PPD's Official Website

Thursday, December 24, 2020

รัฐบาลแห่งการกู้ สร้างหนี้สินเป็นประวัติการณ์แล้ว

ไชโย.... ไทยจนที่สุดในอาเซียน
แล้ว  เป็นอันดับ 1

เศรษฐกิจไทยส่อพังทั้งระบบ คนจนพุ่ง 100%-หนี้เพิ่มทะลุเพดาน
ธนาคารโลกชี้ชัด รัฐบาลลุงตู่ โกง-จน-เจ๊ง คนไทยจ่ออดตายมากกว่า 50%
.

สุดช็อค ธนาคารโลกประจานเศรษฐกิจไทยกำลังเจ๊งทั้งระบบเพราะรัฐบาลโกง
ยอดคนอดตายพุ่งเกินครึ่งของประชากรหรือราว 40 ล้านคน (57%)
คนไทยรายได้ต่ำกว่า 150 บาท/วัน เพิ่มขึ้น 100%
ตัวเลขหนี้ประเทศพุ่งทะลุเพดานสูงสุดในรอบ 18 ปี รวม 13 ล้านล้านบาท สูงแตะ
88-90% ต่อจีดีพี การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะแดก รัฐบาลกู้มือเติบ 7
ล้านล้านบาท ผลาญงบประมาณต่อท่อน้ำเลี้ยงคอร์รัปชั่น
.
[[[ เจ๊งทั้งประเทศ ]]]
.
ธนาคารโลก (World Bank) [1] เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยในสภาวะวิกฤติ
ผู้มีรายได้น้อย/คนไม่มีรายได้พุ่ง 40 ล้านคน หรือเกือบเท่ากับ 2 ใน 3
ของประชากรทั้งประเทศ จากการขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือช่วงโควิดจากรัฐบาล

คอร์รัปชั่นรัฐบาลประยุทธ์ฉุดประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจพุ่งดิ่งลงเหว
การคลังถังแตก-คนจนไม่มีจะแดก สอดคล้องกับตัวเลขคนจนที่พุ่งสูงขึ้น 100%
โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 150 บาท (ครึ่งนึงของค่าแรงขั้นต่ำ)
มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 4.7 ล้านคน เป็น 9.7 ล้านคนในปัจจุบัน
นอกจากนี้ธนาคารโลกยังงัดตัวเลขตอกย้ำความเน่าเฟะในยุคลุงตู่อีกด้วยว่า
อัตราความยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.2 ปี 2558 เป็นร้อยละ 9.8
ปี 2561 สวนทางกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ทั้งที่รัฐบาลไทยกู้เงินมือเติบ 1.9
ล้านล้านบาท ถือว่ามากสุดในภูมิภาคอาเซียน คิดเป็น 13% ของ GDP
แต่ผลทีได้คือเศรษฐกิจเจ๊งมากสุดในเอเชีย กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ 6
แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 4% ของ GDP และทำเงินหายไป 1.3 ล้านล้านบาท
.
[[[ หนี้ท่วมทะลุเพดาน ]]]
.
'ประยุทธ์ จันทร์โอชา' รัฐบาลที่สร้างหนี้มากสุดในประวัติศาสตร์
แต่เศรษฐกิจไทยก็เจ๊งมากสุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน
ตัวเลขหนี้ล้นเพดานเติบโตพุ่งพรวดไปพ้อมกับความเหลื่อมล้ำ
ตอกย้ำเศรษฐกิจลิเกหลวงที่ใช้ระบบเอื้อศักดินาแล้วปล่อยปลาเล็กปลาน้อยตายเรียบ
ตัวเลขหนี้ครัวเรือนของประเทศพุ่งสูงแตะ 88-90% ต่อจีดีพี สูงสุดในรอบ 18
ปี สอดคล้องกับปัญหาเศรษฐกิจพังจากฐานราก คนไทยชักหน้าไม่ถึงหลัง รายได้เท่าเดิมแต่หนี้สินเพิ่มขึ้น
.
ไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า
หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80% คนจนมีโอกาสเรียน ป.ตรีแค่ 3%
เมื่อพิจารณาในส่วนของผู้ที่มีรายได้มากที่สุดแตกต่างจากผู้ที่มีรายได้น้อยสุดกว่า
20 เท่า โดยมีกลุ่มคนชนชั้นกลางอยู่ประมาณ 35%
สะท้อนถึงการกระจุกตัวของรายได้ในกลุ่มบน
และการแบ่งปันผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงไปสู่คนกลุ่มล่าง
แม้ดูจะดีขึ้นจากปี 2550-2561 แต่จำนวนคนยากจนในปี 2560-2563
มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าจำนวนคนจนจะเพิ่มขึ้นมาในช่วง 3 ปีหลัง
.
[[[ โกง-จน-เจ๊ง]]]
.
ธนาคารโลกระบุถึงสาเหตุหลักที่เศรษฐกิจไทยถดถอย คือ
ปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐบาล [3] นำไปสู่
'ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุน'
ซึ่งเป็นปัญหาการขับเคลื่อนจีดีพีตามหลักเศรษฐศาสตร์
โดยเฉพาะปัญหาธรรมาภิบาล หรือการทุจริต
มีปัญหาทั้งภาคราชการและฝ่ายการเมือง
นำไปสู่ปัญหาเกี่ยวเนื่องที่ไทยกำลังเผชิญ คือ การโกงงบประมาณ
ความเหลื่อมล้ำ หรือการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน
.
'ผู้นำบ้าอำนาจ'
คือเหตุผลที่ธนาคารโลกประจานไทยว่าเป็นต้นตอของการคอร์รัปชั่นในยุครัฐบาลประยุทธ์
เนื่องจากคนที่เข้ามามีอำนาจและมีหน้าที่ทางการเมืองไม่สามารถประนีประนอม
(compromise)
และหาจุดร่วมกันได้เพื่อนำพาประเทศให้ดีขึ้นได้ตามนโยบายที่ตนวางไว้
ผลคือในสายตาต่างประเทศ ประเทศเรามีปัญหาสนามแข่งขันที่ไม่ตรงหรือเอียง
(Unlevel Playing Field) ระหว่างบริษัทไทยขนาดเล็ก บริษัทต่างชาติ
เทียบกับบริษัทไทยขนาดใหญ่
.
เห็นได้จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้าง
การให้สัมปทานสิทธิในการใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่จัดสรรโดยรัฐมักจะไม่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศในธุรกิจนั้นๆ
เข้าแข่งขัน
ผู้ได้สัมปทานจะเป็นบริษัทใหญ่ของประเทศกับบริษัทแนวร่วมต่างชาติที่จัดตั้งขึ้น
ผลคืออำนาจทางเศรษฐกิจของบริษัทใหญ่นับวันจะมากขึ้น
ผลวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2562 ชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ 5%
แรกของประเทศมีสัดส่วนรายรับสะสมสูงถึง 85% ของรายรับทั้งหมด
มีส่วนแบ่งยอดขายมากถึง 46% และสัดส่วนกำไรกว่า 60%
อำนาจทางธุรกิจแบบนี้ไม่จูงใจให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าแข่งขัน ขณะที่ผู้บริโภคเสียประโยชน์
.
อ้างอิง

[1] https://www.posttoday.com/finance-stock/news/639770
[2] https://www.matichon.co.th/economy/news_2359806
[3] https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/910375

Wednesday, July 10, 2019

เอาล่ะสิ'กอร์ปศักดิ์'แฉ 5 ปีรัฐบาลคสช.สร้างหนี้ 2 ล้านล้านบาท!

เอาล่ะสิ'กอร์ปศักดิ์'แฉ 5 ปีรัฐบาลคสช.สร้างหนี้ 2 ล้านล้านบาท!


    
  

10 ก.ค.62 - นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  โพสต์ข้อความลงบนทวีตเตอร์ระบุว่า "ชวนดูตัวเลขการใช้เงินภาษีของรัฐบาลคสช.ช่วงปีงบประมาณ 2561 (ตุลา60-กันยา61)ครับ.. รัฐขอกู้เงิน 450,000ลบ.เพราะรายได้ไม่พอรายจ่าย  สุดท้ายรัฐปิดหีบไม่ลง ต้องกู้อีก 100,358.10 ล้านบาท ส่วนของปีนี้ได้ขอกู้ไว้ 450,000 ลบ.เช่นกัน อีก 2 เดือนก็จะปิดหีบงปม.แล้ว ทายซิว่าจะขอกู้เพิ่มอีกไหม

นายกอร์ปศักดิ์ โพสต์ด้วยว่า

สถิติการสร้างหนี้ของรัฐบาลคสช. 
58-250,000
59-390,000
60-450,000
61-450,000 + 100,358.1= 550,358.1
62-450,000 + ?????
รวมสร้างหนี้ 2,090,358.1 ล้านบาท(2 ล้านล้านบาท)
รัฐบาลใหม่จะทำลายสถิติรัฐบาลเก่าไหมหนอ


Sunday, March 3, 2019

หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

อยากให้พี่น้องลองพิจารณาปรากฎการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ตลอดช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ แล้วดูว่าการต่อสู้โดยประชาชนเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมนั้น จะยึดหลักใด ผมเสนอหลักสำหรับแนวทางปฏิวัติแบบมดแดงล้มช้างเพื่อให้ท่านใช้ประกอบการตัดสินใจว่าจะทำอะไรในแต่ละวัน ระยะเฉพาะหน้า ระยะกลาง และระยะยาว
หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพของประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง การใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม การยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติ
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือเผด็จการทรราชย์ของคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด
piangdin
2011

สังคมอเมริกัน มีลักษณะพื้นฐาน สำคัญ ๆ อย่างไรบ้าง? โดย ดร.​ เพียงดิน รักไทย

 

สังคมอเมริกัน มีลักษณะพื้นฐาน สำคัญ ๆ อย่างไรบ้าง?  โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 

https://youtu.be/QPQpjA1__ws