PPD's Official Website

Friday, May 18, 2018

“เพื่อไทย” ขู่ฟ้องกลับคสช. ยัน แถลงข่าวไม่ผิดกม.-ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง

"เพื่อไทย" ขู่ฟ้องกลับคสช. ยัน แถลงข่าวไม่ผิดกม.-ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง
"เพื่อไทย" ค้าน แถลงข่าวไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง ยัน ไม่ผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อหาแกนนำพรรคพท.หลังมีการจัดแถลงข่าว เรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และคสช. ว่า การที่สมาชิกพรรคของพรรคพท. ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของรัฐบาล และคสช. นั้น ถือเป็นเรื่องของการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามปกติที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองไว้ เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นหน้าที่สำคัญทางการเมืองในฐานะตัวแทนของประชาชน ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและ คสช. เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่มีการกระทำใด ที่จะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศ คสช. หรือคำสั่งหัวหน้า คสช. และที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 4 ปี แกนนำที่เป็นสมาชิกของพรรคก็ได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และคสช. มาตลอด แต่พรรคก็ไม่เคยจัดให้มีการประชุมหรือทำกิจกรรมทางการเมืองใดที่จะเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามของ คสช. แม้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำของพรรค แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและ คสช. ต่อไป เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่กระทำตามหน้าที่ของตนในลักษณะเดียวกัน

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพท. กล่าวว่า การที่ คสช. ส่งตัวแทนไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแถลงการณ์นั้น ตนเองไม่รู้สึกหนักใจ เพราะถือว่าการดำเนินการของตน และสมาชิกพรรค เป็นการทำหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่ง ขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็ถือเป็นตัวแทนของประชาชน ที่มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของชาติและของประชาชน เมื่อ คสช. และรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน เมื่อทำงาน ไม่ดีและก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศก็ย่อมต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องธรรมดา การแถลงเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนเป็นการทำโดยเจตนาสุจริต ไม่ถือว่าเป็นการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่จะเป็นการขัดต่อคำสั่งหรือประกาศของ คสช. แต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน หรือการยุยงปลุกปั่นประชาชน อันจะเป็นความผิดตามมาตรา 116 และมิใช่เป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จมากล่าวที่จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ตัวแทน คสช. กล่าวอ้าง ก็ย่อมไม่มีการกระทำที่ขัดคำสั่ง คสช. หรือผิดกฎหมายอาญา ซึ่งตนเองจะรอพนักงานสอบสวนว่าจะมีการตั้งข้อหาอะไรบ้าง หากเห็นว่ามีการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินจริงก็คงจะต้องใช้สิทธิทางกฎหมายในการดำเนินคดีกลับเพื่อปกป้องสิทธิของตนเช่นกัน
􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿

“เพื่อไทย” ขู่ฟ้องกลับคสช. ยัน แถลงข่าวไม่ผิดกม.-ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง

"เพื่อไทย" ขู่ฟ้องกลับคสช. ยัน แถลงข่าวไม่ผิดกม.-ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง
"เพื่อไทย" ค้าน แถลงข่าวไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง ยัน ไม่ผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อหาแกนนำพรรคพท.หลังมีการจัดแถลงข่าว เรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และคสช. ว่า การที่สมาชิกพรรคของพรรคพท. ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของรัฐบาล และคสช. นั้น ถือเป็นเรื่องของการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามปกติที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองไว้ เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นหน้าที่สำคัญทางการเมืองในฐานะตัวแทนของประชาชน ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและ คสช. เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่มีการกระทำใด ที่จะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศ คสช. หรือคำสั่งหัวหน้า คสช. และที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 4 ปี แกนนำที่เป็นสมาชิกของพรรคก็ได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และคสช. มาตลอด แต่พรรคก็ไม่เคยจัดให้มีการประชุมหรือทำกิจกรรมทางการเมืองใดที่จะเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามของ คสช. แม้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำของพรรค แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและ คสช. ต่อไป เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่กระทำตามหน้าที่ของตนในลักษณะเดียวกัน

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพท. กล่าวว่า การที่ คสช. ส่งตัวแทนไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแถลงการณ์นั้น ตนเองไม่รู้สึกหนักใจ เพราะถือว่าการดำเนินการของตน และสมาชิกพรรค เป็นการทำหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่ง ขณะเดียวกันพรรคการเมืองก็ถือเป็นตัวแทนของประชาชน ที่มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของชาติและของประชาชน เมื่อ คสช. และรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน เมื่อทำงาน ไม่ดีและก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศก็ย่อมต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องธรรมดา การแถลงเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนเป็นการทำโดยเจตนาสุจริต ไม่ถือว่าเป็นการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่จะเป็นการขัดต่อคำสั่งหรือประกาศของ คสช. แต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน หรือการยุยงปลุกปั่นประชาชน อันจะเป็นความผิดตามมาตรา 116 และมิใช่เป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จมากล่าวที่จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ตัวแทน คสช. กล่าวอ้าง ก็ย่อมไม่มีการกระทำที่ขัดคำสั่ง คสช. หรือผิดกฎหมายอาญา ซึ่งตนเองจะรอพนักงานสอบสวนว่าจะมีการตั้งข้อหาอะไรบ้าง หากเห็นว่ามีการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินจริงก็คงจะต้องใช้สิทธิทางกฎหมายในการดำเนินคดีกลับเพื่อปกป้องสิทธิของตนเช่นกัน
􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿􀄃􀅽oh no!􏿿

คสช.แจ้งความดำเนินคดีแกนนำ ‘เพื่อไทย’ 4 ข้อหา หลังแถลงถล่มรัฐบาลล้มเหลว 7 เรื่อง

คสช.แจ้งความดำเนินคดีแกนนำ ‘เพื่อไทย’ 4 ข้อหา หลังแถลงถล่มรัฐบาลล้มเหลว 7 เรื่อง

Thursday, May 17, 2018

มือมืดเปิดเปิงการคอรัปชั่นของ คสช. และเบื้องหลังธุรกิจมืดค้ากาม


        Exposing Victoria's Secret—and the NCPO's graft

In January 2018, Department of Special Investigation officials and soldiers raided Victoria's Secret, a massage parlour on Bangkok's Rama 9. Six managers were arrested, 113 women were detained and an arrest warrant was put out for the owner Kampol Weerathepsuporn. The massage parlour, in reality a large-scale brothel, had for years offered migrant and underage girls for sexual services. The motive for its sudden closure must be sought in Thailand's increasingly heated elite power struggles.

In the aftermath of the raid, it was revealed that Kampol had given a 300 million baht loan to Police General Somyot Poompanmoung while the latter was serving as commissioner-general of the Royal Thai Police and on the National Legislative Assembly. Somyot had been appointed by the National Council for Peace and Order (NCPO) to lead the Thai police.

As the raid made national news, Chuwit Kamolvisit a massage parlour owner-turned-politician and media personality, made a series of revelations about the case. Drawing on his inside knowledge, Chuwit—who founded and ran Victoria's Secret before selling it to Kampol in 2004—pointed out the links between the massage parlour and Aqua Corporation. Aqua is a company listed on the Thai stock exchange that was taken over by Kampol and a network of investors in 2014. Once in control of the company, the new owners changed the management and board and sold off assets, in effect turning it into a shell company. Aqua was to serve as a conduit to launder money from the massage business and other shady deals.

In his revelations, Chuwit pointed out that the amount of money channelled through Aqua is far larger than what could be made from a massage parlour business and suggested Aqua is also being used to launder money from government corruption. Records of share ownership and business dealings confirm the story. Aqua quickly moved to stop reporting about its links to the massage business by launching a 333 million baht lawsuit against Chuwit and the media outlets that had run the story.

But the revelations stopped short of addressing some key issues. Chuwit, recently released from prison, was careful to omit the most sensitive aspects—in particular the massage parlour's links to the NCPO. Victoria's secret was far from fully revealed.

Kampol is part of a network of influential persons with direct links to the junta. On the board of Aqua we find Police Lieutenant General Wiboon Bangthamai, a current member of the National Legislative Assembly. Wiboon is married to a sister of junta leader General Prayuth's wife. Support from Prayuth has been important as Wiboon has advanced rapidly up the ranks of the police. Wiboon was brought in to sit on the board of Aqua while serving as commander of the immigration police—no wonder that Victoria's Secret and the other parlours owned by Kampol could secure a steady stream of young women from neighbouring countries to work.

Among investors in Aqua we find Chai Bunnag. Chai has built an expanding media empire controlled by his News Network Corporation. Through this, he controls several TV news channels including Spring News, T News and INN News. Recently he also wrested control over the Nation Group, expanding the number of TV channels under his control as well as making a major push into English and Thai language print media.

All of the news outlets under Chai's control are strongly right-wing and support the NCPO. In the aftermath of the raid on Victoria's Secret, they have defended Somyot, Aqua and others within the network.

As a further twist to the story, the network around Kampol have central roles within Thai football. Somyot serves as the President of the Football Association of Thailand. Watanya Wongopasi, the wife of Chai Bunnag, used to manage the women's U23 team. Kampol holds an ownership stake in Chiang Rai United and Aqua sponsors the same club. With football becoming a core part of the efforts of political groups to build strong provincial support bases, this network has the potential to leverage its influence over football for political influence.

The raid against Victoria's Secret was orchestrated by a group within the state that is opposing the growing influence of the Kampol–Chai–Somyot network—but their identity is still not known. Important secrets are yet to be brought into the light. The sources of the illicit money laundered through Aqua have also yet to be revealed. Exposing the details of these shady dealings are key to understanding the nature of graft under the NCPO.

New Mandala has confirmed the identity and credentials of the author. In respect of the author's wishes, this article has been published anonymously. 


มือมืดเปิดเปิงการคอรัปชั่นของ คสช. และเบื้องหลังธุรกิจมืดค้ากาม


        Exposing Victoria's Secret—and the NCPO's graft

In January 2018, Department of Special Investigation officials and soldiers raided Victoria's Secret, a massage parlour on Bangkok's Rama 9. Six managers were arrested, 113 women were detained and an arrest warrant was put out for the owner Kampol Weerathepsuporn. The massage parlour, in reality a large-scale brothel, had for years offered migrant and underage girls for sexual services. The motive for its sudden closure must be sought in Thailand's increasingly heated elite power struggles.

In the aftermath of the raid, it was revealed that Kampol had given a 300 million baht loan to Police General Somyot Poompanmoung while the latter was serving as commissioner-general of the Royal Thai Police and on the National Legislative Assembly. Somyot had been appointed by the National Council for Peace and Order (NCPO) to lead the Thai police.

As the raid made national news, Chuwit Kamolvisit a massage parlour owner-turned-politician and media personality, made a series of revelations about the case. Drawing on his inside knowledge, Chuwit—who founded and ran Victoria's Secret before selling it to Kampol in 2004—pointed out the links between the massage parlour and Aqua Corporation. Aqua is a company listed on the Thai stock exchange that was taken over by Kampol and a network of investors in 2014. Once in control of the company, the new owners changed the management and board and sold off assets, in effect turning it into a shell company. Aqua was to serve as a conduit to launder money from the massage business and other shady deals.

In his revelations, Chuwit pointed out that the amount of money channelled through Aqua is far larger than what could be made from a massage parlour business and suggested Aqua is also being used to launder money from government corruption. Records of share ownership and business dealings confirm the story. Aqua quickly moved to stop reporting about its links to the massage business by launching a 333 million baht lawsuit against Chuwit and the media outlets that had run the story.

But the revelations stopped short of addressing some key issues. Chuwit, recently released from prison, was careful to omit the most sensitive aspects—in particular the massage parlour's links to the NCPO. Victoria's secret was far from fully revealed.

Kampol is part of a network of influential persons with direct links to the junta. On the board of Aqua we find Police Lieutenant General Wiboon Bangthamai, a current member of the National Legislative Assembly. Wiboon is married to a sister of junta leader General Prayuth's wife. Support from Prayuth has been important as Wiboon has advanced rapidly up the ranks of the police. Wiboon was brought in to sit on the board of Aqua while serving as commander of the immigration police—no wonder that Victoria's Secret and the other parlours owned by Kampol could secure a steady stream of young women from neighbouring countries to work.

Among investors in Aqua we find Chai Bunnag. Chai has built an expanding media empire controlled by his News Network Corporation. Through this, he controls several TV news channels including Spring News, T News and INN News. Recently he also wrested control over the Nation Group, expanding the number of TV channels under his control as well as making a major push into English and Thai language print media.

All of the news outlets under Chai's control are strongly right-wing and support the NCPO. In the aftermath of the raid on Victoria's Secret, they have defended Somyot, Aqua and others within the network.

As a further twist to the story, the network around Kampol have central roles within Thai football. Somyot serves as the President of the Football Association of Thailand. Watanya Wongopasi, the wife of Chai Bunnag, used to manage the women's U23 team. Kampol holds an ownership stake in Chiang Rai United and Aqua sponsors the same club. With football becoming a core part of the efforts of political groups to build strong provincial support bases, this network has the potential to leverage its influence over football for political influence.

The raid against Victoria's Secret was orchestrated by a group within the state that is opposing the growing influence of the Kampol–Chai–Somyot network—but their identity is still not known. Important secrets are yet to be brought into the light. The sources of the illicit money laundered through Aqua have also yet to be revealed. Exposing the details of these shady dealings are key to understanding the nature of graft under the NCPO.

New Mandala has confirmed the identity and credentials of the author. In respect of the author's wishes, this article has been published anonymously. 


สงสารผีพฤษภาทมิฬ โดย ใบตองแห้ง

สงสารผีพฤษภาทมิฬ
ใบตองแห้ง

วันนี้แล้วสินะ ครบรอบ 26 ปี "พฤษภาทมิฬ" ซึ่งหลายปีให้หลัง จัดงานรำลึกอย่างเงียบเหงา น่าเศร้าใจแทนวีรชน ผู้พลีชีพเรียกร้องนายกฯ จากเลือกตั้ง คัดค้าน "เสียสัตย์ เพื่อชาติ" สืบทอดอำนาจรัฐประหาร

26 ปีผ่านไป ในยุคสืบทอดอำนาจเพื่อแผ่นดิน คนรุ่นนั้นอยู่ไหนกันบ้าง นอกจากจตุพร พรหมพันธุ์ อยู่ในคุก คนเคย ลุกขึ้นสู้ที่สนามหลวง ราชดำเนิน ยังภาคภูมิใจอยู่ไหม กับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ "ม็อบมือถือ" การลุกฮือเรียกร้องประชาธิปไตยของคนชั้นกลางในเมือง

ถ้ายังภูมิใจอยู่ ก็ช่วยเล่าให้คนรุ่นหลัง คนอยากเลือกตั้ง อย่างโบว์ ณัฏฐา, จ่านิว, โรม รังสิมันต์ ได้ฟังบ้าง

พฤษภาทมิฬเป็นวีรกรรมที่ต้องยกย่องภาคภูมิ นักศึกษาประชาชน ต่อสู้ทหารด้วยสองมือเปล่า จนบาดเจ็บล้มตายระนาว ไม่ต่างจาก 14 ตุลา 2516 เหตุการณ์นองเลือดทั้งสองครั้งเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่ในเชิงโครงสร้าง 14 ตุลาโค่นเผด็จการทหาร แม้ลมขวาจัดพัดกลับเกิด 6 ตุลา 2519 ก็อยู่ได้ไม่นาน ต้องเปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ พฤษภา 35 ก็ทำให้เกิดรัฐธรรมนูญ 2540 เกิดการกระจายอำนาจ เกิดประชาธิปไตยกินได้ การแข่งขันด้วยนโยบาย ให้ประชาชนได้รักษาฟรี เรียนฟรี

แต่ไฉน คนชั้นกลางในเมืองยุคนี้ กลับยกย่องตัวเองเป็น "ยอดมนุษย์" ภาคภูมิใจกับการเป่านกหวีดปิดเมือง ขัดขวางเลือกตั้ง ไล่รัฐบาลพลเรือนที่ไม่มีน้ำยา ไม่สามารถสั่งทหารใช้กระสุนจริง จนกระทั่งเกิดรัฐประหาร ก็ไชโยโห่ร้องกลับบ้านใครบ้านมัน หวังว่าจะมีปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

แล้วตอนนี้ ขณะที่พรรคสามัคคีธรรมแปลงร่าง กลับมาดูดนักการเมืองอย่างไม่อาย พล.อ.สุจินดา คราประยูร คนจำนวนหนึ่งกลับไปดีใจกับมาเลเซีย มหาเธร์ วัย 92 กลับมาชนะเลือกตั้ง จนหูตาฝ้าฟาง เห็นมหาชวน จำปาดะ เป็นมหาเธร์ไปซะงั้น

จากม็อบมือถือ มาสู่ม็อบคาบนกหวีด คนชั้นกลางในเมืองได้มีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศครั้งสำคัญ คือเปลี่ยนประชาธิปไตยกลับหลัง ให้อำนาจจากเลือกตั้งอยู่ใต้อำนาจจากแต่งตั้ง สถาปนาระบอบรัฐราชการเป็นใหญ่ ภายใต้หน่วยงานความมั่นคง แม้ต่อให้ปีหน้ามีเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ 2560 ก็พันธนาการไว้ 5 ปี 20 ปี หรือชั่วกัลปาวสาน

ถึงทนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ ก็แก้ไขไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี อย่างที่ ดร.รัชดา ธนาดิเรก กล่าวไว้ ฉะนั้น ยอมจำนนเสียเถอะ ใช้ชีวิตชิกๆ คูลๆ ไปดีกว่า เสพโคเคนยังไม่เสี่ยงหมดอนาคตเท่าอยากเลือกตั้ง

ทำไมคนชั้นกลางเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่คนรุ่นพฤษภา ขนาดคนรุ่นตุลาศิลปิน นักเขียน เป่านกหวีดแล้วกลับมาฉลอง200ปี คาร์ล มาร์กซ์ รำลึกจิตร ภูมิศักดิ์ ศรีบูรพา แต่พอพี่สุชาติ สวัสดิ์ศรี ชวนมากิจกรรมอยากเลือกตั้ง กลับโดนบางคนเยาะเย้ยด้วยซ้ำ

แต่ครั้นจะโดน กทม.ยึดหอศิลป์ กระแสสิทธิเสรีภาพก็มากันตรึม เฮ้ย มาร์กซ์ยังไม่ตาย ทฤษฎีชนชั้นใช้ได้ชั่วกัปชั่วกัลป์

45 ปีหลัง 14 ตุลา 26 ปีหลังพฤษภา 35 คนชั้นกลางในเมืองมีสิทธิมีเสียงมากขึ้น แม้แต่คนที่เคยเรียกร้องประชาธิปไตย ถ้าไม่กลายเป็นคนระดับบนคนมั่งมี ก็มีสถานะในระบบราชการ ในสถาบันทางวิชาการ หรือสถาบันทางสังคม (แม้แต่ NGO) ขณะที่การพัฒนาทุนนิยมอย่างก้าวกระโดด ก็ให้วิถีชีวิตสะดวกสบาย ให้ทางเลือกมากมาย

สังคมคนชั้นกลางในเมืองวันนี้ ถ้าเปรียบนิยายวิทยาศาสตร์ ก็เหมือนอยู่ในโดมที่มองไม่เห็น คือเป็นสังคมที่พึงพอใจว่ามีสิทธิเสรีภาพ มีทางเลือก ไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับระบอบเผด็จการเหมือนยุคก่อน 14 ตุลาหรือพฤษภา 35 มีความใกล้ชิดกับรัฐทหาร ระบบราชการ พูดคุยกันได้ ยิ่งกว่านักการเมืองจากเลือกตั้ง ส่วนนอกโดมออกไป คือสิทธิเสรีภาพของคนระดับล่าง ของเสื้อต่างสี ช่างหัวมัน ไม่งั้นโดมที่คุ้มครองไว้จะแตกสลาย

เราจึงเห็นคนชั้นกลางยุคนี้ เกลียดทรัมป์ ด่าอิสราเอลยิงชาวปาเลสไตน์ ประณามการเหยียดผิว แบ่งชนชาติ (ยกเว้นโรฮิงยา) สลิ่มไทยในอเมริการักเดโมแครต แต่กลับมาบ้านตัวเอง ไม่อยากเลือกตั้ง สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ กระทั่งดูดปากยี้ห้อยร้อยยี่สิบที่เคยเกลียดชังก็รับได้ เพื่อรักษาสภาพนี้ไว้

26 ปีพฤษภาทมิฬจึงเศร้าใจ แทนวีรชนที่พลีชีพไป เพราะคุณค่าประชาธิปไตยไม่เหลืออยู่ในคนชั้นกลางที่เคยเป็นพลังม็อบมือถือ นอกจากการเมืองแยกเทพมาร ความเกลียดชังเหมือนเมื่อครั้งไชโยโห่ร้องที่ พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ แต่งชุดขาวรอเก้อ กระทั่งยอมทิ้งหลักการ หนุนนายกฯ ทหารไม่ต้องลงเลือกตั้ง

จิตวิญญาณวีรชนพฤษภา หากจะมีที่ฝากฝัง ก็อยู่ที่คน รุ่นใหม่ คนอยากเลือกตั้ง แต่จะมีพลังเพียงไร และต้องรอจังหวะโอกาสอีกนานแค่ไหน ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน

สงสารผีพฤษภาทมิฬ : คอลัมน์ ใบตองแห้ง - ข่าวสด

https://www.khaosod.co.th/politics/news_1099009

(หน้า 6)