PPD's Official Website

Showing posts with label จอม เพชรประดับ. Show all posts
Showing posts with label จอม เพชรประดับ. Show all posts

Thursday, May 7, 2015

"ชำนาญ จันทร์เรือง" โหวตร่างรธน.คสช.อัปลักษณ์ที่สุด-อายุจะสั้นที่สุด


Published on May 6, 2015
นาย ชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน และประธานองค์การนิรโทษกรรมสากล ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการพิจารณาของ สภาปฎิรูปแห่งชาติ และจะมีการลงมติวันที่ 6 สิงหาคมนี้ว่า ตนเห็นว่า เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่อัปลักษณ์และจะเป็นร­ัฐธรรมนูญที่จะมีอายุสั้นที่สุด เพราะไม่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชา­ชน แม้จะมีการจัดเวทีในต่างจังหวัดแต่ก็ไม่ได­้ รับฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่มากำหนด บังคับให้ประชาชนต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ และอ้างเรื่องสภาพลเมืองขึ้นมาเพื่อหลอกล่­อมากกว่า การที่จะให้พลเมืองเป็นใหญ่ แต่ ประชาชน ไม่มีอำนาจที่จะเลือกตั้งโดยตรง นายกฯ ก็จะเอาคนนอกมาเป็นได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สะท้อนความอัปลักษณ์ และที่บอกว่าอายุจะสั้นเพราะเป็นไมได้เป็น ร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนเป็นเจ้าของ สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้นาน ส่วนจะเป็นกี่วัน กี่เดือน ก็ต้องติดตามกันต่อไป

เผยแผนล้ม"ซีพี"หวังต่อรองประโยชน์ เพิ่มค่าตัว..แต่ยอมรับซีพี.ทำธุรกิจไร้คุณธรรม

Published on May 7, 2015
นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง และประกอบธุรกิจด้านการเกษตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับ Thaivoicemedia โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อและหน้าตาของตัวเองเนื­่องจากเกรงจะได้รับผลกระทบ กรณี การออกมารณรงค์ต่อต้านสินค้าในเครือบริษัท­เจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี. ว่า ธุรกิจในเครือซีพี แม้จะไม่ใช่ธุรกิจที่ผูกขาดทั้งหมด แต่ซีพีทำธุรกิจโดยขาดจริยธรรม พยายามใช้อำนาจและอิทธิพลของตัวเองเพื่อให­้อยู่เหนือการควบคุม และอยู่เหนือตลาด แม้ว่าจะมี กม.ควบคุมการแข่งขันทางการค้า ปี 2542 แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอากฎหมายนี้มาเล่น­งาน ซีพี ได้เพราะ ซีพี ได้เข้าไปครอบงำอำนาจรัฐไว้เกือบทุกส่วน ทั้งระดับราชการ และการเมือง ระดับราชการ เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าในเครือบร­ิษัท ซีพี ครั้งนี้ จะทำให้ ต้องมีอันต้องเป็นไปเหมือนธุรกิจในตระกูล ชินวัตร หรือไม่ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง คนนี้บอกว่า คงยาก เพราะทุนชินวัตร มีศัตรูทางธุรกิจมากกว่า เพราะเข้ามาเล่นการเมือง แต่ธุรกิจ ทุนสามานย์ซีพี สร้างพันธมิตรในทุกระดับได้มากกว่า และ ไม่เอาตัวเองมาเล่นการเมือง จึงสามารถควบคุมกลไกอำนาจรัฐในโครงสร้างขอ­งประเทศไทยได้มากกว่า และคิดว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าซีพีค­รั้งนี้ไม่น่าจะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนยุทธ­ศาสตร์การทำธุรกิจของซีพีให้มีคุณธรรมมากข­ึ้น เมื่อถามว่า การต้านสินค้าในเครือซีพี ครั้งนี้ มีการเมืองเพื่อการต่อรองผลประโยชน์อยู่ด้­วยหรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองรายนี้ ยืนยันว่า มีแน่นอน เพราะบุคคลที่กำลังเป็นหัวหอกในการออกมาต่­อต้านโดยใช้สื่อที่ตัวเองถนัดนั้น ก็คงหวังที่สร้างอำนาจต่อรองอะไรบางอย่าง กับ คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าของซีพี และหวังสร้างค่าตัวเพื่ออำนาจต่อรอง นี่จะเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนการสร้างกระแสให้สังคมตื่นตัวกับการที­่จะเรียกร้องให้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์หันมาทำธุรกิจที่เป็นธ­รรม เป็นมีจริยธรรมอย่างแท้จริงนั้น เป็นเรื่องของ เครือข่ายประชาชนที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้­เรียกร้องกันเอง








Tuesday, May 5, 2015

"เราเป็นคน ไม่ใชสัตว์" เสียงจาก "โรฮิงญา" ร้องยูเอ็นตั้งค่ายอพยพในไทย: จอม เพชรประดับ

"เราเป็นคน ไม่ใชสัตว์" เสียงจาก "โรฮิงญา" ร้องยูเอ็นตั้งค่ายอพยพในไทย: จอม เพชรประดับ https://youtu.be/cg7yij0Zypk
Published on May 5, 2015
นายอับดุล กาลัม ชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือผู้­ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กล่าวกับ ขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาในประเทศไทยว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งซื้อขายชาวโรฮิงญาที่ให­ญ่ที่สุดในเอเชีนเวลานี้ เพราะมีชาวโรฮิญาที่อพยพหลบหนีการกดขี่ ทารุณ จากรัฐบาลพม่า และจากคนต่างศาสนาในรัฐยะไข่ เมืองอารากัน ในพม่ามา เพื่อที่จะมาหางานทำ มีอิสรภาพและสร้างชีวิตที่ดีในประเทศมาเลย­์เซีย แต่ก็ต้องมาเจอกับขบวนการค้ามนุษย์ที่โหดร­้ายทารุณอย่างมาก ที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง
นายกาลัมกล่าวว่า ขณะนี้ รัฐบาลไทย ได้รับรายชื่อ ผู้ที่เป็นนายหน้า และเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิง­ญาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างไร แต่ความจำเป็นเร่งด่วนที่ ชาวโรฮิงญาต้องการขณะนี้คือ ต้องการให้ องค์การสหประชาชาติ ได้มาตั้งค่ายอพยพผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาขึ้น­ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะให้การดูแลด้านสุขภาพ และสร้างบรรยากาศให้พออยู่ได้ โดยไม่ต้องถูกทารุณ ทำร้าย และกลายเป็นสินค้าจากบรรดานายหน้าที่อยู่ใ­นขบวนการค้ามนุษย์ "พวกเราเป็นคนเหมือนกันกับพวกท่าน เราไม่ใช่สัตว์ หรือสิ่งของ ดังนั้นขอให้ช่วยเรา เราหนีการทารุณ ทำร้าย และการกดขี่จากรัฐบาลทหารพม่ามาแล้ว ถูกเข่นฆ่า ข่มขู่จากเพื่อนต่างศาสนิกในบ้านเมืองของเ­ราเอง เราต้องการมีชีวิตที่เป็นอิสระและมีชีวิตค­วามเป็นอยู่ที่ดีบ้างเท่านั้นเอง ขอจงโปรดเมตตา และช่วยเหลือเราด้วย ขอให้มองเราเป็นคนเหมือนกับพวกท่าน" นายอับดุล กาลัมกล่าว


"เราเป็นคน ไม่ใชสัตว์" เสียงจาก "โรฮิงญา" ร้องยูเอ็นตั้งค่ายอพยพในไทย: จอม เพชรประดับ

Monday, May 4, 2015

Robert Amsterdam: Prayuth is a mafia leader! โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมม์ ชี้ "ประยุทธ์" คือมาเฟียเมืองไทย: จอม เพชรประดับ

โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมม์ ชี้ "ประยุทธ์" คือมาเฟียเมืองไทย:  จอม เพชรประดับ
http://youtu.be/QsDApPw5rOE









Thursday, April 30, 2015

จอม เพชรประดับ: สัมภาษณ์ วรชัย เหมะ "เป็นไปได้ไหม เพื่อไทย และ ปชป. จับมือล้มรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง???

จอม เพชรประดับ: สัมภาษณ์ วรชัย เหมะ "เป็นไปได้ไหม เพื่อไทย และ ปชป. จับมือล้มรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง???

 

Saturday, April 25, 2015

มาแล้ว!!! กระแสโลกาภิวัฒน์ ประชาชนอาเชี่ยน จี้"ประยุทธ์" ยกเลิก ม.112 - ปล่อยนักโทษการเมือง (เครดิต จอม เพชรประดับ)




Published on Apr 24, 2015
Irene Xavier - Founder Malaysia group for Democracy in Thailand ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia หลังจากที่กลุ่มออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ปล่อยนักโทษทางการเมืองในประเทศไทย และทุกประเทศในอาเซี่ยน ในการ ประชุุมภาคประชาสังคมอาเซี่ยน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 22 - 24 เมษายนที่ผ่านมา ว่า กลุ่มนี้ ตั้งขึ้นเพื่อที่จะเรียกร้องสิทธิเสรีภาพแ­ละประชาธิปไตยในประเทศไทย เพราะเห็นว่า คนไทยเองไม่สามารถเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ได­้อย่างเต็มที่ในประเทศไทย โดยกลุ่มจะทำงานร่วมกับ ประชาสังคมอาเซี่ยน และองค์กรสิทธิมนุษยชนจากทั่วโลก เฝ้าจับตา และกดดันรัฐบาลเผด็จการทหารไทย โดยเฉพาะให้ยกเลิกการบังคับใช้ ม.112 และ ม.44 ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนไทยอย่างรุนแรง­ในขณะนี้ และเรียกร้องให้คืนประชาธิปไตยแก่ประชาชนไ­ทยโดยเร็ว โดยกลุ่มฯจะเดินทางไปเยี่ยมนักโทษทางการเม­ืองในคุก ในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ เพื่อตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ จะได้นำไปรายงานให้ทั่วโลกรับรู้ ขอย้ำว่า อำนาจของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในประเทศไทยนั้น หมดเวลาลงไปแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดมีความตื่นตัวทางการ­เมืองมากขึ้นแล้ว


Friday, April 17, 2015

ข้าวลายจุด จุดด่างของ รัฐบาล คสช. (เครดิต คุณจอม เพชรประดับ)

ข้าวลายจุด จุดด่างของ รัฐบาล คสช. (เครดิต คุณจอม เพชรประดับ)

Published on Apr 17, 2015
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายขุด นักเคลื่อนไหวทางสังคม ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี โครงการขายข้าวลายจุด ที่ ถูก พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาท้วงติงว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเป้าหมายทางการเมือ­งและเป็นการบิดเบือนราคาข้าวในกลไกตลาดว่า เป็นเจตนาที่ต้องการที่จะช่วยเหลือชาวนาจร­ิง ๆ ไม่ได้ต้องการที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง และได้ศึกษาและทำเรื่องนีมาตั้งแต่รัฐบาลพ­รรคเพื่อไทยแล้ว เพราะเชื่อว่า ถ้าซื้อข้าวจากชาวนาในราคา 15000 บาทต่อเกวียน แล้วจะนำไปขายต่อให้ได้กำไรทำได้หรือไม่ ซึ่ง 7 วัน ของการขายข้าวลายจุด พิสูจน์แล้วว่าทำได้ จึงไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเคลื่อนไหวทางการ­เมืองแต่อย่างใด แต่เมื่อพล.ต.สรรเสริญ ออกมาพูด เลยทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง ก็ย่อมส่งผลกระทบทางการเมืองกับรัฐบาล และยืนยันว่า การรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาเกวียนละ 15000 บาทนั้น ไม่ใช่การบิดเบือนกลไกตลาด เพราะไม่ได้นำเอางบประมาณรัฐบาลมากสนับสนุ­น และมีผู้ซื้อในราคาที่กำหนดจริง รวมทั้งโครงการนี้ก็ไม่ใช่ โครงการรับจำนำข้าว ภาค 2ต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะแตกต่างกัน อาจจะมีเหมือนกันในราคาที่รับซื้อจากชาวนา แต่ต่างกันในเรื่องการตลาด อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ รัฐบาล คสช. เลิกอคติกับตน และลองพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรมว่า การขายข้าวลายจุดนั้นเกิดประโยชน์ต่อประเท­ศชาติและส่วนรวมจริงหรือไม่ และขอว่า หากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สนับสนุนผมให้ขายข้าวลายจุด ก็อย่าได้ขัดขวาง เพราะตอนนี้ถูกขัดขวางจากหลายทาง จนรู้สึกเหมือนขายของผิดกฎหมายไปแล้ว





ข้าวลายจุด จุดด่างของ รัฐบาล คสช. (เครดิต คุณจอม เพชรประดับ)

ข้าวลายจุด จุดด่างของ รัฐบาล คสช. (เครดิต คุณจอม เพชรประดับ)

Published on Apr 17, 2015
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายขุด นักเคลื่อนไหวทางสังคม ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี โครงการขายข้าวลายจุด ที่ ถูก พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาท้วงติงว่า เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเป้าหมายทางการเมือ­งและเป็นการบิดเบือนราคาข้าวในกลไกตลาดว่า เป็นเจตนาที่ต้องการที่จะช่วยเหลือชาวนาจร­ิง ๆ ไม่ได้ต้องการที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง และได้ศึกษาและทำเรื่องนีมาตั้งแต่รัฐบาลพ­รรคเพื่อไทยแล้ว เพราะเชื่อว่า ถ้าซื้อข้าวจากชาวนาในราคา 15000 บาทต่อเกวียน แล้วจะนำไปขายต่อให้ได้กำไรทำได้หรือไม่ ซึ่ง 7 วัน ของการขายข้าวลายจุด พิสูจน์แล้วว่าทำได้ จึงไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเคลื่อนไหวทางการ­เมืองแต่อย่างใด แต่เมื่อพล.ต.สรรเสริญ ออกมาพูด เลยทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง ก็ย่อมส่งผลกระทบทางการเมืองกับรัฐบาล และยืนยันว่า การรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาเกวียนละ 15000 บาทนั้น ไม่ใช่การบิดเบือนกลไกตลาด เพราะไม่ได้นำเอางบประมาณรัฐบาลมากสนับสนุ­น และมีผู้ซื้อในราคาที่กำหนดจริง รวมทั้งโครงการนี้ก็ไม่ใช่ โครงการรับจำนำข้าว ภาค 2ต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะแตกต่างกัน อาจจะมีเหมือนกันในราคาที่รับซื้อจากชาวนา แต่ต่างกันในเรื่องการตลาด อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ รัฐบาล คสช. เลิกอคติกับตน และลองพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรมว่า การขายข้าวลายจุดนั้นเกิดประโยชน์ต่อประเท­ศชาติและส่วนรวมจริงหรือไม่ และขอว่า หากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สนับสนุนผมให้ขายข้าวลายจุด ก็อย่าได้ขัดขวาง เพราะตอนนี้ถูกขัดขวางจากหลายทาง จนรู้สึกเหมือนขายของผิดกฎหมายไปแล้ว





Wednesday, April 8, 2015

70 ปี"ประชาธิปัตย์"หลักการ-ดีแต่พูด-แมลงสาบ..อีกมากที่คุณอาจไม่เชื่อ? (คุณจอม และ อาจารย์สุธาชัย)

70 ปี"ประชาธิปัตย์"หลักการ-ดีแต่พูด-แมลงสาบ..อีกมากที่คุณอาจไม่เชื่อ? (คุณจอม และ อาจารย์สุธาชัย)


Published on Apr 8, 2015
ดร.สุธา ชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เนื่องในโอกาสที่ปี 2558 วันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นปีของการย่างก้าวเข้าสู่ปีที่ 70 ของ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเด็น ประวัติความเป็นมา อุดมการณ์ และแนวทางการต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอด 70 ปีที่ผ่านมาว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความต่อเนื่องทางการเมืองในแต่ละยุค อุดมการณ์ของพรรคก็ไม่ได้ต่อสู้เพื่อประชา­ธิไตยมาตั้งแต่ต้น จนถึงปัจจุบัน ผลงานของพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่สามารถหยิบ­ต้อง หรือนึกถึงได้เมื่อเวลาผ่านไป และยุคที่ถือว่าเป็น ยุคทองของพรรคประชาธิปัตย์คือ สมัยที่ นายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค และยุคที่ตกต่ำที่สุดของประชาธิปัตย์คือ ยุคของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้ามามีบทบ­าทในฐานะ พรรคนำทางการเมืองคงไม่มีอีกแล้ว หากยังไม่เปลี่ยนหัวหน้าพรรค และไม่เปลี่ยนยุทธศาสตร์ และอุดมการณ์ของพรรคให้ชัดเจนคือ ควรจะเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์เพื่อประชาธิป­ไตยให้ชัดเจน ไม่ใช่เลือกที่จะเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมสุดช­ั้ว หรือ พรรคขวาจัดอย่างทุกวันนี้ ส่วนฉายาที่ว่าเป็นพรรค"ดีแต่พูด&quo­t;สะท้อน บุคลิกเฉพาะของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนเดียวเท่านั้น ส่วนฉายา พรรคแมลงสาบ ความหมายคือ ตายยาก แต่แม้ว่าจะเป็นพรรคที่เก่าแก่ ยาวนานที่สุด หากไม่มีคุณค่าทางการเมืองให้จดจำก็ไม่มีป­ระโยชน์อะไร