PPD's Official Website

Thursday, May 7, 2015

เผยแผนล้ม"ซีพี"หวังต่อรองประโยชน์ เพิ่มค่าตัว..แต่ยอมรับซีพี.ทำธุรกิจไร้คุณธรรม

Published on May 7, 2015
นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง และประกอบธุรกิจด้านการเกษตร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กับ Thaivoicemedia โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อและหน้าตาของตัวเองเนื­่องจากเกรงจะได้รับผลกระทบ กรณี การออกมารณรงค์ต่อต้านสินค้าในเครือบริษัท­เจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี. ว่า ธุรกิจในเครือซีพี แม้จะไม่ใช่ธุรกิจที่ผูกขาดทั้งหมด แต่ซีพีทำธุรกิจโดยขาดจริยธรรม พยายามใช้อำนาจและอิทธิพลของตัวเองเพื่อให­้อยู่เหนือการควบคุม และอยู่เหนือตลาด แม้ว่าจะมี กม.ควบคุมการแข่งขันทางการค้า ปี 2542 แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเอากฎหมายนี้มาเล่น­งาน ซีพี ได้เพราะ ซีพี ได้เข้าไปครอบงำอำนาจรัฐไว้เกือบทุกส่วน ทั้งระดับราชการ และการเมือง ระดับราชการ เมื่อถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าในเครือบร­ิษัท ซีพี ครั้งนี้ จะทำให้ ต้องมีอันต้องเป็นไปเหมือนธุรกิจในตระกูล ชินวัตร หรือไม่ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง คนนี้บอกว่า คงยาก เพราะทุนชินวัตร มีศัตรูทางธุรกิจมากกว่า เพราะเข้ามาเล่นการเมือง แต่ธุรกิจ ทุนสามานย์ซีพี สร้างพันธมิตรในทุกระดับได้มากกว่า และ ไม่เอาตัวเองมาเล่นการเมือง จึงสามารถควบคุมกลไกอำนาจรัฐในโครงสร้างขอ­งประเทศไทยได้มากกว่า และคิดว่าการเคลื่อนไหวต่อต้านสินค้าซีพีค­รั้งนี้ไม่น่าจะมีผลต่อการปรับเปลี่ยนยุทธ­ศาสตร์การทำธุรกิจของซีพีให้มีคุณธรรมมากข­ึ้น เมื่อถามว่า การต้านสินค้าในเครือซีพี ครั้งนี้ มีการเมืองเพื่อการต่อรองผลประโยชน์อยู่ด้­วยหรือไม่ นักเศรษฐศาสตร์การเมืองรายนี้ ยืนยันว่า มีแน่นอน เพราะบุคคลที่กำลังเป็นหัวหอกในการออกมาต่­อต้านโดยใช้สื่อที่ตัวเองถนัดนั้น ก็คงหวังที่สร้างอำนาจต่อรองอะไรบางอย่าง กับ คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ เจ้าของซีพี และหวังสร้างค่าตัวเพื่ออำนาจต่อรอง นี่จะเป็นเป้าหมายหลัก ส่วนการสร้างกระแสให้สังคมตื่นตัวกับการที­่จะเรียกร้องให้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์หันมาทำธุรกิจที่เป็นธ­รรม เป็นมีจริยธรรมอย่างแท้จริงนั้น เป็นเรื่องของ เครือข่ายประชาชนที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้­เรียกร้องกันเอง








Wednesday, May 6, 2015

ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-05-06 ตอน อนิจจัง...จักรีวงศ์ และกลไกเผด็จการไทย ไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ (นะ)

ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-05-06 ตอน อนิจจัง...จักรีวงศ์ และกลไกเผด็จการไทย ไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ (นะ)
ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-05-06 ตอน อนิจจัง...จักรีวงศ์ และกลไกเผด็จการไทย ไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ (นะ)
ดร.เพียงดิน รักไทย 2015-05-06 ตอน อนิจจัง...จักรีวงศ์ และกลไกเผด็จการไทย ไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ (นะ) 






Tuesday, May 5, 2015

ใครอยู่เบื้องหลัง การค้ามนุษย์และค้าทาส โรฮิงญา ในภาคใต้ของไทย??

มีข้อมูลพี่น้องส่งมา ...​ลองพิจารณาและสืบค้นต่อนะครับ

ปชป. เครื่องมือสร้างระบอบดักดานของอำนาจชี้นำประเทศ  
ด่วนมากครับ...สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงผบ.ตร.ยอมรับค่ายกักกันชาวโรฮิงยา มีเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหารบก-เรือ- นักการเมืองทรงอิทธิพลท้องถิ่น( ชื่อ ย่อ ถ.)หนุนหลัง ตำรวจเตรียมออกหมายจับอีก 3 ปลาซิวปลาสร้อยสมุนปลายแถว สาวไม่ถึง ตัว ส.ส.คนดังแห่งพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แม้ตำรวจจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางทหารตลอด แต่ตำรวจชั่ว ทหารเลวรับทรัพย์ร่วมมือกับนักการเมืองชั่วทำให้ค่ายกักแรงงานทาสอยู่ได้ ชี้เป็นแชมป์ส่งแรงงานโรฮิงญาส่งไปทำงานทั่วในภาคใต้ มีฐานธุรกิจนายทุนเครือข่ายของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกจังหวัดรอรับ ไม่เฉพาะที่ ศรีสุบรรณฟาร์ม เครือข่ายห้าเสือสุราษฎร์ หรือธรกิจทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพาราพวกตระกูลรังสิพราห์มกุล( ผัว ม.ร.ว.คลั่งเกลียดเสื้อแดง ปรียนันทนา รังสิต) แต่ธุรกิจท่องเที่ยว ประมงล้วนเป็นคนของประชาธิปัตย์
... พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยก่อนลงพื้นที่ไปตรวจสอบ กรณีเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมืองใหญ่สงขลาเกี่ยวข้องเปิดสถานกักกันชาวโฮิงญาบนเขาในจ.สงขลา กว่า 20 ว่า เนื่องจากกรณีดังกล่าวส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยก็จริง จากการตรวจสอบเล่นละครกันเป็นขบวนการ ถือเป็นขบวนการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติที่ไม่สามารถแตะต้องได้ เพราะมีลูกๆป๋าเปรมเป็นนักการเมืองตัวใหญ่ๆบิ๊กๆหนุนหลังทั้งนั้น.. วงการพนันขันต่อของภาคใต้รับคำท้า ถ้าประวิตรสั่งสมยศจับนายหัวเจ้าของค่ายกักกันโรฮิงญาตัวจริงได้ละก็ ชาวใต้จะยกให้ คสช. เป็นพ่อของคนใต้แทนป๋าเปรมทันทีนิ

อีกด้านหนึ่งของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จากรายการ คม ชัด ลึก

"เราเป็นคน ไม่ใชสัตว์" เสียงจาก "โรฮิงญา" ร้องยูเอ็นตั้งค่ายอพยพในไทย: จอม เพชรประดับ

"เราเป็นคน ไม่ใชสัตว์" เสียงจาก "โรฮิงญา" ร้องยูเอ็นตั้งค่ายอพยพในไทย: จอม เพชรประดับ https://youtu.be/cg7yij0Zypk
Published on May 5, 2015
นายอับดุล กาลัม ชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือผู้­ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กล่าวกับ ขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาในประเทศไทยว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งซื้อขายชาวโรฮิงญาที่ให­ญ่ที่สุดในเอเชีนเวลานี้ เพราะมีชาวโรฮิญาที่อพยพหลบหนีการกดขี่ ทารุณ จากรัฐบาลพม่า และจากคนต่างศาสนาในรัฐยะไข่ เมืองอารากัน ในพม่ามา เพื่อที่จะมาหางานทำ มีอิสรภาพและสร้างชีวิตที่ดีในประเทศมาเลย­์เซีย แต่ก็ต้องมาเจอกับขบวนการค้ามนุษย์ที่โหดร­้ายทารุณอย่างมาก ที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง
นายกาลัมกล่าวว่า ขณะนี้ รัฐบาลไทย ได้รับรายชื่อ ผู้ที่เป็นนายหน้า และเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิง­ญาแล้ว ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลไทยจะดำเนินการอย่างไร แต่ความจำเป็นเร่งด่วนที่ ชาวโรฮิงญาต้องการขณะนี้คือ ต้องการให้ องค์การสหประชาชาติ ได้มาตั้งค่ายอพยพผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาขึ้น­ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะให้การดูแลด้านสุขภาพ และสร้างบรรยากาศให้พออยู่ได้ โดยไม่ต้องถูกทารุณ ทำร้าย และกลายเป็นสินค้าจากบรรดานายหน้าที่อยู่ใ­นขบวนการค้ามนุษย์ "พวกเราเป็นคนเหมือนกันกับพวกท่าน เราไม่ใช่สัตว์ หรือสิ่งของ ดังนั้นขอให้ช่วยเรา เราหนีการทารุณ ทำร้าย และการกดขี่จากรัฐบาลทหารพม่ามาแล้ว ถูกเข่นฆ่า ข่มขู่จากเพื่อนต่างศาสนิกในบ้านเมืองของเ­ราเอง เราต้องการมีชีวิตที่เป็นอิสระและมีชีวิตค­วามเป็นอยู่ที่ดีบ้างเท่านั้นเอง ขอจงโปรดเมตตา และช่วยเหลือเราด้วย ขอให้มองเราเป็นคนเหมือนกับพวกท่าน" นายอับดุล กาลัมกล่าว


"เราเป็นคน ไม่ใชสัตว์" เสียงจาก "โรฮิงญา" ร้องยูเอ็นตั้งค่ายอพยพในไทย: จอม เพชรประดับ

คนเก่ง มหาบุรุษ และพระเอกคนเก่า ร่วงโรยและจากไป แต่โลกใบนี้ ไม่ไร้สิ่งทดแทน....

Amazing

Posted by Kaysha on Wednesday, April 15, 2015

ชมภาพ ซักเคอร์เบิร์ก ตอนเริ่มออกแบบ Facebook กับเพื่อน ๆ ที่ Harvard

ชมภาพ ซักเคอร์เบิร์ก ตอนเริ่มออกแบบ Facebook กับเพื่อน ๆ ที่ Harvard

« เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2015, 06:06:39 PM »

ชมภาพ Mark Zuckerberg ขณะเริ่มสร้าง Facebook ณ มหาวิทยาลัย Harvard

เฟซบุ๊กก่อตั้งเมื่อวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 โดย Mark Zuckerberg (มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก) และเหล่าเพื่อนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมโดยสมาชิกเพื่อนผู้ก่อตั้ง Andrew McCollum, Dustin Moskovitz และ Chris Hughes เหล่าโปรแกรมเมอร์หัวกะทิชั้นปีที่สอง ส่วน Eduardo Saverin มีหน้าที่ดูแลการตลาดและการเงินนั่นเอง  หากใครอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติมผมแนะนำให้ไปดูเรื่อง The Social Network นะครับ หนังเรื่องนี้ผมชอบมาก













เพิ่มเติม: CEO ผู้ก่อตั้ง แอพยอดฮิตอย่างอินสตาแกรม ก็เคยถูก มาร์ค ชวนให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยมาทำเฟสบุ๊คด้วย แต่ตัวเขาก็ปฏิเสธไป จนปัจจุบัน เฟสบุ๊คได้ซื้อ แอพถ่ายรูปยอดฮิตนี้ไปด้วยราคาสูงถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทั้งคู่ก็ได้ร่วมงานกันจริงๆครับ

ที่มา - http://www.flagfrog.com/mark-zuckerberg-start-facebook-harvard/
http://www.rsvlts.com/2015/04/30/mark-zuckerberg-harvard-photos/

นำเสนอเป็นภาษาไทย เครดิต http://www.thailandsusu.com/webboard/index.php?PHPSESSID=0kob9m2bemkppk5ecjgnam4pd4&topic=353030.msg6830545;topicseen#new

สมัครร่วมอุดมการณ์กับ ดร.เพียงดิน ที่นี่