ตอบพลเอกประยุทธ์ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี
ผมอ่านคำให้สัมภาษณ์ของท่านนายกจากหนังสือพิมพ์ พาดพิงที่ผมอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกรณีห้ามผมเดินทางออกนอกประเทศ ท่านบอกให้ดูพฤติกรรมผมในการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี ๒๕๕๓ ผมคือคนที่อยู่กลางราชประสงค์เป็นคนมาต่อรอง ศอฉ. ซึ่งท่านก็ดูแลให้แต่การชุมนุมไม่เลิกจนท้ายสุดเกิดความรุนแรง
ความจริงเรื่องนี้ผมไม่เคยนำมาเปิดเผยเก็บเป็นความลับมาตลอด แต่เมื่อท่านเปิดมาเองผมก็จะชี้แจงเพียงเท่าที่จำเป็น ผมไม่ใช่คนที่อยู่กลางราชประสงค์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการชุมนุมแต่เป็นคนที่ช่วยในการเจรจาทำให้ลดการสูญของทั้งสองฝ่าย ทั้งเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ ๑๐ เมษายน ที่ผมเป็นคนประสานให้มีการหยุดยิงและแยกสองฝ่ายออกจากกัน ส่วนในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ผมเป็นคนเดินฝ่ากระสุนปืนเข้าไปเจรจากับแกนนำเพื่อยุติการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์จนสำเร็จ ส่วนที่ว่าการชุมนุมไม่หยุดนั้นยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากแต่ผมไม่ขอพาดพิงเพราะยังมีคนที่เกี่ยวข้องอีกหลายคน ผมเป็นเพียงคนกลางครับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใด บางครั้งฝ่ายรัฐบาลรับปากแล้วไม่ปฏิบัติตามคนเสื้อแดงก็ว่าผมไม่ได้และผมก็ไม่เคยเอามาเปิดเผย
ส่วนที่ว่าผมชอบโจมตีท่านนั้น ผมขอเรียนว่าทุกเรื่องที่ผมพูดคือเรื่องของประเทศ เริ่มต้นเมื่อท่านกับพวกใช้กำลังอาวุธเข้ายึดอำนาจผมดูแถลงการณ์ฉบับที่ ๑ ถึงเจตนารมณ์และความจำเป็นผมก็ถอยและหยุดดูท่านกับพวกทำงานมา ๑ ปีเต็มจนเห็นว่าเริ่มไม่เข้าท่าผมจึงออกมา สิ่งที่ผมรับไม่ได้คือพฤติกรรมที่จะสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญที่กำลังยกร่าง การแสดงท่าทีที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศ การลุแก่อำนาจของท่านและบริวารไม่รวมถึงการบริหารที่ล้มเหลวทุกด้าน แล้วท่านจะให้ผมเฉยปล่อยให้ท่านทำบ้านเมืองเสียหายต่อไปเหรอครับ อย่าอ้างว่าการร่างรัฐธรรมนูญท่านไม่เกี่ยวข้อง ลองส่งเสียงดังๆ ว่าจะรีบคืนอำนาจให้ประชาชนเค้าไปกำหนดวิถีทางทางการเมืองกันเอง หนุมานตัวใหนมันจะกล้าเหาะเกินกรุงลงกาครับนอกจากปากว่าตาขยิบเท่านั้น มีใครเค้าอยากทะเลาะกับหัวหน้าเผด็จการที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จบ้างล่ะครับ
ที่ผมฟ้องท่านขอให้ศาลเพิกถอนประกาศฉบับที่ ๒๑/๒๕๕๗ ที่ห้ามคนจำนวน ๑๕๕ คน เดินทางออกนอกประเทศนั้นก็เป็นการใช้สิทธิทางศาลแบบอารยะ เพราะผมเห็นว่าคำสั่งห้ามคนเดินทางนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ท่านลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเอง ในมาตรา ๔ เขียนซะหรูว่าจะคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคที่ชนชาวไทยเคยได้รับคุ้มครองและตามพันธกรณีระหว่างประเทศแต่การกระทำเป็นอีกอย่าง การห้ามคนเดินทางคือการจำกัดสิทธิส่วนบุคคลอันถือเป็นสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สำคัญคือลูกน้องท่านทำเรื่องนี้โดยลุแก่อำนาจ เอามาต่อรองไม่ให้พวกผมวิจารณ์ท่านและรัฐบาล การอนุญาตหรือไม่ไม่มีหลักเกณฑ์ใดๆ บ่อยครั้งขอเดินทางไปยุโรปเครื่องบินออกตอนเที่ยงคืน ลูกน้องท่านแจ้งคำสั่งอนุญาตมาตอน ๑๖.๐๐ น. ทั้งที่ยื่นเรื่องขออนุญาตไปก่อนนับสิบวัน
อยากบอกท่านจริงๆ ว่าคำสั่งห้ามคนเดินทางไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย ท่านกลัวเค้าไปสุมหัวกันแบบที่ ผบ.ทบ. เคยให้สัมภาษณ์ผมก็จะบอกว่าถ้าเค้าจะไปสุมหัวกันเค้าคงไม่ไปขออนุญาตท่านให้เป็นหลักฐานหรอกครับ การสื่อสารทุกวันนี้ทันสมัยที่เค้าจะสุมหัวกันคุยผ่านเครื่องมือสื่อสารได้โดยไม่ต้องเดินทาง คำสั่งห้ามเดินทางไม่ได้ทำให้เกิดความมั่นคงแต่กลับจะทำให้ท่านเสียหาย เพราะนอกจากจะเป็นการจำกัดสิทธิส่วนบุคคลแล้วลูกน้องท่านยังเอาอำนาจนี้ไปใช้ตามอำเภอใจอีก อะไรที่ไม่จำเป็นหรือก่อประโยชน์ก็เลิกๆ ไปบ้างเถิดครับไม่ใช่เรื่องที่มาเอาแพ้เอาชนะกัน รัฐบาลท่านจะได้ดูดีขึ้นทันทีว่าไม่ได้จำกัดสิทธิและเสรีภาพไปซะทุกเรื่อง เอาเวลาไปคิดแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองดีกว่าครับ
วัฒนา เมืองสุข
PPD's Official Website
- Home
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- เว็บมหาวิทยาลัยประชาชน
- ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน
- “เป้าหมายการปฏิวัติแบบ มดแดงล้มช้าง”
- Ideology: อุดมการณ์มดแดง
- มดแดงล้มช้างคืออะไร?
- สถานียูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- ติดตามทางเฟสบุ๊ค
- การก่อตั้ง คณะราษฎรเพื่อสาธารณรัฐสยาม
- ร่วมโหวตชื่อขององค์การปวงชนชาวไทย
- หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
- หลักสำคัญสู่ชัยชนะเหนือเผด็จการไทย
- คำประกาศเพื่อการปฎิวัติระบอบการปกครอง 18 ก.พ. 2555
- การสมัครเข้าร่วมปฏิวัติประชาชน
- คำประกาศสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยประชาชน
- ถ่ายทอดสด ทางยูทูปมหาวิทยาลัยประชาชน
- จดหมายเหตุมหาวิทยาลัยประชาชน
- โครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยประชาชน
- เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยประชาชน
- บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"
- Missions: พันธกิจ มดแดง
Showing posts with label คสช.. Show all posts
Showing posts with label คสช.. Show all posts
Thursday, August 13, 2015
Sunday, July 5, 2015
คม ตรง และแสบถึงกระดองใจ จาก ประชาชน RED W อยากจะขอแนะนำไปยังไอ้ประยุตว่า.....
เครดิตจากเฟสบุ๊ค
จาก ประชาชน RED W
อยากจะขอแนะนำไปยังไอ้ประยุตว่า.....
ถ้ามึงจะไม่ให้ตระกูลมึง ต้องถูกตราหน้า และบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนายทหารผู้มักใหญ่ใฝ่สูงที่ คิดคตทรยศต่อประชน และประเทศชาติแล้วล่ะก็.....
มึงยังมีเวลากลับตัวทัน นั่นก็คือ ล้มล้างระบอบกบฏนรกนี้ออกไปเลย แล้วจัดการกวาดล้าง สมุนชั่วของอำมาตย์ทั้งหลายให้สิ้นชาก ตั้งแต่ องค์มนตรีส้นตีน. พรรคประชาธิเปรต ศาล ตุลาการ องกรค์ที่ไม่อิสระ ทั้งหลายเหล่านี้ ให้หมดสิ้น และประกาศยึดทรัพย์สินและทรัพยากรณ์ทั้วหลายจากระบอบ อำมาตย์ชั่ว กลับมาเป็นของรัฐ ........ แล้วคืนอำนาจให้กับประชาชน
ปล่อยให้ประชาชนเขาร่างรัฐธรรมนูญของเขาขึ้นมาเอง โดยปราศจากการแทรกแชงใดๆ ทั้งจากทหาร และฝ่ายอำมาตย์ อำนาจมืด........
แล้วมึงจะได้เป็นวีระบุรุษของประเทศนี้ไปตลอดกาล ...... และที่สำคัญ นี่คือการ คืนความสุขกลับคืนสู่คนทั้งชาติ อย่างแท้จริง.... มิใช่ การคืนความสุขแค่เพียงลมปาก พาจนของมึงไปวันๆ อย่างที่พวกมึงได้กระทำอยู่ในขณะนี้.....
เลิกแกล้งโง่ และคิดว่า คนในประเทศนี้มันโง่เง่าเต่าตุ่นเสียจน หลงเชื่อและคล้อยตามลมปาก(หมา) ของมึง ไปอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ......
จริงๆแล้ว....
ทางลงง่ายๆมีครับ แต่พวกมึงไม่เลือก และพวกมันดูถูกพลังฝ่ายประชาธิปไตย ว่าไม่สามารถที่จะล้มพวกมันลงได้ เพราะพวกมันมีอำนาจ และผลประโยชน์อยู่ในมือ..... ขอเตือนไปยัง ไอ้เหี้ยยุต และอีขันทีเฒ่า ไปด้วยว่า..... พวกมึงทั้งสอง กำลังเดินทางมาสู่หนทางแห่งหายนะและจุดจบที่ไม่สวยแน่นอน
เอาเป็นว่างานนี้มีได้เสียครับ
และระเบิดเวลาที่ตั้งเอาไว้ มันใกล้ถึงจุดที่จะระเบิดเต็มทีแล้วครับ.... ระบอบอำมาตย์นรกมันจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่..... ปัญหาที่แท้จริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็คือ การสืบทอดอำนาจของทหารครับ......
เพราะผลประโยชน์อันมหาศาลจากกองทัพ และในประเทศนี้ และที่สำคัญ พวกมันกำลังมัวเมาในอำนาจ และหาทางลงไม่ได้.....
ไอ้ประยุต์ มึงก็น่าจะรู้กำพืดของมึงเองนะว่า.....
แค่คุณสมบัติเบื้องต้นของมึง ก็ไม่ผ่านและไม่สามารถที่จะเป็นทหารได้แล้ว.... ไอ้ตาเหล่...... การที่มึงไต่เต้าขึ้นมาจากอำนาจ ก็มาจากการเป็นข้าหมารับใช้ ปรนเปรอความใคร่ทางอำนาจ ด้วยการเข่นฆ่า ประชาชน เมื่อปี 2552 – 53 และยอม ฆาตกรอย่างเต็มตัว ด้วยการ ทำ รัฐประหาร ที่ผ่านมา จนได้ไปเป็นประธานกรรมการเช็นต์ขาดน้ำมัน ทำสัญญาทาส ชื้อขายน้ำมัน 99 ปี ให้เมกา...... คอยให้การสนับสนุนม็อบถ่อย เถื่อน กปปส. เพื่อที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
จนได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้า คสช. ส้นตีน.....อย่างทุกวันนี้
มึงถึงกับลืมกำพืดโคตรเหง้าของมึงเลยหรือ.... ตอนนี้มึงรู้หรือไม่ว่า คนไทยทั้งชาติ และตลอดจนถึงผู้นำต่างชาติ เขาได้มองถึงการกระทำ และคำพูดของมึง ..... เป็นผู้นำที่ไร้ชึ่งวุฒิภาวะ พูดจา แบบไม่ต้องคิด พูดเรื่อยเปื่อย พูดไปเรื่อย เห่าไปวันๆ .... พูดแบบปากพาจน ลมปากของมึงไม่ต่างไปจาก ลมที่ออกมาจากก้น. และที่สำคัญพวกมึงและทหารไทยทั้งกองทัพ บ้าและมัวเมาในอำนาจและผลประโยชน์ เข้ามาเพื่อสร้างปัญหา..... ไม่ได้เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาส้นตีนอะไรเลย ไอ้สัตว์!
มึงน่าจะรู้นะว่า
ตอนนี้ต่างชาติพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ฝ่ายประชาธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่..... เพียงแต่ พวกเขากำลังรอฟังสัณญาณการลุกฮือขึ้นมาขับไล่พวกมึงของคนในชาติ เท่านั้นเอง เขาพร้อมที่จะเขามาช่วยเหลือและแทรกแซงได้ในทันที..... และศึกในครั้งนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยของไทย จะไม่ตายฟรีๆอีกต่อไป และถ้าจะต้องตาย ก็เป็นการตายที่คุ้มค่า เพื่อชำระล้างระบอบเผด็จการอุบาทว์ในประเทศนี้ และพวกมึงจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม..... คนที่จะไม่มีแผ่นดินที่จะอยู่อีกต่อไป คือ.... พวกมึงเอง มิใช่ทักษิณ .... เพราะความชั่วช้าเลวร้ายในประเทศนี้ มันได้เดินทางมาถึงจุดจบหรือจุดสุดท้ายที่ยอมและหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว นั่นเอง.
ระบอบเผด็จการทั้งหลาย....
ในอคีต ไม่ว่าจะเป็บแบบอำมาตย์ชั่ว หรือ เผด็จการทหาร ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ต่างก็ล่มสลายมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น..... เพราะอะไร
เพราะพวกเขาเหล่านั้น มันคิดไม่ต่างไปจากพวกมึงกำลังคิดนั้นเอง ......
สิ่งที่มึงคิดว่า มึงมีอำนาจและอาวุธอยู่ในมือ แล้วจะ สามารถรักษาอำนาจไว้ได้..... ถ้ามึงยังมีความคิดที่เลวทรามชั่วเลวทรามแบบนี้แล้วล่ะก็. ทหารไทย และระบอบอำมาตย์ชั่วของไทย..... มันจะพังพินาศไปพร้อมๆกัน ในไม่ช้านี้ ......
มันเป็นวัฎจักรและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ นั่นก็คือ ทุกอย่างบนผืนโลกใบนี้ ย่อมจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง. ในที่สุดไม่มีพลังใดและอำนาจใดที่จะเอาชนะฝ่ายก้าวหน้า และ พลังมหาประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยไปได้....... และที่สำคัญ ไอ้ทหารไทยหน้าตัวเมียทั้งหลาย มึงจงฟังไว้ให้ดี......
วันใดที่พวกมึงไม่มีอำมาตย์ ชั่วคอยคุ้มกะลาหัวให้พวกมึง วันนั้น พวกมึงก็ขะเหมือนกับ หมาขี้เรื้อนข้างถนน เพราะ ประชาชน ก็จะไม่เอาพวกมึงเช่นกัน
ถามหน่อย…
ตั้งแต่พวกมึงปล้นอำนาจเขามา ประชาชนต้องอดอยากยากไร้ ทุกระทมอย่างแสนสาหัส ประเทศชาติฉิบหาบยับเยินอย่างกู่ไม่กลับ .... สิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นตัวช่วยให้ประชาชนลุกฮือกันขึ้นมาขับไล่เผด็จทั้งสอง ฝ่ายอย่างมึดฟ้ามัวดินและล่มสลายในที่สุด.....
ถ้าพวกมึงยังดื้อด้าน และมีความคิดอันคับแคบที่คิดที่จะใช้อำนาจอันป่าเถื่อนชั่วร้าย บีบบังคับ และกระทำต่อคนในชาติเดียวกันเสมือนหนึ่งว่า..... คนในประเทศนี้คือขี้ข้าของพวกมึง พวกมึงก็จงเตรียมพบกับจุดจบที่จะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมอันเจ็บปวด เช่นเดียวกัน ใครเขาจะยอม และทนให้พวกมึงกดหัวหมดสิ้นซึ่งอิสระและเสรีภาพไปชั่วชีวิต.
หนึ่งปีที่พวกมึงเข้ามา พวกเขาได้รับรู้ถึงรสชาดอับเจ็บปวดนี้แล้ว. พวกเขาจะไม่หวนกลับไปยอมรับระบอบอุบาทว์นี้ได้อีกต่อไป หาทางลงให้ดีก็แล้วกัน นะ.....
ระบอบทักษิณกำลังจะได้รับการยอมรับ และหวลกลับคืนสู่ประเทศนี้อีกครั้งหนึ่ง...... และในขณะเดียวกัน ระบอบเผด็จการอำมาตย์ชั่วและทหารอันเก่าแก่ ที่แสนชั่วร้าย กดขี่ โกหกหลอกลวง กำลังเดินทางมาถึงจุดจบสุดท้ายอีกเช่นเดียวกัน และจะไม่มีวันที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกเลยชั่วนิจนิรันดร์..........
เพราะว่า อำมาตย์ก็ไม่แตกต่างไปจากฮิตเลอร์ ....... มันจะไม่มีตัวตายตัวแทนกันอีกต่อไป.
จากนี้ต่อไป....
ในเมื่อ การใส่ร้ายป้ายสี ให้กับคนแดนไกล การโกหกมดเท็จ และการโฆษณาชวนเชื่อ มันใช้ไม่ได้ผลกันอีกต่อไป ....
เพราะตลอดการย่างก้าวขึ้นสู่อำนาจของอำมาตย์ชั่ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทหารไทยได้เข้ามาปล้นอำนาจประชาชนและยึดกุมประเทศ มันได้พิสูจน์ให้คนทั้งชาติได้เห็น เปรียบเทียบ และตระหนักดีแล้วว่า.....
ใครกันแน่คือศตรูของชาติ อย่างแท้จริง
ระหว่างเผด็จการ ทหาร หรือระบอบทักษิณ......
แล้วพวกมึงจะหลอกตัวเองกันไปถึงไหน จะหลอกลวงคนในชาติไปได้อีกสักกี่น้ำ......
และความฉิบหายต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้อย่างเหลือคณานับ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ...?
และในที่สุดแล้ว พวกมึงทั้งหลายจะรับกับมันไหวหรือ...????????
การขึ้นเหยียบหลังหมาแล้วหาทางลงไม่ได้....
( ไม่ใช่หลังเสือ อย่างที่พวกมึงเข้าใจ ไอ้ประยุทธ์ จันทรโอชา )
จึงจำต้องดันทุรังไปให้ถึงที่สุด เพราะยอมรับความจริงไม่ได้ ถ้ายอมให้ประชาธิปไตย ก็กลัวฝ่ายตัวเองจะต้องเดือดร้อนเพราะจะต้องถูกคิดบัญชีย้อนหลังอย่างแน่น นอน การทำชั่วและคดโกงไปมากมายมาอย่างยาวนานทั้งกองทัพ ไหนจะคดีเข่นฆ่าประชาชน มานับหลายครั้ง .....
และที่สำคัญ ทหารไทย เมื่อไม่มีอำมาตย์ชั่ว ให้ยึดเกาะและคอยเซนต์ลบล้างความผิดความชั่วทั้งหลายให้ได้ต่อไปอีกแล้ว
หรือถ้ามอบอำนาจทั้งหมดไปให้ฝ่ายขันทีเฒ่าเจ้าเล่ ก็กลัวว่า ฝ่ายตัวเองจะถูกหักหลัง....... แต่ความฉิบหายทั้งหมดที่พวกมันได้กระทำกันมา มันมาตกอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ.....
จากนี้ต่อไป จะเดินหน้าก็ลำบาก จะถอยก็ไม่ได้...... แล้วจะมีๆ อะไรที่จะดีไปกว่า การรอวันที่จะระเบิดและทำลายตัวมันเอง......
ก็ขอบอกว่า พวกมึงเสือกเลือกเดินเข้ามาในกับดักมรณะ ที่อำมาตย์ชั่วไทยมันได้ตั้งเอาไว้นี่เองอย่างช่วยไม่ได้ จงรักภักดี หรือ ผลประโยชน์ต่างตอบแทน สุดท้ายมันก็แค่ การหาแดกบนความทุกข์ยากของประชาชนคนในชาติด้วยกันทั้งสิ้น.....
เมื่อสิ้นไร้จุดรวมอำนาจ คืออำมาต์ชั่วลงนรก ก็เท่ากับว่า หายนะของกองทัพไทย ก็ใกล้ถึงจุดสุดท้ายแล้วเช่นกัน
วันอังคารที่ 7 นี้ ขอเชิญชวนพวกเราทั้งหลายช่วยกันส่งข้อความถึงเพื่อนๆ บอกต่อๆกันไป ให้พวกเราไปแสดงพลังกันที่ศาลทหาร ให้มึดฟ้ามัวดินครับ.....
อย่าไปกลัวมัน. ถ้ามันใช้กำลังกับพวกเรา จะเป็นหนทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแทรงและให้การสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยใน ประเทศทันทีครับ.....
ตอนนี้ไอ้พวกทหารมันปากดี แต่ที่จริงพวกมันกลัวลนลาน จน ทำอะไรไม่ถูก และหาทางลงไม่เจอแล้วครับ........ มาช่วยกันกดดันมันให้ถึงที่สุดครับ
ขอให้พวกเรารอฟังสัญญาณการลุกขึ้นมาขับไล่เผด็จการ พร้อมๆกันในไม่ช้านี้ครับ......
ขอขอบคุณ ชัยชนะอยู่ไม่ไกล ......
โปรดติดตาม ตอนต่อไป สวัสดีครับ
จาก ประชาชน RED W
อยากจะขอแนะนำไปยังไอ้ประยุตว่า.....
ถ้ามึงจะไม่ให้ตระกูลมึง ต้องถูกตราหน้า และบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนายทหารผู้มักใหญ่ใฝ่สูงที่ คิดคตทรยศต่อประชน และประเทศชาติแล้วล่ะก็.....
มึงยังมีเวลากลับตัวทัน นั่นก็คือ ล้มล้างระบอบกบฏนรกนี้ออกไปเลย แล้วจัดการกวาดล้าง สมุนชั่วของอำมาตย์ทั้งหลายให้สิ้นชาก ตั้งแต่ องค์มนตรีส้นตีน. พรรคประชาธิเปรต ศาล ตุลาการ องกรค์ที่ไม่อิสระ ทั้งหลายเหล่านี้ ให้หมดสิ้น และประกาศยึดทรัพย์สินและทรัพยากรณ์ทั้วหลายจากระบอบ อำมาตย์ชั่ว กลับมาเป็นของรัฐ ........ แล้วคืนอำนาจให้กับประชาชน
ปล่อยให้ประชาชนเขาร่างรัฐธรรมนูญของเขาขึ้นมาเอง โดยปราศจากการแทรกแชงใดๆ ทั้งจากทหาร และฝ่ายอำมาตย์ อำนาจมืด........
แล้วมึงจะได้เป็นวีระบุรุษของประเทศนี้ไปตลอดกาล ...... และที่สำคัญ นี่คือการ คืนความสุขกลับคืนสู่คนทั้งชาติ อย่างแท้จริง.... มิใช่ การคืนความสุขแค่เพียงลมปาก พาจนของมึงไปวันๆ อย่างที่พวกมึงได้กระทำอยู่ในขณะนี้.....
เลิกแกล้งโง่ และคิดว่า คนในประเทศนี้มันโง่เง่าเต่าตุ่นเสียจน หลงเชื่อและคล้อยตามลมปาก(หมา) ของมึง ไปอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ......
จริงๆแล้ว....
ทางลงง่ายๆมีครับ แต่พวกมึงไม่เลือก และพวกมันดูถูกพลังฝ่ายประชาธิปไตย ว่าไม่สามารถที่จะล้มพวกมันลงได้ เพราะพวกมันมีอำนาจ และผลประโยชน์อยู่ในมือ..... ขอเตือนไปยัง ไอ้เหี้ยยุต และอีขันทีเฒ่า ไปด้วยว่า..... พวกมึงทั้งสอง กำลังเดินทางมาสู่หนทางแห่งหายนะและจุดจบที่ไม่สวยแน่นอน
เอาเป็นว่างานนี้มีได้เสียครับ
และระเบิดเวลาที่ตั้งเอาไว้ มันใกล้ถึงจุดที่จะระเบิดเต็มทีแล้วครับ.... ระบอบอำมาตย์นรกมันจะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แต่..... ปัญหาที่แท้จริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็คือ การสืบทอดอำนาจของทหารครับ......
เพราะผลประโยชน์อันมหาศาลจากกองทัพ และในประเทศนี้ และที่สำคัญ พวกมันกำลังมัวเมาในอำนาจ และหาทางลงไม่ได้.....
ไอ้ประยุต์ มึงก็น่าจะรู้กำพืดของมึงเองนะว่า.....
แค่คุณสมบัติเบื้องต้นของมึง ก็ไม่ผ่านและไม่สามารถที่จะเป็นทหารได้แล้ว.... ไอ้ตาเหล่...... การที่มึงไต่เต้าขึ้นมาจากอำนาจ ก็มาจากการเป็นข้าหมารับใช้ ปรนเปรอความใคร่ทางอำนาจ ด้วยการเข่นฆ่า ประชาชน เมื่อปี 2552 – 53 และยอม ฆาตกรอย่างเต็มตัว ด้วยการ ทำ รัฐประหาร ที่ผ่านมา จนได้ไปเป็นประธานกรรมการเช็นต์ขาดน้ำมัน ทำสัญญาทาส ชื้อขายน้ำมัน 99 ปี ให้เมกา...... คอยให้การสนับสนุนม็อบถ่อย เถื่อน กปปส. เพื่อที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
จนได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้า คสช. ส้นตีน.....อย่างทุกวันนี้
มึงถึงกับลืมกำพืดโคตรเหง้าของมึงเลยหรือ.... ตอนนี้มึงรู้หรือไม่ว่า คนไทยทั้งชาติ และตลอดจนถึงผู้นำต่างชาติ เขาได้มองถึงการกระทำ และคำพูดของมึง ..... เป็นผู้นำที่ไร้ชึ่งวุฒิภาวะ พูดจา แบบไม่ต้องคิด พูดเรื่อยเปื่อย พูดไปเรื่อย เห่าไปวันๆ .... พูดแบบปากพาจน ลมปากของมึงไม่ต่างไปจาก ลมที่ออกมาจากก้น. และที่สำคัญพวกมึงและทหารไทยทั้งกองทัพ บ้าและมัวเมาในอำนาจและผลประโยชน์ เข้ามาเพื่อสร้างปัญหา..... ไม่ได้เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาส้นตีนอะไรเลย ไอ้สัตว์!
มึงน่าจะรู้นะว่า
ตอนนี้ต่างชาติพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ฝ่ายประชาธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่..... เพียงแต่ พวกเขากำลังรอฟังสัณญาณการลุกฮือขึ้นมาขับไล่พวกมึงของคนในชาติ เท่านั้นเอง เขาพร้อมที่จะเขามาช่วยเหลือและแทรกแซงได้ในทันที..... และศึกในครั้งนี้ ฝ่ายประชาธิปไตยของไทย จะไม่ตายฟรีๆอีกต่อไป และถ้าจะต้องตาย ก็เป็นการตายที่คุ้มค่า เพื่อชำระล้างระบอบเผด็จการอุบาทว์ในประเทศนี้ และพวกมึงจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม..... คนที่จะไม่มีแผ่นดินที่จะอยู่อีกต่อไป คือ.... พวกมึงเอง มิใช่ทักษิณ .... เพราะความชั่วช้าเลวร้ายในประเทศนี้ มันได้เดินทางมาถึงจุดจบหรือจุดสุดท้ายที่ยอมและหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว นั่นเอง.
ระบอบเผด็จการทั้งหลาย....
ในอคีต ไม่ว่าจะเป็บแบบอำมาตย์ชั่ว หรือ เผด็จการทหาร ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ต่างก็ล่มสลายมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น..... เพราะอะไร
เพราะพวกเขาเหล่านั้น มันคิดไม่ต่างไปจากพวกมึงกำลังคิดนั้นเอง ......
สิ่งที่มึงคิดว่า มึงมีอำนาจและอาวุธอยู่ในมือ แล้วจะ สามารถรักษาอำนาจไว้ได้..... ถ้ามึงยังมีความคิดที่เลวทรามชั่วเลวทรามแบบนี้แล้วล่ะก็. ทหารไทย และระบอบอำมาตย์ชั่วของไทย..... มันจะพังพินาศไปพร้อมๆกัน ในไม่ช้านี้ ......
มันเป็นวัฎจักรและกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ นั่นก็คือ ทุกอย่างบนผืนโลกใบนี้ ย่อมจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง. ในที่สุดไม่มีพลังใดและอำนาจใดที่จะเอาชนะฝ่ายก้าวหน้า และ พลังมหาประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยไปได้....... และที่สำคัญ ไอ้ทหารไทยหน้าตัวเมียทั้งหลาย มึงจงฟังไว้ให้ดี......
วันใดที่พวกมึงไม่มีอำมาตย์ ชั่วคอยคุ้มกะลาหัวให้พวกมึง วันนั้น พวกมึงก็ขะเหมือนกับ หมาขี้เรื้อนข้างถนน เพราะ ประชาชน ก็จะไม่เอาพวกมึงเช่นกัน
ถามหน่อย…
ตั้งแต่พวกมึงปล้นอำนาจเขามา ประชาชนต้องอดอยากยากไร้ ทุกระทมอย่างแสนสาหัส ประเทศชาติฉิบหาบยับเยินอย่างกู่ไม่กลับ .... สิ่งเหล่านี้แหละจะเป็นตัวช่วยให้ประชาชนลุกฮือกันขึ้นมาขับไล่เผด็จทั้งสอง ฝ่ายอย่างมึดฟ้ามัวดินและล่มสลายในที่สุด.....
ถ้าพวกมึงยังดื้อด้าน และมีความคิดอันคับแคบที่คิดที่จะใช้อำนาจอันป่าเถื่อนชั่วร้าย บีบบังคับ และกระทำต่อคนในชาติเดียวกันเสมือนหนึ่งว่า..... คนในประเทศนี้คือขี้ข้าของพวกมึง พวกมึงก็จงเตรียมพบกับจุดจบที่จะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสมอันเจ็บปวด เช่นเดียวกัน ใครเขาจะยอม และทนให้พวกมึงกดหัวหมดสิ้นซึ่งอิสระและเสรีภาพไปชั่วชีวิต.
หนึ่งปีที่พวกมึงเข้ามา พวกเขาได้รับรู้ถึงรสชาดอับเจ็บปวดนี้แล้ว. พวกเขาจะไม่หวนกลับไปยอมรับระบอบอุบาทว์นี้ได้อีกต่อไป หาทางลงให้ดีก็แล้วกัน นะ.....
ระบอบทักษิณกำลังจะได้รับการยอมรับ และหวลกลับคืนสู่ประเทศนี้อีกครั้งหนึ่ง...... และในขณะเดียวกัน ระบอบเผด็จการอำมาตย์ชั่วและทหารอันเก่าแก่ ที่แสนชั่วร้าย กดขี่ โกหกหลอกลวง กำลังเดินทางมาถึงจุดจบสุดท้ายอีกเช่นเดียวกัน และจะไม่มีวันที่จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกเลยชั่วนิจนิรันดร์..........
เพราะว่า อำมาตย์ก็ไม่แตกต่างไปจากฮิตเลอร์ ....... มันจะไม่มีตัวตายตัวแทนกันอีกต่อไป.
จากนี้ต่อไป....
ในเมื่อ การใส่ร้ายป้ายสี ให้กับคนแดนไกล การโกหกมดเท็จ และการโฆษณาชวนเชื่อ มันใช้ไม่ได้ผลกันอีกต่อไป ....
เพราะตลอดการย่างก้าวขึ้นสู่อำนาจของอำมาตย์ชั่ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่ทหารไทยได้เข้ามาปล้นอำนาจประชาชนและยึดกุมประเทศ มันได้พิสูจน์ให้คนทั้งชาติได้เห็น เปรียบเทียบ และตระหนักดีแล้วว่า.....
ใครกันแน่คือศตรูของชาติ อย่างแท้จริง
ระหว่างเผด็จการ ทหาร หรือระบอบทักษิณ......
แล้วพวกมึงจะหลอกตัวเองกันไปถึงไหน จะหลอกลวงคนในชาติไปได้อีกสักกี่น้ำ......
และความฉิบหายต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศนี้อย่างเหลือคณานับ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ...?
และในที่สุดแล้ว พวกมึงทั้งหลายจะรับกับมันไหวหรือ...????????
การขึ้นเหยียบหลังหมาแล้วหาทางลงไม่ได้....
( ไม่ใช่หลังเสือ อย่างที่พวกมึงเข้าใจ ไอ้ประยุทธ์ จันทรโอชา )
จึงจำต้องดันทุรังไปให้ถึงที่สุด เพราะยอมรับความจริงไม่ได้ ถ้ายอมให้ประชาธิปไตย ก็กลัวฝ่ายตัวเองจะต้องเดือดร้อนเพราะจะต้องถูกคิดบัญชีย้อนหลังอย่างแน่น นอน การทำชั่วและคดโกงไปมากมายมาอย่างยาวนานทั้งกองทัพ ไหนจะคดีเข่นฆ่าประชาชน มานับหลายครั้ง .....
และที่สำคัญ ทหารไทย เมื่อไม่มีอำมาตย์ชั่ว ให้ยึดเกาะและคอยเซนต์ลบล้างความผิดความชั่วทั้งหลายให้ได้ต่อไปอีกแล้ว
หรือถ้ามอบอำนาจทั้งหมดไปให้ฝ่ายขันทีเฒ่าเจ้าเล่ ก็กลัวว่า ฝ่ายตัวเองจะถูกหักหลัง....... แต่ความฉิบหายทั้งหมดที่พวกมันได้กระทำกันมา มันมาตกอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ.....
จากนี้ต่อไป จะเดินหน้าก็ลำบาก จะถอยก็ไม่ได้...... แล้วจะมีๆ อะไรที่จะดีไปกว่า การรอวันที่จะระเบิดและทำลายตัวมันเอง......
ก็ขอบอกว่า พวกมึงเสือกเลือกเดินเข้ามาในกับดักมรณะ ที่อำมาตย์ชั่วไทยมันได้ตั้งเอาไว้นี่เองอย่างช่วยไม่ได้ จงรักภักดี หรือ ผลประโยชน์ต่างตอบแทน สุดท้ายมันก็แค่ การหาแดกบนความทุกข์ยากของประชาชนคนในชาติด้วยกันทั้งสิ้น.....
เมื่อสิ้นไร้จุดรวมอำนาจ คืออำมาต์ชั่วลงนรก ก็เท่ากับว่า หายนะของกองทัพไทย ก็ใกล้ถึงจุดสุดท้ายแล้วเช่นกัน
วันอังคารที่ 7 นี้ ขอเชิญชวนพวกเราทั้งหลายช่วยกันส่งข้อความถึงเพื่อนๆ บอกต่อๆกันไป ให้พวกเราไปแสดงพลังกันที่ศาลทหาร ให้มึดฟ้ามัวดินครับ.....
อย่าไปกลัวมัน. ถ้ามันใช้กำลังกับพวกเรา จะเป็นหนทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแทรงและให้การสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยใน ประเทศทันทีครับ.....
ตอนนี้ไอ้พวกทหารมันปากดี แต่ที่จริงพวกมันกลัวลนลาน จน ทำอะไรไม่ถูก และหาทางลงไม่เจอแล้วครับ........ มาช่วยกันกดดันมันให้ถึงที่สุดครับ
ขอให้พวกเรารอฟังสัญญาณการลุกขึ้นมาขับไล่เผด็จการ พร้อมๆกันในไม่ช้านี้ครับ......
ขอขอบคุณ ชัยชนะอยู่ไม่ไกล ......
โปรดติดตาม ตอนต่อไป สวัสดีครับ
Saturday, July 4, 2015
คำต่อคำ : ประยุทธ์ คืนความสุข 3 กรกฎาคม 2558
คำต่อคำ : ประยุทธ์ คืนความสุข 3 กรกฎาคม 2558
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เนื่องด้วยวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่งทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีพระปรีชาสามารถ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์เพื่อพัฒนาความเป็น อยู่ของประชาชนชาวไทยทุกหมู่ทุกเหล่าให้ดีขึ้น ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ กระผมในนามของข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกคน ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง และทรงพระเจริญยิ่งยืน ยาวนานครับ
ขณะนี้ผมกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นนะครับ ในห้วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลได้มีการประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมในเรื่องของการบริหารจัดการในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ด้วย ก็ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ส่วนราชการ ที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จริงๆ แล้วผมไม่อยากจะรบกวนใครมากนัก ต้องการไปเห็นสภาพความเป็นจริงมากกว่า และมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ก็ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่มา ดูแลผมอย่างด้วยความเต็มอกเต็มใจนะครับ ผมก็มีกำลังใจที่จะทำหน้าที่เพื่อพวกท่านต่อไป หากทุกคนนั้นมีความร่วมมือร่วมใจกันต่อไปนั้น มีความรักความสามัคคีนั้น และทำหน้าที่ของตนเอง และทำบทบาทของตนเองให้ดีที่สุดนั้น ส่วนรวมก็จะได้ผลประโยชน์ และกลับมาที่ประชาชนในสุดท้าย รัฐบาลยังยืนยันอยู่เสมอว่า เราจะดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้เกิดความเท่าเทียมทั่วถึง ทุกคน ทุกภาคมันก็คนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นเราจะต้องไม่มีการแบ่งแยกโดยเด็ดขาด ฝากข้าราชการนะครับ ทั้งส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นต้องช่วยกันนะครับ ทั้ง 2 ส่วนมันอยู่ในระบบการปกครองประชาธิปไตยไทยในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ผมได้พูดกับบรรดาสมาชิกองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นไปแล้วนะครับ กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านส่วนหนึ่งไปแล้ว ทั้ง 2 ส่วนนั้นต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเชื่อมโยงกันให้ได้ ช่วงนี้อยากให้ช่วยกันพัฒนาคุณภาพความเข้มแข็ง และดูแลเรื่องการใช้จ่ายของประชาชนในพื้นที่ ทำอย่างไรก็ได้ให้เขาสามารถที่มีการซื้อขาย มีตลาด มีสินค้าทางการเกษตรของเขาเองในการที่จะเพิ่มรายได้ของเขา ดีกว่าที่จะต้องซื้อของแพงๆ มาใช้กัน
เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกคนจะต้องช่วยกันลดการทำงานทางการเมืองลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมืองท้องถิ่น ยังไม่ต้องเตรียมการอะไรทั้งสิ้นนะครับ เวลายังมีอยู่เยอะแยะ ขอให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละสร้างความเข้มแข็ง เราจะเดินหน้าประเทศแบบเดิมๆ ด้วยการเมืองอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ไม่งั้นประชาชนก็จะแตกเป็นพวก เป็นฝ่าย และก็ไม่เข้มแข็ง รัฐบาลก็ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็จะล้าหลังไม่ทันประเทศอื่น ๆ ในอนาคตด้วย
สำหรับเรื่องสำคัญในวันนี้ก็อยากจะกราบเรียนในเรื่องของความขัดแย้ง ในพื้นที่ต่าง ๆ นั้นในประเทศเราต้องยุติได้โดยเร็วไม่ว่าจะเป็น รัฐ ข้าราชการ ธุรกิจ เอกชน สำหรับคำว่าประชาธิปไตยนั้น ประชาชนต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยที่มีคุณภาพนั้น คือ ต้องเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอย่างไร นักการเมืองต้องทำตัวอย่างไร ข้าราชการต้องทำตัวอย่างไร ยังมีเวลาอยู่ที่จะสู่จุดนั้น ในจุดนี้เราต้องเอาปัญหาต่างๆ มาคลี่คลาย มาแก้ไข มาสร้างความเชื่อถือไว้วางใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ วันนี้มีความขัดแย้งหมดทุกภาคส่วน และทำให้เกิดปัญหา รัฐบาลนั้นเราจะลงไปทุ่มเทในแต่ละปัญหาอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ ก็ต้องทำทุกอย่าง ในเมื่อเรามีปัญหาอยู่ร้อยปัญหา เราก็เอาปัญหามาคลี่ออกมันก็แตกเต็มเป็นปัญหาเล็กน้อยอีกหลายร้อยปัญหา เราต้องจัดลำดับในการทำ 1 2 3 เพื่อจะได้ทำให้สถานการณ์ที่มันรุนแรงขั้นวิกฤตลดลงไปก่อน ความมีเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นสำคัญนำไปสู่ความสุขของประชาชนในพื้นที่ทุก กลุ่มเลย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา ก็ต้องขอร้องเราจะแก้ปัญหาทีเดียวทุกเรื่องไม่ได้ ถ้าเราจะเอาประชาธิปไตยทันที่และจะเอาทั้งความสงบเรียบร้อย เราจะสร้างความเข้มแข็งเราจะเอาทั้งปัญหาทั้งหมดต้องแก้ให้ได้ภายในระยะเวลา ที่เร่งด่วน มันทำไม่ได้ทั้งสิ้น ก็ขอเวลาให้เข้าใจกันตรงนี้ อย่ามาขัดแย้งกันอีกต่อไปเลย ทุกอย่างกลับมาที่เดิมหมด ขอให้ทุกคน ทุกส่วนได้มีการบูรณาการ บริหารงานในการทำงาน ทุ่มเท เสียสละ สุจริต แล้วดำเนินการต่างๆในเชิงรุก เพราะเรามีปัญหาอยู่ มีวิกฤตอยู่ ฉะนั้นถ้าจะเดินหน้าประเทศด้วยวิธีการปกติอย่างเดียวไม่ได้ ทำงานเชิงรับไม่ได้ ต้องเชิงรุกไปด้วย พร้อมกับการสร้างความข้าใจ สร้างความปรองดอง และพัฒนาโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เลิกนึกถึงประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือของคนใดคนหนึ่งได้แล้ว ช่วงนี้ขอให้มันเข้มแข็งก่อน แล้วทุกอย่างจะกลับมาสู่ประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึงภายใต้กฎหมาย และการสร้างสังคมที่มีคุณธรรม จริยธรรม มันต้องใช้เวลา ไม่ได้สร้างง่ายๆภายในวันสองวัน ภายในปีสองปี เหล่านี้ต้องใช้เวลาสร้างอย่างต่อเนื่องเป็นสิบๆปีต่อไป ทั้งนี้ เพื่อจะสร้างความสงบสุขอย่างยืนของประเทศให้ได้
งานทางด้านความมั่นคงนั้น ในเรื่องของความมีเสรีภาพอะไรต่างๆ ผมพูดไปแล้วนะครับ การเป็นประชาธิปไตยมันต้องมีความพร้อมหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ในส่วนของอำนาจต่างๆ ที่จะต้องไม่คาบเกี่ยว ไม่ซับซ้อน ไม่ทับซ้อนกัน ทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติราชการหรือการบริหารแผนดิน เหล่านี้กำลังแก้อยู่ในการปฏิรูปใน คสช.ทั้งสิ้น ทุกคนทราบดีแล้วว่าเรามีกฎหมายหลายๆ ฉบับที่ออกมาแล้วพิจารณาอยู่ ทั้งหมดถ้ารวมๆ แล้วในขณะนี้ก็ประมาณ 300 กว่าฉบับ หลายเรื่องด้วยกัน หลายมิติด้วยกัน ก็จะเห็นว่าเราพยายามเร่งตรงนั้น กฎหมายจะทำให้ทุกอย่างมันสงบลงด้วย แต่กฎหมายนั้นมีเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่ได้มุ่งหวังเพียงให้เจ้าหน้าที่สามารถมีเครื่องมือในการบังคับใช้กับ ประชาชนอย่างเดียว ถ้ามันไม่ขัดแย้งกันก็ไม่ต้องมีก็ได้นะ กฎหมาย ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ วันนี้ทุกคนก็ต้องการประชาธิปไตย ต้องการเสรีภาพ ต้องการอะไรต่างๆ แต่ขณะเดียวกันปัญหาก็เต็มไปหมด มันไปได้ไหมเล่า ถ้ายังไม่ได้ก็ต้องให้เวลา ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้
สำหรับกลุ่มนักศึกษานั้น ผมจะไม่ไปตำหนิเขานะ เพราะยังไงก็ตามผมก็ถือว่าเขาเป็นพลังอันบริสุทธิ์ ซึ่งน่าที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านนี้เมืองนี้ได้อีกมากในอนาคต ก็ขอให้ใช้ในระยะเวลาที่ถูกต้อง ก็อย่าไปเชื่อมั่นว่าใครมาบิดเบือน ใครมาสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ก็มีทั้งผิดทั้งถูกนะ ผมไม่เคยปฏิเสธคำว่าประชาธิปไตย ผมไม่เคยปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่ในการเลือกตั้งและการมีประชาธิปไตยที่ผ่านมามันมีปัญหา มันก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ต้องเสียเวลากับการควบคุมอำนาจ หรือไม่ก็ เสียงบประมาณในการที่รั่วไหลออกไป ทำให้เกิดประโยชน์ต่อชาติน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นพลังเหล่านี้ผมคิดว่า น่าที่จะต้องเป็นอนาคตของชาติในต่อไป ผมไม่อยากให้อนาคตของเขาเสียไปนะครับ เรียนอยู่ทุกคน ศึกษาอยู่ทุกคน การปฏิเสธไม่ยอมรับกฎหมายมันไม่ได้ ถ้าท่านทำได้ คนอื่นก็ทำได้เหมือนกัน และคนอื่นเขาจะรู้สึกว่าอย่างไรนะครับ แม้กระทั่งนักโทษ หรือที่กำลังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด เขาก็บอกเขาไม่ผิด ไม่ยอมรับกฎหมายทั้งสิ้น ถ้าอย่างนี้มันไม่มีกฎหมายแล้ว อันนั้นคือประเทศ หรือรัฐที่มัน Fail State มันล้มเหลวทั้งหมดนะครับ อันนี้อยากจะฝากด้วยทุกๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะกลุ่มนักศึกษาเอง หรือนักวิชาการที่อาจจะมองในแง่มุมของประชาธิปไตย และมองว่าวันนี้ประเทศไทยมีปัญหา เพราะคำว่า ประชาธิปไตย
จริงๆ ไม่ใช่หรอกนะครับ ไม่ใช่ส่วนประกอบเดียวเท่านั้น หลายส่วนประกอบด้วยกัน เราพยายามที่จะลดเหล่านั้น และผมยอมรับในส่วนที่ท่านว่า ผมรับเอง ผมรับผิดชอบผู้เดียวอยู่แล้ว แต่ในส่วนของปัญหาทุกคนต้องช่วยผมรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นอยากให้ใช้พลังบริสุทธิ์นี้มาให้เกิดประโยชน์ในอนาคตข้างหน้านะ ครับ จะได้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก
เพราะฉะนั้นในคดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าหากว่ายอมรับกัน พูดจากันรู้เรื่องทุกเรื่อง ร่วมมือกัน เราจะหาทางที่จะดูแล แต่อย่าให้มันต้องทำให้กฎหมายมันเสียหายไปมากกว่านี้เลย สำหรับปัจจุบันนั้น ทั้งปัญหาสถานการณ์โลกต่างๆ นั้นมีมากมายนะครับ เราต้องร่วมกันปรับตัว สร้างความเข้มแข็ง สร้างประเทศเราให้เข้มแข็งเสียก่อน ในการที่จะไปพึ่งพาอาศัยอะไรเขาคนอื่น เอามาตรฐานของคนอื่นมาอะไรมา เราพร้อมหรือยัง ถ้าเรายังไม่พร้อม มาตรการต่างๆ ที่เขากำหนดมาแล้ว เราก็ปฏิบัติไม่ได้ เมื่อปฏิบัติไม่ได้เราก็ต้องถูกมาตรการกีดกั้น มาตรการทางการค้า หรือการสัมพันธไมตรีทางด้านต่างๆ แล้วกันทุกเรื่อง เพราะว่าอะไร เพราะเราไม่พร้อมไง ถ้าเราพร้อมเมื่อไรมันก็ทำตามกรอบเขาได้หมด แล้วมันจะมีปัญหาอะไร วันนี้เรากำลังทำอย่างนั้นอยู่นะครับ อย่ามองประเด็นเดียวว่า เรายังไม่เลือกตั้งมันเลยถึงมีปัญหา มันไม่ใช่หรอกครับ มันเป็นส่วนเดียวเท่านั้นเอง วันนี้โลกเขาอยู่ด้วยการค้า การพบปะ ท่องเที่ยว วัฒนธรรม สังคม จิตวิทยา เยอะแยะไปหมด ทุกอย่างประสานกันหมด แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมรับผิดชอบ หากเรายังขัดแย้งกันทะเลาะกัน และเร่งเรื่องนี้เรื่องโน้นจนมากเกินไป ทั้งระบบที่เราพยายามจะสร้างมันขึ้นมาเสียหายหมดเลย ก็ล้นเหมือนเก่า แล้วเราจะได้ประชาธิปไตยแบบไหนกลับมาละ เราจะได้เสรีภาพที่แท้จริงให้ประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่าให้มีความเท่าเทียมกัน ไหม ไม่มีความแสวงหาผลประโยชน์อีกไหม เรายังไม่รีบไม่คำนึกตรงนั้นกันเลยหรือไร คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเลือกถูกแล้ว ถึงอยู่ได้ ทำไมผมอยากให้เข้าใจกันให้มากขึ้น ใครที่ยังโต้แย้งยังเป็นปัญหา เราเอาปัญหาทั้งหมดมาสร้างความขัดแย้งต่อไปอีก ที่ทุกคนคิดอยากปรองดองมันไปกันไม่ได้หมดหรอกครับ มันต้องตามลำดับของมันไป ตามเหตุการณ์ไป มันต้องคลี่คลายด้วยกฎหมายด้วยขบวนการ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เยอะแยะหมด ขอให้ทุกคนได้เดินตามโรดแมปเถอะครับ รัฐธรรมนูญชั่วคราวก็กำลังแก้ไขตามที่ทุกคนต้องการไม่ได้ร่างเพื่อให้ผมอยู่ ต่อไปนานๆไม่ใช่ ผมที่อยู่ได้เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวทั้งสิ้น ขอให้เดินตามนั้น ส่วนที่พูดจาให้เสียหายมันจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นกับสถานการณ์ใน ประเทศไทยอย่างที่ผมกราบเรียนไปแล้วว่าวันนี้สถานการณ์บ้านเมืองของเรามี ปัญหา เราได้อธิบาย ชี้แจง ในประชาคมโลกไปแล้ว ส่วนใหญ่เขาเข้าใจ เขาก็รอเมื่อไหร่เราจะเลือกตั้ง ผมก็บอกว่า การเลือกตั้งเราจะทำเมื่อพร้อมเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามโรดแมปมีรัฐธรรมนูญ แล้ว มีประชามติแล้ว มันก็เลือกตั้งได้อยู่ดี วันและเวลามันขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานทุกหน่วยงานให้มันเกิดผลสัมฤทธิ์ สปช. สนช. ครม.ก็แก้ปัญหาไป สปช.ก็ติดตามให้ในส่วนของสปช. เมื่อมีรัฐบาลที่ท่านต้องการก็ให้เขามาทำต่อ ผมก็เดินหน้าอย่างนี้ อย่าเพิ่มมีปัญหามากนักเลย ถ้ามันปกติแล้วผมคงไม่ต้องมายืน พูดหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นความขัดแย้งเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานกว่าสิบปีแล้ว ก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ทุกคนทราบดีว่ามันเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง มันก็เกิดจากระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ของเราด้วย เป็นส่วนหนึ่ง การสร้างการรับรู้ที่อาจจะผิดบ้าง ถูกบ้าง เอาบางประเด็นที่เกิดประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่งมาสอน มาศึกษา ผมว่าต้องมองทั้งสองด้านนะ ว่าประเทศไทยมีความเป็นมาอย่างไร มีพื้นฐานอย่างไร ความคิดความอ่านมันเป็นอย่างที่ทั้งโลกเขาเป็นไหม บางทีมันก็ไม่เหมือนเขานะ ผมก็ได้เรียนกับองค์กรระหว่างประเทศด้วยว่า ในส่วนของอาเซียน ในส่วนของแอฟริกา ในส่วนของหลายพื้นที่ในโลกมันมีความแตกต่าง ฉะนั้นในการที่จะตัดสินใจในการแก้ปัญหา ผมคิดว่าแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ดีที่สุด คือการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา และดำรงชีวิตอยู่ด้วยความพอเพียง เหล่านี้เป็นหลักการที่หลายประเทศในโลกสนใจ
ขณะนี้ได้ติดต่อมาให้ผมได้จัดชุดไปอธิบายเป็นตัวอย่าง เราทำมาตลอดนะ และเขาก็ชื่นชมพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุกพระองค์ก็ทำตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทุกพระองค์ วันนี้พระองค์ท่านทรงไม่แข็งแรง องค์อื่นๆ ก็ทำตาม วันนี้ก็พระชนมายุขึ้นทุกพระองค์ เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ลูกท่านหลานไทยต้องช่วยกันทำ พระองค์ท่านจะได้มีความสุข ทรงเริ่มให้แล้วนะ ลูกหลานไทยทั้งหมดก็ทำต่อไป โดยที่ท่านไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องได้อะไรกลับมาเลย เพราะแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของพวกเราทั้งสิ้น ทุกอย่างขอให้ไปเป็นไปตามกระบวนยุติธรรม ถ้าอะไรที่พอพูดคุยกันได้ เราก็พร้อมที่จะหาทางให้อภัยกัน อย่าทำต่อกันไปเลย เดี๋ยวมันขยายต่อไปเรื่อยๆ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
การทำงานทุกอย่างวันนี้มันต้องลดอัตตาตัวเองลงบ้าง มันอาจจมีทั้งถูก ทั้งผิด ถ้าผิดก็ไปกระบวนการยุติธรรม ถ้าถูกก็ .. มันถูกมาก ถูกน้อย หรือความคิดตรงกับเราบ้าง ไม่ตรงบ้าง ลดอัตตาแต่ละคนลงไปมันถึงจะคุยกันได้ ถึงจะทำงานร่วมกันได้ เอาจุดมุ่งหมาย เอาวัตถุประสงค์เป็นตัวกำหนดว่าประเทศชาติต้องการอะไร วันนี้ต้องการความสงบเรียบร้อย ต้องการเตรียมแนวทางในการปฏิรูป หรือเรื่องต่างๆ ที่มีความสำคัญเป็นปัญหามานานจะแก้กันยังไง ถ้าทุกคนยังยืนหยัดในหลักการของตัวเองอยู่ มันไปไม่ได้เลย แล้วแต่ละฝ่ายก็มีประชาชนหนุนหลังกันแต่ละพวกแต่ละฝ่าย แล้วมันจะไปยังไงล่ะแบบนี้ ผมว่าไอ้ช่วงนั้นเอาไปตอนที่มีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ดีกว่ามั้ง ที่มีรัฐบาลปกติมาเลือกตั้ง ส.ส. ส.ว. อะไรก็ว่ามาเถอะ ผมไม่เคยปฏิเสธนะตรงนั้น วันนี้ขออย่างนี้ไปก่อน ฉะนั้นอย่าให้เราต้องเสียชื่อในประชาคมโลกต่อไปเลย เรื่องที่เสียชื่อเพราะผม ผมรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ฉะนั้นอย่าไปวัดกันด้วยการเลือกตั้งเร็วๆ โดยที่ยังไม่พร้อม ก็ตามโรดแมปนั่นล่ะ ไม่ได้ช้าหรือว่าเร็วไปกว่านั้นเลย ถ้าทุกอย่างไม่แก้ไข .. แล้วท่านบอกว่าประชาธิปไตยไทยนั้นได้ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมา 83 ปีแล้ว มีการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อมามากแล้ว แล้วท่านจะสูญเสียอีกเท่าไหร่ล่ะครับ ท่านจะต้องเสียไปอีกกี่ครั้ง ต้องให้ตาย เจ็บ กี่ครั้ง ประชาชน นักศึกษา นิสิต ผู้บริสุทธิ์ และผู้นำต่างๆ เหล่านั้น ก็กล่าวแต่เพียงว่า การเปลี่ยนแปลงต้องมีการสูญเสีย ผมถามว่าแล้วใครสูญเสีย ประชาชนทั้งนั้นล่ะครับ เพราะฉะนั้นท่านต้องเลือกผู้นำที่ดี ที่มีคุณธรรม มีจริยธรรม แล้วก็อยู่ในองค์กร สร้างองค์กรที่มีธรรมาภิบาลให้ได้ อยากให้ทุกคนหาทางออกกับเจ้าหน้าที่ให้ได้ แล้วก็กลับมาเรียนหนังสือซะ พ่อแม่จะได้ไม่เสียใจ หลายคนก็อยู่ชั้นปลายๆ แล้ว ชั้นปีท้ายๆ ก็มี จะได้จบมาแล้วหางานหาการทำ แล้วก็ไปเดินหน้าขับเคลื่อนประชาธิปไตยให้มันสมบูรณ์ในอนาคตไม่ดีกว่าเหรอ ที่จะต้องไปถูกจำคุก ถูกตัดสินอะไรต่างๆ มันเสียประวัติด้วย เสียอนาคตด้วย แล้วท่านได้อะไรขึ้นมาบ้างล่ะ ประชาธิปไตยวันนี้มันก็ยังไปไม่ถึงตรงนั้น มันยังเข้าไปสู่การเลือกตั้งไม่ได้ สิ่งสำคัญก็คือผมให้ความสำคัญกับการศึกษามากที่สุดเลยนะ เป็นการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ ทั้งเพื่อวันนี้และเพื่อวันหน้าด้วย วันนี้อีกหลายอย่างต้องพัฒนาให้ได้ การเตรียมคนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน การพัฒนานักวิจัย นักพัฒนา เรื่องของการใช้เทคโนโลยี ซึ่งวันนี้เราต้องปรับปรุงคุณภาพการศึกษาทุกระบบเลยนะ ทุกระบบตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งวิชาชีพ ทั้งวิชาการ ทั้งในเรื่องของสถาบันการศึกษา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนต้องร่วมมือกัน ทำอย่างไรเราจะร่วมมือกันได้ ในเรื่องของประชาธิปไตยนั้น เราใช้มาตรา 44 อยู่ในขณะนี้มีส่วนประกอบด้วยนะครับ เพื่อจะทำให้มันเดินไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ วันนี้เราใช้เท่าที่จำเป็นนะครับ แก้ไขสิ่งติดขัด ไม่ใช่เอาไปให้ผมใช้ทุกอย่าง มันใช้ไม่ได้หรอกครับ จะไปสั่งถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูก อะไรเหล่านี้มันไม่ได้ วันนี้จะไปแก้ปัญหาที่มันซับซ้อนกับกฎหมายเดิมมากมันก็ไม่ได้ ต้องการให้มีการบูรณาการ เหมือนกับที่เราจะต้องทำอย่างไรให้อำนาจทั้ง 3 คือ บริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ได้ทำงานไปพร้อมๆ กัน ผมจะทำแค่นั้นแหละ ไม่อย่างนั้นต่างคนต่างก็ทำกันไป บริหารก็บริหารไป กฎหมายก็ออกกฎหมายไป แล้วมันไม่ต่อเนื่องเชื่อมโยง วันนี้ผมต้องการทำให้มันเกิดความเชื่อมโยง มันถึงต้องมีมาตรา 44 ไว้ เพื่อทำให้แต่ละหน่วยราชการนั้น ได้เอากฎหมายทุกอันที่มีอยู่แล้วมาบูรณาการร่วมกัน ในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และกฎหมายที่ไม่ทันสมัยเขาก็ไปแก้ใน สปช. เมื่อออกมาแล้วมาตรา 44 ก็ลบทิ้งไป ยกเลิกไป ก็ใช้กฎหมายใหม่ แค่นั้นเอง วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้านักหรอกครับ
เพราะฉะนั้นควรจะช่วยกัน ในด้านสังคมจิตวิทยา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นบ่อเกิดของประเทศ และจะนำพาประเทศชาติไปวันข้างหน้า เพราะฉะนั้นผมอยากให้บุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงศึกษาฯ ด้วย ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาข้าราชการ พัฒนาในส่วนของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในทุกงานที่เรียกว่า Stakeholder ต้องเข้าใจว่า เราจะพัฒนาทรัพยากรอย่างไร แต่ถ้าพัฒนาทั้งหมดมันพร้อมกันไม่ได้ มันต้องเป็นเรื่องๆ เป็นช่วงๆ เป็นในแต่ละช่วงวัย หรือในแต่ละกิจกรรมให้มันไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไปเหมือนปลูกพืชนั่นแหละ ปลูกพืชก็ต้องมี Demand Supply อันนั้นเหมือนกัน รับความต้องการของตลาดมา ความต้องการของประเทศมา ความต้องการในเรื่องของการลงทุนต่างประเทศ การเป็นเออีซี เอาตรงนี้มา และเรากำหนดปลายทางไว้ที่ว่า ในช่วง 1 ปี 2 ปี 3 ปี เราจะผลิตคนเหล่านี้ได้เท่าไหร่เพื่อไปรองรับในอนาคต ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยประเมินในต่างประเทศทำไปมีโครงการใช้งานใช้เงินไปก็จบ แล้วก็เริ่มใหม่ โดยที่ไม่มีกาปรระเมินผลอย่างเป็นรูปธรรม มีแต่ไม่เป็นรูปธรรม มันใช้ประโยชน์ไม่ได้ ได้แต่ทำ ได้แต่ได้ทำ แต่มันเกิดมาเท่าไหร่ ทุกหน่วยงานต้องทำให้ผมนะ ต่อไปผมจะกวดขันเรื่องนี้นะครับ เราต้องร่วมกันสร้างแนวความคิดในการสร้างความร่วมมือที่สร้างสรร โดยใช้พลังของทุกพวกทุกฝ่าย อย่าไปมุ่งหวังทางการเมืองอย่างเดียว การเมืองคือการที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามา สร้างความมั่นใจให้ประชาชน คัดเลือกเข้ามาดูแลประชาชนทุกพวกทุกฝ่ายให้เกิดความเป็นธรรมเท่าเทียม มีแค่นั้น ถ้าเราเตรียมการเพียงเท่านี้ ก็ไปถึงวันนั้นไม่ได้ วันนี้เราเตรียมการเมืองให้พร้อมและท่านก็เข้ามากันหมดและ ผมก็ถอยหลังไปอยู่แล้ว แต่เราเตรียมให้ท่าน ท่านอย่ามาขัดแย้งขัดขวางเลย พวกการเมืองต่างๆแล้วแต่ ผมฟังบางทีก็ไม่ค่อยพอใจแนวความคิดของท่านวันนี้ผมเปิดเวทีให้แล้ว รายการเดินหน้าปฏิรูปก็มีทั้ง 2 ส่วนมา เป็นในส่วนของสปช.ส่วนของนักวิชาการ พิธีกร ก็พูดกันมาแต่เรื่องไป วันนี้เศรษฐกิจ วันหน้าการศึกษา เรื่องน้ำ เรื่องรถไฟก็ว่ากันไป ฟังสิว่าเออรัฐบาลทำอะไรอยู่ตอนนี้และฟังนักการเมืองเก่าๆ ที่เขาทำ ทำอย่างไร คิดตรงกันหรือไม่ เพราะวันหน้าเขาก็ต้องเข้ามาอีกอยู่ดี เพราะฉะนั้นประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินว่าเออ ความคิดใครมันถูก ไม่งั้นก็เถียงกันอยู่อย่างนี้ก็ล่า ฆ่าฟันไม่จบสักที เพราะฉะนั้นต้องหาขบวนการเพื่อให้ท่านมีเวธีในการแสดงความคิดเห็น ผมไม่โกรธหรอกครับ ถ้าท่านจะตำหนิติเตียนไรผม แต่ท่านต้องมีเหตุผลมาสู้มายืนยัน ว่ายุติธรรม ถ้าบอกว่าด้วยเหตุด้วยผลอย่างไร ต้องลงทุนต้องเดินหน้า จะต้องอะไรที่ทำให้ประเทศเสียหายผมว่ามันไม่ถูกหรอก ตอนนั้นถ้าทำอย่างนี้ต้องแก้ไขอย่างไรงบประมาณอย่างไร งั้นตอนการควบคุมจะพูดจะดูแลอย่างไรจะพูดจะดุแลอย่างเดียวลอยๆ มันพูดได้หมด แต่ทำไม่ได้หรอก ถ้าทำอย่างผมทำ ทำไม่ได้อย่างที่ท่านพูด เอาละ ก็พูดกันต่อไปละกัน
ในวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงผมเป็นห่วงเรื่องอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย วันนี้กระจายข่าวสารรวดเร็ว วันนี้เราต้องหามาตรการ คือ การปลูกจิตสำนึก สำคัญที่สุด การเฝ้าระวัง และสงสารเด็กๆ นะ ถ้าเราปลูกฝังเด็กๆ ของเราให้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่อไป เด็กเราก็จะก้าวร้าว และเราก็จะเป็นเด็กที่ไม่น่ารัก วันหน้าก็จะรวมกันไม่ได้ มันก็จะแปลกแยกไปอย่างนี้เรื่อยๆ เพราะมันแบ่งพวกหมด โซเชียลมีเดียก็แบ่งซ้ายแบ่งขวา ตรงกลางบ้างอะไรบ้าง ผมอยากให้ทุกคนร่วมกันระดม ใครจะคิดอย่างไรก็ได้ คิดซ้ายก็ได้คิดขวาก็ได้ แต่รวมกันได้ไหมตอนนี้ แล้ววันหน้าก็ไปหาช่องทางผ่านรัฐบาล ผ่านฝ่ายค้าน ไปให้เขาทำให้ นั่นคือการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ท่านใช้สิทธิของท่านตามรัฐธรรมนูญได้ทุกคน
ในการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้ นประเทศไทยยังขาดอีกหลายอย่าง แรงงานมีฝีมือ ซึ่งตอนนี้แรงงานระดับล่างที่ใช้แรงอย่างเดียวก็ขาด แรงงานประมงก็ขาด พอบอกว่า แรงงานข้างล่างก็ไม่อยากทำ รายได้น้อย เหนื่อย เราก็เอาแรงงานต่างด้าวมาทำ วันนี้พอบอกให้ไปทดสอบฝีมือ ไปพัฒนาฝีมือ ไปทำงานไม่ไปอีก ไม่เอาอีก คือจะชอบสบาย และงานเบาๆ เงินสูงๆ มันมีที่ไหนเขาจะให้ทำ การประกอบการเศรษฐกิจต่างๆ เขาก็ลงทุนมาเยอะแยะ มหาศาล ก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน บังคับเขามาๆให้เขาขึ้นค่าแรง เขาก็หนีหมด อย่าคิดว่าเขาจะง้อเรามากนัก เราต้องกลับไปง้อเขามากกว่า ต้องมีการสร้างแรงจูงใจ สร้างสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย แบบเดิมไม่ได้เลย ต้องแข่งขันกันทั้งโลก แต่ละประเทศก็มีการเคลื่อนย้ายการลงทุน ไม่ใช่เคลื่อนย้ายเพราะผม เขาเคลื่อนย้ายเพราะว่าต้นทุนมันสูง หลายๆอย่างมันไม่ได้รับสิทธิ สิทธิประโยชน์ที่ยกเว้นต่างๆ มันหายไป เพราะเราเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง เมื่อเขาไม่ได้ตรงนี้เขาก็ต้องไปหาประเทศอื่นลง แต่เท่าที่ดู เขาบอกว่าถ้าเราดูแลเขาดี เพื่อชดเชยในสิ่งทีเขาเสียไป เขาพร้อมจะอยู่ เขาอยากอยู่ประเทศไทยกันหมด เขาไม่อยากอยู่เพราะผมเลย แล้วจะถามว่าแล้วผมจะทำให้มันเป็นอย่างนี้ได้ถึงเมื่อไหร่ เขาอยากทราบอนาคต อนาคตคือนักการเมือง ท่านก็ไปบอกเขาสิ ให้เขามายืนยันกับผม วันหน้าเขาจะทำทุกอย่างให้เป็นอย่างนี้ 1 2 3 4 5 ให้ต่างชาติเขาเข้าใจเรา อย่าให้เป็นแบบเดิมอีก สิ่งที่ผมต้องการมีแค่นี้ ขอแค่นี้ได้หรือเปล่าไม่รู้นะ ฉะนั้นวันนี้ทั้งรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้รณรงค์มากมาย ในเรื่องของการส่งเสริม ศึกษาสายอาชีพ อาชีวะ ให้มีงานทำ มีฝีมือ มีรายได้ก่อน ปริญญาเอาไว้ที่หลังก็ได้ ทำต่อเนื่องได้ไหม มีสิทธิพิเศษเข้ามาเรียนต่อได้ไหม แล้ววันนี้ต้องหาเงินก่อน เลี้ยงดูพ่อแม่ ตัวเองไม่เป็นภาระ ไม่งั้นมันก็มีเวลาว่าง ไม่มีงานทำ ก็ไปตีกันบ้าง อะไรกันบ้าง น่ากังวลใจนะครับเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนตีกัน ก็ยังมีอยู่ ผมก็กำลังหามาตรการจะทำยังไงดี เด็กแว้นก็แล้ว มาตีกัน กลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ ไปโรงเรียนก็ไม่ปลอดภัย แล้วพ่อแม่เขาจะให้ไปเรียนเหรอ เราต้องการประโยชน์วิชาชีพ ต้องการวิศวะ ต้องการแรงงานมีฝีมือ แต่ไปเรียนโรงเรียนไม่ได้เพราะไม่ปลอดภัย ผมถามว่าแล้วจะทำยังไงล่ะ จะแก้ได้มั้ย ผมสั่งไปแล้วนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงศึกษาฯ อาชีวะพื้นฐาน อะไรต่างๆ เหล่านี้ต้องไปดูทั้งหมดนะ ที่รับผิดชอบโดยตรง ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก หลายโรงเรียน ไปโรงเรียนไม่ปลอดภัย แล้วจะไปกันยังไง เพิ่มคนสมัครไปเรียนเยอะเป็นสองเท่ามั้ง ปีนี้ แต่ปรากฏว่าสองเท่าที่ว่านี้ยังกลัวว่าไปแล้วไม่อันตราย พ่อแม่ต้องโทรศัพท์เช็กถึงโรงเรียนหรือยัง เย็นกลับเมื่อไหร่ รอรับกันตรงไหน ดูแล้วมันยังกับสถานการณ์สงครามเลยนะ
ขอร้องน้องๆ นะ อาชีวะทั้งหมด เลิกได้แล้ว พี่ที่จบไปแล้วก็พอได้แล้วนะ ประวัติศาสตร์ของโรงเรียนเขามีไว้ให้ภูมิใจ ไอ้ที่เก่งกาจสามารถ รบรันฟันฝ่าต่อสู้กันน่ะ พอได้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจเลยนะ ก็ขอให้เป็นเสาหลักทางด้านแรงงานที่สำคัญของประเทศ เพราะเป็นเครื่องจักร เครื่องมือ ประเทศไทยเราต้องการเป็นตลาดแรงงาน ตลาดลงทุน หรือเป็นฮับต่างๆ เยอะแยะไปหมด แล้วเราเตรียมคนของเราพร้อมหรือยังล่ะ เราเตรียมสถานการณ์ในประเทศให้มีประสิทธิภาพหรือยัง มันยังไม่ครบเลยนะ ผมอยากให้ทุกคนทำอย่างที่ผมคิด แล้วก็ช่วยผม ผมก็ทำได้ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหล่ะ ที่เหลืออยู่ที่พวกเราร่วมมือกัน เสียสละกัน อดทนกัน อย่าเพิ่งมาเอาชนะคะคานกันเวลานี้เลย ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้เกิดปัญหาหมด ฝากรุ่นพี่ๆ ด้วยนะ อาชีวะ เมื่อกี้พูดไปแล้ว ทำยังไงจะให้น้องๆ มาเรียนมากขึ้น ท่านก็จะได้มีรุ่นน้องของท่านเยอะๆ รุ่นน้องดีๆ แล้วก็มีชื่อเสียง สร้างประเทศชาติ ไม่ใช่มีชื่อเสียงในทางว่าโรงเรียนนี้ตีกันมาตลอด ไม่ค่อยมีคนอยากเรียน น่าอายนะ ผมว่าน่าอายมากกว่า พี่ๆ น่ะสำคัญที่สุด กลับมาดูแลน้อง ให้รักกัน สร้างเครือข่ายให้ได้ ทั้งในส่วนของราชภัฏ ราชมงคล ให้ไปรวมเป็นเครือข่ายกับ ปวช. ปวส. ช่างกล ให้ได้นะ ว่าใครจะอยู่กับใคร แล้วดูแลกัน พี่กัน น้องกัน วันหน้าก็ต้องต่อเชื่อมโยงไปเรียนต่อกันให้ได้ ถ้าจัดกลุ่มไว้อย่างนี้นะ ผมเชื่อว่ามันจะทำสำเร็จ มันต้องทำงานโครงสร้างให้ได้ ว่าจะสร้างความเชื่อมโยง พูดอย่างเดียวมันทำไม่ได้หรอกครับ ให้มันชัดเจนขึ้น ว่ามหาวิทยาลัยเอกชนจะดูแลน้องๆ ที่ไหนได้บ้าง ทางด้านราชภัฏอาจจะดูแลในเรื่องของเตรียมคนให้เข้าไปสู่ตลาดแรงงาน ในเรื่องของการบริการ การท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนอะไรก็แล้วแต่ อยากให้มหาวิทยาลัยราชภัฏมุ่งเน้นผลิตคนเหล่านี้ออกมา มันมีงานทำด้วยทันที ถ้าไปผลิตเป็นสาขาวิชาอื่นที่เป็นนักวิชาการอะไรต่างๆ มันก็ไม่มีงานทำ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยของรัฐก็ผลิตเยอะแยะไปหมด
เพราะฉะนั้นต้องไปแยกแบ่งกันดู ลองเริ่มทำกันได้ไหม ท่านคงรายได้ไม่ตกไปหรอก เพราะรัฐบาลส่งเสริมเรื่องวิชาชีพ และการลงทุนอะไรต่างๆ มันก็มากมายขึ้น ทำไมท่านไม่ให้สอดคล้องกับรัฐบาล ในส่วนของราชมงคลไปดูเกี่ยวกับเรื่องสายที่เป็นแรงงานฝีมือ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างอ๊อก ช่างวิทยุ ช่างซ่อมอะไรก็แล้วแต่นะครับ และในเรื่องของที่จะไปเป็นระดับหัวหน้างานในโรงงานอุตสาหกรรม มีรายได้สูงขึ้น แต่ท่านก็ต้องพูดภาษาอังกฤษให้ได้ เขาใช้ภาษาอังกฤษ เขาใช้ภาษาจีน ท่านก็พูดภาษาจีน ท่านถึงจะเป็นหัวหน้าเขาได้ เขาสั่งเราไม่รู้เรื่อง พูดไม่รู้เรื่องต้องมีคนแปลมีล่าม ไปกันใหญ่ เราคนไทยเขาชอบ คนไทยเขาเรียกอะไร มีประสิทธิภาพแต่ภาษาไม่ค่อยได้ เขาเลยลำบากในการที่จะยกขึ้นในระดับหัวหน้างาน ท่านฟังผมแล้วท่านก็เอาไปคิดเอง ทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวนักศึกษาเอง ทั้งตัวนักเรียนเอง ทั้งตัวเด็กๆ ที่จะโตมา ถ้าฟังผมและคิดตามไป ท่านจะรู้อนาคตท่านจะทำอย่างไรนะครับ
ด้านเศรษฐกิจ ความสามารถในการแข่งขันบ้านเรานั้น มีโอกาสสูงนะครับ แต่เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ก่อน โอกาสที่เราน้อยลง การส่งออกน้อยลง เพราะผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เราก็ไม่ค่อยมี นวัตกรรมต่างๆ เราน้อย แรงงานก็สูง ค่าแรงค่าต้นทุนก็สูง สิทธิจีเอสพีมันก็ไม่ได้ ยังโชคดีนะครับ ที่สหรัฐอเมริกามีการผ่อนผันสิทธิจีเอสพีให้เราย้อนหลังด้วย ประมาณ 600 กว่าล้านดอลลาร์ เป็นที่น่ายินดี มิตรประเทศเขาก็ดีกับเรา ย้อนหลังให้เราด้วย เขาต่อให้ประมาณ 4 ปีกว่าๆ เดี๋ยวฟังรายละเอียดกับกระทรวงพาณิชย์แล้วกันในเรื่องนี้ จากประเทศสหรัฐอเมริกานะครับ
เพราะฉะนั้นถ้าเรามีปัญหามากๆ ความเข้มแข็งไม่เกิด การลงทุนโครงการพื้นฐานก็ทำไม่ได้ การลดความเหลื่อมล้ำ ลดความเป็นธรรม ทำไม่ได้หมดเลย เสร็จแล้วการลงทุนต่างประเทศก็ไม่มา เขามาเพราะว่า เขาจะไปลงที่ไหนมีอยู่ 2-3 อย่าง 1.สิทธิประโยชน์ แรงจูงใจ 2.ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และความเชื่อมั่นไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน 3.ความเป็นอยู่ในประเทศนั้น คนงานของเขา ผู้คนของเขามีความสุข ประเทศไทยนี่มี 2 อย่าง 3 อย่าง เกือบครบแล้วล่ะ เสียอย่างเดียว ความไม่มีเสถียรภาพ วันนี้เขาบอกว่าดีแล้ว อยากให้เป็นอย่างนี้ เขาพร้อมที่จะลงทุน ถึงแม้ว่าเขาจะเสียสิทธิประโยชน์อะไรไปบ้าง เขาก็ยอมนะ แล้วเราจะมาตีกันอยู่ทำไม ผมไม่เข้าใจนะ ตีโน่น ตีนี่ เราไม่ทำนี่ ทำโน่นผมว่าไม่ใช่ เหมือนกับเราเอาสิ่งที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงไปทำให้เขามาเกลียดเรา แล้วท่านจะเอาอะไรล่ะ ประเทศไทยจะได้อะไรจากการกระทำของท่าน มีแต่เสียหาย เพราะฉะนั้นท่านช่วยรัฐบาลนะครับ ช่วยการทำงานของรัฐ ให้สร้างความเข้มแข็งให้ได้ จะต้องมีการวางแผน มีการบูรณาการ ทำงานให้เป็นระบบนะ วันนี้ที่ผ่านมา ผมบอกแล้วมันแยกกันไม่ได้ วันนี้ก็จะให้เป็นระบบไง ยังไม่ค่อยจะได้เลย เพราะว่าเคยชินกับวิธีการทำงานแบบเดิมมากมาย วันนี้เราก็เข้ามาหยุดสถานการณ์ต่าง ๆ ให้แล้ว หยุดปัญหา แล้วก็เอาปัญหามาแก้ท่านก็ต้องเอามาคลี่ดูว่าเกี่ยวข้องกับใครยังไง แต่ละกระทรวงทบวงกรม งานเดียวกัน จะแก้ยังไง งบประมาณจะเอามาจากไหน ถ้าทุกคนใช้งบประมาณตัวเอง เท่าไรก็ไม่พอ เดี๋ยวก็ของบกลาง งบกลาง งบกลางจะเอามาจากไหนล่ะครับ รายได้ยังไม่มาสักบาทให้ผมเลย เก็บอะไรก็ไม่ได้ ภาษีก็ไม่ได้ การค้าส่งออกก็เก็บภาษีไม่ได้ ทุกอย่างมันแย่ไปหมด แล้วนี่จะโทษว่าใครผิดใครถูก ไม่ได้หรอก อย่าไปโทษว่าใครผิด ใครถูก ต้องคิดว่าเราจะทำยังไงต่อไปดีกว่า ไม่ใช่ผมอยากจะสืบทอดอำนาจ ไม่ต้องการเลย ต้องการให้ประเทศไทยนี่มีที่ยืนอยู่ในโลกใบนี้เท่านั้นเอง ที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ คนอื่นเขาทำได้ เหมือนผมทำนั่นแหละ ถ้าตั้งใจจริงนะ ก็ขอให้ทุกคนตั้งใจจริงแล้วกัน วันนี้เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติให้เร็วขึ้น ในเรื่องของการกดดันจากต่างประเทศก็เบาบางลงไป เว้นแต่ว่า เราเอง คนของเราเอง อดีตนักการเมืองนี่ไปทำให้เขามากดดันเรา อันนี้ ผมก็อยากจะถามท่านเห็นประเทศไทยอยู่ตรงไหนหรือ ท่านจะเอาชนะคะคานผมโดยประเทศเสียหาย แล้วถ้าท่านได้กลับมาเป็นรัฐบาล แล้วท่านจะปกครอง บริหารใคร ประเทศล้มเหลวไปแล้ว มันเฟลไปแล้ว ไม่มีใครเหลือให้ท่านบริหารอีกแล้ว คิดตรงนี้กับผมด้วย เพราะงั้นวันนี้หลายประเทศสนใจนะครับ เราก็พยายามทะอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต อย่างเช่นที่ผ่านมานะครับ มันจะเป็นผลกระทบระยะยาว เรื่องงบประมาณการใช้จ่าย การทุจริต ความโปร่งใสต่างๆ การพัฒนาประเทศอะไรต่างๆ อะไรที่มันผิดก็ต้องหยุดไว้ก่อน สอบสวน ดำเนินคดี เรียบร้อยแล้วก็เดินหน้าต่อไปให้ทันเวลา แล้วข้อสำคัญ ทุกอย่างนี่จะได้ไม่ขัดต่อข้อกฎหมายระหว่างประเทศด้วยนะครับ เช่น เรื่องของประมง วันนี้มีปัญหาเรื่อง ICAO บ้าง เรื่องประมง เรื่อง IUU เรื่องค้ามนุษย์ TIP Report เยอะแยะไปหมด นั่นแหละคือปัญหาที่มาจากองค์กรระหว่างประเทศนะ กฎหมายระหว่างประเทศ เราก็ต้องแก้ทุกอัน วันนี้ก็มีปัญหาเรื่องประมง ผมก็ไม่อยากให้พี่น้องประมงเดือดร้อน ใครจะอยากให้ท่านเดือดร้อน แต่ท่านก็ต้องนึกถึงว่า ทีเขาทำถูกอีกเยอะแยะไปหมด เขาเดือดร้อน เขาต้องเดือดร้อนกับท่านด้วย เพราะเขาทำถูกต้อง วันนี้ส่วนหนึ่งไม่ถูกต้องแต่บอกว่า ไม่มีรายได้ และจะให้ผมทำอย่างไร ในเมื่อกติกามันมีอยู่แล้ว ขนาดเรือก็ต้องมีติดอะไรบ้าง อุปกรณ์ในการหาปลา ตั้งแต่ปี 2530 40 กว่าๆ ท่านทำอะไรกันอยู่ แสดงว่าท่านไม่ได้ดูเลยว่า กติกาเขาว่าอย่างไร กฎหมายเขาว่าอย่างไร และท่านก็ทำของท่านไป และท้ายสุดก็เดือดร้อน เดือดร้อนใคร เดือดร้อนแรงงาน เดือดร้อนการบริโภค การตลาด การพาณิชย์หมด วุ่นวายหมด
วันนี้ต้องจำเป็นนะครับ บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง เพราะว่าอยู่ในห้วงเวลาที่องค์กรระหว่างประเทศจะต้องมาตรวจสอบ ในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว ถ้าทำไม่เสร็จมันไม่ได้หรอก ผ่อนผันไปก็ลำบาก วิธีการอันหนึ่งที่ผมเสนอตอนนี้คือ ทำอย่างไรสมาคมประมง หรือว่าอะไรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ท่านมีสมาคมของท่านอยู่แล้ว แต่ท่านรวมกันไม่ได้ซักที และท่านเป็นสมาคมที่ไม่ได้ดูแลลูกน้องท่านเอง ท่านต้องเอากฎหมาย เอารัฐบาล เอาอะไรต่างๆ มาเชื่อมต่อให้ถึงสมาชิกท่านสิครับ วันนี้สมาชิกท่านมีปัญหา ท่านจะรวมกันช่วยเหลือกันได้ไหมล่ะ ในเมื่อมันมีเรือจำนวนหนึ่งที่มันวิ่งออกทะเลได้ ส่วนหนึ่งวิ่งไม่ได้ ส่วนวิ่งไม่ได้บอกขาดแคลนแรงงาน ก็ไม่เอาแรงงานให้มาผสมกันได้ไหม ให้แบ่งสัดส่วนให้คนที่ไม่มีอาชีพตอนนี้ไปทำได้ไหม ตรงนั้นก็ลดลงหน่อย เหมือนต่างประเทศเขาก็ทำ ลดไปได้ โดยที่ไม่ต้องลดแรงงาน ไปเอามาคิด ถ้าทุกคนจะเอาหมดทุกอย่างมันไม่ได้หรอกครับ อย่างไรก็ทำไม่ได้ ดีกว่าที่จะให้ลูกเรือไม่มีงานทำเลยไม่ได้ คนหนึ่งขาด คนหนึ่งเกิน
สมาคมไปจัดการ ไม่ใช่เรียกร้องอย่างเดียว วันหน้าสมาคมไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องตั้งหรอกถ้าอย่างนั้น ตั้งเพื่อเรียกร้องรัฐอย่างเดียวไม่ได้ ทุกสมาคมเลยนะ วันนี้สมาคมที่เกี่ยวข้องคนที่มีรายได้น้อยมีปัญหาหมด วันนี้ผมสั่งตรงนี้แล้วกันว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของท่าน สมาคมประมง สมาคมสินค้าการส่งออก สมาคมอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว เหล่านี้ไม่ใช่เป็นตัวแทนเพื่อมาสู้รัฐอย่างเดียว ท่านต้องจัดระเบียบของท่านให้ได้ สมาคมสื่อด้วย ไม่อย่างนั้นผมก็ต้องไปบังคับใช้กฎหมายโดยตรงกับเขา มันก็เดือดร้อนอีก ท่านต้องดูแลเขาให้ได้ ถ้ามีปัญหาอะไรมาบอก เราจะได้แก้ให้ เป็นเรื่องๆ ราวๆ ไม่ใช่เหมา ทุกคนเอาประโยชน์ แต่พอให้รับผิดชอบไม่รับซักอัน ไม่ได้ วันนี้ไม่ได้ วันหน้าท่านก็ไปเรียกประชาธิปไตยรัฐบาลของท่านก็แล้วกัน
เพราะฉะนั้นอย่าให้มันวุ่นวายไปกว่านี้ ประมงผมเป็นห่วง เดี๋ยวจะดูแลกันต่อไป ว่าจะทำอย่างไรกันดี เพราะฉะนั้นวันนี้ผมขออนุญาตสั่งไปก่อน สมาคมประมงฯ ช่วยผมบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวก็ต้องว่ากันใหม่ สมาคม ต้องรื้อกันใหม่ทั้งหมด มีปัญหาหมด เพราะฉะนั้นอย่าไปสร้างความขัดแย้งอีก ให้สังคมสงบลงไปบ้าง
เรื่องอาหารทะเล วันนี้บริโภคไม่ได้ เดี๋ยวหาอาหารอื่นแทนไปก่อน แพงก็อย่าไปทาน ให้คนรวย คนมีสตางค์เขาทานไปสิ ไม่ใช่ว่า ต้องเท่าเทียมสิ ผมทำให้ไม่ได้ ถ้าอยากจะทานของแพง ท่านก็ต้องทำงานหนัก หาเงินให้มาก รัฐบาลก็ช่วยในส่วนที่ช่วยได้ มีตลาดสำหรับผู้มีรายได้น้อย ก็ทำให้ทั้งหมด ตอนนี้ก็ทำไปแล้วไง จะดึงมาเท่ากันหมด ไม่ได้หรอกครับ เพราะมันมีหลายระดับด้วยกัน เราจะแก้ได้ด้วยความสงบ มีเสถียรภาพ สร้างให้เข้มแข็ง มีรายได้มาเข้าประเทศ มันก็เฉลี่ยแบ่งปันกันได้ทุกคน นี่เขาเรียกว่าความเท่าเทียมด้วยความพอเพียง
ข้อสำคัญวันนี้อย่าเอาข้อบกพร่องเราไปประจานให้โลกรู้ด้วยการประท้วง ด้วยการต่อต้านผมเลย ไม่เกิดประโยชน์หรอกนะ มันไม่เข้าใจกัน สื่อและโซเชียลนะครับ ผมเป็นห่วงกังวลเด็กรุ่นหลัง อย่าไปเติมเชื้อไฟกันให้มากนัก เดี๋ยววันหน้าก็แข็งกระด้างกันไปหมด ไม่เคารพผู้ใหญ่บ้าง ไม่เคารพกติกาสังคม ไม่เคารพกฎหมาย อ้างประชาธิปไตย อ้างเสรีภาพ ไม่รู้จักคำว่าหน้าที่ เสร็จแล้วประเทศชาติล้มเหลว อยู่ไม่ได้ทั้งหมดล่ะ ทุกคนนั่นล่ะที่ว่าเก่งๆ น่ะ ผมก็อยู่ไม่ได้ ใครก็อยู่ไม่ได้ ที่มาขัดแย้งกันในวันนี้ ต้องยอมรับในความผิดพลาด ต้องยอมรับในสิ่งที่เรากำลังเป็นปัญหาในเวลานี้ อย่าเขียนไปเรื่อยเปื่อยตามที่อยากจะคิดอยากจะเขียนโดยไม่คำนึงถึงความเสีย ของประเทศ ฝากสื่อต่างๆ ช่วยกันดูแลนะครับ สมาคมสื่อต่างๆ ผมไม่เคยอยากไปทำอะไรกับท่านอยู่แล้ว ท่านก็ต้องเห็นใจผมบ้าง วันนี้มันไม่ใช่สถานการณ์ปกตินะ
ต่อไปก็เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของข้อเสนอแนะต่างๆ คำวิพากษ์วิจารณ์ ผมรับทั้งหมดนะ แต่อย่าติเรือทั้งโกลน ติโขนทั้งยังไม่ได้ทรงเครื่อง บางเรื่องยังไม่ได้ทำเลย บางเรื่องทำไปแล้ว บางเรื่องอยู่ในแผน 2 แผน 3 ท่านไม่เคยฟังผมเลย ท่านก็เขียนของท่านไปเรื่อย แล้วแต่ว่าจะนึกถึงเรื่องอะไรได้ วันนี้ วันโน้น แล้วท่านก็ไปฟังแหล่งข่าวนี้ แหล่งข่าวโน้น คราวหลังมาบอกแหล่งข่าวมาจากไหน ใครบอก มันจริงหรือเปล่า ตัวเลขมีมั้ย เชิงวิทยาศาสตร์มีมั้ง การประเมินต่างๆ ออกมามีหรือเปล่า หรือคิดเอาเอง หรือนับจากว่ามีเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ วันนี้ไม่มีเงินแสดงว่าเศรษฐกิจมันตก ผมว่ามันไม่ใช่นะ มันพันกันทั้งระบบ ต้องคิดแบบภาพโดยรวม มหภาคด้วย ว่ามันยังไง เพราะอะไร แล้วมันจะเสริมยังไง รัฐบาลทำถูกหรือเปล่า แต่ถ้าจะบอกให้เอาเงินมาช่วย มาจ่ายทั้งหมด เอาเงินที่ไหนล่ะครับ ผมบอกแล้วยังไม่มีเงินเข้าสักบาทเลยเพิ่มจากเดิม มีแต่ว่าจะต้องชำระหนี้ มีต้องใช้โน่นใช้นี่เพิ่มเติมไปเรื่อย เสียหาย
ในเรื่องของการปฏิบัติงานของข้าราชการ ขออีกทีนะ ช่วยไปดูหน่อย ทุกกระทรวง งบประมาณไตรมาส 1, 2 ครึ่งปีแรก ออกไปแล้วนะ งบประมาณออกไปแล้ว แต่การใช้จ่ายยังขยับได้ ... หมายถึงการเบิกงบประมาณ ค่อนข้างที่จะมีปัญหาอยู่นะ ผมไม่ทราบมันไปติดขัดตรงไหน ไม่งั้นเราก็เป็นกังวล เพราะว่างบของราชการเป็นงบส่วนหนึ่งที่จะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผมบอกไว้แล้วว่าภายในกรกฎาคมนี้ ถ้าใช้ไม่ได้ก็เอากลับมาหมด เอาไปใช้อย่างอื่นที่มันเป็นความเดือดร้อน งบทุกกระทรวงนะ เพราะสั่งแล้ว หลายครั้งแล้ว ไปหาทาง ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้ ผมก็ไม่ผ่อนผันให้เหมือนกัน เดี๋ยวจะให้เอากลับมาให้หมด ไม่อยากใช้อำนาจ แต่ก็ต้องใช้ เพราะว่าผมก็ไม่มีสตางค์เหมือนกัน ถ้าให้ไปใช้ แล้วใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ถูก ก็ต้องเอามาใช้ใหม่ เพราะฉะนั้นอย่าไปปลุกระดมกันอีกต่อไปนะครับ ข้าราชการก็ต้องร่วมมือ มีเวลานี้เท่านั้นนะที่ประเทศชาติจะเดินหน้าไปให้ได้
เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องการปฏิรูป วันนี้ก็อยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ก็ค่อนข้างที่จะต้องหาข้อสรุปกันให้ได้ เพราะมันมีระยะเวลาของมันอยู่ นี่ล่ะคือที่ผมบอกว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็ต้องทำใหม่ รัฐธรรมนูญเขาเขียนไว้อย่างนั้น ไม่ใช่ว่าผมต้องมารับผิดชอบสั่งให้ออกให้ได้ ยอมรับหรือไม่ยอมรับ ต้องรับผิดชอบในความสำเร็จ ล้มเหลว เพราะผมตั้งขึ้นมา เอ๊ะอย่างนี้มันใช่มั้ยครับ เวลามันสำเร็จ เวลามันดี ก็ไม่เห็นผมจะต้องไปรับคำชมเชยอะไร ไม่ต้องการอยู่แล้ว แต่เวลามันผิด ผมคนเดียวเลย ไม่เป็นไรหรอกครับผมรับผิดชอบอยู่แล้ว ทุกเรื่อง แต่ทุกคนต้องช่วยผมรับผิดชอบด้วยสิ ผมรู้ว่าท่านทำงานเหน็ดเหนื่อยนะ สปช. สนช. ทุกคนตั้งใจหมดล่ะ แต่ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วไง ลดอัตตาตัวเองลงไปหน่อย เอาปัญหามาจัดซิ ประเทศชาติต้องแก้อะไรบ้าง ท่านเอาความคิดของท่านมา ระดมกันออกมา แล้วหาข้อสรุปให้ได้ ช่วงนี้เราจะทำอย่างนี้ แล้วที่ทุกคนต้องการจะไปทำช่วง 2 ช่วง 3 ท่านบอกว่าจะเอาทุกอย่างให้ตามคนนี้ ตามกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ มันทำได้มั้ยเล่า มันก็เริ่มไม่ได้ตั้งแต่ 1 แล้วมันจะไปยังไงล่ะ ก็ต้องทำงานแบบนี้ ก็ขอบคุณนะครับในความตั้งใจ ขอบคุณในความเสียสละของท่าน เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ กมธ.ด้วย ก็เพียงแต่ขอว่าอย่าให้ประชาชนต้องมาขัดแย้งกันเพราะงานที่เราทำกันอยู่เลย เดี๋ยวประชาชนก็มาถือข้างนี้ข้างโน้น เอาประชาชนมาเป็นตัวประกันกันอีก ไม่เอา ทุกอย่างเราต้องเป็นคนกำหนด ออกมาให้ประชาชนเขารับรู้รับทราบ เขาพอใจ ประชามติผ่านก็จบแล้ว ไม่ใช่มาสู้กันตั้งแต่ตอนนี้ มันคนละขั้นตอน ตอนนี้หลายจังหวัดผมไม่สบายใจนะ เปิดเวทีกันขึ้นมา แล้วก็บังคับกันว่าต้องผ่าน ไม่ผ่าน มันไม่ใช่ ไอ้คนที่ผ่าน ไม่ใช่ผ่านเพราะยอมรับในรัฐธรรมนูญทั้งหมด ผ่านเพราะมีคำว่า ทำให้พลเมืองเป็นใหญ่ ให้พลเมืองมีอำนาจในการบริหาร อย่างนี้ไม่ใช่ อำนาจเขามอบให้แก่รัฐบาล ผ่านอำนาจตามกระบวนการประชาธิปไตย ถ้าไปบอกงั้นทุกพื้นที่ก็ทำอะไรไม่ได้หมด กระจายอำนาจหมด ใครจะมาบังคับบัญชาใคร ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่มี มันก็ไร้กฎหมาย เป็นเมืองเถื่อน ต้องมีกฎ กติกา เตรียมความพร้อมเสียก่อนจะไปเป็นประชาธิปไตยที่สากล เป็นแบบยุโรป พร้อมหรือยัง ถามตัวท่านเองพร้อมไหม วันนี้บางคนยังไม่เข้าใจเลยว่า ประชาธิปไตยจริงๆมันคืออะไร พูดอะไรออกไปทียังสงสัย เอาแค่ง่ายๆ เอาเรื่องชีวิตประจำวัน การศึกษา เราพร้อมกันทุกคนไหม ผมไม่ได้ดูถูกใครเลยนะ ผมไม่ดูถูกใคร แต่ผมอยากให้ทุกคนทบทวนดูว่า ไอ้ทีเราคิดเราพูด ไม่ว่าจะเป็นดอกเตอร์ นักวิชาการ ปริญญาตรี ปริญญาโท ถามสิ คนไม่ได้เรียนหนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก เขาคิดอย่างไร คิดเหมือนที่ท่านคิดไหม วันนี้ผมถึงบอกทุกคนที่ทำงาน ตอ้งคิดแบบเขาคิด แล้วแก้ให้เขา อธิบายให้เขา ไม่ได้ไปทำให้ข้างล่างเข้าใจตามของเรา เราไม่ใช่นักการเมือง วันนี้เราไม่ใช่ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ครม. คสช. หรือ สนช. ไม่ใช่นักการเมืองทั้งสิ้น ท่านเป็นคนที่ถูกตั้งขึ้นมา แล้วทรงโปรดเกล้าฯ ลงมา ตามที่ผมเสนอขึ้นไป เพื่อจะทำบ้านเมืองให้ปลอดภัย ท่านไม่ใช่นักการเมือง ก็ถือหางข้างใครก็ไม่ได้ ท่านต้องทำให้ทุกอย่างเกิดความเป็นธรรม เกิดความเชื่อมั่น วันนี้มันขาดเรื่องวิกฤตศรัทธา มันขาดในเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ความหวาดระแวงระหว่างกัน ระหว่างชนชั้นบ้าง ระหว่างกลุ่มอาชีพ รายได้ต่างๆ มันถูกสร้างมาตลอด 10 กว่าปี 20 ปีมาแล้ว เรื่องเหล่านี้ไม่เคยแก้ได้ เพราะเป็นเรื่องของการเมืองทั้งสิ้น และประชาธิปไตยที่ท่านบอก วันนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในวันหน้า เราต้องเปลี่ยนวิกฤตอันนี้ให้เป็นโอกาส เวลามีเท่านี้มันต้องสร้างความรัก ความสามัคคี เผื่อแผ่แบ่งปัน เราเหมือนคนป่วย ถ้าเราทำอะไรเร็วๆ มันก็เหมือนป่วยให้น้ำเกลือออกมาใหม่ก็ป่วยแบบเดิม ไม่ได้หาปัญหาว่าเชื้อโรค โรคอะไร โรคระบาดหรือเปล่า โรครุนแรงหรือไม่ ต้องแยก ถ้าปฐมพยาบาลหายก็ไปได้ บ้านเรามันปฐมพยายามได้ที่ไหน วันนี้ป่วยเยอะนะ ทุกคนคงทราบ ป่วยทุกมิติ วันนี้ต้องหายาให้เหมาะใส่เข้าไปก็ต้องร่วมมือกันคิดยา คิดวิธีปก้ไขป้องกันโรคระบาด วันนี้อย่าให้มันระบาด โรคประชาธิปไตยไทยลำบาก ทำให้วุ่นวายไปหมด วันนี้ผมพยายามเต็มที่ในฐานะหัวหน้า คสช. รัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาการบริหารราชการในเวลาวิกฤตขณะนี้ขอให้ความร่วมมือกับเรา บ้าง
ในเรื่องของความใจบุญของคนไทยไม่ต้องกังวล มีเรื่องมีราวที่ไหนในโลกคนไทยช่วยเหลือกันหมด เนปาลเราก็ช่วย ญี่ปุ่นก็ช่วย ประเทศหมู่เกาะเกิดปัญหาที่ไหนเราก็ช่วยหมด แล้วทำไมเราไม่ช่วยคนไทยด้วยกันเอง ช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคี ร่วมมือแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง โดยนึกถึงประโยชน์ของชาติเป็นใหญ่ เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ถ้าเราใช้เหตุใช้ผลในการทำงาน สร้างความเข้าใจในการพูดจากัน ผมว่าประเทศชาติมันไปได้หมด รัฐบาลนี้เป็นหน้าที่ที่จะต้องดูแลคนไทยทุกคนให้เท่าเทียม อยากให้เราสามัคคีกันสักที พอได้แล้ว เอาประเทศเราเป็นหลัก ใช้เหตุใช้ผลกัน มีสติปัญญาในการคิด ในการใคร่ครวญ ระวังการรับรู้ทางโซเชียลมีเดีย ถ้าใครมีฐานะทางสังคมที่ดี ฐานะทางการเงินดี ก็ช่วยสังคมให้มากๆหน่อย มีน้อยช่วยน้อย มีมากช่วยมาก เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนด้วย แล้วรัฐถึงจะช่วยไหว ถ้าให้รัฐช่วยตั้งแต่ต้นมันไปไม่ได้หรอก ช่วยแล้วก็ต้องดูแลจนกว่าจะแข็งแรง ไม่ใช่เด็กอ่อนกันแล้วนี่ ทุกคนก็โตกันมาพอสมควรแล้ว แต่มันไม่มีการสร้างความเข้มแข็ง ก็ต้องเติมในส่วนที่ไม่เข้มเเข็ง ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบจนตาย เกิดจนตาย ผมว่ามันไม่ใช่ ไม่มีประเทศไทยเขาทำกันอยู่แล้ว
ขอชมเชย หลายอย่างที่สำเร็จได้ด้วยดี ไม่มีความขัดแย้ง มาช่วยแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หนังสือพิมพ์หลายเล่ม ผมชมเดลินิวส์ก่อน มีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะร่วมกับโครงการที่รัฐบาลทำอยู่ สามารถที่จะทำลดราคาอะไรต่างๆ มีเครือข่ายอะไรมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการไปเยือน จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ก็มีเครือข่ายเกษตรกรรายย่อย ผู้ผลิตอาหารอินทรีย์ รวมตัวกัน 2,000 คน ให้ทุกคนมาสนใจ รักษาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผัก ผลไม้ต่างๆ เป็นสิ่งที่ดี หลายโครงการดี เรื่องปุ๋ย เรื่องข้าว เรื่องการเพิ่มรายได้ เรื่องการลดพืชใช้น้ำ เรื่องปรับเปลี่ยน เขาก็ช่วยตัวเองมา คนเหล่านี้รัฐก็จะต้องเอาเข้ามาเสริม มาทำ โครงการผูกปิ่นโตข้าว เชื่อคนกรุงกับชาวนาเกษตร มันขาดหายไปหมดเลย ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความนึกถึงกัน เพราะทุกคนฝากความหวังไว้กับการเมือง ฝากไว้กับรัฐบาล โดยที่กลไกต่างๆ ข้างล่างไม่ช่วยกัน ต่างคนต่างทำยอ่างเดียว คือมุ่งหวังผลกำไร มาเผื่อแผ่แบ่งปันในองค์ของท่าน ไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นเรื่องของการค้าเสรีอยู่แล้ว แต่วันนี้ทั้งหมดต้องกลับมาช่วยดูสิ่งทีเราลืมไป คือคนที่รายได้น้อย เขาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นห่วงโซ่หนึ่งของท่านด้วย ท่านต้องมาช่วยผม ทุกสมาคม ถ้าเรียกร้องอย่างเดียวผมก็ให้ไม่ได้ อย่างมากก็ให้ได้แค่สิทธิประโยชน์ซึ่งมันไม่ได้ เพราะสิทธิประโยชน์ให้ไปท่านก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะมันไม่มีฐานการผลิต ไม่มีฐานเกษตรกรที่มันเข้มแข็ง ประชาชนต้องช่วยกัน ปรับเปลี่ยนพื้นที ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ก็ขอให้ช่วยกันรณรงค์บริโภคข้าวกล้องด้วย พืชอินทรีย์ ต่อไปในโลกต้องแข่งขันผลิตข้าวที่มีคุณภาพ ทุกประเทศในโลกปลูกข้าวได้หมดแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่าต่อไปราคาข้าวมันจะดีเฉพาะข้าวที่มีคุณภาพ ข้าวหอมมะลิเกรดสูง ข้าวพรีเมียม ข้าวราคาต่ำๆก็จะลดลงไปเรื่อยๆ มันแข่งขันกันตรงนั้น ฉะนั้นพี่น้องเกษตรกรก็ไปดูด้วยแล้วกัน ว่าควรเหมาะสมไปในการปลูกอย่างไร มีน้ำเยอะจะปลูกยังไง ดินดีปลูกอะไร ไม่ใช่ปลูกเอาแต่ปริมาณอย่างเดียว ก็ไม่ได้อีก ต้องใช้พื้นที่ให้น้อยลง ใช้น้ำให้น้อยลง แล้วมีประโยชน์กลับมาให้มากที่สุดนะ ชาวไร่ชาวนาอยู่อย่างมีความสุข ไปปรับกัน กระทรวงเกษตรรับไปแล้ว กระทรวงมหาดไทย หลายกระทรวงรับไปแล้วนะครับ
สัปดาห์ที่แล้วนี่เรื่องการจัด ไม้ดอกไม้ประดับ และปลาสวยงาม ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเสร็จไปแล้วนะครับรายได้ เกือบ 24 ล้านบาท ก็ขอบคุณทุกคนนะครับ ถือว่าเป็นความสำเร็จความริเริ่มก็ได้มีการขยายไปสู่ทุกมุมเมืองด้วยนะครับ ในอนาคต ในทุกจังหวัดด้วย ภาคเอกชนทำกันเองก็ได้ รวมกลุ่มเกษตรกรมาแล้วก็ไปเปิดตลาดขาย ขอผู้ว่าเขา ขออะไรเขา ท่านต้องเริ่มเองบ้างอย่าให้ต้องไปสั่งทุกเรื่อง ๆ ผมก็สั่งจนเหนื่อยแล้วนะ เพราะงั้นมันควรจะเกิดขึ้นมาตั้งนาน ทำตัวอย่างออกมาตั้ง 4-5 ตลาด ทำกันเองบ้างซิครับ สมาคมพ่อค้า อุตสาหกรรมหอการค้า จังหวัด ทำกันเองบ้าง นะ อบท. ท่านก็บอกท่านต้องการอำนาจ ท่านต้องการอะไรต่างๆ ท่านก็แสดงให้เขาเห็นว่าเอาล่ะ ท่านพร้อมจะได้อำนาจมากขึ้น มีงบประมาณมากขึ้น ท่านก็แสดงให้เห็นก่อน ว่าท่านรวมกลุ่มคนได้ไหม ไปรวมไปเชื่อมต่อ กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เอาสิ่งดี ๆ มาให้ปรากฏในพื้นที่ของท่าน คนก็รักท่าน รักกำนันผู้ใหญ่บ้าน รัก อบท. ท่านจะได้ไม่ต้องไปกลัวเรื่องเขาจะยุบ เขาจะปลดกันเมื่อไร ทำไมไม่คิดแบบผมคิดนี่เล่า เพราะฉะนั้นหลายอย่างดีขึ้นนะครับ ในเรื่องตลาดต่าง ๆ แต่ยังไม่เท่าที่ผมคาดหวังนะ จะได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์สินค้าแล้วเอาสินค้าที่มาโดยตรงจากเกษตรกรขึ้น มานะครับ ให้สามารถที่ไปเป็นเถ้าแก่ใหม่อะไรบ้างในอนาคต Social Business นะ ธุรกิจเพื่อสังคม ผมให้เริ่มไปแล้วนะ เรื่องขายข้าว ซื้อผลิตผลการเกษตร ค่อยๆ ทำไป วันนี้ก็ต้องช่วยงานกันนะครับในส่วนของประชาชนที่มาร่วมงาน ขอบคุณนะครับที่ทุกคนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมาโดยตลอดนะครับ เดี๋ยวก็จะจัดงานอื่นๆไปอีก ก็ขอให้มา หลายๆ คนก็บอกว่าขอไปอยู่ตามมุมเมืองบ้าน เพราะเข้ามาไม่สะดวก รถติดอะไรอย่างนี้ ผมก็บอกมีเรือวิ่งให้แล้ว ตอนนี้ก็มีเรือวิ่งจากหัวลำโพงไปออกทางเจ้าพระยาแล้วก็ผ่านแถวนี้ด้วย มีท่า 7-8 ท่า ก็ให้ กทม. ทำต่อนะครับ เว้นแต่มันวิ่งไม่ได้ ต้องหยุด ก็ต้องหยุด น่ะ ช่วงไหนวิ่งได้ ก็ต้องวิ่งนะ เพราะว่าเป็นนโยบายนะ ให้การบริการประชาชน
ส่วนงานต่อไปที่จะจัดที่ทำเนียบ ข้างๆ ทำเนียบนี่คืองานมหกรรมสุขภาพ เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน ก็อยากให้เอาแผนไทยมาทั้งหมดนะครับ แพทย์ผสมผสาน จัดระหว่างวันที่ 7-26 เป็นการส่งเสริมสถานบริการสุขภาพของไทย เพราะเรามีโอกาสเยอะ ในเรื่องของแพทย์แผนไทยนี่ ในเรื่องของสมุนไพร เรื่องที่เราจะมาแปรรูปดีกว่าที่จะเอาสมุนไพรไทยนี่ขายเป็นวัตถุดิบไปข้าง นอกอย่างเดียว แล้วซื้อเขากลับมาแพง ๆ และข้อสำคัญคือให้ทุกคนเรียนรู้ว่า เราจะดูแลสุขภาพของเราอย่างไร ง่ายๆ วันนี้ที่เราสิ้นเปลืองในงบสาธารณสุข จำนวนมากนะครับมหาศาล แล้วเราก็ทำได้แค่นี้แหละ เพราะรายได้เรามีเท่านี้ เมื่อเรามีรายได้น้อยก็มีปัญหาเรื่องงบ รักษาพยาบาลฟรี ต้องไปหางบมา ก็ไม่พอ เมื่อไม่พอ ก็เกิดความขัดแย้ง ผมถามว่าสิ่งเหล่านี้มันเริมมาถูกไหมล่ะ ดีสำหรับประชาชนล่ะ แต่รัฐนี่แก้ไม่ได้หรอก ยังไงมันก็พันอยู่อย่างนี้ บางทีมากขึ้นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะทำยังไง รายได้ยังไม่มาเลยสักกะบาท เรียกร้องกันทุกอย่าง นั่นแหละคือสิ่งที่เป็นปัญหาที่สร้างกันมาแล้ว ผมต้องมาตามแก้อยู่นี่ ช่วยกันคิดด้วยนะครับ เรื่องสาธารณสุขเราจะเป็นยังไงกันต่อไป เรื่องการศึกษา ฟรี ไม่ฟรี อะไรอย่างนี้ผมแก้ไม่ได้หรอก ถ้าจะให้ยกเลิก แต่ทำยังไงจะเกิดความเป็นธรรม ทำยังไงจะมีความก้าวหน้าทำยังไงจะมีอนาคต ไม่ใช่มันพันหลังไปเรื่อยอย่างนี้ไม่ได้ ผมไม่เลิกอยู่แล้วแหละ
ในเรื่องของในพื้นที่ ขอฝากท่านผู้ว่าฯ กับหัวหน้าส่วนราชการของทุกกระทรวงที่อยู่กับจังหวัด ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนะครับ ไปช่วยกัน จัดงานก็ต้องให้ดูด้วยว่า มีคนขาย คนซื้อไหม ไม่ใช่จัดโชว์อย่างเดียว ผมเห็นหลายๆ ตลาดจัดตามกัน ในกรุงเทพฯ ก็มี ตลาดโอท็อป ผมให้มีแต่ร้านเปล่าๆ หรือมีก็มีคนนั่งอยู่คน คนดูก็ไม่สนใจ ท่านปรับเปลี่ยนสิครับ วันนี้ถ้าขายโอท็อปอย่างเดียวมันขายไม่ได้ วันนี้ขายข้าว ขายอาหาร พรุ่งนี้ขายโอท็อปให้มันเป็นอย่างนี้ ความคิดริเริ่มไม่มีกันเลยหรือไง ผมไม่เข้าใจ พอสั่งโอท็อปก็โอท็อป พอสั่งตลาดขายข้าวก็ขายข้าว ขายปลาก็ขายปลา ทำไมไม่คิดกันเองบ้าง ในห้วง 1 กรกฎาคมนี้ วันที่ 1 ประเทศไทยกับประเทศจีนได้ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 40 ปีแล้วนะครับ เมื่อวันก่อนผมได้ไปร่วมงาน และในวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันชาติสหรัฐฯ และสำหรับประเทศไทยกับสหรัฐฯ นั้น มีความสัมพันธ์ยาวนาน ขอแสดงความยินดีกับประชาชนทั้ง 3 ประเทศด้วย ทั้งจีน สหรัฐฯ ซึ่งคนละวาระกันนั่นแหละ ก็คนไทยทั้ง 2 ฝ่าย 2-3 ประเทศก็เดินทางหาสู่กันอยู่แล้ว มีความผูกพัน มีความร่วมมือร่วมใจกันในหลายๆ ระดับนะครับ ทั้งระดับสถาบัน ระดับรัฐบาล ระดับประชาชน การท่องเที่ยว การค้า วัฒนธรรมต่างๆ เยอะแยะไปหมด ยังมีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นต่อไป ไม่ใช่เพียงแค่ 100 ปี 40 ปีไม่ใช่ มันต้องเป็นพันๆ ปี ไปข้างหน้า เพราะย้อนหลังมาก็หลายร้อยปีอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ขอแสดงความชื่นชมนะครับ นักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้มีการลงทะเบียนร่วมในกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ เกือบ 1.5 แสนคนแล้วนะครับ เมื่อวานก็ทราบว่า เว็บล่มไปแล้ว ก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้เร็วๆ อยากให้ทุกคนได้มาแสดงออกถึงความจงรักภักดี สร้างความรักความสามัคคีกับคนในชาติ มีกิจกรรมร่วมกัน มันเป็นการจุดประกายนะครับว่า เราต้องแก้ไขเรื่องสุขภาพของเราด้วยการเฝ้าระวัง ปลูกจิตสำนึกมากกว่าที่จะต้องเข้าไปรักษา ไปเยียวยา มันเสียเวลา เสียงบประมาณจำนวนมาก ถ้าเราแข็งแรงก็ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลมาก เสียค่ายาก็เล็กน้อย ขอเชิญชวนทุกท่านมาสมัครเพิ่มกันนะครับ ถ้ามันสมัครมีปัญหาก็มาเถอะครับ อย่างไรก็ต้องมา มาลงทะเบียนมาเยอะๆ ลงไม่ได้ก็มา คือถือว่ามาร่วมใจกันถวายสมเด็จแม่ของแผ่นดินนะครับ เราจะมาลงทะเบียนถึงวันที่ 9 สิงหาคม จะได้แสดงให้โลกเขาเห็นว่า เรารวมกันได้แล้ว ถ้าเรารวมกันได้มากๆ ขึ้น ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งไม่มีข่าวเลวร้ายในประเทศออกไป มันก็ดีทั้งหมด แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนะครับ ช่วยกันสร้างแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองให้ได้ในเวลานี้ ผมคิดว่า นั่นคืออนาคตของคนไทยวันนี้ คนไทยในอนาคต และคนไทยที่กำลังจะเกิดมาในอนาคตด้วย ขอขอบคุณนะครับ สวัสดีนะครับ
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน เนื่องด้วยวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่งทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีพระปรีชาสามารถ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์เพื่อพัฒนาความเป็น อยู่ของประชาชนชาวไทยทุกหมู่ทุกเหล่าให้ดีขึ้น ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ กระผมในนามของข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกคน ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง และทรงพระเจริญยิ่งยืน ยาวนานครับ
ขณะนี้ผมกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมที่ประเทศญี่ปุ่นนะครับ ในห้วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลได้มีการประชุม ครม.สัญจรครั้งที่ 2 ที่ จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมในเรื่องของการบริหารจัดการในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ด้วย ก็ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ส่วนราชการ ที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จริงๆ แล้วผมไม่อยากจะรบกวนใครมากนัก ต้องการไปเห็นสภาพความเป็นจริงมากกว่า และมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนและข้าราชการในพื้นที่ทุกคน ก็ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมากที่มา ดูแลผมอย่างด้วยความเต็มอกเต็มใจนะครับ ผมก็มีกำลังใจที่จะทำหน้าที่เพื่อพวกท่านต่อไป หากทุกคนนั้นมีความร่วมมือร่วมใจกันต่อไปนั้น มีความรักความสามัคคีนั้น และทำหน้าที่ของตนเอง และทำบทบาทของตนเองให้ดีที่สุดนั้น ส่วนรวมก็จะได้ผลประโยชน์ และกลับมาที่ประชาชนในสุดท้าย รัฐบาลยังยืนยันอยู่เสมอว่า เราจะดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้เกิดความเท่าเทียมทั่วถึง ทุกคน ทุกภาคมันก็คนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นเราจะต้องไม่มีการแบ่งแยกโดยเด็ดขาด ฝากข้าราชการนะครับ ทั้งส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นต้องช่วยกันนะครับ ทั้ง 2 ส่วนมันอยู่ในระบบการปกครองประชาธิปไตยไทยในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นต้องเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ผมได้พูดกับบรรดาสมาชิกองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นไปแล้วนะครับ กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านส่วนหนึ่งไปแล้ว ทั้ง 2 ส่วนนั้นต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และเชื่อมโยงกันให้ได้ ช่วงนี้อยากให้ช่วยกันพัฒนาคุณภาพความเข้มแข็ง และดูแลเรื่องการใช้จ่ายของประชาชนในพื้นที่ ทำอย่างไรก็ได้ให้เขาสามารถที่มีการซื้อขาย มีตลาด มีสินค้าทางการเกษตรของเขาเองในการที่จะเพิ่มรายได้ของเขา ดีกว่าที่จะต้องซื้อของแพงๆ มาใช้กัน
เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกคนจะต้องช่วยกันลดการทำงานทางการเมืองลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเมืองท้องถิ่น ยังไม่ต้องเตรียมการอะไรทั้งสิ้นนะครับ เวลายังมีอยู่เยอะแยะ ขอให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละสร้างความเข้มแข็ง เราจะเดินหน้าประเทศแบบเดิมๆ ด้วยการเมืองอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ไม่งั้นประชาชนก็จะแตกเป็นพวก เป็นฝ่าย และก็ไม่เข้มแข็ง รัฐบาลก็ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็จะล้าหลังไม่ทันประเทศอื่น ๆ ในอนาคตด้วย
สำหรับเรื่องสำคัญในวันนี้ก็อยากจะกราบเรียนในเรื่องของความขัดแย้ง ในพื้นที่ต่าง ๆ นั้นในประเทศเราต้องยุติได้โดยเร็วไม่ว่าจะเป็น รัฐ ข้าราชการ ธุรกิจ เอกชน สำหรับคำว่าประชาธิปไตยนั้น ประชาชนต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยที่มีคุณภาพนั้น คือ ต้องเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวให้พร้อมอย่างไร นักการเมืองต้องทำตัวอย่างไร ข้าราชการต้องทำตัวอย่างไร ยังมีเวลาอยู่ที่จะสู่จุดนั้น ในจุดนี้เราต้องเอาปัญหาต่างๆ มาคลี่คลาย มาแก้ไข มาสร้างความเชื่อถือไว้วางใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ วันนี้มีความขัดแย้งหมดทุกภาคส่วน และทำให้เกิดปัญหา รัฐบาลนั้นเราจะลงไปทุ่มเทในแต่ละปัญหาอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ ก็ต้องทำทุกอย่าง ในเมื่อเรามีปัญหาอยู่ร้อยปัญหา เราก็เอาปัญหามาคลี่ออกมันก็แตกเต็มเป็นปัญหาเล็กน้อยอีกหลายร้อยปัญหา เราต้องจัดลำดับในการทำ 1 2 3 เพื่อจะได้ทำให้สถานการณ์ที่มันรุนแรงขั้นวิกฤตลดลงไปก่อน ความมีเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นสำคัญนำไปสู่ความสุขของประชาชนในพื้นที่ทุก กลุ่มเลย ไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา ก็ต้องขอร้องเราจะแก้ปัญหาทีเดียวทุกเรื่องไม่ได้ ถ้าเราจะเอาประชาธิปไตยทันที่และจะเอาทั้งความสงบเรียบร้อย เราจะสร้างความเข้มแข็งเราจะเอาทั้งปัญหาทั้งหมดต้องแก้ให้ได้ภายในระยะเวลา ที่เร่งด่วน มันทำไม่ได้ทั้งสิ้น ก็ขอเวลาให้เข้าใจกันตรงนี้ อย่ามาขัดแย้งกันอีกต่อไปเลย ทุกอย่างกลับมาที่เดิมหมด ขอให้ทุกคน ทุกส่วนได้มีการบูรณาการ บริหารงานในการทำงาน ทุ่มเท เสียสละ สุจริต แล้วดำเนินการต่างๆในเชิงรุก เพราะเรามีปัญหาอยู่ มีวิกฤตอยู่ ฉะนั้นถ้าจะเดินหน้าประเทศด้วยวิธีการปกติอย่างเดียวไม่ได้ ทำงานเชิงรับไม่ได้ ต้องเชิงรุกไปด้วย พร้อมกับการสร้างความข้าใจ สร้างความปรองดอง และพัฒนาโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เลิกนึกถึงประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือของคนใดคนหนึ่งได้แล้ว ช่วงนี้ขอให้มันเข้มแข็งก่อน แล้วทุกอย่างจะกลับมาสู่ประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึงภายใต้กฎหมาย และการสร้างสังคมที่มีคุณธรรม จริยธรรม มันต้องใช้เวลา ไม่ได้สร้างง่ายๆภายในวันสองวัน ภายในปีสองปี เหล่านี้ต้องใช้เวลาสร้างอย่างต่อเนื่องเป็นสิบๆปีต่อไป ทั้งนี้ เพื่อจะสร้างความสงบสุขอย่างยืนของประเทศให้ได้
งานทางด้านความมั่นคงนั้น ในเรื่องของความมีเสรีภาพอะไรต่างๆ ผมพูดไปแล้วนะครับ การเป็นประชาธิปไตยมันต้องมีความพร้อมหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ในส่วนของอำนาจต่างๆ ที่จะต้องไม่คาบเกี่ยว ไม่ซับซ้อน ไม่ทับซ้อนกัน ทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติราชการหรือการบริหารแผนดิน เหล่านี้กำลังแก้อยู่ในการปฏิรูปใน คสช.ทั้งสิ้น ทุกคนทราบดีแล้วว่าเรามีกฎหมายหลายๆ ฉบับที่ออกมาแล้วพิจารณาอยู่ ทั้งหมดถ้ารวมๆ แล้วในขณะนี้ก็ประมาณ 300 กว่าฉบับ หลายเรื่องด้วยกัน หลายมิติด้วยกัน ก็จะเห็นว่าเราพยายามเร่งตรงนั้น กฎหมายจะทำให้ทุกอย่างมันสงบลงด้วย แต่กฎหมายนั้นมีเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่ได้มุ่งหวังเพียงให้เจ้าหน้าที่สามารถมีเครื่องมือในการบังคับใช้กับ ประชาชนอย่างเดียว ถ้ามันไม่ขัดแย้งกันก็ไม่ต้องมีก็ได้นะ กฎหมาย ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ วันนี้ทุกคนก็ต้องการประชาธิปไตย ต้องการเสรีภาพ ต้องการอะไรต่างๆ แต่ขณะเดียวกันปัญหาก็เต็มไปหมด มันไปได้ไหมเล่า ถ้ายังไม่ได้ก็ต้องให้เวลา ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้
สำหรับกลุ่มนักศึกษานั้น ผมจะไม่ไปตำหนิเขานะ เพราะยังไงก็ตามผมก็ถือว่าเขาเป็นพลังอันบริสุทธิ์ ซึ่งน่าที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านนี้เมืองนี้ได้อีกมากในอนาคต ก็ขอให้ใช้ในระยะเวลาที่ถูกต้อง ก็อย่าไปเชื่อมั่นว่าใครมาบิดเบือน ใครมาสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ก็มีทั้งผิดทั้งถูกนะ ผมไม่เคยปฏิเสธคำว่าประชาธิปไตย ผมไม่เคยปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่ในการเลือกตั้งและการมีประชาธิปไตยที่ผ่านมามันมีปัญหา มันก็ต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปสิ้นเปลืองงบประมาณ ไม่ต้องเสียเวลากับการควบคุมอำนาจ หรือไม่ก็ เสียงบประมาณในการที่รั่วไหลออกไป ทำให้เกิดประโยชน์ต่อชาติน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นพลังเหล่านี้ผมคิดว่า น่าที่จะต้องเป็นอนาคตของชาติในต่อไป ผมไม่อยากให้อนาคตของเขาเสียไปนะครับ เรียนอยู่ทุกคน ศึกษาอยู่ทุกคน การปฏิเสธไม่ยอมรับกฎหมายมันไม่ได้ ถ้าท่านทำได้ คนอื่นก็ทำได้เหมือนกัน และคนอื่นเขาจะรู้สึกว่าอย่างไรนะครับ แม้กระทั่งนักโทษ หรือที่กำลังอยู่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด เขาก็บอกเขาไม่ผิด ไม่ยอมรับกฎหมายทั้งสิ้น ถ้าอย่างนี้มันไม่มีกฎหมายแล้ว อันนั้นคือประเทศ หรือรัฐที่มัน Fail State มันล้มเหลวทั้งหมดนะครับ อันนี้อยากจะฝากด้วยทุกๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะกลุ่มนักศึกษาเอง หรือนักวิชาการที่อาจจะมองในแง่มุมของประชาธิปไตย และมองว่าวันนี้ประเทศไทยมีปัญหา เพราะคำว่า ประชาธิปไตย
จริงๆ ไม่ใช่หรอกนะครับ ไม่ใช่ส่วนประกอบเดียวเท่านั้น หลายส่วนประกอบด้วยกัน เราพยายามที่จะลดเหล่านั้น และผมยอมรับในส่วนที่ท่านว่า ผมรับเอง ผมรับผิดชอบผู้เดียวอยู่แล้ว แต่ในส่วนของปัญหาทุกคนต้องช่วยผมรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นอยากให้ใช้พลังบริสุทธิ์นี้มาให้เกิดประโยชน์ในอนาคตข้างหน้านะ ครับ จะได้ไม่เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก
เพราะฉะนั้นในคดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ถ้าหากว่ายอมรับกัน พูดจากันรู้เรื่องทุกเรื่อง ร่วมมือกัน เราจะหาทางที่จะดูแล แต่อย่าให้มันต้องทำให้กฎหมายมันเสียหายไปมากกว่านี้เลย สำหรับปัจจุบันนั้น ทั้งปัญหาสถานการณ์โลกต่างๆ นั้นมีมากมายนะครับ เราต้องร่วมกันปรับตัว สร้างความเข้มแข็ง สร้างประเทศเราให้เข้มแข็งเสียก่อน ในการที่จะไปพึ่งพาอาศัยอะไรเขาคนอื่น เอามาตรฐานของคนอื่นมาอะไรมา เราพร้อมหรือยัง ถ้าเรายังไม่พร้อม มาตรการต่างๆ ที่เขากำหนดมาแล้ว เราก็ปฏิบัติไม่ได้ เมื่อปฏิบัติไม่ได้เราก็ต้องถูกมาตรการกีดกั้น มาตรการทางการค้า หรือการสัมพันธไมตรีทางด้านต่างๆ แล้วกันทุกเรื่อง เพราะว่าอะไร เพราะเราไม่พร้อมไง ถ้าเราพร้อมเมื่อไรมันก็ทำตามกรอบเขาได้หมด แล้วมันจะมีปัญหาอะไร วันนี้เรากำลังทำอย่างนั้นอยู่นะครับ อย่ามองประเด็นเดียวว่า เรายังไม่เลือกตั้งมันเลยถึงมีปัญหา มันไม่ใช่หรอกครับ มันเป็นส่วนเดียวเท่านั้นเอง วันนี้โลกเขาอยู่ด้วยการค้า การพบปะ ท่องเที่ยว วัฒนธรรม สังคม จิตวิทยา เยอะแยะไปหมด ทุกอย่างประสานกันหมด แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมรับผิดชอบ หากเรายังขัดแย้งกันทะเลาะกัน และเร่งเรื่องนี้เรื่องโน้นจนมากเกินไป ทั้งระบบที่เราพยายามจะสร้างมันขึ้นมาเสียหายหมดเลย ก็ล้นเหมือนเก่า แล้วเราจะได้ประชาธิปไตยแบบไหนกลับมาละ เราจะได้เสรีภาพที่แท้จริงให้ประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่าให้มีความเท่าเทียมกัน ไหม ไม่มีความแสวงหาผลประโยชน์อีกไหม เรายังไม่รีบไม่คำนึกตรงนั้นกันเลยหรือไร คนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเลือกถูกแล้ว ถึงอยู่ได้ ทำไมผมอยากให้เข้าใจกันให้มากขึ้น ใครที่ยังโต้แย้งยังเป็นปัญหา เราเอาปัญหาทั้งหมดมาสร้างความขัดแย้งต่อไปอีก ที่ทุกคนคิดอยากปรองดองมันไปกันไม่ได้หมดหรอกครับ มันต้องตามลำดับของมันไป ตามเหตุการณ์ไป มันต้องคลี่คลายด้วยกฎหมายด้วยขบวนการ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เยอะแยะหมด ขอให้ทุกคนได้เดินตามโรดแมปเถอะครับ รัฐธรรมนูญชั่วคราวก็กำลังแก้ไขตามที่ทุกคนต้องการไม่ได้ร่างเพื่อให้ผมอยู่ ต่อไปนานๆไม่ใช่ ผมที่อยู่ได้เพราะรัฐธรรมนูญชั่วคราวทั้งสิ้น ขอให้เดินตามนั้น ส่วนที่พูดจาให้เสียหายมันจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นกับสถานการณ์ใน ประเทศไทยอย่างที่ผมกราบเรียนไปแล้วว่าวันนี้สถานการณ์บ้านเมืองของเรามี ปัญหา เราได้อธิบาย ชี้แจง ในประชาคมโลกไปแล้ว ส่วนใหญ่เขาเข้าใจ เขาก็รอเมื่อไหร่เราจะเลือกตั้ง ผมก็บอกว่า การเลือกตั้งเราจะทำเมื่อพร้อมเมื่อสถานการณ์เป็นไปตามโรดแมปมีรัฐธรรมนูญ แล้ว มีประชามติแล้ว มันก็เลือกตั้งได้อยู่ดี วันและเวลามันขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานทุกหน่วยงานให้มันเกิดผลสัมฤทธิ์ สปช. สนช. ครม.ก็แก้ปัญหาไป สปช.ก็ติดตามให้ในส่วนของสปช. เมื่อมีรัฐบาลที่ท่านต้องการก็ให้เขามาทำต่อ ผมก็เดินหน้าอย่างนี้ อย่าเพิ่มมีปัญหามากนักเลย ถ้ามันปกติแล้วผมคงไม่ต้องมายืน พูดหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นความขัดแย้งเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานกว่าสิบปีแล้ว ก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ทุกคนทราบดีว่ามันเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง มันก็เกิดจากระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์ของเราด้วย เป็นส่วนหนึ่ง การสร้างการรับรู้ที่อาจจะผิดบ้าง ถูกบ้าง เอาบางประเด็นที่เกิดประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่งมาสอน มาศึกษา ผมว่าต้องมองทั้งสองด้านนะ ว่าประเทศไทยมีความเป็นมาอย่างไร มีพื้นฐานอย่างไร ความคิดความอ่านมันเป็นอย่างที่ทั้งโลกเขาเป็นไหม บางทีมันก็ไม่เหมือนเขานะ ผมก็ได้เรียนกับองค์กรระหว่างประเทศด้วยว่า ในส่วนของอาเซียน ในส่วนของแอฟริกา ในส่วนของหลายพื้นที่ในโลกมันมีความแตกต่าง ฉะนั้นในการที่จะตัดสินใจในการแก้ปัญหา ผมคิดว่าแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ดีที่สุด คือการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา และดำรงชีวิตอยู่ด้วยความพอเพียง เหล่านี้เป็นหลักการที่หลายประเทศในโลกสนใจ
ขณะนี้ได้ติดต่อมาให้ผมได้จัดชุดไปอธิบายเป็นตัวอย่าง เราทำมาตลอดนะ และเขาก็ชื่นชมพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทุกพระองค์ก็ทำตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และทุกพระองค์ วันนี้พระองค์ท่านทรงไม่แข็งแรง องค์อื่นๆ ก็ทำตาม วันนี้ก็พระชนมายุขึ้นทุกพระองค์ เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ลูกท่านหลานไทยต้องช่วยกันทำ พระองค์ท่านจะได้มีความสุข ทรงเริ่มให้แล้วนะ ลูกหลานไทยทั้งหมดก็ทำต่อไป โดยที่ท่านไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องได้อะไรกลับมาเลย เพราะแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของพวกเราทั้งสิ้น ทุกอย่างขอให้ไปเป็นไปตามกระบวนยุติธรรม ถ้าอะไรที่พอพูดคุยกันได้ เราก็พร้อมที่จะหาทางให้อภัยกัน อย่าทำต่อกันไปเลย เดี๋ยวมันขยายต่อไปเรื่อยๆ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
การทำงานทุกอย่างวันนี้มันต้องลดอัตตาตัวเองลงบ้าง มันอาจจมีทั้งถูก ทั้งผิด ถ้าผิดก็ไปกระบวนการยุติธรรม ถ้าถูกก็ .. มันถูกมาก ถูกน้อย หรือความคิดตรงกับเราบ้าง ไม่ตรงบ้าง ลดอัตตาแต่ละคนลงไปมันถึงจะคุยกันได้ ถึงจะทำงานร่วมกันได้ เอาจุดมุ่งหมาย เอาวัตถุประสงค์เป็นตัวกำหนดว่าประเทศชาติต้องการอะไร วันนี้ต้องการความสงบเรียบร้อย ต้องการเตรียมแนวทางในการปฏิรูป หรือเรื่องต่างๆ ที่มีความสำคัญเป็นปัญหามานานจะแก้กันยังไง ถ้าทุกคนยังยืนหยัดในหลักการของตัวเองอยู่ มันไปไม่ได้เลย แล้วแต่ละฝ่ายก็มีประชาชนหนุนหลังกันแต่ละพวกแต่ละฝ่าย แล้วมันจะไปยังไงล่ะแบบนี้ ผมว่าไอ้ช่วงนั้นเอาไปตอนที่มีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ดีกว่ามั้ง ที่มีรัฐบาลปกติมาเลือกตั้ง ส.ส. ส.ว. อะไรก็ว่ามาเถอะ ผมไม่เคยปฏิเสธนะตรงนั้น วันนี้ขออย่างนี้ไปก่อน ฉะนั้นอย่าให้เราต้องเสียชื่อในประชาคมโลกต่อไปเลย เรื่องที่เสียชื่อเพราะผม ผมรับผิดชอบแต่ผู้เดียว ฉะนั้นอย่าไปวัดกันด้วยการเลือกตั้งเร็วๆ โดยที่ยังไม่พร้อม ก็ตามโรดแมปนั่นล่ะ ไม่ได้ช้าหรือว่าเร็วไปกว่านั้นเลย ถ้าทุกอย่างไม่แก้ไข .. แล้วท่านบอกว่าประชาธิปไตยไทยนั้นได้ผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมา 83 ปีแล้ว มีการสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อมามากแล้ว แล้วท่านจะสูญเสียอีกเท่าไหร่ล่ะครับ ท่านจะต้องเสียไปอีกกี่ครั้ง ต้องให้ตาย เจ็บ กี่ครั้ง ประชาชน นักศึกษา นิสิต ผู้บริสุทธิ์ และผู้นำต่างๆ เหล่านั้น ก็กล่าวแต่เพียงว่า การเปลี่ยนแปลงต้องมีการสูญเสีย ผมถามว่าแล้วใครสูญเสีย ประชาชนทั้งนั้นล่ะครับ เพราะฉะนั้นท่านต้องเลือกผู้นำที่ดี ที่มีคุณธรรม มีจริยธรรม แล้วก็อยู่ในองค์กร สร้างองค์กรที่มีธรรมาภิบาลให้ได้ อยากให้ทุกคนหาทางออกกับเจ้าหน้าที่ให้ได้ แล้วก็กลับมาเรียนหนังสือซะ พ่อแม่จะได้ไม่เสียใจ หลายคนก็อยู่ชั้นปลายๆ แล้ว ชั้นปีท้ายๆ ก็มี จะได้จบมาแล้วหางานหาการทำ แล้วก็ไปเดินหน้าขับเคลื่อนประชาธิปไตยให้มันสมบูรณ์ในอนาคตไม่ดีกว่าเหรอ ที่จะต้องไปถูกจำคุก ถูกตัดสินอะไรต่างๆ มันเสียประวัติด้วย เสียอนาคตด้วย แล้วท่านได้อะไรขึ้นมาบ้างล่ะ ประชาธิปไตยวันนี้มันก็ยังไปไม่ถึงตรงนั้น มันยังเข้าไปสู่การเลือกตั้งไม่ได้ สิ่งสำคัญก็คือผมให้ความสำคัญกับการศึกษามากที่สุดเลยนะ เป็นการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ ทั้งเพื่อวันนี้และเพื่อวันหน้าด้วย วันนี้อีกหลายอย่างต้องพัฒนาให้ได้ การเตรียมคนเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน การพัฒนานักวิจัย นักพัฒนา เรื่องของการใช้เทคโนโลยี ซึ่งวันนี้เราต้องปรับปรุงคุณภาพการศึกษาทุกระบบเลยนะ ทุกระบบตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งวิชาชีพ ทั้งวิชาการ ทั้งในเรื่องของสถาบันการศึกษา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนต้องร่วมมือกัน ทำอย่างไรเราจะร่วมมือกันได้ ในเรื่องของประชาธิปไตยนั้น เราใช้มาตรา 44 อยู่ในขณะนี้มีส่วนประกอบด้วยนะครับ เพื่อจะทำให้มันเดินไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ วันนี้เราใช้เท่าที่จำเป็นนะครับ แก้ไขสิ่งติดขัด ไม่ใช่เอาไปให้ผมใช้ทุกอย่าง มันใช้ไม่ได้หรอกครับ จะไปสั่งถูกเป็นผิด ผิดเป็นถูก อะไรเหล่านี้มันไม่ได้ วันนี้จะไปแก้ปัญหาที่มันซับซ้อนกับกฎหมายเดิมมากมันก็ไม่ได้ ต้องการให้มีการบูรณาการ เหมือนกับที่เราจะต้องทำอย่างไรให้อำนาจทั้ง 3 คือ บริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ได้ทำงานไปพร้อมๆ กัน ผมจะทำแค่นั้นแหละ ไม่อย่างนั้นต่างคนต่างก็ทำกันไป บริหารก็บริหารไป กฎหมายก็ออกกฎหมายไป แล้วมันไม่ต่อเนื่องเชื่อมโยง วันนี้ผมต้องการทำให้มันเกิดความเชื่อมโยง มันถึงต้องมีมาตรา 44 ไว้ เพื่อทำให้แต่ละหน่วยราชการนั้น ได้เอากฎหมายทุกอันที่มีอยู่แล้วมาบูรณาการร่วมกัน ในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และกฎหมายที่ไม่ทันสมัยเขาก็ไปแก้ใน สปช. เมื่อออกมาแล้วมาตรา 44 ก็ลบทิ้งไป ยกเลิกไป ก็ใช้กฎหมายใหม่ แค่นั้นเอง วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้านักหรอกครับ
เพราะฉะนั้นควรจะช่วยกัน ในด้านสังคมจิตวิทยา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นบ่อเกิดของประเทศ และจะนำพาประเทศชาติไปวันข้างหน้า เพราะฉะนั้นผมอยากให้บุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงศึกษาฯ ด้วย ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาข้าราชการ พัฒนาในส่วนของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในทุกงานที่เรียกว่า Stakeholder ต้องเข้าใจว่า เราจะพัฒนาทรัพยากรอย่างไร แต่ถ้าพัฒนาทั้งหมดมันพร้อมกันไม่ได้ มันต้องเป็นเรื่องๆ เป็นช่วงๆ เป็นในแต่ละช่วงวัย หรือในแต่ละกิจกรรมให้มันไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไปเหมือนปลูกพืชนั่นแหละ ปลูกพืชก็ต้องมี Demand Supply อันนั้นเหมือนกัน รับความต้องการของตลาดมา ความต้องการของประเทศมา ความต้องการในเรื่องของการลงทุนต่างประเทศ การเป็นเออีซี เอาตรงนี้มา และเรากำหนดปลายทางไว้ที่ว่า ในช่วง 1 ปี 2 ปี 3 ปี เราจะผลิตคนเหล่านี้ได้เท่าไหร่เพื่อไปรองรับในอนาคต ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยประเมินในต่างประเทศทำไปมีโครงการใช้งานใช้เงินไปก็จบ แล้วก็เริ่มใหม่ โดยที่ไม่มีกาปรระเมินผลอย่างเป็นรูปธรรม มีแต่ไม่เป็นรูปธรรม มันใช้ประโยชน์ไม่ได้ ได้แต่ทำ ได้แต่ได้ทำ แต่มันเกิดมาเท่าไหร่ ทุกหน่วยงานต้องทำให้ผมนะ ต่อไปผมจะกวดขันเรื่องนี้นะครับ เราต้องร่วมกันสร้างแนวความคิดในการสร้างความร่วมมือที่สร้างสรร โดยใช้พลังของทุกพวกทุกฝ่าย อย่าไปมุ่งหวังทางการเมืองอย่างเดียว การเมืองคือการที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามา สร้างความมั่นใจให้ประชาชน คัดเลือกเข้ามาดูแลประชาชนทุกพวกทุกฝ่ายให้เกิดความเป็นธรรมเท่าเทียม มีแค่นั้น ถ้าเราเตรียมการเพียงเท่านี้ ก็ไปถึงวันนั้นไม่ได้ วันนี้เราเตรียมการเมืองให้พร้อมและท่านก็เข้ามากันหมดและ ผมก็ถอยหลังไปอยู่แล้ว แต่เราเตรียมให้ท่าน ท่านอย่ามาขัดแย้งขัดขวางเลย พวกการเมืองต่างๆแล้วแต่ ผมฟังบางทีก็ไม่ค่อยพอใจแนวความคิดของท่านวันนี้ผมเปิดเวทีให้แล้ว รายการเดินหน้าปฏิรูปก็มีทั้ง 2 ส่วนมา เป็นในส่วนของสปช.ส่วนของนักวิชาการ พิธีกร ก็พูดกันมาแต่เรื่องไป วันนี้เศรษฐกิจ วันหน้าการศึกษา เรื่องน้ำ เรื่องรถไฟก็ว่ากันไป ฟังสิว่าเออรัฐบาลทำอะไรอยู่ตอนนี้และฟังนักการเมืองเก่าๆ ที่เขาทำ ทำอย่างไร คิดตรงกันหรือไม่ เพราะวันหน้าเขาก็ต้องเข้ามาอีกอยู่ดี เพราะฉะนั้นประชาชนต้องเป็นผู้ตัดสินว่าเออ ความคิดใครมันถูก ไม่งั้นก็เถียงกันอยู่อย่างนี้ก็ล่า ฆ่าฟันไม่จบสักที เพราะฉะนั้นต้องหาขบวนการเพื่อให้ท่านมีเวธีในการแสดงความคิดเห็น ผมไม่โกรธหรอกครับ ถ้าท่านจะตำหนิติเตียนไรผม แต่ท่านต้องมีเหตุผลมาสู้มายืนยัน ว่ายุติธรรม ถ้าบอกว่าด้วยเหตุด้วยผลอย่างไร ต้องลงทุนต้องเดินหน้า จะต้องอะไรที่ทำให้ประเทศเสียหายผมว่ามันไม่ถูกหรอก ตอนนั้นถ้าทำอย่างนี้ต้องแก้ไขอย่างไรงบประมาณอย่างไร งั้นตอนการควบคุมจะพูดจะดูแลอย่างไรจะพูดจะดุแลอย่างเดียวลอยๆ มันพูดได้หมด แต่ทำไม่ได้หรอก ถ้าทำอย่างผมทำ ทำไม่ได้อย่างที่ท่านพูด เอาละ ก็พูดกันต่อไปละกัน
ในวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงผมเป็นห่วงเรื่องอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย วันนี้กระจายข่าวสารรวดเร็ว วันนี้เราต้องหามาตรการ คือ การปลูกจิตสำนึก สำคัญที่สุด การเฝ้าระวัง และสงสารเด็กๆ นะ ถ้าเราปลูกฝังเด็กๆ ของเราให้อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ต่อไป เด็กเราก็จะก้าวร้าว และเราก็จะเป็นเด็กที่ไม่น่ารัก วันหน้าก็จะรวมกันไม่ได้ มันก็จะแปลกแยกไปอย่างนี้เรื่อยๆ เพราะมันแบ่งพวกหมด โซเชียลมีเดียก็แบ่งซ้ายแบ่งขวา ตรงกลางบ้างอะไรบ้าง ผมอยากให้ทุกคนร่วมกันระดม ใครจะคิดอย่างไรก็ได้ คิดซ้ายก็ได้คิดขวาก็ได้ แต่รวมกันได้ไหมตอนนี้ แล้ววันหน้าก็ไปหาช่องทางผ่านรัฐบาล ผ่านฝ่ายค้าน ไปให้เขาทำให้ นั่นคือการเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ท่านใช้สิทธิของท่านตามรัฐธรรมนูญได้ทุกคน
ในการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้ นประเทศไทยยังขาดอีกหลายอย่าง แรงงานมีฝีมือ ซึ่งตอนนี้แรงงานระดับล่างที่ใช้แรงอย่างเดียวก็ขาด แรงงานประมงก็ขาด พอบอกว่า แรงงานข้างล่างก็ไม่อยากทำ รายได้น้อย เหนื่อย เราก็เอาแรงงานต่างด้าวมาทำ วันนี้พอบอกให้ไปทดสอบฝีมือ ไปพัฒนาฝีมือ ไปทำงานไม่ไปอีก ไม่เอาอีก คือจะชอบสบาย และงานเบาๆ เงินสูงๆ มันมีที่ไหนเขาจะให้ทำ การประกอบการเศรษฐกิจต่างๆ เขาก็ลงทุนมาเยอะแยะ มหาศาล ก็ต้องพึ่งพาอาศัยกัน บังคับเขามาๆให้เขาขึ้นค่าแรง เขาก็หนีหมด อย่าคิดว่าเขาจะง้อเรามากนัก เราต้องกลับไปง้อเขามากกว่า ต้องมีการสร้างแรงจูงใจ สร้างสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย แบบเดิมไม่ได้เลย ต้องแข่งขันกันทั้งโลก แต่ละประเทศก็มีการเคลื่อนย้ายการลงทุน ไม่ใช่เคลื่อนย้ายเพราะผม เขาเคลื่อนย้ายเพราะว่าต้นทุนมันสูง หลายๆอย่างมันไม่ได้รับสิทธิ สิทธิประโยชน์ที่ยกเว้นต่างๆ มันหายไป เพราะเราเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง เมื่อเขาไม่ได้ตรงนี้เขาก็ต้องไปหาประเทศอื่นลง แต่เท่าที่ดู เขาบอกว่าถ้าเราดูแลเขาดี เพื่อชดเชยในสิ่งทีเขาเสียไป เขาพร้อมจะอยู่ เขาอยากอยู่ประเทศไทยกันหมด เขาไม่อยากอยู่เพราะผมเลย แล้วจะถามว่าแล้วผมจะทำให้มันเป็นอย่างนี้ได้ถึงเมื่อไหร่ เขาอยากทราบอนาคต อนาคตคือนักการเมือง ท่านก็ไปบอกเขาสิ ให้เขามายืนยันกับผม วันหน้าเขาจะทำทุกอย่างให้เป็นอย่างนี้ 1 2 3 4 5 ให้ต่างชาติเขาเข้าใจเรา อย่าให้เป็นแบบเดิมอีก สิ่งที่ผมต้องการมีแค่นี้ ขอแค่นี้ได้หรือเปล่าไม่รู้นะ ฉะนั้นวันนี้ทั้งรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้รณรงค์มากมาย ในเรื่องของการส่งเสริม ศึกษาสายอาชีพ อาชีวะ ให้มีงานทำ มีฝีมือ มีรายได้ก่อน ปริญญาเอาไว้ที่หลังก็ได้ ทำต่อเนื่องได้ไหม มีสิทธิพิเศษเข้ามาเรียนต่อได้ไหม แล้ววันนี้ต้องหาเงินก่อน เลี้ยงดูพ่อแม่ ตัวเองไม่เป็นภาระ ไม่งั้นมันก็มีเวลาว่าง ไม่มีงานทำ ก็ไปตีกันบ้าง อะไรกันบ้าง น่ากังวลใจนะครับเกี่ยวกับเรื่องนักเรียนตีกัน ก็ยังมีอยู่ ผมก็กำลังหามาตรการจะทำยังไงดี เด็กแว้นก็แล้ว มาตีกัน กลับไปกลับมาอยู่อย่างนี้ ไปโรงเรียนก็ไม่ปลอดภัย แล้วพ่อแม่เขาจะให้ไปเรียนเหรอ เราต้องการประโยชน์วิชาชีพ ต้องการวิศวะ ต้องการแรงงานมีฝีมือ แต่ไปเรียนโรงเรียนไม่ได้เพราะไม่ปลอดภัย ผมถามว่าแล้วจะทำยังไงล่ะ จะแก้ได้มั้ย ผมสั่งไปแล้วนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงศึกษาฯ อาชีวะพื้นฐาน อะไรต่างๆ เหล่านี้ต้องไปดูทั้งหมดนะ ที่รับผิดชอบโดยตรง ต้องไม่ให้เกิดขึ้นอีก หลายโรงเรียน ไปโรงเรียนไม่ปลอดภัย แล้วจะไปกันยังไง เพิ่มคนสมัครไปเรียนเยอะเป็นสองเท่ามั้ง ปีนี้ แต่ปรากฏว่าสองเท่าที่ว่านี้ยังกลัวว่าไปแล้วไม่อันตราย พ่อแม่ต้องโทรศัพท์เช็กถึงโรงเรียนหรือยัง เย็นกลับเมื่อไหร่ รอรับกันตรงไหน ดูแล้วมันยังกับสถานการณ์สงครามเลยนะ
ขอร้องน้องๆ นะ อาชีวะทั้งหมด เลิกได้แล้ว พี่ที่จบไปแล้วก็พอได้แล้วนะ ประวัติศาสตร์ของโรงเรียนเขามีไว้ให้ภูมิใจ ไอ้ที่เก่งกาจสามารถ รบรันฟันฝ่าต่อสู้กันน่ะ พอได้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจเลยนะ ก็ขอให้เป็นเสาหลักทางด้านแรงงานที่สำคัญของประเทศ เพราะเป็นเครื่องจักร เครื่องมือ ประเทศไทยเราต้องการเป็นตลาดแรงงาน ตลาดลงทุน หรือเป็นฮับต่างๆ เยอะแยะไปหมด แล้วเราเตรียมคนของเราพร้อมหรือยังล่ะ เราเตรียมสถานการณ์ในประเทศให้มีประสิทธิภาพหรือยัง มันยังไม่ครบเลยนะ ผมอยากให้ทุกคนทำอย่างที่ผมคิด แล้วก็ช่วยผม ผมก็ทำได้ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหล่ะ ที่เหลืออยู่ที่พวกเราร่วมมือกัน เสียสละกัน อดทนกัน อย่าเพิ่งมาเอาชนะคะคานกันเวลานี้เลย ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้เกิดปัญหาหมด ฝากรุ่นพี่ๆ ด้วยนะ อาชีวะ เมื่อกี้พูดไปแล้ว ทำยังไงจะให้น้องๆ มาเรียนมากขึ้น ท่านก็จะได้มีรุ่นน้องของท่านเยอะๆ รุ่นน้องดีๆ แล้วก็มีชื่อเสียง สร้างประเทศชาติ ไม่ใช่มีชื่อเสียงในทางว่าโรงเรียนนี้ตีกันมาตลอด ไม่ค่อยมีคนอยากเรียน น่าอายนะ ผมว่าน่าอายมากกว่า พี่ๆ น่ะสำคัญที่สุด กลับมาดูแลน้อง ให้รักกัน สร้างเครือข่ายให้ได้ ทั้งในส่วนของราชภัฏ ราชมงคล ให้ไปรวมเป็นเครือข่ายกับ ปวช. ปวส. ช่างกล ให้ได้นะ ว่าใครจะอยู่กับใคร แล้วดูแลกัน พี่กัน น้องกัน วันหน้าก็ต้องต่อเชื่อมโยงไปเรียนต่อกันให้ได้ ถ้าจัดกลุ่มไว้อย่างนี้นะ ผมเชื่อว่ามันจะทำสำเร็จ มันต้องทำงานโครงสร้างให้ได้ ว่าจะสร้างความเชื่อมโยง พูดอย่างเดียวมันทำไม่ได้หรอกครับ ให้มันชัดเจนขึ้น ว่ามหาวิทยาลัยเอกชนจะดูแลน้องๆ ที่ไหนได้บ้าง ทางด้านราชภัฏอาจจะดูแลในเรื่องของเตรียมคนให้เข้าไปสู่ตลาดแรงงาน ในเรื่องของการบริการ การท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีนอะไรก็แล้วแต่ อยากให้มหาวิทยาลัยราชภัฏมุ่งเน้นผลิตคนเหล่านี้ออกมา มันมีงานทำด้วยทันที ถ้าไปผลิตเป็นสาขาวิชาอื่นที่เป็นนักวิชาการอะไรต่างๆ มันก็ไม่มีงานทำ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยของรัฐก็ผลิตเยอะแยะไปหมด
เพราะฉะนั้นต้องไปแยกแบ่งกันดู ลองเริ่มทำกันได้ไหม ท่านคงรายได้ไม่ตกไปหรอก เพราะรัฐบาลส่งเสริมเรื่องวิชาชีพ และการลงทุนอะไรต่างๆ มันก็มากมายขึ้น ทำไมท่านไม่ให้สอดคล้องกับรัฐบาล ในส่วนของราชมงคลไปดูเกี่ยวกับเรื่องสายที่เป็นแรงงานฝีมือ เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างอ๊อก ช่างวิทยุ ช่างซ่อมอะไรก็แล้วแต่นะครับ และในเรื่องของที่จะไปเป็นระดับหัวหน้างานในโรงงานอุตสาหกรรม มีรายได้สูงขึ้น แต่ท่านก็ต้องพูดภาษาอังกฤษให้ได้ เขาใช้ภาษาอังกฤษ เขาใช้ภาษาจีน ท่านก็พูดภาษาจีน ท่านถึงจะเป็นหัวหน้าเขาได้ เขาสั่งเราไม่รู้เรื่อง พูดไม่รู้เรื่องต้องมีคนแปลมีล่าม ไปกันใหญ่ เราคนไทยเขาชอบ คนไทยเขาเรียกอะไร มีประสิทธิภาพแต่ภาษาไม่ค่อยได้ เขาเลยลำบากในการที่จะยกขึ้นในระดับหัวหน้างาน ท่านฟังผมแล้วท่านก็เอาไปคิดเอง ทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตัวนักศึกษาเอง ทั้งตัวนักเรียนเอง ทั้งตัวเด็กๆ ที่จะโตมา ถ้าฟังผมและคิดตามไป ท่านจะรู้อนาคตท่านจะทำอย่างไรนะครับ
ด้านเศรษฐกิจ ความสามารถในการแข่งขันบ้านเรานั้น มีโอกาสสูงนะครับ แต่เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ก่อน โอกาสที่เราน้อยลง การส่งออกน้อยลง เพราะผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เราก็ไม่ค่อยมี นวัตกรรมต่างๆ เราน้อย แรงงานก็สูง ค่าแรงค่าต้นทุนก็สูง สิทธิจีเอสพีมันก็ไม่ได้ ยังโชคดีนะครับ ที่สหรัฐอเมริกามีการผ่อนผันสิทธิจีเอสพีให้เราย้อนหลังด้วย ประมาณ 600 กว่าล้านดอลลาร์ เป็นที่น่ายินดี มิตรประเทศเขาก็ดีกับเรา ย้อนหลังให้เราด้วย เขาต่อให้ประมาณ 4 ปีกว่าๆ เดี๋ยวฟังรายละเอียดกับกระทรวงพาณิชย์แล้วกันในเรื่องนี้ จากประเทศสหรัฐอเมริกานะครับ
เพราะฉะนั้นถ้าเรามีปัญหามากๆ ความเข้มแข็งไม่เกิด การลงทุนโครงการพื้นฐานก็ทำไม่ได้ การลดความเหลื่อมล้ำ ลดความเป็นธรรม ทำไม่ได้หมดเลย เสร็จแล้วการลงทุนต่างประเทศก็ไม่มา เขามาเพราะว่า เขาจะไปลงที่ไหนมีอยู่ 2-3 อย่าง 1.สิทธิประโยชน์ แรงจูงใจ 2.ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และความเชื่อมั่นไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน 3.ความเป็นอยู่ในประเทศนั้น คนงานของเขา ผู้คนของเขามีความสุข ประเทศไทยนี่มี 2 อย่าง 3 อย่าง เกือบครบแล้วล่ะ เสียอย่างเดียว ความไม่มีเสถียรภาพ วันนี้เขาบอกว่าดีแล้ว อยากให้เป็นอย่างนี้ เขาพร้อมที่จะลงทุน ถึงแม้ว่าเขาจะเสียสิทธิประโยชน์อะไรไปบ้าง เขาก็ยอมนะ แล้วเราจะมาตีกันอยู่ทำไม ผมไม่เข้าใจนะ ตีโน่น ตีนี่ เราไม่ทำนี่ ทำโน่นผมว่าไม่ใช่ เหมือนกับเราเอาสิ่งที่ไม่เป็นข้อเท็จจริงไปทำให้เขามาเกลียดเรา แล้วท่านจะเอาอะไรล่ะ ประเทศไทยจะได้อะไรจากการกระทำของท่าน มีแต่เสียหาย เพราะฉะนั้นท่านช่วยรัฐบาลนะครับ ช่วยการทำงานของรัฐ ให้สร้างความเข้มแข็งให้ได้ จะต้องมีการวางแผน มีการบูรณาการ ทำงานให้เป็นระบบนะ วันนี้ที่ผ่านมา ผมบอกแล้วมันแยกกันไม่ได้ วันนี้ก็จะให้เป็นระบบไง ยังไม่ค่อยจะได้เลย เพราะว่าเคยชินกับวิธีการทำงานแบบเดิมมากมาย วันนี้เราก็เข้ามาหยุดสถานการณ์ต่าง ๆ ให้แล้ว หยุดปัญหา แล้วก็เอาปัญหามาแก้ท่านก็ต้องเอามาคลี่ดูว่าเกี่ยวข้องกับใครยังไง แต่ละกระทรวงทบวงกรม งานเดียวกัน จะแก้ยังไง งบประมาณจะเอามาจากไหน ถ้าทุกคนใช้งบประมาณตัวเอง เท่าไรก็ไม่พอ เดี๋ยวก็ของบกลาง งบกลาง งบกลางจะเอามาจากไหนล่ะครับ รายได้ยังไม่มาสักบาทให้ผมเลย เก็บอะไรก็ไม่ได้ ภาษีก็ไม่ได้ การค้าส่งออกก็เก็บภาษีไม่ได้ ทุกอย่างมันแย่ไปหมด แล้วนี่จะโทษว่าใครผิดใครถูก ไม่ได้หรอก อย่าไปโทษว่าใครผิด ใครถูก ต้องคิดว่าเราจะทำยังไงต่อไปดีกว่า ไม่ใช่ผมอยากจะสืบทอดอำนาจ ไม่ต้องการเลย ต้องการให้ประเทศไทยนี่มีที่ยืนอยู่ในโลกใบนี้เท่านั้นเอง ที่ผมมายืนอยู่ตรงนี้ คนอื่นเขาทำได้ เหมือนผมทำนั่นแหละ ถ้าตั้งใจจริงนะ ก็ขอให้ทุกคนตั้งใจจริงแล้วกัน วันนี้เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติให้เร็วขึ้น ในเรื่องของการกดดันจากต่างประเทศก็เบาบางลงไป เว้นแต่ว่า เราเอง คนของเราเอง อดีตนักการเมืองนี่ไปทำให้เขามากดดันเรา อันนี้ ผมก็อยากจะถามท่านเห็นประเทศไทยอยู่ตรงไหนหรือ ท่านจะเอาชนะคะคานผมโดยประเทศเสียหาย แล้วถ้าท่านได้กลับมาเป็นรัฐบาล แล้วท่านจะปกครอง บริหารใคร ประเทศล้มเหลวไปแล้ว มันเฟลไปแล้ว ไม่มีใครเหลือให้ท่านบริหารอีกแล้ว คิดตรงนี้กับผมด้วย เพราะงั้นวันนี้หลายประเทศสนใจนะครับ เราก็พยายามทะอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต อย่างเช่นที่ผ่านมานะครับ มันจะเป็นผลกระทบระยะยาว เรื่องงบประมาณการใช้จ่าย การทุจริต ความโปร่งใสต่างๆ การพัฒนาประเทศอะไรต่างๆ อะไรที่มันผิดก็ต้องหยุดไว้ก่อน สอบสวน ดำเนินคดี เรียบร้อยแล้วก็เดินหน้าต่อไปให้ทันเวลา แล้วข้อสำคัญ ทุกอย่างนี่จะได้ไม่ขัดต่อข้อกฎหมายระหว่างประเทศด้วยนะครับ เช่น เรื่องของประมง วันนี้มีปัญหาเรื่อง ICAO บ้าง เรื่องประมง เรื่อง IUU เรื่องค้ามนุษย์ TIP Report เยอะแยะไปหมด นั่นแหละคือปัญหาที่มาจากองค์กรระหว่างประเทศนะ กฎหมายระหว่างประเทศ เราก็ต้องแก้ทุกอัน วันนี้ก็มีปัญหาเรื่องประมง ผมก็ไม่อยากให้พี่น้องประมงเดือดร้อน ใครจะอยากให้ท่านเดือดร้อน แต่ท่านก็ต้องนึกถึงว่า ทีเขาทำถูกอีกเยอะแยะไปหมด เขาเดือดร้อน เขาต้องเดือดร้อนกับท่านด้วย เพราะเขาทำถูกต้อง วันนี้ส่วนหนึ่งไม่ถูกต้องแต่บอกว่า ไม่มีรายได้ และจะให้ผมทำอย่างไร ในเมื่อกติกามันมีอยู่แล้ว ขนาดเรือก็ต้องมีติดอะไรบ้าง อุปกรณ์ในการหาปลา ตั้งแต่ปี 2530 40 กว่าๆ ท่านทำอะไรกันอยู่ แสดงว่าท่านไม่ได้ดูเลยว่า กติกาเขาว่าอย่างไร กฎหมายเขาว่าอย่างไร และท่านก็ทำของท่านไป และท้ายสุดก็เดือดร้อน เดือดร้อนใคร เดือดร้อนแรงงาน เดือดร้อนการบริโภค การตลาด การพาณิชย์หมด วุ่นวายหมด
วันนี้ต้องจำเป็นนะครับ บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง เพราะว่าอยู่ในห้วงเวลาที่องค์กรระหว่างประเทศจะต้องมาตรวจสอบ ในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว ถ้าทำไม่เสร็จมันไม่ได้หรอก ผ่อนผันไปก็ลำบาก วิธีการอันหนึ่งที่ผมเสนอตอนนี้คือ ทำอย่างไรสมาคมประมง หรือว่าอะไรที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ท่านมีสมาคมของท่านอยู่แล้ว แต่ท่านรวมกันไม่ได้ซักที และท่านเป็นสมาคมที่ไม่ได้ดูแลลูกน้องท่านเอง ท่านต้องเอากฎหมาย เอารัฐบาล เอาอะไรต่างๆ มาเชื่อมต่อให้ถึงสมาชิกท่านสิครับ วันนี้สมาชิกท่านมีปัญหา ท่านจะรวมกันช่วยเหลือกันได้ไหมล่ะ ในเมื่อมันมีเรือจำนวนหนึ่งที่มันวิ่งออกทะเลได้ ส่วนหนึ่งวิ่งไม่ได้ ส่วนวิ่งไม่ได้บอกขาดแคลนแรงงาน ก็ไม่เอาแรงงานให้มาผสมกันได้ไหม ให้แบ่งสัดส่วนให้คนที่ไม่มีอาชีพตอนนี้ไปทำได้ไหม ตรงนั้นก็ลดลงหน่อย เหมือนต่างประเทศเขาก็ทำ ลดไปได้ โดยที่ไม่ต้องลดแรงงาน ไปเอามาคิด ถ้าทุกคนจะเอาหมดทุกอย่างมันไม่ได้หรอกครับ อย่างไรก็ทำไม่ได้ ดีกว่าที่จะให้ลูกเรือไม่มีงานทำเลยไม่ได้ คนหนึ่งขาด คนหนึ่งเกิน
สมาคมไปจัดการ ไม่ใช่เรียกร้องอย่างเดียว วันหน้าสมาคมไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องตั้งหรอกถ้าอย่างนั้น ตั้งเพื่อเรียกร้องรัฐอย่างเดียวไม่ได้ ทุกสมาคมเลยนะ วันนี้สมาคมที่เกี่ยวข้องคนที่มีรายได้น้อยมีปัญหาหมด วันนี้ผมสั่งตรงนี้แล้วกันว่า ทุกคนต้องทำหน้าที่ของท่าน สมาคมประมง สมาคมสินค้าการส่งออก สมาคมอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว เหล่านี้ไม่ใช่เป็นตัวแทนเพื่อมาสู้รัฐอย่างเดียว ท่านต้องจัดระเบียบของท่านให้ได้ สมาคมสื่อด้วย ไม่อย่างนั้นผมก็ต้องไปบังคับใช้กฎหมายโดยตรงกับเขา มันก็เดือดร้อนอีก ท่านต้องดูแลเขาให้ได้ ถ้ามีปัญหาอะไรมาบอก เราจะได้แก้ให้ เป็นเรื่องๆ ราวๆ ไม่ใช่เหมา ทุกคนเอาประโยชน์ แต่พอให้รับผิดชอบไม่รับซักอัน ไม่ได้ วันนี้ไม่ได้ วันหน้าท่านก็ไปเรียกประชาธิปไตยรัฐบาลของท่านก็แล้วกัน
เพราะฉะนั้นอย่าให้มันวุ่นวายไปกว่านี้ ประมงผมเป็นห่วง เดี๋ยวจะดูแลกันต่อไป ว่าจะทำอย่างไรกันดี เพราะฉะนั้นวันนี้ผมขออนุญาตสั่งไปก่อน สมาคมประมงฯ ช่วยผมบ้าง ไม่งั้นเดี๋ยวก็ต้องว่ากันใหม่ สมาคม ต้องรื้อกันใหม่ทั้งหมด มีปัญหาหมด เพราะฉะนั้นอย่าไปสร้างความขัดแย้งอีก ให้สังคมสงบลงไปบ้าง
เรื่องอาหารทะเล วันนี้บริโภคไม่ได้ เดี๋ยวหาอาหารอื่นแทนไปก่อน แพงก็อย่าไปทาน ให้คนรวย คนมีสตางค์เขาทานไปสิ ไม่ใช่ว่า ต้องเท่าเทียมสิ ผมทำให้ไม่ได้ ถ้าอยากจะทานของแพง ท่านก็ต้องทำงานหนัก หาเงินให้มาก รัฐบาลก็ช่วยในส่วนที่ช่วยได้ มีตลาดสำหรับผู้มีรายได้น้อย ก็ทำให้ทั้งหมด ตอนนี้ก็ทำไปแล้วไง จะดึงมาเท่ากันหมด ไม่ได้หรอกครับ เพราะมันมีหลายระดับด้วยกัน เราจะแก้ได้ด้วยความสงบ มีเสถียรภาพ สร้างให้เข้มแข็ง มีรายได้มาเข้าประเทศ มันก็เฉลี่ยแบ่งปันกันได้ทุกคน นี่เขาเรียกว่าความเท่าเทียมด้วยความพอเพียง
ข้อสำคัญวันนี้อย่าเอาข้อบกพร่องเราไปประจานให้โลกรู้ด้วยการประท้วง ด้วยการต่อต้านผมเลย ไม่เกิดประโยชน์หรอกนะ มันไม่เข้าใจกัน สื่อและโซเชียลนะครับ ผมเป็นห่วงกังวลเด็กรุ่นหลัง อย่าไปเติมเชื้อไฟกันให้มากนัก เดี๋ยววันหน้าก็แข็งกระด้างกันไปหมด ไม่เคารพผู้ใหญ่บ้าง ไม่เคารพกติกาสังคม ไม่เคารพกฎหมาย อ้างประชาธิปไตย อ้างเสรีภาพ ไม่รู้จักคำว่าหน้าที่ เสร็จแล้วประเทศชาติล้มเหลว อยู่ไม่ได้ทั้งหมดล่ะ ทุกคนนั่นล่ะที่ว่าเก่งๆ น่ะ ผมก็อยู่ไม่ได้ ใครก็อยู่ไม่ได้ ที่มาขัดแย้งกันในวันนี้ ต้องยอมรับในความผิดพลาด ต้องยอมรับในสิ่งที่เรากำลังเป็นปัญหาในเวลานี้ อย่าเขียนไปเรื่อยเปื่อยตามที่อยากจะคิดอยากจะเขียนโดยไม่คำนึงถึงความเสีย ของประเทศ ฝากสื่อต่างๆ ช่วยกันดูแลนะครับ สมาคมสื่อต่างๆ ผมไม่เคยอยากไปทำอะไรกับท่านอยู่แล้ว ท่านก็ต้องเห็นใจผมบ้าง วันนี้มันไม่ใช่สถานการณ์ปกตินะ
ต่อไปก็เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของข้อเสนอแนะต่างๆ คำวิพากษ์วิจารณ์ ผมรับทั้งหมดนะ แต่อย่าติเรือทั้งโกลน ติโขนทั้งยังไม่ได้ทรงเครื่อง บางเรื่องยังไม่ได้ทำเลย บางเรื่องทำไปแล้ว บางเรื่องอยู่ในแผน 2 แผน 3 ท่านไม่เคยฟังผมเลย ท่านก็เขียนของท่านไปเรื่อย แล้วแต่ว่าจะนึกถึงเรื่องอะไรได้ วันนี้ วันโน้น แล้วท่านก็ไปฟังแหล่งข่าวนี้ แหล่งข่าวโน้น คราวหลังมาบอกแหล่งข่าวมาจากไหน ใครบอก มันจริงหรือเปล่า ตัวเลขมีมั้ย เชิงวิทยาศาสตร์มีมั้ง การประเมินต่างๆ ออกมามีหรือเปล่า หรือคิดเอาเอง หรือนับจากว่ามีเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ วันนี้ไม่มีเงินแสดงว่าเศรษฐกิจมันตก ผมว่ามันไม่ใช่นะ มันพันกันทั้งระบบ ต้องคิดแบบภาพโดยรวม มหภาคด้วย ว่ามันยังไง เพราะอะไร แล้วมันจะเสริมยังไง รัฐบาลทำถูกหรือเปล่า แต่ถ้าจะบอกให้เอาเงินมาช่วย มาจ่ายทั้งหมด เอาเงินที่ไหนล่ะครับ ผมบอกแล้วยังไม่มีเงินเข้าสักบาทเลยเพิ่มจากเดิม มีแต่ว่าจะต้องชำระหนี้ มีต้องใช้โน่นใช้นี่เพิ่มเติมไปเรื่อย เสียหาย
ในเรื่องของการปฏิบัติงานของข้าราชการ ขออีกทีนะ ช่วยไปดูหน่อย ทุกกระทรวง งบประมาณไตรมาส 1, 2 ครึ่งปีแรก ออกไปแล้วนะ งบประมาณออกไปแล้ว แต่การใช้จ่ายยังขยับได้ ... หมายถึงการเบิกงบประมาณ ค่อนข้างที่จะมีปัญหาอยู่นะ ผมไม่ทราบมันไปติดขัดตรงไหน ไม่งั้นเราก็เป็นกังวล เพราะว่างบของราชการเป็นงบส่วนหนึ่งที่จะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผมบอกไว้แล้วว่าภายในกรกฎาคมนี้ ถ้าใช้ไม่ได้ก็เอากลับมาหมด เอาไปใช้อย่างอื่นที่มันเป็นความเดือดร้อน งบทุกกระทรวงนะ เพราะสั่งแล้ว หลายครั้งแล้ว ไปหาทาง ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้ ผมก็ไม่ผ่อนผันให้เหมือนกัน เดี๋ยวจะให้เอากลับมาให้หมด ไม่อยากใช้อำนาจ แต่ก็ต้องใช้ เพราะว่าผมก็ไม่มีสตางค์เหมือนกัน ถ้าให้ไปใช้ แล้วใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ถูก ก็ต้องเอามาใช้ใหม่ เพราะฉะนั้นอย่าไปปลุกระดมกันอีกต่อไปนะครับ ข้าราชการก็ต้องร่วมมือ มีเวลานี้เท่านั้นนะที่ประเทศชาติจะเดินหน้าไปให้ได้
เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องการปฏิรูป วันนี้ก็อยู่ในช่วงสุดท้ายแล้ว ก็ค่อนข้างที่จะต้องหาข้อสรุปกันให้ได้ เพราะมันมีระยะเวลาของมันอยู่ นี่ล่ะคือที่ผมบอกว่าเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็ต้องทำใหม่ รัฐธรรมนูญเขาเขียนไว้อย่างนั้น ไม่ใช่ว่าผมต้องมารับผิดชอบสั่งให้ออกให้ได้ ยอมรับหรือไม่ยอมรับ ต้องรับผิดชอบในความสำเร็จ ล้มเหลว เพราะผมตั้งขึ้นมา เอ๊ะอย่างนี้มันใช่มั้ยครับ เวลามันสำเร็จ เวลามันดี ก็ไม่เห็นผมจะต้องไปรับคำชมเชยอะไร ไม่ต้องการอยู่แล้ว แต่เวลามันผิด ผมคนเดียวเลย ไม่เป็นไรหรอกครับผมรับผิดชอบอยู่แล้ว ทุกเรื่อง แต่ทุกคนต้องช่วยผมรับผิดชอบด้วยสิ ผมรู้ว่าท่านทำงานเหน็ดเหนื่อยนะ สปช. สนช. ทุกคนตั้งใจหมดล่ะ แต่ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วไง ลดอัตตาตัวเองลงไปหน่อย เอาปัญหามาจัดซิ ประเทศชาติต้องแก้อะไรบ้าง ท่านเอาความคิดของท่านมา ระดมกันออกมา แล้วหาข้อสรุปให้ได้ ช่วงนี้เราจะทำอย่างนี้ แล้วที่ทุกคนต้องการจะไปทำช่วง 2 ช่วง 3 ท่านบอกว่าจะเอาทุกอย่างให้ตามคนนี้ ตามกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ มันทำได้มั้ยเล่า มันก็เริ่มไม่ได้ตั้งแต่ 1 แล้วมันจะไปยังไงล่ะ ก็ต้องทำงานแบบนี้ ก็ขอบคุณนะครับในความตั้งใจ ขอบคุณในความเสียสละของท่าน เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ กมธ.ด้วย ก็เพียงแต่ขอว่าอย่าให้ประชาชนต้องมาขัดแย้งกันเพราะงานที่เราทำกันอยู่เลย เดี๋ยวประชาชนก็มาถือข้างนี้ข้างโน้น เอาประชาชนมาเป็นตัวประกันกันอีก ไม่เอา ทุกอย่างเราต้องเป็นคนกำหนด ออกมาให้ประชาชนเขารับรู้รับทราบ เขาพอใจ ประชามติผ่านก็จบแล้ว ไม่ใช่มาสู้กันตั้งแต่ตอนนี้ มันคนละขั้นตอน ตอนนี้หลายจังหวัดผมไม่สบายใจนะ เปิดเวทีกันขึ้นมา แล้วก็บังคับกันว่าต้องผ่าน ไม่ผ่าน มันไม่ใช่ ไอ้คนที่ผ่าน ไม่ใช่ผ่านเพราะยอมรับในรัฐธรรมนูญทั้งหมด ผ่านเพราะมีคำว่า ทำให้พลเมืองเป็นใหญ่ ให้พลเมืองมีอำนาจในการบริหาร อย่างนี้ไม่ใช่ อำนาจเขามอบให้แก่รัฐบาล ผ่านอำนาจตามกระบวนการประชาธิปไตย ถ้าไปบอกงั้นทุกพื้นที่ก็ทำอะไรไม่ได้หมด กระจายอำนาจหมด ใครจะมาบังคับบัญชาใคร ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่มี มันก็ไร้กฎหมาย เป็นเมืองเถื่อน ต้องมีกฎ กติกา เตรียมความพร้อมเสียก่อนจะไปเป็นประชาธิปไตยที่สากล เป็นแบบยุโรป พร้อมหรือยัง ถามตัวท่านเองพร้อมไหม วันนี้บางคนยังไม่เข้าใจเลยว่า ประชาธิปไตยจริงๆมันคืออะไร พูดอะไรออกไปทียังสงสัย เอาแค่ง่ายๆ เอาเรื่องชีวิตประจำวัน การศึกษา เราพร้อมกันทุกคนไหม ผมไม่ได้ดูถูกใครเลยนะ ผมไม่ดูถูกใคร แต่ผมอยากให้ทุกคนทบทวนดูว่า ไอ้ทีเราคิดเราพูด ไม่ว่าจะเป็นดอกเตอร์ นักวิชาการ ปริญญาตรี ปริญญาโท ถามสิ คนไม่ได้เรียนหนังสือ อ่านหนังสือไม่ออก เขาคิดอย่างไร คิดเหมือนที่ท่านคิดไหม วันนี้ผมถึงบอกทุกคนที่ทำงาน ตอ้งคิดแบบเขาคิด แล้วแก้ให้เขา อธิบายให้เขา ไม่ได้ไปทำให้ข้างล่างเข้าใจตามของเรา เราไม่ใช่นักการเมือง วันนี้เราไม่ใช่ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ครม. คสช. หรือ สนช. ไม่ใช่นักการเมืองทั้งสิ้น ท่านเป็นคนที่ถูกตั้งขึ้นมา แล้วทรงโปรดเกล้าฯ ลงมา ตามที่ผมเสนอขึ้นไป เพื่อจะทำบ้านเมืองให้ปลอดภัย ท่านไม่ใช่นักการเมือง ก็ถือหางข้างใครก็ไม่ได้ ท่านต้องทำให้ทุกอย่างเกิดความเป็นธรรม เกิดความเชื่อมั่น วันนี้มันขาดเรื่องวิกฤตศรัทธา มันขาดในเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ความหวาดระแวงระหว่างกัน ระหว่างชนชั้นบ้าง ระหว่างกลุ่มอาชีพ รายได้ต่างๆ มันถูกสร้างมาตลอด 10 กว่าปี 20 ปีมาแล้ว เรื่องเหล่านี้ไม่เคยแก้ได้ เพราะเป็นเรื่องของการเมืองทั้งสิ้น และประชาธิปไตยที่ท่านบอก วันนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในวันหน้า เราต้องเปลี่ยนวิกฤตอันนี้ให้เป็นโอกาส เวลามีเท่านี้มันต้องสร้างความรัก ความสามัคคี เผื่อแผ่แบ่งปัน เราเหมือนคนป่วย ถ้าเราทำอะไรเร็วๆ มันก็เหมือนป่วยให้น้ำเกลือออกมาใหม่ก็ป่วยแบบเดิม ไม่ได้หาปัญหาว่าเชื้อโรค โรคอะไร โรคระบาดหรือเปล่า โรครุนแรงหรือไม่ ต้องแยก ถ้าปฐมพยาบาลหายก็ไปได้ บ้านเรามันปฐมพยายามได้ที่ไหน วันนี้ป่วยเยอะนะ ทุกคนคงทราบ ป่วยทุกมิติ วันนี้ต้องหายาให้เหมาะใส่เข้าไปก็ต้องร่วมมือกันคิดยา คิดวิธีปก้ไขป้องกันโรคระบาด วันนี้อย่าให้มันระบาด โรคประชาธิปไตยไทยลำบาก ทำให้วุ่นวายไปหมด วันนี้ผมพยายามเต็มที่ในฐานะหัวหน้า คสช. รัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาการบริหารราชการในเวลาวิกฤตขณะนี้ขอให้ความร่วมมือกับเรา บ้าง
ในเรื่องของความใจบุญของคนไทยไม่ต้องกังวล มีเรื่องมีราวที่ไหนในโลกคนไทยช่วยเหลือกันหมด เนปาลเราก็ช่วย ญี่ปุ่นก็ช่วย ประเทศหมู่เกาะเกิดปัญหาที่ไหนเราก็ช่วยหมด แล้วทำไมเราไม่ช่วยคนไทยด้วยกันเอง ช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคี ร่วมมือแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง โดยนึกถึงประโยชน์ของชาติเป็นใหญ่ เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ถ้าเราใช้เหตุใช้ผลในการทำงาน สร้างความเข้าใจในการพูดจากัน ผมว่าประเทศชาติมันไปได้หมด รัฐบาลนี้เป็นหน้าที่ที่จะต้องดูแลคนไทยทุกคนให้เท่าเทียม อยากให้เราสามัคคีกันสักที พอได้แล้ว เอาประเทศเราเป็นหลัก ใช้เหตุใช้ผลกัน มีสติปัญญาในการคิด ในการใคร่ครวญ ระวังการรับรู้ทางโซเชียลมีเดีย ถ้าใครมีฐานะทางสังคมที่ดี ฐานะทางการเงินดี ก็ช่วยสังคมให้มากๆหน่อย มีน้อยช่วยน้อย มีมากช่วยมาก เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองก่อนด้วย แล้วรัฐถึงจะช่วยไหว ถ้าให้รัฐช่วยตั้งแต่ต้นมันไปไม่ได้หรอก ช่วยแล้วก็ต้องดูแลจนกว่าจะแข็งแรง ไม่ใช่เด็กอ่อนกันแล้วนี่ ทุกคนก็โตกันมาพอสมควรแล้ว แต่มันไม่มีการสร้างความเข้มแข็ง ก็ต้องเติมในส่วนที่ไม่เข้มเเข็ง ดูแลตั้งแต่ต้นจนจบจนตาย เกิดจนตาย ผมว่ามันไม่ใช่ ไม่มีประเทศไทยเขาทำกันอยู่แล้ว
ขอชมเชย หลายอย่างที่สำเร็จได้ด้วยดี ไม่มีความขัดแย้ง มาช่วยแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หนังสือพิมพ์หลายเล่ม ผมชมเดลินิวส์ก่อน มีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะร่วมกับโครงการที่รัฐบาลทำอยู่ สามารถที่จะทำลดราคาอะไรต่างๆ มีเครือข่ายอะไรมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการไปเยือน จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ก็มีเครือข่ายเกษตรกรรายย่อย ผู้ผลิตอาหารอินทรีย์ รวมตัวกัน 2,000 คน ให้ทุกคนมาสนใจ รักษาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผัก ผลไม้ต่างๆ เป็นสิ่งที่ดี หลายโครงการดี เรื่องปุ๋ย เรื่องข้าว เรื่องการเพิ่มรายได้ เรื่องการลดพืชใช้น้ำ เรื่องปรับเปลี่ยน เขาก็ช่วยตัวเองมา คนเหล่านี้รัฐก็จะต้องเอาเข้ามาเสริม มาทำ โครงการผูกปิ่นโตข้าว เชื่อคนกรุงกับชาวนาเกษตร มันขาดหายไปหมดเลย ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความนึกถึงกัน เพราะทุกคนฝากความหวังไว้กับการเมือง ฝากไว้กับรัฐบาล โดยที่กลไกต่างๆ ข้างล่างไม่ช่วยกัน ต่างคนต่างทำยอ่างเดียว คือมุ่งหวังผลกำไร มาเผื่อแผ่แบ่งปันในองค์ของท่าน ไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นเรื่องของการค้าเสรีอยู่แล้ว แต่วันนี้ทั้งหมดต้องกลับมาช่วยดูสิ่งทีเราลืมไป คือคนที่รายได้น้อย เขาเป็นส่วนหนึ่ง เป็นห่วงโซ่หนึ่งของท่านด้วย ท่านต้องมาช่วยผม ทุกสมาคม ถ้าเรียกร้องอย่างเดียวผมก็ให้ไม่ได้ อย่างมากก็ให้ได้แค่สิทธิประโยชน์ซึ่งมันไม่ได้ เพราะสิทธิประโยชน์ให้ไปท่านก็ทำไม่ได้อยู่ดี เพราะมันไม่มีฐานการผลิต ไม่มีฐานเกษตรกรที่มันเข้มแข็ง ประชาชนต้องช่วยกัน ปรับเปลี่ยนพื้นที ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ก็ขอให้ช่วยกันรณรงค์บริโภคข้าวกล้องด้วย พืชอินทรีย์ ต่อไปในโลกต้องแข่งขันผลิตข้าวที่มีคุณภาพ ทุกประเทศในโลกปลูกข้าวได้หมดแล้ว มันขึ้นอยู่กับว่าต่อไปราคาข้าวมันจะดีเฉพาะข้าวที่มีคุณภาพ ข้าวหอมมะลิเกรดสูง ข้าวพรีเมียม ข้าวราคาต่ำๆก็จะลดลงไปเรื่อยๆ มันแข่งขันกันตรงนั้น ฉะนั้นพี่น้องเกษตรกรก็ไปดูด้วยแล้วกัน ว่าควรเหมาะสมไปในการปลูกอย่างไร มีน้ำเยอะจะปลูกยังไง ดินดีปลูกอะไร ไม่ใช่ปลูกเอาแต่ปริมาณอย่างเดียว ก็ไม่ได้อีก ต้องใช้พื้นที่ให้น้อยลง ใช้น้ำให้น้อยลง แล้วมีประโยชน์กลับมาให้มากที่สุดนะ ชาวไร่ชาวนาอยู่อย่างมีความสุข ไปปรับกัน กระทรวงเกษตรรับไปแล้ว กระทรวงมหาดไทย หลายกระทรวงรับไปแล้วนะครับ
สัปดาห์ที่แล้วนี่เรื่องการจัด ไม้ดอกไม้ประดับ และปลาสวยงาม ที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมเสร็จไปแล้วนะครับรายได้ เกือบ 24 ล้านบาท ก็ขอบคุณทุกคนนะครับ ถือว่าเป็นความสำเร็จความริเริ่มก็ได้มีการขยายไปสู่ทุกมุมเมืองด้วยนะครับ ในอนาคต ในทุกจังหวัดด้วย ภาคเอกชนทำกันเองก็ได้ รวมกลุ่มเกษตรกรมาแล้วก็ไปเปิดตลาดขาย ขอผู้ว่าเขา ขออะไรเขา ท่านต้องเริ่มเองบ้างอย่าให้ต้องไปสั่งทุกเรื่อง ๆ ผมก็สั่งจนเหนื่อยแล้วนะ เพราะงั้นมันควรจะเกิดขึ้นมาตั้งนาน ทำตัวอย่างออกมาตั้ง 4-5 ตลาด ทำกันเองบ้างซิครับ สมาคมพ่อค้า อุตสาหกรรมหอการค้า จังหวัด ทำกันเองบ้าง นะ อบท. ท่านก็บอกท่านต้องการอำนาจ ท่านต้องการอะไรต่างๆ ท่านก็แสดงให้เขาเห็นว่าเอาล่ะ ท่านพร้อมจะได้อำนาจมากขึ้น มีงบประมาณมากขึ้น ท่านก็แสดงให้เห็นก่อน ว่าท่านรวมกลุ่มคนได้ไหม ไปรวมไปเชื่อมต่อ กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เอาสิ่งดี ๆ มาให้ปรากฏในพื้นที่ของท่าน คนก็รักท่าน รักกำนันผู้ใหญ่บ้าน รัก อบท. ท่านจะได้ไม่ต้องไปกลัวเรื่องเขาจะยุบ เขาจะปลดกันเมื่อไร ทำไมไม่คิดแบบผมคิดนี่เล่า เพราะฉะนั้นหลายอย่างดีขึ้นนะครับ ในเรื่องตลาดต่าง ๆ แต่ยังไม่เท่าที่ผมคาดหวังนะ จะได้ช่วยกันประชาสัมพันธ์สินค้าแล้วเอาสินค้าที่มาโดยตรงจากเกษตรกรขึ้น มานะครับ ให้สามารถที่ไปเป็นเถ้าแก่ใหม่อะไรบ้างในอนาคต Social Business นะ ธุรกิจเพื่อสังคม ผมให้เริ่มไปแล้วนะ เรื่องขายข้าว ซื้อผลิตผลการเกษตร ค่อยๆ ทำไป วันนี้ก็ต้องช่วยงานกันนะครับในส่วนของประชาชนที่มาร่วมงาน ขอบคุณนะครับที่ทุกคนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมาโดยตลอดนะครับ เดี๋ยวก็จะจัดงานอื่นๆไปอีก ก็ขอให้มา หลายๆ คนก็บอกว่าขอไปอยู่ตามมุมเมืองบ้าน เพราะเข้ามาไม่สะดวก รถติดอะไรอย่างนี้ ผมก็บอกมีเรือวิ่งให้แล้ว ตอนนี้ก็มีเรือวิ่งจากหัวลำโพงไปออกทางเจ้าพระยาแล้วก็ผ่านแถวนี้ด้วย มีท่า 7-8 ท่า ก็ให้ กทม. ทำต่อนะครับ เว้นแต่มันวิ่งไม่ได้ ต้องหยุด ก็ต้องหยุด น่ะ ช่วงไหนวิ่งได้ ก็ต้องวิ่งนะ เพราะว่าเป็นนโยบายนะ ให้การบริการประชาชน
ส่วนงานต่อไปที่จะจัดที่ทำเนียบ ข้างๆ ทำเนียบนี่คืองานมหกรรมสุขภาพ เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน ก็อยากให้เอาแผนไทยมาทั้งหมดนะครับ แพทย์ผสมผสาน จัดระหว่างวันที่ 7-26 เป็นการส่งเสริมสถานบริการสุขภาพของไทย เพราะเรามีโอกาสเยอะ ในเรื่องของแพทย์แผนไทยนี่ ในเรื่องของสมุนไพร เรื่องที่เราจะมาแปรรูปดีกว่าที่จะเอาสมุนไพรไทยนี่ขายเป็นวัตถุดิบไปข้าง นอกอย่างเดียว แล้วซื้อเขากลับมาแพง ๆ และข้อสำคัญคือให้ทุกคนเรียนรู้ว่า เราจะดูแลสุขภาพของเราอย่างไร ง่ายๆ วันนี้ที่เราสิ้นเปลืองในงบสาธารณสุข จำนวนมากนะครับมหาศาล แล้วเราก็ทำได้แค่นี้แหละ เพราะรายได้เรามีเท่านี้ เมื่อเรามีรายได้น้อยก็มีปัญหาเรื่องงบ รักษาพยาบาลฟรี ต้องไปหางบมา ก็ไม่พอ เมื่อไม่พอ ก็เกิดความขัดแย้ง ผมถามว่าสิ่งเหล่านี้มันเริมมาถูกไหมล่ะ ดีสำหรับประชาชนล่ะ แต่รัฐนี่แก้ไม่ได้หรอก ยังไงมันก็พันอยู่อย่างนี้ บางทีมากขึ้นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะทำยังไง รายได้ยังไม่มาเลยสักกะบาท เรียกร้องกันทุกอย่าง นั่นแหละคือสิ่งที่เป็นปัญหาที่สร้างกันมาแล้ว ผมต้องมาตามแก้อยู่นี่ ช่วยกันคิดด้วยนะครับ เรื่องสาธารณสุขเราจะเป็นยังไงกันต่อไป เรื่องการศึกษา ฟรี ไม่ฟรี อะไรอย่างนี้ผมแก้ไม่ได้หรอก ถ้าจะให้ยกเลิก แต่ทำยังไงจะเกิดความเป็นธรรม ทำยังไงจะมีความก้าวหน้าทำยังไงจะมีอนาคต ไม่ใช่มันพันหลังไปเรื่อยอย่างนี้ไม่ได้ ผมไม่เลิกอยู่แล้วแหละ
ในเรื่องของในพื้นที่ ขอฝากท่านผู้ว่าฯ กับหัวหน้าส่วนราชการของทุกกระทรวงที่อยู่กับจังหวัด ต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันนะครับ ไปช่วยกัน จัดงานก็ต้องให้ดูด้วยว่า มีคนขาย คนซื้อไหม ไม่ใช่จัดโชว์อย่างเดียว ผมเห็นหลายๆ ตลาดจัดตามกัน ในกรุงเทพฯ ก็มี ตลาดโอท็อป ผมให้มีแต่ร้านเปล่าๆ หรือมีก็มีคนนั่งอยู่คน คนดูก็ไม่สนใจ ท่านปรับเปลี่ยนสิครับ วันนี้ถ้าขายโอท็อปอย่างเดียวมันขายไม่ได้ วันนี้ขายข้าว ขายอาหาร พรุ่งนี้ขายโอท็อปให้มันเป็นอย่างนี้ ความคิดริเริ่มไม่มีกันเลยหรือไง ผมไม่เข้าใจ พอสั่งโอท็อปก็โอท็อป พอสั่งตลาดขายข้าวก็ขายข้าว ขายปลาก็ขายปลา ทำไมไม่คิดกันเองบ้าง ในห้วง 1 กรกฎาคมนี้ วันที่ 1 ประเทศไทยกับประเทศจีนได้ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 40 ปีแล้วนะครับ เมื่อวันก่อนผมได้ไปร่วมงาน และในวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันชาติสหรัฐฯ และสำหรับประเทศไทยกับสหรัฐฯ นั้น มีความสัมพันธ์ยาวนาน ขอแสดงความยินดีกับประชาชนทั้ง 3 ประเทศด้วย ทั้งจีน สหรัฐฯ ซึ่งคนละวาระกันนั่นแหละ ก็คนไทยทั้ง 2 ฝ่าย 2-3 ประเทศก็เดินทางหาสู่กันอยู่แล้ว มีความผูกพัน มีความร่วมมือร่วมใจกันในหลายๆ ระดับนะครับ ทั้งระดับสถาบัน ระดับรัฐบาล ระดับประชาชน การท่องเที่ยว การค้า วัฒนธรรมต่างๆ เยอะแยะไปหมด ยังมีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นต่อไป ไม่ใช่เพียงแค่ 100 ปี 40 ปีไม่ใช่ มันต้องเป็นพันๆ ปี ไปข้างหน้า เพราะย้อนหลังมาก็หลายร้อยปีอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ขอแสดงความชื่นชมนะครับ นักปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้มีการลงทะเบียนร่วมในกิจกรรม Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่ เกือบ 1.5 แสนคนแล้วนะครับ เมื่อวานก็ทราบว่า เว็บล่มไปแล้ว ก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้เร็วๆ อยากให้ทุกคนได้มาแสดงออกถึงความจงรักภักดี สร้างความรักความสามัคคีกับคนในชาติ มีกิจกรรมร่วมกัน มันเป็นการจุดประกายนะครับว่า เราต้องแก้ไขเรื่องสุขภาพของเราด้วยการเฝ้าระวัง ปลูกจิตสำนึกมากกว่าที่จะต้องเข้าไปรักษา ไปเยียวยา มันเสียเวลา เสียงบประมาณจำนวนมาก ถ้าเราแข็งแรงก็ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลมาก เสียค่ายาก็เล็กน้อย ขอเชิญชวนทุกท่านมาสมัครเพิ่มกันนะครับ ถ้ามันสมัครมีปัญหาก็มาเถอะครับ อย่างไรก็ต้องมา มาลงทะเบียนมาเยอะๆ ลงไม่ได้ก็มา คือถือว่ามาร่วมใจกันถวายสมเด็จแม่ของแผ่นดินนะครับ เราจะมาลงทะเบียนถึงวันที่ 9 สิงหาคม จะได้แสดงให้โลกเขาเห็นว่า เรารวมกันได้แล้ว ถ้าเรารวมกันได้มากๆ ขึ้น ไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งไม่มีข่าวเลวร้ายในประเทศออกไป มันก็ดีทั้งหมด แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองนะครับ ช่วยกันสร้างแผ่นดินธรรม แผ่นดินทองให้ได้ในเวลานี้ ผมคิดว่า นั่นคืออนาคตของคนไทยวันนี้ คนไทยในอนาคต และคนไทยที่กำลังจะเกิดมาในอนาคตด้วย ขอขอบคุณนะครับ สวัสดีนะครับ
Wednesday, June 17, 2015
อาร์เจนติน่าเอาตัวผู้พิพากษาที่ร่วมมือกับเผด็จการทหารเข้าคุก 16 ปี
อาร์เจนติน่าเอาตัวผู้พิพากษาที่ร่วมมือกับเผด็จการทหารเข้าคุก 16 ปี //
Saturday, June 13, 2015
First judge convicted for dictatorship era crimes
Manlio Martínez is sentenced to 16 years in Tucumán
http://www.buenosairesherald.com/article/191495/first-judge-convicted-for-dictatorship-era-crimes
Saturday, June 13, 2015
First judge convicted for dictatorship era crimes
Manlio Martínez is sentenced to 16 years in Tucumán
http://www.buenosairesherald.com/article/191495/first-judge-convicted-for-dictatorship-era-crimes
Tuesday, May 26, 2015
โปรดจำไว้ คสช. ไม่ได้มาด้วยการยินยอมของปวงชนชาวไทย!! พวกเขาเป็น โจรกบฏ
Sunday's anti-coup rallyAnti-coup protesters gather at Amarin Plaza near Bangkok's Ratchaprasong area on Sunday, May...
Posted by BangkokPost on Sunday, May 25, 2014
Monday, May 4, 2015
อลงกรณ์ พลบุตร: ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ"มหาปราชญ์" (จอม เพชรประดับ)
นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการสภาปฎิรูปแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับ ร่าง รัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการพิจารณาของ สภาปฎิรูปแห่งชาติ ไปแล้ว และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติจะมีการลงมติในวันท ี่ 6 สิงหาคมนี้ว่า ถือเป็๋นนวัติกรรมใหม่หลายเรื่อง ทั้งการกำหนดให้พลเมืองเป็นใหญ่ มีการตั้งสมัชชาพลเมืองขึ้น แม้จะถูกมองว่า มาจากกลุ่มประชาชนประชาชนไม่ครอบคลุม แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลังเลือกตั้งแล้วประชาชนไม่มีอำนาจที่จะต ่อรอง อะไรได้ ขณะเดียวกัน การลดบทบาท อำนาจของนักการเมือง ก็ต้องยอมรับว่า นักการเมืองที่ผ่านมามีการร่วมมือกับฝ่ายท ุน และราชการ เอารัดเอาเปรียบประชาชนมาโดยตลอด แม้ว่า ร่างรธน.จะทำให้ รัฐบาลอ่อนแอ แต่ก็ทำให้พลเมืองเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างขึ้นด้วยความลำเ อียงเพราะไม่ต้องการให้นักการเมือง หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามากำหนดกติกา ของประเทศ ดังนั้นจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และอาจจะทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ตนจึงเห็นด้วยที่จะให้ทำประชามติ และมี สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะเป็นสาเหตุให้เกิดการรัฐประหารอีกครั้งห รือไม่ ก็มีความเป็นไปได้ 50 ต่อ 50 แต่การรัฐประหารไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญเพ ียงสาเหตุเดียว เพราะแม้จะมีรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเช่น รัฐธรรมนูญปี 40 แต่สุดท้ายก็เกิดรัฐประหารได้อยู่ดี ขึ้นอยู่กับนักการเมืองต่างหาก ส่วนข้อวิจารณ์ว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที้่ร ่างขึ้นเพื่อกำจัดฝ่ายการเมืองอีกฝ่ายกลุ่ มหนึ่งหรือไม่ เรื่องนี้ก็ต้องวิเคราะห์กัน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็น่าวิตก แต่เชื่อมั่นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้เป็นร่างทรงขอ งใคร ไม่มีการสืบทอดอำนาจแน่นอน ส่วนตนจะยกมือให้ผ่านหรือไม่ ยังตอบไม่ได้แต่มีเงื่อนไขสามประการคือ ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การปฎิรูปประ เทศอย่างแท้จริง ไม่สืบทอดอำนาจ และยึดหลักการประชาธิปไตยมากที่สุด ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ ก็ขอให้วิจารณ์อย่างไม่มีอคติไม่ลำเอียง
Sunday, May 3, 2015
คำต่อคำ ผู้นำโจรกบฏ 1 พฤษภาคม 2558
คำต่อคำ : คืนความสุขให้คนในชาติ 1 พฤษภาคม 2558
สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ก่อนอื่นในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทยทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเพื่อนชาวเนปาล และผู้ได้รับการสูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา วันที่ 25 เมษายน 2558 เวลาประมาณ 13.11 น. ตามเวลาในประเทศไทย เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ของเนปาล ทำให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินประเมินค่ามิได้
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากแผ่นดินไหว โดยพระราชทานเงินจำนวน 10 ล้านบาท ในการช่วยเหลือดังกล่าวนั้น ในเบื้องต้นทางรัฐบาลก็ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่รัฐบาลเนปาลไปแล้ว ภายหลังจากทราบข่าว เราได้ช่วยครั้งแรกเป็นจำนวน 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6 ล้านบาท ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 หนังสือแสดงความเสียใจก็ทำไปแล้ว และขณะนี้กำลังรวบรวมความช่วยเหลือต่างๆ บางอย่างก็ส่งไปบ้างแล้ว กำลังรวบรวมที่ประชาชนคนไทยได้ร่วมมือกันเสียสละ เพื่อจะช่วยเหลือเนปาลในระยะต่อไป และเป็นสิ่งที่น่ายินดี เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานความช่วยเหลือดังกล่าวให้กับรัฐบาลมอบให้กับรัฐบาลเนปาล
ส่วนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณจากงบกลาง เป็นเงิน 100 ล้านบาท ไว้ก่อน ก้อนนี้เป็นสำหรับในเรื่องของการขนส่ง การจัดส่งหมอ อะไรต่างๆ ในระยะแรกไป ที่เราไปแล้ว 1 เที่ยว และกำลังจะไปด้วยสายการบินปกติ และจะไปด้วย ซี-130 ด้วย เตรียมของให้พร้อมมากขึ้น อาหารการกิน ที่หลับที่นอน น้ำ อาหารสำเร็จรูป เพราะปัญหามากขณะนี้ ทุกคนระดมกันเต็มที่
สำหรับการช่วยเหลือของเราอาจจะไม่มากนัก แต่ก็เป็นความจริงใจของรัฐบาลไทยและพี่น้องประชาชนคนไทย ที่ร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือกับประเทศเนปาล เพราะเราก็คือครอบครัวเดียวกัน บ้านเมืองก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก และหลายอย่างก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว และผมได้มีโอกาสพบกับท่านรัฐมนตรีเนปาลเมื่อการประชุมที่ผ่านมา ที่อินโดนีเซีย ก็ยังคุยกันอยู่เลยว่าเราจะมาร่วมมืออะไรกันให้มากขึ้นมั้ย อะไร ยังไง ก็กะว่าจะมาคุยกัน แต่เกิดเหตุร้ายขึ้นเสียก่อน ก็ไม่เป็นไร ผมได้บอกกับทูตเนปาลไว้แล้วว่า เราในฐานะเป็นอาเซียน ฐานะเป็นประเทศที่อยู่ทางด้านซีกนี้ด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนะครับ และเราเป็นพันธมิตรที่ดีกันมาโดยตลอด ในด้านอื่นๆ นั้น ผมจะเพิ่มเติมให้ไปเป็นระยะที่มันต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม อาหาร เต็นท์ที่พักอาศัย ยารักษาโรค อุปกรณ์ปฐมพยาบาล น้ำดื่ม อุปกรณ์ทางการแพทย์ พยาบาล ช่างเทคนิค เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ทีมพิสูจน์หลักฐาน ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทีมสุนัขค้นหาอีกด้วย จะได้ค้นหาผู้รอดชีวิต หรือพิสูจน์อะไรก็แล้วแต่ ก็เร่งดำเนินการเพราะเราเป็นแกนนำในการบรรเทาภัยพิบัติอยู่แล้ว เราได้มีการฝึกมาอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศก็ฝึกกับเรานะครับ
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา ก็ได้นำทีมแพทย์ของเราไปตั้งโรงพยาบาลสนาม และศูนย์ประสานงานทางด้านการแพทย์ รัฐบาลกำลังเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปเพิ่มเติมในการพิสูจน์เอกลักษณ์ การช่วยเหลือชาวเนปาลนั้น ส่วนหนึ่งและคนไทยที่อยู่ในเนปาลอีกส่วนหนึ่ง ตั้งแต่วันแรกจะตั้งศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือ สถานทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุในศูนย์นี้ช่วยเหลือคนไทยในเนปาล บูรณาการให้ที่พักอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ เพื่อจะบูรณาการให้ได้ ในขณะนี้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด จนกระทั่งสามารถเอาคนไทยกลับมาได้ส่วนหนึ่งแล้ว เหลือบางส่วนที่จะทยอยออกมา อันนี้เป็นสิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมการไว้พร้อม ขอชื่นชมด้วยกับกระทรวงอื่นๆ พอสั่งไปอนุมัติใน ครม.ทุกอย่างก็เดินหน้าได้เลย ผมก็ไม่อยู่ด้วยซ้ำไป ผมไปประชุมที่ต่างประเทศ ในวันนั้นโทรศัพท์คุยกันกับท่านรองนายกฯ หรือคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ทุกคนพร้อมหมด ผมก็อนุมัติในหลักการ จนสามารถดำเนินการได้โดยทันที
การบริจาคมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเราให้ไปแล้วใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นถ้าจะเพิ่มเติมขณะนี้มีของกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศทุกจังหวัด หน่วยทหารต่างๆ ก็ได้นะครับ ระบุให้ชัดเจน ลงนามหลักฐานให้ชัดเจน จะได้ไม่รั่วไหล อันที่ 2 คือบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ บัญชีหัวใจไทยส่งไปเนปาล รัฐบาลได้เปิดบัญชีไว้แล้วกับธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6
ทั้งนี้ ผู้บริจาคสามารถนำหนังสือการรับเงินบริจาคที่ออกให้ หรือใบโอนเงินสลิปของธนาคารที่บริจาคมาเป็นหลักฐาน ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ ในบัญชีนี้เท่านั้นที่จะลดให้ของรัฐบาลช่องทางนี้
นอกจากนั้น ทางเอกชน เช่น เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ให้ความร่วมมือรับบริจาคเงิน เพื่อส่งต่อไปทางรัฐบาล ล่าสุด ทราบว่ามียอดเงินบริจาคทั้ง 2 ช่องทาง วันที่ 18 เมษาฯ จำนวน 55,950,000 บาท ที่เหลือจะมีอีกมากมาย ยังไม่สามารถรวม อันนี้เฉพาะเท่าที่มีตัวเงิน ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ - เอกชน ที่ร่วมแสดงน้ำใจ คนไทยเราไม่เคยแพ้ชาติใดในโลก วันนี้เพื่อนเราลำบากมา เราต้องดูแลเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่จริงใจต่อกันอย่างแท้จริงนะครับ
สำหรับในเรื่องของการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธานการประชุม เป็นการประสานความร่วมมือกับประชาคมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความร่วมมือของอาเซียนในด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ให้เกิดขึ้นให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่านับวันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความสำคัญมากขึ้นบนเวทีโลก เสียงเราจะดังขึ้น ถ้าเรารวมกันได้ มันจะเสียงดังเพราะคนเยอะ ประมาณการค้าการลงทุนจะเยอะมาก เศรษฐกิจจะดีขึ้น วันนี้เราต้องเร่งทั้งการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน
ขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร เศรษฐกิจประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ยังอ่อนแออยู่พอสมควร ถึงแม้จะดีขึ้นก็อย่างช้าๆ เราต้องหันหน้ากระชับและสร้างความสำคัญให้กับการค้าระหว่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน มิตรประเทศใกล้ก่อน ต่างประเทศไกลๆ ก็คงทำต่อ จากตลาดบนที่มันอาจเกิดความต้องการเขาแล้ว เราต้องมาเจาะตลาดล่างหรือประเทศอื่นๆ ประเทศเล็กๆ อะไรต่างๆ ก็ต้องเจาะหมดเลย ความร่วมมือต่างๆ มีหมดทุกภูมิภาค ให้ทุกกระทรวงเดินหน้าไปแล้ว กระทรวงการต่างประเทศก็วันนี้ก็ต้องไปเป็นเชิงรุก ต้องรู้ทุกเรื่องเหมือนกัน ไปบอกเขาว่าเรามีอะไร เขามีอะไร จะเชื่อมกันตรงไหนได้ ถ้าเรารวมกันได้ในอาเซียน 625 ล้านนะครับ วันนี้ประเทศไทยส่งออกไปขายประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ในสัดส่วนร้อยละ 26 นะ ถือว่าเยอะนะ 26 ใน 9 ประเทศ เพราะฉะนั้นมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเราถ้าเราสามารถเพิ่มสัดส่วนการส่งออกระหว่างกันได้มากขึ้น ให้เขาด้วย ไม่งั้นมันเกิดการขาดดุลการค้าระหว่างกันมากมันก็ทำให้ประเทศที่จะต้องพัฒนามากต้องถอยหลังอีก
วันนี้เราบอกกติกาแล้วว่าเราต้องเดินไปพร้อมๆ กัน สนับสนุนเพื่อนให้แข็งแกร่งด้วยกัน ถ้าเราแข็งแกร่ง ทุกประเทศในอาเซียนเรา จะทำให้อาเซียนเข้มแข็งไปด้วย เราจะได้มีเสียงดัง เพราะฉะนั้นในสัปดาห์นี้ วันที่ 26 และ 28 เมษายนนี้ ผมได้ประชุมสุดยอดอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย เป็นการแสดงของคณะมีเป้าหมายเพื่อเชิดชูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทุกมิติ ภายใต้หัวข้อ ประชาชนของเรา ประชาคมของเรา วิสัยทัศน์ของเรา (คือของอาเซียน) หารือหลายเรื่อง เช่น การทบทวนพัฒนาการการสร้างประชาคมอาเซียน เร่งรัดการจัดตั้งให้ได้โดยเร็ว ภายในปี 58 นี้ และจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน หลังจากปี 58 ต่อไป เท่าที่เราเดินก็ 20 ปีแล้ว ก็ต้องวาง 10 ปี 20 ปีต่อไป หลังปี 58 และเรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลไกอาเซียน คณะทำงานต่างๆ ทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำต่อผู้นำ ผมได้มีการพบปะพูดคุยกับหลายท่าน ทุกประเทศก็พร้อมจะร่วมมือกับไทยทุกประเทศ ยืนยัน
ในเรื่องของการสร้างความใกล้ชิดระหว่างอาเซียนกับประชาชน อันนี้ก็มีความสำคัญ ให้ประชาชนได้รู้ว่าประโยชน์ของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน หรือการก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เป็นอย่างไร เขาจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ต้องให้เขารู้ เข้าใจ ทั้งธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ การค้า การลงทุน ความเป็นอยู่อะไรต่างๆ เขาจะดีขึ้นมาด้วยตรงนี้ ตัวเองก็ต้องพัฒนา รัฐก็ต้องอำนวยความสะดวก ในระยะแรก รัฐก็ต้องมากหน่อย วันหน้าเอกชนก็ร่วมมากๆ เข้า ทุกคนก็จะเร็วขึ้น
การประชุมครั้งนี้ได้พบปะ อย่างที่เรียนไปแล้ว ทั้งผู้นำประเทศสมาชิกทุกประเทศ ผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ผู้แทนภาคประชาสังคม และผู้แทนเยาวชนอาเซียน ได้มีการแลกเปลี่ยนแนวคิด มุมมองหลายเรื่อง ผมได้พูดถึงการสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งได้โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประชาชนเป็นศูนย์กลางก็คือ ให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด รัฐก็ต้องอำนวยความสะดวก หาวิถีทางต่างๆ ทำให้ได้ บางอย่างเราก็จำเป็นต้องให้เอกชนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด วันนี้เราก็ต้องแก้ไขเรื่องกฎกติกาที่ยังไม่ทันสมัย ไม่เป็นธรรม รวมความไปถึงเรื่องการให้ประชาคมอาเซียนทุกภาคส่วน รวมถึงผู้มีรายได้น้อยด้วย ผู้ด้อยโอกาส ผมได้เสนอไปในที่ประชุมด้วย เราต้องดูแลคนเหล่านี้ด้วย ให้ได้รับประโยชน์ อย่ามองเรื่องการค้าขายกลางหรือใหญ่อย่างเดียว เพราะมันอยู่ได้ด้วยประชาชนข้างล่าง ประเทศเราเป็นประเทศที่รายได้ไม่มากนัก กลุ่มอาเซียนด้วยกัน
การเป็นประชาคมอาเซียนนั้น เราได้หารือกันถึงแนวทางต่างๆ กับผู้แทนภาคธุรกิจด้วย แนวทางจะทำอย่างไรให้เรามีบทบาทสำคัญในเวทีโลกมากขึ้น รัฐบาลก็จะสนับสนุนให้ภาคประชาชนใช้ประโยชน์จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มที่ รัฐบาลไทยก็พร้อมจะอำนวยความสะดวก การค้าการลงทุน ดำเนินการไปหลายเรื่องแล้ว การเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน การปรับปรุงด่านศุลกากรต่างๆ ลดขั้นตอนพิธีการศุลกากร พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็เป็นระยะที่เราทำต่อเนื่องมา วันนี้ก็ต้องเร่งให้เร็ว เพราะสิ้นปีนี้ก็ต้องเริ่มแล้ว เรามีความพร้อมสัก 70 - 80 เปอร์เซ็นต์ แล้ว ตั้งแต่เราเข้ามา ก็เร่งเต็มที่เลย วันนี้ก็ต้องเพิ่มขีดความสามารถให้เร็วขึ้น เพื่อให้ทันกับการแข่งขัน จริงๆ แล้วผมไม่อยากใช้คำว่าแข่งขันอย่างเดียวนะ น่าจะเป็น Partnership คือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ร่วมกันดีกว่า ในอาเซียน ถ้าเราเอาประโยชน์มากๆ เขาก็อาจจะไม่ร่วมมือมากนัก ก็แข่งกันไป ราคาสินค้ามันก็ถูกลงไป ตัดราคากันเองไม่ได้ ผมคุยกับทุกประเทศไปแล้ว ก็เห็นด้วยกัน ว่าประเทศไหนถนัดทางไหน อะไรทางไหน ถ้ามันเหมือนกันก็จะปรับสัดส่วนกันได้มั้ย อย่าไปลดราคากันเลย อะไรที่จะร่วมทุนกันได้ก็ร่วมกันไป แบ่งปันผลประโยชน์
อีกอันหนึ่งก็คือว่า ผมเสนอว่าเราควรจะต้องพัฒนาตราสินค้าอาเซียน (ASEAN Brand) สำคัญนะครับ มันจะได้เป็นหน้าเป็นตา และทำให้เราถูกมองเห็นในสังคมโลก ที่ผ่านมาเขาหาว่าเราไม่พัฒนา ไม่เข้มแข็ง เทคโนโลยีไม่พอ อะไรต่างๆ ถ้าเราทำมาตรฐานนี้ได้ ในเรื่องของอาหารเป็นหลักเสียก่อน เราจะได้รับการยอมรับมากขึ้น วันนี้หลายอย่างเราจะส่งไปต่างประเทศก็มีปัญหาอีก นี่ผมกำลังเร่งรัดสมาคมต่างๆ ผู้ตรวจ ผู้รับรองต่างๆ ในเรื่องของการรับรองมาตรฐาน ต้องเร่งรัด วันนี้หลายประเทศสนใจผลไม้ ปรากฏว่าใบรับรองมาตรฐานยังไม่เรียบร้อย ผมขอเขาแทบตาย เร่งนะครับ ผมบอกทางโทรทัศน์นี่ล่ะ ทำให้เร็วนะครับ ผลไม้ หรือผลิตผลทางการเกษตรต่างๆ อะไรก็แล้วแต่ ที่เราขายเพิ่มได้ ทดแทนข้าวบ้าง ทดแทนยางบ้าง เขาพร้อมซื้อเรา แต่มาตรฐานเรารับรองยังไม่ได้ รีบไปทำนะ เร็วๆ ด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องส่งเสริมให้ได้ ให้อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของเรา ส่วนหนึ่ง คงไม่ใช่ทั้งหมด ทั้งประเทศไม่ได้ แต่เราจะต้องสร้างทายาท หรือสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ ที่เรียกว่า Smart Farmer ส่งเสริม สร้างนักธุรกิจรุ่นใหม่ด้วย ที่มีส่วนร่วมในการบริหารกิจการต่างๆ ของครอบครัว คนรุ่นต่อไป เพราะฉะนั้นผมคิดว่าต้องเจอกันตั้งแต่วันนี้ การพบปะของประชาชนคงไม่ใช่เฉพาะมาคุยกันทั่วไป ไม่ใช่ อาจจะจัดเป็นกลุ่มก็ได้ เป็นอาชีพก็ได้ หรือให้มันเป็นภาคก็ได้ ภาคธุรกิจ ภาคเกษตร เพื่อจะรู้จักในวันนี้ เถ้าแก่วันนี้ก็คือพ่อแม่ วันหน้าก็คือลูกหลาน โตมาก็ต้องเป็นเถ้าแก่ตามกันนั่นล่ะ เรียกว่าสร้างเถ้าแก่ใหม่ตั้งแต่วันนี้ แล้ววันหน้าจะได้รู้จักกัน จะได้ไม่แข่งขันกตัดราคากัน ถือว่าเป็นสมาชิกร่วมกัน ในครอบครัวเดียวกัน เพราะฉะนั้นจะทำให้เศรษฐกิจของภูมิภาคนี้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
ในส่วนของการเจริญเติบโตไปด้วยกันนั้น ผมได้หารือทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ เช่น ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ก็มีความเห็นตรงกันว่าเราจะต้องผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้เป็นรูปธรรมให้มากขึ้น ผมได้เรียนกับผู้นำว่า ผมจะสั่งของผม ท่านก็ไปสั่งของท่าน รัฐบาลก็ต้องไปอำนวยความสะดวก เอกชนก็ไปเดินหน้า ตกลงกันอย่างนี้ ของเราผมเร่งให้ทุกวัน บางอันเรายังไม่ค่อยพร้อมเท่าไร แต่ผมเร่งให้พร้อมด้วย เราต้องพร้อมด้วย และต่างชาติเขาต้องพร้อมด้วย มันจะได้เจอกันได้ และขายให้ได้กันซักทีพูดกันมานานแล้ว
ด้านการค้า การท่องเที่ยว การลงทุน การร่วมมือแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ได้เชิญชวนมา ต่างคนต่างชวนนะครับ มาร่วมลงทุนในแต่ละประเทศ โครงการพัฒนาต่างๆ เราไปเขา เขามาเรา คงสร้างพื้นฐานของประเทศ เราต้องบูรณาการการเชื่อมโยง โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ก่อนกลับมาเมืองไทยนั้น ผมได้ร่วมการประชุมระดับผู้นำนะครับ กรอบความร่วมมือการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย IMT - GT ครั้งที่ 9 ได้พูดคุยกันถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ 5 ปี 55 - 58 เช่น ในเรื่องของการเชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งระหว่าง 3 ประเทศ ทางบก ทางทะเล ทางอากาศ เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการค้าระหว่างกัน
2. คือ การพัฒนาพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 ประเทศ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน หรืออื่นๆ ด้วย และประสานความร่วมมือในเรื่องของการสร้างตลาดยางพาราร่วมกัน พัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมันให้ทัดเทียม และมีเรื่องรับเบอร์ซิตีด้วย ของเราก็สงขลา ของเขาก็ในฝั่งตรงข้ามเรานั่นแหละ
เพราะฉะนั้นความร่วมมือในด้านการตรวจรับรอง กำหนดมาตรฐานสินค้าฮาลาล อันนี้สำคัญสินค้าฮาลาลเรามีขีดความสามารถสูง แต่เราก็ไปร่วมมือกับประเทศที่เขามีเศรษฐกิจด้านนี้ที่เขาเข้มแข็งกว่าเรา ในลักษณะเป็นพันธมิตรแล้วกัน จะได้นำพาให้เศรษฐกิจประเทศไทยดีด้วย ทั้งคนไทย ทุกสิ่งก็ดีไปด้วยกันทั้งหมด
เพราะฉะนั้นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประชาคมโลก เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ตั้งแต่เราเข้ามา เราตระหนักดีว่า เราไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่เราพยายามแสดงจุดยืนให้สังคมโลกเขาเห็นว่า เราจะใช้สติปัญญาของเราในขณะนี้เข้ามาบริหารประเทศด้วยความจำเป็น และสร้างความสงบเรียบร้อย สร้างความมีเสถียรภาพให้ได้เสียก่อน จากนั้นเราจะเอาแนวทางการปฏิบัติงานที่เคยปฏิบัติกันมาแล้วมาปรับปรุง มาประยุกต์ มาปฏิรูปมาทำใหม่ บูรณาการประสานงาน มันจะได้เร็วขึ้นเป็นรูปธรรมเสียที เราตั้งใจทำนะครับ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ครบจบหมด แต่ผมถือว่า ผมได้เริ่มทุกอย่างให้แล้ว บางอย่างก็เร็ว บางอย่างก็ช้า บางอย่างก็อยู่ระหว่างตัดสินใจกันอยู่ ที่เข้ามานี่ก็ปัญหาเยอะ เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก โลกก็แย่ ในไทยก็แย่ และรายได้เราก็ตกลง ตกลง 2 อย่างหลักๆ ก็คือ เรื่องสินค้าการเกษตร ส่งไป ราคามันตก สองก็คือ น้ำมันลด ลดแล้วภาษีน้ำมันเราก็ได้น้อยลงไง คือที่หนักที่สุดก็คือน้ำมัน เพราะน้ำมันเรานำเข้า ส่งออก มันเยอะทั้งคู่ คำว่าส่งออกคือน้ำมันที่เราไม่ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งใช้ได้น้อย ที่เรากลั่น มันแยกไปหลายส่วนด้วยกัน อันไหนไม่ใช้ก็ส่งออก ที่ต้องใช้ในประเทศ ใช้หมด แล้วต้องซื้อมาเพิ่มอีก ฉะนั้นทั้งซื้อทั้งขาย มันเก็บภาษีไม่ได้ทั้งคู่ เพราะว่าราคามันลดลง ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วย
ในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ก็ยังมีเรื่องความมั่นคง การจัดระเบียบ ป่าไม้ อะไรต่างๆ มาตรฐานการบิน การค้ามนุษย์ การประมงผิดกฎหมาย การร่างรัฐธรรมนูญด้วย ทุกอย่างมันตีกันหมดตอนนี้ เพราะมันรื้อทั้งหมดไง ก็อย่าเอามาเป็นอารมณ์กันมากนักก็แล้วกัน สิ่งสำคัญวันนี้ผมอยากให้มองดูด้านเศรษฐกิจก่อนเป็นหลักนะ กับความมั่นคง อันนี้ต้องแก้ให้ได้ วันนี้ก็ได้มาเยอะพอสมควร แต่เศรษฐกิจ แน่นอนมันไม่เร็วนักหรอกครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับในประเทศ ต่างประเทศด้วย ภูมิภาคเราก็ด้วย ถ้าเข้มแข็งทั้งหมดมันแก้ได้หมดนะ ราคาน้ำมันก็สำคัญ ถ้าแพงไป สินค้าก็แพงขึ้น แต่มันก็เก็บเงินได้เยอะขึ้นนะ แต่ถ้ามันลดลง ประชาชนก็พอใจ แต่เศรษฐกิจมันตกลง ทำยังไง ก็กำลังหาทางอยู่ ไม่เคยหนีปัญหานะ รับฟังทุกที่ แล้วก็จัดการแก้ไข เร่งดำเนินการ ผมคิดว่าวิธีการแก้ปัญหาของเรานั้น มันคงไม่แตกต่างกับคนอื่นมากนักหรอกนะ เพียงแต่ว่าเราจะต้องทำให้มันเร็วขึ้น เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น สร้างโครงสร้างต่างๆ ให้มันแข็งแรง พัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ให้มันดีขึ้น ทันสมัยมากขึ้น สื่อสารอย่างต่อเนื่อง ลดความระแวง สงสัย การหวาดระแวงระหว่างกันของแต่ละประเทศให้มากที่สุด วันนี้ต่างไว้วางใจซึ่งกันและกัน และลดความหวาดระแวงของประชาชนของเรา กับรัฐบาลเราด้วย ขอให้มั่นใจว่าเราจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความจริงใจ โปร่งใส และเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ
ในเรื่องของการรับวัฒนธรรมอันดีของไทยนั้น ยินดี ดีใจ พี่น้องให้ความสำคัญ ประเพณีวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ก็ไม่อยากให้เป็นกระแส ต้องการเห็นการรักความเป็นไทยสืบเนื่องต่อไปอีกนานเท่านั้น และมีความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์เฉพาะของชาติเหล่านั้น อาจจะมีการประยุกต์บ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไทยแท้ ต้องอย่าทิ้ง พื้นฐานของเรา ไม่ใช่เปลี่ยนไปจนหมดเลย มันไม่ใช่อ่ะ มองยังไงมันก็ไม่ใช่ไทย มันไปคล้ายๆ ผสมผเสยังไงพิกล ระมัดระวังหน่อยแล้วกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยๆ ทบทวนกันนิดหนึ่งว่าอะไรที่มันประยุกต์ไปมากๆ มันก็ไม่ใช่นะ เดี๋ยวมันจะไปเหมือนๆ กับคนโน้นคนนี้ มันก็จะทำให้การท่องเที่ยว ความประทับใจ ความน่าสนใจของเรา มันหายไป ก็อยากให้ซึมซับ โดยเฉพาะเด็กๆ เยาวชน ให้เขาภูมิใจในความเป็นคนไทย อย่าไปเลียนแบบมากนัก ตามโซเชียลมีเดีย ตามการสื่อสารทันสมัย เทคโนโลยีที่เราควบคุมไม่ได้ เขาพร้อมที่จะทำให้เราดีก็ได้ ไม่ดีก็ได้ เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนของเรา ว่าจะใช้ยังไงให้เกิดประโยชน์ยังไง ไม่ให้เกิดผลเสียกับตัวเอง กับครอบครัว กับประเทศชาติอย่างไร ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ทั้งหมดนะ จะทำให้การบริโภค การมาพักผ่อนท่องเที่ยวในประเทศเรา มากขึ้น มันก็จะช่วยให้มีธุรกิจที่มันต่อเนื่องกันมากขึ้น การค้า การบริการ ที่พักแรม อาหารการกิน ก็ดีหมด ต้องช่วยกันนะครับ เป็นเจ้าบ้านที่ดีด้วย จะทำให้ทุกคนมีรายได้ในชุมชนต่างๆ และเผยแพร่สิ่งดีๆ ของเราไปทั่วโลกด้วย
ที่ผ่านมานั้น ผมคงไม่กล่าวว่าเป็นผลงานของรัฐบาลฝ่ายเดียว ทุกคนมีส่วนร่วม รัฐบาล ข้าราชการ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และประชาชน ทุกภาคส่วน ช่วยเรามาตลอดระยะเวลาของรัฐบาล 6 เดือนกว่าๆ แล้วก็รวมกับ คสช.มาเกือบปีแล้ว ทุกคนก็ช่วยกันเต็มที่ หยุด เลือดไม่ไหลอีก แล้วก็เติมน้ำเกลือ เติมอะไรกันอยู่ มันก็เริ่มแข็งแรงขึ้นมาเรื่อยๆ แต่จะให้ทันใจไปวิ่งเลยทันที มันไม่ได้ เพราะมันนอนซมมานานแล้ว เพราะฉะนั้นช่วยกันบอกต่อเรื่องดีๆ นะครับ ฟังบ้างว่ามีอะไรพัฒนาไปบ้าง อะไรที่เหมาะสม ถูกต้อง ท่านก็สนับสนุนเรา อะไรที่คิดว่ามันยังไม่ครบถ้วน ท่านก็เสนอมา บางอย่างมันต้องฟังเหตุฟังผลกัน ผมก็ไม่สามารถจะอธิบายทีละคนๆ ได้ ถ้าถามมาที่สำนักงานปลัดฯ ก็ถามมา มีปัญหาอะไรก็แจ้งมา ที่ศูนย์ดำรงธรรมก็เหมือนกัน ส่วนราชการทุกส่วนพร้อมตอบคำถามท่าน ไม่ได้ก็มาถามผมนี่ ตรงถึงผม วันนี้ก็รายงานทุกอาทิตย์ ทุกสัปดาห์
อีกอันหนึ่งโครงการดีๆ สัปดาห์นี้ ก็คือโครงการ ณ สยาม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นให้เด็กๆ เยาวชน ได้มีพื้นที่แสดงความคิดสร้างสรรค์ แสดงความรู้ความสามารถ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเล่นดนตรี ศิลปะ วัฒนธรรม ได้มีการเชิญศิลปินแห่งชาติมาบรรยายให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่สนใจ มีการจัดโครงการขึ้นที่ศูนย์การค้าสยามแสควร์ ในทุกวันอาทิตย์ ที่ 1 และที่ 3 ของเดือน และจะมีไปจนถึงเดือนมิถุนายน ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในสื่อออนไลน์ แล้วก็พาลูกหลานของท่านไปร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์กันเยอะๆ
ลำดับต่อไป ก่อนที่ผมจะได้เชิญ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาพูดคุยกันทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนนั้น ผมก็อยากจะให้ทุกคนร่วมแสดงความยินดีให้กับน้องรัชนก หรือน้องเมย์ ที่เป็นแชมป์แบดมินตันเอเชีย อันนี้ต้องให้กำลังใจ ผมก็บอก พูดคุยกับทั้งผู้สนับสนุนและรัฐมนตรีด้วย ว่า เรามักจะ พอเด็กเราได้รางวัล ได้อะไรขึ้นมา ทุกคนก็คาดหวัง ทุกคนก็กดดัน จนเด็กเขาเรียกอะไร ทีมชาติมันเยอะๆ มันทำให้การเล่นกีฬาก็ดร็อปลง เพราะฉะนั้นต้องให้กำลังใจเขา เล่นให้เต็มที่อย่ากังวล ชนะก็ได้ แพ้ก็ไม่เป็นไร ซ้อมใหม่ ถ้าไปกดดันมากๆ คนไม่อยากเข้ามา เข้ามาถูกกดดัน หลายอย่างที่เราเสียหายไปบ้างแล้วเหมือนกัน กีฬาอื่นๆ ก็มี พอชนะโอ๋กันไปโอ๋กันมา พอแพ้ทิ้งเลย อย่างนี้ไม่ได้ แต่แก้เขาด้วยทักษะการกีฬาไหม ต้องเอาโค้ชมาเพิ่มเติมไหม นี่ต้องทำให้หมด วันนี้ต้องมีนักกีฬา 2 ประเภท ประเภทหนึ่งคือ สมาคมไปคัดมา
อันที่ 2 ช้างเผือกไปส่งเขามาจากต่างจังหวัด มาแล้วแข่งข้างในกันอีกที มันถึงจะได้นักกีฬาตัวจริง ตัวสำรอง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวกลายเป็นเอาแต่พวกๆ อีก ผมสั่งรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬาไปแล้วนะครับ ในต่อไปนี้คงเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ เดี๋ยวท่านรองคงมีอะไรเล่าให้ฟังเยอะแยะไป ท่านก็ทำหลายอย่าง ทุกรองนายกฯ ท่านทำทุกฝ่าย 5 ฝ่ายด้วยกัน ช่วยผมมาทุกคนทุกท่าน ไปดูการขับเคลื่อนในรัฐมนตรีทุกกระทรวง และข้าราชการทุกกระทรวง แน่นอนมันยังไม่ 100% แน่นอนมันมีปัญหา แน่นอนต้องมีคนไม่เห็นด้วย แต่ให้ท่านดูความตั้งใจของผมแล้วกัน ตั้งใจของรัฐบาลเราว่า ตั้งใจแค่ไหน แล้วเราพูดมันเกี่ยวข้องกับคนใดบ้าง
เพราะฉะนั้นเกี่ยวข้องกับคนทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน ไม่ว่าจะรวยมากรวยน้อย มีส่วนร่วมทั้งสิ้นในตรงนี้ ที่จะขับเคลื่อนประเทศชาตินะครับ รวมไปถึงเอกชนที่อยู่ต่างประเทศ คนไทยต่างประเทศด้วย ผมไปต่างประเทศชื่นใจ ทุกคนมาทักทาย ทุกคนมาให้กำลังใจผมหมด ฝากประเทศไทยไว้กับผม ผมน้ำตาจะไหลเหมือนกันนะบางที กดดันผมเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร ผมจะทำให้ทุกคน ขอให้รักกันนะครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน รัฐบาลโดยฝ่ายต่างประเทศ และกิจการอื่นๆ โดยมีผมเป็นรัฐมนตรีว่าการ นะครับ และมีท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ดอน ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีช่วย และอีกตำแหน่งหนึ่งของท่านเป็นประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์ในเรื่องการต่อต้านการค้ามนุษย์ และประมงผิดกฎหมาย สำหรับด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ท่านรัฐมนตรีกอบกาญจน์ ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการนะครับ สำหรับด้านวัฒนธรรม มีท่านรัฐมนตรีวีระ เป็นรัฐมนตรีว่าการ
สำหรับในงานของกระทรวงต่างประเทศ แนวทางในการดำเนินงานของกระทรวงฯ เรายึดนโยบายรัฐบาล โดยถือหลักว่า การดำเนินการของเราจะต้องเป็นไปอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของประเทศไทย และประชาชนไทย เหตุผลของความสำเร็จ เรามาจาก 3 เหตุผล เหตุผลแรกคือ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ท่านให้นโยบายที่ชัดเจน และท่านให้การสนับสนุน รวมทั้งตัวท่านเองไปช่วยเราในการพบปะหารือ และร่วมแสดงกิจกรรมต่างๆ ในเวทีนานาชาติ ซึ่งเป็นที่ยอมรับ และสำหรับผมถือว่า ท่านโดดเด่น
สำหรับเรื่องที่ 2 ความเป็นหนึ่งเดียวของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคส่วน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ถือว่าทำงานให้ประเทศไทย
อันที่ 3 คือความมุ่งมั่น ความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ทำงานอย่างไม่เห็นกับเหน็ดเหนื่อย ไม่คำนึงถึงวันหยุด และเวลา เพราะฉะนั้นทุกคนทำงานอย่างต่อเนื่อง
สำหรับที่สำคัญในความคิดผม และงานของกระทรวงการต่างประเทศสำเร็จ อันนี้ได้มาจากพี่น้องประชาชน และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ร่วมปฏิบัติจนทำให้เราสามารถทำงานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ
สำหรับงานในหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ จริงๆ เราเกี่ยวพันกับทุกกระทรวง เราเป็นด่านหน้าจะต้องไปพบปะคุยแลกเปลี่ยน และสร้างความเข้าใจ ในจุดนี้ถ้าจะเรียนเพื่อทราบจริงๆ อาจจะใช้เวลามากนะครับ ซึ่งกระผมอาจจะขอสรุปสั้นๆ ในประเด็นที่น่าจะคิดว่า ทุกท่านน่าจะสนใจในขณะนี้
ประเด็นแรกเรื่อง การดำเนินการด้านการทูตเพื่อประชาชน การช่วยเหลือประชาชนในต่างแดนถือว่าเป็นความเร่งด่วนลำดับหนึ่ง ไม่ว่าคนไทยจะตกทุกข์ได้ยากอยู่ที่ไหน เราถือว่าทุกท่านเป็นคนไทย เราต้องช่วยเหลือให้ดีที่สุด ฉะนั้นเพื่อให้งานเราสะดวก ถ้าใครมีเบาะแสแจ้งมาที่เรา เรายินดีที่จะทำเลย ในที่ผ่านมายกตัวอย่างเช่น ลูกเรือประมงถูกจับที่อินโดเซีย โดนจับไปแล้วเกือบ 5 ปีนะครับ 5 คน สุดท้ายที่มีอยู่เราเอากลับมาได้อย่างเรียบร้อยปลอดภัย และรัฐบาลยังตามช่วยเหลือหาอาชีพจนกว่าเขาจะช่วยตัวเองได้ ลูกเรือที่ ต.เบนจินา ขณะนี้ปัจจุบันเราเอากลับมาได้ 200 กว่าคน และข่าวดีที่มีความคืบหน้ามากขึ้น เรามีความร่วมมือที่ดีกับอินโดนีเซีย
เพราะฉะนั้นคนที่เหลือเราจะดำเนินการเอากลับมา รวมทั้งเรือที่ยังอยู่ที่นั่นด้วย แต่ตรงนี้เราจะขออนุญาตดำเนินการในลักษณะที่ไม่ประชาสัมพันธ์นะครับ
สำหรับเรื่องการอพยพคนไทยในพื้นที่สู้รบในลิเบีย ในเยเมน เราดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว และอยากเรียนด้วยว่า เราร่วมมือกับเพื่อนเราในอาเซียน ของใครอยู่ตรงไหนช่วยกันเอากลับมา และมีการติดต่อกันถือว่าเป็นปึกแผ่น เราก็เอากลับมาได้ ทุกคน เว้นท่านที่ยังสมัครใจไม่ยอมกลับ เราก็พยายามชักชวนให้กลับ ในขณะนี้มีการติดต่อและพร้อมที่จะอพยพ ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่มันเลวร้ายไปกว่านี้
สำหรับเรื่องการช่วยเหลือภัยพิบัติแผ่นดินไหว ในขั้นต้นเราได้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อแก้ปัญหาไปจำนวน 6 ล้านบาท ในนามของรัฐบาล และเราได้ส่งชุดกู้ภัย ชุดแพทย์สนาม สิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นผ้า เต็นท์ อาหาร ยารักษาโรค และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สถานทูตที่กาฐมาณฑุได้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ต้นนะครับ โดยมีศูนย์ควบคุมบัญชาการอยู่ที่กรุงเทพฯ และการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยดี รวมทั้งเครื่องบินที่ไปส่งเจ้าหน้าที่ เราเอาคนไทยกลับมาด้วย รวมทั้งการบินไทยได้ไปลงรับคนไทยด้วย ตอนนี้เรารับคนไทยมาทั้งสิ้น 161 คนแล้ว ส่วนที่เหลือยังอยู่ในสถานทูตก็ดูแล มาพักพิงที่ในสถานทูต ส่วนใหญ่ที่ยังไม่กลับ เนื่องจากว่าเป็นทูต คนที่พักอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ว่าเรายังพยายามสืบหาอย่างต่อเนื่อง และกำลังจะส่งความช่วยเหลือไป ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ ซึ่งไม่อย่างนั้นจะเป็นการซ้ำซ้อน ซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
สำหรับการประชุมที่สำคัญ เช่น เอเชีย - แอฟริกา ซึ่งจริงๆ แล้ว เป็นการประชุมครบรอบ 60 ปี ถือว่ามีความสำคัญ ประเทศไทยเราไปร่วมประชุมตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งตรงนี้มีผู้เกี่ยวข้องถึง 115 ประเทศ รวมทั้งการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆ นี้ ตรงนี้ต้องชื่นชมท่านนายกฯ ว่าท่านแสดงบทบาทได้โดดเด่น และเป็นที่ยอมรับ หลายอย่างที่ท่านได้ให้ปาฐกถา ให้แนวคิดในการบรรยาย ขอเอาไปใช้ เช่น การให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง การดูแลเกษตรกร การไม่ให้มีความเหลื่อมล้ำ ขจัดความยากจน ซึ่งเป็นแนว เป็นนโยบายที่ประเทศไทย รัฐบาลไทยทำอยู่
สำหรับอีกเรื่องที่เป็นที่น่ายินดี ก็คือ มิตรประเทศและผู้นำ ทั้งในระดับผู้นำ ระดับรัฐมนตรี มาเยือนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อจากนี้ไปก็จะมีเป็นสเตป เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ถือว่า เป็นทางอ้อม คือเห็นว่าเรามั่นคง ผู้นำทุกคนท่านมา สิ่งหนึ่งที่เรายืนยันในเวทีโลกได้ก็คือการประชุมเรื่องการลดภัยพิบัติ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย กับผู้แทนของฟินแลนด์ ที่เจนีวา เราเป็นประธานร่วม เพื่อเตรียมการประชุมนี้มาปีกว่าแล้ว แล้วก็ไปจัดการประชุมที่ประเทศญี่ปุ่น ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ เป็นที่ยอมรับ และได้เชื่อถือ เพราะเลือกเราเป็นประธาน เราก็ได้รับคำชมเชยมา มีท่านนายกฯ มีท่านรัฐมนตรี มหาดไทย มีผมและผู้เกี่ยวข้องไปร่วม
และในการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ และทีมประเทศไทย เป็นไปหนึ่งเดียว ร้องเพลงเดียวกัน ปัจจุบันนี้กำลังดำเนินการอยู่ เชิญเอกอัครราชทูตทั่วโลก พร้อมกงสุลใหญ่ มาร่วมประชุม พร้อมหน่วยเกี่ยวข้อง จำนวน 150 ท่าน ซึ่งความรับผิดชอบที่เรามีความสัมพันธ์กับต่างประเทศ คือ 179 ประเทศ ตรงนี้เป็นประโยชน์ และท่านนายกฯ กรุณามาเปิดการประชุม มอบนโยบาย มีการแลกเปลี่ยน และในขณะเดียวกันมีท่านรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกท่านมาบรรยาย และนำสิ่งต่างๆ เพื่อเราจะเป็นทีมไทยแลนด์ที่ไปมุ่งสู่ต่างประเทศ รวมทั้งในอนาคต ซึ่งขณะนี้เริ่มทำแล้ว กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูตเรา ก็คือ One Stop Service ในต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้เราก็จะทำไปในทางเดียวกัน ก็ขอกราบเรียน รวมทั้งยืนยันด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะคนใน กต. และคนที่อยู่ภายใต้การกำกับของผม ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานทุ่มเทเพื่อประโยชน์ เพื่อสิ่งที่ดี และเพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติของเรา
ต่อไป ขออนุญาตเรื่องค้ามนุษย์และประมงผิดกฎหมาย ท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ดอน ท่านเพิ่งกลับจากสหรัฐอเมริกา ท่านเดินทางไปพบปะคนหลายคน แลกเปลี่ยนหารือ สร้างความเข้าใจ สร้างความมั่นใจ เพื่อให้ทุกท่านได้กรุณาทราบ ก็ขออนุญาตให้ท่านได้เล่าให้ฟัง เชิญครับ
ดอน ปรมัตถ์วินัย
สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้รับมอบหมายจากท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหนึ่งในภารกิจที่สำคัญ คือการชี้แจงปัญหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ในบ้านเรา ซึ่งโอกาสนั้นกลุ่มต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นทางภาคกระทรวงการต่างประเทศ ภาคสำนักงานสิทธิ หรือทางด้าน ส.ว. ส.ส. สหรัฐฯ รวมไปถึงภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ด้านนักวิชาการ และนักธุรกิจ ล้วนแล้วแต่ได้รับการชี้แจงในเรื่องที่เป็นพัฒนาการที่สำคัญในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเป็นที่ยิ่งเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหานี้ มีการปรับโครงสร้างโดยท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสนใจอย่างยิ่งยวดกับการแก้ปัญหานี้ โดยถือว่าเป็นปัญหาการค้าทาส ที่ควรจะได้รับการกำจัดออกไปจากสังคมไทย จึงได้ทำหน้าที่เป็นประธานของคณะอำนวยการนโยบายแห่งชาติ โดยตัวท่านเอง และมีรองนายกรัฐมนตรีอีก 5 ท่าน ทำหน้าที่สนับสนุนในคณะกรรมการดังกล่าว กับทั้งมีอีก 5 คณะกรรมการ 5 อนุกรรมการ ที่ท่านรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่เป็นประธาน
งานดังกล่าวนั้นได้รับความเอาใจใส่เป็นที่ยิ่ง จนกระทั่งถึงขั้นออกกฎหมายใหม่ และแก้ไขกฎหมายบางฉบับ เพื่อให้มีการดูแลเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างจริงจังกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา เช่น การออกกฎหมายประมง การแก้กฎหมายแรงงาน ที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ประมงและเกษตร การแก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดมาตรการใหม่ๆ ที่มีความหมายที่สะท้อนไปถึงความจริงจังของการปฏิบัติงานของภาคราชการของรัฐบาลนี้ เป็นต้นว่าการกำหนดโทษที่ชัดเจนรุนแรงมากขึ้น การควบคุมดูแลการเข้า - ออกของเรือประมง การดูแลสวัสดิการของชาวประมง สิ่งที่สำคัญที่สุดเรื่องการเอาใจใส่การดำเนินคดี การจับกุม และการป้องกัน ปกป้อง คุ้มครองเหยื่อ ล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ เมื่อได้รับการชี้แจงให้กับทางฝ่ายสหรัฐฯในทุกกลุ่ม ที่สนใจในเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่าได้รับการตอบรับพอสมควรในที่นี้หมายความว่าเขาไม่ติดใจกับเรื่องความพยายามความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหานี้ แต่สิ่งที่ยังอยู่ในข้อกังวลหลายๆ ฝ่าย ทั้งทางฝ่ายประชาสังคม คือ การดำเนินคดีกับคดีใหญ่ที่มีความสำคัญ เท่าที่ผ่านมายังมองเห็นว่าประเมินโดยทางฝ่ายสหรัฐฯ ว่าคดียังน้อยไปในแง่ของจำนวน
ขณะเดียวกัน ปลาใหญ่ๆ คือผู้บงการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายสำคัญ ไม่ได้รับการจับกุมและดำเนินคดีได้เพียงพอ และเป็นส่วนที่ฝากไว้ขอให้ประเทศไทยดำเนินการเรื่องนี้ให้ยิ่งยวดขึ้น ให้มีผลที่สามารถจะบอกต่อให้ทุกฝ่ายได้รับทราบถึงความตั้งใจจริง และการปฏิบัติที่บังเกิดผลได้อย่างจริงจัง เราได้เสริมให้ทางฝ่ายภาครัฐเข้าใจด้วย ว่าเป็นความตั้งใจอย่างยิ่งคนไทยที่ต้องการกำลังใจจากฝ่ายสหรัฐฯ ในการแก้ปัญหานี้ด้วยเช่นกัน และขอให้พิจารณาเรื่องความตั้งใจจริงเหล่านี้ในกรอบของการเป็นมิตรที่ดีที่มีมายาวนาน ประเทศไทยไม่ควรได้อยู่ในเทียร์ 3 ก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่ได้ส่งเป็นสัญญาณให้กับสหรัฐฯ ให้คำนึงถึงมิตรภาพกับประเทศไทยที่มีมายาวนาน สำหรับประชาชนชาวไทยหากร่วมมือกันได้ก็มีฮอตไลน์ 1300ที่สามารถติดต่อโทรได้ตลอดเวลา ที่จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ขอขอบคุณครับ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
สำหรับด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ถือว่าเรามีนโยบาย มีบทบาท มีแคมเปญใหม่ๆ ที่ทำให้ทุกคนเข้าใจและถือว่าเราก็เป็นจุดท่องเที่ยว ที่ทุกคนอยากมา และการท่องเที่ยวไม่ได้ลดลงเงินเพิ่มขึ้น รายละเอียดต่างๆ ก็ขออนุญาตให้ท่าน รัฐมนตรีกอบกาญจน์ชี้แจงนะครับ
กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร
ด้านการท่องเที่ยว เป็นการท่องเที่ยววิถีไทย จากการเปิดตัวปีท่องเที่ยววิถีไทยไปตั้งแต่เมื่อต้นปี 2558 นี้เพื่อชักจูงให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และมีระยะเวลาการพำนักในประเทศที่นานขึ้น จนถึงทุกวันนี้จะเห็นความสำเร็จได้จากการที่นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในเดือนพฤษภาคมก็จะเป็นเทศกาลไทยแลนด์มิวสิคเฟสติวัล ณ หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 22 - 23 พฤษภาคม 2558 โดยจะมีศิลปินเอกทางดนตรีที่มีชื่อเสียง ทั้งไทยและต่างประเทศหลากหลายแนวมาสร้างสีสันให้ชายหาดของไทย มีทั้งความสนุกสนานและความสวยงามยิ่งขึ้น และโครงการประชาสัมพันธ์เตือนภัยนักท่องเที่ยวจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเราตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการเตืนภัยและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น กระทรวงได้จัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2555 - 2558 เราจะได้ตระเวนจัดกิจกรรมรณรงค์ สร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ เพื่อแจ้งช่องทางการช่วยเหลือ ขณะที่พักผ่อนอยู่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่ 7 จังหวัด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความยอดนิยม ให้สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึงตามกำหนดการ ตามตารางที่ขึ้นอยู่ในจอ
สำหรับศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยวในปัจจุบันเรามีถึง 12 แห่งทั่วประเทศ คือ กรุงเทพมหานคร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา อุบลราชธานี เชียงราย กาญจนบุรี สุโขทัย และกระบี่ โดยจะมีเบอร์คอลเซ็นเตอร์ 02- 134-4077 และในปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนศูนย์ในแหล่งที่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น ที่ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา ตราดที่เกาะช้าง และแม่ฮ่องสอน การดำเนินโครงการนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้การท่องเที่ยวในประเทศไทย นักท่องเที่ยวทั้งด้านการป้องกันการเกิดเหตุ แก้ไข และการให้การช่วยเหลือ หากนักท่องเที่ยวประสบเหตุจากการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยมีความได้เปรียบในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังมีจุดอ่อน ในเรื่องของความปลอดภัย หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ย่อมมั่นใจได้ว่า จะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชีย และนำไปสู่เป้าหมาย รายได้การท่องเที่ยว 2.2 ล้านล้านบาท ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน
ส่วนทางด้านการกีฬา การส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ แต่ความคาดหวังของนักกีฬาไทย ในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 - 16 มิถุนายนนี้ ขณะนี้นักกีฬามีความพร้อมเกือบ 100% ทุกสมาคมกีฬาที่มีการแข่งขัน ได้เก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬาตามแผนงานที่ส่งมายังคณะกรรมการเตรียมนักกีฬา ซึ่งได้มีการติดตามการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด สภาพความคิดของนักกีฬาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เชื่อว่าเมื่อถึงช่วงการแข่งขันจริงทุกคนจะสมบูรณ์เต็มร้อย
นอกจากนี้ การได้รับเงินอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีวงเงิน 308 ล้านบาทว่า จะส่งผลดีต่อสภาพจิตใจของทัพนักกีฬาโดยภาพรวม ซึ่งเวลานี้กำลังเร่งให้ทุกสมาคมกีฬามาเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนที่ว่าไว้ เป้าหมายที่ทุกสมาคมกำหนดร่วมกันไว้ในกีฬาซีเกมส์ครั้ง 28 นี้ ได้แก่ 120 เหรียญทอง โดยเฉพาะการรักษาแชมป์ประเภทกีฬาสากลที่ไทยเคยครองแชมป์มาก่อน และสามารถสร้างความสุขให้กับคนทั้งชาติ คือ ฟุตบอล วอลเลย์บอล และแบดมินตัน เชื่อมั่นว่านักกีฬาไทยจะต้องได้เหรียญทองได้อีกสมัยแน่นอน และจะคว้าได้อย่างต่ำ 100 - 110 เหรียญทอง ส่วนคู่แข่งเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้ได้แก่ เวียดนาม และ อินโดนีเซีย
สำหรับผลงานของนักกีฬาไทยในกีฬาซีเกมส์ 2 ครั้งที่ผ่านมา กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย อันดับ 1 ได้แก่ อินโดนีเซีย 182 เหรียญทอง 151 เหรียญเงิน 143 เหรียญทองแดง อันดับ 2 ได้แก่ ประเทศไทย 109 เหรียญทอง 100 เหรียญเงิน และ 120 เหรียญทองแดง
กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 27 ที่ประเทศพม่า เราได้เป็นอันดับหนึ่ง 107 เหรียญทอง 94 เหรียญเงิน และ 81 เหรียญทองแดง
อีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญคือ การจัดทำเส้นทางจักรยาน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสนับสนุนการนำยางพารา มาเป็นวัสดุจัดทำเส้นทางจักรยาน โดยกำหนดเป็น 3 รูปแบบพื้นที่ คือ ในพื้นที่เขตเมือง หรือชุมชน ส่งเสริมการใช้จักรยานเป็นวิถีชีวิตของเด็ก เยาวชน และประชาชนจำนวน 30 แห่ง
ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริมการใช้จักรยาน เพื่อการออกกำลังกาย และการพักผ่อนหย่อนใจจำนวน 35 แห่ง และใช้พื้นที่แหล่งถนน ส่งเสริมการใช้จักรยาน เพื่อการฝึกซ้อมแข่งขันทำกิจกรรม เดินทางไกลเป็นหมู่คณะจำนวน 15 แห่ง รวมทั้งสิ้น 80 แห่ง
กีฬาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสามัคคีคนในชาติ และเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจจากสื่อมวลชน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเราทุกคนจะได้ร่วมกันลงมือทำในสิ่งที่ดี เพื่ออนาคตของประเทศ ร่วมกันพัฒนาเพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างามต่อไป
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
ทางด้านวัฒนธรรมไม่ใช่ทำเฉพาะวัฒนธรรมในประเทศ เราทำวัฒนธรรมในอาเซียน ในต่างประเทศ ฉะนั้นความสัมพันธ์ของผม 3 กระทรวง ต่างประเทศ ท่องเที่ยว และวัฒนธรรม เราทำด้วยกัน และมีความโดดเด่นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ หรือว่าหลายๆ เรื่อง เช่น เราได้วัตถุโบราณกลับมาจากสหรัฐฯ 500 กว่าชิ้น การเอาชุดวัฒนธรรมไปแสดงที่ประเทศจีน หรือประเทศอื่นๆ ที่จะแลกกัน หรือว่าในต่อไปเราจะไปที่ยุโรป ไปตามประเทศต่างๆ ซึ่งตรงนี้เป็นไปที่ยอมรับ และชื่นชม มีคนสนใจมาดูขออนุญาตให้ท่านรัฐมนตรีวีระเป็นผู้เรียนชี้แจงด้วยครับ
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมมีภารกิจ และมีกิจกรรมและโครงการ ขอรายงานว่า ในต้นเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมที่กรุงปักกิ่ง เป็นโขน การแสดงนาฏศิลป์ดนตรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนฯ ในโอกาสที่เจริญพระชนมายุครบ 5 ปี และในเมืองไทยเราก็มีกิจกรรม 2 กิจกรรม ที่สมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้เสด็จทรงเปิด คือ การจัดแสดงนิทรรศการผลงานของ ศ.ปรีชา เถาทอง เรื่องแสงสุวรรณภูมิสู่วัฒนธรรมอาเซียน ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยถนนราชดำเนิน และนิทรรศการนี้จะอยู่จนถึงเดือน 31 พฤษภาคมนี้
อีกที่หนึ่งเป็นนิทรรศการพิเศษ เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทยคือ นิทรรศการเรื่อง เทวสตรี : คติพุทธ พราหมณ์ และความเชื่อในประเทศไทย ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมจนถึงวันที่ 26 กรกฎาคมนี้
นอกจากนั้น ในเดือนเมษายนจะมีกิจกรรมในเรื่องของวันสงกรานต์ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมวันสงกรานต์ เป็นแบบสงกรานต์ดั่งเดิม เป็นสงกรานต์วิถีไทย สงกรานต์สืบสานประเพณีไทย สุขใจไทยทั่วหล้า กิจกรรมทำทั่วประเทศ 76 จังหวัด ในวัดสำคัญของแต่ละจังหวัด ในส่วนกลางเราจัดทั้งหมด 7 วัด และมีการจัดร่วมกับภาคเอกชนที่สยามพารากอนด้วยนะครับ และที่นี่เราได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปมงคลโบราณให้ประชาชนได้สักการบูชาด้วย ใกล้กันนี่มีที่วัดปทุมวนาราม และเป็นครั้งแรกที่กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญทูตานุทูตเข้าร่วมงานสงกรานต์ เพื่อให้เรียนรู้ประเพณีไทย และใกล้กันที่สยามแควร์ กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดกิจกรรมเช่นเดียวกัน เป็นการจัดสงกรานต์เมษา ผ้าขาวม้าครองโลก ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ในต่างจังหวัด นอกจากจัดทุกจังหวัดแล้ว เราได้จัดร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย เป็นเมืองหน้าด่าน 4 เมือง คือ เมืองแม่สอดกับพม่า เชียงของจัดร่วมกับลาว อรัญประเทศจัดร่วมกับกัมพูชา และภาคใต้ที่สะเดา จัดร่วมกับมาเลเซีย
233 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ ระหว่างวันที่ 17 - 21 เมษายน ก็อยากจะกราบเรียนว่า เมื่อ 233 ปี ในวันที่ 21 เมษายน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงฝังเสาหลักเมือง และสถาปนากรุงเทพฯ เป็นราชธานีของสยามประเทศ และ 233 ปีนี้ก็มีเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ได้ทรงทำนุบำรุงพัฒนาบ้านเมือง มีการพัฒนาศิลปวัฒนธรรมอย่างกว้างขวาง เราก็ได้ดำเนินการในเรื่องของการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ มีกิจกรรมที่ทำไป ก็คือ การจัดขบวนเหตุการณ์สำคัญ พระราชกรณียกิจสำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์แต่ละรัชกาล รวมทั้งหมด 9 ขบวนด้วยกัน
ณ เวทีกลางท้องสนามหลวง มีการจัดการแสดงต่างๆ ทุกคืน 5 คืน เช่น การแสดงโขน การแสดงดนตรีลีลาศสุนทราภรณ์ ดนตรีลูกทุ่ง ลิเก และการแสดงของศิลปินแห่งชาติ และศิลปินสาขาต่างๆ มีการแสดงรำวงย้อนยุค ภาพยนตร์ย้อนยุค มีนิทรรศการภาพถ่ายเก่าเล่าเรื่อง ซึ่งเป็นนิทรรศการที่ได้รับความสนใจมาก และมีการละเล่นและกีฬาแบบไทย ที่สำคัญคือ เราไม่ละเว้นงานวิชาการ มีการสัมมนาเรื่อง "อมตะนคร อมรรัตนโกสินทร์" และมีการแสดงสินค้า ผู้เข้าชมงานทั้งหมดประมาณ 450,000 คน และมีการจัดลำดับความสำเร็จของแต่ละกิจกรรมด้วย
สุดท้ายสำหรับวันนี้ก็จะเป็นเรื่องของการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ของกระทรวง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ขณะนี้เราได้นำระบบเทคโนโลยีมาสนับสนุนการนำชม ปรากฏว่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมถึง 4.2 ล้านคน คาดว่าทั้งปีจะมีผู้เข้าชมประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งจะเพิ่มจากปีที่ผ่านมาประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์
สุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง คือในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ทุกภูมิภาคของไทยจะมีจัดมหกรรมพื้นบ้านในแต่ละภูมิภาค มหกรรมพื้นบ้านก็จะประกอบด้วย ลิเก ลำตัด หมอลำ โนราห์ หนังตะลุง เพลงซอ และ งิ้ว นี่ก็จะเป็นกิจกรรมที่เราส่งเสริมให้ศิลปินพื้นบ้านได้มีเวทีการแสดง และส่งเสริมให้ประชาชนได้เรียนรู้งานศิลปวัฒนธรรมของตัวเอง
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
กราบขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่กรุณาสละเวลามาฟังพวกเราเล่าสิ่งที่เราได้ทำ จริงๆ มีสิ่งที่เราทำมากมาย เยอะกว่านี้ เพื่อเป็นความสะดวก หรืออยากทราบรายละเอียด ขอความกรุณาถามตรงมาที่ผม ที่ท่านรัฐมนตรีทุกท่านได้ เราก็จะให้รายละเอียดได้อย่างเต็มที่ และถ้าท่านมีความเห็นที่จะสนับสนุน หรือช่วยเหลือให้ความคิด ก็ยินดีที่จะรับฟัง สุดท้ายก็ขอยืนยันว่าพวกเราทุกคน รวมทั้งข้าราชการทุกคน ในกระทรวงทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จะมุ่งมั่นตั้งใจเสียสละในการทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างจริงจัง และด้วยความจริงใจ ขอบคุณครับ
ขอบคุณ manager online
Subscribe to:
Posts (Atom)