PPD's Official Website

Tuesday, July 10, 2018

รองอธิบดีกรมป่าไม้แฉเอง คนไทยขายชาติเอาป่าสงวนออกเอกสารเป็นเท็จไปหลอกขาย

รองอธิบดีกรมป่าไม้แฉเอง คนไทยขายชาติเอาป่าสงวนออกเอกสารเป็นเท็จไปหลอกขายเครือข่ายนายทุนจีนกลุ่มท่องเที่ยวทางเรือเรือฟินิกซ์ ก็ใช่ด้วย จนได้ใช้พื้นที่บุกรุกป่า ตระกูลดังๆเท่านั้นที่เอาที่หลวงไปออกโฉนดที่ภูเก็ตได้ /เป็นไงละไอ้โจ๊ก พลตรีสุรเชษฐ์ อันธพาล ปราบแต่ทัวร์คู่แข่ง สายนายทุนชั่ว วิ่งมาทำธุรกิจทางสายนางกอบกาญจน์ วัฒนนางกูรเมียเป็นอดีต รวม.ท่องเที่ยว ผัวเป็นตำรวจ ชื่อพล.ต.ท.ชลสิทธ์ หากินกับการท่องเที่ยวสารพัดแบบ https://theworldnews.net/th-news/r-ng-thibdiipaaaim-aeche-ng-ekhruue-khaayeruue-fiinikch-rukpaasngwndwy-chad-pl-me-ksaarhl-kkhaaytaangchaatiephiiyb

รองอธิบดีกรมป่าไม้แฉเอง คนไทยขายชาติเอาป่าสงวนออกเอกสารเป็นเท็จไปหลอกขาย

รองอธิบดีกรมป่าไม้แฉเอง คนไทยขายชาติเอาป่าสงวนออกเอกสารเป็นเท็จไปหลอกขายเครือข่ายนายทุนจีนกลุ่มท่องเที่ยวทางเรือเรือฟินิกซ์ ก็ใช่ด้วย จนได้ใช้พื้นที่บุกรุกป่า ตระกูลดังๆเท่านั้นที่เอาที่หลวงไปออกโฉนดที่ภูเก็ตได้ /เป็นไงละไอ้โจ๊ก พลตรีสุรเชษฐ์ อันธพาล ปราบแต่ทัวร์คู่แข่ง สายนายทุนชั่ว วิ่งมาทำธุรกิจทางสายนางกอบกาญจน์ วัฒนนางกูรเมียเป็นอดีต รวม.ท่องเที่ยว ผัวเป็นตำรวจ ชื่อพล.ต.ท.ชลสิทธ์ หากินกับการท่องเที่ยวสารพัดแบบ https://theworldnews.net/th-news/r-ng-thibdiipaaaim-aeche-ng-ekhruue-khaayeruue-fiinikch-rukpaasngwndwy-chad-pl-me-ksaarhl-kkhaaytaangchaatiephiiyb

ด่วนที่สุด ทนายกล้าตาย.. ร่างจดหมายถวายฎีกา ต่อองค์ในหลวง ร.10 ขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออก

ด่วนที่สุด ทนายกล้าตาย.. ร่างจดหมายถวายฎีกา ต่อองค์ในหลวง ร.10 ขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออก จากตำแหน่ง ด้วยมีการกระทำเด่นชัดว่าเป็นปริปักษ์ต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ทำให้บ้านเมืองเสียหายมากทีทสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ในขณะนี้ทนายผู้ถวายฏีฏา มีความมุ่งมั่น ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลมืดของพลเอกประยุทธ์แต่อย่างใด ช่วยกันแชร์ด้วยครับเพื่อนๆ เพื่อให้โลกรู้สิ่งที่เขากล้าท้าทายอำนาจเผด็จการ https://www.facebook.com/100012118743772/posts/478576362556318/

ความเห็น: ในเชิงหลักการแล้ว ทนายคนนี้กำลังชี้ให้เห็นว่า กษัตริย์คือเจ้าของระบอบ มีอำนาจจริง ฮ่า ๆ ๆ 
และก็ถูกต้อง ที่ทำอย่างนี้ ตรงที่ว่า ก็กษัตริย์ตั้งเอง ก็ต้องสั่งปลดเอง  5555  ไผว่ากษัตริย์ไม่ยุ่งการเมือง เหอ ๆ ๆ ๆ 



ด่วนที่สุด ทนายกล้าตาย.. ร่างจดหมายถวายฎีกา ต่อองค์ในหลวง ร.10 ขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออก

ด่วนที่สุด ทนายกล้าตาย.. ร่างจดหมายถวายฎีกา ต่อองค์ในหลวง ร.10 ขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออก จากตำแหน่ง ด้วยมีการกระทำเด่นชัดว่าเป็นปริปักษ์ต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ทำให้บ้านเมืองเสียหายมากทีทสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ในขณะนี้ทนายผู้ถวายฏีฏา มีความมุ่งมั่น ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลมืดของพลเอกประยุทธ์แต่อย่างใด ช่วยกันแชร์ด้วยครับเพื่อนๆ เพื่อให้โลกรู้สิ่งที่เขากล้าท้าทายอำนาจเผด็จการ https://www.facebook.com/100012118743772/posts/478576362556318/

ความเห็น: ในเชิงหลักการแล้ว ทนายคนนี้กำลังชี้ให้เห็นว่า กษัตริย์คือเจ้าของระบอบ มีอำนาจจริง ฮ่า ๆ ๆ 
และก็ถูกต้อง ที่ทำอย่างนี้ ตรงที่ว่า ก็กษัตริย์ตั้งเอง ก็ต้องสั่งปลดเอง  5555  ไผว่ากษัตริย์ไม่ยุ่งการเมือง เหอ ๆ ๆ ๆ 



เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี

Attachment.pngAttachment.pngAttachment.pngAttachment.pngAttachment.pngAttachment.png

เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี

เปิดเอกสาร บ.ทีซี บลู ดรีม เจ้าของเรือฟินิกซ์ ต้นเหตุ โศกนาฏกรรมหมู่ เรือล่ม จ.ภูเก็ต พบหุ้นใหญ่หญิงสาว อายุแค่ 24 ปี ในเครืออีก 2 แห่ง ตัวละครชุดเดียวกัน ขณะที่ กิจการทัวร์ใน จ.ชลบุรี กก.มีภูมิลำเนา เชียงใหม่ ลำปาง


จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยว'ฟินิกซ์' ล่มที่เกาะเฮ จ.ภูเก็ตหลังเผชิญกับลมมรสุมและคลื่นลมแรงในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยว 93 คน ลูกเรือและมัคคุเทศก์ 12 คน รวม 105 ชีวิต จมหายในทะเลเป็นจำนวนมาก ตัวเลข ณ วันที่ 9 ก.ค.2561 จำนวนผู้โดยสารบนเรือฟีชนิกซ์ 89 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 87 คน ชาวยุโรป 2 คน มีผู้รอดชีวิต 37 คน พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 41 คน ยังสูญหาย 11 คน ในจำนวนผู้สูญหายนี้มีชีวิตอยู่ 5 คน (อ่านประกอบ : เช็กสถานะ บ.เจ้าของเรือ 'ฟินิกซ์' แจ้งรายได้ 2.5 ล. กำไร 252,422 บ. มีกิจการ 4 แห่ง)


ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า กรรมการและผู้หุ้นใหญ่บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ผู้ประกอบการเรือขนส่งนักท่องเที่ยวลำดังกล่าว มีอายุเพียง 24 ปี ขณะจดทะเบียนก่อตั้ง 


บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 23 ส.ค. 2559 ทุน 2 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4 ล้านบาท ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 43/84 หมู่ที่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ณ วันที่ 5 ก.ค. 2560 น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ถือหุ้นใหญ่ 39,000 หุ้น (97.50% ) นายจักรพันธ์ ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดี ฤกษ์ชัยกาล คนละ 500 หุ้น (คนละ 1.25%) รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล เป็นกรรมการ


ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 คนระบุในหนังสือบริคณห์สนธิอยู่บ้านเลขที่เดียวกัน 123/23 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต น.ส.วรลักษณ์ ระบุ อายุ 24 ปี , นายจักรพันธ์ อายุ 29 ปี และ นางยินดี อายุ 48 ปี 


จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.วรลักษณ์ กรรมการและหุ้นใหญ่ บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด  เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ อีก 2 บริษัท คือ บริษัท ทีซี ทู จำกัดจดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 14 มิ.ย. 2561 และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 มิ.ย. 2561 ทั้งสองมีผู้ถือหุ้นชุดเดียวกัน


บริษัท ทีซี ทู จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท


บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เช่นเดียวกัน


ขณะที่ บริษัท อะลอง ทราเวล จำกัด ประกอบธุรกิจ นำเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 141/29 หมู่ที่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้น 10,000 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น ผู้ถือหุ้นอีก 2 คนคือนายแทน และ นายปกรณ์ มีภูมิลำเนาใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ตามลำดับ


น่าสังเกตว่า ในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด บริษัท ทีซี ทู จำกัด และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด ทั้ง 3 แห่งใช้ผู้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยานและผู้รับมอบอำนาจจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนจังหวัดภูเก็ต บุคคลกลุ่มเดียวกัน

https://www.isranews.org/isranews/67619-report01-67619.html


เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี

Attachment.pngAttachment.pngAttachment.pngAttachment.pngAttachment.pngAttachment.png

เปิดหมด 4 บ.เครือข่ายเรือฟินิกซ์ หุ้นใหญ่ หญิงสาว อายุ 24 ปี

เปิดเอกสาร บ.ทีซี บลู ดรีม เจ้าของเรือฟินิกซ์ ต้นเหตุ โศกนาฏกรรมหมู่ เรือล่ม จ.ภูเก็ต พบหุ้นใหญ่หญิงสาว อายุแค่ 24 ปี ในเครืออีก 2 แห่ง ตัวละครชุดเดียวกัน ขณะที่ กิจการทัวร์ใน จ.ชลบุรี กก.มีภูมิลำเนา เชียงใหม่ ลำปาง


จากกรณีเหตุเรือนำเที่ยว'ฟินิกซ์' ล่มที่เกาะเฮ จ.ภูเก็ตหลังเผชิญกับลมมรสุมและคลื่นลมแรงในช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยว 93 คน ลูกเรือและมัคคุเทศก์ 12 คน รวม 105 ชีวิต จมหายในทะเลเป็นจำนวนมาก ตัวเลข ณ วันที่ 9 ก.ค.2561 จำนวนผู้โดยสารบนเรือฟีชนิกซ์ 89 คน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 87 คน ชาวยุโรป 2 คน มีผู้รอดชีวิต 37 คน พบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 41 คน ยังสูญหาย 11 คน ในจำนวนผู้สูญหายนี้มีชีวิตอยู่ 5 คน (อ่านประกอบ : เช็กสถานะ บ.เจ้าของเรือ 'ฟินิกซ์' แจ้งรายได้ 2.5 ล. กำไร 252,422 บ. มีกิจการ 4 แห่ง)


ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า กรรมการและผู้หุ้นใหญ่บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ผู้ประกอบการเรือขนส่งนักท่องเที่ยวลำดังกล่าว มีอายุเพียง 24 ปี ขณะจดทะเบียนก่อตั้ง 


บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 23 ส.ค. 2559 ทุน 2 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. 2560 เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 4 ล้านบาท ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 43/84 หมู่ที่ 5 ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ณ วันที่ 5 ก.ค. 2560 น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล ถือหุ้นใหญ่ 39,000 หุ้น (97.50% ) นายจักรพันธ์ ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดี ฤกษ์ชัยกาล คนละ 500 หุ้น (คนละ 1.25%) รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท น.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล เป็นกรรมการ


ผู้ถือหุ้นทั้ง 3 คนระบุในหนังสือบริคณห์สนธิอยู่บ้านเลขที่เดียวกัน 123/23 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต น.ส.วรลักษณ์ ระบุ อายุ 24 ปี , นายจักรพันธ์ อายุ 29 ปี และ นางยินดี อายุ 48 ปี 


จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.วรลักษณ์ กรรมการและหุ้นใหญ่ บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด  เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่ อีก 2 บริษัท คือ บริษัท ทีซี ทู จำกัดจดทะเบียนก่อตั้งวันที่ 14 มิ.ย. 2561 และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 มิ.ย. 2561 ทั้งสองมีผู้ถือหุ้นชุดเดียวกัน


บริษัท ทีซี ทู จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท


บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้นใหญ่ 38,000 หุ้น นายบุญชู ฤกษ์ชัยกาล และ นางยินดีฤกษ์ชัยกาล ถือคนละ 1,000 หุ้น รวม 40,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท เช่นเดียวกัน


ขณะที่ บริษัท อะลอง ทราเวล จำกัด ประกอบธุรกิจ นำเที่ยว ที่ตั้งเลขที่ 141/29 หมู่ที่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.วรลักษณ์ ถือหุ้น 10,000 หุ้น จากทั้งหมด 50,000 หุ้น ผู้ถือหุ้นอีก 2 คนคือนายแทน และ นายปกรณ์ มีภูมิลำเนาใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำปาง ตามลำดับ


น่าสังเกตว่า ในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด บริษัท ทีซี ทู จำกัด และ บริษัท หลี่ แอนด์ เจิง จำกัด ทั้ง 3 แห่งใช้ผู้ลงลายมือชื่อรับรองเป็นพยานและผู้รับมอบอำนาจจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนจังหวัดภูเก็ต บุคคลกลุ่มเดียวกัน

https://www.isranews.org/isranews/67619-report01-67619.html


Monday, July 9, 2018

พระครูบาบุญชุ่ม กับ วาทกรรม "เสด็จพ่อ ร. ๑๐"

ก่อนอื่น ขอแสดงความยินดีกับพ่อแม่และญาติ ๆ ของน้อง ๆ ที่ออกมาจากถ้ำได้ทุกท่าน และขอแสดงความชื่นชมต่อน้ำใจของคนไทยที่เกี่ยวข้องกับการกู้ภัยครั้งนี้ทุกท่าน และนี่คือบทพิสูจน์ว่า เราอาจจะกู้วิกฤติทางการเมืองของชาติร่วมกันโดยไม่ต้องเลือดท่วมท้องช้างได้ แม้ว่าการสูญเสียจะไม่มีทางเลี่ยงได้แน่นอนก็ตาม

ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่าน ผมได้จับตาดูความเคลื่อนไหวของครูบาบุญชุ่มมาระยะหนึ่งแล้ว เริ่มสงสัยในบทบาทและท่วงท่าในเบื้องต้น เพราะไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน และผมเป็นคนไม่มีพระครูหรือพระสงฆ์องค์ใดเลยที่ผมยึดถือและนับถือเป็นส่วนตัว เพราะตามบ้านนอกแถวที่ผมอยู่ไม่มีวัดใหญ่ๆ  วัดหลวง หรือวัดที่มีพระครูหรือครูบาอะไรอยู่ใกล้ ๆ เท่าไหร่   แต่ก็ไม่ได้ดูหมิ่นหรือไร้ศรัทธาต่อพระอริยสงฆ์นะครับ กราบไหว้ได้และก็พอจะรู้สึกได้เวลานั่งสนทนากับหลวงพี่ทั้งหลายทั้งในและนอกประเทศ เพียงแต่ผมดูพฤติกรรมและตัดสินเป็นราย ๆ ไป และไม่ได้ถือว่าใส่ผ้าเหลืองแล้วจะต้องต่างจากมนุษย์คนอื่น คือ สงสัยไม่ได้   

ที่จริงแล้ว สำหรับพระสงฆ์แล้ว เราต้องสงสัยให้มากกว่าคนอื่น เพราะวางตนในฐานะที่เหนือกว่าคนทั่วไปในเชิงจิตวิญญาณ  ถือศีลมากกว่า รับเงินสนับสนุนจากสาธารณะได้อย่างเสรี และมีบทบาทสำคัญหรือมีอิทธิพลต่อสังคมมากกว่าคนทั่วไป

ในกรณีพระครูบาบุญชุ่มนี้ ผมสงสัยในเรื่องอายุ เลยไปค้นดู พบว่าอยู่ในวัย ๕๓ ปีเศษ ซึ่งถือว่าไม่มาก (เพราะเท่ากับผมเลย และผมเองก็ไม่คิดว่าตนเองแก่เลย รู้สึกยังไงเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว วันนี้ก็ยังไม่ต่างไปมาก ในเชิงกายภาพนะครับ)  ทราบว่าท่านยากจนมาก่อนและได้บวชเรียน แล้วก็ปฏิบัติแบบเคร่ง คือเป็นพระป่า(มาก่อน?) จนมีบารมีธรรมเป็นที่เลื่องลือพอสมควร   

แต่บทบาทตอนหลังนี้ ผมเห็นนายทุนระดับสำคัญ ๆ นักการเมืองหลายคน ที่อยากได้ อยากเป็น อยากมี ได้เข้าหาและนับถือท่านมากพอสมควร และท่านก็ดูจะมีความพึงพอใจกับสถานะพิเศษนี้ด้วย

และเมื่อดูพฤติกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ้างเรื่องนางนอน การอ้างเรื่องผีสางและดวงวิญญาณ การเป่าเสกมนต์ยันตร์ ฯลฯ  ก็เริ่มสงสัยบ้าง ว่าหากจะเปรียบกับการเทศนาธรรมระดับสูง ถึงขั้นให้มุ่งสู่นิพพานแล้ว ผมเริ่มสงสัยตั้งแต่การให้พรญาติโยมตามที่ต่าง ๆ ว่า ขอให้รวย รวย รวย แล้วล่ะครับ

ผมเคยใช้คำว่า political monk หรือพระที่มีทีท่าเชิงการเมืองหรือมีจริตทางโลก เมื่อช่วงที่ท่านแสดงตัวแถวถ้ำนางนอนแรก ๆ เพราะท่วงท่าออกไปในเชิงพูดเพื่อผลประโยชน์แบบโลกิยะ (ของตนหรือของคนอื่นด้วย) ที่ดูคล้ายนักโฆษณาตน หรือพระเก่งเชิงจิตวิทยา  (ซึ่งไม่แปลก เพราะเทศน์มานาน และคงรู้ว่าท่อนไหน คำสอนไหน คือแก่นที่ตนใช้และ/หรือใช้ได้ผลดีต่อการยอมรับของประชาชน) แต่ก็ไม่ได้ปักใจอะไรมากมาย พยายามตัดอคติออกไป เพราะเห็นด้วยเช่นกันว่า พระครูบาดูมีความเมตตาอย่างชัดแจ้ง ทำอะไรออกไปก็มีแต่เมตตากรุณา ซึ่งอันนี้ ผมพอสังเกตุได้และค่อนข้างเชื่อว่าท่านแสดงออกมาด้วยจริตสันดานที่แท้จริงแห่งตนที่ได้รับการขัดเกลามานาน อาจจะหลายภพชาติ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผมต้องเพ่งตาให้หนักไปที่พระรูปนี้ ก็เพราะท่านเทศนาแบบ "เลีย" รัชกาลก่อน แบบชัด ๆ ซึ่งก็ไม่แปลกใจเกินไปนัก เพราะคนรุ่นเดียวกันกับผม โตมาในแบบที่รู้เห็นอะไรที่พอเข้าใจได้  และด้วยท่านไม่ใช่คนแก่เรียนทางโลก กล่าวคือ มีภูมิรู้ทางโลกค่อนข้างจำกัด เพราะยากจน ไม่ได้เรียนต่อทางโลก ผมก็พอจะเข้าใจได้ หากท่านจะรักเจ้าและชเลียร์เจ้า  เพราะการเติบโตของท่านนั้น เรียกว่า เกิดและโตและเจริญในยศทางธรรมใต้ร่วม ร.​๙ เต็ม ๆ นะครับ  แต่เรื่องทางธรรม ผมต้องยกว่าท่านคงทั้งเรียนและปฏิบัติถึงระดับบรรลุ... จะบรรลุอะไรแค่ไหน และเป็นไปตามพุทธวจนะหรือไม่เพียงใด อีกเรื่องหนึ่ง   .....แต่การกล้าพูดในหลายโอกาสถึงพระบารมีของ "เสด็จพ่อ ร. ๑๐" นี่ ทำให้ผมแทบหงายหลังตกเก้าอี้ น้ำหมากหกพื้นเลยทีเดียว

เฮ๊ย ... ถามจริง ๆ ท่านครูบาบุญชุ่ม คิดว่า กรรมของรัชกาลที่ ๑๐ ในชาติก่อน (ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นได้ยาก) กับ กรรมในชาตินี้ รวมกันนี่ เรียกว่า วชิราลงกรณ์ยังเป็น เสด็จพ่อของคนทั้งชาติได้เลยหรือ (ฮา) 

ฮานี่บ่าเฮ้ย... งืด

อย่าหาว่าผมล่วงเกินพระอริยสงฆ์เลยนะครับ  

แต่การที่พระรูปหนึ่ง ทำให้เราเชื่อว่า ท่านปฏิบัติดี และบรรลุแล้วนั้น

ท่านจะรู้ทุกอย่างหรือ? จะรู้เท่าทันทางโลกหรือ? จะหูทิพย์ตาทิพย์เลยหรือ?  จะหมดกิเลสแบบไม่มีทางยุบพองได้อีกทุกรูปหรือ?  ฯลฯ 

ผมคือชาวพุทธแต่กำเนิด และนับถือหลักพระพุทธศาสนาสำหรับการครองตนมาตลอด แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ มียุบมีพอง มีทำได้และทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ไม่น้อย  ดังนั้น จะหาว่าผมทำลายและเหยียบยำ ก้าวล่วง หรือละเมิดพระสงฆ์โดยไร้เหตุผลไม่ได้ 

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผมพูดบนฐานของพระพุทธศาสนาอันสำคัญ คือหลักกาลามสูตร ครับ 

นี่คือคลิปที่ดลใจให้ผมรีบนั่งพิมพ์ข้อความนี้ครับ

https://youtu.be/xtWJHTLXVX0?t=19m12s

ผมเชิญชวนให้ท่านจับตาพระครูท่านนี้ด้วยกันนะครับ ยังไม่ต้องด่วนตัดสิน และอย่ามองแค่ความศรัทธา หรืออย่าให้อะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ มาเป็นตัวปิดกันการศึกษาท่านเป็นกรณีตัวอย่าง  พระหน้าตาดี เทศน์เก่ง อาคมขลัง และดูท่าจะมีอะไรพิเศษ ๆ แบบนี้ ไม่ได้มีรูปเดียว และหลายรูปก็ลงเอยไม่สวย คือ จบไม่สวยด้วยกฎของทางธรรม 

ผมไม่ได้เชิญชวนให้พี่น้องหยามหมิ่น หรือร่วมลบหลู่บารมีของท่าน แต่วิพากษ์ด้วยรับไม่ได้ในเรื่องการแสดงออกในเชิงการเมืองที่รับใช้ชนชั้นปกครองอย่างโจ่งแจ้ง และพฤติกรรมด้านอื่น ๆ ก็ต้องตั้งคำถามไว้ก่อน  ผมชวนคิดอย่างสร้างสรรค์ ชวนตั้งคำถาม และชวนพิสูจน์  ตามหลักพุทธเป๊ะเลยนะครับ