษัตริย์เป็นแกนกลาง

ทรราช คสช. อ่อนไหวถึงขนาด “เพ้อฝัน” และมองข้ามสภาพความเป็นจริง

กรณี ศึกษาจีน รถไฟ ความเร็วสูง น้ำ จากแม่โขง

ไม่ว่าปัญหาว่าด้วยรถไฟ "ความเร็วสูง"

ไม่ว่าปัญหาว่าด้วยภาวะแล้งและผลสะเทือนส่วนหนึ่งจาก "เขื่อน" ในแม่น้ำโขงตอนบน

ทุกสายตามองไปยัง "จีน"

เพราะว่าแนวคิดในเรื่องรถไฟ "ความเร็วสูง" มีจุดเริ่มจากการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟจากลาว เส้นทางรถไฟจากคุนหมิง

โดยมี "ต้นทาง" อยู่ที่ "จีน"

เพราะว่าปัญหาว่าด้วยภาวะภัยแล้ง ส่วนหนึ่งมีผลสะเทือนจากเขื่อนในแม่น้ำโขงตอนบน และบังเอิญที่มีการเปิดเขื่อนในห้วงแห่งการประชุม 5 ชาติแม่น้ำโขงที่เกาะไหหลำ

โดยมี "ต้นทาง" อยู่ที่ "จีน"

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ด้านหลักของปัญหา "ภัยแล้ง" เป็นเรื่องอันเกิดขึ้นภายในไม่ว่าจะเป็นที่ลาว ที่ไทย ที่กัมพูชา หรือที่เวียดนาม

โดยมี "จีน" เป็นเพียง "องค์ประกอบ" 1

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ด้านหลักของโครงการรถไฟ "ความเร็วสูง" เป็นความริเริ่มโดยตรงของไทยหรือแม้กระทั่งของลาว โดยมีจีนเป็นเพียงองค์ประกอบ 1 ในองค์ประกอบใหญ่

ความอ่อนไหวทั้งหมดจึงมาจาก "ปัจจัยภายใน"

เป็นความจริงที่แรงผลักดันอย่างสำคัญในเรื่องรถไฟ "ความเร็วสูง" มาจากยุทธศาสตร์ใหญ่ของจีนในการเปิด "เส้นทางสายไหม" ยุคใหม่

เป็นพัฒนาการและความต่อเนื่องจาก "ยุคเจิ้งเหอ" ในราชวงศ์ "หมิง"

กระนั้น ภาวะแปรปรวน พลิกผัน ต้องยอมรับว่าเกิดจากปัญหาและความขัดแย้ง "ภายใน" ของสังคมประเทศไทยเราเองอย่างเป็นด้านหลัก

จากยุค นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถึงยุค นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ

ในยุคของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จำกัดกรอบแห่งงบประมาณอยู่ที่ 2.2 ล้านล้านบาท แต่ไม่ว่าเอ่ยปากอะไรออกมาล้วนถูกคัดค้าน ต่อต้าน

ไม่เพียงแต่เสียงคัดค้านอันมาจาก "พรรคประชาธิปัตย์"

หากกระบวนการของการต่อต้านบานปลายและขยายไปยัง "องค์กรอิสระ" กระทั่ง "ศาลรัฐธรรมนูญ" ก็เข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญ

จำ "ยอดคำเท่" ว่าด้วย "ถนนลูกรัง" ได้หรือไม่

ความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอยู่ตรงที่เมื่อถึงยุค นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ กระบวนการคัดค้านต่อต้านเดิม หายไปจนหมดสิ้น หลายคนได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลทางการเมือง บางคนนั่งอยู่ในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ

รถไฟ "ความเร็วสูง" จึงเป็นกระจกอย่างดีในทาง "การเมือง"

รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ไม่เพียงแต่ทำให้เรื่องเลวๆ ในยุคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับเป็นเรื่องดีๆ หากแต่ยังทำให้โฉมหน้าคนดีปรากฏอย่างโจ่งแจ้ง

คนดีๆ เหล่านี้แหละที่ทำให้ภาพของ "จีน" บิดเบี้ยว แปรเปลี่ยน

ไม่ว่าเรื่องเขื่อนในแม่น้ำโขง ไม่ว่าเรื่องรถไฟความเร็วสูง จีนดำรงจุดมุ่งหมายและสะท้อนความเป็นตัวตนของตนไม่แปรเปลี่ยน

นั่นก็คือ ยืนอยู่บน "ผลประโยชน์" จีนด้วยความ "มั่นแน่ว"

มีแต่ไทยเราต่างหากที่เกิดการแปรเปลี่ยน พลิกกลับไป พลิกกลับมา เพราะความอ่อนไหวในความรู้สึกต่อจีน

เมื่อหงุดหงิดจาก "อเมริกา" ก็ผวาเข้าหา "จีน"

อ่อนไหวถึงขนาด "เพ้อฝัน" ว่าจีนจะเข้ามาลงทุนด้วยเงินของตนเองในโครงการรถไฟความเร็วสูงเพื่อมอบให้กับไทย

เป็นการให้ฟรีๆ ด้วยน้ำใจอันใหญ่หลวงของ "พี่ใหญ่"

อ่อนไหวถึงขนาด "เพ้อฝัน" และมองข้ามสภาพความเป็นจริงที่จีนมีการสร้างเขื่อนตอนต้นของแม่น้ำโขงมากกว่า 5 เขื่อน

จีนนั้นไม่มีอะไร "เปลี่ยน" ไทยต่างหากเล่าที่ "เปลี่ยน"

จีนนั้นเป็นตัวของตัวเองอย่างยิ่ง ไทยต่างหากเล่าที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง

ผู้นำจีนจากยุคของ "เหมาเจ๋อตุง" กระทั่งยุคของ "เติ้งเสี่ยวผิง" มีความเชื่ออย่างหนึ่งในทาง "ความคิด"

นั่นก็คือ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจาก "ความเป็นจริง" และความเป็นจริงนั้นดำเนินการค้นหาจากหลักคิดที่ว่า "หาสัจจะจากความเป็นจริง" ถอดนามธรรมออกมาเป็นรูปธรรมให้จงได้

ความจริงนี้ของจีนไม่ว่าเมื่อ 50 ปีก่อนหรือปัจจุบันไม่เคยเปลี่ยน
-