PPD's Official Website

Friday, November 25, 2016

“ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน”

"ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน"

--------------------------------------------

ข้าว-ชาวนา-การเมือง

-
ชาวนากับการเมืองไม่ใช่ปัญหาที่ "เกิดง่ายจบเร็ว" เหมือนอย่างปัญหายางพาราซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของนักการเมืองบางกลุ่มอย่างชัดเจน "ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน" จึงเป็นคำอมตะที่รัฐบาลยุคใดจะละเลยหรือไม่ใส่ใจไม่ได้ อย่างที่อาจารย์พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า

-
"ความเป็นชาวนานั้นมีลักษณะพิเศษบางอย่าง พวกเขาไม่ใช่แค่เป็น "ชนชั้นกลางแบบหนึ่ง" ที่จะมีจริตและรูปการณ์จิตสำนึกแบบชนชั้นกลางทั่วไป และจะมาจับยัดเอาง่ายๆว่าชาวนาต้องการการเมืองแบบประชาธิปไตยแบบเดียวกับคนชั้นกลาง โดยเฉพาะคนชั้นกลางในเมือง หรือชาวนาควรจะมีสิทธิเข้าถึงประชาธิปไตย เพราะเขาก็เป็นชนชั้นกลางเช่นกัน ในอีกด้านหนึ่งการศึกษาเรื่องชาวนานั้นก็ไม่ได้อธิบายทุกอย่างเป็นเพียงแค่ "คนจน" หรือ "กรรมาชีพ" ที่มีการเคลื่อนไหวและจัดตั้งองค์กรและความใฝ่ฝันทางการเมืองแบบ "กรรมกร" หรือผู้ใช้แรงงาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคคอมมิวนิสต์ในอดีตเข้าใจดีว่า ชาวนาเป็นทั้งปัจจัยแห่งความสำเร็จและปัจจัยแห่งความล้มเหลวของการปฏิวัติมวลชนและต่อต้านทุนนิยม ดังนั้น การจัดตั้งชาวนากับการจัดตั้งกรรมกรไม่ได้เป็นเรื่องที่ใช้ตำราเล่มเดียวกันได้ การเคลื่อนไหวของชาวนาที่เป็นแกนสำคัญในการปฏิวัติในจีนไม่ได้ประสบความสำเร็จในไทยก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สำคัญ"


-
คำทำนาย "ฤาษีลิงดำ"
-
ความอับจนข้นแค้นของชาวนาจึงซับซ้อนกว่าแค่ข้าวราคาตกจะทำอย่างไร ไม่ใช่แค่จะโทษใครและกล่าวหาว่าใครสร้างภาพ ซึ่งมีแต่ลดทอนความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล และอาจเกิดอะไรก็ได้ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านอย่างขณะนี้ อย่างที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เขียนในคอลัมน์ "ประสงค์พูด" โดยยกคำทำนายของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ตอนหนึ่งที่ว่า "จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา" คือประชาชนจะออกมาเป็นคนจัดการกับคนชั่วคนไม่ดีออกไปด้วยน้ำมือของประชาชน แม้จะเป็นคำทำนาย แต่ถ้าวิเคราะห์บนพื้นฐานของเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาตามลำดับ ในอนาคตข้างหน้าก็มีความเป็นไปได้ที่ประชาชนจะออกมาเป็นคนจัดการกับปัญหาต่างๆด้วยน้ำมือของประชาชนเองอย่างเต็มรูปแบบ อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่สมัยนี้เป็นประชาชนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่างๆของบ้านเมืองดีขึ้น รู้ว่าอำนาจของตนที่มอบให้คนอื่นไปใช้ทำงานแทนตนนั้นได้ถูกใช้ไปอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง หรือเพื่อประโยชน์ใคร

-
ประชาชนเจ็บปวดมามากกับเรื่องที่ให้อำนาจของตนไปใช้แทนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แต่กลับไปใช้เพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวกมาโดยตลอด แม้กระทั่งการเอาอำนาจของประชาชนไปใช้โดยวิธีการได้มาที่ไม่ถูกต้องก็ตาม ทำไปทำมาก็ยังคงเกิดปัญหายุ่งยากวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้นเหมือนเดิมอย่างที่กำลังเห็นกันอยู่ในขณะนี้
-

ความอยากได้อำนาจ โดยเฉพาะการได้มาที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องตามระบบ หรือแม้จะได้มาอย่างถูกต้องตามระบบก็ตาม ความอยากดังกล่าวนี้สามารถทำให้กลายเป็นคนไม่ดีไปได้ง่ายๆด้วยการดำเนินการต่างๆอันเป็นช่องทางแห่งการได้มาซึ่งอำนาจ หรือการรักษาอำนาจที่ได้มาให้คงอยู่ไม่หายไปไหน เช่น ยอมเป็นหุ่นเชิดให้กับคนชั่วคนเลวในการทำสิ่งต่างๆ หรือคิดอ่านเสนอนั่นเสนอนี่ในการได้อำนาจหรืออยู่ในอำนาจได้ยาวนาน เป็นต้น

-
ใครก็ตามที่มีคนอย่างนี้ร่วมงานหรือใช้งาน แม้กระทั่งอาสาเข้ามาช่วยโน่นช่วยนี่ก็ตาม ถ้าเออออห่อหมกตามไปด้วยโดยไม่คิดให้ดีแล้ว เจ๊งทุกราย จะต้องเสื่อมลงและหมดค่าลงไปเรื่อยๆ ชีวิตบั้นปลายที่เหลืออยู่จะมีแต่ความสูญเปล่า จะกลายเป็นชีวิตที่ไม่ผิดอะไรกับวิญญาณพเนจร อดีตที่เคยรุ่งโรจน์ก็จะต้องดับวูบ ต้องมัวหมอง และต้องกลายเป็นคนไม่ดี ถูกด่าถูกว่าจากทุกสารทิศตามไปด้วย จะโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง และรีบแก้ไขทั้งสายตาและหูของตนที่ต้องเปิดกว้างให้มากขึ้น เพราะตาที่เปิดกว้างจะทำให้เห็นถึงทิศทางของคนประจบสอพลอ หรือจากผู้ท้วงติงอย่างมีเหตุผล
-

ขณะที่หูที่เปิดกว้างนั้นจะรับเสียงได้ทุกทิศทุกทาง จะลงจากอำนาจในครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัยก็เพราะรู้จักใช้หูและตาของตนให้ถูกต้องเท่านั้น ไม่เชื่อก็ขอให้อ่านคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำข้างต้นนี้อีกครั้งก็แล้วกันว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

-
"…เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา…แผ่นดินแตกแยกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน…"
-

โศกนาฏกรรมชาวนาไทย
-

การปรับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์กับราคาข้าวที่ตกต่ำโดยไม่แสดงอาการฉุนเฉียวตอบโต้ทันทีทันใดเหมือนที่ผ่านมาและยังยินดีที่ทุกฝ่ายตื่นตัวร่วมกันช่วยชาวนา สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าปัญหาชาวนานั้นละเอียดอ่อนอย่างไร ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลและผ่านพ้นช่วงการเปลี่ยนผ่านสำคัญมาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็รู้ดีว่าปัญหาต่างๆที่เรื้อรังและหมักหมมจะประดังเข้าใส่รัฐบาลและ คสช. แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ซึ่งทุกปัญหาล้วนเกี่ยวข้องกับอนาคตทางการเมืองของ คสช. อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

-
เช่นเดียวกับปัญหาชาวนาที่อาจจะปะทุเป็น "ม็อบชาวนา" ได้ตลอดเวลา หากการแก้ปัญหาไม่ต่อเนื่อง หรือลักปิดลักเปิด หรือยังมองการเมืองแบบเดิมๆ ปล่อยให้ลิ่วล้อออกมาสร้างความขัดแย้ง หรือบิดเบือนความจริง อย่างเรื่องชาวนาผูกคอตาย ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง

-
รัฐบาลและ คสช. ตระหนักดีว่า สถานการณ์วันนี้แตกต่างจากอดีตอย่างมาก แม้ยังมีกองทัพสนับสนุนเต็มที่ก็ตาม แต่ปัญหาต่างๆที่สะสมและกดดันประชาชนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหากรัฐบาลใช้อำนาจแก้ปัญหาแค่ให้ผ่านไปวันๆ แทนที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนทั้งคนชั้นกลาง เกษตรกร และกรรมกร วันนี้กำลังเดือดร้อนอย่างมาก เมื่อคนตกงานและไม่มีจะกิน อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะปัญหาชาวไร่ชาวนาที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

-
พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและเกษตรกร ไม่ใช่สร้างศัตรู หรือเดินตามเกมนักการเมืองบางคนที่พยายามเสี้ยมเพื่อใช้รัฐบาลและ คสช. กำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้เกิดความปรองดองและตอกย้ำความยุติธรรมสองมาตรฐานแล้ว ยังเป็นการทำร้ายชาวนาอย่างเลือดเย็นอีกด้วย

-
แหล่งที่มา โลกวันนี้
-
ห้องข่าวเสรีไทย


CB37B92C-A68B-4D72-B19A-462FA447CD12

“ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน”

"ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน"

--------------------------------------------

ข้าว-ชาวนา-การเมือง

-
ชาวนากับการเมืองไม่ใช่ปัญหาที่ "เกิดง่ายจบเร็ว" เหมือนอย่างปัญหายางพาราซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของนักการเมืองบางกลุ่มอย่างชัดเจน "ทุกข์ของชาวนาคือทุกข์ของแผ่นดิน" จึงเป็นคำอมตะที่รัฐบาลยุคใดจะละเลยหรือไม่ใส่ใจไม่ได้ อย่างที่อาจารย์พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า

-
"ความเป็นชาวนานั้นมีลักษณะพิเศษบางอย่าง พวกเขาไม่ใช่แค่เป็น "ชนชั้นกลางแบบหนึ่ง" ที่จะมีจริตและรูปการณ์จิตสำนึกแบบชนชั้นกลางทั่วไป และจะมาจับยัดเอาง่ายๆว่าชาวนาต้องการการเมืองแบบประชาธิปไตยแบบเดียวกับคนชั้นกลาง โดยเฉพาะคนชั้นกลางในเมือง หรือชาวนาควรจะมีสิทธิเข้าถึงประชาธิปไตย เพราะเขาก็เป็นชนชั้นกลางเช่นกัน ในอีกด้านหนึ่งการศึกษาเรื่องชาวนานั้นก็ไม่ได้อธิบายทุกอย่างเป็นเพียงแค่ "คนจน" หรือ "กรรมาชีพ" ที่มีการเคลื่อนไหวและจัดตั้งองค์กรและความใฝ่ฝันทางการเมืองแบบ "กรรมกร" หรือผู้ใช้แรงงาน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคคอมมิวนิสต์ในอดีตเข้าใจดีว่า ชาวนาเป็นทั้งปัจจัยแห่งความสำเร็จและปัจจัยแห่งความล้มเหลวของการปฏิวัติมวลชนและต่อต้านทุนนิยม ดังนั้น การจัดตั้งชาวนากับการจัดตั้งกรรมกรไม่ได้เป็นเรื่องที่ใช้ตำราเล่มเดียวกันได้ การเคลื่อนไหวของชาวนาที่เป็นแกนสำคัญในการปฏิวัติในจีนไม่ได้ประสบความสำเร็จในไทยก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สำคัญ"


-
คำทำนาย "ฤาษีลิงดำ"
-
ความอับจนข้นแค้นของชาวนาจึงซับซ้อนกว่าแค่ข้าวราคาตกจะทำอย่างไร ไม่ใช่แค่จะโทษใครและกล่าวหาว่าใครสร้างภาพ ซึ่งมีแต่ลดทอนความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล และอาจเกิดอะไรก็ได้ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านอย่างขณะนี้ อย่างที่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เขียนในคอลัมน์ "ประสงค์พูด" โดยยกคำทำนายของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ตอนหนึ่งที่ว่า "จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา" คือประชาชนจะออกมาเป็นคนจัดการกับคนชั่วคนไม่ดีออกไปด้วยน้ำมือของประชาชน แม้จะเป็นคำทำนาย แต่ถ้าวิเคราะห์บนพื้นฐานของเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาตามลำดับ ในอนาคตข้างหน้าก็มีความเป็นไปได้ที่ประชาชนจะออกมาเป็นคนจัดการกับปัญหาต่างๆด้วยน้ำมือของประชาชนเองอย่างเต็มรูปแบบ อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่สมัยนี้เป็นประชาชนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่างๆของบ้านเมืองดีขึ้น รู้ว่าอำนาจของตนที่มอบให้คนอื่นไปใช้ทำงานแทนตนนั้นได้ถูกใช้ไปอย่างไร ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง หรือเพื่อประโยชน์ใคร

-
ประชาชนเจ็บปวดมามากกับเรื่องที่ให้อำนาจของตนไปใช้แทนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม แต่กลับไปใช้เพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวกมาโดยตลอด แม้กระทั่งการเอาอำนาจของประชาชนไปใช้โดยวิธีการได้มาที่ไม่ถูกต้องก็ตาม ทำไปทำมาก็ยังคงเกิดปัญหายุ่งยากวุ่นวายไม่รู้จักจบจักสิ้นเหมือนเดิมอย่างที่กำลังเห็นกันอยู่ในขณะนี้
-

ความอยากได้อำนาจ โดยเฉพาะการได้มาที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องตามระบบ หรือแม้จะได้มาอย่างถูกต้องตามระบบก็ตาม ความอยากดังกล่าวนี้สามารถทำให้กลายเป็นคนไม่ดีไปได้ง่ายๆด้วยการดำเนินการต่างๆอันเป็นช่องทางแห่งการได้มาซึ่งอำนาจ หรือการรักษาอำนาจที่ได้มาให้คงอยู่ไม่หายไปไหน เช่น ยอมเป็นหุ่นเชิดให้กับคนชั่วคนเลวในการทำสิ่งต่างๆ หรือคิดอ่านเสนอนั่นเสนอนี่ในการได้อำนาจหรืออยู่ในอำนาจได้ยาวนาน เป็นต้น

-
ใครก็ตามที่มีคนอย่างนี้ร่วมงานหรือใช้งาน แม้กระทั่งอาสาเข้ามาช่วยโน่นช่วยนี่ก็ตาม ถ้าเออออห่อหมกตามไปด้วยโดยไม่คิดให้ดีแล้ว เจ๊งทุกราย จะต้องเสื่อมลงและหมดค่าลงไปเรื่อยๆ ชีวิตบั้นปลายที่เหลืออยู่จะมีแต่ความสูญเปล่า จะกลายเป็นชีวิตที่ไม่ผิดอะไรกับวิญญาณพเนจร อดีตที่เคยรุ่งโรจน์ก็จะต้องดับวูบ ต้องมัวหมอง และต้องกลายเป็นคนไม่ดี ถูกด่าถูกว่าจากทุกสารทิศตามไปด้วย จะโทษใครไม่ได้ นอกจากโทษตัวเอง และรีบแก้ไขทั้งสายตาและหูของตนที่ต้องเปิดกว้างให้มากขึ้น เพราะตาที่เปิดกว้างจะทำให้เห็นถึงทิศทางของคนประจบสอพลอ หรือจากผู้ท้วงติงอย่างมีเหตุผล
-

ขณะที่หูที่เปิดกว้างนั้นจะรับเสียงได้ทุกทิศทุกทาง จะลงจากอำนาจในครั้งนี้ได้อย่างปลอดภัยก็เพราะรู้จักใช้หูและตาของตนให้ถูกต้องเท่านั้น ไม่เชื่อก็ขอให้อ่านคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำข้างต้นนี้อีกครั้งก็แล้วกันว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

-
"…เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา…แผ่นดินแตกแยกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน…"
-

โศกนาฏกรรมชาวนาไทย
-

การปรับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์กับราคาข้าวที่ตกต่ำโดยไม่แสดงอาการฉุนเฉียวตอบโต้ทันทีทันใดเหมือนที่ผ่านมาและยังยินดีที่ทุกฝ่ายตื่นตัวร่วมกันช่วยชาวนา สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าปัญหาชาวนานั้นละเอียดอ่อนอย่างไร ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลและผ่านพ้นช่วงการเปลี่ยนผ่านสำคัญมาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ก็รู้ดีว่าปัญหาต่างๆที่เรื้อรังและหมักหมมจะประดังเข้าใส่รัฐบาลและ คสช. แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ซึ่งทุกปัญหาล้วนเกี่ยวข้องกับอนาคตทางการเมืองของ คสช. อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

-
เช่นเดียวกับปัญหาชาวนาที่อาจจะปะทุเป็น "ม็อบชาวนา" ได้ตลอดเวลา หากการแก้ปัญหาไม่ต่อเนื่อง หรือลักปิดลักเปิด หรือยังมองการเมืองแบบเดิมๆ ปล่อยให้ลิ่วล้อออกมาสร้างความขัดแย้ง หรือบิดเบือนความจริง อย่างเรื่องชาวนาผูกคอตาย ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง

-
รัฐบาลและ คสช. ตระหนักดีว่า สถานการณ์วันนี้แตกต่างจากอดีตอย่างมาก แม้ยังมีกองทัพสนับสนุนเต็มที่ก็ตาม แต่ปัญหาต่างๆที่สะสมและกดดันประชาชนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหากรัฐบาลใช้อำนาจแก้ปัญหาแค่ให้ผ่านไปวันๆ แทนที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งประชาชนทั้งคนชั้นกลาง เกษตรกร และกรรมกร วันนี้กำลังเดือดร้อนอย่างมาก เมื่อคนตกงานและไม่มีจะกิน อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะปัญหาชาวไร่ชาวนาที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

-
พล.อ.ประยุทธ์รู้ดีว่าต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและเกษตรกร ไม่ใช่สร้างศัตรู หรือเดินตามเกมนักการเมืองบางคนที่พยายามเสี้ยมเพื่อใช้รัฐบาลและ คสช. กำจัดฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้เกิดความปรองดองและตอกย้ำความยุติธรรมสองมาตรฐานแล้ว ยังเป็นการทำร้ายชาวนาอย่างเลือดเย็นอีกด้วย

-
แหล่งที่มา โลกวันนี้
-
ห้องข่าวเสรีไทย


CB37B92C-A68B-4D72-B19A-462FA447CD12

Wednesday, November 23, 2016

ดร.​ เพียงดิน รักไทย 24 พ.ย. 2559 ตอน ใครเป็นใคร ในขบวน "ล้มเจ้า" ตัวจริง!


ดร.​ เพียงดิน รักไทย   24 พ.ย. 2559 ตอน ใครเป็นใคร ในขบวน "ล้มเจ้า" ตัวจริง!  

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

ดร.​ เพียงดิน รักไทย 24 พ.ย. 2559 ตอน ใครเป็นใคร ในขบวน "ล้มเจ้า" ตัวจริง!


ดร.​ เพียงดิน รักไทย   24 พ.ย. 2559 ตอน ใครเป็นใคร ในขบวน "ล้มเจ้า" ตัวจริง!  

****************************
หากท่านคิดดี หวังดี และมั่นใจในความดีของท่าน ขอให้ปาวารณาตัว ร่วมเป็นมดแดงล้มช้าง ได้ที่
หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หากลิ้งค์ข้างบนถูกบล็อก ให้ส่งรายละเอียดไปที่ 4everche@gmail.com โดยระบุ 1. ชื่อ (จัดตั้งหรือชื่อกลุ่ม)  2. จำนวนสมาชิกในเครือข่าย 3. จังหวัดและอำเภอ  4. อีเมล์  5. ไลน์หรือเบอร์โทรศัพท์  6. อาชีพของท่านหรือสมาชิก

"แจกเงิน" ประชานิยมสิ้นคิด

Watana Muangsook

Follow

6 hrs ·


"แจกเงิน" ประชานิยมสิ้นคิด

มติ ครม. ที่ให้เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยรายละ 1,500-3,000 บาท จำนวน 5.4 ล้านคน เริ่มจ่ายตั้งแต่ 1-30 ธันวาคม 2559 คือนโยบายหว่านเงิน (helicopter money) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เท่ากับรัฐบาลนี้ยอมรับว่าผู้มีรายได้น้อยหรือรากหญ้ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเพราะการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด แต่รัฐบาลหมดความสามารถที่จะหามาตรการอื่นมากระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว จึงต้องเลือกใช้การแจกเงินซึ่งไม่ต้องใช้ความคิดแต่ได้ผลน้อยที่สุด เพราะเมื่อใช้แล้วจบลงในคราวเดียว

รัฐบาลนี้เคยสร้างวาทกรรมกล่าวหารัฐบาลเพื่อไทยที่ดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวว่าเป็นประชานิยม อ้างว่าการรับจำนำสูงกว่าราคาตลาดทำให้รัฐขาดทุน ทั้งที่เป็นนโยบายสาธารณะทางเศรษฐกิจตามมาตรา 84 (8) ของรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อให้สินค้าเกษตรได้รับราคาที่เหมาะสมและไม่ทำให้เสียวินัยเพราะไม่ได้เป็นการให้เปล่าเหมือนการแจกเงิน ทำให้เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่มีกำลังซื้อเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องตามมามากมาย การดำเนินนโยบายที่ถูกต้องทำให้เศรษฐกิจในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทยดีมาตลอด เศรษฐกิจของประเทศจึงไม่เคยเข้าตาจนถึงขนาดต้องใช้มาตรการแจกเงินเหมือนที่รัฐบาลนี้และบางพรรคต้องนำมาใช้ แต่นายกยิ่งลักษณ์กลับถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง

การทำให้คนจนได้รับประโยชน์เป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน เพราะเศรษฐกิจไม่มีสีและฝักฝ่ายทางการเมือง แต่รัฐบาลต้องใช้สติปัญญาคิดหามาตรการทางเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนมีความหวัง จะเกิดการลงทุนและการจ้างงานทำให้คนยากจนมีรายได้อย่างต่อเนื่องซึ่งดีกว่าการแจกเงิน ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อก็จะกลับคืนมาเอง ยอมรับได้หรือยังว่าการบริหารประเทศมีความสลับซับซ้อนที่ต้องใช้สติปัญญา ไม่ใช่เพียงใช้วาทกรรมไปวันๆ แบบที่เป็น ก็ขนาดผู้คนทั้งโลกเห็นว่าเป็นการแจกเงิน นรม. ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่แต่เป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่จริงควรบอกว่าการรับจำนำข้าวเป็นประชานิยมส่วนการแจกเงินเป็นประชารัฐ จะได้ดูมีสติปัญญามากขึ้น

วัฒนา เมืองสุข

พรรคเพื่อไทย

23 พฤศจิกายน 2559

"แจกเงิน" ประชานิยมสิ้นคิด

Watana Muangsook

Follow

6 hrs ·


"แจกเงิน" ประชานิยมสิ้นคิด

มติ ครม. ที่ให้เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยรายละ 1,500-3,000 บาท จำนวน 5.4 ล้านคน เริ่มจ่ายตั้งแต่ 1-30 ธันวาคม 2559 คือนโยบายหว่านเงิน (helicopter money) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เท่ากับรัฐบาลนี้ยอมรับว่าผู้มีรายได้น้อยหรือรากหญ้ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเพราะการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด แต่รัฐบาลหมดความสามารถที่จะหามาตรการอื่นมากระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว จึงต้องเลือกใช้การแจกเงินซึ่งไม่ต้องใช้ความคิดแต่ได้ผลน้อยที่สุด เพราะเมื่อใช้แล้วจบลงในคราวเดียว

รัฐบาลนี้เคยสร้างวาทกรรมกล่าวหารัฐบาลเพื่อไทยที่ดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวว่าเป็นประชานิยม อ้างว่าการรับจำนำสูงกว่าราคาตลาดทำให้รัฐขาดทุน ทั้งที่เป็นนโยบายสาธารณะทางเศรษฐกิจตามมาตรา 84 (8) ของรัฐธรรมนูญ 2550 เพื่อให้สินค้าเกษตรได้รับราคาที่เหมาะสมและไม่ทำให้เสียวินัยเพราะไม่ได้เป็นการให้เปล่าเหมือนการแจกเงิน ทำให้เกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่มีกำลังซื้อเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องตามมามากมาย การดำเนินนโยบายที่ถูกต้องทำให้เศรษฐกิจในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทยดีมาตลอด เศรษฐกิจของประเทศจึงไม่เคยเข้าตาจนถึงขนาดต้องใช้มาตรการแจกเงินเหมือนที่รัฐบาลนี้และบางพรรคต้องนำมาใช้ แต่นายกยิ่งลักษณ์กลับถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง

การทำให้คนจนได้รับประโยชน์เป็นเรื่องที่ควรสนับสนุน เพราะเศรษฐกิจไม่มีสีและฝักฝ่ายทางการเมือง แต่รัฐบาลต้องใช้สติปัญญาคิดหามาตรการทางเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนมีความหวัง จะเกิดการลงทุนและการจ้างงานทำให้คนยากจนมีรายได้อย่างต่อเนื่องซึ่งดีกว่าการแจกเงิน ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อก็จะกลับคืนมาเอง ยอมรับได้หรือยังว่าการบริหารประเทศมีความสลับซับซ้อนที่ต้องใช้สติปัญญา ไม่ใช่เพียงใช้วาทกรรมไปวันๆ แบบที่เป็น ก็ขนาดผู้คนทั้งโลกเห็นว่าเป็นการแจกเงิน นรม. ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่แต่เป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่จริงควรบอกว่าการรับจำนำข้าวเป็นประชานิยมส่วนการแจกเงินเป็นประชารัฐ จะได้ดูมีสติปัญญามากขึ้น

วัฒนา เมืองสุข

พรรคเพื่อไทย

23 พฤศจิกายน 2559

การละสังขารของภูมิพล ทิ้งมรดกบาปไว้มากมาย

ความเสียหายเกินปล่อยให้ยืดยาว

เมื่อถึงคราวภูมิพลต้องละสังขาร

บัลลังก์ถึงวันประชาพิจารณ์

อนาคตถึงกาลเปลี่ยนระบอบยั่งยืน


+++++++++++++++++++++++++

ความเสียหาย

  • การลงทุนไหลออก
  • การส่งออกยับเยิน
  • การท่องเที่ยวมีแต่ยอดคน แต่ยอดเงินถดถอย
  • ราคาสินค้าเกษตรกรรมตกต่ำทั่วหน้า ชาวประชาขาดแรงซื้อ
  • การคดโกงแบบแดกด่วน เกิดขึ้นต่อเนื่องและยิ่งหนักหน่วงในยุคแก็งค์แดกด่วน
  • ระบบตรวจสอบถูกทำลายสิ้น การโกงกินจึงมหันต์
  • งบเทิดทูนและงบกองทัพ เพิ่มเกินสองเท่าในช่วงไม่ถึงสิบปี
  • เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาร่วมปล้นชาติ ด้วยนโยบายอันเกิดจากความเห็นแก่ตัวของชนชั้นปกครอง


การละสังขารของภูมิพล ทิ้งมรดกบาปไว้มากมาย

  • ความแตกแยกของปวงชนเป็นไปอย่างลึกซึ้งและร้าวฉานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ
  • การสังหารหมู่ประชาชน เกิดขึ้นซ้ำซาก โดยคนก่อกรรมไม่ได้รับโทษ เหยื่อไม่ได้รับความยุติธรรม
  • คนไม่จงรักภักดี ถูกเล่นงานด้วยกฎหมายเถื่อน
  • ทหารของพระราชา เอากฎหมายยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาใช้ก่อนยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
  • ความตกต่ำและภาพความอัปลักษณ์ของราชวงศ์ แม้ว่าจะใช้งบประมาณเทิดทูนเป็นประวัติการณ์
  • ราชวงศ์ที่สิ้นเปลืองเงินภาษีอากรประชาชนมากที่สุด
  • ความร่ำรวยผิดปกติบนทฤษฎีพอเพียง
  • สถิติการปล้นอำนาจประชาชน ด้วยการรัฐประหารในสภา บนบัลลังก์ศาล และด้วยรถถัง
  • โครงการหลวงที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้จริง (อ่างเก็บน้ำ กังหัน ...สุดท้ายก็แค่ ชั่งหัวมัน)
  • ระบบยุติธรรมที่ตกต่ำ เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน สองมาตราหรือไม่มีมาตรฐาน สอบตกในทุกเรื่องตามระดับมาตรฐานโลก
  • การศึกษาตกต่ำล้าหลังเพื่อนบ้านอาเซี่ยน
  • การคดโกงคอรัปชั่นโดยคนดี น่ารังเกียจตั้งแต่เดย์วัน
  • นักการเมืองตัวแทนประชาชนถูกทำลายป้ายสี (และลดอำนาจ)
  • รัฐสภาถูกป้ายสีให้เป็น เผด็จการเสียงข้างมาก
  • การเลือกตั้ง ถูกลดค่าเป็นการขายจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ของประชาชน
  • สิทธิมนุษยชนถูกเหยียบย่ำอย่างเลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี
  • การเปลี่ยนรัชกาล สร้างปัญหาให้ชาติและปวงชนอย่างน่าทุเรศ


ทางเลือกของประเทศไทย

มีกษัตริย์ หรือไม่มีกษัตริย์

ราชาธิปไตย หรือ ประชาธิปไตย


อนาคต หลัง ภูมิพล ควรอยู่ในมือใคร?


ประชาชนต้องแสดงตัว อาศัยโอกาสสำคัญนี้ เปลี่ยนระบอบ