PPD's Official Website

Saturday, January 9, 2016

'สุรพงษ์' พร้อมประสาน 'ทักษิณ' ช่วยแก้เศรษฐกิจ

'สุรพงษ์' พร้อมประสาน 'ทักษิณ' ช่วยแก้เศรษฐกิจ


https://www.facebook.com/warina.p/posts/1209244432423608
====================================================
"สุรพงษ์" เย้ยพร้อมประสาน "ทักษิณ" หากรัฐบาลอยากได้คำแนะนำการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ กรณีลดค่าเงินหยวน-พิพาทซาอุฯกับอิหร่าน

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนฟังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พูดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับไทย สืบเนื่องมาจากการลดค่าเงินหยวนในจีน และจากกรณีพิพาทระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่าน ตลอดจนการที่สหรัฐประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะส่งผลกระทบกับค่าเงินบาทและ เศรษฐกิจของไทยในปี 2559 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็รู้สึกเป็นห่วง มากว่า ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้จะมีความสามารถรับมือได้ไหวหรือไม่ การค้าขาย การลงทุน และการส่งออกของไทยคงจะได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างหนัก ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยพูดเรื่องนี้ก่อนสิ้นปี 2558 ว่า ให้ไทยระมัดระวังเรื่องนี้ และก็ปรากฏว่ามีพวกอวดดีอวดเก่งได้ออกมาตำหนินายทักษิณในตอนนั้น วันนี้ก็ต้องออกมายอมรับความจริงกันแล้วว่ามันกำลังจะเกิดเหตุการณ์อย่างที่ นายทักษิณได้คาดการณ์เอาไว้

ทั้งนี้ หากรัฐบาลอยากจะรู้วิธีการรับมือในเรื่องนี้ และจะแก้ปัญหาในอนาคตอย่างไรเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยพังพาบลงไป ตนก็พร้อมที่จะประสานนายทักษิณเพื่อขอคำแนะนำจากนายทักษิณ เชื่อว่าท่านคงจะให้คำชี้แนะที่เป็นประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้เรา ได้ รัฐบาลน่าจะเปิดใจกว้างรับฟังนายทักษิณบ้าง เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่านก็ล้วนเป็นห่วงและรักประเทศชาติกันทุกคน การเปิดใจรับฟังในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเสียหาย นอกจากบางคนอาจจะมีทิฐิในตัวเองจนไม่ฟังใคร และหลงคิดว่าตัวเองเก่งกาจจนบ้านเมืองเสียหายไปก็เป็นได้ จะได้รู้ตัวเองเสียบ้าง

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าพวกเราจำกันได้ ในปี 2543 เมื่อครั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง นายทักษิณก็เป็นนายกฯ ที่เข้ามาหาเงินใช้หนี้ไอเอ็มเอฟปลดหนี้สินให้คนไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากรัฐบาลชุดก่อนๆ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ประสบผลสำเร็จ ท่านช่วยให้คนไทยลืมตาอ้าปากได้ ท่านนำพาประเทศไทยพ้นวิกฤติ วันนี้ตนเชื่อว่าพวกเราคงต้องการความรู้และประสบการณ์จากนายทักษิณอีกครั้ง หนึ่ง

No comments:

Post a Comment