PPD's Official Website

Showing posts with label ทุนสามานย์. Show all posts
Showing posts with label ทุนสามานย์. Show all posts

Sunday, May 10, 2015

คนไทยรู้สึกอย่างไรกับ CP ? โดย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

คนไทยรู้สึกอย่างไรกับ CP ?
โดย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ซีพีใหญ่แค่ไหน? ซีพีลงทุนไปทั่วโลกแม้ปากจะบอกอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นบริษัทของคนไทย แต่ในโลกของธุรกิจสากล ซีพีไม่มีสัญชาติ

เราเรียกบริษัทเหล่านี้ว่า "บริษัทข้ามชาติ" ไปลงทุนที่ประเทศไหนก็จัดตั้งบริษัทตามสัญชาติของประเทศนั้น

เราได้ยินเรื่องราวการประสบความสำเร็จของซีพีมามากเริ่มต้นจากร้านขายอาหารสัตว์เล็กๆเมื่อ 50 ปีก่อน ตั้งอยู่แถบเยาวราช บนถนนทรงวาด หลังบ้านผมนี่เอง

แต่ซีพีควรจะฟังว่า คนไทยรู้สึกอย่างไรกับซีพี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำไมคนไทยถึงไม่ประทับใจกับความสำเร็จของซีพี?

1.ซีพีใหญ่เกินไป และการเติบโตประสบความสำเร็จของซีพี คืนกำไรกลับสู่สังคมน้อยมาก

ไม่ต้องไปพูดถึงการบริจาคน้ำท่วม หรือเอาผ้าห่มไปให้กับผู้ประสบภัยหน้าหนาว เพราะเรื่องแค่นั้นมันจิ๊บจ๊อย เมื่อเทียบกับการที่ซีพีมีอำนาจเหนือตลาด โดยใช้เงินทุนกำหนดทิศทางตลาดจนกระทั่งคู่แข่งขันเหลือน้อยลง หรือหายสาปสูญไป

ยกตัวอย่าง เซเว่นอีเลฟเว่นที่มีสาขามากมาย คู่แข่งอย่างแฟมิลี่มาร์ท หรือลอว์สัน เทียบไม่ติดฝุ่น

2.วิธีการที่ซีพีปฏิบัติต่อลูกค้าหรือคู่ค้า เป็นเพียงเรื่องของธุรกิจเท่านั้น จึงยากที่จะทำให้คนไทยในฐานะลูกค้า คิดถึงซีพีในแง่ที่ดีอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ

ซีพีตะกละตะกลามที่จะประสบความสำเร็จโดยใช้วิธีควบคุมตลาดเปิดเซเว่นโปรยไปทั่วทุกชุมชน จนไม่เหลืออะไรให้กับคนท้องถิ่นที่อยากประกอบธุรกิจแบบเดียวกัน ค่าแฟรนไชส์ก็หนักหนาสาหัส แถมยังชักเปอร์เซ็นต์จากผู้ที่เปิดร้านเซเว่นมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์

3.ซีพีประสบความสำเร็จมากเกินไปอะไรที่ซีพีทำต้องเหนือกว่าผู้อื่นไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าขายไก่ อาหาร ค้าปลีกค้าส่ง โทรคมนาคม เคเบิ้ลทีวี และต่อไปอาจจะเป็น "รถไฟความเร็วสูง"

ซีพีแทรกซึมเข้าไปทุกธุรกิจ ทำกำไรมหาศาล และไม่เหลือพื้นที่ยืนให้กับคู่แข่งขันขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ หรือแม้กระทั่งคนในท้องถิ่น

คนไทยไม่ได้ต้องการบอยคอต หรือต่อต้านซีพีแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการบอกให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซีพีได้พิจารณาอย่างถ่องแท้ ว่าคนไทยคิดอย่างไรกับซีพี

ทำไมคนไทยถึงไม่ภาคภูมิใจกับความสำเร็จของซีพี?
มันเป็นคำถามที่ยาก ที่ซีพีจะต้องค้นหาคำตอบให้เร็วที่สุด

ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าซีพีจะประสบความสำเร็จมากมายเท่าไหร่
คนไทยก็ยิ่งเกลียดกลัวซีพีมากขึ้นเท่านั้น

Thursday, May 7, 2015

ความจริงของเจ้าสัว (ซีพี) จดหมายนิรนาม ที่พาเราไปพิสูจน์ความจริง



Last updated: 7 May 2015 | 21:13
หลังได้ทำงานกะ"เจ้าสัว" มานานนับสิบปี ดิฉันรู้ได้อย่างแน่นอนว่า"บริษัทของเจ้าสัว"นี้ไม่ธรรมดาเลย ความคิดสุดท้ายคือรวบยอดประเทศไทย


ในเฟซบุ้กของ ไทยแลนด์ โฟคัส นิวส์www.facebook.com/ThailandFocusNews
ได้นำจดหมายของสตรีท่านหนึ่งใช้นามปากกาว่าผู้รักความเป็นธรรมที่อ้างว่าเคยทำงานกับเจ้าสัวมานาน เขียนจดหมายระบายสิ่งที่ได้พบเห็นมาให้ผู้อ่านได้รับทราบกรณีที่มีการรณรงค์ไม่ซื้อสินค้าจากร้าน 7-11ระหว่างวันที่ 7-11 พฤษภาคมนี้ เพื่อเป็นการศึกษาเพิ่มเติม โปรดติดตามข้อเขียนได้ดังนี้......
ทำงานกะเจ้าสัวมานาน ทำไมดิฉันจะไม่รู้ความคิดนี้ กลยุทธทุกอย่าง ล้วนเสแสร้งและเอาเปรียบ พี่น้อง คนยากคนจน กลยุทธ กะบีบให้ตายคามือ คือ สิ่งที่เจ้าสัวพร่ำบ่นให้ฟังประจำ การทำธุรกิจทุกอย่าง ในที่ประชุมพูดกันนั้น เนื้อหาหลักๆ ก็คืออำนาจต่อรอง พูดวกวนกันอยู่ประเด็นเดียวจริงๆ คือทำอย่างไรจะทำให้มีอำนาจต่อรองมากที่สุด
ดิฉันมาตามดูก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่เคยมีคู่ค้ารายไหน ที่ไม่ถูก"เจ้าสัว"เอาเปรียบ บางราย สิ้นเนื้อประดาตัวแถมเป็นหนี้เป็นสิน ดิฉันได้ข่าวมาหลายรายว่า ว่าเกษตรกรบางรายถึงกะฆ่าตัวตาย ดูอย่างประเด็น siam banana นั้น เป็นจริงทุกประการ ความจริงยังมีประเด็นเหล่านี้อีกมากมาย ที่ยังไม่มีใครพูดถึง
ในภาคเหนือและอีสาน รู้มานานแล้ว ว่า การปลูกข้าวโพดแบบล้างผลาญป่า แต่ก็ทำเฉยเสีย น้ำหลากดินโคลนถล่ม คนตายที่เพชรบูรณ์ น้ำก้อ น้ำชุน เจ้าสัวก็รู้อยู่แก่ใจว่าเกิดจากการบุกรุกแผ้วถางป่าปลูกข้าวโพด แต่ ก็ได้ใช้กำลังภายใน บิดเบือนว่า เป็นการทำไร่ขิง แทน
หมอกควันในภาคเหนือ "เจ้าสัว" ก็รู้มานานแล้วว่า เกิดจากการแผ้วถางป่าของชาวบ้าน เพื่อปลูกข้าวโพด น้ำหลากดินโคลนถล่มที่น่าน "เจ้าสัว" ก็รู้มานานแล้วว่าเกิดจากฝีมือของตัวเองทั้งนั้น แต่ก็ทำเฉยเสีย
สิ่งที่ "เจ้าสัว" ทำไว้ในภาคเหนือ คือทำลายป่า จนน้ำไม่เหลือในเขื่อน และ น้ำเค็มหนุน จนข้าวในภาคกลางตาย และ น้ำประปาเค็ม เรื่องแรงงานทาส ลาป่น มีผู้ให้คำแนะนำว่า ไม่ควรทำ แต่ "เจ้าสัว" ไม่เคยสนใจ มีผู้ทักท้วงในห้องประชุมหลายครั้ง แต่ ท่านประธาน กลับทำเฉยเสีย แถมแนะนำให้แอบซื้อมาทอดหลังๆ เพื่อ ตบตาผู้คน
ใครเขียนด่าก็มีหน่วยจัดการ ซื้อสื่อให้หมด จ่ายไม่อั้น แถมจ้างนักวิชาการ เขียนเชียร์ ในสื่อสังคมออนไลน์ ก็ซื้อ admin ไว้หมดแล้ว เพื่อคอยตามลบข่าวร้ายให้หมด ระดับรัฐบาลและคนในกองทัพ "เจ้าสัว" ก็จ่ายเงินดูแลหมด แบบไม่อั้น ท่านประธานดูจะมั่นใจมาก แต่สิ่งที่พลาดและไม่มีทางจะแก้ตัวได้เลย คือ การเอาเปรียบคนอื่น ในห้องประชุม จึงไม่มีใครกล้าค้าน
แต่ท่านประธานดูจะกลัว social media เอามากๆ
เพื่อการขึ้นไปเทียบ กะ samsung บริษัท ยักษ์ในเอเซียและทั่วโลก "เจ้าสัว"ทำได้ทุกอย่าง หากทำให้กิจการขยายใหญ่โตขึ้น จะผิดศีลธรรม ดูไม่เหมาะไม่งาม อย่างไร "เจ้าสัว" ไม่เคยสนใจ
ท่านประธาน พูดถึง samsung บ่อย อาจเพราะเป็น เอเซียเหมือนกัน แต่หาเทียบได้ไม่ เพราะ สายงานและความคิด อ่อนว่าเค้ามาก เค้าขายสินค้าเทคโนโลยี ทุกอย่างเกิดจากมันสมอง และผลงานวิจัยของคน แต่ เงินทุกบาทของ "เจ้าสัว" เกิดจาก การเอาเปรียบคนเล็กคนน้อย คนยากคนจน การลอกเลียนแบบ การทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คิดจะไปเทียบกะเค้าจึงไม่มีทางเป็นไปได้ ข้อนี้ทุกคนรู้ดี แต่หากพูดออกไป มีหวัง โดนท่านประธานเฉดหัวโดนไล่ออกจากงานแน่
บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีมาตรฐาน ทั้งหลายทั่วโลก เค้าทำธุรกิจด้วยความเป็นธรรม สินค้าของเค้ายังอยู่ยั่งยืน แต่ แนวคิดที่ท่านประธานเป็นผู้ชี้นำนั้น หาได้คิดเรื่องพวกนี้ไม่ "เจ้าสัว" จึงอยู่เบื้องหลังของทุกรัฐบาล ไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับหน่วยงานของรัฐ เพราะเราซื้อไว้หมดแล้ว คือกะรวยทางลัด อย่างเดียวเท่านั้น
สิ่งที่สังคมพูดถึง จริงๆ ดิฉันว่ายังน้อยกว่า ความเลวร้ายของ"เจ้าสัว"ในความเป็นจริงอีกมาก เขียนไป อาจโดนสอบสวนและ ไล่หาตัวคนเขียนบทความนี้ และเสี่ยงต่อการตกงานแต่ ดิฉันเชื่อว่าความถูกต้องความเป็นธรรมเท่านั้น จึงจะทำให้บริษัท อยู่รอดได้ จะเสี่ยงขนาดไหนก็ต้องเขียนให้สังคมรับรู้
ผู้รักความเป็นธรรม
ภาพ 7 - 11 สาขาหาดใหญ่อยู่ติดกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
โซเชียลแฉอีก สัญญาโหด 7-11 แบ่งกำไรก่อนหักค่าใช้จ่าย ขายดีเปิดร้านแข่ง
เราเคยสนใจและศึกษาหาข้อมูลนะ แต่ตอนนี้เลิกคิดแล้ว. ได้ข้อมูล ดังนี้
1. ต้องมีเวลาให้ตลอด 24 ชม. ยิ่งดี
2.มีปัญหาเรื่องบุคลากร (เปลี่ยนบ่อย เพราะสินค้าหาย)
3.สินค้าหายประจำทุกๆเดือน
4. ใช้เงินทุนเยอะ รวม 2,630,000.- (ยังไม่รวมอื่นๆอีกเยอะ)
4.1 ค่าสิทธิใช้การบริหาร 1,200,000 สัญญา 10 ปี (10,000/เดือน)
4.2.ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ 500,000.-
4.3. ค่าดำเนินการอื่นๆ 30,000.-
4.4.เงินสดค้ำประกัน 900,000.-
5. ไม่มีเป้า
6. กำไรแบ่งก่อนหักค่าใช้จ่าย 54:46
6.1. 54% เรารับ แต่ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำ ไฟ โทรฯ
6.2. 46% จ่ายให้ 7-11 เพื่อเขาไปจ่ายค่าภาษีป้าย ส่งเสริมการขาย
7. ขายดีแทบตาย ยังไงๆรวมรับไม่เกิน 50,000.- ต่อเดือน
8.ที่สำคัญ พอเราขายดี 7-11 เจ้าของมาเปิดแข่งกับเราทันที อ้างว่าเพื่อบริการลูกค้าให้ทั่วถึง
ปล. แนวโน้ม 7-11 จะเปิดทุกๆปั้มและทุกๆซอย และโลตัสเอ็กเพรส จะเปิดทุกซอยเหมือนกัน
คำนวณแล้ว ทำงานกินเดือนบริษัทเอกชน ไม่ต้องลงทุนอะไร ยังได้เงินเดือนเยอะกว่าอีก
รอท่านอื่นมาชี้แนะค่ะ 
นอกจากนี้ยังเฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีการปฏิบัติกับแฟรนไชส์ของซีพี โดยตั้งข้อสังเกตว่า หากร้านแฟรนไซส์ขายดี ก็จะมีร้านสาขาของ 7-Eleven มาเปิดเพิ่มใกล้ๆกัน หรือฝั่งตรงข้ามทันที ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อแฟรนไชส์จริงหรือไม่
แฟรนไชส์7-11 ถ้าร้านไหนขายได้กำไรดีทุกเดือนจะถูกบังคับให้เปิดเพิ่มอีกร้าน ถ้าไม่เปิดเอง CP จะหาเจ้าอื่นมาเปิดแทนเซเว่นหน้า รพ.ตรัง ซ้ายของผู้ประกอบการ ขวาของ cp เปิดเอง(ภาพนี้ 7-Eleven ที่ จ.ตรัง จากเฟซบุ๊ก @Surawich Verawan 刘永真)
-----------------------------------------------------------------------------------------------
คุณคงไม่เชื่อ? “10 สินค้าที่คาดไม่ถึงใน 7-11 

เผยแผนล้ม"ซีพี"หวังต่อรองประโยชน์ เพิ่มค่าตัว..แต่ยอมรับซีพี.ทำธุรกิจไร้คุณธรรม

Published on May 7, 2015
นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง และประกอบธุรกิจด้านการเกษตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับ Thaivoicemedia โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อและหน้าตาของตัวเองเนื­่องจากเกรงจะได้รับผลกระทบ กรณี การออกมารณรงค์ต่อต้านสินค้าในเครือบริษัท­เจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี. ว่า ธุรกิจในเครือซีพี แม้จะไม่ใช่ธุรกิจที่ผูกขาดทั้งหมด แต่ซีพีทำธุรกิจโดยขาดจริยธรรม พยายามใช้อำนาจและอิทธิพลของตัวเองเพื่อให­้อยู่เหนือการควบคุม และอยู่เหนือตลาด แม้ว่าจะมี กม.ควบคุมการแข่งขันทางการค้า ปี 2542 แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอากฎหมายนี้มาเล่น­งาน ซีพี ได้เพราะ ซีพี ได้เข้าไปครอบงำอำนาจรัฐไว้เกือบทุกส่วน ทั้งระดับราชการ และการเมือง ระดับราชการ เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าในเครือบร­ิษัท ซีพี ครั้งนี้ จะทำให้ ต้องมีอันต้องเป็นไปเหมือนธุรกิจในตระกูล ชินวัตร หรือไม่ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง คนนี้บอกว่า คงยาก เพราะทุนชินวัตร มีศัตรูทางธุรกิจมากกว่า เพราะเข้ามาเล่นการเมือง แต่ธุรกิจ ทุนสามานย์ซีพี สร้างพันธมิตรในทุกระดับได้มากกว่า และ ไม่เอาตัวเองมาเล่นการเมือง จึงสามารถควบคุมกลไกอำนาจรัฐในโครงสร้างขอ­งประเทศไทยได้มากกว่า และคิดว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าซีพีค­รั้งนี้ไม่น่าจะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนยุทธ­ศาสตร์การทำธุรกิจของซีพีให้มีคุณธรรมมากข­ึ้น เมื่อถามว่า การต้านสินค้าในเครือซีพี ครั้งนี้ มีการเมืองเพื่อการต่อรองผลประโยชน์อยู่ด้­วยหรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองรายนี้ ยืนยันว่า มีแน่นอน เพราะบุคคลที่กำลังเป็นหัวหอกในการออกมาต่­อต้านโดยใช้สื่อที่ตัวเองถนัดนั้น ก็คงหวังที่สร้างอำนาจต่อรองอะไรบางอย่าง กับ คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าของซีพี และหวังสร้างค่าตัวเพื่ออำนาจต่อรอง นี่จะเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนการสร้างกระแสให้สังคมตื่นตัวกับการที­่จะเรียกร้องให้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์หันมาทำธุรกิจที่เป็นธ­รรม เป็นมีจริยธรรมอย่างแท้จริงนั้น เป็นเรื่องของ เครือข่ายประชาชนที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้­เรียกร้องกันเอง








Monday, May 4, 2015

ข้อมูลเพิ่มเติม เรื่อง ซีพี กินรวบประเทศไทย

ข้อมูลดี ๆ มีผู้นำเสนอทุกวันในโลกออนไลน์ จึงขอนำมาเสนอให้พี่น้องได้บริโภคกัน
ขอขอบคุณเจ้าของเนื้อหาด้วยใจจริง  วันนี้ การสร้างความเข้าใจให้สังคม ต้องอาศัยข้อมูลข่าวสาร จากหลากหลายมุมมอง  จากประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย

รับไปพิจารณากันนะครับ จะได้เข้าใจความเป็นไปของบ้านเมืองได้ดีขึ้น เพื่อช่วยกันหาทางแก้ไขอย่างตรงจุดต่อไป







ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3 แสนล้านแล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จเป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEO ของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการด้วยเงิน 3 แสนล้านมีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครื่อเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืชพลังงาน นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยี่สื่อสาร ทั้งโทรบ้าน โทรมือถือ internet และมีสื่อในมือ คือ truevision สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีกค้าส่งทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร มี 7-11 ส่วนห้างค้าปลีก ค้าส่ง makro และ Lotusก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK? ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าข่าว "เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัทครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีกและครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู" ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่งสรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท แมคโคร 129,780 ล้านบาท รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนักดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4 ก่อนที่จะไปซื้อ L&H แบงก์ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5กลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลยเถ้าแก่CPเชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง) ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น เศร้าเศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง ใครฯก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆรัฐบาลไม่ยอม อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่นี้ makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบ ที่นี้ รายย่อยทำได้ถูกกว่า สู้เขาไม่ได้ ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องฯตัวหนึ่งเท่านั้นสำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วยมีอีก จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี พอยางล้นตลาดราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอกสมัยก่อนตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคารแล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่ CP แบ่งให้บ้างต่อมาระยะหนึ่ง CP ก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืนเพื่อ CP จะทำเอง ร้านไหนยอมขายก็จบไป ร้านไหนไม่ขาย CP ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่งถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม หน้าปากซอยบ้านผม มี 7-11 3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดการ ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง คำพูดดูสวยหรู แต่ในใจ เราจะอยู่กับชาวไร่ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์ อย่างพันธมิตร โดยกูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไปกูมีแต่ได้กับได้ บริษัทอื่นเจ๊งหมด โดยเฉพาะ ร้านค้า sme ทั้งหลาย สนับสนุนเลี้ยงไก่ ไข่ ปลูกยางแล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกทีทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายฯมากฯให้กับร้าน 7-11 เช่น นาโนแบงคิ้ง ขายยา ขายล็อตเตอรี่ ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้วทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่นยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไรตอนมี 7-11 ใหม่ๆ คนขับรถลูกน้องเพื่อนลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 แค่ 1-2 ปี Volume 7-11 สูงมาก CP เลิกจ้าง ทำ logistics เอง ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน แต่หากได้กำไรดีจะ Take over

Sunday, May 3, 2015

ฟอร์บส์ ยกเจ้าสัวซีพีรวยสุดปี 58

Published on Mar 3, 2015 บิล เกตส์ เศรษฐีชาวอเมริกันผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ยังครองความเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก­ในปี 2558 จากการจัดอันของนิตยสารฟอร์บส์ ส่วนประเทศไทยเจ้าสัวจากค่ายซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ ครองอันดับ 1 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1หมื่น3พันล้านบาท... ติดตามเราได้ที่ www.thairath.tv Facebook : ThairathTV Twitter : Thairath_TV Instagram : ThairathTV Category News & Politics License Standard YouTube License

Monday, April 27, 2015

เจาะลึก ทุนสามานย์ผูกขาดสายเจ้าไทย ซีพี ...กับการข่มขืนประเทศและคนไทยแบบเบ็ดเสร็จ


วันก่อนเอาเรื่องสนธิ ลิ้มฯ ชำแหละซีพีอย่างหนัก วันนี้กระแสข่าวและกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาแรงมาก  จึงขอยกมาให้พี่น้องอ่านเป็นข้อมูลครับ
 

ซีพีตะครุบเทสโกโลตัสคืน 3 แสนล้านแล้วยึดค้าปลีกไทยเบ็ดเสร็จ

เป็นเรื่องที่คาดไว้ล่วงหน้าแล้ว และก็เป็นกระแสข่าวที่หนาหูทั้งในและต่างประเทศ ที่คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ CEO ของซีพี เตรียมประกาศซื้อTesco Lotus ในไทยอย่างเป็นทางการด้วยเงิน 3 แสนล้าน
มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ธุรกิจการเกษตร ค้าปลีกนั้น เท่ากับเครื่อเจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป หรือ CP คุมการเกษตรทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืชพลังงาน นอกจากนั้นยังคุมเทคโนโลยี่สื่อสาร ทั้งโทรบ้าน โทรมือถือ internet และมีสื่อในมือ คือ truevision  สรุปคือ CP จะคุมระบบค้าปลีกค้าส่งทั้ง modern trade และ traditional trade ครบวงจร มี 7-11  ส่วนห้างค้าปลีก ค้าส่ง makro และ Lotus
ก่อนหน้านี้คอลัมน์ Market-Think ของสรกล อดุลยานนท์ เรื่อง CP BANK?  ในประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ก็วิเคราะห์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าข่าว "เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นจริง เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงิน เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้ง ครั้งแรก คือ การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีน ซึ่งเสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท

ครั้งที่สอง คือ การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีกและครั้งที่สาม คือ การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู"  ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่4 ในรอบ 2 ปี เพราะเซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง

สรุปยอดรายได้เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท แมคโคร 129,780 ล้านบาท รวมกันเป็นตัวเลขกลม ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท เมื่อรวมโลตัสเข้าไปอีกรายได้ก็จะเพิ่มขึ้นแตะ 5 แสนล้านบาทในอนาคตไม่ยากนัก

ดังนั้นการซื้อเทสโก้โลตัสครั้งนี้จึงเป็นก้าวเดินการเทคโอเวอร์ครั้งที่ 4   ก่อนที่จะไปซื้อ L&H แบงก์ในอีกไม่นานเป็นก้าวที่ 5

กลายเป็นเบอร์ที่เท่าไรของโลกไม่แน่ใจ แต่จำได้เคยมีใครพูดว่า ผมสนับสนุนนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาล มีอะไรผมรับผิดชอบเอง ประเทศเสียหายไปหลายแสนล้านบาท ทำไมเงียบเป็นเป่าสากเลย

เถ้าแก่CPเชียร์นโยบาย ค่าแรงสูง กับราคาข้าวสูง (2 สูง)
ผลก็เป็นอย่างนี้ที่เห็น เศร้า

เศรษฐีไทยที่มารวยระยะ 50 ปีหลังนี้ส่วนใหญ่ อาศัยอำนาจรัฐไปผูกขาด หรือเอื้ออำนวยธุรกิจตัวเอง ใครฯก็คิดกินรวบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แต่ในระบบเศรษฐกิจเสรี ไม่ง่ายที่ใครสามารถทำได้ อย่างแน่ๆรัฐบาลไม่ยอม อเมริกาถึงกับออกกม.anti trust ขัดขวางการกินรวบเช่นนี้

ถ้าท่านธนินทร์แน่อย่างที่ทำในเมืองไทย ทำไมธุรกิจที่ฮ่องกง จีน จึงไม่เก่งแบบที่นี้ makro ที่จีนไม่ทำกำไร จะล่มเอา ธุรกิจเรื่องไก่ก็ไม่แน่แบบ ที่นี้ รายย่อยทำได้ถูกกว่า สู้เขาไม่ได้ ทุกธุรกิจที่ทำนอกประเทศแค่อยู่รอด เมื่อไม่มีอำนาจรัฐหนุน ท่านก็เป็นแมวน้อยเชื่องฯตัวหนึ่งเท่านั้น

สำหรับผม ธุรกิจไทยที่แน่จริงข้ามโลกคือกระทิงแดงเท่านั้น เพราะแข่งกับเขามือเปล่า ไม่มีรัฐช่วย
มีอีก จำได้หรือไม่ว่าใครสนับสนุนให้รัฐบาลทักษิณปลูกยางในทุกภาค เพื่อส่งไปขายจีน โดยบอกว่าเป็น นํ้ามันบนดิน และเดินสายพูดเรื่องนี้อยู่หลายปี พอยางล้นตลาดราคาตก เงียบเลย ไม่เห็นแสดงความรับผิดชอบอะไรเลย นี่เป็นอีกเรื่องของคุณธนินทร์ คนไทยไม่ได้ลืมง่ายหรอก

สมัยก่อนตอนทำ 7-11 ใหม่ๆ CP ไม่อยากเสี่ยง ก็ชวนคนเข้ามาลงทุนหาซื้อที่ดินทำเลดีๆ พร้อมสร้างอาคารแล้วมาเปิด 7-11 เอาของ CP ไปขาย คนลงทุนก็ไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน หวังกินกำไรจากที่ CP แบ่งให้บ้าง

ต่อมาระยะหนึ่ง CP ก็เล็งเฉพาะร้านที่ยอดขายสูง กำไรงาม แล้วเข้าไปเสนอซื้อคืนเพื่อ CP จะทำเอง ร้านไหนยอมขายก็จบไป ร้านไหนไม่ขาย CP ลงทุนเอง เปิดร้านใหม่ในทำเลนั้น แข่งกันไปเลย เอาแบบให้เจ๊งไปข้างหนึ่ง

ถ้าร้านนั้นไม่ขาย มันก็จะซื้อที่ใกล้ๆ ออกมาตั้งแล้วแข่งกับเจ้าเดิม  หน้าปากซอยบ้านผม  มี 7-11   3ร้าน แต่ละร้านห่างกันไม่ถึง 50 เมตร  
คนที่คิดกินรวบทุกอย่าง ต้องพึ่งพาใช้อำนาจรัฐ  ทำให้สังคมเมืองและ ชนบทเป็นทาสมันตลอดการ  ฆ่าคนในสังคมทั้งเป็น   อย่างนี้หรือ เป็นคนที่น่ายกย่อง

คำพูดดูสวยหรู  แต่ในใจ เราจะอยู่กับชาวไร่ชาวนา ชาวสวน และ ผู้เลี้ยงสัตว์   อย่างพันธมิตร   โดยกูจะใช้สัญญาทาส มาควบคุมให้พวกมึงเป็นหนี้กูตลอดไป
กูมีแต่ได้กับได้  บริษัทอื่นเจ๊งหมด โดยเฉพาะ ร้านค้า  sme ทั้งหลาย 

สนับสนุนเลี้ยงไก่  ไข่    ปลูกยางแล้วกูจะเป็นพ่อค้าคนกลางดูดเงินจากพวกมึงอีกที

ทุกวันนี้ เขาอาศัยอำนาจรัฐ สร้างเงื่อนไขให้รัฐบาลอนุมัติธุรกิจที่กำไรง่ายฯมากฯให้กับร้าน 7-11  เช่น นาโนแบงคิ้ง ขายยา ขายล็อตเตอรี่ ตอนนี้ก็แย่งขายกาแฟสดกับร้านกาแฟแล้ว

ทุกอย่างอาศัยอำนาจรัฐทั้งนั้น เจ้าตำรับ 7-11 ญี่ปุ่นยังต้องงงงวย มันทำได้อย่างไร

ตอนมี 7-11 ใหม่ๆ คนขับรถลูกน้องเพื่อนลาออก เอาบ้านไปจำนอง ดาวน์รถปิ๊คอัพ ไปวิ่ง fleet logistics ให้ 7-11 แค่ 1-2 ปี Volume 7-11 สูงมาก CP เลิกจ้าง ทำ logistics เอง ลูกน้องเพื่อน บ้านติดจำนอง รถยังผ่อนไม่หมด ถูกลอยแพ นี่แหละวิธีการสร้างอาณาจักรธุรกิจของCP อาศัยคนอื่นลงทุนเสี่ยงขาดทุน แต่หากได้กำไรดีจะ Take over



เฟสบุ๊ก Pat Hemasuk

ระบบการค้าที่ไร้จริยธรรมหวังเพียงผลกำไรนั้นจะทำลายสังคมไม่ต่างกับฝูงตั๊กแตนที่ลงกินไร่จนหมดแล้วบินจากไปกินไร่อื่นต่อ แต่ถ้าเป็นการค้าที่ไม่ได้ข้ามชาติแล้วยังใช้ระบบฝูงตั๊กแตนกินไร่ในการทำธุรกิจ ฝูงตั๊กแตนจะต้องอดตายไปพร้อมกับไร่นั้น

ซีพี ก็เช่นกัน ถ้ากินประเทศไทยจนหมดแล้วก็คงต้องตายไปพร้อมกับประเทศ เพราะ ซีพี เองเคยผันตัวเองออกไปทำธุรกิจข้ามชาติแล้วไปไม่รอด เพราะรัฐบาลประเทศนั้นๆต่างก็ดูแลไม่ให้เกิดการผูกขาดขึ้นในประเทศของตัวเอง ถ้าผิดจากแนวทางถนัดของ ซีพี ก็จะแข่งขันแบบเป็นธรรมกับใครไม่เป็น

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงประเทศแม็กซิโกและอาเจนติน่าที่โดนระบบการค้าทุนสูงเข้าถล่มอุตสาหกรรมเษตรของตัวเองจนล่มสลายมาแล้ว จนทำให้เกษตรกรกลายมาเป็นแรงงานราคาถูกไร้อนาคตจากอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าเข้ากำหนดตลาดจนเกษตรกรรายย่อยอยู่ไม่ได้ หลายสิบปีผ่านไปทั้งชุมชนและวัฒนธรรมของประเทศเปลี่ยนไปแบบที่เรียกกลับมาเหมือนเดิมอีกไม่ได้ บ้านแตกสาแหรกขาด คนหนุ่มสาวในบ้านต้องออกไปขายแรงงานทิ้งเด็กและคนแก่ไว้ที่บ้านแทนที่จะทำการเกษตรเหมือนสมัยเก่าอยู่กันครบหน้ากับครอบครัว

มันคืออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยอำนาจทุนที่เหนือกว่าสมคบกับนักการเมืองที่ไม่ทำหน้าที่ปกป้องประชาชนของตัวเอง ทำลายรากฐานของประเทศจนสังคมดั่งเดิมของประชาชนอยู่ไม่ได้

ทุกวันนี้ประเทศไทยกับแม็กซิโกจะคล้ายกันที่สินค้าการเกษตรถูกคุมตลาดจากบริษัทที่ผูกขาด จนทำให้เกษตรกรกลายเป็นกรรมกรแรงงานบนที่ดินของตัวเอง เม็ดพันธุ์ แม่พันธุ์ ปุ๋ย อาหารสัตว์ ยาฆ่าแมลง จนถึงการบังคับทำสัญญาขายผลผลิตที่เกือบไม่เหลือเงินกำไร ขณะที่สังคมพื้นบ้านของเกษตรกรอ่อนแอลงไปทุกขณะ บริษัทผูกขาดก็กำไรมากขึ้นจนกลายเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของประเทศที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องเกรงใจ

ทั้งที่รัฐบาลเองก็สามารถออกกฎหมายผูกขาดทางการค้าออกมาใช้ปกป้องประชาชนได้ แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนเลยที่ออกมาทำกฎหมายนี้เพื่อบังคับใช้เพื่อหยุดการปล้นประชาชนทั้งประเทศแบบผูกขาด

ในสังคมเมืองเองก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากการผูกขาดโดยบริษัทใหญ่แบบนี้ ในแม็กซิโกเองห้างสรรพสินค้าใหญ่อย่างวอลล์มาร์ทเข้าไปผูกขาดการค้าปลีกค้าส่งไปจนคลุมทั้งพื้นที่จนหมด ไม่ต่างอะไรกับที่ห้างสรรพสินค้าแคร์ฟูเข้าครองการค้าปลีกและส่งของอาเจนติน่า จนมีอำนาจผูกขาดโดยสมบูรณ์ที่สามารถกำหนดส่วนแบ่งทางกำไร 85%-15% ระหว่างห้างและเกษตรกรหรือผู้ค้าส่งสินค้าเข้าห้างจนเกษตรกรและผู้ค้ารายย่อยอยู่ไม่ได้

ทุกวันนี้สังคมเมืองของประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน ผู้ค้ารายย่อยถึงกับต้องปิดตัวเองลงทั้งหมดเมื่อมีร้านสะดวกซื้อของ ซีพี เข้าไปตั้ง ซึ่งกินตลาดเข้าไประดับล่างจนถึงร้านอาหารที่ต้องสู้กับอาหารกล่อง ไปจนแม้แต่รถเข็นหมูปิ้งก็ยังต้องสะเทือนที่ร้านสะดวกซื้อของ ซีพี ก็ขายหมูปิ้งเช่นกัน แม้กระทั่งธุรกิจพื้นฐานแบบซักรีด ซีพี ก็เข้าไปจับตลาดในร้านสะดวกซื้ออีกแล้ว อุตสาหกรรมพื้นฐานหลายอย่างที่ส่งสินค้าเข้าไปขายก็โดนแย่งตลาดโดยมีของที่ห้างโลตัสและซีพี ผลิตติดตราของตัวเองออกมาแข่งบนหิ้งเดียวกันแต่ราคาถูกกว่า แล้วไล่สินค้ายี่ห้อดั่งเดิมออกไปวางที่หิ้งหลังร้านแทน

เวลานี้ทั้ง เทสโก้โลตัส และ แม็กโคร ก็โดนซื้อจาก ซีพี ไปเรียบร้อยแล้วจะบอกว่าการค้าส่งและค้าปลีกเกือบทั้งประเทศ อยู่ในกำมือของบริษัทเดียวก็ว่าได้ การแข่งขันราคาสินค้าก็หมดไป จะตั้งราคาบวกกำไรอย่างไรก็ได้เพราะทุกอย่างอยู่ในมือหมดแล้วไม่ต่างกับแม็กซิโกและอาเจนติน่า นอกจากธุรกิจการสื่อสาร ผู้ให้บริการเครือข่า่ยโทรศัพท์นับล้านหมายเลข เคเบิลทีวีรายใหญ่ที่สุด เวลานี้ ซีพี บุกเข้าจับธุรกิจ ลอจิสติกส์ส่งของแข่งกับไปรษณีย์ไทย และกำลังจะมีธนาคารของตัวเองที่ทำธุรกรรมการเงินได้ในร้านสะดวกซื้อตลอด 24ชั่วโมง สามารถออกเครดิตการจับจ่ายได้จนถึงระดับล่าง และในเวลานี้กำลังมีความสนใจจะเข้าไปจับการลงทุนในระบบรถไฟระบบใหม่ที่กำลังจะสร้างอีก

ประเทศไทยยังเหลืออะไรอีก ตั้งแต่สังคมพื้นฐานเกษตรกรก็โดน ซีพี เข้าคุมกลไกทั้งหมดตั้งแต่ การผลิต การตลาด ทั้งซื้อและขาย จนเกษตรกรกลายเป็นกรรมกรราคาถูกรับจ้างปลูกหรือผลิตในที่ดินของตัวเอง สังคมพื้นฐานในเมืองก็โดนแทรกแซงการค้าปลีกจนไม่เหลือร้านค้าปลีกประจำถิ่นอีกต่อไปแล้ว สังคมพื้นฐานอุตสาหกรรมการผลิตรายย่อยก็โดนแทรกแซงจากการกีดกันสินค้า ลอกเลียนสินค้าออกขายแข่ง แม้กระทั่ง ถล่มราคาขายถูกกว่าทุนจนรายย่อยอยู่ไม่ได้ แล้วก็ขึ้นราคากลับสู่ปกติเมื่อไร้คู่แข่งแล้ว

รวมถึงปัญหาทำลายสิ่งแวดล้อมสนับสนุนทางอ้อมให้เกษตรกรบุกพื้นที่ป่าชุมชนที่เป็นพื้นที่ภูเขาเพื่อปลูกข้าวโพดและเผาซากไร่เก่าจนปัญหาควันไฟกลายเป็นปัญหาใหญ่ แม้กระทั่งสนับสนุนประมงอวนรุนผิดกฎหมายทางอ้อมที่ทำลายตัวอ่อนของสัตว์น้ำโดยรับซื้อปลาเล็กปลาน้อยที่ยังไม่โตเต็มวัยมาเข้าโรงงานทำอาหารสัตว์

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมารัฐบาลและนักแสวงโชคทางการเมืองที่เปลี่ยนหน้ากันขึ้นมาบริหารประเทศจะมองไม่เห็นไม่รับรู้ผลกระทบทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการเมือง จากการผูกขาดการค้าของ ซีพี แต่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนจัดการกับปัญหาการผูกขาดอันนี้ ทั้งที่ประเทศเจริญแล้วที่มีกฎหมายดูแลประชาชนดีๆ เขามีกฎหมายป้องกันการผูกขาดการค้าทั้งนั้น ไม่ปล่อยให้บริษัทไหนหรือตระกูลใดกำอนาคตทางธุรกิจผูกขาดทั้งประเทศจนยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือ คนไทยมีเลือดนักสู้ไม่เหมือนคน แม็กซิกัน หรือ อาเจนไตน์ ที่คนไทยจะออกมาสู้ก่อนที่หลังจะชนฝา สักวันในเร็วๆนี้ถ้า ซีพี ยังทำเรื่องเอาเปรียบสังคมออกมาเรื่อยๆ วันนั้นคนไทยอาจจะลุกขึ้นมาสู้กับ ซีพี ..... ถ้ารัฐบาลยังพึ่งไม่ได้ แม้แต่รัฐบาลทหารปัจจุบันนี้ก็ตาม ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้ ผมคิดว่าประชาชนอาจจะต้องจับมือกันลุกขึ้นมาจัดการธุรกิจผูกขาดกันเอง
(ภิรมย์ ศรีจันทร์:ประเทศไทยมี พรบ.การแข่งขันทางการค้า ..2542ใช้บังคับอยู่นานแล้ว มีบทบัญญัติที่จะนำมาใช้แก้ไขได้ แต่ไม่เคยมีรัฐบาลใดทำ จะเป็นอย่างที่ว่ากันหรือไม่ว่า CP ไม่ได้มีแค่อำนาจเหนือตลาดเท่านั้น แต่มีอำนาจเหนือรัฐบาลทุกรัฐบาลอีกด้วย)