PPD's Official Website

Showing posts with label ประยุทธ์ จันทร์โอชา. Show all posts
Showing posts with label ประยุทธ์ จันทร์โอชา. Show all posts

Friday, May 1, 2015

พระไพรวัลย์ เตือนสติ ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)

พระไพรวัลย์ เตือน ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)





พระไพรวัลย์ อัด ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)

พระไพรวัลย์ อัด ประยุทธ์ "อย่าบ้าอำนาจ" "เลิกดูถูกคน เป็น ขยะ" (จอม เพชรประดับ)





Friday, April 24, 2015

ชาวบ้านชมประยุทธ์ "พูดได้ พูดดี" อิ ๆ

ต้อนรับวันศุกร์ พอดีเห็นชาวบ้านเขาคุยกัน เลยแอบถ่ายมาฝากผู้นำ เผื่อรับฟังที่มา>หนึ่ง ชาวนา สุพรรณ

Posted by กูเป็นกลางจริงๆนะ on Friday, April 24, 2015

Sunday, April 19, 2015

กบฏตู่ ปลดข้าราชการประจำ ล็อตแรก ไม่เห็นมีใครว่า รังแกข้าราชการประจำ นกหวีดอยู่หนายยยย....

กบฏตู่ ปลดข้าราชการประจำ ล็อตแรก ไม่เห็นมีใครว่า รังแกข้าราชการประจำ นกหวีดอยู่หนายยยย....
วันที่ 17 เม.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖/๒๕๕๘ เรื่อง การกำหนดตำแหน่งเพิ่มและการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง ระบุว่า

เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาและการบริหารราชการในกระทรวงศึกษาธิการมีประสิทธิภาพ และมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

1. ให้ นางสุทธศรี วงษ์สมาน พ้นจากตำแหน่ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และให้
ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา

2. ให้ นายพินิติ รตะนานุกูล พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา และให้
ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา

3. ให้ นายกำจร ตติยกวี พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
และให้ดำรงตำแหน่ง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

4. ให้ นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร พ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริม
การศึกษาเอกชน และให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

5. ให้ นายอดินันท์ ปากบารา พ้นจากตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน

6. ให้ นางรัตนา ศรีเหรัญ พ้นจากตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน และให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

7. ให้ข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งข้างต้นปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้
ใช้บังคับเป็นต้นไป

โดยให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนสำนักงบประมาณและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วนและให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งหรือพ้นจากตำแหน่งตามคำสั่งนี้ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา๒๔ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557

คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 16 เมษายน พุทธศักราช 2558

ฝากให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่คือตัวอย่างของการเป็นผู้นำในระบอบประชาธิปไตย!!

 

ฝากให้ประยุทธ์ จันทร์โอชา นี่คือตัวอย่างของการเป็นผู้นำในระบอบประชาธิปไตย!!
การรับฟัง การยอมให้ประชาชนได้พูด การไม่ก้าวร้าว การไม่วางอำนาจบาตรใหญ่
และการอยู่กับประเด็นด้วยสติ และปราศจากการยอมให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวออกหน้าแทนเหตุผล และการเปิดใจบนหลักการการเคารพและรับฟังซึ่งกันและกัน และนี่คือสิ่งที่ผู้นำโลกอารยะ
และมนุษย์ที่พัฒนาแล้ว เขาทำกัน





Saturday, April 18, 2015

รวบรวมอาการปรอทแตก ของประยุทธ์​ จันทร์โอชา



รวบรวมอาการปรอทแตก ของประยุทธ์​ จันทร์โอชา

Friday, April 10, 2015

"ประยุทธ์" ลั่นมือฆ่า กปปส.ชุดเดียวกับที่ยิงม็อบแดงปี 53 เหน็บเป็นฝ่ายค้านหรือ รบ.ก็ยังทำแบบเดิม (Credit Manager Online)


ขอบันทึกคำพูดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไว้สำหรับการวิเคราะห์เชิงวิชาการในอนาคตนะครับ


ขอบคุณเมเนเจอร์ออนไลน์ ที่บันทึกถ้อยคำที่เป็นประวัติศาสตร์ที่ลูกหลานควรเอาไปศึกษาในอนาคตครับ




"ประยุทธ์" ลั่นมือฆ่า กปปส.ชุดเดียวกับที่ยิงม็อบแดงปี 53 เหน็บเป็นฝ่ายค้านหรือ รบ.ก็ยังทำแบบเดิม 
10 เมษายน 2558 21:26 น.
       “ประยุทธ์” ลั่นมือฆ่าม็อบ กปปส. ชุดเดียวกันกับที่ทำร้ายเสื้อแดงปี 53 เหน็บไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ทำแบบเดิม จวกสื่อเลือกข้างหมดแล้ว เผยเรียกมาเตือน 2 - 3 แห่ง ฐานบิดเบือนข้อเท็จจริง แจงไม่ได้ให้ฝรั่งมาจุ้นเขียนรัฐธรรมนูญ แค่ขอข้อมูลเพิ่มเติม ย้ำคนไทยต้องอดทนหากต้องการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
     
       วันนี้ (9 เม.ย.) เมื่อเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ว่า ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ กลับไปหาพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้มีพระคุณ สวดมนต์ไหว้พระขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต และยังวันที่สำคัญต่อสถาบันครอบครัว ทั้งวันผู้สูงอายุแห่งชาติในวันที่ 13 เม.ย. และวันครอบครัวในวันที่ 14 เม.ย.ด้วย รัฐบาลมีความห่วงใยในเรื่องของการเดินทาง ทั้งในส่วนของทางบก ทางเรือ ทางอากาศ โดยมีการรณรงค์ผ่านโครงการ “แล้งนี้ ไม่แล้งน้ำใจ ขับขี่ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ลดการใช้โลหิต” เพื่อให้เราท่องเที่ยวกันโดยไม่มีการสูญเสียเหมือนกับทุกๆปีที่ผ่านมา รวมไปถึงการรณรงค์ให้ประชาชนเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ตามวิถีปฏิบัติอย่างเหมาะสม เช่น การแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ล่อแหลม กริยาไม่สุภาพ และร่วมกันทำให้ต่างชาติประทับใจ
     
       พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารับบาลไทยได้มีโอกาสชต้อนรับนายกรัฐมนตรี ดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และคณะ ในการเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 25 ปีของนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยถึงการยกระดับความร่วมมือกันในทุกมิติ โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจภาครัฐจำนวน 5 ฉบับ และของภาคเอกชนอีก 5 ฉบับ ทั้งเรื่องการลงทุน พลังงาน วัฒนธรรม ท่องเที่ยว และเรื่องการต่อต้านยาเสพติด นอกจากนี้ยังได้พูดคุยถึงการผลักดันการค้าทวิภาคีเติบโตขึ้นจาก 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี เป็น 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปีหน้า ด้วยการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน และอำนวยความสะดวกทางการค้า ก็ได้เสนอให้ทางรัสเซียพิจารณานำเข้ายางพารา และสินค้าเกษตรอื่นๆ รวมทั้งได้เชิญชวนรัสเซียให้เข้ามาร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยด้วย
     
       “สำหรับข้อตกลงอื่นๆ กับประเทศอื่นๆ เราก็จะเร่งรัดขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม แล้วก็ให้ความเป็นธรรมกับประเทศ มิตรประเทศเหล่านั้นด้วย เราพร้อมจะเป็นมิตรกับทุกประเทศในโลกนี้ เราใช้หลักการคือพื้นฐานแห่งความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง และมีผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ทุกประเทศมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ประเทศเล็ก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
     
       นายกฯยังได้กล่าวถึงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรด้วยว่า ปัจจุบันกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น จึงไม่อยากให้ไปตำหนิติเตียนกันหรือสร้างความขัดแย้งกัน แต่ก็เป็นเรื่องน่าดีใจที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด สิ่งที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งการเข้าสู่อำนาจ หรือที่มาของรัฐบาล ซึ่งก็มีการนำรัฐธรรมนูญของต่างประเทศมาพิจารณา เพื่อแก้ไขปัญหาของเรา และทำให้เกิดการปฏิรูป ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก ให้เกิดการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็ได้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของต่างประเทศที่เคยเกิดความขัดแย้งจนนำไปสู่การรัฐประหาร มาให้ข้อมูลเพื่อศึกาว่าเขาใช้ระยะเวลานานขนาดไหนในการแก้ไขปัญหา
     
       “มีหลายคนมาต่อว่าผม ว่าไปเอาคนอื่นมายุ่ง ท่านน่ะไปเอามายุ่งมากกว่าผม ท่านเอามาวิจารณ์มาว่าประเทศมาใช้กฎหมาย ใช้อะไรต่างประเทศมาใช้กำลัง ไอ้นั่นน่ะหนักยิ่งกว่าผมนะจะบอกให้ ผมเอามาเพื่อศึกษาเขาเท่านั้นเอง ไม่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญของเรา บ้านเราคือบ้านเรา แต่เราจะถามเหตุผลของเขาว่าทำไมเขามีอย่างนั้น จะได้รู้ว่าทำไมเขาถึงมี แล้วเราจะมีบ้างได้ไหม” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
     
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของการเดินหน้าประเทศ โดยรัฐบาล และ คสช.ก็ได้เข้ามาทำหน้าที่เกือบครบ 1 ปี มีความก้าวหน้าตามลำดับระยะต้น และระยะกลาง ในช่วง 1 ปีแรก กับช่วงของรัฐบาลอีก 1 ปี รวมกันแล้วก็ 2 ปีเท่านั้น เราต้องเดินหน้าประเทศไปสู่การปฏิรูปให้ได้ วางแผนการปฏิรูปพื้นฐานให้ได้ มีกลไกทำให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง เป็นรูปธรรม การร่างรัฐธรรมนูญก็ต้องไปดูว่าจะทำอย่างไรให้เป็นเช่นนั้นได้ หรือกฎหมายลูก หรือว่าบทเฉพาะกาลต่างๆ โดยประชาชนจะต้องยอมรับ ถ้าไม่ยอมรับกัน ประเทศก็ถอยหลังกลับที่เดิม ส่วนการเลือกตั้งต้องให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส มีนักการเมืองที่ดี มีธรรมาภิบาล มีคุณธรรมจริยธรรม
     
       “วันนี้ทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกคนเขามีความตั้งใจ มีความกระตือรือร้นอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ได้อย่างที่ผมพูดนี่ แต่แน่นอนต้องมีความขัดแย้งมีคนไม่เห็นด้วยต่างๆ ผมต้องใช้เวลาในการสร้างความรับรู้ให้ได้ ให้เร็วที่สุดนะ เพื่อประเทศชาติ และประชาชน” นายกฯกล่าว
     
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้นไม่ได้มาเปล่าๆ ทุกคนต้องอดทน ต้องช่วยเหลือกัน แล้วมีมาตรการที่ทำให้เกิดเอื้ออำนวยต่อการปฏิรูปให้ได้อย่างแท้จริง ทุกภาคส่วนต้องเข้มแข็ง ไม่มีความเหลื่อมล้ำ เข้าถึงกฎหมายความยุติธรรมทุกคน แต่มาวันนี้พอตนใช้อำนาจทางกฎหมาย ก็ออกมาบอกว่า ไปปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ โดยไม่ได้ดูว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีการประท้วงจนบริหารประเทศไม่ได้ แล้วเมื่อมีการประท้วง แล้วใครใช้อาวุธสงครามยิงใส่คนที่มาประท้วง ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 53 พอปี 56-57 ก็เป็นฝีมือของกลุ่มเดิมอีก
     
       “เมื่อมีการประท้วงแล้วใครใช้อาวุธสงครามยิงตอบคนที่เขามาประท้วง มันก็เกิดอย่างนี้ ปี 53 ก็ชุดเดิมพอปี 56-57 ก็ชุดเก่าอีกแหละ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้านก็ทำแบบเดิม นี่สังคมเข้าใจซะบ้างนะ ฟังอยู่ได้ อย่าไปฟังเขา ตามสื่อวิทยุโทรทัศน์ วันนี้ผมต้องปิดสถานีวิทยุ 6 พันกว่าแห่ง ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่เคยปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะสนับสนุนฝ่ายนักการเมือง เป็นของนักการเมืองซะส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยดี ไอ้ที่ดีอย่าไปพูด ผมไม่ได้ว่าทุกคน คนดีๆเยอะแยะไป นะ ผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ใครรู้ตัวว่าดี ผมไม่ได้ว่าท่าน ถ้าใครรู้ตัวว่าไม่ดี ผมว่าท่าน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
     
       นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลนี้ประชานิยมมากกว่าในอดีต ซึ่งตนไม่เข้าใจว่ามากกว่าตรงไหน ที่นำเงินไปให้สวนยาง ชาวไร่ ก็เป็นการช่วยปัจจัยการผลิต แต่ไม่ได้ไปรับซื้อของ ปล่อยให้เป็นเรื่องของระบบสหกรณ์ แล้วใช้งบประมาณน้อยกว่ามหาศาล ส่วนการขึ้นเงินเดือนข้าราชการก็เพราะไม่ได้ขึ้นมานาน และก็ขึ้นจำนวนไม่มาก ขณะที่เกษตรกรก็มีการใช้งบประมาณเป็นแสนล้าน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกภาคส่วน ดูแลทุกคนให้ทั่วถึง ปัญหาที่ผ่านมาคือ การเมืองเข้าไปบิดเบือนทุกอย่าง ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยไปโต้แย้งกับรัฐบาลเลย สั่งการสิ่งใดก็ปฏิบัติ
     
       “ในเรื่องของการดูแลพี่น้องเกษตรกร บอกว่าการประชานิยมในสมัยที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องของให้ความเป็นธรรมแก่ราษฎร ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผมถามว่ามีดีขึ้นไหม ตอนนี้ชาวนาเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือยังมากเหมือนเดิมหรือเปล่า วันนี้ชาวนาเป็นหนี้มากขึ้น ไหนบอกว่าดีขึ้นไง ดีขึ้นต้องหนี้ลดลง” หัวหน้า คสช.กล่าว
     
       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนด้วยว่า สื่อต่างๆเลือกข้างทั้งหมด สัปดาห์ที่ผ่านมามีเตือนกัน 2-3 สถานี เพราะพูดในสิ่งที่โกหก ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งก็เคยเตือนไปแล้ว จึงอยากให้ระมัดระวัง เดี๋ยวจะหาว่าไปละเมิดสิทธิสื่อด้วย ทุกคนรู้ดีแก่ใจ ว่าใครถูกใครผิด อย่ามาโกหก บิดเบือนกันอีกต่อไป
     
       คำต่อคำ : รายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" วันที่ 10 เมษายน 2558
     
       สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดของเทศกาลสงกรานต์ของคนไทย และเป็นวันที่สำคัญต่อสถาบันครอบครัวด้วย วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน และวันครอบครัวไทย 14 เมษายน ผมขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยได้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ กลับไปหาพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย รดน้ำดำหัวขอพรจากผู้มีพระคุณ สวดมนต์ไหว้พระ ขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตด้วย
     
       รัฐบาลมีความห่วงใยในเรื่องของการสัญจรไปมา การเดินทาง ทั้งในส่วนของทางบก ทางเรือ ทางอากาศ ก็ตาม ก็เป็นห่วง เราได้มีการรณรงค์ผ่านโครงการ แล้งนี้ไม่แล้งน้ำใจ ขับขี่ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์ ลดการใช้โลหิต คือหมายความว่าอย่าให้ต้องมีการท่องเที่ยวกันแล้วเสียเลือดเนื้อ ต้องมีการใช้การบริการเลือดเป็นจำนวนมาก เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ก็อยากให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขทั่วหน้า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานส่วนท้องถิ่น อปพร. อาสาสมัคร ตำรวจ ทหารที่เสียสละเวลาทุ่มเทแรงกายในห้วงวันหยุดยาว เพื่อจะดูแลความปลอดภัย ดูแลบ้านให้กับประชาชน การบริการจัดจุดพักรถพักสายตา จุดบริการประชาชน ซ่อมยานพาหนะ มีการบริการทางการแพทย์ การตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ ตั้งป้ายจราจร ป้ายบอกทาง และเส้นทางลัดอื่นๆ จะช่วยให้ทุกคนกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย บรรดาคนขับรถสิบล้อ พนักงานขับรถสาธารณะพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ ไม่ดื่มสุรา เพราะว่าชีวิตทุกคนนั้นฝากไว้กับท่าน ลองดูว่าเราจะขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย มีความสุข ลดอันตรายต่อชีวิตตนเองและผู้อื่น ท่านจะต้องทำให้เรารู้สึกว่า ประเทศชาติของเรานั้น น่าอยู่ขนาดไหน นอกจากนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมดีงามของไทย รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ได้มีการรณรงค์โครงการให้ประชาชนเล่นน้ำในประเพณีสงกรานต์ตามวิถีปฏิบัติอย่างเหมาะสม เช่นการแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย ไม่ใส่เสื้อผ้าที่ล่อแหลม กิริยาไม่สุภาพ ไม่ใช่วัฒนธรรมของเรา และก็ให้ต่างชาติประทับใจ พร้อมทั้งรณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไหมผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง เสื้อลายดอก ต้องขอความร่วมมือในการงดจำหน่ายสุราด้วยนะครับ งดดื่มเครื่องดื่มมึนเมา ในบริเวณที่จัดกิจกรรมงานสงกรานต์ ก็ขอความร่วมมือกับประชาชนที่เล่นน้ำว่าต้องไม่ให้มีสิ่งเจือปน แป้ง น้ำแข็ง รวมทั้งงดการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง อย่าให้ผิดกฎหมาย หรืออุปกรณ์เล่นน้ำอื่นที่ทำให้เกิดอันตราย รวมถึงไม่ขับรถกระบะบรรทุกน้ำไปในที่ชุมชนหรือบริเวณจัดงานนะครับ โดยรณรงค์ให้ใช้ขันน้ำตามประเพณีดั้งเดิม การส่งเสริมภาพลักษณ์เรื่องการแสดงกิจกรรมที่เหมาะสม ในการเล่นน้ำงกรานต์ งดการแสดงหรือการต้นที่ไม่เหมาะต่อวัฒนธรรมไทย อย่างเช่นที่ผ่านมาทุกครั้ง ก็จะมีบุคคลเหล่านี้อยู่ เพราะฉะนั้นขอให้มีการกำหนดเวลาการเล่นน้ำที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการจราจร และป้องกันการเกิดอาชญากรรมในยามวิกาลด้วย
     
       ช่วงนี้อากาศร้อน เรามีความเสี่ยงในเรื่องพายุฤดูร้อน 2-3 ครั้งที่ผ่านมา ก็มีอันตรายเกิดขึ้น เราก็ได้เตือนไปแล้วแต่ยังมีจุดบกพร่องอยู่ เพราะฉะนั้นหลายพื้นที่ของประเทศจะประสบปัญหาฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตก ผมขอให้พี่น้องทุกคนรักษาสุขภาพ ในส่วนของรัฐบาลผมได้สั่งการให้ทุกกระทรวงตรวจสอบความเสี่ยง ดำเนินมาตรการป้องกันเชิงรุก เช่น การตรวจสอบ แก้ไขโครงสร้างของป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ริมทาง ไม่ให้เกิดความเสียหาย โค่นล้มลงมา มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเตรียมคนและเครื่องมือให้พร้อมสำหรับความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เยียวยา เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วอย่างทันที ช่วยกันดูแลนะครับ
     
       รวมความไปถึงเรื่องขยะ ขณะนี้ก็มีปัญหาในเรื่องการระบายน้ำ ท่อระบายน้ำเต็มไปด้วยขยะ ซึ่งเราก็คงโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ผมได้รับรายงานว่า ในแต่ละวันคลองบางคลองที่มีเครื่องมือในการกำจัดขยะรวบรวมขยะในแต่ละวันมีขยะที่เป็นถุงพลาสติก หรือของที่มันทำให้ท่ออุดตันเป็นจำนวนมาก วันละประมาณ 30 ตัน อุดตันทำให้ระบายน้ำไม่ออก ส่วนใหญ่จะเป็นคลองที่มีประชาชนอยู่อาศัยตามแนวคลองทั้งสิ้น จะทิ้งลงไปในคลองบ้าง หรือแม้แต่ขยะตามบ้านเรือนก็ตาม ทิ้งลงไปไหลไปอุดท่อที่น้ำจะลงไปในท่อใหญ่ มันก็เกิดปัญหาหมด น้ำก็ท่วม ถ้าไม่ช่วยกันแบบนี้ก็ไปไม่ไหว รัฐบาลก็ทำไม่ไหว ก็อย่าโทษกันไปมาแล้วกัน มาร่วมมือกันทำ
     
       สำหรับในเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ เมื่อวันพุธที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานั้น มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรี นายดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และคณะ ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล นับเป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของนายกรัฐมนตรีรัสเซีย
     
       ทั้งนี้ รัสเซียกับไทยนั้น เป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาอย่างยาวนานเกือบ 120 ปีแล้ว ปัจจุบันก็ประมาณ 118 ปี 2560 จะครบ 120 ปี ในการเดินทางมาไทยครั้งนี้ จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดให้มากขึ้น ยาวนานแต่ค่อนข้างที่จะมีความสัมพันธ์กันในแต่ละมิตินั้นค่อนข้างจะน้อย วันนี้เราจะต้องเพิ่มกันให้มากขึ้น ก็จะเป็นการยกระดับความร่วมมือในทุกมิติ บนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยผมและท่านนายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟ ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามในเอ็มโอยูภาครัฐ 5 ฉบับ จะครอบคลุมในเจตนารมณ์ของเรา ของผู้นำสองประเทศ และของสองประเทศนั้นด้วยเรื่องของการลงทุน เรื่องพลังงาน เรื่องวัฒนธรรม เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องการต่อต้านยาเสพติด ซึ่งผมก็เรียนให้พี่น้องทราบพอสังเขปไปบ้างแล้ว ก็จะเพิ่มเติมในเรื่องด้านเศรษฐกิจดังนี้ เราจะร่วมกันผลักดันให้การค้าทวิภาคีเติบโตขึ้นจาก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ให้เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีหน้า โดยการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน การลดอุปสรรค และอำนวยความสะดวกทางการค้า ผมได้ขอให้นายกรัฐมนตรีรัสเซียได้พิจารณานำเข้ายางพารา สินค้าเกษตรอื่น ๆ และอาหาร เช่น ข้าว เนื้อหมูแช่แข็ง ผักและผลไม้สด รวมทั้งได้เชิญชวนรัสเซียให้เข้ามาร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ของไทย ตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนผู้ประกอบการของไทยก็มีความสนใจจะไปลงทุนในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอาหารในรัสเซียเพิ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายจะอำนวยความสะดวกให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ แก่นักลงทุน ภาคเอกชนอย่างเต็มที่
     
       ในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัสเซียปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าในด้านนี้สูงกว่าเรามากนะครับ ?ทั้งในด้านการศึกษาและการวิจัย และการนำผลวิจัยมาผลิตเป็นสินค้า เราจะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กับ ศูนย์นวัตกรรสโคลโกโว อินโนเวชั่น เซนเตอร์ (Skolkovo Innovation Center) นอกจากนั้นยังเห็นพ้องหลายๆ เรื่องนะครับ เช่น การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ การแพทย์ และอวกาศ การสานต่อความร่มมือในด้านการส่งเสริมธุรกิจปิโตเลียมและการพัฒนาบุคลากรในด้านนี้ และการร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางอีกด้วย แนวทางในการสานต่อความร่มมือต่อไปอย่างยั่งยืน และเป็นที่หน้ายินดี คือ มอสโก รีเจียน สเตด ยูนิเวอร์ซิตี (Moscow Region State University) กับวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการพัฒนาหลักสูตรมัคคุเทศก์และภาษารัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความตกลงของภาคเอกชนอีก 5 ฉบับ เกี่ยวกับความร่วมมือภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย ในด้านหนึ่ง คือ การสำรวจตลาดและกระจายสินค้ารัสเซียในไทย สอง คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจ สาม ความร่วมมือด้านการลงทุนในประเทศที่สาม สี่ ความร่วมมือด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมนำทาง ห้า ความร่วมมือด้านการศึกษาในสาขาการบริหารจัดการท่องเที่ยวและการโรงแรม คือต้องเพิ่มทั้งสองด้าน ทั้งเราไปเขา และเขามาเราด้วย ทั้งหมด ทุกประเด็น
     
       ทั้งนี้ ผมได้สั่งการให้ขยายผลความร่วมมือดังกล่าวไปสู่แผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม ให้เร่งดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมทวิภาคีไทย-รัสเซีย ซึ่งเราจะมีการประชุมในกลางปีนี้ ก็ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อน เราจะได้ก้าวหน้าโดยทันที ไม่ใช่ต้องรอประชุมกันอีกครั้ง และต้องมาสั่งกันอีกครั้ง ไม่เอา ผมได้ตกลงกันท่านแล้วว่า ในระหว่างที่ก่อนจะประชุม หาข้อมูล หาข้อยุติให้ได้เรียบร้อย แล้วจะได้ดำเนินการได้ทันที
     
       สำหรับข้อตกลงอื่นๆ กับประเทศอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน เราก็จะเร่งรัดขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม และตรงความต้องการของเรา แล้วก็ให้ความเป็นธรรมกับมิตรประเทศเหล่านั้นด้วย เราพร้อมจะเป็นมิตรกับทุกประเทศในโลกนี้ เราใช้หลักการคือ พื้นฐานแห่งความไว้วางใจ ลดความหวาดระแวง และมีผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกัน ทุกประเทศมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ หรือประเทศเล็ก
     
       ในเรื่องของภาพรวมทางเศรษฐกิจ วันนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงทรงตัวอยู่ ตลาดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป เศรษฐกิจยังหด อัตราการว่างงานสูง เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัวนะครับ เศรษฐกิจจีนชะลอการขยายตัวลงบ้างเล็กน้อย และเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ชะลอตัวเช่นเดียวกัน อันนี้มันเป็นทุกประเทศนะครับ ทุกประเทศก็พยายามจะแก้ไขปัญหาอยู่ ประเทศไทยอาจจะเผชิญมากหน่อย เพราะเราต้องพึ่งพาต่างประเทศ อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำไป วันนี้เราต้องผลิตเองใช้เอง และเพิ่มมูลค่าของสินค้าต่างๆ เหล่านั้น ให้มีราคาสูงขึ้นเพื่อเป็นรายได้ของประเทศ หากเราไม่แข็งแรงพอ เราก็ต้องนำเข้าสินค้าอื่นๆ เขาเข้ามา ก็ทำให้มูลค่าของสินค้านำเข้าสูงขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าส่งออกของเราก็ส่งได้น้อยลง ราคามันตกต่ำ โดยเฉพาะสินค้าด้านเกษตรกรรรม อันนี้ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย มันไม่สามารถจะถ่วงดุลกันได้
     
       เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเราซับซ้อน เราต้องสร้างความเข้มแข็งก่อน วันนี้เศรษฐกิจของเราก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองของต่างประเทศ ในประเทศก็ต้องพยายามเข้าใจกัน ต่างประเทศเขามองเราอย่างไร ขณะนี้ก็มีบริษัทจัดลำดับของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ อาทิเช่น บริษัท เจแปน เครดิต เรทติ้ง เอเยนซี่ (JCR) ของญี่ปุ่น ได้ประกาศความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลไทย โดยปรับมุมมองจากลบเป็นมีเสถียรภาพ
     
       สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค กระทรวงพาณิชย์ รายงานเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมว่า ราคาสินค้าในภาพรวมลดลงร้อยละ 0.57 บางอย่างมันก็ลดมากลดน้อยก็ถัวเฉลี่ยกันไป หรือต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่งถูกลง เราก็เข้าไปควบคุมดูแลด้วย ถ้าต้นทุนมันไม่ได้เพิ่มขึ้นมันไม่สมควรที่จะขึ้นราคา ถ้าขึ้นราคามันต้องดำเนินการต่อไปในทางกฎหมายบ้าง ต้องขอร้องกัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าราคาเชื้อเพลิงจะถูกลง ก็ต้องประหยัดกัน ประหยัดการใช้พลังงานบ้าง ก็จะช่วยลดการทำให้โลกร้อนด้วย
     
       ในภาคอุตสาหกรรม ล่าสุดผมได้รับรายงานว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ ระดับที่สูงที่สุดในรอบ 23 เดือน เนื่องจากการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร การกลั่นน้ำมัน รถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวดี อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ส่งสัญญาณที่ดี ดูจากการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวกว่าร้อยละ 11.3
     
       นอกจากนี้ ยอดการจองรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ที่เพิ่งจะผ่านไปจำนวน 37,000 คัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลขจะน้อยลง แต่ก็เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท แสดงว่าคนไทยก็ยังมีสตางค์ และซื้อรถยนต์ที่มีราคาสูงขึ้น ถึงแม้ว่ารถยนต์ขนาดเล็กราคาถูกจะน้อยลง อันนี้ต้องดูว่าดีมานด์ มันเป็นดีมานด์แท้หรือเทียม ในช่วงที่ผ่านมา ฉะนั้นราคาที่ค้าขายรถยนต์ในปีนี้คนดูมากขึ้น ขายรถน้อยลง แต่เม็ดเงิน 46,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา
     
       ในภาคเกษตรกรรม รัฐบาลต้องการสร้างความเข้มเเข็ง ให้เกษตรกรไทยมีความมั่นคงในอาชีพอย่างยั่งยืน เราจะเน้นฤดูกาลใหม่นี้ โดยการเข้าไปดูแลทั้งระบบให้เป็นรูปธรรม ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง จากขั้นตอนการผลิต จนถึงการตลาด การบริโภคภายในประเทศ มาตรการในการลดต้นทุนการผลิตนั้น รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการ ให้ลดราคาปุ๋ยเคมี และเรียกบริษัทประกอบการปุ๋ยมาพบ จริงๆ แล้วเราอยากให้ใช้น้อยที่สุด ไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์แต่มันก็จำเป็น เพราะดินบ้านเรามันใช้ปุ๋ยเคมีมานาน และวันนี้ก็ใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวมันก็ไม่ฟื้นนะ ต้องผสมไปก่อนให้มันลดลง และวันไหนไม่ต้องใช้ได้เลยยิ่งดี บางพื้นที่ไม่ต้องใช้ได้ เราต้องผลิตปุ๋ยอินทรีย์ขึ้นมาเอง ขายกันเอง ให้เกษตรกรผลิตหรือรัฐจะผลิตก็ได้ วันนี้ก็ได้สั่งให้กระทรวงเกษตรไปเพิ่มเติมเรื่องการผลิตปุ๋ยอินทรีย์แล้ว ก็เป็นรูปแบบสหกรณ์หรือชุมชน
     
       ในเรื่องสารการกำจัดศัตรูพืชได้มีการผลิตหลายอย่างออกมา ทั้งในส่วนของน้ำยาเคมี ในส่วนของแมลงกำจัดโรค เมล็ดพันธุืที่มีคุณภาพ ราคาถูก และส่งเสริมให้ประชาชน เกษตรกรได้ไปเพาะปลูกที่มันมีราคาที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตามก็ต้องควบคุมนะครับ ไม่ใช่เปลี่ยนพฤติกรรมไปปลูกที่มีราคาแพง ราคาสูง คุณภาพสูงอย่างเดียว และก็ปลูกมากเกินไป ต้องระวังเรื่องข้าวไรซ์เบอรี่เหมือนกันนะ ปลูกกันใหญ่โต มันต้องการแค่ไหน อย่างไร จนล้นตลาดอีก เพราะฉะนั้นต้องแบ่งพื้นที่ชัดเจน แบ่งกลุ่ม สร้างความเข้าใจเกษตรกร ไปดูแล ต้องให้เข้าไปดูว่าพื้นที่ไหนควรจะปลูกอะไรต่างๆ และมาดูว่าเรามีความต้องการกันอย่างไรในประเทศ ต้องการขนาดไหน ที่จะขายต่างประเทศ ที่เหลือควรจะสำรองไว้ไหม กรณีที่ขาดน้ำขาดแคลนน้ำในห้วงฤดูการต่อไป มันต้องมีสำรองไม่ใช่ผลิตอย่างเดียว แล้วก็เก็บ แล้วก็ไปอุดหนุนกันเข้ามา แล้วก็เก็บไว้ในคลัง มันไม่ใช่ความยั่งยืนนะ
     
       เราพูดไปถึงค่าบริการรถเกี่ยว รถตัด รถเกรด ทุกอย่างนะ วันนี้เราต้องใช้เทคโนโลยี แต่ปัญหาก็คือว่า เกษตรกรนั้นไม่มีความสามารถเพียงพอ เป็นแปลงนาขนาดเล็ก ก็ต้องรวมแปลงนาให้มันใหญ่ขึ้น ความหมายก็คือ เอาทุกแปลงมารวมกัน ก็เป็นของใครของมันเหมือนเดิม เพียงแต่มันใหญ่ขึ้น จะได้มีอำนาจในการต่อรองราคาในการใช้เครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ค่าเช่าที่นาก็เหมือนกัน ต้องสำรวจให้ได้ว่ามันเป็นที่นาเช่าหรือที่นาของตัวเอง แล้วเราก็มี พ.ร.บ.การเช่า อยู่แล้ว พ.ร.บ.การทวงถามหนี้สิน อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องร่วมมือกัน ถ้ายังรักษาผลประโยชน์กันเอง นายทุนก็ไม่ยอมเปิดเผย หรือก็ไปให้เกษตรกรได้ไปแสดงตัวกับราชการ หรือกับหน่วยงานแทนตัวเอง แล้วก็รับผลประโยชน์ทั้งสิ้นไป ผมว่ามันไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเกษตรกรคิดว่าจะแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ท่านต้องบอกความจริง ท่านอย่าไปช่วยเขา ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่ให้ท่านเช่าที่ต่อไป เพราะเรามี พ.ร.บ.เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ต้องคุ้มครองทั้งผู้เช่า และผู้ให้เช่า การไม่ให้เช่าที่นั้นมันต้องแจ้งล่วงหน้า ไม่ใช่ไม่ให้ตั้งแต่วันนี้ พอไม่พอใจกันก็ไม่ให้ เพราะฉะนั้นเกษตรกรเขาก็ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย ถ้ามีปัญหาเหล่านี้ ขอให้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรมได้โดยทันที หรือว่าศูนย์การเกษตรใน 800 กว่าแห่ง รับแจ้งไว้ทั้งหมดแล้วผมจะดำเนินการแก้ไขให้โดยทันที ท่านต้องช่วยเรา ท่านอย่าปกปิดซึ่งกันและกัน เอาประโยชน์แต่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งไม่ได้ วันนี้ต้องเผื่อแผ่แบ่งปัน
     
       เรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว และพันธุ์อ้อย พันธุ์มันสำปะหลังอะไรต่างๆ มันต้องแก้ไขหมด เราได้มีการจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเพิ่มเติมอีก 15 ศูนย์ ใน 15 จังหวัด เพื่อจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ รักษาคุณภาพข้าวไทยให้ได้ แล้วในเรื่องของมัน ของอ้อย สับปะรด ก็สั่งให้กระทรวงเกษตรฯ นั้นไปหาพันธุ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะป้อนโรงงานอย่างเดียว อาจจะต้องนำไปสู่การผลิตไบโอดีเซลเพิ่ม เกี่ยวกับเรื่องการที่นำสับปะรดที่มีคุณภาพมารับประทานกัน และส่งออกเป็นผลไม้ส่งออกต่างประเทศ วันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นสับปะรดที่ปลูกส่งโรงงานทั้งสิ้น พอโรงงานเกินความต้องการ คราวนี้ก็ขายใครไม่ได้ เพราะมันกินอร่อยไม่ได้ มันคนละอย่างกัน ก็เร่งให้ปรับพื้นที่ และจัดหาพันธุ์ใหม่ให้ดี
     
       มันสำปะหลังก็ต้องหาพันธุ์ที่มีคุณภาพ หัวใหญ่ ใช้น้ำน้อย ต้องลดพื้นที่ให้ได้ แล้วเพิ่มปริมาณการผลิตให้ได้ ต้องอยู่ในกรอบของดีมานด์ที่เรากำหนดไว้ ไม่อย่างนั้นการผลิตหรือซับพลายมันมากเกินไป ทุกอย่างเลยนะ ทั้งปาล์มน้ำมัน คงต้องสนับสนุนให้ปลูกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก่อนจะปลูกปาล์มน้ำมัน ไปดูว่าขบวนการพร้อมหรือยัง เช่น พลังงาน ต้องไปดูว่า ขบวนการในการผลิตน้ำมันพร้อมหรือยัง จะได้เปลี่ยนจากการปลูกยาง มาเป็นปลูกปาล์ม แล้วนำปาล์มมาผสมน้ำมันปาล์ม และผสมในน้ำมันดีเซล เป็นบี 5 ดี 7 ต่อไปอาจจะเป็น ดี10 ในอนาคต คือผสมถึง 10 % วันนี้ตรงนี้ยังไม่พร้อม ต้องมาเตรียมกระบวนการผลิตตรงนี้ให้ได้ ถ้าได้ราคา ปาล์มก็จะสูงขึ้น ยางก็ลดลง
     
       ฉะนั้นเมื่อเราใช้ในประเทศ เรามีการใช้น้ำมันดีเซลมาก ถ้าเราผลิตน้ำมันดีเซลได้เอง หรือเอาน้ำมันมาผสมเป็นดีเซล น้อยลง ถ้า 5% 7% 10% มันต่างกันอยู่แล้ว แต่เรายังไม่พร้อม ความต่อเนื่องมันยังไม่มี พอผลิตแล้วก็ต้องดูว่าราคาต้นทุนเท่าไหร่ มันควรจะเท่าไหร่ มันควรจะถูกกว่าน้ำมันทั่วไปไหมที่ผลิตจากปิโตรเลียม ต้องคำนวณให้หมด ไม่เช่นนั้นคนก็ไม่นิยม พอผลิตออกมาแล้วมันแพงอีก ไม่ได้ ต้องผลิตแล้วถูกกว่าเดิม ถูกกว่าน้ำมันประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นแก๊สโซฮอล์ ราคายังสูงอยู่ กำลังทบทวนอยู่ว่า จะทำอย่างไร ระบบเท่าที่ผ่านมา มันไม่ครบทั้งระบบ จะให้ใช้อะไรต่างๆ ก็ตามสนับสนุนไปมันจะไม่ขาดๆ ตอนๆ ไม่ต่อเนื่องกัน มันไม่เข้มแข็งซักที วันนี้ราคายังสูงอยู่แล้วใครจะไปใช้ พอไม่ใช้ขึ้นมาขายได้น้อยขึ้นมา ปั๊มน้ำมันอะไรก็ไม่สร้างกัน พอไม่สร้างไม่รู้จะไปเติมที่ไหน ต่อไปเป็นเรื่องอะไรอีก เรื่องของที่มาทำวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นกากอ้อย กากน้ำตาล ต้องมาทำใช้ทั้งสิ้น มันก็พันกันไปหมด อันนี้ไม่ได้ใช้ อันนี้ก็ราคาแพง อันนี้ราคาตก ทำอย่างไรระบบ เวลาแก้ปัญหาแก้ทั้งระบบมันยาก มันไม่ใช่ง่ายๆ วันนี้แก้มาตั้งแต่ 6-7 เดือนยังไปได้ไม่ถึงไหนเลย ของเก่ามันก็ติดลบอยู่ทั้งหมด
     
       เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้อย่างยั่งยืน เรื่องสินค้าอ้อย วันนี้ก็จะมีนโยบายในการจัดตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่ม อย่ามาคัดค้านกันเลย ถ้าเราตั้งโรงงานน้ำตาลเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องขนาดใหญ่มากหรอกครับ แต่ปรับระยะห่างให้พอสมควร บางคนขอ 80 กิโลฯ บางคน 40-50 บางคน 50-60 ในขั้นนี้จะให้เกิดอุตสาหกรรมน้ำตาล และเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกพืชที่มันขาดทุนมาตลอด ชาวไร่ชาวนาทำนาแล้วราคาข้าวมันก็ตก อาจจะเปลี่ยนมาเป็นปลูกอ้อยบ้างก็ได้ แล้วก็ป้อนโรงงานน้ำตาลใหม่ขึ้นมา และเราไปดูในเรื่องของการตลาดให้มันดีขึ้น และทำน้ำตาลที่มีคุณภาพ
     
       สิ่งสำคัญก็คือ ไม่ว่าจะห่างเท่าไรก็ตาม วันนี้ห่าง 50 กิโลเมตรต่อแห่ง อย่าต่อต้าน แต่ผมจะกำชับว่า โรงงานน้ำตาลเหล่านั้นจะต้องไม่ไปแย่งสมาชิกกันที่ปลูกอ้อยอยู่เดิม ลูกอ้อย ในการป้อนโรงงานเดิมไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านจะต้องไปตั้งโรงงานใหม่ และไปสร้างสมาชิกของท่านขึ้นมาใหม่ ไม่อย่างนั้นมันจะแย่งกัน ทะเลาะกัน ตัดราคากัน มันก็เหมือนเดิม ผมไม่ยอมอยู่แล้ว ให้เข้าใจด้วย
     
       มันสำปะหลังเหมือนกัน ต้องไปดูว่า จะเพิ่มการเพาะปลูกด้วยน้ำหยดได้ไหม บางครั้งดินมันก็เสียหาย และน้ำมันไม่เพียงพอ น้ำหยดก็ต้องใช้เงินทุน เพราะฉะนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งให้สหกรณ์ ว่าทำอย่างไรถึงจะมีเงินกองทุนให้เขากู้ไปทำน้ำหยด อย่างไรก็แล้วแต่วันนี้รัฐบาลต้องนำร่องเหมือนที่มาเลเซียเขาทำนะครับ เรื่องน้ำมันปาล์มเขาทำกัน 20 ปีแล้วนะ เรื่องการส่งเสริมให้ปลูกปาล์มน้ำมันแทนยางพาราที่ล้นตลาด ในปัจจุบันมีหลายมาตรการ ในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องยางพารามันต้องลดปริมาณการผลิตลงให้มากที่สุด ให้อยู่ในกรอบในเกณฑ์ที่ใช้ในประเทศ ซึ่งเราก็ยังสร้างโรงงานไม่เท่าไหร่ โรงงานปัจจุบันต้องใช้ยางไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นต้องขายวัตถุดิบไป 90 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราเอายางมาใช้สัก 50 เปอร์เซ็นต์ ผมว่าราคามันโอเค รับได้ อยู่ได้เฉลี่ยกันไปมา เราก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น ที่ลดลงไป เช่น จากการปลูกยางพารา มาปลูกปาล์มน้ำมันแทน ปาล์มน้ำมันก็ต้องมาเตรียมการทำไบโอดีเซล มันต้องสอดคล้องกับเรื่องที่ผมกล่าวมาสักครู่นะครับ ราคามันจะได้ถูกลง เรื่องการใช้น้ำมันดีเซลต้องสั่งซื่อต่างประเทศมา และพลังงานเราก็ลดน้อยลง
     
       ด้านการตลาดวันนี้ก็ส่งเสริมให้มีตลาดชุมชน กระทรวงมหาดไทย และศูนย์ราชการที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ 2,000 กว่าแห่งฝาก ท้องถิ่นช่วยดูด้วยนะครับ พยายามที่จะตัดกลไกพ่อค้าคนกลางนะ เขาควรจะได้รู้ว่ากำไรเท่าไหร่ รายได้เท่าไหร่ เกษตรกรเราก็จนอยู่อย่างนี้กี่ปีกี่ชาติ ก็โทษรัฐบาล เกษตรกรต้องมีความรู้นะครับ มีความเข้าใจเรื่องการตลาด มีความรู้เรื่องเกษตรสมัยใหม่ รู้ราคา รู้ว่าการขายสินค้าควรทำไง ราคาควรเป็นอย่างไร มันจะได้รู้กันซะที ไม่ทะเลาะกันต่อไป
     
       ในเรื่องของที่ดินทำกันนั้น รัฐบาลก็ได้ทยอยมอบเอกสารในการขอใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับเกษตรกรที่ยังไม่มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เราจะทำอย่างเป็นระบบ บูรณาการ 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร สำรวจการใช้สอยที่ดินทั่วประเทศ ทั้งจากดาวเทียม ภาพถ่ายดาวเทียม และในเรื่องของการเข้าไปสำรวจในพื้นที่โดยหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล เราก็จะรู้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ที่บุกรุกอยู่แล้วบ้าง ถ้าบุกรุกมาเป็นเวลานานแล้ว 10 ปี 20 ปีขึ้นไป มันก็เป็นป่าที่เสื่อมโทรมอยู่แล้ว แต่มันผิดกฎหมาย ทำยังไงให้เขาอยู่ที่นั่น แล้วก็จำกัดให้เขาทำให้ได้ตรงนั้น แล้วไม่ไปขายต่อ อันนี้เราก็ใช้มาตรา 44 ดูแล ที่เราทำไป ไม่งั้นมันไปไม่ได้ เราจะยกเขาไปที่ไหนอีกล่ะ แล้วตรงนั้นมันก็บุกรุกมานานแล้วด้วย มันก็ไม่ได้เป็นป่าอยู่แล้ว ทำชัดเจน ไม่ได้ไปเลือกปฏิบัติกับใคร ขึ้นอยู่กับผู้ที่เขาสรุปขึ้นมา การโซนนิ่ง การทำข้อมูล ปัญหาของเราคือการทำข้อมูลยังไม่พร้อมเลย เราก็ต้องค่อยๆ ทำไป มีหลายระยะ แต่ข้อสำคัญคือเราจะไม่ซื้อขาย ไม่ให้มีการซื้อขายอีกต่อไป ที่ดินเหล่านั้นยังคงเป็นของรัฐอยู่ อันนี้ก็จะทำให้ทั่วประเทศ ก็มีระยะ 1 ระยะ 2 มีอยู่หลายจังหวัด ที่ต้องเอาคนส่วนที่ 1 ที่ต้องเอาออกมาทันที โดยเร็ว ด้วยความสมัครใจด้วย จากป่าต้นน้ำ ออกมาหาที่ให้เขาอยู่ ถ้าอยู่ต่อไปมันก็เป็นอย่างนี้ ชำรุดทรุดโทรมไปเรื่อง เดี๋ยวก็ต้องทำถนนหนทาง ทำไฟฟ้า ทำประปาเข้าไป แล้วก็เรียกร้องว่าทำไมไม่ได้ซะที ก็มันอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ ทำให้มันก็ขยายต่อไป มีลูกมีหลาน ป่าก็หมดอีก เหมือนเดิม ต้องเอาออกมา มาอยู่ข้างนอก มาอยู่ในพื้นที่ที่ผมกำหนดไว้แล้ว คณะกรรมการเขาเลือกมาแล้ว มีพื้นที่ที่บุกรุกอยู่แล้วเดิม มีพื้นที่ที่ว่างเปล่า เป็นที่ราชพัสดุ ที่ของราชการ เราก็จะใช้มาตรา 44 ให้สามารถอยู่ได้ อยู่ได้แล้วทำกินนะ ห้ามขาย หรือขยายพื้นที่รุกล้ำไปเหมือนเดิมอีกไม่ได้ ต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อจะลดปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคม ความเป็นธรรม ยุติธรรม
     
       ระยะที่ 1 พื้นที่เป้าหมาย 6 แห่ง 4 จังหวัด 53,694 ไร่ ระยะที่ 2 พื้นที่เป้าหมายอีก 8 แห่ง ในอีก 8 จังหวัด อีก 51,929 ไร่ จะเห็นว่าพื้นที่มีไม่มากนัก ทั้งหมด 12 จังหวัด เราก็ต้องหาเอาคนที่ผิดกฎหมาย และไม่มีที่ทำกินจริงๆ เข้ามาอยู่อาศัย คนที่เดือดร้อนเยอะแยะไป ถูกเขาหลอกบ้าง อะไรบ้าง บางทีก็มีคนไปหลอกว่าให้มาทำกินที่นี่ แล้วก็จ่ายเงินให้เขา เขาก็จะไปทำให้ เสร็จแล้วก็ทำไม่ได้ วันนี้ที่รัฐเข้าไปสำรวจ ส่วนใหญ่ที่ประชาชนเข้าไป ไม่รู้เรื่องนะ มีคนชี้นำเขามา มันก็ผิดกฎหมายอยู่อย่างนี้ พอเราเข้าไปจัดการ ก็กลายเป็นว่าเราไปรังแกประชาชน คนจน นี่ไง ประเทศไทย ก็มีคนไปใช้ประโยชน์ถึงเยอะแยะ
     
       เพราะฉะนั้นวันนี้ ในเรื่องที่เราจะเร่งรัดให้มากขึ้น เพราะว่าเป็นแหล่งรายได้ของประเทศที่สำคัญในปัจจุบัน คือในภาคการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น มีความสดใส และจะใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเราด้วยในขณะนี้ เพราะว่าเราลงทุนไม่มากนัก ถ้าไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนเศรษฐกิจ เหล่านั้นมันต้องใช้เวลา ใช้เงินจำนวนมาก อันนี้เราก็สร้างให้มันปลอดภัย ให้มันสะอาด มีส้วม มีสุขา วันนี้ก็เห็นหลายที่มีการประกวดห้องน้ำ ห้องสุขา ในสถานที่ท่องเที่ยว ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ ริเริ่มอย่างนี้ดีกว่า คนที่เขามาเที่ยวจะได้พอใจ มีความสุข ถ้ามาแล้วก็ แน่นก็แน่น มองอะไรก็ไม่เห็น ส้วม ห้องน้ำ ก็สกปรกอีก แถมมีโจรผู้ร้ายอีก มีหลอกลวงเข้ามาอีก มีของปลอมเข้ามาอีก แล้วมันจะไปได้รายได้เข้าประเทศได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทุกฝ่าย ก็จะเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้ อย่าทำอีกเลย ทำลายประเทศกันไป จะทำลายกันไปถึงไหน
     
       เพราะฉะนั้นกลุ่มนักท่องเที่ยวปัจจุบันนั้นมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งจีน มาเลเซีย เกาหลี รัสเซีย ญี่ปุ่น ไตรมาสแรก มกราคม-มีนาคม 58 นี้ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเรา ประมาณ 8 ล้านคนนะครับ ขยายตัวร้อยละ 23 จากปีที่แล้ว ใครบอกว่าลดลงมาหาผม อย่าไปพูดในสื่อตัวเลขที่กระทรวงเขาคุมท้องถิ่นเขารายงานกันขึ้นมา ถ้าท่านไม่ฟังทางวิทยาศาสตร์ ท่านจะไปเชื่อใคร ข้างนอกพูดมาไม่มีหลักเกณฑ์ ไม่ได้ เดือนเมษายนนี้ห้วงเทศกาล สงกรานต์ เราคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวในบ้านเราประมาณ 5 แสนคนนะครับ คนไทยเองก็จะมีการเฉลิมฉลอง พักผ่อน ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย เดินทางกลับภูมิลำเนาก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศมีเงินมาใช้มาก มีเงินน้อยใช้น้อย ถ้ามีน้อยใช้มากก็ไม่ใช่อีก ถ้าไม่ให้ใช้เลยก็ไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นต้องเผื่อแผ่ต้องมีเงินมาใช้จ่ายกัน คนไม่กล้าใช้เงินให้เศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร เศรษฐกิจมันต่อกันมันเป็นห่วงโซ่กัน รัฐบาลเขาทำขนาดใหญ่ลงมาถึงเล็ก เล็กก็ต้องช่วยเล็กดันขึ้นไปใหม่ สร้างเถ้าแก่ใหม่ ต้องมองในภาพรวมด้วยนะครับ อย่ามุ่งแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ เศรษฐกิจท้องถิ่นตลาดชุมชนก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยน ค้าขาย และดูแลซึ่งกันและกัน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้ามีมากก็ขาย ถ้าอะไรขายไม่ได้ราคาก็ไม่มีภูมิคุ้มกันว่าอย่าปลูกให้มากนัก
     
       ในเรื่องของการแข่งขันของประเทศนั้นทำให้เข้มแข็งในเวทีโลกนั้น เราต้องทำหลายอย่างนะครับ การวางระบบโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ราง ทางน้ำ ทางอากาศ เราต้องพยายามให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน เชื่อมโยงขนถ่ายสินค้าในภูมิภาค และมีโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการจะได้ส่งเสริมภาคการผลิต ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมให้เกิดเสถียรภาพ น้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภค น้ำประปา ปัญหาของเราคือการบริหารจัดการน้ำมัน ไม่ได้ทำทั้งระบบมาโดนตลาดอย่างต่อเนื่องทำมาเป็นปี ๆ ไม่ได้ มันต้องมาผูกโยงกันวันนี้เริ่มต้นมาได้สมัยนี้ ระยะที่ 1 มันต้องมีกี่ระยะ มีแหล่งน้ำให้กับประปาหมู่บ้านครบ อีก 6,000 กว่าแห่ง ปี 60 และแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดย่อย แหล่งน้ำในที่นา ไม่ใช่มีเงิน และไปลงในพื้นที่ที่มันขุดไปแล้วไม่มีน้ำ เก็บน้ำไม่อยู่ มันก็ต้องไป ขุดที่มันมีน้ำ และจัดระบบส่งน้ำไปที่มันไปได้
     
       วันนี้มีการจดทะเบียนนวัตกรรมจากการวิจัยในประเทศ และนำไปสู่สายการผลิต ได้สั่งการแก้ไขหลายอย่าง ราชการต้องเอาไปทดลองใช้งาน ในจากงบประมาณของหน่วยงานเอง 10-30% ต้องทดลองไปใช้ก่อน เพราะต้องมีการทดลอง มีมาตรฐานในประเทศ เราต้องผ่อนผันกฎกติกาอื่นๆ ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างเยอะแยะ เราต้องทำ ไม่เช่นนั้นมันซื้อไม่ได้ เพราะกฎหมายมันเขียนไว้อย่างนั้น อีกอันคือว่า ถ้าจะไปขายต่างประเทศเราก็ต้องส่งไปทดสอบต่างประเทศให้เขายอมรับมาตรฐาน ไม่ใช่คิดจะทำอะไรก็ขายได้หมด มันต้องผ่านมาตรการกีดกันทางการค้าเข้าไปอีก ข้อตกลง WTO, FTO อีกเยอะแยะไปหมดที่เขากำหนดไว้ ปีนี้ต้องเจรจา FTA อีกหลายประเทศเหมือนกันนะ เพราะเราไปถูกปรับเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ฉะนั้นภาษีมันเปลี่ยนไปหมดเลย เราต้องไปเปิดเจรจากับประเทศนั้นประเทศนี้เพิ่มเติมทำให้เราขายสินค้าได้มากขึ้น ในประเทศที่ไม่ได้จำกัดเราในด้านเหล่านี้
     
       การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย การลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว ค่อนข้างจะก้าวหน้ามากขึ้น แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่แค่ลงทะเบียน มันจะต้องไปดูเรื่องของการพิสูจน์สัญชาติอีก ต้องมีการรับรองโดยประเทศคู่สัญญา เช่น ประเทศรอบบ้านเรา ซีอาร์วี เขาต้องจัดชุดพิสูจน์สัญชาติเข้ามาตรวจสอบที่จดทะเบียน บางประเทศตรวจได้นิดเดียว เพระาคนเขาน้อย บางประเทศจดได้ 70-80% เขาต้องต่ออายุของการถือใบอนุญาตชั่วคราว ผ่อนผันไว้ก่อนให้ทำงานได้ก่อน แต่ขอร้องว่า พวกนี้อย่าเพิ่งย้ายไปที่ไหน เพราะฉะนั้นต่อไปจะมีการสำรวจด้วยว่า ผู้ประกอบการที่ขอจดทะเบียนไปแล้ว คนที่จดทะเบียนไปแล้วยังอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่พวกนี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันดูแล ส่วนใหญ่ก็ถูกซื้อตัวไปอีก ทำที่นี่เสร็จพอที่นี่ให้รายได้สูงขึ้นก็ไปทางด้านโน้น มันไม่มีกติกากันเลย
     
       การปฏิรูปการศึกษาก็สำคัญ ผมให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาก เพราะคนในแต่ละประเทศมันขึ้นอยู่กับคุณภาพของคน คุณภาพของคนมันมาจากการศึกษา ผมเองก็ต้องพัฒนาตัวเอง หลายๆ คนต้องพัฒนาตัวเอง ประชาชนก็ต้องเรียนรู้ ต้องมีความรู้ ต้องเรียนหนังสือ ต้องส่งลูกเรียน เรียนอะไรที่เป็นประโยชน์มีงานทำ ถ้าทุกคนมองแต่เพียงว่า จะหาเงินอย่างไรก็ได้ จะถูกจะผิดก็ได้ ไม่ถูก เป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดกับประเทศ ประเทศก็ไปไม่ได้ วันหน้าก็ทุจริตกันแบบเดิมอีกเยอะแยะไป ไม่ได้ มันต้องพัฒนาคนให้มากที่สุด พัฒนาฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาด วันนี้ก็เร่งทุกวัน และจะต้องรองรับภาคการผลิตในกรอบอาเซียนที่มันจะมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราผูกโยงห่วงโซ่เยอะแยะไปหมด ธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ทั้งต่างประเทศ ในประเทศ สร้างความเข้มแข็งระหว่างกัน ความเชื่อมโยงระหว่างกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน ไปดูแลเรื่องการศึกษาด้วย สถานประกอบการต่างๆ ต้องรับผิดชอบในพื้นที่ด้วย ต้องไปดูแลการวิจัย พัฒนา เอาคนไปเรียนรู้ในสถานประกอบการ ทำทั้งหมด รัฐบาลก็จะทำ ในระหว่างนี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อยกระดับความร่วมมือเศรษฐกิจกับตลาดใหม่ เช่น ผมเรียนไปแล้วว่า ตลาดที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอาจจะอยู่ในขั้นประเทศที่มีรายได้น้อย รายได้ต่ำ เช่น ไปดูๆ เขา วันหน้าเดี๋ยวถ้าเขาทำดี เขาอาจจะแซงเราก็ได้ ถ้าเราทะเลาะกันอยู่ เช่น แอฟริกา เอเชียใต้ ต้องดูแลเขา ผมอยากให้มองว่า ต้องดีทั้งคู่ เราดีขึ้น เขาก็ต้องดีขึ้น ไม่ใช่เราไปสูบเลือดสูบเนื้อเขามา ไม่มีความสุขหรอกครับ เผื่อแผ่แบ่งปันประชาคมโลก
     
       ตลาดที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจปานกลาง จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รัสเซีย ประเทศหมู่เกาะ และการเพิ่มมูลค่าสินค้าชายแดนเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางฮับ ทางด้านการบิน การท่องเที่ยว ฮับในเรื่องการรักษาพยาบาล การแพทย์ โรงพยาบาล ทั้งหมดนี้มันจะทำให้ประเทศเรามีรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงในอนาคต ต้องใช้เวลา รัฐบาลใครก็ต้องทำแบบนี้ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล นึกถึงประชาชนเป็นหลัก
     
       ในการร่างรัฐธรรมนูญนั้นมีความสำคัญ ปัจจุบันก็อยู่ในกระบวนการ ก็ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อยากจะบอกทุกคนว่า อย่าไปตำหนิติเตียนกันนักเลย น่าดีใจที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ ติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามในประเด็นที่ยังไม่เรียบร้อย ยังไม่ได้ข้อยุติ ก็อย่าเพิ่งไปขัดแย้งกันเลย ประเทศเราต้องไปดูก่อนว่า เราจำเป็นต้องปฏิรูปหรือเปล่า ถ้าคิดว่าไม่จำเป็นก็จบ ไม่จำเป็นต้องไปร่างใหม่ เอาอันเก่าไปใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าทุกคนคิดว่าต้องปฏิรูปแล้ว มันก็ต้องมาดูว่า จะเขียนอย่างไรให้คนในประเทศยอมรับ ให้นักการเมืองยอมรับด้วย ประเทศเราจำเป็นต้องปฏิรูปไหม และที่ผ่านมากฎกติกาบ้านเมืองมีช่องว่างตรงไหน เราก็แก้ตรงนั้น ไม่ใช่ต้องแก้กันทั้งหมด เขาทำอยู่ ก็เป็นห่วงเรื่อง ประเด็นคือกลุ่มการเมือง การเข้าสู่อำนาจ การเป็นรัฐบาล การแก้ปัญหาเมื่อมีเหตุการณ์แบบครั้งที่แล้ว เขาห่วงตรงนั้น ก็เลยเขียนอะไรออกมาแบบนั้น ปัญหาคือเรายอมรับได้ไหม ยอมรับไม่ได้เพราะอะไร ถ้าได้ได้เพราะอะไร ถ้าได้เป็นผมนะ ในฐานะคนไทย ถ้าได้คือเราอยากให้ปฏิรูปได้ เราอยากให้การเมืองเราโปร่งใส อยากให้บ้านเมืองมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นก็ต้องแก้ไข มันอาจจะไม่ตรงกับประเทศอื่นๆ เพราะประเทศอื่นเขาพัฒนาเลยไปแล้ว แต่เรายังติดตรงนี้ไง เราไปเอาตรงโน้นมาทำตรงนี้ได้ไหม แล้วต่างประเทศเขาว่าไง แล้วเราแก้ตรงนี้ช้ากว่าเขาไง ท่านไปคิดใหม่นะ ไปดูว่าจะทำอย่างไร ถ้าท่านคิดว่าไม่ต้องปฏิรูป อยากให้เป็นแบบเดิม มีการใช้กำลัง ไม่ใช้อาวุธ มีเสรีภาพและข้อจำกัด กฎหมายใช้ไม่ได้ ก็ตามใจท่านแล้วกัน ผมไม่รู้จะว่าอย่างไร
     
TV24 รำลึก...ทหารล้อมยิงประชาชน 5 ปี 10 เมษายน 2553

รายงานพิเศษ ...TV24 รำลึก...ทหารล้อมยิงประชาชน 5 ปี 10 เมษายน 2553การต่อสู้เื่พื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพแห่งประชาธิปไตย ของประชาชนและคนเสื้อแดงเคียงข้าง กับกลุ่ม นปช ...ณ.ราชประสงค์ ผ่านฟ้า ราชดำเนิน 10 เมษายน 2553

Posted by Red Thai V2 on Friday, April 10, 2015


       ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ ประชาคมโลก ให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ผมว่าไม่ต้องอาย ถ้าทำแล้วอย่าอาย รัฐบาลไหนก็ตาม ถ้าทำแล้วยอมรับกันบ้าง ยอมรับกติกา ยอมรับกฎหมายบ้าง ผมว่าผมมอบนโยบายไปแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ให้ไปเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของต่างประเทศที่เขาเกิดเหตุการณ์แบบเรา ว่ามีการปฏิวัติรัฐประหาร มีการใช้อาวุธสงคราม มีการต่อสู้กันในเมือง แล้วขันตอนเหล่านั้นจากนั้นมาจนถึงวันนี้เขาทำอะไรมาบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ เราต้องถามเขาแบบนี้ ไม่ใช่ให้เขามาวิเคราะห์มาตรารัฐธรรมนูญไทยอย่างไร ไม่ใช่ ให้คนไทยได้รับรู้ ว่าถ้าจะเป็นแบบที่เขาเป็นในวันนี้ มันต้องผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง
     
       วันนี้ทุกคนไม่ได้มองอะไรเลย มองว่าทำอย่างไรจะมีสตางค์ ทำอย่างไรจะแก้ปัญหาโน้นนี้ได้ ทำอย่างไรจะร่ำรวย ไม่ได้คิดว่า แล้วประเทศชาติอยู่ตรงไหน แล้วขั้นตอนมันเป็นอย่างไร ใจร้อนทุกคน ก็เลยต้องเปลี่ยนแปลง ต้องใช้กำลัง ใช้อาวุธสงคราม ผมว่าไม่ใช่ เราเคยเลิกทาสมา ไม่ได้เสียชีวิตเสียอะไรกันเลย ต่างประเทศเขาก็มีเหมือนกัน ที่ผมอยากให้เอามา ก็คือฝรั่งเศส และเยอรมัน สถานการณ์คล้ายๆเรา อย่ามาบอกว่าเขาเกิดนานมาแล้ว ไม่ใช้กับวันนี้ วันนี้มันต้องย้อนกลับไปที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เอาเขามาดู แล้วเราก็ย่อมมา ว่าจะทำอย่างไร ต่อจากนั้นเราก็มาถามกันเองว่า เราต้องการอะไร เขาเป็นอย่างนี้เพราะอะไรจะถามเขาดู การมีมาตรา 16 มาตรา 17 อะไรของเขา ทำไมถึงต้องมี ไม่ใช่มานั่งเถียงของเรา แล้วไม่ดูของเขา ขณะเดียวกันคนเก่าก็ต้องการแบบเดิม มันไม่เกิดประโยชน์ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไปได้หรือไม่ได้อยู่กับคนไทยทุกคน อยากจะให้มันดีกว่าเดิมไหม อยากอยู่ในความขัดแย้งอีกหรือเปล่า อยากมีการเมืองที่บริสุทธิ์ ยุติธรรมไหม เป็นธรรมไหม สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไหม เกษตรกรจะต้องมีเงิน มีรายได้มากขึ้นไหมในอนาคต ทุกอย่างมันต้องพัฒนาหมด แล้วประเทศไทยก็อ่อนด้อยแบบนี้ตลอดไป ฉะนั้นก็เร่งดำเนินการ อย่าหาว่าผมไม่เอาใครเขามาเลย มีหลายคนต่อว่าผม ว่าผมไม่เอาคนอื่นมายุ่ง ท่านไปเอายุ่งมากกว่าผม ท่านมาวิจารณ์ มาว่าประเทศ มาใช้กฎหมาย ใช้อะไร ต่างประเทศมาใช้กับเราประเทศไทย นั่นน่ะหนักยิ่งกว่าผมนะ จะบอกให้ ผมเอามาเพื่อศึกษาข้อมูล ไม่เกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญของเรา ไม่เกี่ยว บ้านเราส่วนบ้านเรา แต่เราจะถามเหตุผลของเขา ว่าทำไมถึงมีอย่างนั้น แล้วเราดูว่าทำไมถึงไม่มี แล้วเราจะมีบ้างได้มั้ย
     
       วันนี้ก็มีหลายเรื่องนะ เนื่องจากเป็นสงกรานต์ ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันแรงๆ นะ แต่มันก็อดไม่ได้ ขออนุญาตพูด เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของปีนะ วันนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญนะ ของการเดินหน้าประเทศ ที่ผมพูดมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาการเป็นรัฐบาล คสช. ก็ 6 เดือนใช่มั้ย 6 เดือน กับ 5 เดือน 11 เดือนแล้ว จะปีแล้ว ก็พูดตลอดนะ ความก้าวหน้า มันก็มีตามลำดับนะ แต่ผมบอกแล้วว่า มีระยะต้น ระยะกลาง ระยะปลาย จะทำระยะต้น ระยะกลาง 1 ปีแรก กับ 1 ปีที่สองที่เป็นรัฐบาล รวมแล้วก็ 2 ปีเท่านั้นล่ะ ต่อไปก็เป็นเรื่องของรัฐบาลที่โรดแมป ถ้าทำได้ก็ทำไป
     
       แต่วันนี้ต้องเดินหน้าประเทศไปสู่การปฏิรูปให้ได้ วางแผนปฏิรูปพื้นฐานให้ได้ มีกลไกในการที่จะทำให้เกิดการปฏิรูปอย่างแท้จริง เป็นรูปธรรม มันก็ต้องไปดูว่าจะทำยังไงให้มันเกิดตรงนั้น กฎหมายลูก หรือบทเฉพาะกาล จะทำยังไง ถ้ายอมรับ โอเค ประเทศไปได้แน่ ถ้าไม่ยอมกัน ประเทศถอยหลังกลับที่เดิม ผมสรุปง่ายๆ แค่นี้
     
       การเลือกตั้ง เราต้องการให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส มีนักการเมืองที่ดี มีธรรมาภิบาล มีคุณธรรม จริยธรรม ก็ต้องเข้าใจสิว่าความตั้งใจของเขา ของ สนช. สปช. กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ วันนี้ ทุกคน ทุกหน่วยงาน เขามีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำให้ได้อย่างที่ผมพูด แต่แน่นอน มันต้องมีความขัดแย้ง มีคนไม่เห็นด้วยอะไรต่างๆ ผมก็ต้องใช้เวลาในการสร้างความรับรู้ให้ได้ ให้เร็วที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน เพื่อจะได้ปลอดภัยในช่วงการเปลี่ยนผ่าน วันนี้ผมถือว่าเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่าน หรือส่งผ่าน ไปสู่การเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อย่างที่โลกต้องการ อย่างที่โลกเขาไม่มีปัญหา หลายประเทศผ่านการจัดการมาก่อน ผมว่าอาจจะพูดได้ว่าทุกประเทศ วันนี้ขอเวลาหน่อยเถอะ อาจจะนานสักหน่อย ไม่ได้พูดมาหลายครั้งแล้ว
     
       เพราะฉะนั้นในเรื่องของการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้น ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ ทุกคนต้องอดทน ต้องช่วยเหลือกัน มีมาตรการที่จะทำให้เกิดเอื้ออำนวยต่อการปฏิรูปให้ได้อย่างแท้จริง ไม่งั้นก็พูดแต่ปาก แล้วทำอะไรไม่ได้ วันหน้าก็กลับที่เก่า เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งของข้าราชการ ข้าราชการท้องถิ่น ประชาชน เราต้องทำให้เขาแข็งแรงในอนาคต ทุกภาคส่วน ไม่มีความเหลื่อมล้ำ เข้าถึงกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมทุกคน มีเงินมีทองใช้อย่างถูกต้อง เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
     
       ก็พูดถึงแต่สิ่งที่ทำมาแล้ว และมีปัญหาอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ก็บอกว่าไม่เป็นธรรม อะไรเหล่านี้ ผมว่าท่านหยุดพูดได้แล้วนะ หยุดพูดได้แล้ว พอผมไปใช้อำนาจทางกฎหมาย ท่านก็บอกว่าผมไปปิดกั้นเสรีภาพสิทธิ สิทธิเสรีภาพที่ผ่านมาเป็นยังไงล่ะ บริหารประเทศได้มั้ย มีการประท้วงหรือเปล่า มีการประท้วงแล้วใครใช้อาวุธสงครามยิงตอบต่อคนที่เขามาประท้วง มันก็เกิดอย่างนี้ 53 ก็ชุดเดิม 56-57 ก็ไอ้ชุดเก่าอีกล่ะ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำแบบเดิม สังคมเข้าใจซะบ้าง ฟังอยู่ได้ อย่าไปฟังเขา ตามสื่อวิทยุ โทรทัศน์ วันนี้ผมต้องปิดสถานีวิทยุเท่าไหร่ล่ะ 6 พันกว่าแห่ง ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่เคยปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะอะไร เพราะสนับสนุนฝ่ายนักการเมือง เป็นของนักการเมืองเสียส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยดี ที่ดีๆ อย่าไปพูด ผมไม่ได้ว่าทุกคน คนดีๆ เยอะแยะไป ผมไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น ใครที่รู้ตัวว่าดี ผมไม่ได้ว่าท่าน ใครที่รู้ตัวว่าไม่ดี ผมว่าท่านก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นเราจะต้องนำพาประเทศไปสู่อนาคต ท่านพยายามจะพูดอะไรก็ตามให้มันกลับไปที่เก่าให้ได้ สร้างการรับรู้ที่มันผิดๆ ไปอีกเหมือนเดิม ต้องการจะมีสิทธิเสรีภาพอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ได้พูดถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ไม่มีเลย กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย แล้วก็บางสถานการณ์ที่อ้างด้วยความเป็นธรรม แล้วก็ทำไม่ได้ ต่างๆ ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการประท้วง อ้าวแล้วที่ผ่านมาครั้งก่อน ประท้วงหรือเปล่า ก็ประท้วงอีกเหมือนกัน มีการใช้อาวุธสงครามเหมือนกัน ไม่รู้สิ กลับไปดูของเก่าแล้วกัน สื่อต่างๆ ช่วยนะครับ หลักฐานอย่าไปทิ้งทั้งหมด ผมถ่ายรูป ถ่ายอะไรไว้เยอะแยะไปหมด วิดีโอ หนังสือพิมพ์ ทั้งหมดเดินตามเป็นร้อย ตามทหารเข้าไป แล้วก็หลบกระสุน ทำไมไม่พูดให้ผมบ้างเล่า ใครจะอยากไปใช้ทำร้ายประชาชน เขาก็มีชีวิตจิตใจนะ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ รัฐบาลต้องดูแล เมื่อสถานการณ์ไม่ดี รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ได้ จะด้วยวิธีไหนก็ต้องว่ากันไป จะผิดหรือถูกก็ไปว่ากันตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่อย่ามาบิดเบือน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อายเขานะ เดี๋ยวพอมันออกมาปรากฏจริงๆ แล้วท่านจะว่ายังไง ผมไม่รู้ ประเด็นสำคัญคือการใช้งบประมาณในการทำประชานิยม วันนี้มาบอกว่ารัฐบาลนี้ประชานิยมมากกว่า มากกว่าตรงไหน บอกว่าเราเอาเงินไปให้สวนยาง ชาวไร่ ก็ช่วยปัจจัยการผลิตเขา ผมไม่ได้ไปซื้อของเขามา การจะรับซื้อของก็เป็นเรื่องของระบบสหกรณ์ แล้วใช้เงินน้อยกว่าท่านมหาศาล ท่านบอกว่า เอ๊ะ แล้วทำไมไปขึ้นเงินข้าราชการ ก็เนี่ย จ่ายเงินไปให้เกษตรกรเป็นแสนล้าน ข้าราชการเขาไม่ได้ขึ้นเงินเดือนมากี่ปีแล้วล่ะ ไม่เคยได้ขึ้น แล้วขึ้นคนละ 300-500 บาท เนี่ยเหรอ ให้เกษตรกร เดี๋ยวก็เดือดร้อน ก็ขออีก เนี่ย ผมต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน เกษตรกรก็ไม่ไปรังแก ไม่ไปร้องให้กับข้าราชการที่เขาดีๆ ปัญหาที่ผ่านมาคือการบิดเบือนทุกอย่างไปหมด ผมก็ต้องโทษล่ะ เพราะที่ผ่านมาก็เป็นการเมือง ผมไม่เคยไปโต้แย้งกับรัฐบาลไหนสักรัฐบาลหนึ่ง สั่งมาผมก็ทำให้หมด
     
       ประเด็นสำคัญก็คือว่า ที่เขาทำวันนี้ ทำให้เกิดความเป็นธรรม ดูแลทุกคนให้ทั่วถึง ให้เกิดความรัก ความสามัคคี วันนี้บอกว่าใช้เงินไปเยอะ แต่รัฐบาลก็ยังมีทำรถไฟ รถไฟฟ้า ตั้งเยอะตั้งแยะ ผมถามว่าถ้ามันไม่เสียเงิน เรื่องที่มันอยู่ในคดีตั้งหลายแสนล้าน เราก็คงไม่ต้องไปกู้เงินเขามาอีก เอาเงินตรงนี้มาลงทุนตรงนี้ได้ต่อ หนี้สิน หนี้สาธารณะทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาโดยมันไม่มีรูปธรรม ไม่มีอะไรที่สำเร็จเป็นเรื่องเป็นราวชัดเจน เราก็ต้องทำต่อ หนี้เก่าก็ต้องผ่อนชำระ เดินหน้าประเทศก็ต้องทำ ลงทุนใหม่ก็ต้องลงทุน แต่มันติดด้วยวงเงินเหล่านี้ ไปคิดเอาเองนะ
     
       เรื่องของการดูแลพี่น้องเกษตรกร บอกว่าการประชานิยมในสมัยที่ผ่านมานั้น เป็นเรื่องของการให้ความเป็นธรรมกับราษฎร ให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผมถามว่าดีขึ้นมั้ย ตอนนี้ชาวนาเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า หนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ยังมากขึ้นเหมือนเดิมหรือเปล่า วันนี้ชาวนาเป็นหนี้มากขึ้น ไหนบอกว่าดีขึ้นไง ดีขึ้นก็ต้องหนี้ลดลง ใช่มั้ย หรือเป็นหนี้ที่มันมีคุณค่า เป็นหนี้ที่เป็นทุน เป็นหนี้ที่มีบ้าน หรือต่อเติมบ้าน หรือว่าทำซื้อยานพาหนะ ซื้ออะไรที่เป็นเรื่องเป็นราว นี่หายไปหมด เพราะไปใช้หนี้เก่า วนอยู่อย่างนี้ ถ้าอันนั้นโอเค เราบรรเทาความเดือดร้อนได้ก้อนหนึ่ง อีกก้อนหนึ่งต้องให้เขามีรายได้ที่เพียงพอ นั่นต้องไปสร้างความเข้มแข็งในภาคการเกษตร การขาย การตลาดอีกเยอะแยะ ทำแบบนี้ ทำเป็นปีๆ ไป ใช้กันเข้าไป ทุกปีหนี้มันก็ขึ้นทุกปี แล้วถึงวันนี้เราพอจะเดินหน้า ติดไปหมด เงินก็ต้องไปกู้เขาอะไรเขา ผมก็ไม่ได้กู้ก้อนใหญ่ กู้เป็นปีๆ ไป กู้เป็นโครงการๆ ไป ถ้าเห็นชอบว่าอยากจะมีต้องมี เพื่อเป็นอนาคตต้องกู้ก็ต้องกู้ เพราะอดีตไม่ได้ทิ้งเงินให้ผม
     
       แล้ววันนี้ข้าราชการทำไมต้องไปขึ้นเงินให้เขา เพราะเขาเป็นคนเสียภาษีส่วนใหญ่ด้วยนะ วันนี้ข้าราชการเป็นคนเสียภาษี เพราะมันล็อกด้วยอะไร การจ่ายภาษี ณ ที่จ่าย หนีไม่ได้ซักคน วันนี้หลายๆ คนจ่ายภาษีกันทั้งนั้น ประชาชนที่ยังไม่เข้าเกณฑ์ก็ไม่จ่าย บรรดาเศรษฐีต้องไม่โกงภาษี และการเก็บภาษีเจ้าหน้าที่ต้องมีคุณภาพ กฎหมายภาษีก็ต้องปรับปรุง ที่แล้วดูซิว่า กฎหมายท้องถิ่นการเก็บเงินภาษีท้องถิ่น บำรุงท้องถิ่น มันเป็นอย่างไร วันก่อนทองบาทเท่าไร วันนี้ทองบาทเท่าไร ภาษีตัวเดิม แล้วเงินตรงไหนมันจะเอามาพัฒนา แล้วท่านก็อยากจะได้เงินท้องถิ่น มากขึ้น มันจะไปเอาที่ไหน เก็บภาษีไม่ได้ สื่อกำลังเลือกข้างทั้งหมด วันนี้ผมก็ว่ามันต้องไปเตือนกัน 2-3 สถานีพูดอยู่นั่นแหละ พูดในสิ่งที่มันโกหก ผมอยากจะพูดว่าโกหก ผมก็เตือนแล้วอะไรแล้ว ผมไม่อยากไปยุ่งอะไรกับท่าน ที่ผ่านมาท่านก็ทำแบบนี้ แล้วพอท่านทำแบบนี้อีกคนเข้ามาสู้ท่าน ท่านก็ไปรังแกอีกพวก เพื่อจะพูดข้างเดียว ไม่ใช่ ถ้าจะปิดก็ปิดทั้งหมด เพราะฉะนั้นก็ระมัดระวังแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าผมไปละเมิดสิทธิสื่อที่มีจรรยาบรรณพวกนี้
     
       เพราะฉะนั้นขอตักเตือนให้หยุด การกระทำไม่ใช่ข้อเท็จจริง และอ้างว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อ ไม่ใช่ ผมไม่ต้องการ เพราะฉะนั้นทำถูกทำผิดอะไรก็แล้วแต่ ทุกวันนี้รู้แก่ใจว่าใครถูกใครผิด อย่ามาโกหกบิดเบือนอะไรอีกต่อไป ให้มีเขาเรียกว่าอะไร ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หน่อยแล้วกัน คงเข้าใจกันนะ คงไม่แรงไปหรอก ขอโทษแล้วกันถ้าใครคิดว่าแรง อย่าไปหลบซ่อนที่อยู่นั่นที่นี่มาสู้ตามกฎหมายให้ชัดเจนขึ้น ผมจะดำเนินความเป็นธรรมให้ อย่าไปกล่าวอ้าง ประเทศชาติเสียหาย แล้วเอาคนนั่นคนนี้มาแก้ปัญหาให้เรา มันไม่ใช่เรื่อง โอเคนะครับ ขอบคุณนะครับ ขอให้ความสุขในช่วงวันหยุดสงกรานต์หลายวัน ย้ำอีกครั้ง หยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ใช่ไหม เสาร์-อาทิตย์แล้วก็ต่อ จันทร์ อังคาร พุธ มีคนบางคนบอกว่า รัฐบาลนี้ใจดี ไปต่อพฤหัสฯ ศุกร์อีก 9 วัน ไม่ใช่ หยุดกันนานๆ เดี๋ยวก็มีเรื่องอีก มีปัญหาอีก การติดต่อราชการมีปัญหา เศรษฐกิจก็แย่อยู่ แต่ในระหว่างนี้ในส่วนของรัฐบาลก็พร้อมนะครับ ผมไม่ได้ไปไหน พร้อมจะแก้ปัญหา พร้อมจะดูแลประชาชนที่มีเรื่องเดือดร้อน เวลาที่ประชาชนพักผ่อน ผมก็ต้องทำงาน เวลาทำงานผมก็ต้องทำงาน เพราะเวลาผมมีน้อย จำกัดไง ขอบคุณในความร่วมมือ ขอบคุณทุกคนขอให้มีความสุข เดินทางไปกลับโดยปลอดภัย และพ่อแม่ลูกหลาน ครอบครัวอยู่กันให้ครบพร้อมหน้า กราบคุณพ่อคุณแม่ไปถึงแล้ว ผู้มีพระคุณทั้งหมด นั่นแหละคือค่านิยมของคนไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ของเราที่มีมายาวนาน เป็นเจ้าบ้านที่ดีกับนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ จะเข้ามาเยอะแยะอย่าให้เห็นภาพเดิมๆ อีก เจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้มแข็ง หามาตรการที่เหมาะสม อย่าให้มันรุนแรง ขอบพระคุณนะครับ สวัสดีครับ
พิมพ์จาก http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041885
เวลา 11 เมษายน 2558 02:22 น.
ผู้จัดการออนไลน์ - Manager Online (http://www.manager.co.th)
 Thailand Web Stat
และนี่คือหลักฐานอีกด้านหนึ่ง จากรายงานของสำนักข่าวฝั่งประชาชนแดง

รายงานพิเศษ ...TV24 รำลึก...ทหารล้อมยิงประชาชน 5 ปี 10 เมษายน 2553การต่อสู้เื่พื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพแห่งประชาธิปไตย ...

Posted by Red Thai V2 on Friday, April 10, 2015

Thursday, April 9, 2015

"ไกรศักดิ์"ไม่ปลื้ม"พล.อ.ประยุทธ์"วอนให้อยู่กับโลกยุคใหม่ (เครดิต จอม เพชรประดับ)

Published on Apr 9, 2015 นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ที่ปรึกษาอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและสิทธิท­างการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia ถึงการบังคับใช้ ม.44 ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ที่ให้ อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับ หัวหน้าคสช.ว่า เป็นห่วงว่าจะเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย­่างรุนแรงมากขึ้น แม้ว่า ทหาร เข้ามาเพื่อแก้ัปัญหาความขัดแย้งทางการเมื­อง แต่สิทธิพลเมืองในการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ ก็ถูกละเมิดไปด้วย เหตุนี้ทำให้ นานาชาติถึงกดดันและไม่ยอมรับ แม้ว่าส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการลอบบี้ แต่หลัก ๆ แล้วมาจากการใช้อำนาจเผด็จการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองมากกว่า รวมทั้งท่าทีที่มักใช้อารมณ์อยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ไม่เห็นด้วย ที่จะให้ผู้ต้องหา คดี 112 ขึ้นศาลทหาร เพราะเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่การก่อการร้าย และทำให้สถาบันกษัตริย์มัวหมองมากขึ้น ส่วนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ ก็ไม่เปิดกว้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมหลากหล­าย อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต สุดท้ายจะทำให้ระบบราชการเข้มแข็ง นำไปสู่การร่วมมือกับนายทุนใหญ่เอาเปรียบป­ระชาชนมากขึ้นได้ ซึ่งคงจะต้องมีการเรียกร้องต่อสู่กันต่อไป

Friday, April 3, 2015

คำต่อคำ ประยุทธ์ แก้ตัวเรื่องการใช้ ม. 44 ว่าอย่างไร?

คำต่อคำ : คืนความสุขให้คนในชาติ 27 มีนาคม 2558 (เครดิต manager)
       
       สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ก่อนอื่นผมในนามของรัฐบาล และประชาชนชาวไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดกับพี่น้องประชาชนชาวสิงคโปร์ ที่้ต้องสูญเสียเอกบุรุษ คนของประเทศไปในช่วงเวลานี้ ฯพณฯ นายลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์สมัยใหม่ ได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
       
       ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ท่านได้ใช้วิสัยทัศน์อันยาวไกลของท่านนำพาความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ มายังประเทศสิงคโปร์ ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ผมมั่นใจว่า ฯพณฯ นายลี กวน ยู ยังคงจะได้รับการจดจำว่าเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของเอเชียอีกด้วย ซึ่งผมก็จะได้เดินทางไปเคารพศพท่านในวันอาทิตย์นี้
       
       เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ผมและคณะได้เดินทางไปประเทศบรูไนอย่างเป็นทางการ ซึ่งในโอกาสนี้ได้เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน อย่างใกล้ชิดทั้งคณะ ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ได้พระราชทานวโรกาสนี้ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีได้ถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้น ได้มีการหารือทวิภาคีในหลายประเด็นที่สำคัญ อันได้แก่การกระชับความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน มีการลงนามกรอบความร่วมมือด้านการเกษตรกรรม การกระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล
       
       นอกจากนั้น ได้มีการหารือกันถึงความสำคัญของความมั่นคงทางด้านราคาสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ ในกลุ่มประเทศอาเซียน เราเป็นแหล่งอาหารสำคัญของโลก รวมทั้งในเรื่องของการแก้ปัญหาไฟป่าในภูมิภาคอาเซียน การปลูกป่าอาเซียนด้วย สำหรับเรื่องการศึกษานั้นรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ผมได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบาย และพัฒนาการศึกษา เพื่อทำหน้าที่เป็นซูเปอร์บอร์ดด้านการศึกษา ในการร่วมกันหารือและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการศึกษาของ คสช. และรัฐบาล สำหรับการดำเนินงานของของโครงการนี้ มุ่งเน้นใน 3 ภารกิจหลัก คือ 1. การดำเนินงานตามภารกิจประจำ 2. การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล 3. การดำเนินงานสำหรับการวางรากฐานเพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาลในอนาคต ทั้งนี้ จะดำเนินการในด้านการศึกษา การปรับหลักสูตร การพัฒนาคุณภาพครูและนักเรียน การยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา การใช้จ่ายงบประมาณและการกระจายอำนาจ เน้นให้มีนักวิชาการและนักปฏิบัติโดยพิจารณาตามแนวทางการดำเนินงานจากต่างประเทศมาปรับใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งผมได้มอบหมายให้หน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ พิจารณาดำเนินการและนำเสนอต่อผมในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศที่ตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นกันแล้วสรุปว่าเห็นตรงกัน ว่าการพัฒนาการการศึกษานั้น ต้องมีความสอดคล้องกับการพัฒนาในพื้นที่ด้วยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคด้วยไม่ใช่ไปรวมอยู่ตามเมืองใหญ่ๆหรือในกรุงเทพฯ อย่างเดียว รวมถึงต้องมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การศึกษาทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยมีการประเมินผลทางการพัฒนาทางการศึกษาในประเทศและเปรียบเทียบกับต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ
       
       ทั้งนี้ ต่อไปเรากำลังเข้าสู่การมีเศรษฐกิจดิจิตอล ก็จะนำมาสนับสนุนการพัฒนาทางการศึกษานี้ด้วย โดยอาศัยครูที่มีประสบการณ์ อาจจะมีการเรียนการสอนที่นักเรียนชอบ และทำให้เข้าใจได้ง่าย ซึ่งวันนี้ก็สอนอยู่ตามโรงเรียนกวดวิชาเป็นจำนวนมาก ก็จะนำมาช่วยด้วย ขอร้องกัน ให้มาช่วยกันใช้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ เผยแพร่ผ่านทางเทคโนโลยีสารสนเทศ น่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนที่อยู่ทางบ้าน พ่อแม่ลูกจะนั่งฟังด้วยกันก็ได้ เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย
       
       อีกอันหนึ่งที่ผมเห็นเป็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องการสอนทางโซเชียลมีเดีย หรือทางระบบดิจิตอล ผมว่าเราต้องสอนให้คนรู้จักว่าเราจะใช้ประโยชน์อย่างไร ถ้าเราใช้ในทางที่ผิด แล้วก็ไปคาดหวังกับระบบอย่างเดียวโดยไม่สนใจครู ไม่สนใจผู้ปกครอง มันก็ไม่ได้นะ เพราะมันเป็นเรื่องของการพัฒนาการของสังคม ท่านก็อยู่คอมพิวเตอร์อย่างเดียวไม่ได้ ก็ฝากไว้ด้วย
       
       ในส่วนของการพัฒนาเผยแพร่เทคโนโลยีสารสนเทศนั้น ก็จะต้องกำหนดการพัฒนาเส้นทางอาชีพของครูในกลุ่มนี้ ปัญหาคือครูอาจจะไม่เพียงพอ แล้วก็สอนไม่ตรงวุฒิการศึกษาที่จบมา ตอนนี้ต้องสั่งให้ไปเตรียมการและดำเนินการแก้ไขให้ได้โดยเร็ว ครูเก่า ครูใหม่ อะไรยังไง ผมสั่งไปหมดแล้วนะ แล้วก็จะได้สร้างแรงจูงใจ
       
       การสอนโดยใช้สื่อดิจิตอลนั้น จะเป็นสื่อการสอนที่มีความสำคัญในการขยายโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพเข้าสู่พื้นที่ ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงการศึกษา
       
       สำหรับการดำเนินการในระยะต้นที่ผ่านมานั้น เราได้ทำมาแล้ว โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเพิ่มเติมในเรื่องของการใช้การศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) เพิ่มเติม เป็นการผลิต เป็นศูนย์กลางในการผลิตสื่อสารการสอนโดยครูที่เก่ง ครูที่ได้รับความนิยมเหล่านี้ เพื่อจะเผยแพร่ให้โรงเรียนในสังกัดอย่างแพร่หลาย คือ เพิ่มเติมสาระต่างๆ สำคัญ เพื่อเติมไปจากในส่วนของโครงการทางไกลผ่านดาวเทียมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความหลากหลาย ให้เกิดความที่ช่วยกันพัฒนาสนใจร่วมมือกัน มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับ
       
       นอกจากนั้น ได้มีการหารือแนวทางที่จะผนวกการพัฒนาการศึกษา เข้ากับเงื่อนไขของการส่งเสริมการลงทุน คือลงทุนต่างประเทศ ถ้าเราสามารถที่จะร่วมมือกันกับในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และในเขตภูมิภาค การเข้าให้เขามาดูแลในส่วนของมหาวิทยาลัย วิทยาลัยต่างๆ เป็นลักษณะเป็นทวิภาคี ผมว่ามันน่าจะใช้ได้ ตอนนี้ก็คิดแล้ว และสั่งการไปพิจารณาดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ให้สอดคล้องกันระหว่างโครงการภาครัฐขนาดใหญ่ และการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษในแต่ละภูมิภาคด้วย จะเป็นแหล่งการจ้างงานที่สำคัญ เราควรจะให้ผู้ประกอบการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนนั้นได้มีข้อตกลง ทำความร่วมมือจัดการศึกษาแบบทวิภาคี หรือสหกิจศึกษา รวมทั้งส่งเสริมการอบรมแรงงานฝีมือ วิศวกร ช่างเทคนิคต่างๆ ซึ่งเราขาดแคลนเป็นจำนวนมาก เพื่อจะรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวด้วย สำหรับการศึกษาระดับอาชีวศึกษา คณะกรรมการเห็นว่า จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความก้าวหน้าของโลกสมัยใหม่ ที่ต้องการผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่หลากหลาย อาชีวะต้องดูแนวโน้มการผลิตคนให้สอดคล้อง อะไรขาด อะไรเกิน มันต้องมีลิมิตและควบคุมให้ได้ ทั้งนี้ ควรดูต่างประเทศเช่นเดียวกันประเทศที่ประสบความสำเร็จในการจัดการศึกษามาเป็นกรณีศึกษา เช่น สิงคโปร์จะมี The Institute of Technical Education (ITE) ซึ่งเป็นสถาบันที่จัดการศึกษาสำหรับผู้ต้องการทักษะทางการช่างและช่างฝีมือ สำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษานั้นที่ยังมีปัญหาในการจัดหลักสูตร และบุคลากรในการสอน และก็ขาดงานวิจัยในการพัฒนาที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง รวมทั้งมหาลัยในภูมิภาคที่การเรียนการสอนเหมือนกัน โดยไม่คำนึงถึงการสนับสนุน การพัฒนาในภูมิภาคนั้นๆ คือตรงกับความต้องการในพื้นที่ และเห็นว่ามีความจำเป็นต้องปฏิรูปการศึกษาอุดมศึกษาด้วย เพื่อผลิตคนให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งโครงการใดใดก็ต้องช่วยยกระดับมหาลัยในประเทศ เพิ่มการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอนด้วย
       
       และอีกเรื่องหนึ่งผมได้กล่าวไว้ในงานปาฐกถาพิเศษในหัวข้อการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันการค้าในประเทศไทยนั้น ว่าการทำให้อุตสาหกรรมไทยเข้มแข็งต่อไปอย่างยั่งยืน ภาครัฐ-ภาคเอกชนต้องร่วมมือกัน วันนี้รัฐบาลได้ทำให้ประเทศกลับมาสงบสุข สถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่ดีก็ชะลอลงตามลำดับ แต่ก็ยังคงมีประชาชนที่ไม่เข้าใจอยู่ โดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อธุรกิจสินค้าที่ไม่ค่อยถูกกฎหมายในประเทศที่ถูกลดจำนวนลง ทำให้ประชาชนส่วนนี้ขาดรายได้รัฐบาลเห็นใจ แต่ประเทศก็ต้องมีการจัดระเบียบ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความเป็นธรรมกับคนอื่นที่เขาทำถูก ต้องลดความเหลื่อมล้ำ ถ้าเราปล่อยต่อไป อาจจะต้องหาทางว่าจะทำอย่างไรให้เขามีที่ทำกิน มีที่ค้าขาย กำลังทำอยู่ ต้องยอมรับกันบ้าง เพราะท่านทำอยู่มันผิด วันหน้าถ้ามันเข้มแข็งได้อะไรได้ มันจะได้เข้าสู่การพัฒนาตนเอง เพิ่มความก้าวหน้าในหลักการเศรษฐกิจพอเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าเริ่มลงทุนมันต้องมีภูมิคุ้มกัน พอมีรายได้มากมายพอ มันก็สามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ ภาษีมันก็มีโอกาสที่จะเสียภาษีได้ อย่าหนีจากระบบภาษีนะครับ ผมอยากให้ทุกคนมีหมายเลขการเสียภาษีทุกคน แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไปเก็บทุกคน ปัญหาที่ผมทราบขณะนี้ก็คือ หลายคนไม่อยากจะมีหลักฐานทางภาษี นี่จะทำอย่างไร อย่าตำหนิรัฐบาลอย่างเดียว เราคิดทุกมิตินะครับว่า เขาจะไม่เดือดร้อนอย่างไร เราจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร เราจะจัดกลุ่มคนเดือดร้อนมาก เดือดร้อนน้อย คนยากจนได้อย่างไร ปรากฏว่ามันไม่ได้ เพราะว่าฐานข้อมูลมันไม่มี และประชาชนหลายส่วนไม่ยอมเข้าในระบบ ไม่ต้องกลัว ถ้าท่านมีรายได้น้อย ใครจะไปเก็บภาษีท่านได้ ภาษีมันต้องเก็บตามรายได้ ที่มันมีอยู่ตามกะเกณฑ์ ถ้าไม่ถึงมันก็เก็บไม่ได้ อย่าหาว่าผมไปรีดเลือดกับท่าน มันเป็นการวางอนาคต วันหน้ามันต้องให้ทุกคน ถ้าเข้าระบบภาษีได้ คือทุกคนมีงาน มีอาชีพ มีรายได้ที่เพียงพอ ถึงวันนั้นมันน่าจะต้องเตรียมการความพร้อมตั้งแต่บัดนี้ ไม่ใช่ว่าถ้าหนีไปเรื่อยๆ มันไม่ได้นะครับ
       
       อีกเรื่องหนึ่ง ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งทำเศรษฐกิจชุมชน ที่มันเป็นตลาดภายในประเทศ ในทุกภูมิภาค ทุกจังหวัด เป็นลักษณะให้เกษตรกรมาขายสินค้า ให้กับประชาชน ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้วนะ ช่วยกัน ไปดูหน่อย ไปอุดหนุนหน่อย มีสัก 2,000 แห่งแล้วตอนนี้ มันเดินหน้าไปแค่ไหน ไปได้ยังไง ถ้าหากว่าขายสินค้าแล้วมันมีการให้พี่น้องเอาอย่างอื่นมาได้มั้ย ของเก่า ของใช้แล้ว ของอะไรที่มันอาจจะไม่มีความจำเป็นในการใช้ของเรา แต่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ซีดีเก่า อะไรเก่า เหล่านี้ มันเป็นการเผื่อแผ่แบ่งปัน กระติกน้ำร้อนเก่า วิทยุเก่า อะไรที่เราไปซื้อขนาดดีมาแล้ว ของเก่าทิ้งไว้หลังบ้าน มาบริจาคให้คนในพื้นที่เขาซะ มันจะสร้างความรักความสามัคคี
       
       ในส่วนของเกษตรกรวันนี้ก็ยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะราคาผลิตผลมันตกต่ำ มันคงจะต้องแก้ไขระบบให้ได้โดยเร็ว นี่ก็กำลังเตรียมการเพื่อจะช่วยเหลือดูแลในขอบใหม่ว่าจะทำยังไง ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ไปหารือกันอยู่ ในเรื่องของต่างประเทศผมก็พูดคุยกับท่านพระราชาธิบดีบรูไนด้วย บอกขอให้ช่วยตรงนี้ด้วย ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำอาวุโสสูงสุดในอาเซียน จะทำยังไงอาเซียนจะพูดคุยกันได้ในเรื่องของการจำหน่ายขายสินค้า เพราะถ้าแข่งขันกันเองทั้งหมด มันยิ่งไปไม่ได้ทั้งหมด ราคาก็ตกไปเรื่อยๆ เรื่องข้าว เรื่องยาง อะไรก็แล้วแต่ เราต้องรวมกลุ่มให้ได้ ทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ 2 - 3 ประเทศ ทุกประเทศที่มีการปลูกยาง ปลูกข้าว เพราะเราไม่ใช่คู่แข่งขันกันแล้ว วันนี้เราเป็นพันธมิตร หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์
       
       สำคัญก็คือ ขอฝากให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้สนับสนุนการดำเนินการในสิ่งใหม่ๆ ที่ผมกล่าวไปแล้วด้วย เรื่องนี้ภาครัฐกับภาคเอกชนนั้นจะต้องดำเนินการร่วมกัน ตั้งแต่การเริ่มต้นแก้ไขปัญหา รับทราบปัญหาร่วมกัน ทำงานสอดประสานช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยให้มีการสร้างห่วงโซ่ ห่วงโซ่ทางอาหาร ห่วงโซ่เศรษฐกิจสีเขียว อุตสาหกรรมสีเขียว ให้มันต่อเนื่องเชื่อมโยงชุมชน ท้องถิ่น ภูมิภาค ประเทศ อะไรทำนองนี้ ไม่สร้างอะไรที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม อันนี้เป็นประเด็นที่โลกให้ความสำคัญอยู่ และให้มีความเชื่อมโยงกันเพื่อจะแลกเปลี่ยนสินค้า เดินทาง สัญจรไปมา การท่องเที่ยวไปได้หมด เพราะเราเชื่อมโยงกันอยู่แล้ว เขาพูดว่า วันหน้าโลกเราจะไร้พรมแดน รวมทั้งต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยี วิจัย วิเคราะห์ พัฒนา
       
       วันนี้ให้มีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องวิจัยและพัฒนาของไทย รู้สึกจะมีอยู่หลาย เป็นพันๆ อย่าง ที่จะไปที่หัวหิน รับรายงานว่าคนสนใจ เราจะได้อธิบายเขาว่าเอสเอ็มอีเรามีการสนับสนุนอย่างไรให้เป็นรูปธรรม ถ้าทุกคนไปบ่นอย่างเดียว ผมติดตามมาเยอะแล้วเรื่องของการพูดคุยเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทย พยายามจะอธิบายแต่บางครั้งการรับรู้ยังไม่ได้ จะเห็นในหนังสือพิมพ์ต่างๆ จะมีนายกสมาคมผู้ประกอบการต่างๆ ไปบ่น บอกว่ารัฐบาลยังไม่เห็นทำอะไรเลย ก็เสียใจนะ
       
       เมื่อวานนี้ผมไปบรูไน เลยให้ท่าน พล.อ.ประวิตร เป็นคณะขับเคลื่อนของผมอยู่แล้ว ไปพบปะเขาดู ปรากฏว่า ท่านก็ถามว่าต้องการอะไร อยากให้รัฐบาลทำอะไร เขาพูดในสิ่งที่เราทำไปแล้ว แสดงว่าการรับรู้ไมได้เลย ยังมีปัญหาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมาย เรื่องข้อบังคับ ปลดล็อกไปตั้งเยอะตั้งแยะ ตั้งแต่ระเบียบบีโอไอใหม่ ตั้งแต่การส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ และเกี่ยวกับเรื่องลดขั้นตอน ศูนย์ติดต่อ One Stop Service ในแต่ละธุรกิจ ก็ขอให้กระทรวง ช่วยไปหน่อย เพราะผมพูดหลายครั้งแล้ว ท่านก็บอกว่าท่านส่งต่อ ท่านก็ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว แต่มันยังไม่ถึง ผมไม่รู้ว่ามันติดอยู่ตรงไหน ข้อสำคัญก็คือผู้ประกอบการเหล่านั้นต้องติดตามว่ารัฐบาลเขาทำอะไรไปแล้ว ท่านก็ไปที่กระทรวงก็ได้ ไปถามก็ได้ ผมก็พูด รัฐมนตรีก็ออกมาพูด หน่วยงานก็ออกมาพูดแต่ท่านไม่ฟัง ไปตำหนิติเตียนพวกเราในหนังสือพิมพ์
       
       วันนี้ทำทุกอย่าง ที่ผ่านมาทำน้อยนะ ฉะนั้นขอให้เข้าใจกันบ้าง อย่ามาบ่นอีก เมื่อท่านบ่นแล้ว มันก็ทำให้ความมั่นใจ การค้าลงทุนในประเทศก็ตกลงไป เพราะไม่มั่นใจในสถานภาพ ไม่เชื่อมั่นรัฐบาล ทั้งที่รัฐบาลบอกแล้วว่ามีปัญหาตรงนี้ ก็จะแก้ให้ ท่านไม่เข้าใจ พอท่านพูด มันก็ไม่มีใครกล้าลงทุน ไม่มีความเชื่อมั่น ซึ่งผมต้องการแก้ตรงจุดนี้อยู่แล้ว ซึ่งทำไปแล้ว แต่ท่านบอกว่าไม่ได้ทำ แบบนี้ไม่ได้ เสียหาย แล้วมันทำให้ทั้งประเทศปั่นป่วนไปหมด สื่อก็ไปขยายความไปใหญ่โต แล้วท่านจะให้ใครมาเชื่อมั่น พวกเรากันเองยังไม่รู้เลย ยังไม่เชื่อมั่นเลย ผมก็พูดจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว พูดทุกอย่างอยู่แล้ว ฟังหน่อย กรุณาฟังหน่อย อย่าติอย่างเดียว ถ้าท่านพูดดี เพราะเราทำ ผมไม่ได้ให้ท่านไปโกหก ถ้าเราทำแล้วท่านพูดให้ผมหน่อย ว่ารัฐบาลดี เขาทำตรงนี้ ตรงนี้เขายังไม่ดี ผมก็ได้ข้อเสนอแนะ ให้รัฐบาลเขารับไป พูดอย่างนี้เขาเรียกว่าติเพื่อก่อ เข้าใจหรือเปล่า แต่ถ้าติทุกเรื่องไป อย่างนี้ไม่ใช่ สร้างศัตรู
       
       ​เรื่อง “ชุมชนเข้มแข็ง” รัฐบาลให้ความสำคัญมาก หมายความว่าชุมชนที่มีขีดความสามารถในการใช้ศักยภาพของตนเอง เข้าแก้ไขจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชนได้ ฉะนั้นต้องเป็นชุมชนที่มีผู้นำที่มีความสามารถ มีการเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง มีพื้นฐานของจริยธรรม วัฒนธรรม ความเชื่อทางศาสนา และเศรษฐกิจในพื้นที่ จะทำให้คนในชุมชนสามารถพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ โดยส่วนหนึ่งอาจได้รับความร่วมมือการสนับสนุนจากรัฐบาล ราชการ อีกส่วนคือองค์กรภายนอก พ่อค้า นักธุรกิจต่างๆ อาจจะต้องมาช่วยกันเสียสละ ว่าเราจะดูแลคนยากคนจนเหล่านี้อย่างไร รัฐบาลไปไม่ถึงทั้งหมดเพราะเงินก็มีเท่านี้ จำกัด ต้องใช้มากมาย ปัญหาก็มาก เพราะฉะนั้นถ้าทุกคนช่วยกันเสียสละรับผิดชอบตรงนี้ตรงนั้น ชุมชนนี้ ชุมชนนั้น ผมว่านี่คือสังคมไทยในอดีต น่าจะทำได้แต่วันนี้ อย่าไปหวังกำไรเต็มที่ เหมือนเดิมต้องกำไรเท่าเดิม ทุกคนบอกว่าเศรษฐกิจตกเพราะ จริงๆ แล้วผมถามว่าท่านขาดทุนหรือไม่ ท่านก็ไม่ขาดทุน ขาดทุนก็เล็กน้อย ก็เพียงแต่ลดกำไรลงไปหน่อยได้ไหม ผมพูดหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่อย่างนี้คนก็ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย แถมพูดให้ไม่เกิดความเชื่อมั่นอีก อันนี้เป็นสิ่งที่ผม บางครั้งผมก็อาจจะใช้คำพูดที่แรงไปบ้างขอโทษนะครับ แต่ก็เสียใจ เสียใจที่ไม่ฟัง เพราะฉะนั้นในทุกจังหวัดมันจะต้องพึ่งพาอาศัยกันได้ และเป็นชุมชนเข้มแข็งในจังหวัดตัวเอง และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่เรามีงบประมาณลงไปในเรื่องของกลุ่มจังหวัด เงินงบประมาณรัฐไปหลายทาง ทำไมถึงไม่เจริญซักที ผมก็ไม่เข้าใจ ในปัจจุบันก็มีหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ร้านค้าเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่จัดตั้งมันจะมากขึ้น ในไม่ช้าความเจริญจะเข้ามาแผ่ขยายในพื้นที่ รอบๆ เหล่านั้นจะเป็นการสร้างอาชีพให้ได้ แต่ต้องใช้เวลาไง แรงงานก็ใช้จากนอกพื้นที่บ้าง ในพื้นที่บ้าง
       
       เพราะฉะนั้นทำอย่างไรวันนี้ท่านต้องเตรียมความเข้มแข็งของชุมชนเหล่านี้ ให้พร้อมรับการเจริญเติบโต พร้อมรับกับการขยายทั้งคน ทั้งโรงงาน แน่นอนถ้าท่านไม่ขยายเหล่านี้มันก็การค้า การลงทุนในพื้นที่ของท่านมันก็น้อย เศรษฐกิจมันก็ไม่เคลื่อนไหว ถ้าเราจะอยู่กับธรรมชาติอย่างเดียวมันก็ได้ ท่านก็ต้องจัดสัดส่วนว่า อะไรมันอยู่ตรงไหน คนจะอยู่อย่างไร เท่าไร มันจะได้เสริมกัน วันนี้การท่องเที่ยวมีบทสำคัญ ค้าขายอย่างเดียวมันอาจจะไม่ได้
       
       เพราะฉะนั้นต่างจังหวัด ถ้ามันมีสถานที่ท่องเที่ยวด้วย มีการค้าเป็นแต่ละจังหวัด แต่ละภูมิภาคที่ตัวเองสามารถทำให้ดีที่สุด เหมือนกับทำโอท็อปอะไรเหล่านี้ มันจะเป็นชื่อเสียงของจังหวัด มันจะได้ไม่กลั่นแกล้งกัน และไปหาตลาดที่รัฐบาลพอจะจัดกลุ่มให้ได้ อย่างเช่นบางอย่าง ผมบอกลองไปดูขายบนเครื่องบินได้ไหม ถ้าเราไม่ทำแบบนี้มันไปหาตลาดเสริมกัน ผลิตอย่างเดียวมันจะไปขายใคร ไม่ได้หรอก มันก็ไม่ถึง และก็มาบอกรัฐบาลไม่ทำอย่างนี้ รัฐบาลนี้จะทำให้โอท็อปมันสามารถที่จะเข้าสู่การผลิตให้ได้ ท่านก็ต้องไปสร้างความเข้มแข็ง อยากให้ทุกคนอยู่กันท่ามกลางความแตกต่างในอนาคตให้ได้ เพราะอาจจะมีคนนอกพื้นที่ไปอยู่ในพื้นที่ของท่าน เพื่อไปทำงาน เพื่อไปทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะฉะนั้นทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง อย่าไปดูถูกซึ่งกันและกัน มีศักยภาพต่างกันไป รวยบ้าง รายได้มาก รายได้น้อย ทำยังไงจากหลายๆ สาขาอาชีพ จากหลากหลายพื้นที่จะมาอยู่รวมกันโดยที่มีความเข้มแข็ง สามัคคีกัน ร่วมมือกันให้ได้เพื่อจะร่วมกันพัฒนา ร่วมกันแก้ไขปัญหาท้องถิ่นของตนเอง และในเรื่องของเศรษฐกิจต่างๆ ก็ดีขึ้น แต่ถ้าเราไม่สร้างความเข้มแข็งตรงนี้ไว้ก่อน เวลามีเกิดภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ มันจะมีปัญหามาก ต่างคนก็ต่างอยู่ ไม่ร่วมมือกัน บ้านติดกันไม่คุยกัน ที่ผ่านมาก็มีเรื่องการเมืองเข้ามาอีก มันทำให้มีปัญหาหมด เวลามีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ก็จะพบว่ามีคนจากภายนอกเข้ามาอยู่ใหม่ เช่นในหมู่บ้านจัดสรร ในพื้นที่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรท่าน เพียงแต่ว่าเท่าที่ได้รับรายงานมา มักไม่ค่อยมาใช้สิทธิ เพราะท่านมาจากข้างนอก เพราะฉะนั้นการกระจายอำนาจ การมอบหมายความรับผิดชอบมันไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ เพราะต่างคนต่างอยู่ ฉะนั้นสังคมชนบทมันอีกแบบหนึ่งนะ การสร้างชุมชนเข้มแข็งมันไม่ยากหรอกครับ ก็เป็นความร่วมมือกันระหว่างผู้คนในชุมชนเองอย่างแท้จริง เหมือนเรื่องปรองดองนะ ทุกคนต้องมีใจอยากปรองดอง ไม่ใช่ถูกบังคับให้ปรองดอง มีกฎหมายให้ปรองดอง เอ๊ะ มันต้องใช้กฎหมายในทุกเรื่องเลยหรือไง ท่านต้องมีจิตใจเองสิครับว่าบ้านเมืองมันเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่ปรองดองกันผมก็ไม่รู้จะทำยังไง บังคับท่านไม่ได้ อย่ามาพูดกันเรื่องนี้อีก แล้วก็ต้องต่อเนื่องเลยนะการทำของท่านน่ะ เนี่ย เขาเรียกว่าการกระจายอำนาจ กระจายความรับผิดชอบ กระจายหน้าที่ แล้วสิทธิมันก็จะตามมา เพราะว่ามันเข้มแข็งแล้วไง
       
       หัวใจสำคัญของการมีชุมชนเข้มแข็ง ก็คงต้องใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บางคนบอกว่า เอ๊ะ รัฐบาลนี้บอกว่าใช้เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช้อะไรเลย เศรษฐกิจ ท่านไปดูซิว่าความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร ท่านอาจจะมองว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี้คือทำให้มันดีขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ท่านไปดูความหมายซิว่ามันคืออะไร ผมเห็นเมื่อ 2-3 วันนี้ ในบางสื่อ บางคอลัมนิสต์เขียนออกมา ว่าที่เศรษฐกิจไม่ดีเพราะไม่นำเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมบอกแล้วว่ารัฐบาลนี้เอาแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักการในการทำงาน ผมเคยพูดตั้งแต่ต้น ไปดูคำพูดเก่าๆ ได้ว่า มันมีอยู่ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ย่อๆ มีความรู้ มีคุณธรรม มันถึงจะเข้มแข็ง เมื่อเข้มแข็งแล้วทำอย่างที่ผมว่าเมื่อกี้ เศรษฐกิจมันก็จะดีขึ้น ไม่ใช่ทุกคนจะต้องเป็นเถ้าแก่หมดทุกคน มันเป็นไปไม่ได้ อันไหนดีก็ไปก่อน อันไหนยังไม่ดีก็มีภูมิคุ้มกันไง หาความรู้ ดูเขา เมื่อพร้อมเราก็ก้าวอีกเหมือนกัน เป็นเถ้าแก่ระดับ 2 อะไรทำนองนี้ หาเงินหาทอง ดูตัวอย่างเขา นี่คือหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่ให้ประหยัด ไม่ใช่ให้อดออมนะ เข้าใจซักที ไม่อย่างนั้นทุกคนบอกว่า รัฐบาลใช้เศรษฐกิจพอเพียง อีกพวกบอกว่า สอนให้คนอดออม มันคนละเรื่อง อันนั้นเป็นเรื่องการออม อันนี้เป็นเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงใช้ได้ทุกอย่าง การดำรงชีวิตก็ได้ การจับจ่ายใช้สอยก็ได้ การผลิตก็ได้ ต้องเข้มแข็งก่อน ถึงจะลงทุนให้มากขึ้น ถ้ายังไม่เข้มแข็งก็ทำให้ดีขึ้น แก้ปัญหาให้ได้ และมีพอกินแล้ว แลกเปลี่ยนกัน จากนั้นก็ไปขาย จากขายก็ไปตั้งโรงงาน มีปัญหาทางเศรษฐกิจ เงินทอง อย่างเช่นตอนนี้บางอันไปไม่ไหวก็ต้องหยุดรอไว้ก่อน มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าโลกมันตกต่ำแล้วไม่ได้
       
       เพราะฉะนั้นมันจะเกิดขึ้นด้วยการลงทุนจากต่างประเทศ ลงทุนโดยพ่อค้ารายใหญ่ ซึ่งหลายคนเขาพร้อมจะลงทุน เรื่องรถยนต์ก็กระเตื้องขึ้น ผมจะไม่พูดเรื่องเก่า ไอ้คำว่าที่ผมบอกต้องมีการพัฒนา ผมไม่ได้ให้เกิดวันนี้ ผมพูดให้คนคิดตามผมว่า อนาคตวันหน้าอาจจะ 20 ปี 30 ปี ก็ได้ ที่มันอาจจะใช้พลังไฮโดรเจน หรือใช้แสงแดดกับรถ หรือไฟฟ้าทั้งหมด เราต้องเตรียมไปสู่ตรงโน้น วันนี้เรามีโครงการก็ทำไปสิครับ มีโครงการผมไม่ว่า จะทำกี่ก็ทำไป แต่มันต้องมีเตรียมการไว้ตรงนั้น เขาเรียกว่า นั่นแหละคือภูมิคุ้มกัน ผมพูดภูมิคุ้มกันไม่ใช่วันนี้ มีบางคนบอกว่า ผมพูดทำให้การค้าร่วงตกต่ำ ต่างประเทศไม่เชื่อมั่น วันนี้ผมเชิญเขามาเลย มาสร้างโครงการ 2 3 4 5 ก็ทำไปสิ แต่ท่านก็ต้องมีส่วนหนึ่งที่คิดค้นคว้าวิจัย และใครจะมาทำ วันหน้าโลกเขาเปลี่ยน ท่านจะไม่มีอีกหรอ ไม่มีความรู้เลย ขุดเจาะน้ำมันก็เหมือนกัน เจาะเองทำเองสำรวจเองก็ยังไม่พร้อมซักอย่าง แต่ไม่ได้ ไม่เข้าใจ ชอบอะไรล่ะ ดูหนังเหมือนดูไม่จบเรื่อง แล้วก็วิจารณ์หนังที่พูด ไม่รู้จะลงทุนไปทำไม พวกทำหนังก็เสียใจ
       
       เพราะฉะนั้นก็อยากจะนำมาเล่าให้พี่น้องประชาชนฟัง เรื่องสหกรณ์เกษตรพิมายเป็นตัวอย่าง จ.นครราชสีมาผมเคยไปเยือนมาแล้ว สหกรณ์นี้ตั้งมากว่า 40 ปีแล้ว เริ่มจากสมาชิกกว่า 2,000 คน วันนี้มีสมาชิกกว่าหมื่นคน มี 11,000 คน 80% ของเกษตรกรในพื้นที่มีหลายกิจกรรม คือผมเร่งจากการเกษตรทั้งหมด มีเงินทุนมากถึง 350 ล้าน มีสินทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาทในปัจจุบัน อีกตัวอย่างที่ผมพบคือ การที่ให้จัดกิจกรรมในทำนองที่ว่า เมืองนี้ฉันรัก We Love Cities ของกองทุนสัตว์ป่าโลก เป็นกิจกรรมที่ได้เชิญชวนให้เมืองต่างๆ รอบโลก เข้าร่วมในการสร้างความยั่งยืน ช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยคณะกรรมการจะพิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึงพันธสัญญาของเมือง ได้จากรายงานที่แต่ละเมืองจัดทำขึ้น เพื่อคัดเลือกเป็นเมืองต้นแบบของแต่ละประเทศสำหรับรางวัล “National Earth Hour Capital” ซึ่งจะมีการมอบรางวัลวันที่ 9 เมษาฯ นี้ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และที่ประทับใจ อันนี้เป็นการคัดเลือกโดยต่างชาติ ต่างประเทศ ประเทศไทยของเรามีเมืองได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมนี้ถึง 3 เมืองด้วยกัน น่าภูมิใจไหมล่ะครับ เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น และเทศบาล ต. จ.ชุมพร และเทศบาล ต.มาบอำมฤต จ.ชุมพร เป็น 3 ใน 44 เมือง จาก 16 ประเทศทั่วโลก ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย จากทั้งหมด 163 ประเทศ เข้าไปได้แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว แต่อีกกี่เมือง นี่ 3 จังหวัดเอง เรามีตั้ง 77 ทำอย่างไร 76 + กทม. ใช่ไหม ไปดูซิ แต่ละเมืองจะมีวิธีการจัดการเมืองอย่างยั่งยืนแตกต่างกันไป หากใครริเริ่มการมีส่วนร่วมของเทศบาล ชุมชน โรงเรียน เรามีทั้งหมด อาทิ ในเรื่องของการใช้พลังงานกับการผลิตกระแสไฟฟ้าจากมูลสัตว์ขยะ การฟื้นฟูป่าชายเลน ป่าไม้ การผลิตพลังงานชีวภาพจากน้ำมันที่เหลือใช้ ระบบการจัดการขยะ แยกขยะ และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ น่าสนใจนะครับ
       
       เพราะฉะนั้นผมอยากให้ผู้นำชุมชนที่สนใจ ที่ท่านอยากจะกระจายอำนาจ ไปดูก่อนว่า ท่านทำได้อย่างนี้หรือเปล่า ถ้าทำได้ ผมว่ามันไม่มีปัญหา จะทำอย่างไรก็ได้ วันหน้า วันนี้ยังไม่พร้อมหรอก กระจายความรับผิดชอบกันก่อน ให้ได้ก่อน ให้เห็นถึงความเชื่อมั่น เพราะเราต้องใช้เงินจำนวนมาก ขอให้ไปดู ศึกษารายละเอียดข้อมูล ถ้าใครยังไม่ทำอย่างที่ว่า ก็แสดงว่ามันไม่มีการพัฒนา แล้วเราก็จะถูกบริหารจัดการโดยการเมืองทั้งสิ้น วันนี้มี 2 เรื่องที่คนสนใจ หนึ่ง เศรษฐกิจไม่ดี สอง เลือกตั้ง ผมไม่เห็นว่ามันจะทำให้ดีขึ้นเท่าไรเลยนะ เรื่องเลือกตั้งก็แล้วแต่ท่านแล้วกัน ผมก็บอกไปหลายที ถ้าเลือกมาแล้วมันดีกว่าเดิมก็เอา ก็ทำเถอะ ถ้ามันไม่ดีกว่าเดิม ใครจะมาช่วยท่าน ไม่มีแล้ว ไม่รู้จะว่าไง เพราะฉะนั้นช่วยกันโหวตให้เมืองเหล่านี้ด้วยนะ คือยังไม่ได้ตัดสินใช่มั้ย ตอนนี้เป็นการเสนอเข้ามารอบแรก รอบสุดท้ายที่เขาเลือกมีเข้า 3 จังหวัด ขอให้ทุกคนช่วยไปโหวต ลงคะแนนให้ทางเว็บไซต์ welovecities ไปอ่านแล้วก็ทำตามนั้น นี่น่าสนใจ ได้ทราบจากสื่อสร้างสรรค์เรื่องการส่งเสริมสถาบันการเมืองชุมชน อันนี้คือตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       
       สร้างเครือข่ายสัจจะสะสมทรัพย์ จ.จันทบุรี และสถาบันการเงินชุมชนสุขสำราญของ อบต.ลับล่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ก็สามารถช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่ห่างไกลให้มีเงินทุนหมุนเวียนอย่างเพียงพอในการประกอบอาชีพ ไม่ต้องพึ่งยืมเงินนอกระบบ ส่งเสริมให้คนในชุมชนรู้จักอดออม มันจะเล็กจะน้อย จะกี่บาทไม่รู้ ทำบัญชีครัวเรือนให้ได้ มันเป็นหนี้อยู่ก็ไม่เป็นไร จะได้รู้ว่าที่เป็นหนี้อยู่ มันใช้อะไรที่เกินจำเป็นมั้ย มีเหตุผลมั้ย พอประมาณมั้ย แล้วเราก็หยุดใช้ตรงนั้นไปหน่อย อย่างน้อยหนี้มันก็ลดลง ไม่ได้สร้างหนี้ใหม่ เพราะหนี้ที่ผ่านมานั้นอาจจะมีความจำเป็นบ้าง ไม่จำเป็นบ้าง ก็ธรรมดาครับ มนุษย์ก็อยากจะซื้อความสะดวกสบายบ้าง แต่ถ้าเราทำแล้วเรามีปัญหา เราก็ต้องลดลงนะ การใช้จ่ายเหล่านั้น อย่างวันนี้ทุกคนก็เป็นกังวลกับคำว่าหนี้ครัวเรือน ซึ่งสูงขึ้น มันคงไม่ใช่เลวร้ายทั้งหมดนะ เพราะการที่จะไปกู้หนี้ยืมสินจากใครเขาได้ แสดงว่าตัวเขาต้องพร้อมที่จะสามารถใช้หนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร อะไรต่างๆ มันก็ต้องมีหลักมีฐานไปกู้เขา เว้นแต่ไปกู้เงินนอกระบบ อันนั้นเราออกกฎหมายไปช่วยท่านแล้ว พ.ร.บ. ทวงถามหนี้ แล้วเจ้าหน้าที่ทุกคนก็พร้อมที่จะเข้าไปดูแล ให้มาบอก แต่ในเรื่องของหนี้ครัวเรือนผมเห็นบางประเทศมีหนี้ครัวเรือนกว่า 200 กว่าเปอร์เซ็นต์ ของเราเท่าไหร่ 89 - 90 ก็พูดกันไปจนมันร้ายแรงไปหมด ทุกคนก็ต้องมีหนี้นะ ผมคิดว่า ถ้าไม่ได้เกิดมาเป็นลูกท่านหลานเธอ ไม่มีมรดก มันก็ต้องเป็นหนี้มั้ง ในการที่จะมีอะไรสักอย่าง เพราะมันซื้อไม่ได้ ต้องผ่อน ต้องอะไร วันนี้ผมไม่อยากให้สังคมมองเรื่องนี้อย่างเดียว พอมองเรื่องเงิน ทุกคนก็อยากจะได้เงิน ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็อยากได้เงิน ทุกคนใช้อะไร นับถือหน้าตาด้วยเงินทอง ฐานะทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ไม่ใช่นะ ความเป็นคนมีศีลธรรม มีคุณธรรม มีธรรมาภิบาล นั่นล่ะเป็นสิ่งที่ควรได้รับความเคารพนับถือ คนเหล่านี้เขาอาจจะไม่ได้อะไรมากนัก แต่การที่เขาทำตนเป็นคนดี แต่เขาได้กุศล ทางศาสนาก็ตอบแทนด้วยความสุขในอนาคตนะ คนร่ำรวยแล้วไม่ทำ สิ่งตอบแทนบางทีทำผิดมากๆ ก็มีคดีความ ติดคุก อะไรก็ว่ากันไป นั่นล่ะเขาเรียกว่าตอบแทน เพราะฉะนั้นขอให้ช่วยกันจัดสวัสดิการตอบแทนให้กับชุมชน แล้วนำดอกเบี้ยนั้นมาเป็นสวัสดิการให้ชาวบ้าน ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล ทุนการศึกษา บุตรหลานในชุมชนของท่าน ท่านทำเองได้ทั้งหมด แต่ท่านไม่ค่อยทำกัน รอ อบต. จะทำมั้ย อบจ. จะทำหรือเปล่า จังหวัดจะทำมั้ย รัฐบาลจะเอาเงินมาช่วยเมื่อไหร่ ท่านก็มีเงินกัน เพราะฉะนั้นท่านก็เก็บเล็กเก็บน้อย คนละ 5 บาท 10 บาท สมัยก่อนเขาเรียกอะไร ธนาคารชุมชน ก็เหมือนกับธนาคารอาหาร ธนาคารข้าว ก็แบบเดียวกัน อดออมกัน ตั้งสมาชิกขึ้นมา 50 บาท 10 บาท ลงไปก่อน วันหน้าก็เป็น 10 บาท วันต่อไปก็ 100 บาท เงินมันก็มากขึ้นๆ ดูแลคนได้มากขึ้น ไม่เริ่มต้นมันจะไปได้อะไร มัวแต่รอนี่รอนู่น พอไม่ได้ก็โทษมาโน่นมานี่ ไม่ได้ คิดแบบนี้ไม่ได้ ประเทศที่เขาเจริญเขาเลิกคิดไปแล้ว เขาไม่มารอหวัง ให้ประเทศชาติไปพัฒนา ใหญ่ๆ เล็กๆก็ต้องช่วยตัวเองบ้าง เงินทองรัฐก็สนับสนุนบ้าง สร้างอำนวยความสะดวก หาโอกาสให้ ต่างประเทศเขาไปกันหมดแล้ว เรายังต้องมานั่งช่วยเหลือค่าการเกษตร ค่าอะไรต่างๆ แล้วผมถามว่า ที่ผ่านมาการบริหารบ้านเมืองทำอะไรกันมา
       
       ผมว่าวันนี้คิดใหม่ให้หมด ประชาชนต้องร่วมมือกับผม ไม่ใช่จะต้องได้วันนี้ พรุ่งนี้ มันไม่ได้หรอก เพราะมันไม่เข้มเข็งไง ไม่ได้เตรียมพื้นฐานไว้เลย ก็ทำเป็นชิ้นๆมาแบบนี้ ก็เป็นอยู่แบบนี้ เข้าใจซะทีนะ ฉะนั้นนอกจากในเรื่องนี้แล้วก็จะมีการจัดทีมงานลงพื้นที่ด้วย แล้วไปตรวจสอบดูว่า อะไรที่เขาควรจะต้องปรับปรุง อะไรที่ควรจะสนับสนุน ทุกกระทรวงทุกหน่วยงาน สหกรณ์ จังหวัด มีทุกหน่วยงาน แต่ท่านทำงานให้มันได้ผล มีประสิทธิภาพด้วย อยู่ต่างจังหวัดแล้วทำไปๆไม่ได้ วันนี้ต้องช่วย รัฐบาลทำแทบตาย แล้วท่านไม่ไปทำ ไม่ไปช่วยทุ่มเท ให้รัฐมนตรีก็ไม่ได้ ท่านอยู่กับประชาชน ฉะนั้นถ้าประชาชนเรียกร้องขึ้นมาว่า ข้าราชการจังหวัดนี้ จังหวัดนั้นทุจริต ผมจะต้องจัดการนะ อย่าหาว่าผมไปขู่ท่านเลย แต่ไม่ไหว ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ แล้วมันไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย ที่อื่นทำไมเขาทำได้ ทำไมที่นี่ไม่ทำไม่มีผลงาน ไม่มีอะไรปรากฏ คนดีๆ อย่าเสียใจ เสียกำลังใจไม่ได้นะ
       
       การผลิตปุ๋ยต้องทำอย่างไร ปุ๋ยอินทรีย์นะ ขายกันเองภายในกลุ่ม ตั้งธนาคารปุ๋ย ธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช ทำจุลินทรีย์ ทำของใช้ที่จำเป็น แจกจ่ายในชุมชน ลดค่าใช้จ่าย บอกตรงๆช่วงนี้เงินมันไม่ดีนะ อย่าเพิ่งไปซื้อของข้างนอกเลย มันแพง เราเอามาทำ อะไรที่จำเป็นต้องใช้ ตะกร้า กระเป๋าอะไรก็ทำไปก่อน พอวันหน้ามันดีขึ้น มีรายได้มากขึ้นค่อยไปซื้อแพงๆ นี่เขาเรียกว่ามีภูมิคุ้มกันไง ต้องเข้าใจนะ
       
       วันนี้ถ้าหากว่ามันเป็นไปได้ผมเห็นมีหลายพื้นที่นะมีการลงทุนกัน แล้วไปซื้อที่เก็บไว้ แล้วให้ชาวบ้านในพื้นที่มีที่ทำกิน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพราะไปแจกทุกคนคงทำไม่ได้ ลักษณะเป็นนารวม พื้นที่รวม ทางการเกษตรและแบ่งปันกัน รายได้ภายในชุมชน และสร้างสถาบันการเงินให้เข้มเเข็ง เด็กๆคนในพื้นที่เรียนจบก็อยากจะกลับมาทำงานในชุมชนที่มันมีอนาคต ฉะนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองช่วยกันนะ เหมือนกับการทำงานในเมือง มันต้องมีรายได้ และอดออม มีภูมิคุ้มกัน เมื่อไหร่จะเดินหน้า เมื่อไหร่จะหยุด รอก่อน
       
       ผู้ริเริ่มโครงการเหล่านี้ผมขอชื่นชมทุกคน ผมอาจจะกล่าวได้ไม่หมด หลายจังหวัดหลายพื้นที่ หลายอำเภอ หลายหมู่บ้าน หลายจังหวัด มีอีกเยอะ เขาไม่บ่นอะไร เพียงแต่ว่าเขาสร้างความเข้มแข็ง และผมเห็นในทีวีแล้วสะท้อนใจ คนเหล่านี้ทำไมเขาไม่บ่นอะไรเลย ทำไมเขายังต้องช่วยกัน เขาไม่มาด่าว่า บ่นรัฐบาลเลย เพราะอะไร เขาก็เป็นเกษตรกรเหมือนกัน เขาบอกวันนี้เป็นแบบนี้เราจะต้องช่วยกันนะ เราเป็นคนไทย ผมฟังเขาพูดผมน้ำตาตกเหมือนกันนะ กับอีกพวก บ่นทั้งวัน เศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลเข้ามาทำให้เกิดปัญหา ไปดูว่ามันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมก็กำลังทำให้อยู่ ฉะนั้นช่วยกัน ขยายให้ทุกชุมชนด้วย
       
       เรื่องแรงงานประมง วันนี้อาจจะมีหลายท่านไม่เข้าใจ ว่ามันมีปัญหามายาวนานพอสมควร เป็นสิบๆปี ในเรื่องของปัญหาการค้ามนุษย์ ผมเลยมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร ซึ่งรับผิดชอบตั้งแต่แรกกับผม ช่วยดำเนินการในการขับเคลื่อนทางนี้ ในภาพรวมก็อยากจะเรียนว่าเราได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งพนักงานไปที่เกาะเบนจินา และหารือกับฝ่ายอินโดนีเซียเพื่อจะเร่งผู้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิด คนไทยที่ไปถุกจับที่โน้น ที่ข่าวออกมาเป็นจำนวนมากหลายร้อยคน เราไม่ได้นิ่งนอนใจก็ทยอยทำมาเรื่อยนะ เพราะคนเหล่านี้ไปกระทำความผิดในประเทษศเขาใช่ไหม และทุกคนก็เป็นเหยื่อต้องถูกหน่วยสิทธิมนุษยชนเขามาดู องค์กรระหว่างประเทศมาดูแล้วประเทศต้องรับผิดชอบ ท่านต้องมาบอกเราว่าที่ไหนแนะนำตรงไหนเพิ่มเติมเราจะได้ช่วยได้ ผมทราบว่าบางทีไปทำงานและถูกจับไปแล้วผู้ประกอบการไม่สนใจเรือมีตั้งหลายลำก็จับไป ไปเสียค่าไถ่ก็ไม่ยอมเสีย ลูกเรือก็ไม่ช่วยโอนให้รัฐบาลดูสิ เหมือนครั้งที่แล้ว 5 ปีถูกจับไปที่โซมาเลีย แล้วพึ่งกลับมา เหมือนกับตายไปแล้วเกิดใหม่นะ เพราะฉะนั้นถ้าเรายังมีการเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์อยู่แบบนี้ ผมกำหนดไปแล้วว่า ไม่สมควรให้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการใดๆ อีกต่อไปในประเทศไทย และต้องได้รับโทษทางกฎหมาย คือต้องเข้มงวดกัน ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องถูกติดตามประเมินผลด้วย ไม่ว่าจะประมง กรมเจ้าท่า อะไรต่างๆ เหล่านี้ ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องทำให้ครบจดทะเบียน ติดเครื่องมือ และแก้ปัญหาในเรื่องของการทำประมงร่วม Joint Venture กับประเทศโน้นประเทศนี้ ผมก็เดินหน้าเรื่องนี้มาโดยตลอด วันนี้ก็เตรียมตัวทำ Joint Venture กับอินโดนีเซีย มีปลามาก แต่เราชอบเข้าไปตรงที่เขาไม่ให้เข้า แล้วมาบอกว่าก็ขอให้ยกเว้นหน่อยแล้วกัน เพราะว่าเป็นอาชีพเขารายได้น้อย แล้วกฎหมายอยู่ตรงไหน ประเทศเขาก็มีกฎหมาย ถ้าผมอนุโลมท่าน ไม่จับกุมไม่ดำเนินคดี ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แล้วท้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้น ท่านรู้ไหม เรื่องสินค้าประมงเขาจะมีมาตรการไม่ให้เราขาย วันนั้นผมบอกว่า 2 แสนกว่าล้านบาท ไม่ใช่ 2 แสนกว่าล้านตัน ท่านไม่จับให้ตรง ผมพูดเสียงดัง ถ้า IUU ที่เราผิดอยู่นี่ทั้งหมด ค้ามนุษย์ด้วย อะไรด้วย ทางยุโรป ทางอเมริกาเขาบอกว่าเราค้ามนุษย์อยู่ แล้วทำนี่ก็ผิดกฎหมาย ละเมิดน่านน้ำ เขาบอกว่าต่อไปนี้ ไม่รับซื้อสินค้าจากไทย เริ่มจากสินค้าประมงก่อน ต่อไปก็เป็นเรื่องที่ผิดๆ ก็ลากพาไปสู่เรื่องผลไม้ ข้าว ยาง ไปหมด คนเหล่านี้ที่ทำความผิดตรงนี้ ต้องสำนึกตนเอง ทำมานานแล้วหลายปีแล้ว ทุกรัฐบาลไม่เคยทำได้ รัฐบาลนี้จะทำกับท่าน อย่าหาว่าผมใจร้าย เอาเปรียบคนอื่นเขาได้อย่างไร ผู้ประกอบการบางคนรวยไม่รู้จะรวยอย่างไร มีเรือเป็นสิบ ๆ ลำ ทำตามกฎหมายบ้าง เราจะจริงจังกับนโยบาย zero tolerance ในทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และก็ทำเต็มที่เพื่อให้ปัญหาค้ามนุษย์หมดไปจากแผ่นดินไทย ต้องไปพูดคุยไปเจราจาว่าเรากำลังดำเนินการอยู่เป็นขั้นเป็นตอนอย่างนี้ เราไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาที่ยาวนานมาเป็น 10 กว่าปี มาในช่วงเวลาเพียง 7 - 8 เดือนนี้ได้ แล้วที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่แก้ หลายปีมาแล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องอีก เรื่องค้ามนุษย์ก็ชอบไปบ่นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลยต่างๆ ทุกเรื่องมีปัญหาไปหมด ลืมไปทั้งหมดแล้ว ก่อน 22 พฤษภาคม 2557 เป็นอย่างไร วันนี้จะเดินหน้าไปสู่ความขัดแย้งใหม่อีกแล้ว เรากำหนดให้มีการปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ วาระแห่งชาติคืออะไร ทุกหน่วยงานทุกคน ประชาชนต้องร่วมมือร่วมใจกัน เหมือนกับเรื่องยาเสพติด อะไรทำนองนี้ ใช้กฎหมายบังคับใช้ให้ได้ ต้องเตรียมการต้องมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน และร่วมมือกันกับรัฐบาลเพื่อนบ้านในภูมิภาค โดยเฉพาะอินโดนีเซีย เมื่อวานผมก็ได้พูดกับสมเด็จพระราชาธิบดีบูรไนด้วยว่า เราจะต้องทำประมงร่วมกัน ฟิลิปปินส์ ใช่ไหม ที่อยู่น่านน้ำแถวนี้ รอบๆ บ้านเรา กัมพูชา ว่าจะทำกันยังไง Joint Venture กันยังไง กองเรือเราก็มีเยอะแยะ ต้องรู้จักแบ่งปันบ้างนะ วันนี้เราเป็นพันธมิตรกัน แข่งขันไม่ได้ เดี๋ยวก็ไปโดนจับ ทะเลาะเบาะแว้งกัน ยิงกันไปยิงกันมาอีก นี่เราก็จับเขาเหมือนกัน แต่เขาจับเรามากกว่า
       
       เรื่องนี้ผมทราบว่าสื่อมวลชนในต่างประเทศได้ช่วยกันรายงานหน้าที่เต็มที่เลย ขอบคุณ หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของสื่อ หน้าที่การเฝ้าระวังสำคัญนะ ผมไม่ใช่ศัตรูกับสื่อ ทุกสื่อทุกคน หน้าที่ของสื่อต้องมีหน้าที่เหมือนกับเฝ้าบ้าน ต้องคอยแจ้งเตือนเจ้าของบ้าน เหมือนกับเครื่องมืออะไรสักอย่าง เหมือนกล้องทีวีก็ได้ หรือนัยน์ตาวิเศษอะไรสักอย่าง เพราะเวลามีเหตุร้าย มีโจรมีขโมยจะขึ้นบ้าน หรือจะเห็นการทุจริตผิดกฎหมาย สื่อทำหน้าที่คอยเตือนประชาชน เมื่อไรก็ตามที่มีนักการเมือง มีข้าราชการ โกง ทุจริต ต้องเตือนตอนนั้น หรือมีนักบริหารออกนโยบายที่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ แต่ไม่ใช่สื่อมาทำให้เกิดความระแวงกันเอง เพราะท่านมีหน้าที่ในการดูแลบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านเขาให้ท่านดู ติดตั้งท่าน อะไรท่าน เหมือนกับสื่อ คอยดูแทน แล้วปรากฏว่าท่านไม่ดู ท่านกลับมาเล่นงานเจ้าของบ้าน กลับเล่นงานคนในบ้าน แล้วโจรมันก็เข้ามาได้ นั่นคือเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากยกตัวอย่างเป็นอย่างอื่นนะ แม้กระทั่งให้คนในบ้านแตกความสามัคคี สร้างความเดือดร้อน เสียหาย บางครั้งมันอาจจะมีการผิดพลาดบ้างในการติดต่อสื่อสาร แต่ให้รู้ความตั้งใจของรัฐบาล ของทุกกระทรวงวันนี้ มันอาจจะมีการสื่อสารที่ไม่ตรง ไม่เข้าใจกันบ้าง หนักนิดเบาหน่อย ก็ให้อภัยกัน วันนี้เราอยู่ทีมเดียวกัน ท่านบอกว่าท่านมีหน้าที่ ท่านบอกว่าท่านมีสิทธิ และหน้าที่ของสื่อ จะต้องนี่ต้องโน่น อะไรของท่าน ผมไม่ได้ขัดแย้งท่าน ท่านนายกสมาคมสื่อฯ นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ฯ บอกว่าขอร้องให้ผมเข้าใจสื่อหน่อย เป็นการทำงานของสื่อ เพื่อติติงอะไรก็ได้ ผมไม่ได้ว่าอะไร ท่านก็ทำอย่างนั้นดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นอีกอย่าง เหมือนว่าเล่นงานผมทุกเรื่องไปเลย ผมว่าไม่เป็นธรรมกับผม แล้วพอผมบอกให้ท่านไปดูแลเอง ท่านตอบผมว่าไง ก็สำหรับสื่อที่อยู่ใน เป็นสมาชิกของสมาคมนั้นจะดำเนินการต่อไปตามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากมีสื่อหลายสื่อไม่อยู่ใน ไม่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ อันนี้ไม่สามารถจะรับผิดชอบได้ อย่างนี้หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ ท่านไปทำสิครับ หรือไม่ จะต้องให้ผมออกกฎหมายอีกมั้ยว่าสื่อทุกสื่อต้องเป็นสมาชิกของสมาคมท่าน สมาคมหนังสือพิมพ์ สมาคมสื่อ เอามั้ย ผมจะทำให้ ไม่งั้นก็อ้างอยู่อย่างนี้ บางสื่อก็คุมไม่ได้ อะไรไม่ได้ เขียนส่งเดชไปเรื่อย แล้วจะไม่ให้ผมโมโห มีอารมณ์รุนแรงได้ยังไงในบางครั้ง ขอโทษ ผมขอโทษคนสุภาพอาจจะไม่ชอบนะ แต่ท่านต้องเห็นใจผม เข้าใจมั้ย พอบอกให้ไปดูแล บอก ไม่เห็นผิดตรงไหนเลย ไปอ่านดูซิ ที่เขียนมันสร้างสรรค์ นี่สร้างสรรค์ท่านครับ สนับสนุนท่าน ทุกอย่างครับ โอ้โห ด่าทุกวัน บอกว่านี่เป็นการติติง ก็ผมทำไปแล้ว กำลังทำ ท่านก็บอกว่าผมไม่ทำอะไร ยกตัวอย่างง่ายๆ นะ หรือไม่ก็ เรื่องนี้ไม่รู้จะกล้าทำ ไม่กล้าผมไม่เข้ามา เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน แต่เพียงแต่ว่าจะทำได้เมื่อไร ผมไม่อยากจะไปบังคับขู่เข็ญคนมากนัก ผมฝากพี่น้องประชาชนทั่วไปแล้วกัน จะให้ผมทำยังไง บอกมา จะให้หนักกว่านี้ หรือเบากว่านี้ ใช้อำนาจมากกว่านี้ ว่ามา ผมจะไปพิจารณาอีกที ผมเข้ามาแล้วผมก็อยากให้มันสำเร็จนะ
       
       การปฏิรูปอีกมากมายเลย มันไม่จบภายในปีหรอก ปีหนึ่งไม่ได้ แค่ลดความขัดแย้ง แค่คิดไว้ว่าจะทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ผมว่าอีก 10 ปี ยังไม่ทันเลย สิงคโปร์เขาทำ 30 ปี เอาง่ายๆ แล้วเขาเลยเวลาเหล่านั้นมาแล้ว วันนี้เขาเข้มแข็งหมดทุกอัน บางคนบอกว่าไทยทำไม่ได้หรอก เพราะเรามีคนเยอะกว่า มีพื้นที่เล็กกว่าเรา เรายิ่งใหญ่ ไปดูในแผนที่ว่าใหญ่ขนาดไหน มีคน 60 - 70 ล้านคน ก็ใช่ แต่ 60 ล้านคนรวมกันได้เป็นหนึ่งไหม รวมเป็นไม้ไผ่ก้อนเดียวได้ไหม ไม่ได้ 60 กว่าล้านคน 60 กว่าความคิด มีกลุ่มชุมชน วันนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนแล้ว เป็นกลุ่มชน เป็นของคนนี้ ของคนนั้น ของพวกนี้ พวกนั้น เป็นกลุ่ม แล้วคนเหล่านี้ก็เข้ามาสู่กระบวนการเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็เรียกร้องกับรัฐบาล เรียกร้องความต้องการจากรัฐบาลจนไม่มีความเพียงพอ เมื่อไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ต้องมาดูแลเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีปัญหาการบริหารราชการ ใช่ไหม คนอื่นก็ไม่ต้องได้ นี่แหละคือปัญหาของประชาธิปไตยไทย ท่านจะทำอย่างไรไปทำ วันนี้ผมจะทำให้ทั่วถึงก่อน วันหน้าจะให้ส่งต่อให้ระบบแข็งแรง ข้าราชการ หรือการเมืองแข็งแรงกว่านี้ ที่ผ่านมาไม่รู้จะโทษใคร
       
       เรื่องเศรษฐกิจสำคัญขอให้เข้าใจ ผมพูดไปหลายครั้งแล้ว มีปัญหามาสอบถามผมก็ได้ มายื่นที่ศูนย์ดำรงธรรมเดี๋ยวเขาส่งให้ผมดู ว่านี่ไม่เข้าใจก็ต้องไปชี้แจงเขา ทั้งๆ ที่ผมพูดทุกอาทิตย์ พูดทุกวัน ไม่เคยฟัง แล้วใครจะฟังผม บอกให้ไปฟังกระทรวงก็ไม่ฟัง มีแต่เรียกร้องอย่างเดียว ทำไมเป็นคนอย่างนี้ คนเหล่านี้ ผู้อื่นเขาดีๆ ตั้งมากมาย หลายกิจการเขาดีไม่เคยบ่นไม่เคยว่า มีแต่ให้กำลังใจ ท่านทำต่อไปให้ดี สร้างความเชื่อมั่นให้ผมด้วย เขาอาจจะไม่รู้เรื่องเหมือนท่าน แต่เขายังพูดอย่างนี้ ท่านไม่รู้เรื่องแล้วก็ยังด่าว่าผม แล้วจะเป็นอย่างไร ท่านจะเอาอย่างไรกับผมเข้ามาทำให้ทั้งสิ้น
       
       สุดท้ายนี้ อีกไม่นานพวกเราคนไทยก็จะได้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันปีใหม่ของไทย หรือเรียกว่าวันสงกรานต์ และยังเป็นช่วงวันครอบครับอีกด้วย หยุดหลายวัน ผมอยากขอให้ทุกท่านใช้วันหยุดในช่วงเทศกาลนี้ด้วยการเดินทางกลับบ้าน อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกับครอบครัว พากันไปกราบไหว้รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ สอนให้เยาวชนรู้ถึงขนบธรรมเนียมที่ถูกต้อง การเล่นสาดน้ำที่ถือเป็นธรรมเนียมของวันสงกรานต์ แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง อย่าทำให้คนอื่นต้องเจ็บตัวหรือเดือดร้อน เมาสุรา ใช้แป้งอะไรต่างๆ ที่ดูไม่ดี ไม่สุภาพ ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย ต่างชาติเขามา โอเค สนุกจริง แต่ภาพออกมามันไม่งดงามเลย เขาไม่ได้อยากเล่นด้วย คนเขาเล่นด้วยก็ว่าไป แต่งตัวไม่สุภาพ แต่งตัวไม่งดงามเหล่านี้อย่าให้เห็นนะ ผมคิดว่าจะต้องดูแลให้เต็มที่ ไม่งั้นประเทศไทยไปอย่างไหนไม่รู้ ความเป็นไทยมันอยู่ได้ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่คนโบราณ สถาบันพระมหากษัตริย์เขาทำไว้ให้เรา ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ การท่องเที่ยว อาคาร บ้านช่อง พิพิธภัณฑ์ ของเก่าทั้งนั้น ของใหม่ไม่มีใครเขาอยากมาหรอก กับธรรมชาติที่ช่วยกันรักษาไว้ ป่าไม้ น้ำ
       
       ได้สั่งการไปแล้วให้ทุกจังหวัดจัดพื้นที่ในการเฉลิมฉลองด้วย รวมความไปถึงอาทิตย์หน้าด้วย วันที่ 2 เมษายน เป็นวันของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ช่วยกันด้วย ดูแลกัน เป็นวันแห่งมงคล ก็ขอให้มีการจัดอาสาสมัครช่วยกันดูแลความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแนะนำเส้นทาง จุดจอดพักรถเวลาง่วง อย่าให้เกิดอุบัติเหตุเลย บางทีมันเสียชีวิตไป มันเสียดาย สงสาร เห็นใจ และจะโทษใคร บางทีทั้งครอบครัวก็ไปหมด บางทีก็พ่อสูญเสีย แม่สูญเสีย ลูกสูญเสีย แล้วเราจะดื่มสุรา ขับรถทำไม ปัญหามันอยู่ที่ดื่มสุราจนไม่มีสติ มอเตอร์ไซค์ตายไม่รู้เท่าไหร่ มันจะแก้อะไรได้ แก้โดยกฎหมายได้ไหม จับท่านก็เดือดร้อนอีก ทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่เขาไม่มีปัญหากับเรา ไม่ผิดกฎหมายเขาก็ไม่ยุ่งกับเรา ท่านก็สนุกสนานของท่านไป ท่านชอบเลยเถิดกฎหมายอยู่ไหนไม่รู้ ไม่สนใจ จะทำสักอย่าง คนไทย วันเวลาแห่งความสุขไม่น่าจะมาห้ามกัน นี่ชอบพูดอย่างนี้ ไม่รู้จะว่าไง
       
       ช่วงนี้ปิดเทอม อากาศก็อาจจะร้อน ก็ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ ผู้นำชุมชนทั้งหมด แหล่งน้ำต่างๆในพื้นที่ ที่เยาวชนจะไปเล่นคลายร้อน ให้ทำป้ายเตือน หามาตรการป้องกัน ตรงไหนมันลึก ตรงไหนมันตื้น ทำป้ายให้เขาเห็น และมีนกหวีด มีระฆังไว้รอบๆ แหล่งน้ำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ใช้ที่อื่นด้วยก็ได้ ในป่า ในเขาตรงไหนอันตราย ตรงไหนที่มันเป็นหลุมเป็นบ่อ มันจะได้เขาเรียกอะไร เคาะระฆังส่งสัญญาณได้ อย่างคราวที่แล้วตกบ่อ 3 วันใช่ไหม เด็กวัยรุ่นวิ่งไปแล้วไม่เห็น ตกไปอยู่ตั้ง 3 - 4 วัน ถ้ารถไม่ได้มาจอดตรงนั้น ไม่ได้ยินเสียงเรียก ตายไปแล้ว 4 วันแช่น้ำอยู่นั่น และโทรศัพท์อยู่ข้างบน
       
       เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังเวลาจะไปเล่นน้ำ มีผู้ใหญ่ไปด้วย เด็กที่ว่ายน้ำไม่แข็งไม่เป็น ต้องกำชับให้ตามเพื่อนๆ ไป ดูแลเขาจัดคู่บัดดี้ จะไปไหนไปด้วยกัน อะไรทำนองนี้ และข้อสำคัญอย่าไปเผาป่า ไปเที่ยวป่าเขาก็ทิ้งก้นบุหรี่จุดไฟเล่น ทิ้งขยะเกลื่อนเมือง เกลื่อนป่า สัตว์กินเข้าไปปวดท้องตายอีก ต้องนึกถึงส่วนรวมด้วยนะครับ ต้องตั้งอุดมการณ์ของคนในชาติเอาไว้ให้ได้ ว่าเราจะต้องนึกถึงส่วนรวม ประกอบพร้อมไปกับประโยชน์ส่วนตนด้วย และรู้จักเสียสละ เหล่านี้มันเป็นสิ่งสำคัญนะครับ ถ้าคนไทยไม่รวมกันให้ได้ และไม่มีอุดมการณ์ว่า จะทำอย่างไรให้ชาติบ้าง และไม่พัฒนาตนเองอย่างรีบด่วนภายใน ผมคิดว่าสิงคโปร์เขาใช้ 20 ปี ประเทศเล็กไง ท่านบอกประเทศเล็ก เขาใช้ตั้ง 30 ปี
       
       ฉะนั้น เราประเทศใหญ่กว่าเขาใช่ไหม มันต้องใช้เวลานานกว่านั้นไหม และเวลาวันนี้เราจะทันเขาหรือเปล่ายังไม่รู้เลย เราทำไมไม่ใช่โอกาสที่เรามีอยู่เวลานี้ทำ ไม่ใช่ไปทะเลาะเบาะแว้งหมด เรื่องเลือกตั้งอะไรต่างๆ มันกินได้ไหม เลือกตั้งมาแล้วมันเป็นอย่างไร ผมไม่รู้ แต่สิ่งที่มีปัญหาอยู่ทั้งหมด ผมก็พยายามแก้ให้ทั้งหมด ถ้าเราจะพัฒนาประเทศ ถ้าจะฟื้นฟู ถ้าจะสร้างใหม่ วันนี้ผมบอกแล้วไง ผมเข้ามาเพื่อจะ บ้านเมืองเรากำลังจะล้มลง ผมก็ต้องขนเอาอิฐ หิน ปูน ทรายมาช่วยกันก่อขึ้นมา มันอาจจะเป็นปราสาททรายก็ได้ สร้างบ้านให้เป็นปราสาท ปราสาททรายที่อนาคตมันอาจจะพังอีกก็ได้ เราก็ต้องเอาความเข้มแข็งเอาความรักความสามัคคี อุดมการณ์ค่านิยมของคนไทยเติมเข้าไปนี่คือเหตุผลของผม พวกนี้ก็คือปูน หิน ที่ไปเสริมความเข้มแข็งของทรายเหล่านั้น อาจจะมีโครงเหล็กเข้าไปบ้างมีกฎหมายอะไรเข้าไป ถึงจะก่อมาเป็นปราสาทขึ้นมาได้ แล้วจะไม่ยุบลงมาอีก ถ้าคิดตามผมก็จะเข้าใจ โอเคก็ขอให้ทุกคนมีความสุขและปลอดภัย ขอบคุณครับ สวัสดีครับ  ط ʹʹҷءͧ繸 ͡-觪ҵ