PPD's Official Website

Tuesday, March 31, 2015

ศึกชิงบัลลังก์สังฆราชา ตอนที่ 1




อำนาจกษัตริย์ที่ครอบงำศาสนจักร เกิดขึ้นมานาน ในประวัติศาสตร์มนุษย์
เมืองไทยก็เช่นกัน มาหนักเอาในยุคต้นราชวงศ์จักรีนี่เอง วันนี้จึงเห็นการก้าวล่วงศาสนจักร โดยตัวแทนของเจ้าไทยอย่างหนัก

ลองฟังดูครับ



Published on Mar 7, 2015
กษัตริย์ ณ กรุงเทพมหานคร เป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ โดยได้สร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างอ­งค์รัฏฐาธิปัตย์ กับอำนาจดั้งเดิมที่อยู่รอบนอก อันได้แก่หัวเมืองชั้นใน ชั้นนอก และหัวเมืองประเทศราชโดยปรับระบบการปกครอง­แบบมณฑลเทศาภิบาล เพื่อควบคุมกำลังคน การปฏิรูประบบภาษีใหม่ ให้มาขึ้นอยู่กษัตริย์โดยตรง แทนที่จะผ่านตัวแทน

หรือทหารหมดปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงหันหน้า เตรียมรีดทรัพย์จากวัดพุทธ!!!!!????




ผมได้รับเอกสารนี้มาจากพี่น้อง ส่งมาทางไลน์ครับ  อ่านดูแล้วนึกถึงคำของอ.ชูพงศ์ ในรายการเมื่อวานว่า เศรษฐกิจย่ำแย่ ชนิดต้องรีดเงินจากภาษีต่าง ๆ และเตรียมระดมรีดเงินทองจากวัดวาอาราม โดยเฉพาะวัดพุทธ   เมื่อดีตัวเลขจีดีพี ดูรายได้ ดูผลประกอบการ ดูบรรยากาศการลงทุนและจับจ่ายใช้สอย ดูการท่องเที่ยว และดูสีหน้าของโจรกบฏที่คิดว่าการบริหารประเทศมันง่าย  และได้โชว์ความเชื่อมั่นให้ชาวโลกเห็นรายวันว่า ผู้นำเผด็จการทหารนั้น โง่จริง บ้าจริง หลงอำนาจจริง และไม่สมควรให้อยู่ในอำนาจต่อไปจริง...  การจะอยู่ในอำนาจต่อไปของ คสช. จึงเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง  เพราะใช้เงินทองไปกับเรื่องต่างตอบแทนในคณะของตน และจ้างคนไปทำงานในองค์คณะเถื่อนต่าง ๆ แถมซื้ออาวุธเข้ากองทัพแบบแดกด่วนอีกมาก จนไม่น่าจะเหลือเงินทองไปบริหารประเทศต่อ


ยุคที่ฆาตกรและนักการเมืองขี้ฉ้อ เข้าไปหลบห่มผ้าเหลือง เราจะหวังอะไรได้จากภาคการเมือง
ไม่ต้องเชื่อผม นี่เป็นแค่ข้อสังเกตุ จริงหรือไม่จริง ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วสรุปด้วยตัวท่านเอง  แล้วควรถามกลับด้วยว่า วัดวาของชาวพุทธจะยอมให้มีการกระทำปล้นวัดปล้นวาเยี่ยงนี้ (หากเป็นจริง) กระนั้นหรือ?  ถ้าไม่ แล้วจะทำอะไรกันดี?





หรือทหารหมดปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จึงหันหน้า เตรียมรีดทรัพย์จากวัดพุทธ!!!!!????

การค้ามนุษย์ข้ามชาติ (the Human Trafficking on Transnational Plane)

การค้ามนุษย์ข้ามชาติ (the Human Trafficking on Transnational Plane)

๑. เมื่อเราพูด หรือ กล่าวถึง “การค้ามนุษย์ข้ามชาติ” นั้น เท่าที่ปรากฏหลักฐานในประวัติศาสตร์มนุษย์นั้น เริ่มมาจากปีค.ศ. ๑๒๐๐ จนถึงปีค.ศ. ๑๕๐๐ ประเทศแรกที่บัญญัติให้ “การค้ามนุษย์ข้ามชาติ เป็นความผิดต่อกฏหมาย” ก็คือประเทศอังกฤษ ในขณะนั้น อังกฤษเริ่มเป็น และต่อมาได้เป็นชาติมหาอำนาจทางทะเล ซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่า การค้ามนุษย์ว่า เป็น“การค้าทาส” (Trading on Slavery) โดยอังกฤษ อ้างเอาข้อห้าม มิให้มีการค้าทาส มาจากหลักในทางศาสนา ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้มีการไปไล่จับคนในทวีปอาฟริกา พรากเขามาจากแผ่นดินแม่ของเขา เพื่อเอาไปเป็นทาสใช้แรงงานในอาณานิคมทั้ง ๑๓ แห่งบนทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไปใช้เป็นแรงงานในไร่ฝ้าย เพื่อเก็บฝ้ายในมลรัฐทางใต้ของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น ยังดำรงสถานะเป็นอาณานิคมของอังกฤษ (จากบทความเรื่อง Transnational regimes for combating in persons: Reflections on the UN Protocol to Prevent, Suppress and Punish Trafficking in Persons, Dr. Emmanuel Obuah, Assistant Professor, Department of Behavioral Sciences, Alabama A&M University)
๒. ในเวลาต่อมา เราก็ได้เห็น ข้อห้ามมิให้มีการค้าทาส เป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นในสนธิสัญญาสองฝ่าย หรือ ทวิภาคี (Bilateral Treaty) ในระหว่างสหรัฐอเมริกา กับอังกฤษ ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรในสนธิสัญญาสงบศึกระหว่าง สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ในสงครามประกาศอิสรภาพของสหรัฐ ที่ลงนามกันที่กรุงปารีส ที่เรียกว่า “The Paris Treaty of September 30, 1783” ที่ท่านผู้ใฝ่รู้ทั้งหลายอาจค้นคว้าผ่านเครื่องอ่านของกูเกิ้ล โดยพิมพ์วลีว่า “Avalon Project” แล้วพิมพ์ชื่อสนธิสัญญานี้ใส่บนมุมขวาของหน้าแรกของ “Avalon Project” ท่านก็สามารถ Download เอาสนธิสัญญานี้มาศึกษาได้โดยละเอียด
๓.ในปีค.ศ. 1814 อังกฤษ และ สหรัฐอเมริกา ได้มีการลงนามในสนธิสัญญาสองฝ่าย “ห้ามทำการค้าทาส ทางเรือ” ทั้งนี้ เพื่อป้องกัน มิให้มีการนำ ทาสผิวดำจากทวีปอาฟริกาเข้าสู่มลรัฐทางใต้ ของสหรัฐอเมริกา เพื่อไปทำงาน เป็นทาสแรงงานในไร่ฝ้าย สนธิสัญญานี้ลงนามกัน ที่เมือง Ghent ประเทศเบลเยี่ยม ในวันที่ 24 ธันวาคม ปีค.ศ. 1814 คู่ภาคีสนธิสัญญาฉบับนี้ ต่างตกลงกัน ตามสนธิสัญญานี้ ที่จะแลกเปลี่ยนสัตยาบัน ภายในเวลา สี่เดือนนับแต่วันที่ได้ลงนามในสนธิสัญญานี้ ที่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เราเรียกสนธิสัญญานี้ว่า “Treaty of Ghent, 1814”
๔. ต่อมาในปีค.ศ. 1842 เมื่ออังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ตกลงกันในเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างรัฐเมนของสหรัฐอเมริกา กับแคนนาดา (ประเทศ หรือ ดินแดนในอารักขาของอังกฤษ ) อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการทำสนธิสัญญากันในชื่อว่า “The Webster – Ashburton Treaty, 1842 สนธิสัญญาฉบับนี้ มีการแลกเปลี่ยนตราสาร เพื่อให้บังคับตามสนธิสัญญา เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ปีค.ศ. ๑๘๔๒ และให้มีผล เป็นการประกาศบังคับใช้ในระหว่างรัฐคู่ภาคีในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ปีค.ศ. ๑๘๔๒ ความในสนธิสัญญาฉบับนี้ นอกจากจะมีข้อสนธิสัญญาผูกพันกันในเรื่องดินแดน ยังประสงค์ที่จะผูกพันบังคับกันในเรื่อง การส่งผู้ร้ายข้ามแดน และในเรื่องข้อห้ามการค้าทาสทางทะเล หรือ ทางเรืออีกด้วย. (มีต่อ)



การค้ามนุษย์ข้ามชาติ (the Human Trafficking on Transnational Plane)

โอกาสดีสำหรับพี่น้องชาวแคลิฟอร์เนีย ที่จะให้ความรู้แก่ฑูตไทยในอเมริกา เรื่องการรับใช้คนไทย ไม่ใช่รับใช้ศักดินา


นี่เป็นโอกาสดีสำหรับพี่น้องชาวแคลิฟอร์เนีย ที่จะให้ความรู้และความเห็นแก่ฑูตไทยในอเมริกา เรื่องการรับใช้คนไทย ไม่ใช่รับใช้ศักดินา คุณมังกร จะได้รวบรวมสิ่งเหล่านี้ สะท้อนออกมาทางวิชาการ ซึ่งอาจจะเป็นกระจกสะท้อนให้ฑูตในอนาคตทั้งหลายให้มีจิตสำนึกการรับใช้เงินภาษีอากรของประชาชน ที่จ่ายเป็นเงินเดือนและเงินสวัสดิการให้พวกเขา รวมถึงเงินที่ใช้ประกอบการทำงาน ที่น่าจะสูงกว่าผู้ทำงานราชการในไทยทั้งหลาย

เชิญให้ความร่วมมือกับกิจกรรมวิชาการนี้นะครับ เพื่อสาธารณประโยชน์


_________________________________
ลิ้งค์: https://docs.google.com/forms/d/1d9_ZQsbio_Q0Yyuzue4qFD5n7rgUI9V_EQz2-EOxf_0/viewform

เรียน ผู้นำชุมชนไทย และสื่อมวลชนไทยทุกท่าน
ด้วยคุณมังกร ประทุมแก้ว อดีตรองกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนแจลิส ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในหลักสูตรนักบริหารชั้นสูง (นบส.) ของสำนักงาน ก.พ. โดยกำลังทำรายงานเพื่อนำเสนอเกี่ยวกับชุมชนไทยในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งท่านเคยประจำการอยู่กว่า 4 ปี
และโดยที่ท่านมังกร ฯ มีความผูกพันที่ลึกซึ้งกับชุมชนไทยในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเป็น อันมาก และประสงค์ที่จะเห็นพี่น้องชุมชนไทยได้รับบริการและความช่วยเหลือต่างๆ จากภาครัฐของไทยเป็นไปด้วยดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ จึงได้เลือกทำงานวิจัยดังกล่าว ซึ่งเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างยาก และต้องใช้เวลาและความทุ่มเทเป็นอันมาก นอกจากนี้ การทำงานวิจัยที่ดีเกี่ยวกับชุมชนไทยในแคลิฟอร์เนียจะเป็นไปไม่ได้เลย หากไม่มีการสอบถามความเห็นและรับฟังมุมมองจากพี่น้องชุมชนไทย
ใน การนี้ จึงใคร่ขอความกรุณาพี่น้องชุมชนไทยทุกท่านให้ความร่วมมือในการทำงานวิจัยดัง กล่าว โดยตอบแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยนี้ จาก link ข้างล่างนี้:
ในที่สุดแล้ว หากงานวิจัยชิ้นนี้ประสบความสำเร็จออกมาได้ดี ผลประโยชน์ก็จะตกกับพี่น้องชาวไทยนั่นเอง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความร่วมมือกรอกแบบสอบถามนี้ต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง
สัณห์ อรุณรักษ์ติชัย
กงสุล
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส

ท่านสามารถตอบจากเฟรมข้างล่างนี้ หรือตามลิ้งค์ไปที่
https://docs.google.com/forms/d/1d9_ZQsbio_Q0Yyuzue4qFD5n7rgUI9V_EQz2-EOxf_0/viewform?usp=send_form













โอกาสดีสำหรับพี่น้องชาวแคลิฟอร์เนีย ที่จะให้ความรู้แก่ฑูตไทยในอเมริกา เรื่องการรับใช้คนไทย ไม่ใช่รับใช้ศักดินา

รายการทางออกประเทศไทย: ตอน เจ้าไทยกับความวุ่นวายทั้งระบอบ และประยุทธ์ จะทรยศเจ้า เข้าข้างประชาธิปไตยไหม? โดย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน




ฉบับเต็ม (ยาว 2:33 ชม.)

 


ตอนหนึ่ง (ชัดเจนกว่า: เจ้าไทยอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายของทั้งระบอบวันนี้)

 


ตอนสอง (ชัดเจนกว่า: ประยุทธ์จะทรยศเจ้า เข้าข้างประชาธิปไตยไหม?​ แล้วจะสู้กันอย่างไร?)

ถ่ายทอดสดทางนปช.ยูเอสเอ และมหาวิทยาลัยประชาชน 30 มีนาคม 2558

ดาวน์โหลด  mp3 เพื่อการเผยแพร่
http://www.mediafire.com/listen/5ncpvjxy8f5fnnc/stream.2015-03-30.100057.mp3
ตอน ทำไม สถานะก่ารณ์ ปัจจุบัน จึงเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ และ จะถึงขั้นไหน เมื่อไหร่? ฝ่ายประชาชน ควร ทำอย่างไร? จำเป็นต้องจัดตั้งกองกำลัง มาต่อสู้หรือไม่. เพราะอะไร.????




รายการทางออกประเทศไทย: ตอน เจ้าไทยกับความวุ่นวายทั้งระบอบ และประยุทธ์ จะทรยศเจ้า เข้าข้างประชาธิปไตยไหม? โดย อ.ชูพงศ์-ดร.เพียงดิน

กลองศึกเริ่มรัวถี่ขึ้นแล้ว วิกฤติประยุทธ์ เมื่อเจ้าระบบศักดินาเตรียมฆ่าขุนพล ยุงัด ม. 44 ใช้ เปลี่ยนสภาพเป็น "ทรราช" สมบูรณ์


‪#‎ข่าวแมลงวัน‬ผลสรุปการประชุมของ คสช.วันนี้
ที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
ให้ทุกเหล่าทัพ และกำลังพลทุกหน่วย ใช้สารละลายสีแดงอย่างเข้มข้น บุคคลใดยังมีใจฝักใฝ่ต่อต้าน ให้ใช้วิธีนำตัวเข้าหน่วยทหารในแต่ละมณฑลของกองทัพ
ตั้งข้อหาให้เสร็จภายใน 7 วัน
แล้วนำตัวขึ้นศาลทหาร มิให้มีข้อยกเว้น
ให้ถือปฎิบัตคำสั่งตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ข้อต่อมา ให้กองพันที่รับมอบหมายภารกิจ 9 กองพัน นำกำลังพลเข้ามาสแตนบายที่ภาค1 ร.11 รอ. พล ปตอ. รอ. ลาดตะเวนระยะไกล ร.1 พ.2 รอ. แจ้งวัฒนะ ถ้ามีเหตุการณ์เคลื่อนไหวใดๆ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
(ข่าวส่งมาทางไลน์)



การปราบและกดหัวเสื้อแดงเหล่าทหารของวังและศักดินาหลงยุค ได้ทำมานานแล้ว พร้อมกับการใช้กฎอัยการศึก  แต่ด้วยแรงกดดันจากนานาชาติ ที่ทำเอาภาวะเศรษฐกิจ และฐานะความเป็นผู้นำของประยุทธ์และคณะ คสช. (ควายสมชื่อ) ง่อนแง่น จนผุ้มีอำนาจแสดงอารมณ์บูดรายวัน เก็บอาการไม่อยู่ ยังไงเสียก็คงต้องผ่อนปรน  แต่เมื่อผ่อนปรน ตนเองก็ต้องงัดใช้มาตรา  44 มาใช้ และนั่น จะทำให้ประยุทธ์ โดดเดี่ยวตัวเอง รับผิดชอบต่อบาปกรรมที่จะเกิดขึ้นด้วยตนเอง ไม่ต่างจากอภิสิทธิ์และสุเทพ ที่วันนี้ยังแกะตัวเองจากบ่วงกรรมไม่ออก เพราะแสดงตัวเป็นผุ้ออกคำสั่งอย่างชัดเจน (ทั้ง ๆ ที่คนบงการและสั่งจริง ๆ เขานั่งมองโดยไม่ยิ้มมาตลอด) และบ่วงกรรมบ่วงนี้ ประยุทธ์เหมือนเอาคอไปวางบนเขียง  และการเรียกกำลังพล ตระเตรียมการอย่างที่เห็นในข่าว(รั่ว)ข้างบน น่าจะเป็นเพราะประยุทธ์รู้ชะตากรรมตัวเองดี   ว่าอำมาตย์ใหญ่เจ้าเล่ห์  กำลังคิดจะเปลี่ยนขุนศึก  ศึกไม่เสร็จและทัพศักดินาที่ร่วมกันปล้นอำนาจประชาชนกำลังจะแย่ แต่ศักดินาจำต้องเปลี่ยนขุนพล เพราะสามปอ ดูท่าจะไม่ไหวแล้วจริง ๆ เพราะภาพลักษณ์กำลังดิ่งลงเหว แต่เศรษฐกิจนั่นกลับดิ่งลงนรกเลยทีเดียว แย่ชนิดต้องรีดเงินจากวัด และจัดเก็บภาษีอย่างบ้าคลั่ง ทั้ง ๆ ที่การสร้างรายได้ให้พลเมืองไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ประชาหน้าหมอง ทั่วแผ่นดิน  มิไยจะพยายามสื่อสารว่า พยายามทำดีเพื่อบ้านเมือง  แถมออกลูกทวงบุญคุณว่าเข้ามาแล้วทำให้บ้านเมืองสงบ (!?)  บลา ๆ ๆ 






ผมเชื่อว่า ประยุทธ์รู้ตัวแล้วว่า ประชาธิปัตย์ ตามคำบงการของอำมาตย์ใหญ่ และโดยธรรมชาติของการขัดผลประโยชน์ ได้เริ่มออกปฏิบัติการแล้ว   และการตะคอกใส่สมจิตต์ จอบเจ็ดสี ของประยุทธ์ (และประวิทย์ต่อนักข่าวต่าง ๆ ) ก็ถือว่าเป็นการฟาดหางไปหาเปรม และปชป. ว่าตนรู้ดีว่าฝั่งโน้นคิดอะไรอยู่  การเรียกกำลังต่าง ๆ ไปอยู่ในคำสั่งของตนในถ้ำเสือ(ลำบาก)ของตน  ก็คงเพื่อจะทำให้ประยุทธ์มั่นใจว่า จะปิดทางการรัฐประหารซ้อน (รอนานมากเกือบปี)  แต่จะปิดได้ ก็คงแค่คุมสถานการณ์ได้อีกระยะหนึ่ง  ไม่สามารถล้มแผนการทำลายขุนศึกหมดสภาพอย่างประยุทธ์ของปีศาจเฒ่าใน (หลายตัว) รั้ววังได้แน่นอน 

เกมห้ำหั่นกันระหว่างพี่น้อง 
ก็ธรรมดาซะที่ไหน วันนี้ ม่วงอำมหิต ได้สำแดงตัวตนที่แท้จริง ว่าจะยึดอำนาจจากพี่ชายแน่ ๆ พลพรรคในเครือข่ายจอมมารและจอมมารี ก็เหมือนมองตารู้ใจ ถวายลิ้นกันเต็ม ๆ แบบซื้อหวยน่ะ แต่น่าแปลกนะครับ ที่นกรู้บางตัวอย่างเมเนเจอร์  เอารูปพระเทพขึ้นเมื่อสี่ห้าวันก่อน วันนี้เอาลง และหนังสือพิมพ์ออนไลน์หลายที่ ก็ไม่ได้เอารูปพระเทพ (ย้อนวัยไปสมัยยังไม่อ้วนและไม่โทรม) ขึ้นอย่างคีกคักอย่างที่เราได้ข่าวก่อนหน้านี้สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา  แปลกมากที่หน้งสือพิมพ์หลายฉบับไม่เอารูปขึ้นหน้าเว็บ ทั้ง ๆ ที่เหลือแค่สองวัน ก็จะถึงกำหนดฉลองครบ  60 ปี ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ ชนิดธนาคารแห่งประเทศไทย ออกแบ็งค์ร้อยเฉลิมพระเกียรติเลยทีเดียว  หรือนี่เป็นสัญญาณว่า เสี่ยไม่ได้สยบยอมแน่ ที่นิ่ง ๆ ไปนั้น จะด้วยเหตุบังคับ แต่มีหรือที่จะยอมสละสิทธิ์อันมีมาแต่สายเลือดในฐานะลูกชาย  ศึกนี้ ลองจับสัญญาณให้ดีครับ 

ปกติผมไม่ค่อยชอบคิดลึก ล้วงไปยังสิ่งที่ตรวจสอบยาก แต่วันนี้ รู้สึกสังหรณ์ใจว่า คำพยากรณ์ของโหรพม่า ที่ว่า กลางปีจะมีเรื่องร้อนร้าย ตั้งแต่เมษาไป พอมิถุนาไป อาจจะมีข่าวร้ายอันยิ่งใหญ่  ซึ่งผมเดาว่า จะเป็นการประกาศการเสียชีวิตของคนในวัง แล้วจะเกิดเหตุแย่งบัลลังก์กัน จนอยู่ไม่ได้ เสียหายกันหนัก ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ช่วงโกลาหลนี้ จะเกิดความเสียหาย บาดเจ็บล้มตายมากมาย  แต่บ้านเมืองจะเปลี่ยน แล้วพอปลายปี ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคประชาพาไป  วันนี้ เราสู้กันมา สังเกตุตัวเองและคนรอบตัว หากมองแบบใจไม่ใส อาจจะคิดว่า มันเร็วไป .... เพราะดู ๆ แล้วเหมือนอะไรไม่พร้อม และที่ว่าพร้อม ๆ หรืออยากสู้ อยากให้จบนั้น ก็เหมือนจะไม่มีพลัง... แต่ช้าก่อน... น้ำในกาที่มันจะเดือดและหวีดเสียงนั้น จังหวะของการเริ่มตั้งไฟไปถึงจุดที่น้ำร้อน อาจจะใช้เวลานาน แต่จากจุดที่น้ำเดือดจะส่งเสียงกระแทกฝาปิดจนเสียงดังนั้น มันเกิดแค่อึดใจนะครับ  มดแดงล้มช้าง มีพลังซ่อนที่เรามองไม่เห็น เพราะมดที่พร้อมสู้ ไม่ได้ออกมาก่อตัวเป็นช้างไปชนซึ่งหน้า แต่ได้เตรียมกัดในจุดที่ต่าง ๆ กัน วันนี้ ใครจะรู้ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มดทุกตัวพร้อมกัด เมื่อเวลามาถึง  และเวลานั้น อาจจะใกล้กว่าที่หลายคนคาดไว้ก็ได้ ...

ผมห่วงเรื่องความพร้อมนะครับ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเป็นไปโดยไม่ได้จัดการทั้งโครงสร้างนี้ อาจะทำให้เสียหายมากมายเกินควร  แต่จะทำไงได้ล่ะครับ มาถึงวันนี้

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะครับ 





แต่สิ่งที่เราต้องไม่ลืมก็คือ บ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง ระบอบที่มีระบบเลว ๆ ต้องถูกเปลี่ยน  ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินจริงๆ   สิ่งที่ปะติดปะต่อเล่น ๆ ข้างบนนี้ เป็นความรู้สึก และการเอาแพะชนแกะนะครับ ไม่รับรองว่าเป็นเรื่องต้องเกิด เพราะพลวัตทางการเมืองนั้น มีอะไรหลากหลายตัวแปรและความเป็นไปได้  แต่จากวันนี้เป็นต้น จับตาสถานการณ์ให้ดี  กลองรบได้เริ่มดังขึ้นอีกแล้ว....และเมื่อโอกาสมาถึง พี่น้องต้องลุกมาทวงอำนาจและผลประโยชน์ของพวกท่าน อย่าให้เสียของ เด๊อ....










กลองศึกเริ่มรัวถี่ขึ้นแล้ว วิกฤติประยุทธ์ เมื่อเจ้าระบบศักดินาเตรียมฆ่าขุนพล ยุงัด ม. 44 ใช้ เปลี่ยนสภาพเป็น "ทรราช" สมบูรณ์

กลองศึกเริ่มรัวถี่ขึ้นแล้ว วิกฤติประยุทธ์ เมื่อเจ้าระบบศักดินาเตรียมฆ่าขุนพล ยุงัด ม. 44 ใช้ เปลี่ยนสภาพเป็น "ทรราชย์" สมบูรณ์


‪#‎ข่าวแมลงวัน‬ผลสรุปการประชุมของ คสช.วันนี้
ที่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
ให้ทุกเหล่าทัพ และกำลังพลทุกหน่วย ใช้สารละลายสีแดงอย่างเข้มข้น บุคคลใดยังมีใจฝักใฝ่ต่อต้าน ให้ใช้วิธีนำตัวเข้าหน่วยทหารในแต่ละมณฑลของกองทัพ
ตั้งข้อหาให้เสร็จภายใน 7 วัน
แล้วนำตัวขึ้นศาลทหาร มิให้มีข้อยกเว้น
ให้ถือปฎิบัตคำสั่งตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ข้อต่อมา ให้กองพันที่รับมอบหมายภารกิจ 9 กองพัน นำกำลังพลเข้ามาสแตนบายที่ภาค1 ร.11 รอ. พล ปตอ. รอ. ลาดตะเวนระยะไกล ร.1 พ.2 รอ. แจ้งวัฒนะ ถ้ามีเหตุการณ์เคลื่อนไหวใดๆ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
(ข่าวส่งมาทางไลน์)



การปราบและกดหัวเสื้อแดงเหล่าทหารของวังและศักดินาหลงยุค ได้ทำมานานแล้ว พร้อมกับการใช้กฎอัยการศึก  แต่ด้วยแรงกดดันจากนานาชาติ ที่ทำเอาภาวะเศรษฐกิจ และฐานะความเป็นผู้นำของประยุทธ์และคณะ คสช. (ควายสมชื่อ) ง่อนแง่น จนผุ้มีอำนาจแสดงอารมณ์บูดรายวัน เก็บอาการไม่อยู่ ยังไงเสียก็คงต้องผ่อนปรน  แต่เมื่อผ่อนปรน ตนเองก็ต้องงัดใช้มาตรา  44 มาใช้ และนั่น จะทำให้ประยุทธ์ โดดเดี่ยวตัวเอง รับผิดชอบต่อบาปกรรมที่จะเกิดขึ้นด้วยตนเอง ไม่ต่างจากอภิสิทธิ์และสุเทพ ที่วันนี้ยังแกะตัวเองจากบ่วงกรรมไม่ออก เพราะแสดงตัวเป็นผุ้ออกคำสั่งอย่างชัดเจน (ทั้ง ๆ ที่คนบงการและสั่งจริง ๆ เขานั่งมองโดยไม่ยิ้มมาตลอด) และบ่วงกรรมบ่วงนี้ ประยุทธ์เหมือนเอาคอไปวางบนเขียง  และการเรียกกำลังพล ตระเตรียมการอย่างที่เห็นในข่าว(รั่ว)ข้างบน น่าจะเป็นเพราะประยุทธ์รู้ชะตากรรมตัวเองดี   ว่าอำมาตย์ใหญ่เจ้าเล่ห์  กำลังคิดจะเปลี่ยนขุนศึก  ศึกไม่เสร็จและทัพศักดินาที่ร่วมกันปล้นอำนาจประชาชนกำลังจะแย่ แต่ศักดินาจำต้องเปลี่ยนขุนพล เพราะสามปอ ดูท่าจะไม่ไหวแล้วจริง ๆ เพราะภาพลักษณ์กำลังดิ่งลงเหว แต่เศรษฐกิจนั่นกลับดิ่งลงนรกเลยทีเดียว แย่ชนิดต้องรีดเงินจากวัด และจัดเก็บภาษีอย่างบ้าคลั่ง ทั้ง ๆ ที่การสร้างรายได้ให้พลเมืองไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ประชาหน้าหมอง ทั่วแผ่นดิน  มิไยจะพยายามสื่อสารว่า พยายามทำดีเพื่อบ้านเมือง  แถมออกลูกทวงบุญคุณว่าเข้ามาแล้วทำให้บ้านเมืองสงบ (!?)  บลา ๆ ๆ 






ผมเชื่อว่า ประยุทธ์รู้ตัวแล้วว่า ประชาธิปัตย์ ตามคำบงการของอำมาตย์ใหญ่ และโดยธรรมชาติของการขัดผลประโยชน์ ได้เริ่มออกปฏิบัติการแล้ว   และการตะคอกใส่สมจิตต์ จอบเจ็ดสี ของประยุทธ์ (และประวิทย์ต่อนักข่าวต่าง ๆ ) ก็ถือว่าเป็นการฟาดหางไปหาเปรม และปชป. ว่าตนรู้ดีว่าฝั่งโน้นคิดอะไรอยู่  การเรียกกำลังต่าง ๆ ไปอยู่ในคำสั่งของตนในถ้ำเสือ(ลำบาก)ของตน  ก็คงเพื่อจะทำให้ประยุทธ์มั่นใจว่า จะปิดทางการรัฐประหารซ้อน (รอนานมากเกือบปี)  แต่จะปิดได้ ก็คงแค่คุมสถานการณ์ได้อีกระยะหนึ่ง  ไม่สามารถล้มแผนการทำลายขุนศึกหมดสภาพอย่างประยุทธ์ของปีศาจเฒ่าใน (หลายตัว) รั้ววังได้แน่นอน 

เกมห้ำหั่นกันระหว่างพี่น้อง 
ก็ธรรมดาซะที่ไหน วันนี้ ม่วงอำมหิต ได้สำแดงตัวตนที่แท้จริง ว่าจะยึดอำนาจจากพี่ชายแน่ ๆ พลพรรคในเครือข่ายจอมมารและจอมมารี ก็เหมือนมองตารู้ใจ ถวายลิ้นกันเต็ม ๆ แบบซื้อหวยน่ะ แต่น่าแปลกนะครับ ที่นกรู้บางตัวอย่างเมเนเจอร์  เอารูปพระเทพขึ้นเมื่อสี่ห้าวันก่อน วันนี้เอาลง และหนังสือพิมพ์ออนไลน์หลายที่ ก็ไม่ได้เอารูปพระเทพ (ย้อนวัยไปสมัยยังไม่อ้วนและไม่โทรม) ขึ้นอย่างคีกคักอย่างที่เราได้ข่าวก่อนหน้านี้สองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา  แปลกมากที่หน้งสือพิมพ์หลายฉบับไม่เอารูปขึ้นหน้าเว็บ ทั้ง ๆ ที่เหลือแค่สองวัน ก็จะถึงกำหนดฉลองครบ  60 ปี ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ ชนิดธนาคารแห่งประเทศไทย ออกแบ็งค์ร้อยเฉลิมพระเกียรติเลยทีเดียว  หรือนี่เป็นสัญญาณว่า เสี่ยไม่ได้สยบยอมแน่ ที่นิ่ง ๆ ไปนั้น จะด้วยเหตุบังคับ แต่มีหรือที่จะยอมสละสิทธิ์อันมีมาแต่สายเลือดในฐานะลูกชาย  ศึกนี้ ลองจับสัญญาณให้ดีครับ 

ปกติผมไม่ค่อยชอบคิดลึก ล้วงไปยังสิ่งที่ตรวจสอบยาก แต่วันนี้ รู้สึกสังหรณ์ใจว่า คำพยากรณ์ของโหรพม่า ที่ว่า กลางปีจะมีเรื่องร้อนร้าย ตั้งแต่เมษาไป พอมิถุนาไป อาจจะมีข่าวร้ายอันยิ่งใหญ่  ซึ่งผมเดาว่า จะเป็นการประกาศการเสียชีวิตของคนในวัง แล้วจะเกิดเหตุแย่งบัลลังก์กัน จนอยู่ไม่ได้ เสียหายกันหนัก ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ แต่ช่วงโกลาหลนี้ จะเกิดความเสียหาย บาดเจ็บล้มตายมากมาย  แต่บ้านเมืองจะเปลี่ยน แล้วพอปลายปี ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคประชาพาไป  วันนี้ เราสู้กันมา สังเกตุตัวเองและคนรอบตัว หากมองแบบใจไม่ใส อาจจะคิดว่า มันเร็วไป .... เพราะดู ๆ แล้วเหมือนอะไรไม่พร้อม และที่ว่าพร้อม ๆ หรืออยากสู้ อยากให้จบนั้น ก็เหมือนจะไม่มีพลัง... แต่ช้าก่อน... น้ำในกาที่มันจะเดือดและหวีดเสียงนั้น จังหวะของการเริ่มตั้งไฟไปถึงจุดที่น้ำร้อน อาจจะใช้เวลานาน แต่จากจุดที่น้ำเดือดจะส่งเสียงกระแทกฝาปิดจนเสียงดังนั้น มันเกิดแค่อึดใจนะครับ  มดแดงล้มช้าง มีพลังซ่อนที่เรามองไม่เห็น เพราะมดที่พร้อมสู้ ไม่ได้ออกมาก่อตัวเป็นช้างไปชนซึ่งหน้า แต่ได้เตรียมกัดในจุดที่ต่าง ๆ กัน วันนี้ ใครจะรู้ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มดทุกตัวพร้อมกัด เมื่อเวลามาถึง  และเวลานั้น อาจจะใกล้กว่าที่หลายคนคาดไว้ก็ได้ ...

ผมห่วงเรื่องความพร้อมนะครับ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือเป็นไปโดยไม่ได้จัดการทั้งโครงสร้างนี้ อาจะทำให้เสียหายมากมายเกินควร  แต่จะทำไงได้ล่ะครับ มาถึงวันนี้

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะครับ 





แต่สิ่งที่เราต้องไม่ลืมก็คือ บ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง ระบอบที่มีระบบเลว ๆ ต้องถูกเปลี่ยน  ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินจริงๆ   สิ่งที่ปะติดปะต่อเล่น ๆ ข้างบนนี้ เป็นความรู้สึก และการเอาแพะชนแกะนะครับ ไม่รับรองว่าเป็นเรื่องต้องเกิด เพราะพลวัตทางการเมืองนั้น มีอะไรหลากหลายตัวแปรและความเป็นไปได้  แต่จากวันนี้เป็นต้น จับตาสถานการณ์ให้ดี  กลองรบได้เริ่มดังขึ้นอีกแล้ว....และเมื่อโอกาสมาถึง พี่น้องต้องลุกมาทวงอำนาจและผลประโยชน์ของพวกท่าน อย่าให้เสียของ เด๊อ....










กลองศึกเริ่มรัวถี่ขึ้นแล้ว วิกฤติประยุทธ์ เมื่อเจ้าระบบศักดินาเตรียมฆ่าขุนพล ยุงัด ม. 44 ใช้ เปลี่ยนสภาพเป็น "ทรราช" สมบูรณ์